เพื่อการกุศล เหรียญเศรษฐี๑๐๐พระราชพรหมยาน+ท่านท้าวมหาราช-พิธี4พุทธาฯวาระงานหล่อทองคำวัดท่าซุงภายใน๓๐กย

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย รตนหทัย, 1 มิถุนายน 2016.

  1. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    เปิดให้ร่วมบุญสร้างศาลา ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) จัดสร้างโดยวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ มีอยู่ 3 รายการดังนี้ :
    รายการที่ 1 ::::: เหรีญเศรษฐี ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน หลวงพ่อยิ้มรับทรัพย์ ด้านหลังเป็นรูปพระพุทธล้อมยันต์ ที่รวมบารมีของสมเด็จองค์ปฐมตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบันและอนาคตตามแบบฉบับพระผงที่โด่งดังของหลวงปู่ปาน พระพุทธ (หรือองค์พ่อใหญ่ สมัยก่อนหลวงปู่ปานใช้เรียกพระนามสมเด็จองค์ปฐม) ที่อยู่หลังเหรียญเศรษฐี ท่านจึงใช้รูปลักษณ์ในการสร้างพระผงจนโด่งดัง
    1.1) เนื้อโลหะชุบทองคำขาว ชนวนแร่โคตรเศรษฐี 30% (มีผสมชนวนเม็ดเงินพระกริ่งสมปราถนา) พร้อมโบว์บารมีสามสิบทัศน์ พร้อมกล่องกำมะหยี่ออกให้บูชาในราคา 1,000 บาท (มีค่าจัดส่ง 50 บาท) เปิดบูชาจำนวน 100 เหรียญ หมดแล้วหมดเลย
    1.2) เนื้อชุบทอง ชนวนแร่โคตรเศรษฐี 30% พร้อมโบว์บารมีสามสิบทัศน์ออกให้บูชาในราคา 499 บาท พร้อมกล่องกำมะหยี่ (มีค่าจัดส่ง 50 บาท) เปิดจอง 100 เหรียญ หมดแล้วหมดเลย
    1.3) ชุดกรรมการจะมี 3 เนื้อในกล่องกำมะหยี่ ประกอบด้วยเนื้อแร่โคตรเศรษฐี (เนื้อแร่โครตเศรษฐีผสมแร่เทพรักษาและชนวนทองก้นเบ้า มีเนื้อแร่ 75% ผสมทองก้นเบ้าออกมาเป็นสี Pink Gold สวยงาม และมีผสมชนวนเม็ดเงินพระกริ่งสมปราถนา)) เนื้อชุปทองคำขาว(มีผสมชนวนเม็ดเงินพระกริ่งสมปราถนา) เนื้อชุปทองพร้อมโบว์บารมีสามสิบทัศน์ทุกเนื้อ เปิดบูชาจำนวน 15 ชุด (สร้างเพียง 100 ชุดเท่านั้น) ราคาบูชาในราคา 4,999 บาทจัดส่งฟรีหมดแล้วหมดเลย แถมท่านท้าวมหาราชทั้งสี่เนื้อชุปทองให้ 1 องค์
    (ทุกรายการแถมกำไร Wristband ที่ระลึก 100 ปีหลวงพ่อ เข้าพิธีปลุกเสกพร้อมกันกับเหรียญ พร้อม่กล่องกำมะหยี่ของทางวัดศาลฯ)
    รายการที่ 2 :::: ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ รุ่นยืนเศรษฐีรวมกำลัง บนดอกบัวแห่งโภคทรัพย์เลี่ยมใส่กรอบลายไทยชุปเงิน และกล่องพระของวัดศาลฯ :
    2.1.) เนื้อโลหะชุบเงิน ออกให้บูชาในราคาวัด 699 บาท (มีค่าจัดส่ง 60 บาท) รับจองจำนวน 500 องค์ ******พิเศษเฉพาะชุดนี้เนื้อชุปเงินมีผสมชนวนมวลสารเม็ดเงินแท้เข้าไป (จะรับกระแสและพลังงานได้มาก) และรวมถึงชนวนเงินของพระกริ่งสมปรารถนา ชนวนดังกล่าวได้ใส่เฉพาะ Lot แรกของเนื้อเงินที่จะจัดส่งในเดือนพค นี้เท่านั้น) ******
    2.2) เนื้อโลหะชุบทอง ออกให้บูชาในราคาเดียวกันกับวัด 599 บาท (มีค่าจัดส่ง 60 บาท) รับจองจำนวน 2,000 องค์ (พิเศษใส่ชนวนผงตะไบพระกริ่งสมปราถนา)
    ******ขนาด (ไม่รวมกรอบ) สูงจากฐานบัว 5 ซม กว้าง 2.5 ซม (ความสูงของกรอบ 2 นิ้วครึ่ง)
    ***ทุกรายการเลี่ยมใส่กรอบลายไทยสวยงามชุปเงิน ชุปทองพร้อมกล่องพระของวัดศาลฯ (มีแถมเชือกร่มด้ายแดงมงคล)
    รายการที่ 3 เหรียญเศรษฐี หลวงพ่อยิ้มรับทรัพย์ เนื้อสองกษัตริย์ สองวรรณะ (สร้างในวาระพิเศษสร้างหลังคาและพระนอนมีจำนวนจำกัด)
    3.1) เนื้อโลหะชุปสองกษัตริย์เนื้อชุปเงิน หน้าหลวงพ่อชุปวรรณะทอง เลี่ยมกรอบผ่าหวายชุปทอง พร้อมกล่องกำมะหยี่ออกให้บูชาในราคาเดียวกันกับวัด 599 บาท จัดส่งฟรี สร้างเพียง 500 องค์ (เป็นรุ่นพิเศษ)
    3.2) เนื้อโลหะชุปสองกษัตริย์เนื้อชุปทอง หน้าหลวงพ่อชุปวรรณะเงิน เลี่ยมกรอบผ่าหวายชุปทอง พร้อมกล่องกำมะหยี่ออกให้บูชาในราคาเดียวกันกับวัด 599 บาท จัดส่งฟรี สร้างเพียง 500 องค์ (เป็นรุ่นพิเศษ)
    (รายการที่ 3 ไม่มีโบว์บารมีสามสิบทัศน์ แต่แถมเชือกคล้องคอด้ายแดงมงคลของวัดศาลฯ และกำไรรวยรับทรัพย์ Wristband ที่ระลึก 100 ปีหลวงพ่อ เข้าพิธีปลุกเสกพร้อมกันกับเหรียญจำนวน 1 เส้น)

    *******************************************************************************
    ปัจจัยทั้งหมด 100% ร่วมสร้างศาลา ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน วัดศาลฯ และในวาระพิเศษสร้างหลังคาและพระนอนความยาว 32 เมตรหน้าศาลาฯ
    **********************************************************************************
    <<<<<<<<<<ชนวนมวลสารสำคัญที่เป็นที่สุดแล้ว>>>>>>>>>>>>>
    1. ชนวนทองก้นเบ้าที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำมอบให้ ซึ่งมีพุทธานุภาพป้องกันรังสีนิวเคลียร์ได้ด้วย
    2. ชนวนสมเด็จองค์ปฐมวัดท่าซุง
    3. ชนวนแร่โคตรเศรษฐีแร่พันปี (สมัยย่าชีประทุม) ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำให้การรับรอง รวมถึงแร่เทพรักษา เป็นแร่สำเร็จในตัว เนื้อเกลี้ยง ๆ ก็ขลังแล้ว เน้นลาภผล
    4. ชนวนพิเศษเข้าพิธีพุทธาภิเษกหลวงพ่อหนุน สุวิชโย หลวงพ่อเข้ากรรมฐานพุทธาภิเษกตลอดคืน ณ วัดพุทธโมกข์ จังหวัดสกลนคร 17 - 18 มค 59 เน้นความร่ำรวย
    5. ชนวนมวลสารสำคัญพิเศษต่าง ๆ มากมายที่มีผู้บริจาคให้กับทางวัดศาลฯ (เน้นลาภผล) เจตนาดี การจัดสร้างดี
    6. เนื้อชุปทองคำขาวของเหรียญเศรษฐี และเนื้อชุปเงินท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ ใส่ชนวนเม็ดเงินพิเศษ และชนวนเนื้อเงินพระกริ่งสมปรารถนา
    ***************************************************************************
    เหรียญเศรษฐีเข้าพิธีพุทธาภิเษก 4 วาระ ส่วนท่านท้าวมหาราชเข้า 2 วาระ ดังนี้:
    1. พิธีพุทธาภิเษกเสาร์ ๕ วันที่ 12 มีนาคม 2559 ที่วัดท่าซุง และในงานมีพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร (เหรียญเศรษฐี ๑๐๐ ปีเข้าพิธีนี้ และได้นำชนวนท่านท้าวมหาราชมาเข้าพิธีด้วย)
    2. เข้าวาระที่ 2 - พิธีสมปราถนาทุกประการ วันที่ 9 เมษายน 2559 พิธีบวงสรวงท้าวมหาราช เริ่มพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่ระลึก ตามแบบฉบับพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง โดยมีพระเดชพระคุณพระครูวิชัยสารคุณ (หลวงพ่อหนุน) วัดพุทธโมกข์ เป็นประธาน ณ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร พร้อมพระเกจิในสายเนื้อธาตุกายสิทธิ์ (มีเทพรักษา) สุดยอดเกจิในเมืองไทย (ทางวัดศาลฯ ขอขอบใจกองทุนหลวงปู่ปานฯ ) เหรียญเศรษฐี และท่านท้าวมหาราชได้เข้าพิธีพร้อมกันในวาระนี้อย่างเป็นทางการในพิธี
    3. วาระ 3 - วันที่ 8 พค. 2559 วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) สระบุรี พระสุปฏิปันโนในสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ มาร่วมพิธีกันหลายรูปโดยมีพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณหลวงพ่ออนันต์ เจ้าอาวาส วัดท่าซุงเป็นประธานในพิธี ในงานพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล และเททองหล่อรูปบูรพาจาย์ หลวงปู่ปาน และ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (ทางวัดศาลฯ ได้นำเหรียญเศรษฐี ๑๐๐ ปี และท่านท้าวมหาราชมาเข้าพิธีด้วย) หลวงพี่อานนท์ที่มาร่วมในงานพิธี ท่านกล่าวในงานพิธีนี้ว่า "ในความรู้สึกว่า ครั้งนี้เป็นมหาลาภ มหาเศรษฐีที่มีบริวารพร้อมเต็มที่เลยครับ มหาลาภเด่นชัดมาก มีมหาอำนาจหนุนด้วย พระท่านมากำลัง 3 เลยครับ" งานนี้พระท่านสงเคราะห์ยกกำลัง 3 เลยทีเดียว
    วาระ 4 เหรียญเศรษฐีเข้าพิธีพุทธาภิเษก วาระพิเศษ เสาร์ ๕ วันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๕๙ ที่ศาลา ๑๒ ไร่ วัดท่าซุง งานพิธีฉลองและเททองคำหล่อ ๑๐๐ ปี ชาตกาล หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    “มหาฤกษ์มหามงคลมหาเศรษฐี เสาร์ ๕ วาระครบ ๑๐๐ ชาตกาลหลวงพ่อ มีครั้งเดียวไม่มีอีกแล้ว”


    ***********************************************************************************
    >>>เปิดให้จองได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โอนเงินได้ภายในวันที่ 30 กันยายน 2559 ทุกรายการพร้อมจัดส่ง ปัจจัย 100% ถวายวัดศาลฯ ทั้งหมดร่วมสร้างศาลา ๑๐๐ ปี รวบรวมปัจจัยถวายครั้งที่ 4<<<<<<
    **************************************************************************************รับจองทาง Facebook ดังนี้:
    https://www.facebook.com/thanate.eakoraphan
    ************************************************************************************>>>ร่วมโอนปัจจัย<<<
    นายธเนศร์ เอกอรพรรณ
    1.ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเตาปูน เลขที่ 1412184292
    2.ธนาคารกสิกรไทย สาขาคลองสาม เลขที่ 8922217840
    3. ธนาคารกรุงเทพฯ สาขา cyberwolrd เลขที่ 0197038177

    Lind ID : diarybom
    **************************************************************************************“รวยมาก ๆ ลูกเอ๊ย โชคดีมีสุขนะจ๊ะ รวย ๆ ปรารถนาสมหวัง ทุกอย่างนะลูกนะ รวย ๆ จ๊ะ”
    ประวัติแร่โคตรเศรษฐีของย่าชีประทุมสมัยหลวงพ่อที่ท่านได้จากท้านท้าวธตรฐ (ท้าวมหาราชทั้งสี่)>>>>
    "ย่าชีประทุมได้กล่าวไว้ว่า ::::
    เมื่อทำเสร็จ ข้าพเจ้านำพระเครื่อง 285 องค์นี้ ไปหาพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้กล่าวไว้ว่า ::: นี่นะโยม พระของโยมนี่ ถ้าผู้ใดได้ไปบูชา จะเป็นเศรษฐี โคตรเศรษฐี จนไม่เป็นดีมากนะ โยมนี่เป็นคนมีปัญญา เอาล่ะนะฉันจะบอกให้ พระของโยมที่ทำมาทั้งหมดนี้ ถึงแม้จะไม่มีรูปพระเลย ของๆโยมก็ขลัง เขาสำเร็จอยู่ในตัวเขาแล้ว ให้ใครเอาไปทำอะไรๆ ให้ยิ่งกว่าทำ คำว่าเสื่อมไม่มี ของๆโยมนี้ใช้ได้ทุกอย่างเลยครบหมด เนื้อเกลี้ยงๆก็ขลัง หลวงพ่อฤาษีลิงดำกล่าว
    ***************************************************************************
    หมายเหตุ : วาระแรก Lot 1 ได้ถวายปัจจัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วเป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559
    วาระที่สอง Lot 2 ได้ถวายปัจจัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ววันที่ 31 พฤษภาคม 2559 ยอดเงิน 300,0000 กว่าบาท มาร่วมด้วยช่วยกันครับ สร้างกำลังบารมี มหาบุญมหาวิหารทาน
    วาระที่ 3 วันนี้ ๗ สค ๕๙ (ถวายครั้งที่ ๓ ของปีนี้) พวกเราชาวคณะญาติธรรม ที่ได้ร่วมบุญบูชาเหรียญเศรษฐี ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ และท่านปู่ท่านย่า ได้ร่วม ถวายปัจจัย 300,000 บาท ถวายหลวงตาชลอ สร้างพระนอน 32 เมตร หน้าศาลา ๑๐๐ ปีพระราชพรหม วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ โมทนาบุญ ฝากกระแสความดีร่วมกันครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2016
  2. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    หลวงพี่บอกว่าหลวงพ่อสอนว่า..
    การก่อสร้างทำให้บารมีเต็มเร็ว
    การก่อสร้าง, การเลี้ยงคน ต้องต่อสู้กับอารมณ์ทุกอย่าง ต้องใช้ปัญญาใคร่ครวญ ทำให้บารมีเต็มเร็ว หลวงพ่อพูดว่า...มาคิดว่าสมัยหนุ่มๆ บวชแล้วมัวแต่สร้างวัดมากมาย คิดแล้วเสียเวลา มาคิดว่า รู้อย่างนี้ไม่สร้างก็ดี เสียเวลา...เอาเวลามานั่งชำระจิตตัดกิเลสอย่างเดียวให้จบๆ ไปจะดีกว่า
    ปรากฏว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาตรัสกับหลวงพ่อว่า "ไม่มีทาง...ถ้าไม่ทำอย่างนี้ บารมีไม่เต็ม, เมื่อบารมีไม่เต็ม การตัดกิเลสไม่เป็นผล" ดังนั้นการทุ่มเทกับการก่อสร้างสมัยหนุ่มๆ แล้วก็หยุดสร้าง หันมาตัดกิเลสจริงจังนั่นแหละ เพราะบารมีเต็มแล้ว จิตใจก็พร้อมที่จะตัดกิเลส จึงเกิดผลรวดเร็วมาก
    งานคันถธุระ..ถ้าไม่เจอปัญหา จะมานั่งปฏิบัติอย่างเดียวบารมีไม่เต็ม เจอปัญหามากๆ มันตัดของมันเองแล้วจะเบา การสร้างวัดต้องเอาใจคนหลายประเภท บารมีเต็มเร็ว
    การทำงานในวัด เป็นการตัดห่วง ตัดนิวรณ์ เป็นกรรมฐานทำให้เกิดสมาธิขั้นฌาน การทำงานเป็น "พุทธานุสสติ..เป็นธัมมานุสสติ..เป็นสังฆานุสสติ" เป็นการทำงานเพื่อพระพุทธเจ้า เพื่อหลวงพ่อและเพื่อการสงเคราะห์คนมาพัก
    ฆราวาสถ้าเขามาพักที่วัดเพื่อ...
    ทาน > เรา (พระที่วัด) ก็ได้บุญ ๑ ชั้น
    ศีล > เรา (พระที่วัด) ก็ได้บุญ ๒ ชั้น
    ภาวนา > เรา (พระที่วัด) ก็ได้บุญ ๓ ชั้น
    ถ้าเขามาพักเยอะ...ได้เยอะ, เขามาปฏิบัติ ๓ อย่างได้ ๓ ชั้น, มาเยอะได้เยอะ, มาเพื่อศีล สมาธิ ปัญญา, ใครมาพักที่วัด บารมีเราก็ได้เต็ม ๓ อย่าง
    คนบารมีเต็มจริง มันไม่กลัวอุปสรรค สู้ทุกอย่างไม่ท้อถอย,
    คนเบื่อร่างกาย ไม่ตัดกังวล ไปนิพพานไม่ได้,
    เบื่อร่างกาย ตัดร่างกาย ไปนิพพานได้,
    พระบวชแล้วต้องดีกว่าเก่า เพราะว่าเรามีทุกข์มากกว่าเก่า คือมีศึล ๒๒๗ ข้อ
    คนบารมีเต็ม คือคนที่มีจิตเป็นสุข
    การก่อสร้างของเรามีจุดจบ คือ วิหาร ๑๐๐ เมตร มีจุดจบมันก็ดี ไม่มีอะไรห่วง บางคนสร้างไม่ทันเสร็จก็ตาย มีแต่ความกังวลตลอดเวลา.
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีฯ)
    หลวงพี่สอนต่ออีกว่า..
    อย่ามัวร์แต่ซึมเศร้านะรุกขึ้นมาสดใสได้แล้วเพราะเรายังต้องมีหน้าที่สร้างบารมีต่อให้เต็มถึงเต็มแล้วให้ล้นออกมาข้างๆเลยคนที่อยู่ไกล้ๆๆเขาก็จะได้รับอานิสงค์ด้วยนะ
    Cr คุณนัน Nunun Diamond
    **********************************************************************
    ร่วมสร้างกำลังบารมีกันได้ที่ :
    https://www.facebook.com/thanate.eakoraphan
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    อานิสงส์การสร้างวิหารทาน
    ต่อนี้ไปก็มาคุยกันถึงเรื่องการทำบุญ คนทำบุญบรรดาท่านพุทธบริษัท พระพุทธเจ้าทรงยืนยันว่าเมื่อจิตใจตั้งใจทำบุญเสร็จ ทำบุญแน่นอนแล้ว สมเด็จพระประทีปแก้วทรงยืนยันว่าวิมานคอยอยู่แล้ว คือเจ้าของยังไม่ตายแต่วิมานปรากฏอยู่ก่อน เรื่องราวมีอยู่ว่า
    ในสมัยที่องค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ เวลานั้นปรากฏว่า มีมาณพท่านหนึ่งคือ นันทิยมาณพ เป็นคนเคารพในพระพุทธศาสนาปกครองทรัพย์สินมากมาย คือเป็นเศรษฐี มีความเลื่อมใสในองค์สมเด็จพระมหามุนี สร้างศาลา ๔ หน้า ถวายพระพุทธเจ้าคือถวายเป็นของสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน
    หลังจากนั้นเวลาตอนกลางคืน อัครสาวกขององค์สมเด็จพระพิชิตมาร คือพระโมคคัลลาน์ พระองค์นี้มีความสำคัญมาก เรียกว่าวันนี้ทั้งหมดบรรดาพุทธบริษัท พูดเรื่องจริงทั้งหมดนะ ไม่มีนิทาน แล้วก็ไม่มีนิมิต
    นิทานก็ดี นิมิตก็ดี ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทอย่าถือว่าจริงเกินไป เอาเหตุเอาผลเป็นสำคัญ แต่ว่าในเรื่องนั้นๆ ให้ถือว่าธรรมะเป็นเรื่องสำคัญ ธรรมะน่ะจริงแน่
    พระโมคคัลลาน์ท่องสวรรค์
    มาตอนนี้ปรากฏว่าพระโมคคัลลาน์ พระโมคคัลลาน์นี่ท่านเป็นพระพิเศษ แต่พระที่ท่องเที่ยวในสวรรค์ ในพรหมโลก ในนรก แดนเปรต แดนอสุรกาย มีเยอะ ไม่ใช่มีพระโมคคัลลาน์องค์เดียว
    แต่ว่าแต่ละท่าน ต่างคนต่างไป ต่างคนต่างรู้ ไปเห็นแล้วรู้แล้ว เข้าใจแล้ว ก็มาแนะนำบรรดาท่านพุทธบริษัทด้วยความจริงใจว่า คนนั้นตายไปเกิดที่นั่น คนนี้ตายไปเกิดที่นี่ ใครเป็นญาติกานาติเกกันบ้าง เขาสั่งมาว่าอย่างไร ก็แนะนำตามนั้น เวลานั้นพระพุทธเจ้าทรงยืนยัน แต่พระโมคคัลลาน์นั้นไปแล้วไม่อยู่เปล่า ไปหามาทั่วพบทั่วแล้วก็กลับมาถามองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า เหตุที่พบมานั้นเป็นจริงหรือไม่ องค์สมเด็จพระจอมไตรก็ทรงยืนยันรับรอง
    ทีนี้มาวันนั้น คืนวันนั้น ที่นันทิยมาณพท่านถวายศาลา ๔ หน้าเสร็จ กลางคืนพระโมคคัลลาน์ก็เจริญกรรมฐานปกติของพระอรหันต์
    พระอรหันต์นี่เวลาเจริญกรรมฐาน บรรดท่านพุทธบริษัท จะไปดูเวลานั่งขัดสมาธินี่มันไม่ได้ ท่านไม่ถือการขัดสมาธิเป็นเรื่องสำคัญ นั่งขัดสมาธิมือซ้อนกันนี่นะ เพราะว่าเป็นพระที่จบแล้ว ท่านใช้อารมณ์ได้ทุกขณะ ขณะคุยกันนี่ท่านก็ใช้ได้
    อย่าลืมว่าอรหันต์ใช้ฌานสมาบัติ ความเป็นทิพย์ไม่จำกัดเวลาจะพูด จะคุย จะทำงานทำการ อยากจะรู้เมื่อไรก็รู้ได้ เห็นอะไรปุ๊บปั๊บมีความรู้สึก แต่ว่าพระอรหันต์เป็นพระเก็บ ไม่แสดงออก ไม่ชูงวง อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "เธอทั้งหลาย จงอย่าชูงวงเข้าไปสู่ตระกูล"
    นั่นหมายความว่า แสดงตนโอ้อวดว่าฉันเป็นพระอรหันต์บ้าง ฉันมีความรู้อย่างนั้นอย่างนี้บ้าง ฉันเป็นเปรียญชั้นนั้นชั้นนี้ ฉันเป็นพระครู ฉันเป็นเจ้าคุณ อะไรพวกนี้
    จริงๆ แล้วพระสมัยนี้ท่านก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีใครเขาชูงวงกัน แต่พวกชูงวงคงจะมีอยู่บ้าง เป็นของธรรมดาๆ สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าห้าม สิ่งนั้นก็ย่อมจะมี
    ท่านบอกว่า "เธอทั้งหลาย จงอย่าชูงวงเข้าไปสู่ตระกูล"
    คือประกาศตนว่าฉันเป็นขั้นนั้น ฉันเป็นขั้นนี้ เพื่อความเลื่อมใสของบุคคล
    อีกประการหนึ่ง ท่านบอกว่า
    "จงทำตนเหมือนโมคคัลลาน์ โมคคัลลาน์ทำตนเหมือนแมลงภู่ เข้าไปเชยน้ำหวานจากเกสรของดอกไม้ ได้กินน้ำหวานแล้วดอกไม้เขาไม่ช้ำฉันใด บรรดาพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายในพระพุทธศาสนา เวลาเข้าไปสู่ตระกูล จงอย่าทำให้บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทชอกช้ำในความเป็นอยู่หรือจิตใจ"
    ก็รวมความว่า วันนั้นพระโมคคัลลาน์ขึ้นไปบนสวรรค์ก็ไปเจอวิมานที่ไปพบมาแล้วทุกๆวัน แต่ปรากฏว่า พอเลี้ยวเข้ามามุมหนึ่งของสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก ก็มีความแปลกใจว่าเห็นวิมานใหม่มันเกิดขึ้น วิมานนี้เป็นวิมาน ๔ มุข มียอดใหญ่ตระการตาสวยสดงดงามมาก แพรวพราวเป็นระยับ
    วิมานคอยอยู่แล้ว
    ท่านจึงหันไปถามเทพบุตรที่อยู่ใกล้ๆถามว่า "วิมานนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร...?"
    เทพบุตรองค์นั้นท่านก็ตอบว่า "วิมานนี้เป็นวิมานของ นันทิยมาณพ เมื่อกลางวันวานที่แล้วมาปรากฏว่านันทิยมาณพเขาถวายวิหารศาลา ๔ มุขในพระพุทธศาสนา มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน พอถวายเสร็จวิมานก็ปรากฏก่อน"
    อัครสาวกขององค์สมเด็จรพระชินวรถามว่า "เป็นอย่างนี้ทุกรายรึ...?"
    เทพบุตรองค์นั้นก็บอกว่า "เป็นอย่างนี้ทุกราย คนที่ทำบุญเสร็จมีวิมานทันทีทันใด"
    จากหนังสือ ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๙ หน้าที่ ๒๑-๓๐ โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร)
    ร่วมสร้างวิหารทานร่วมกันเพื่อสร้างบารมี และกำลัง
    https://www.facebook.com/thanate.eakoraphan
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    วันที่ 5 มิ.ย. เวลา 09.48 น.
    วันขอเงินพระจันทร์
    1. ตอนเช้าทำบุญ ใส่บาตร หรือบวชชีพรามณ์ เข้าวัดนุ่งขาวห่มขาว เพื่อเป็นการเปิดรับบุญให้มากขึ้น
    *** เคล็ดลับคือพยายามอย่าให้ใครมาหยิบยืมเงินอย่างเด็ดขาด
    2. เตรียมเงินจำนวนหนึ่ง อาจจะลงท้ายด้วยเลขมงคล เช่น 99 บาท / 999 บาท
    3. สวด คำบูชาพระ
    อิมินา สักกาเรนะ ตัง พุทธัง อะภิปูชะยามิ
    อิมินา สักกาเรนะ ตัง ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
    อิมินา สักกาเรนะ ตัง สังฆัง อะภิปูชะยามิ
    คำนมัสการพระรัตนตรัย
    อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ(กราบ)
    สะวาขาโต ภะคะวะตาธัมโม ธัมมังนะมัสสามิ(กราบ)
    สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ(กราบ)
    คำอาราธนาศีล 5
    มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ
    ทุติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ
    ตะติยัมปิ มะยังภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ ติสะระเณนะสะหะ ปัญจะ สีลานิยาจามะ
    คำนมัสการพระพุทธเจ้า
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ)
    ไตรสรณคมณ์
    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
    ศีล 5
    ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
    บทสวด ชุมนุมเทวดา (ท่านท้าวมหาราช)
    “สัคเค กาเม จะ รูเป คิริสิขิระตะเฏ จันตะลิกเข วิมาเน ทีเป รัฏเฐ จะ คาเม ตะรุวะนะคะหะเน เคหะ วัตถุมหิ เขตเต ภุมมา จายันทุ เทวา ชะละถะละ วิสะเม ยักขะ คันธัพพะนาคา ติฏฐันตา สันติเกยัง มุนิวะระวะจะนัง สาธะโว เม สุณันตุฯ
    ธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะ นะกาโล อะยัมภะทันตาฯ”
    4. จากนั้นให้ท่านนำเงินที่ท่านเตรียมไว้แล้วกล่าวคำอธิษฐานว่า
    “ข้าพเจ้า (ชื่อ/นามสกุล ของท่าน) ขออุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลที่ข้าพเจ้าได้สร้างมาแต่อดีตชาติ ถึงปัจจุบัน ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตย์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลทั้งหลายให้เทพเทวา นาคาทุกหมู่เหล่า ตลอดถึงเทพพระอาทิตย์ เทพพระจันทร์ จงได้รับอานิสงส์แห่งผลบุญนี้ ที่ข้าพเจ้าได้สร้างในวันนี้โดยเร็วพลัน เมื่อได้รับผลบุญนี้แล้ว ก็ขอให้ท่านทั้งหลายประทานพรอันประเสริฐให้ข้าพเจ้ามีโชคลาภ มีเงินตราตามที่ปรารถนา จากสิ่งที่ทำด้วยความวิริยะอุตสาหะ ขอให้ได้รับความสำเร็จในเรื่องของการงาน ความสำเร็จในเรื่องความรัก ความสำเร็จในเรื่องของชีวิต …………………..”
    5. นำเงินที่ได้ขอพรไปทำบุญ หรือบริจาคตามที่สะดวก เช่น ไถ่ชีวิตโค กระบือ , ซื้อปลา ซื้อนก มาปล่อย เป็นต้น
     
  5. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    ลูกอยากจะเรียนถามว่า วิธีที่จะให้หลวงพ่อ
    ไปช่วยนั้น ลูกควรอธิษฐานและปฏิบัติอย่างไร??”
    ******************
    ขอให้หลวงพ่อไปช่วย
    ******************
    ผู้ถาม..
    กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
    ลูกมีความเลื่อมใส ในตัวหลวงพ่อมาก
    เดี๋ยวนี้มีความเดือดร้อน ลูกได้ข่าวว่า
    มีหลายท่านเวลานึกอธิษฐานให้หลวงพ่อช่วย
    แล้ว หลวงพ่อมักจะช่วยเหลือในเวลากลางคืน
    ลูกอยากจะเรียนถามว่า วิธีที่จะให้หลวงพ่อ
    ไปช่วยนั้น ลูกควรอธิษฐานและปฏิบัติอย่างไร
    หลวงพ่อจึงจะไปช่วยตอนกลางคืนเจ้าคะ?
    หลวงพ่อ..
    ตายแล้ว!! โดนปืนแน่..(โดนปืนแน่)
    เอาอย่างนี้ซิ ถ้าตั้งใจนึกอย่างนั้น
    มันเป็นนิวรณ์ จิตฟุ้งซ่าน ไม่มีผล
    ต้องภาวนาแบบสบายๆ นึกถึง
    พระพุทธเจ้าอย่างเดียว
    ถ้าอย่างนั้นพระสงฆ์ช่วยได้
    เกาะพระพุทธเจ้าไว้
    ภาวนาว่า “พุทโธ” อะไรๆก็ได้
    แต่ว่าให้นึกถึง
    พระพุทธเจ้าไว้อย่าไปนึกอย่างอื่น
    อย่าไปนึกว่าขอให้พระองค์นั้นจงไปช่วย
    ขอพระองค์นี้ไปช่วย ไม่มีผล
    สังเกต พวกที่เห็นไปช่วย เขาไม่ได้นึกหรอก
    เขาบูชาพระธรรมดา เขาไม่ได้เกณฑ์ให้ไปช่วย
    ผู้ถาม..
    อ๋อ…ที่นึกไม่ได้ช่วย
    ที่ช่วย.. ไม่ได้นึก
    หลวงพ่อ..
    คือว่า..อย่างนี้
    ที่นึก..มันเป็นนิวรณ์ตัวที่ ๔ จิตฟุ้งซ่าน
    ไม่มีสมาธิ…เห็นไม่ได้
    ******************
    หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม
    ฉบับพิเศษเล่ม ๘ หน้า ๑๑๕-๑๑๖
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    เหรียญเศรษฐียิ้มรับทรัพย์หพ.ฤาษีลิงดำ+ท้าวมหาราชทั้งสี่กรอบลายไทยLotแรก-พิธี3ร่วมสร้างศาลา ๑๐๐ ปี

    เปิดให้ร่วมบุญสร้างศาลา ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) จัดสร้างโดยวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ มีอยู่ 3 รายการดังนี้ :
    รายการที่ 1 ::::: เหรีญเศรษฐี ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน หลวงพ่อยิ้มรับทรัพย์ ด้านหลังเป็นรูปพระพุทธล้อมยันต์ ที่รวมบารมีของสมเด็จองค์ปฐมตั้งแต่องค์ปฐมจนถึงองค์ปัจจุบันและอนาคตตามแบบฉบับพระผงที่โด่งดังของหลวงปู่ปาน พระพุทธ (หรือองค์พ่อใหญ่ สมัยก่อนหลวงปู่ปานใช้เรียกพระนามสมเด็จองค์ปฐม) ที่อยู่หลังเหรียญเศรษฐี ท่านจึงใช้รูปลักษณ์ในการสร้างพระผงจนโด่งดัง
    1.1) เนื้อโลหะชุบทองคำขาว ชนวนแร่โคตรเศรษฐี 30% (มีผสมชนวนเม็ดเงินพระกริ่งสมปราถนา) พร้อมโบว์บารมีสามสิบทัศน์ พร้อมกล่องกำมะหยี่ออกให้บูชาในราคา 1,000 บาท (มีค่าจัดส่ง 50 บาท) เปิดบูชาจำนวน 100 เหรียญ หมดแล้วหมดเลย
    1.2) เนื้อชุบทอง ชนวนแร่โคตรเศรษฐี 30% พร้อมโบว์บารมีสามสิบทัศน์ออกให้บูชาในราคา 499 บาท พร้อมกล่องกำมะหยี่ (มีค่าจัดส่ง 50 บาท) เปิดจอง 100 เหรียญ หมดแล้วหมดเลย
    1.3) ชุดกรรมการจะมี 3 เนื้อในกล่องกำมะหยี่ ประกอบด้วยเนื้อแร่โคตรเศรษฐี (เนื้อแร่โครตเศรษฐีผสมแร่เทพรักษาและชนวนทองก้นเบ้า มีเนื้อแร่ 75% ผสมทองก้นเบ้าออกมาเป็นสี Pink Gold สวยงาม และมีผสมชนวนเม็ดเงินพระกริ่งสมปราถนา)) เนื้อชุปทองคำขาว(มีผสมชนวนเม็ดเงินพระกริ่งสมปราถนา) เนื้อชุปทองพร้อมโบว์บารมีสามสิบทัศน์ทุกเนื้อ เปิดบูชาจำนวน 19 ชุด (สร้างเพียง 100 ชุดเท่านั้น) ราคาบูชาในราคา 3,999 บาทค่าจัดส่ง 60 บาท หมดแล้วหมดเลย หลังวันที่ 30 มิถุนายน จะทำการปรับราคา
    (ทุกรายการแถมกำไร Wristband ที่ระลึก 100 ปีหลวงพ่อ เข้าพิธีปลุกเสกพร้อมกันกับเหรียญ พร้อม่กล่องกำมะหยี่ของทางวัดศาลฯ)
    รายการที่ 2 :::: ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ รุ่นยืนเศรษฐีรวมกำลัง บนดอกบัวแห่งโภคทรัพย์เลี่ยมใส่กรอบลายไทยชุปเงิน และกล่องพระของวัดศาลฯ :
    2.1.) เนื้อโลหะชุบเงิน ออกให้บูชาในราคาวัด 699 บาท (มีค่าจัดส่ง 60 บาท) รับจองจำนวน 500 องค์ ******พิเศษเฉพาะชุดนี้เนื้อชุปเงินมีผสมชนวนมวลสารเม็ดเงินแท้เข้าไป (จะรับกระแสและพลังงานได้มาก) และรวมถึงชนวนเงินของพระกริ่งสมปรารถนา ชนวนดังกล่าวได้ใส่เฉพาะ Lot แรกของเนื้อเงินที่จะจัดส่งในเดือนพค นี้เท่านั้น) ******
    2.2) เนื้อโลหะชุบทอง ออกให้บูชาในราคาเดียวกันกับวัด 599 บาท (มีค่าจัดส่ง 60 บาท) รับจองจำนวน 2,000 องค์ (พิเศษใส่ชนวนผงตะไบพระกริ่งสมปราถนา)
    ******ขนาด (ไม่รวมกรอบ) สูงจากฐานบัว 5 ซม กว้าง 2.5 ซม (ความสูงของกรอบ 2 นิ้วครึ่ง)
    ***ทุกรายการเลี่ยมใส่กรอบลายไทยสวยงามชุปเงิน ชุปทองพร้อมกล่องพระของวัดศาลฯ (มีแถมเชือกร่มด้ายแดงมงคล)
    รายการที่ 3 เหรียญเศรษฐี หลวงพ่อยิ้มรับทรัพย์ เนื้อสองกษัตริย์ สองวรรณะ (สร้างในวาระพิเศษสร้างหลังคาและพระนอนมีจำนวนจำกัด)
    3.1) เนื้อโลหะชุปสองกษัตริย์เนื้อชุปเงิน หน้าหลวงพ่อชุปวรรณะทอง เลี่ยมกรอบผ่าหวายชุปทอง พร้อมกล่องกำมะหยี่ออกให้บูชาในราคาเดียวกันกับวัด 599 บาท จัดส่งฟรี สร้างเพียง 500 องค์ (เป็นรุ่นพิเศษ)
    3.2) เนื้อโลหะชุปสองกษัตริย์เนื้อชุปทอง หน้าหลวงพ่อชุปวรรณะเงิน เลี่ยมกรอบผ่าหวายชุปทอง พร้อมกล่องกำมะหยี่ออกให้บูชาในราคาเดียวกันกับวัด 599 บาท จัดส่งฟรี สร้างเพียง 500 องค์ (เป็นรุ่นพิเศษ)
    (รายการที่ 3 ไม่มีโบว์บารมีสามสิบทัศน์ แต่แถมเชือกคล้องคอด้ายแดงมงคลของวัดศาลฯ และกำไรรวยรับทรัพย์ Wristband ที่ระลึก 100 ปีหลวงพ่อ เข้าพิธีปลุกเสกพร้อมกันกับเหรียญจำนวน 1 เส้น)
    *******************************************************************************
    ปัจจัยทั้งหมด 100% ร่วมสร้างศาลา ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน วัดศาลฯ และในวาระพิเศษสร้างหลังคาและพระนอนความยาว 32 เมตรหน้าศาลาฯ
    **********************************************************************************
    <<<<<<<<<<ชนวนมวลสารสำคัญที่เป็นที่สุดแล้ว>>>>>>>>>>>>>
    1. ชนวนทองก้นเบ้าที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำมอบให้ ซึ่งมีพุทธานุภาพป้องกันรังสีนิวเคลียร์ได้ด้วย
    2. ชนวนสมเด็จองค์ปฐมวัดท่าซุง
    3. ชนวนแร่โคตรเศรษฐีแร่พันปี (สมัยย่าชีประทุม) ที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำให้การรับรอง รวมถึงแร่เทพรักษา เป็นแร่สำเร็จในตัว เนื้อเกลี้ยง ๆ ก็ขลังแล้ว เน้นลาภผล
    4. ชนวนพิเศษเข้าพิธีพุทธาภิเษกหลวงพ่อหนุน สุวิชโย หลวงพ่อเข้ากรรมฐานพุทธาภิเษกตลอดคืน ณ วัดพุทธโมกข์ จังหวัดสกลนคร 17 - 18 มค 59 เน้นความร่ำรวย
    5. ชนวนมวลสารสำคัญพิเศษต่าง ๆ มากมายที่มีผู้บริจาคให้กับทางวัดศาลฯ (เน้นลาภผล) เจตนาดี การจัดสร้างดี
    6. เนื้อชุปทองคำขาวของเหรียญเศรษฐี และเนื้อชุปเงินท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ ใส่ชนวนเม็ดเงินพิเศษ และชนวนเนื้อเงินพระกริ่งสมปรารถนา
    ***************************************************************************
    เหรียญเศรษฐีเข้าพิธีพุทธาภิเษก 3 วาระ ส่วนท่านท้าวมหาราชเข้า 2 วาระ ดังนี้:
    1. พิธีพุทธาภิเษกเสาร์ ๕ วันที่ 12 มีนาคม 2559 ที่วัดท่าซุง และในงานมีพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร (เหรียญเศรษฐี ๑๐๐ ปีเข้าพิธีนี้ และได้นำชนวนท่านท้าวมหาราชมาเข้าพิธีด้วย)
    2. เข้าวาระที่ 2 - พิธีสมปราถนาทุกประการ วันที่ 9 เมษายน 2559 พิธีบวงสรวงท้าวมหาราช เริ่มพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่ระลึก ตามแบบฉบับพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง โดยมีพระเดชพระคุณพระครูวิชัยสารคุณ (หลวงพ่อหนุน) วัดพุทธโมกข์ เป็นประธาน ณ วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร พร้อมพระเกจิในสายเนื้อธาตุกายสิทธิ์ (มีเทพรักษา) สุดยอดเกจิในเมืองไทย (ทางวัดศาลฯ ขอขอบใจกองทุนหลวงปู่ปานฯ ) เหรียญเศรษฐี และท่านท้าวมหาราชได้เข้าพิธีพร้อมกันในวาระนี้อย่างเป็นทางการในพิธี
    3. วาระ 3 - วันที่ 8 พค. 2559 วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) สระบุรี พระสุปฏิปันโนในสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ มาร่วมพิธีกันหลายรูปโดยมีพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณหลวงพ่ออนันต์ เจ้าอาวาส วัดท่าซุงเป็นประธานในพิธี ในงานพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล และเททองหล่อรูปบูรพาจาย์ หลวงปู่ปาน และ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (ทางวัดศาลฯ ได้นำเหรียญเศรษฐี ๑๐๐ ปี และท่านท้าวมหาราชมาเข้าพิธีด้วย) หลวงพี่อานนท์ที่มาร่วมในงานพิธี ท่านกล่าวในงานพิธีนี้ว่า "ในความรู้สึกว่า ครั้งนี้เป็นมหาลาภ มหาเศรษฐีที่มีบริวารพร้อมเต็มที่เลยครับ มหาลาภเด่นชัดมาก มีมหาอำนาจหนุนด้วย พระท่านมากำลัง 3 เลยครับ" งานนี้พระท่านสงเคราะห์ยกกำลัง 3 เลยทีเดียว
    ***********************************************************************************
    >>>เปิดให้จองได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โอนเงินได้ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ทุกรายการพร้อมจัดส่ง ปัจจัย 100% ถวายวัดศาลฯ ทั้งหมดร่วมสร้างศาลา ๑๐๐ ปี รวบรวมปัจจัยถวายครั้งที่ 3<<<<<<
    **************************************************************************************รับจองทาง Facebook ดังนี้:
    https://www.facebook.com/thanate.eakoraphan
    ************************************************************************************>>>ร่วมโอนปัจจัย<<<
    นายธเนศร์ เอกอรพรรณ
    1.ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเตาปูน เลขที่ 1412184292
    2.ธนาคารกสิกรไทย สาขาคลองสาม เลขที่ 8922217840
    3. ธนาคารกรุงเทพฯ สาขา cyberwolrd เลขที่ 0197038177

    Lind ID : diarybom
    **************************************************************************************“รวยมาก ๆ ลูกเอ๊ย โชคดีมีสุขนะจ๊ะ รวย ๆ ปรารถนาสมหวัง ทุกอย่างนะลูกนะ รวย ๆ จ๊ะ”
    ประวัติแร่โคตรเศรษฐีของย่าชีประทุมสมัยหลวงพ่อที่ท่านได้จากท้านท้าวธตรฐ (ท้าวมหาราชทั้งสี่)>>>>
    "ย่าชีประทุมได้กล่าวไว้ว่า ::::
    เมื่อทำเสร็จ ข้าพเจ้านำพระเครื่อง 285 องค์นี้ ไปหาพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำได้กล่าวไว้ว่า ::: นี่นะโยม พระของโยมนี่ ถ้าผู้ใดได้ไปบูชา จะเป็นเศรษฐี โคตรเศรษฐี จนไม่เป็นดีมากนะ โยมนี่เป็นคนมีปัญญา เอาล่ะนะฉันจะบอกให้ พระของโยมที่ทำมาทั้งหมดนี้ ถึงแม้จะไม่มีรูปพระเลย ของๆโยมก็ขลัง เขาสำเร็จอยู่ในตัวเขาแล้ว ให้ใครเอาไปทำอะไรๆ ให้ยิ่งกว่าทำ คำว่าเสื่อมไม่มี ของๆโยมนี้ใช้ได้ทุกอย่างเลยครบหมด เนื้อเกลี้ยงๆก็ขลัง หลวงพ่อฤาษีลิงดำกล่าว
    ***************************************************************************
    หมายเหตุ : วาระแรก Lot 1 ได้ถวายปัจจัยเป็นที่เรียบร้อยแล้วเป็นจำนวนเงิน 200,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559
    วาระที่สอง Lot 2 ได้ถวายปัจจัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ววันที่ 31 พฤษภาคม 2559 ยอดเงิน 300,0000 กว่าบาท มาร่วมด้วยช่วยกันครับ สร้างกำลังบารมี มหาบุญมหาวิหารทาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2016
  7. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    คาถาบูชาท้าวมหาราชทั้งสี่ใช้บทบูชา ของบทบวงสรวงก็ได้ ของวัดท่าซุง
    ปุริมะทิสัง ธะตะรัฏโฐ ทักขิเณนะ วิรุฬหะโก
    ปัจฉิเมนะ วิรูปักโข กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง
    จัตตาโร เต มะหาราชา สะมันตา จะตุโรทิสา
    ทัททัลละมานา อัฏฐังสุ ฯ
    ท่านท้าวมหาราชล้วนเป็นเทวดาทั้งนั้นการบนกับท่านท้าวมหาราชบอกกล่าวกับท่านอย่างไรให้ปฏิบัติตามที่ได้บอก
    กล่าวเมื่อสำเร็จด้วย อย่างเช่นการบนกรมหลวงชุมพรฯ หรือ ท้าววิรุฬหกท่านให้ปฏิบัติตามนี้ แก้บนก่อน ๘ โมงเช้า ๑๐ นาที
    (ระหว่าง ๐๗.๕๐ - ๐๘.๐๐ น.) ถ้าตอนเย็นก่อนบ่าย ๓ โมง ๑๐ นาที (ระหว่าง ๑๔.๕๐ - ๑๕.๐๐ น.) สำหรับเครื่องบวงสรวง
    คือข้าวปากหม้อ หมูต้ม ๑ ชิ้น ไก่ต้ม ๑ ตัว ขนมทองหยิบฝอยทองและขนมจีนน้ำพริก
    วิธีบน คือก่อนบนต้องตั้งเครื่องบวงสรวงหนึ่งครั้ง ...เมื่อได้ผลแล้วจะต้องตั้งเครื่องบวงสรวงอีกครั้งการเชิญท่านท้าวมหาราชทั้งสี่เวลามีการบวงสรวงใช้บทสวดบวงสรวงชุมนุม
    เทวดาที่ขึ้นต้นด้วยปุริมัญ จะ ทิสังราชา…แต่ความจริงพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านกล่าวว่า ไม่จำเป็นจะต้องใช้ภาษาบาลี ให้ใช้ภาษาไทยโดยนึกถึงท่านก่อนแล้วกล่าวเชิญท่านอย่าลืมบอกท่านด้วยนะจะให้ท่านช่วยสงเคราะห์อะไร ถ้า ไม่บอกท่านๆ
    ก็จะยืนดูเฉย ๆ พระเดชพระคุณหลวงพ่อเคยโดนมาแล้วเมื่อครั้งที่ไปนอนที่ใต้ต้นโพธิ์แห่งหนึ่ง ที่จังหวัดชัยนาท อยู่นอกเมือง ออกไปตกกลางคืนประมาณ ๔ทุ่มก็ มีผู้หญิงคนหนึ่ง นุ่งโจงกระเบน และผ้าคาดอกตะแบงมาน เข้ามาแล้วใช้นิ้ว ๒ นิ้วจี้ที่หน้า
    อกพระเดชพระ คุณหลวงพ่อ เทวดาของท่านท้าวมหาราช ซึ่งนั่งเฝ้าอยู่ ๔ องค์ นั่งอยู่ ๔ ทิศ มีองค์หนึ่งก็ได้เข้าไป รัดคอผู้หญิง คนนั้นดึงออกไปพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านมีเมตตาก็บอกเทวดาองค์นั้น "ปล่อยไปเถอะ" พอประมาณตีสอง พระเดชพระคุณ
    หลวงพ่อ รู้สึกตัวขึ้นมาที่หน้าอกมันเจ็บทั้งสองจุด เจ็บถึงหลัง ยายนั้น แกเอานิ้วมือมาจี้ ๒ นิ้วดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด ขยับไปขยับ มามันก็ไม่หลุดก็เลยบอกเทวดา "นี่ พี่ชายจับลาก มันออกไปที ตีมันออกไป" ท่านก็จับร่างกระชากไปและตีไป พระเดชพระคุณ หลวงพ่อก็ถามเทวดาว่า "มันจะเข้ามาทำร้ายฉัน ทำไมถึงไม่ไล่ไปก่อน" เทวดาเลยบอกว่า "ผมไล่ไปแล้ว ท่านบอกว่าให้ปล่อยไง" เพราะฉะนั้นจะต้องเข้าใจว่าเทวดาท่านทำตามคำสั่งจริง ๆ บอกให้ท่านทำอย่างไรท่านก็ทำอย่างนั้นถ้าไม่บอกท่าน ท่านก็
    ยืนเฉยดูเฉยไม่ทำอะไรเวลาเชิญท่านก็อย่าลืมนะ บอกท่านให้ถูกต้องนะท่านจะได้ ช่วยไม่ผิด ถ้าเชิญท่านมาแล้ว ไม่บอก
    ท่าน ๆ ก็ยืนดูเฉย ๆ
    >>>>>>>>>>>>คาถาบูชาเทวดา พระภูมิเจ้าที่ และอาราธนาพระโคตรเศรษฐี
    โดย แม่ชีประทุม โชติอนันต์
    สำนักส่งเสริมปฏิบัติธรรม ศิษย์พระราชพรหมยาน จังหวัดนครราชสีมา
    จุดธูปปักบูชากลางแจ้ง ๙ ดอก เวลากลางคืนทุกๆคืน นั่งหันหน้าสู่ทิศตะวันออก
    ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วสวดคาถาดังนี้
    " พุทธะบูชา ธรรมะบูชา สังฆะบูชา ปติปัตติ ปติปัตติ ปติปัตติ บูชายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ
    อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปะฐะวี คงคา พระภูมิเทวา ขะมามิหัง
    สัมปะติจฉามิ สัมปะติจฉามิ สัมปะติจฉามิ "
    จงตั้งใจให้เป็นสมาธิ สำรวมจิตให้มั่นเป็นหนึ่ง แล้วแผ่เมตตาไปในทิศทั้งปวง ไม่มีที่ประมาณดังนี้
    " บุญใดกุศลใด ที่ข้าพเจ้าได้สะสมบุญมาดีแล้ว ตั้งแต่อดีตชาติมาจนถึงปัจจุบันขณะนี้
    บุญทั้งหมดนี้ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลทั้งหมดนี้ ให้แด่ท่านทั้งหลายทั่วโลกธาตุ ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีที่ประมาณ
    มีท่านท้าวพระยายมราช ท้าวจตุโลกบางทั้งสี่ และท่านที่เป็นคู่เวร คู่กรรม ที่ติดตามมาก็ดี
    ตลอดจนเทพเจ้าเหล่าเทวดาที่ปกปักรักษาตัวข้าพเจ้าก็ดี ปกปักรักษาในราศีของข้าพเจ้าก็ดี
    ปกปักรักษาที่อาศัยบ้านเรือนของข้าพเจ้าก็ดี ที่วัดวาอารามก็ดี มีพระสยามเทวาธิราชเจ้าก็ดี
    ท่านปู่พระอินทร์ ท่านแม่ย่า ท่านพ่อ ท่านแม่ศรี ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ มีท่านท้าวธตรฐ ( ทะตะรด )
    ท่านท้าววิรุฬหก ท่านท้าววิรูปักข์ ท่านท้าวกุเวร ( ท้าวเวสสุวัณ ) จงช่วยสิ่งที่ร้าย ให้กลายเป็นดีในครั้งนี้ด้วยเถิด "
    สวดอย่างนี้แล้ว จะขออะไรก็ขอไป บอกท่านท้าวธตรฐ พระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ ในพระมหาวิหารโคตรรเศรษฐี
    บอกคุณพ่อ คุณแม่ ครูอาจารย์ เทวดาในราศี และหลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี ( พระราชพรหมยาน ) วัดท่าซุง
    ขอให้ท่านช่วยลูกด้วย
    บูชาเวลากลางคืนตอนสงบ สำรวมจิตคิดว่า ท่านเสด็จมาช่วยเราแล้ว แล้วท่านจะได้ผลสมความปรารถนาทุกประการ
    ท้าวมหาราชประจำทิศทั้ง ๔
    ท่านท้าวธตรฐ ทิศตะวันออก
    ท่านท้าววิรุฬหก ทิศใต้
    ท่านท้าววิรูปักษ์ ทิศตะวันตก
    ท่านท้าวกุเวร ( ท้าวเวสสุวัณ ) ทิศเหนือ
    หมายเหตุ
    - หากใช้พระคาถานี้อาราธนาพระโคตรเศรษฐี ให้ตั้งจิตกล่าวคำอาราธนา
    และใช้ควบคู่กับ พระคาถาเงินล้าน ๙ จบ ของหลวงพ่อฤาษี ( พระราชพรหมยาน ) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี
    หากท่องจนชิน จะมีความคล่องตัวในการดำรงชีพ และด้านโภคทรัพย์เป็นอันมาก
    ร่วมบูชาท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ สร้างศาลา ๑๐๐ ปี พระราชพรหยาน ร่วมกันที่ :
    https://www.facebook.com/thanate.eakoraphan
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    ร่วมบูญได้ทุกรายการครับ
     
  9. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    "บารมี" แปลว่ากำลังใจเต็ม
    คัดลอกข้อความบางส่วน มาจากหนังสือบารมี ๑๐ โดยพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)
    เมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัทเริ่มปฏิบัติ อาตมาก็คิดในใจว่าร่างกายไม่ดีแบบนี้เราจะทนมันอยู่ทำไม ไปเสียจากร่างกายดีกว่า ปล่อยให้มันนั่งอยู่ตรงนี้ พอสัญญาณบอกเวลาปรากฏเราจึงจะกลับมา ฉะนั้นจึงได้ไปเสียจากกาย ไปไหว้พระ จะไปแบบไหนอันนี้บรรดาท่านพุทธบริษัท อาตมาไม่บอก บอกไม่ได้ ไปอย่างไร ไปโดยวิธีไหน อยากจะรู้ก็ปฏิบัติกันเอาเอง แต่ความจริงมันก็ไม่ใช่ของดีของเด่นอะไรนัก การไปได้มาได้ถ้าใจเหลิงเกินไปก็ยังลงนรกได้ ไม่ใช่ของพิเศษ เมื่อออกไปแล้วก็พบองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์
    นี่ขวางกับชาวบ้านเขาแล้ว เขาบอกว่าพระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว จะพบกันได้ยังไง นั่นมันเรื่องของเขาบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย นี่มันเรื่องของอาตมา อาตมาพบกันได้ก็แล้วกัน เมื่อพบแล้วก็เข้าไปนมัสการองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว พอเงยหน้าขึ้นมาพระองค์ก็ทรงตรัสถามว่า "สัมพเกษี วันนี้เธอสอนบารมี ๑๐ ทัศใช่ไหม ...?"
    ก็กราบทูลพระองค์ว่า "ใช่พระพุทธเจ้าข้า" พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสถามว่า "สัมพเกษี บารมีแปลว่าอะไร...?"
    ตอนนี้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายขอได้โปรดทราบว่า ถ้าอาตมาสอนถูกพระองค์จะไม่ทรงตรัสแบบนั้น อาตมารู้ทันรู้เท่าเข้าใจทันทีว่า การสอนวันนี้ผิดพุทธพจน์บทพระบาลี
    นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัทการสอนนี้ไม่ใช่ว่ามันจะถูกเสมอไป มันก็ผิดได้เหมือนกัน เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตรมีพระพุทธฎีกาตรัสถามแบบนั้นอาตมาก็ทราบ จึงได้กราบทูลพระพุทธองค์ว่า "ข้าพระพุทธเจ้าไม่แน่ใจนักพระพุทธเจ้าข้า แต่ที่เรียนกันมา ครูสอนว่าบารมีแปลว่าเต็ม"
    พระองค์จึงทรงตรัสถามว่า "อะไรมันเต็ม และมันเต็มแบบไหน สมมุติว่าเธอจะปฏิบัติในทานบารมี ทำยังไงทานบารมีมันถึงจะเต็ม ถ้าหากว่าจะนำของมาให้เต็มโลก เธอจะไปขนมาจากไหน ถ้าเราจะไม่นำของมาให้ ทำยังไงทานบารมีมันจึงจะเต็ม...?"
    แบบนี้มันก็อยู่ด้วยกันทั้งนั้นแหละบรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้าคนอย่างอาตมา ถ้าหากว่าท่านที่เป็นนักปราชญ์ดีกว่าอาตมาก็ไม่เป็นไร ท่านไปได้ เพราะท่านมีความเข้าใจ ท่านมีความฉลาด อาตมาบอกแล้วนี่ว่าอาตมามีความรู้ไม่เท่าหางอึ่ง คือยาวไม่เท่าหางอึ่งหรือไม่แค่หางอึ่งเพราะความโง่มันมาก
    เมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคทรงตรัสแบบนั้นก็ทูลถามพระองค์ว่า "ข้าพระพุทธเจ้าไม่เข้าใจในบารมีพระพุทธเจ้าข้า"
    พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า "สัมพเกษี เธอเข้าใจ ไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่ว่าเธอดีแต่เฉพาะบริโภคเองเท่านั้น แต่การที่จะแบ่งปันให้บุคคลอื่นน่ะ เธอไม่มีความฉลาด การที่เธอตั้งกำลังใจในด้านบารมี ๑๐ ทัศ เป็น ๓๐ ทัศ ด้วยกัน ๓ ชั้น เธอทำได้ แต่ว่าวันนี้เธอสอนบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย เธอทำไม่ถูก เธอจงมีความเข้าใจเสียใหม่ว่า คำว่าบารมีนี้มันแปลว่าเต็ม แต่อะไรมันเต็มตถาคตจะบอกให้ว่า บารมีนี่ควรจะแปลว่ากำลังใจเต็ม "
    นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท จำไว้ให้ดีว่า คำว่าบารมีก็คือกำลังใจ ทำกำลังใจให้เต็ม ตอนนี้ซิชักจะฉลาดขึ้นมาทันที มานึกในใจว่าเรานี่มันแสนจะโง่เสียมาก
    กำลังใจเต็มตอนไหนบรรดาท่านพุทธบริษัท ท่านก็ทรงให้ทวนเรื่องบารมี ๑๐ ทัศ ว่ามีอะไรบ้าง อาตมาก็ถวายคำตอบแก่พระองค์ว่า
    ๑. ทานบารมี
    ๒. ศีลบารมี
    ๓. เนกขัมมบารมี
    ๔. ปัญญาบารมี
    ๕. วิริยบารมี
    ๖. ขันติบารมี
    ๗. สัจจบารมี
    ๘. อธิษฐานบารมี
    ๙. เมตตาบารมี
    ๑๐. อุเบกขาบารมี
    องค์สมเด็จพระชินสีห์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า สัมพเกษี ถูกแล้ว บารมีทั้งหมดนี้ให้ใช้กำลังใจ สร้างกำลังใจให้มันทรงอยู่ในใจทั้งหมด ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ไม่มีอะไรบกพร่อง คือ
    ๑. จิตของเราพร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ
    ๒. จิตพร้อมในการทรงศีล นี่ซิบรรดาพุทธบริษัท พร้อมในการทรงศีลเป็นปกติ ไม่ใช่ปล่อยให้ศีลมันหล่นไป
    ๓. จิตพร้อมในการทรงเนกขัมมะเป็นปกติ เนกขัมมะก็แปลว่าการถือบวช บวชผมยาว บวชผมสั้น บวชโกนหัว ไม่โกนหัว ได้ทั้งนั้น
    ๔. จิตพร้อมที่จะใช้ปัญญาเป็นเครื่องประหัตประหารอุปาทานให้พินาศไป
    ๕. วิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ
    ๖. ขันติ มีทั้งอดทั้งทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์
    ๗. สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลาว่าเราจะจริงทุกอย่าง ไม่มีอะไรในคำว่าไม่จริงสำหรับใจเรา ในด้านของการทำความดี
    ๘. อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะ
    ๙. เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดีไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตนเสมอด้วยบุคคลอื่น
    ๑๐. อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ ในเมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว อย่างที่เธอเป็นวันนี้ อุเบกขาบารมีตัวนี้ พระองค์ทรงตรัสว่า ตรงกับภาษาไทยที่ใช้กันเป็นปกติว่า ช่างมัน ขันติบารมีนี่ก็เหมือนกันใช้คำว่าช่างมัน ตรงตัวดี
    นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายโดยถ้วนหน้า วันนี้ยังไม่สอนอะไรบรรดาท่านพุทธบริษัท เรามาคุยกันในคำว่า บารมีทั้งหลาย ได้ทราบชัดว่า บารมีที่องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์ให้เราสร้างให้มันเต็มนั้น ก็คือสร้างกำลังใจปลูกฝังกำลังใจ ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์สมบูรณ์ ไม่ ใช่ว่าเราจะมานั่งคิด เราจะมานอนคิด เราจะมาทรงจิตว่า เอ๊...บารมีของเรามันไม่มีนี่ ชาติก่อนบารมีของเรามันไม่พอ บารมีของเรายังไม่เต็ม เราจะเป็นพระโสดาบัน สกิทาคา อนาคา อรหันต์ ยังไงได้
    ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย มีความเข้าใจตามนี้ พอยังจะรู้รึยังว่าเราสามารถจะสร้างบารมีได้ด้วยอาศัยกำลังใจ ความดีของบรรดาท่านพุทธบริษัทมี กำลังใจอย่างเดียวเท่านั้นที่เราจะทำให้มันดีหรือไม่ดี อันนี้ก็ตรงกับพระบาลีที่องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ในเรื่อง พระจักขุบาล ว่า
    มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฎฐา มโนมยา
    ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จด้วยใจ นี่ความจริงเรื่องนี้ก็เรียนกันมาแล้วบรรดาท่านพุทธบริษัท แต่เวลาปฏิบัติจริง ๆ มันทำไมถึงลืมก็ไม่ทราบ
    เอาละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย หวังว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่านคงจะเข้าใจคำว่า บารมี แล้วอย่าลืม บารมีแปลว่าเต็ม แต่ส่วนที่เราจะทำให้เต็มนั้นก็คือกำลังใจ ให้กำลังใจมันพร้อม พร้อมที่จะทรงความดีในด้านบารมีไว้ ถ้ากำลังใจของเราพร้อมทรงบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ครบถ้วนเพียงใด บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ความเป็นพระอริยเจ้าเป็นของง่าย
    ที่นำบารมีทั้ง ๑๐ ประการมากล่าวในตอนนี้ก็เพราะว่า ในตอนต้นพูดเรื่องพระโสดาบันเข้าไว้ เห็นว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายอาจจะคิดว่า แหม...มันยากเกินไป ถ้ากำลังใจในการสร้างตนเป็นพระโสดาบันมันยังครบถ้วนไม่ได้ ก็หันมาจัดการกับบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ให้มันครบถ้วนบริบูรณ์
    ทาน การให้ เป็นการตัดความโลภ
    ศีล เราก็ตัดความโกรธ
    เนกขัมมะ ตัดอารมณ์ของกามคุณ
    ปัญญา ตัดความโง่
    วิริยะ ตัดความขี้เกียจ
    ขันติ ตัดความไม่รู้จักการอดทน
    สัจจะ ตัดความไม่จริงใจ มีอารมณ์ใจกลับกลอก
    อธิษฐาน ทรงกำลังไว้ให้สมบูรณ์บริบูรณ์
    เมตตา สร้างความเยือกเย็นของใจ
    อุเบกขา วางเฉยเข้าไว้ในเรื่องของกายเราไม่ปรารภ
    เท่านี้แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้ากำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทสมบูรณ์เพียงใด คำว่า พระโสดาบัน นั้นบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จะรู้สึกว่าง่ายเกินไปสำหรับบรรดาท่านพุทธบริษัท
    ทำไมจึงว่าอย่างนั้น ก็เพราะว่าคนที่มีบารมีเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ มีกำลังใจเต็มทุกอย่างใน ๑๐ ประการนี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เรียกว่าพระโสดาบัน แล้วท่านเรียกว่าอะไร ท่านเรียกว่า พระขีณาสพ แปลว่า ผู้มีอาสวะอันสิ้นไปแล้ว หรือเรียกว่า พระอรหัตผล เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนาอันดับสูงสุดเข้าถึงซึ่ง พระนิพพาน ได้
    เอาละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทุกท่าน สวัสดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    ร่วมบูญได้ทุกรายการครับ
     
  11. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    คาถาบูชาท้าวมหาราชทั้งสี่ใช้บทบูชา ของบทบวงสรวงก็ได้ ของวัดท่าซุง
    ปุริมะทิสัง ธะตะรัฏโฐ ทักขิเณนะ วิรุฬหะโก
    ปัจฉิเมนะ วิรูปักโข กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง
    จัตตาโร เต มะหาราชา สะมันตา จะตุโรทิสา
    ทัททัลละมานา อัฏฐังสุ ฯ
    ท่านท้าวมหาราชล้วนเป็นเทวดาทั้งนั้นการบนกับท่านท้าวมหาราชบอกกล่าวกับท่านอย่างไรให้ปฏิบัติตามที่ได้บอก
    กล่าวเมื่อสำเร็จด้วย อย่างเช่นการบนกรมหลวงชุมพรฯ หรือ ท้าววิรุฬหกท่านให้ปฏิบัติตามนี้ แก้บนก่อน ๘ โมงเช้า ๑๐ นาที
    (ระหว่าง ๐๗.๕๐ - ๐๘.๐๐ น.) ถ้าตอนเย็นก่อนบ่าย ๓ โมง ๑๐ นาที (ระหว่าง ๑๔.๕๐ - ๑๕.๐๐ น.) สำหรับเครื่องบวงสรวง
    คือข้าวปากหม้อ หมูต้ม ๑ ชิ้น ไก่ต้ม ๑ ตัว ขนมทองหยิบฝอยทองและขนมจีนน้ำพริก
    วิธีบน คือก่อนบนต้องตั้งเครื่องบวงสรวงหนึ่งครั้ง ...เมื่อได้ผลแล้วจะต้องตั้งเครื่องบวงสรวงอีกครั้งการเชิญท่านท้าวมหาราชทั้งสี่เวลามีการบวงสรวงใช้บทสวดบวงสรวงชุมนุม
    เทวดาที่ขึ้นต้นด้วยปุริมัญ จะ ทิสังราชา…แต่ความจริงพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านกล่าวว่า ไม่จำเป็นจะต้องใช้ภาษาบาลี ให้ใช้ภาษาไทยโดยนึกถึงท่านก่อนแล้วกล่าวเชิญท่านอย่าลืมบอกท่านด้วยนะจะให้ท่านช่วยสงเคราะห์อะไร ถ้า ไม่บอกท่านๆ
    ก็จะยืนดูเฉย ๆ พระเดชพระคุณหลวงพ่อเคยโดนมาแล้วเมื่อครั้งที่ไปนอนที่ใต้ต้นโพธิ์แห่งหนึ่ง ที่จังหวัดชัยนาท อยู่นอกเมือง ออกไปตกกลางคืนประมาณ ๔ทุ่มก็ มีผู้หญิงคนหนึ่ง นุ่งโจงกระเบน และผ้าคาดอกตะแบงมาน เข้ามาแล้วใช้นิ้ว ๒ นิ้วจี้ที่หน้า
    อกพระเดชพระ คุณหลวงพ่อ เทวดาของท่านท้าวมหาราช ซึ่งนั่งเฝ้าอยู่ ๔ องค์ นั่งอยู่ ๔ ทิศ มีองค์หนึ่งก็ได้เข้าไป รัดคอผู้หญิง คนนั้นดึงออกไปพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านมีเมตตาก็บอกเทวดาองค์นั้น "ปล่อยไปเถอะ" พอประมาณตีสอง พระเดชพระคุณ
    หลวงพ่อ รู้สึกตัวขึ้นมาที่หน้าอกมันเจ็บทั้งสองจุด เจ็บถึงหลัง ยายนั้น แกเอานิ้วมือมาจี้ ๒ นิ้วดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด ขยับไปขยับ มามันก็ไม่หลุดก็เลยบอกเทวดา "นี่ พี่ชายจับลาก มันออกไปที ตีมันออกไป" ท่านก็จับร่างกระชากไปและตีไป พระเดชพระคุณ หลวงพ่อก็ถามเทวดาว่า "มันจะเข้ามาทำร้ายฉัน ทำไมถึงไม่ไล่ไปก่อน" เทวดาเลยบอกว่า "ผมไล่ไปแล้ว ท่านบอกว่าให้ปล่อยไง" เพราะฉะนั้นจะต้องเข้าใจว่าเทวดาท่านทำตามคำสั่งจริง ๆ บอกให้ท่านทำอย่างไรท่านก็ทำอย่างนั้นถ้าไม่บอกท่าน ท่านก็
    ยืนเฉยดูเฉยไม่ทำอะไรเวลาเชิญท่านก็อย่าลืมนะ บอกท่านให้ถูกต้องนะท่านจะได้ ช่วยไม่ผิด ถ้าเชิญท่านมาแล้ว ไม่บอก
    ท่าน ๆ ก็ยืนดูเฉย ๆ
    >>>>>>>>>>>>คาถาบูชาเทวดา พระภูมิเจ้าที่ และอาราธนาพระโคตรเศรษฐี
    โดย แม่ชีประทุม โชติอนันต์
    สำนักส่งเสริมปฏิบัติธรรม ศิษย์พระราชพรหมยาน จังหวัดนครราชสีมา
    จุดธูปปักบูชากลางแจ้ง ๙ ดอก เวลากลางคืนทุกๆคืน นั่งหันหน้าสู่ทิศตะวันออก
    ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วสวดคาถาดังนี้
    " พุทธะบูชา ธรรมะบูชา สังฆะบูชา ปติปัตติ ปติปัตติ ปติปัตติ บูชายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ
    อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปะฐะวี คงคา พระภูมิเทวา ขะมามิหัง
    สัมปะติจฉามิ สัมปะติจฉามิ สัมปะติจฉามิ "
    จงตั้งใจให้เป็นสมาธิ สำรวมจิตให้มั่นเป็นหนึ่ง แล้วแผ่เมตตาไปในทิศทั้งปวง ไม่มีที่ประมาณดังนี้
    " บุญใดกุศลใด ที่ข้าพเจ้าได้สะสมบุญมาดีแล้ว ตั้งแต่อดีตชาติมาจนถึงปัจจุบันขณะนี้
    บุญทั้งหมดนี้ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลทั้งหมดนี้ ให้แด่ท่านทั้งหลายทั่วโลกธาตุ ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีที่ประมาณ
    มีท่านท้าวพระยายมราช ท้าวจตุโลกบางทั้งสี่ และท่านที่เป็นคู่เวร คู่กรรม ที่ติดตามมาก็ดี
    ตลอดจนเทพเจ้าเหล่าเทวดาที่ปกปักรักษาตัวข้าพเจ้าก็ดี ปกปักรักษาในราศีของข้าพเจ้าก็ดี
    ปกปักรักษาที่อาศัยบ้านเรือนของข้าพเจ้าก็ดี ที่วัดวาอารามก็ดี มีพระสยามเทวาธิราชเจ้าก็ดี
    ท่านปู่พระอินทร์ ท่านแม่ย่า ท่านพ่อ ท่านแม่ศรี ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ มีท่านท้าวธตรฐ ( ทะตะรด )
    ท่านท้าววิรุฬหก ท่านท้าววิรูปักข์ ท่านท้าวกุเวร ( ท้าวเวสสุวัณ ) จงช่วยสิ่งที่ร้าย ให้กลายเป็นดีในครั้งนี้ด้วยเถิด "
    สวดอย่างนี้แล้ว จะขออะไรก็ขอไป บอกท่านท้าวธตรฐ พระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ ในพระมหาวิหารโคตรรเศรษฐี
    บอกคุณพ่อ คุณแม่ ครูอาจารย์ เทวดาในราศี และหลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี ( พระราชพรหมยาน ) วัดท่าซุง
    ขอให้ท่านช่วยลูกด้วย
    บูชาเวลากลางคืนตอนสงบ สำรวมจิตคิดว่า ท่านเสด็จมาช่วยเราแล้ว แล้วท่านจะได้ผลสมความปรารถนาทุกประการ
    ท้าวมหาราชประจำทิศทั้ง ๔
    ท่านท้าวธตรฐ ทิศตะวันออก
    ท่านท้าววิรุฬหก ทิศใต้
    ท่านท้าววิรูปักษ์ ทิศตะวันตก
    ท่านท้าวกุเวร ( ท้าวเวสสุวัณ ) ทิศเหนือ
    หมายเหตุ
    - หากใช้พระคาถานี้อาราธนาพระโคตรเศรษฐี ให้ตั้งจิตกล่าวคำอาราธนา
    และใช้ควบคู่กับ พระคาถาเงินล้าน ๙ จบ ของหลวงพ่อฤาษี ( พระราชพรหมยาน ) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี
    หากท่องจนชิน จะมีความคล่องตัวในการดำรงชีพ และด้านโภคทรัพย์เป็นอันมาก
    ร่วมบูชาท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ สร้างศาลา ๑๐๐ ปี พระราชพรหยาน ร่วมกันที่ :
    https://www.facebook.com/thanate.eakoraphan
     
  12. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    "...ความดีในพระพุทธศาสนาขึ้นอยู่กับกำลังใจอย่างเดียว บารมี ก็คือ กำลังใจ อย่างไงล่ะ
    ...บรรดาท่านพุทธบริษัท อย่าลืมว่า ความดีในพระพุทธศาสนานี้ขึ้นอยู่กับกำลังใจเพียงอย่างเดียว เพราะท่านทั้งหลายยังคงจำได้ว่า คนเราถ้าตายไปแล้ว ที่เขาบอกว่าไปตกนรก ไปขึ้นสวรรค์ ไปพรหมโลก ไปนิพพาน เขาไม่ได้ไปกันอย่างอื่น..เขาเอาใจไปกัน เขาไปกันด้วยกำลังใจ..." หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    ทุกรายการยังร่วมบุญกันได้ครับ ร่วมสร้างศาลา ๑๐๐ ปี หลวงพ่อร่วมกัน
     
  14. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    ปัจฉิมโอวาทหลวงปู่ปาน...ได้กล่าวกับ
    หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    เจ้าจงช่วยตัวให้เข้าถึงจุดสำคัญคือสูงสุดของ
    พระพุทธศาสนา แล้วก็พยายามโอบอุ้มบรรดา
    บริษัทของเจ้าก็ดี ของพ่อก็ดี ของโยมเจ้าก็ดี
    คำว่าของโยมเจ้าเป็นของใครบรรดาท่านพุทธ
    บริษัท พูดไปก็เป็นของลำบาก เขายังมีอยู่อีกมาก
    เจ้าลัดทางในคราวนี้ คนที่หวังจะติดตามไปจบ
    จุดพุทธภูมิจะมีความลำบาก จงพยายามกวาด
    ต้อนพวกนี้ไปให้เข้าจุดดาวดึงส์ให้หมดเป็น
    อย่างน้อย แล้วต่อไปข้างหน้าเจ้าจะพบมาก
    ขณะที่พบเวลานี้ยังไม่ได้หนึ่งในร้อยของความ
    จริงที่จะพึงมีข้างหน้า เขาจะมารวมตัวกัน
    การสร้างวิหารทานลูกรัก เป็นปัจจัยให้บรรดา
    พวกเขาเข้าถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นอย่างน้อย
    และเมื่อเจ้าสร้างศรัทธาแบบนั้นแล้ว จงแนะนำ
    ในด้านสมถะวิปัสสนาตามความสามารถที่เจ้าได้
    ขอเจ้าจงคิดว่าเขาทั้งหลายเหล่านั้นเป็นผู้มี
    บุญคุณ เจ้าจงเป็นคนรู้คุณคน
    จงเป็นคนมีความกตัญญูรู้ความดีของบุคคลอื่น
    อย่าทำลายความดีของบุคคลอื่น โดยไม่สนอง
    ความดีเขาแล้วหนีเขาไป ทำอย่างนั้นไม่ได้นะลูกรัก
    (บันทึกโดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง)
     
  15. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    ประกาศ ๆ ตอนนี้เหรียญเศรษฐี หลวงพ่อยิ้มรับทรัพย์ วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ ดังมาก เนื่องจากมีคนไปทำเลียนแบบออกมาเหมือนมากครับ มีท่านหนึ่งนำมาลงให้บูชาในราคา 200 บาท ค่าส่ง ems 50 บาท ต้องระมัดระวังกันนะครับ (สองรูปแรกเป็นเหรียญเลียนแบบ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    พุทธานุสสติเป็นวิปัสสนาญาณ
    วันนี้ก็จะขอพูดเรื่อง พุทธานุสสติ ต่อ เพราะว่า พุทธานุสสติตามที่อธิบายมาแล้ว เราจัดเป็นระดับ 4 ระดับด้วยกัน คือ
    อันดับแรก การพิจารณาตามแบบ คือ พิจารณาความดีของพระพุทธเจ้า โดยใช้คำว่า อิติปิ โส ภควา อรหัง สัมมาสัมพุทโธ เป็นต้น ใช้จิตใคร่ครวญในด้านจริยาของพระองค์ สร้างความเลื่อมใสให้เกิด สร้างความผูกใจให้เกิดในพระพุทธเจ้า อย่างนี้ผลจะพึงมีได้เพียงแค่อุปจารสมาธิ
    ถ้าเราจะทำพุทธานุสสติกรรมฐานให้เป็นฌานสมาบัติ ท่านสอนให้จับภาพพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งที่เราพอใจเวลาภาวนาไปว่าพุทโธ หรือ อรหัง ก็ตาม เอาจิตนึกถึงภาพนั้นเป็นอารมณ์ อย่างนี้ถือว่าเอาภาพพระพุทธรูปเป็นกสิณ ถ้าปฏิบัติแบบนี้ก็สามารถทรงเข้าถึงฌานที่ 4 ได้ จัดว่าเป็นรูปฌาน
    ถ้าจะทำพุทธานุสสติให้เป็นอรูปฌาน เป็นสมาบัติ 8 ก็ให้จับรูปภาพพระพุทธรูปนั้นทรงอารมณ์จิต ให้เข้าถึงฌาน 4 เมื่อทรงจิตสบายดีแล้วก็เพิกภาพกสิณนั้นทิ้งไป คือ ถอนภาพออกจากใจ พิจารณาอากาศวิญญาณ ความไม่มีอะไรทั้งหมด แล้วสัญญาหรือไม่มีสัญญา ที่เรียกว่า อากาสานัญจายตนยะ วิญญาณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ คือ ไม่พิจารณารูปเป็นสำคัญ ไม่ต้องการรูป ต้องการแต่นามฝ่ายเดียว
    เพราะท่านที่ปฏิบัติแบบนี้ เพราะมีความรังเกียจในรูป ถือว่ารูปเป็นปัจจัยนำมาซึ่งความทุกข์ เกิดไปชาติหน้าไม่ต้องการรูปอีก และเป็นสมถภาวนาจัดเป็น อรูปฌาน
    ในอันดับนี้ เราต้องการจะใช้ พุทธานุสสติกรรมฐาน ให้เป็นวิปัสสนาญาณ ท่านก็ให้ตั้งอารมณ์จิตของเรายึดภาพพระพุทธรูปเป็นอารมณ์ ทำภาพให้เห็นชัดด้วยจิตเป็นสมาธิถึงฌาน 4 แล้วก็สามารถจะบังคับรูปนั้นให้เล็กก็ได้ ให้โตก็ได้ แล้วบังคับให้หายก็ได้ สลับกันไปสลับกันมาอย่างนี้ แล้วก็จับภาพนั้นเป็นอารมณ์ พิจารณาว่าพระรูปพระโมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านี้
    ความจริง พระพุทธเจ้าทรงเป็นอัจฉริยมนุษย์ เป็นผู้ประเสริฐสุด มนุษย์ผู้มีความอัศจรรย์ ไม่มีบุคคลใดจะเสมอเหมือน
    แต่ว่าพระรูปพระโฉมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในสมัยที่มีชีวิตอยู่ ก็มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น มีความเปลี่ยนแปลงไปในท่ามกลาง มีการสลายตัวไปในที่สุด ถึงแม้ว่าพระองค์จะเป็นผู้ประเสริฐกว่ามนุษย์ เทวดา หรือ พรหมก็ตาม ก็ไม่สามารถจะทรงขันธ์ 5 ให้ยืนยงคงอยู่ได้ตลอดกาลตลอดสมัย เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว ก็มีความเสื่อมไปในท่ามกลาง มีการสลายตัวไปในที่สุด
    ทีนี้มานั่งมองตัวของเราเอง พิจารณาตัวของเราเองว่า พระพุทธเจ้านะดีกว่าเราหลายล้านเท่า ความดีของเราหยดหนึ่งในหลายล้านเท่าของท่านก็ไม่ได้
    ในเมื่อขันธ์ 5 ขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา ก็ไม่สามารถจะทรงอยู่ได้ เราซึ่งมีความดีไม่ถึง ขันธ์ 5 มันจะทรงอยู่ได้ยังไง มันก็ต้องมีความเกิดขึ้น มีการสลายตัวไปในที่สุดเหมือนกัน ขณะที่ทรงตัวอยู่ก็เต็มไปด้วยอำนาจของความทุกข์
    นี่ มองเห็นขันธ์ 5 ของพระพุทธเจ้าว่า ไม่มีความจีรังยั่งยืน แล้วก็เข้ามาเปรียบเทียบกับขันธ์ 5 ของเรา
    ที่พระพุทธเจ้ากล่าวว่า ขันธ์ 5 นี่ มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในขันธ์ 5 ขันธ์ 5 ไม่มีในเรา
    ขันธ์ 5 คือ ร่างกายประกอบไปด้วยธาตุ 4 คือ ธาตุน้ำ ธาตุดิน ธาตุลม ธาตุไฟ มันทรงกายอยู่ได้ชั่วคราวแล้วมันก็สลายตัวไปในที่สุด
    เมื่อการสลายตัวของมันปรากฏขึ้น ถ้ากิเลสของเรายังไม่หมดเพียงใด มันก็ต้องไปเกิดแสวงหาความทุกข์อีก เมื่อตายใหม่กิเลสยังไม่หมด มันก็ต้องไปเกิดใหม่ ให้มีความทุกข์เกิดขึ้นมาอีกหาที่สุดมิได้ จะเทียบกันได้กับพระรูปพระโฉมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เรายกขึ้นเป็น กสิณ
    ถ้าเราต้องการให้พระรูปพระโฉมปรากฏ ก็ปรากฏขึ้น เราต้องการให้หายไป สลายตัวไป การสลายตัวไปไม่ใช่จะสลายไปหมด เราต้องการให้ภาพนี้ปรากฏ ก็กลับมาปรากฏตามเดิม สลับกันไปสลับกันมาอย่างนี้ การที่ภาพหายไปถือว่า เป็นสภาวะของอนัตตา เราบังคับไม่ได้ แล้วภาพที่ทรงอยู่ก็ถือว่า อัตตา ทรงอยู่ แต่เป็นอัตตาชั่วคราว ต่อไปก็เป็น อนัตตา คือ สลายตัว
    นี่เราก็มานั่งพิจารณาร่างกายของเรา ที่พระพุทธเจ้ากล่าวว่า
    ชาติปิทุกขา ความเกิดเป็นทุกข์
    ชราปิทุกขา ความแก่เป็นทุกข์
    มรณัมปิทุกขัง ความตายเป็นทุกข์
    โสกปริเทวทุกขโทมนัส ความพลัดพรากจากของรักของชอบใจเป็นทุกข์ เป็นต้น
    นี่เรียกว่าทุกอย่าง เราเกิดมามันเต็มไปด้วยความทุกข์ หาความสุขไม่ได้ ในเมื่อร่างกายของเราไม่มีความสุข ร่างกายของพระพุทธเจ้าเองท่านก็ไม่มีความสุข เมื่อขันธ์ 5 มันเป็นปัจจัยนำมาซึ่งความทุกข์
    ดูตัวอย่างพระรูปพระโฉมของพระพุทธเจ้าไม่สามารถจะทรงตัวได้ฉันใด ร่างกายของเราที่เต็มไปด้วยความทุกข์ มันก็ไม่สามารถจะทรงตัวไว้ได้ฉันนั้น มีความเกิดขึ้นแล้ว มีความเสื่อมไป แล้วมีการสลายตัวไปในที่สุด
    ในขณะที่ทรงร่างกายอยู่ก็เต็มไปด้วยความทุกข์ ร่างกายเต็มไปด้วยความสกปรกโสมม มีเหงื่อ มีไคล มีอุจจาระ ปัสสาวะ น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง เต็มไปทั้งร่างกาย ไม่มีอะไรเป็นของน่ารัก ไม่มีอะไรเป็นของน่าชม มีแต่ของน่าเกลียด ฉะนั้น ถ้าตายแล้วคราวนี้ ถ้าเราต้องเกิดใหม่เราก็ต้องไปแบกทุกข์ใหม่
    การที่เราจะไม่แบกทุกข์ต่อไป จะทำอย่างไร
    องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนให้เราละสังโยชน์ 10 ประการ อาศัย สักกายทิฏฐิ ตัวเดิมเป็นตัวปฏิบัติ คือ เป็นตัวตัด เอามาพิจารณาร่างกายว่า อัตภาพร่างกายนี้มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา มันเกิดขึ้นแล้วมันต้องตายแน่ ถ้าการเกิด เกิดแล้วตายมีอยู่ตราบใด เราก็ยังไม่พ้นทุกข์ตราบนั้น
    ฉะนั้น ขันธ์ 5 ที่เต็มไปด้วยความสกปรก ขันธ์ 5 ที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนนี้เราไม่ต้องการ สิ่งที่เราต้องการ นั้นก็คือ พระนิพพาน อย่างเดียว
    การที่เราจะต้องการพระนิพพานได้นั้น เราจะต้องปฏิบัติอย่างไรต่อไป
    ในเมื่อเราเห็นว่า ขันธ์ 5 มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา พระพุทธเจ้าทรงกล่าวว่า ชาติปิทุกขา เกิดเป็นทุกข์ เราเชื่อท่าน ชราปิทุกขา ความแก่เป็นทุกข์ เราเชื่อท่าน มรณัมปิทุกขัง เมื่อความตายเข้ามาถึงเป็นทุกข์ เราเชื่อพระองค์พร้อมไปด้วยของจริง
    เพราะความตายร่างกายต้องถูกบีบบังคับอย่างหนัก มีทุกขเวทนาอย่างหนัก มันจึงจะตายได้ คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นความจริง นี่เราไม่สงสัยในคำสอนของพระพุทธเจ้า
    แล้วต่อไปเราก็ตั้งใจเกาะศีลให้บริสุทธิ์ ศีลถ้าเราเกาะได้แล้วก็ชื่อว่าเป็นการตัดอบายภูมิทั้ง 4 ประการ มี นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน เป็นต้น
    ฆราวาสตั้งใจทรงศีล 5 ให้บริสุทธิ์ สำหรับสามเณรทรงศีล 10 ให้บริสุทธิ์ สำหรับพระทรงศีล 227 ให้บริสุทธิ์ แล้วก็นั่งพิจารณาร่างกาย มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา มันแก่ลงทุกวัน มันพังลงทุกวัน ไม่ช้ามันก็สลายตัว ตัดความเมาในร่างกายเสีย อย่างนี้ก็ถือว่าเข้าถึงความดี เป็นอันดับแรก การตัดสังโยชน์ทั้ง 3 ประการได้จัดว่าเป็นพระโสดาบัน นี่เป็นทุนแล้ว
    ต่อไปก็ขยับจิตให้สูงขึ้นไปกว่านั้น เพราะมันยังต้องเกิดอยู่อีกนี่ พระโสดาบันน่ะ เราก็มาพิจารณาร่างกายว่า ร่างกายนี้เป็นชิ้น เป็นท่อน มันไม่ได้เป็นแท่งทึบ แท่งอันเดียวกัน ข้างในเป็นโพรงเต็มไปด้วยอวัยวะต่าง ๆ น้อม กายคตานุสสติกรรมฐาน เข้าไปหา อสุภกรรมฐาน
    เห็นว่า อัตภาพร่างกายนี้เต็มไปด้วยความสกปรกโสโครก มีอุจจาระ ปัสสาวะ น้ำเลือด น้ำเหลือง น้ำหนอง อยู่ข้างใน เป็นต้น ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นทั้งร่างกายของเรา มีสภาพเหมือนกับซากศพที่เคลื่อนที่ได้ หรือ เหมือนกับส้วมที่เคลื่อนที่ได้ มันเต็มไปด้วยความสกปรก ไม่มีอะไรจะเป็นที่น่ารัก
    เมื่อพิจารณาในด้านอสุภกรรมฐาน แล้วก็จับกายคตานุสสติขึ้นมาพิจารณาต่อว่า ร่างกายของเราก็ดี ร่างกายของบุคคลอื่นก็ดี ก็มีสภาพเหมือนกัน มันมีแต่ความสกปรกเหมือนกัน เราจะไปนั่งยึดถือว่า ร่างกายนี้เป็นเรา เป็นของเราเพื่อประโยชน์อะไร เพราะว่านอกจากสกปรกแล้ว ยังเต็มไปด้วยความทุกข์ ความแก่เข้ามาท่วมทับ แล้วก็มีความตายไปในที่สุด
    พิจารณาแบบนี้ ค่อย ๆ พิจารณาไป ปัญญามันจะเกิด เกิดนิพพิทาญาณ คือ ความเบื่อหน่าย เห็นว่าขันธ์ 5 คือ ร่างกายไม่เป็นแก่นสาร ไม่เป็นสาระ ไม่เป็นที่พึ่ง ปรารถนาสำหรับเรา
    เมื่อนิพพิทาญาณ ความเบื่อหน่าย บังเกิดขึ้น ก็พิจารณาเรื่อยไป ให้จิตเข้าถึงสังขารุเปกขาญาณ
    ความหนาว ความร้อน ปรากฏขึ้น การกระทบกระทั่งจากวาจาที่ชอบใจบ้าง ไม่ชอบใจบ้างปรากฏขึ้น อาการของจิตมีความรู้สึกว่า นี่มันเป็นของธรรมดา ไม่มีอะไรทุกข์
    ความป่วยไข้ไม่สบายบังเกิดขึ้น ก็ถือว่านี่มันเป็นหน้าที่ มันเป็นภาระของขันธ์ 5 คือ ร่างกายมันต้องป่วย
    ความทรุดโทรมเกิดขึ้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมันมีความเกิดขึ้นแล้ว ก็มีความแก่ไปในที่สุด
    อาการกระทบกระทั่งกับคำนินทาว่าร้ายต่าง ๆ ก็คิดว่า คนเราที่เกิดมาในโลกนี้ มันไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน หาความทรงตัวอะไรไม่ได้ แม้แต่วาจาเป็นเครื่องกล่าวกระทบกระทั่งนี้ จัดว่าเป็นโลกธรรม เป็นธรรมดาของคนเกิดมาในโลก ทำจิตให้เห็นว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องของธรรมดา
    เมื่อถูกด่าใจก็สบาย อาการป่วยไข้ไม่สบายเกิดขึ้นก็สบาย ความกระทบกระทั่งอารมณ์เป็นที่ไม่ชอบใจเกิดขึ้นใจก็สบาย ใครเขาชมก็ไม่หวั่นไหวไปตามคำชม ตัดอารมณ์แห่งความโกรธเสียได้ ตัดอารมณ์ความทุกข์ คือ ความเกาะขันธ์ 5 เสียได้ อย่างนี้ชื่อว่าเป็นพระอนาคามี
    เพราะการพิจารณาร่างกายในด้านอสุภกรรมฐาน เป็นการตัดความกำหนัดยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัส จนกระทั่งความรู้สึกในเพศไม่มี การยอมรับนับถือกฎธรรมดาของโลก
    ใครเขาด่าก็ถือว่าเป็นธรรมดา เขาว่าก็เป็นธรรมดา เขาเสียดสีก็เป็นเรื่องธรรมดา ใจไม่มีความหวั่นไหว ใจไม่มีการสะทกสะท้าน คือ ไม่มีความหนักใจ ไม่มีการเจ็บใจ ถือว่าธรรมดาของคนเกิดมาในโลกเป็นอย่างนี้ อย่างนี้ชื่อว่า ตัดโทสะลงไปเสียได้ มีอารมณ์ยอมรับนับถือกฎของธรรมดา
    เมื่อเราตัดโทสะได้ ตัดกามราคะได้ ทั้ง 2 ประการ ท่านเรียกว่า พระอนาคามี
    ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะเรายึดเอาพุทธานุสสติเป็นอารมณ์ เป็นที่ตั้ง คือ กสิณ แล้วพิจารณาร่างกายของพระพุทธเจ้า ร่างกายของเรา ร่างกายของชาวบ้าน เอามาเปรียบเทียบกันว่า ไม่มีการทรงตัว มีการเสื่อมไป มีการสลายไปในที่สุด จะมานั่งรักความสวยสดงดงามอันเต็มไปด้วยความหลอกลวงเพื่อประโยชน์อะไร จะทำจิตหวั่นไหวไปในโลกธรรม ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะร่างกายมันทรงตัวไม่นาน แล้วมันก็พัง
    ในเมื่อเรายับยั้งอารมณ์จิตยอมรับนับถือกฎของธรรมดาได้ทุกอย่าง ก็ชื่อว่าเป็นพระอนาคามี เกือบจะเป็นอรหันต์อยู่แล้ว อย่างนี้ตายแล้วไม่ต้องเกิด ไม่ต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทวดา หรือ พรหม แล้วก็นิพพานบนนั้น
    ต่อไปเราต้องการทำจิตใจให้ถึงความเป็นอรหันต์ ก็มาพิจารณาความดีของพระพุทะเจ้า พระพุทธเจ้าทรงศึกษาในสำนักของอาจารย์ทั้งสอง คือ อาฬารดาบส อุทกดาบสรามบุตร เป็นต้น ได้ฌาน 4 คือ รูปฌานและอรูปฌาน รูปฌานและอรูปฌานนี่เป็นปัจจัยให้เข้าถึงความดี คือ มีจิตตั้งมั่น
    แต่องค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดา ก็เห็นว่ายังไม่ใช่ที่สุดของความทุกข์ ยังไม่จบกิจ ยังชื่อว่าไม่ถึงโมกขธรรม ธรรมเป็นเครื่องพ้นแห่งความตาย ยัง ยังไม่ถึง เราก็ถือจริยาของพระพุทธเจ้าเป็นสำคัญ
    ว่าอารมณ์ของเราที่เข้าถึงอนาคามี นี่มันยังมีทุกข์ คือ ยังมีอารมณ์สำคัญอยู่ เห็นว่า ป็นของดี อรูปฌานเป็นของดี ยังมีมานะถือตัวถือตนพอสมควร ยังมีอุทธัจจะมีอารมณ์ฟุ้งซ่าน ยังมีอวิชชา ความโง่ บางอย่างยังติดตัวอยู่
    องค์สมเด็จพระบรมครูกล่าวว่า ถ้าเราจะตัดความโง่ให้หมด ก็ให้ใคร่ครวญหาความจริงว่า รูปฌานก็ดี อรูปฌานก็ดี ทั้งสองประการนี่เป็นแต่เพียงบันไดก้าวเข้าไปสู่พระนิพพานเท่านั้น ไม่ใช่อารมณ์ที่เข้าถึงพระนิพพาน
    แต่ว่ารูปฌานและอรูปฌานทั้งสองประการนี่ เราต้องเกาะเข้าไว้ เพื่อความอยู่เป็นสุขหรือว่าจิตไม่ฟุ้งซ่าน แต่เรายังไม่เห็นว่าที่สุด คือ รูปฌานและอรูปฌานนี่ยังไม่เป็นที่สุดของความทุกข์ เราต้องเดินทางต่อไป จึงตัดอารมณ์ ไม่มัวเมาในรูปฌานและอรูปฌาน แต่จะรักษาไว้เพื่อประโยชน์แก่จิตใจเท่านั้น
    ทรงฌานไว้เป็นปกติ แล้วใช้ปัญญาพิจารณาขันธ์ 5 ว่า มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราไม่มีในขันธ์ 5 ขันธ์ 5 ไม่มีในเรา ขันธ์ 5 เต็มไปด้วยความทุกข์ ขันธ์ 5 มีการสลายตัวไปในที่สุด ไม่มีอะไรเป็นประโยชน์
    ในเมื่อขันธ์ 5 มันไม่ทรงตัวแบบนี้แล้ว มานะการถือตัวถือตน เราจะไปนั่งถือตัวว่า เราดีกว่าเขา เราเสมอเขา เราเลวกว่าเขา เพื่อประโยชน์อะไร เพราะร่างกายของคนมีธาตุ 4 เหมือนกัน เต็มไปด้วยความสกปรกเหมือนกัน มีความเสื่อมเหมือนกัน มีการสลายตัวไปในที่สุดเหมือนกัน
    คนและสัตว์มีสภาวะเสมอกัน คือ มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น มีความแก่ในท่ามกลาง และมีการสลายตัวไปในที่สุด นี่ย่อมไม่ยังประโยชน์ให้สำเร็จในการที่จะมานั่งเมาตัวหรือถือตัว วางอารมณ์แห่งการถือตัวถือตนเสีย
    มีเมตตาบารมีเป็นที่ตั้ง เห็นคนและสัตว์ทั้งหมด ถือ ว่าทุกคนมีความทุกข์ ทุกคนจะต้องมีความตายไปในที่สุด แล้วเราจะมานั่งถือตัวถือตน เสมอกัน เลวกว่ากัน ดีกว่ากัน เพื่อประโยชน์อะไร เพราะต่างคนต่างก็ไม่มีร่างกายเป็นเรา เป็นของเราจริง เรือนร่าง ร่างกายเป็นแต่เพียงบ้านชั่วคราวเท่านั้น ถ้าทำอารมณ์ได้อย่างนี้ เราก็จะตัดมานะคือ การถือตัวถือตนเสียได้
    ต่อไปก็เหลือ อุทธัจจะ คือ ความฟุ้งซ่าน พระอนาคามียังมีความฟุ้งซ่านลงไปหาอกุศล เพราะนับตั้งแต่เป็นพระโสดาบันเป็นต้นมา อารมณ์ที่เป็นอกุศลย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้เข้าถึงความเป็นพระอริยเจ้า จะมีอย่างเดียวก็คือ อารมณ์จิตเป็นกุศลเท่านั้น
    อย่างพระอนาคามีที่เรียกว่ายังมีอารมณ์จิตฟุ้งซ่านก็หมายถึงว่า ยังพอใจในการบำเพ็ญทาน เห็นว่าทานเป็นของดี พอใจในการรักษาศีล พอใจในการสงเคราะห์ในด้านสังคหวัตถุ
    ในบางครั้งบางคราวจิตใจก็แวะซ้ายแวะขวา ยังไม่ตัดหน้าตรงไปเลยทีเดียว ยังเห็นว่า อัตภาพร่างกายนี้บางครั้งนี้มันยังเป็นประโยชน์อยู่ เรียกว่า บางครั้งยังเห็นว่าร่างกายเป็นของดีอยู่ ในการบางคราวยังเห็นว่าทรัพย์สิน คือ วัตถุที่เราปกครองที่เราหามาได้ มันเป็นของดีอยู่
    แต่ถึงกระนั้นก็ดี จิตใจของท่านก็ไม่ลืมนึกว่าท่านจะต้องตาย จะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจ ความหวั่นไหวไม่มีก็จริงแหล่ แต่ทว่าจิตก็ยังมีอารมณ์เกาะอยู่บ้างตามสมควร นี่เรียกว่า อารมณ์ฟุ้งซ่านของพระอนาคามีนี้ ก็ไปตัดที่สักกายทิฏฐิ พิจารณาร่างกายว่า ในเมื่อร่างกายของเรามันจะพังแล้ว อะไรในโลกนี้มันจะเป็นของเราอีก มันก็หาไม่ได้ ถ้าตายแล้วมันก็แบกเอาไปไม่ได้ ถ้ามันเป็นเราจริง เป็นของเราจริง เราก็ต้องแบกมันไปได้
    นี่ดูตัวอย่างสรีระขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา เมื่อทรงปรินิพพานแล้ว ขณะที่ทรงชีวิตอยู่ องค์สมเด็จพระประทีปแก้วมีทรัพย์สินมาก ชาวบ้านเขานำมาถวายราคานับไม่ได้
    เมื่อเวลาที่องค์สมเด็จพระจอมไตรทรงปรินิพพานแล้วแม้แต่จีวรชิ้นหนึ่งก็นำไปไม่ได้ ปล่อยให้ร่างกายทับถมพื้นปฐพี ความนี้มีอุปมาฉันใด เราเองก็ฉันนั้น เราจะไปนั่งฟุ้งซ่าน ยึดโน่นยึดนี่ เพื่อประโยชน์อะไร ใจมันก็จะปลดออกเสียได้ เมื่อเจริญเข้ามาถึงตอนนี้แล้ว องค์สมเด็จพระจอมไตรจึงกล่าวว่า เหลือ อวิชชาอีกหนึ่ง ตัวอวิชชานี่ ได้แก่ ฉันทะกับราคะ
    ฉันทะเห็นว่ามนุษยโลกดี เทวโลกดี พรหมโลกดี
    ราคะ เห็นว่ามนุษยโลกสวยงาม เทวโลกสวย พรหมโลกสวย
    เราก็มานั่งตัด ฉันทะกับราคะ ทั้งสองประการเสียพิจารณาหาความจริงว่า ในเมื่อร่างกายของเรามันจะพังแล้ว ความสวยของความเป็นมนุษย์ เมืองมนุษย์ก็ดี เทวดาก็ดี หรือพรหมก็ดี มันจะมีประโยชน์อะไร ในฐานะที่เราเองก็ไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้ มันไม่เกิดประโยชน์อะไร
    ฉะนั้น ขึ้นชื่อว่าการเกิดเป็นมนุษย์ก็ดี เทวดาก็ดี พรหมก็ดี ย่อมไม่เป็นที่ปรารถนาขิงเรา เราต้องการอย่างเดียวคือ พระนิพพาน จับจิตจับจุดเฉพาะอารมณ์พระนิพพานเพียงเท่านั้น
    แล้วก็ถอยหลังเข้ามาดูอารมณ์ความจริงขิงเราว่า เวลานี้เรามีความโลภ คือ เมาในลาภสักการะหรือเปล่า ยังถือว่ามีอะไรเป็นเราเป็นของเรามีบ้างไหม ถ้ายังมีก็ยังถือว่าใช้ไม่ได้ ยังไม่ใช่พระอรหันต์
    ถ้าเห็นร่างกายอัตภาพนี้มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ขิงเราแล้ว ทรัพย์สินที่มีอยู่นี่มันก็ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ขิงเรา มันทรงตัวอยู่ไม่ได้ ตายแล้วนำไปไม่ได้ บางทีเรายังไม่ทันจะตาย ยังไม่ตายเราก็ต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจ คือ ของที่เราต้องการมันก็สลายตัวไปหมด มันไม่ปรากฏว่าจะยืนยงคงทนตลอดกาลตลอดสมัย
    นี่เราจึงเห็นว่าความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตายเป็นของไม่ดี การเกิดเป็นมนุษย์ก็ดี เทวดาก็ดี พรหมก็ดี เราไม่มีความต้องการ โลกทั้งสามนี้เป็นอนัตตาเหมือนกันหมด มีการเกิดขึ้นในเบื้องต้น แล้วมีการสลายตัวไปในที่สุด ในที่สุดเราก็มีอารมณ์จับพระนิพพานเป็นอารมณ์
    มีความต้องการอย่างยิ่งโดยเฉพาะ คือ พระนิพพาน
    อารมณ์แห่งความรักในเพศไม่มี
    การเกาะสิ่งนั้นสิ่งนี้ว่าเป็นเราเป็นของเราไม่มี
    อย่างนี้ชื่อว่า จิตของบรรดาท่านพุทธบริษัทเข้าถึงความเป็นพระอรหัตผล เป็นพระอริยบุคคลสูงสุดในพระพุทธศาสนา ชื่อว่าจบกันแค่นี้
    นี่การเจริญพระกรรมฐานกองใดกองหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพุทธานุสสติกรรมฐาน เราก็ทำได้ทุกอย่าง คือ ทำได้ตั้งแต่ขั้นอุปจารสมาธิ คือ พิจารณาแบบต้น คือ ทำแบบจับรูปเราก็ทรงได้ถึงฌาน 4 แล้วทิ้งรูปเสียพิจารณาอรูป ทรงฌาน 4 ได้อีกก็เป็นสมาบัติ 8
    แล้วก็จับพระรูปพระโฉมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น มีความแปรปรวนเปลี่ยนแปลงในท่ามกลาง มีการแก่เฒ่าไปในที่สุด แล้วก็สลายตัวไปในขั้นสุดท้าย ถือว่าไม่เป็นสาระไม่เป็นแก่นสาร ไม่มีสภาพจีรังยั่งยืนเป็นประการใด มาเทียบกับกาย ของเราแบบนี้เป็นวิปัสสนาญาณ
    นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน กรรมฐานทุกกองเราทำได้ถึงขั้นอุปจารสมาธิ ทางด้านรูปฌานและอรูปฌานและวิปัสสนาญาณทำได้หมด
    ตัวอย่างที่องค์สมเด็จพระบรมสุคต สอนโลหิตกสิณแก่พระลูกชายนายช่างทองอย่างเดียวสามารถให้ทำฌานได้ แล้วองค์สมเด็จพระประทีปแก้วก็ทำโลหิตกสิณนั่นแหละให้เป็นวิปัสสนาญาณ ในที่สุดเธอก็ได้เป็นพระอรหัตผล
    เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททุกคน เวลาแห่งการจะพูดมันก็เลยมานานแล้ว ต่อแต่นี้ไป ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายตั้งกายให้ตรง ดำรงจิตให้มั่น กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ใช้คำภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้ยินสัญญาณบอกหมดเวลา สวัสดี
    ร่วมบูชาเหรียญเศรษฐี และท่านท้าวมหาราชได้ที่ :
    https://www.facebook.com/thanate.eakoraphan
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC_7383.jpg
      DSC_7383.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      117
    • DSC_7384.jpg
      DSC_7384.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      120
    • DSC_7377.jpg
      DSC_7377.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.1 MB
      เปิดดู:
      69
  17. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    ทุกรายการยังร่วมบุญกันได้ครับ ร่วมสร้างศาลา ๑๐๐ ปี หลวงพ่อร่วมกัน
     
  18. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    ภาพเปรียบเทียบระหว่างเหรียญเศรษฐี หลวงพ่อยิ้มรับทรัพย์ วัดศาลฯ เลียนแบบและองค์จริง เหรียญเลียนแบบจะเล็กกว่าเนื่องจากถอดพิมพ์ออกมาจากเหรียญจริง และเหรียญเลียนแบบจะเป็นแบบปั๊ม ส่วนเหรียญจริงจะเป็นแบบหล่อโบราณ และมีหูเหรียญ
    ร่วมบุญบูชากันได้ตอนนี้เหลือไม่มากแล้ว ก่อนจะเป็นเหรียญในตำนานได้ที่
    https://www.facebook.com/thanate.eakoraphan
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    "หลวงพ่อคะ พระที่หล่อแล้วปลุกเสกแล้ว เช่นพระเครื่อง เขาบอกว่าหุ้มด้วยโลหะหรือพลาสติก โดยหุ้มหลังทั้งหมดทำให้ไม่ได้พลังจิตจากพระองค์นั้น อันนี้จริงไหมคะ...?"
    ไม่จริงหรอก เอาอะไรมาปิดใจได้บ้าง ไอ้ของที่อยู่ในเซฟใส่กุญแจดีแล้ว จิตมันนึกเข้าไปได้ไหม อย่างคุณเอาสร้อยทองคำหรือแหวนเพชรเอาไว้ในเซฟ คุณนั่งอยู่ที่นี่สามารถนึกถึงของในเซฟได้ไหม
    "นึกได้ค่ะ"
    อ้าว..พระหุ้มเท่าไรก็ไม่อยู่
    "พอมีคนเขาบอกอย่างนี้ เลยต้องไปเจาะด้านหลังค่ะ กลัวว่าจะไม่ได้รับพลัง"
    เข้าใจพลาดไปหน่อย อย่าลืมว่าการเอาพระไปคล้องก็อาศัยบารมีต่างหากล่ะ เราไม่ได้อาศัยโลหะ กำลังใจเป็นนามธรรมจะเอาอะไรเข้าไปปิดนามธรรมได้ ใช่ไหม
    "ค่ะ แต่หลวงพ่อคะ อ่านประวัติหลวงพ่อปานแล้วมีความรู้สึกว่าถ้าเรามีวัตถุมงคลที่มีพลังสูง เช่นยันต์เกราะเพชรก็ดีนะคะตอนที่ลาวปล่อยของมาแล้วของอื่นแตกหมด แต่ยันต์เกราะเพชรนี้อยู่ไม่เป็นไร ทำให้นึกถึงอยากได้ที่แจ๋ว ๆ อย่างนั้นค่ะ"
    จะไปยากอะไร ยันต์เกราะเพชรบทเสกกับบทเขียนก็มี พระพุทธคุณคืออิติปิโส บทต้น แล้วก็ทุกวันต้องบูชาด้วยอิติปิโส ๑ จบ
    มีพระองค์ไหนก็เหมือนกัน หรือมีพระคล้องคอ เวลาสวดอิติปิโส ก็นึกถึงบารมีของพระพุทธเจ้า ห้องที่สองนึกถึงบารมีพระธรรม ห้องที่สามนึกถึงบารมีพระอรหันต์ทั้งหลาย
    พวกบูชายันต์เกราะเพชรก็ต้องใช้บทนี้ประจำ ถ้าไม่ใช้ประจำฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะคุ้มครองได้นะ
    "ก็แสดงว่ายังมีวัตถุมงคลที่มีพลังสูงจริง"
    มันอยู่ที่เราด้วย ทำมาให้ดีแล้วเราดีเท่าของหรือเปล่า ถ้าเรามีความเข้มแข็งแล้วเราก็ดีเท่าของ
    อย่างเขาเอารถยนต์มาให้เรา เราใช้ไม่เป็น รถยนต์ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยใช่ไหม เขาให้มาแล้วเราก็ใช้ให้ถูกทางด้วยก่อนที่จะใช้ก็ต้องหาน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเผาอะไรพวกนี้ ใช่ไหม
    ก็เหมือนกัน เมื่อได้พระมาแล้วนึกน้อมความดีของพระ ไม่มีอะไรมาก อิติปิโส บทเดียวพอ ทุกๆ วัน ตอนเช้าตื่นขึ้นมานึกถึงบารมี นึกถึงพระที่เรามีอยู่
    "บางคนห้อยพระราคาเป็นแสนก็ตาย"
    ถ้าถึงวาระก็ต้องตาย ความจริงที่ให้มีพระคล้องคอท่านมีความหมายให้ทำใจเป็นพระ ว่าเราเป็นสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงสอนในหลักใหญ่ ๓ ประการ
    ๑. สัพพปาปัสสะ อกรณัง พวกเธอทั้งหลายจงอย่าทำความชั่วทุกอย่าง
    ๒. กุสลัสสูปสัมปทา จงสร้างแต่ความดี
    ๓. สจิตตปริโยทปนัง จงทำจิตใจให้ผ่องใสจากกิเลส
    แล้วก็ลงท้ายว่า เอตัง พุทธานสาสนัง เราขอยืนยันว่าพระพุทธเจ้าทุกองค์สอนอย่างนี้เหมือนกันหมด
    นี่ท่านต้องการทำจิตใจให้เป็นพระ ไม่ใช่เอาพระไปตีกับชาวบ้าน.
    จากหนังสือ ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๗ หน้าที่ ๒๐ โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. รตนหทัย

    รตนหทัย ธเนศร์ โทร 0819197488 หรือ ID Line : Millionboon สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2015
    โพสต์:
    8,663
    ค่าพลัง:
    +2,527
    คาถาบูชาท้าวมหาราชทั้งสี่ใช้บทบูชา ของบทบวงสรวงก็ได้ ของวัดท่าซุง
    ปุริมะทิสัง ธะตะรัฏโฐ ทักขิเณนะ วิรุฬหะโก
    ปัจฉิเมนะ วิรูปักโข กุเวโร อุตตะรัง ทิสัง
    จัตตาโร เต มะหาราชา สะมันตา จะตุโรทิสา
    ทัททัลละมานา อัฏฐังสุ ฯ
    ท่านท้าวมหาราชล้วนเป็นเทวดาทั้งนั้นการบนกับท่านท้าวมหาราชบอกกล่าวกับท่านอย่างไรให้ปฏิบัติตามที่ได้บอก
    กล่าวเมื่อสำเร็จด้วย อย่างเช่นการบนกรมหลวงชุมพรฯ หรือ ท้าววิรุฬหกท่านให้ปฏิบัติตามนี้ แก้บนก่อน ๘ โมงเช้า ๑๐ นาที
    (ระหว่าง ๐๗.๕๐ - ๐๘.๐๐ น.) ถ้าตอนเย็นก่อนบ่าย ๓ โมง ๑๐ นาที (ระหว่าง ๑๔.๕๐ - ๑๕.๐๐ น.) สำหรับเครื่องบวงสรวง
    คือข้าวปากหม้อ หมูต้ม ๑ ชิ้น ไก่ต้ม ๑ ตัว ขนมทองหยิบฝอยทองและขนมจีนน้ำพริก
    วิธีบน คือก่อนบนต้องตั้งเครื่องบวงสรวงหนึ่งครั้ง ...เมื่อได้ผลแล้วจะต้องตั้งเครื่องบวงสรวงอีกครั้งการเชิญท่านท้าวมหาราชทั้งสี่เวลามีการบวงสรวงใช้บทสวดบวงสรวงชุมนุม
    เทวดาที่ขึ้นต้นด้วยปุริมัญ จะ ทิสังราชา…แต่ความจริงพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านกล่าวว่า ไม่จำเป็นจะต้องใช้ภาษาบาลี ให้ใช้ภาษาไทยโดยนึกถึงท่านก่อนแล้วกล่าวเชิญท่านอย่าลืมบอกท่านด้วยนะจะให้ท่านช่วยสงเคราะห์อะไร ถ้า ไม่บอกท่านๆ
    ก็จะยืนดูเฉย ๆ พระเดชพระคุณหลวงพ่อเคยโดนมาแล้วเมื่อครั้งที่ไปนอนที่ใต้ต้นโพธิ์แห่งหนึ่ง ที่จังหวัดชัยนาท อยู่นอกเมือง ออกไปตกกลางคืนประมาณ ๔ทุ่มก็ มีผู้หญิงคนหนึ่ง นุ่งโจงกระเบน และผ้าคาดอกตะแบงมาน เข้ามาแล้วใช้นิ้ว ๒ นิ้วจี้ที่หน้า
    อกพระเดชพระ คุณหลวงพ่อ เทวดาของท่านท้าวมหาราช ซึ่งนั่งเฝ้าอยู่ ๔ องค์ นั่งอยู่ ๔ ทิศ มีองค์หนึ่งก็ได้เข้าไป รัดคอผู้หญิง คนนั้นดึงออกไปพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านมีเมตตาก็บอกเทวดาองค์นั้น "ปล่อยไปเถอะ" พอประมาณตีสอง พระเดชพระคุณ
    หลวงพ่อ รู้สึกตัวขึ้นมาที่หน้าอกมันเจ็บทั้งสองจุด เจ็บถึงหลัง ยายนั้น แกเอานิ้วมือมาจี้ ๒ นิ้วดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด ขยับไปขยับ มามันก็ไม่หลุดก็เลยบอกเทวดา "นี่ พี่ชายจับลาก มันออกไปที ตีมันออกไป" ท่านก็จับร่างกระชากไปและตีไป พระเดชพระคุณ หลวงพ่อก็ถามเทวดาว่า "มันจะเข้ามาทำร้ายฉัน ทำไมถึงไม่ไล่ไปก่อน" เทวดาเลยบอกว่า "ผมไล่ไปแล้ว ท่านบอกว่าให้ปล่อยไง" เพราะฉะนั้นจะต้องเข้าใจว่าเทวดาท่านทำตามคำสั่งจริง ๆ บอกให้ท่านทำอย่างไรท่านก็ทำอย่างนั้นถ้าไม่บอกท่าน ท่านก็
    ยืนเฉยดูเฉยไม่ทำอะไรเวลาเชิญท่านก็อย่าลืมนะ บอกท่านให้ถูกต้องนะท่านจะได้ ช่วยไม่ผิด ถ้าเชิญท่านมาแล้ว ไม่บอก
    ท่าน ๆ ก็ยืนดูเฉย ๆ
    >>>>>>>>>>>>คาถาบูชาเทวดา พระภูมิเจ้าที่ และอาราธนาพระโคตรเศรษฐี
    โดย แม่ชีประทุม โชติอนันต์
    สำนักส่งเสริมปฏิบัติธรรม ศิษย์พระราชพรหมยาน จังหวัดนครราชสีมา
    จุดธูปปักบูชากลางแจ้ง ๙ ดอก เวลากลางคืนทุกๆคืน นั่งหันหน้าสู่ทิศตะวันออก
    ตั้งนะโม ๓ จบ แล้วสวดคาถาดังนี้
    " พุทธะบูชา ธรรมะบูชา สังฆะบูชา ปติปัตติ ปติปัตติ ปติปัตติ บูชายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ
    อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปะฐะวี คงคา พระภูมิเทวา ขะมามิหัง
    สัมปะติจฉามิ สัมปะติจฉามิ สัมปะติจฉามิ "
    จงตั้งใจให้เป็นสมาธิ สำรวมจิตให้มั่นเป็นหนึ่ง แล้วแผ่เมตตาไปในทิศทั้งปวง ไม่มีที่ประมาณดังนี้
    " บุญใดกุศลใด ที่ข้าพเจ้าได้สะสมบุญมาดีแล้ว ตั้งแต่อดีตชาติมาจนถึงปัจจุบันขณะนี้
    บุญทั้งหมดนี้ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลทั้งหมดนี้ ให้แด่ท่านทั้งหลายทั่วโลกธาตุ ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีที่ประมาณ
    มีท่านท้าวพระยายมราช ท้าวจตุโลกบางทั้งสี่ และท่านที่เป็นคู่เวร คู่กรรม ที่ติดตามมาก็ดี
    ตลอดจนเทพเจ้าเหล่าเทวดาที่ปกปักรักษาตัวข้าพเจ้าก็ดี ปกปักรักษาในราศีของข้าพเจ้าก็ดี
    ปกปักรักษาที่อาศัยบ้านเรือนของข้าพเจ้าก็ดี ที่วัดวาอารามก็ดี มีพระสยามเทวาธิราชเจ้าก็ดี
    ท่านปู่พระอินทร์ ท่านแม่ย่า ท่านพ่อ ท่านแม่ศรี ท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ มีท่านท้าวธตรฐ ( ทะตะรด )
    ท่านท้าววิรุฬหก ท่านท้าววิรูปักข์ ท่านท้าวกุเวร ( ท้าวเวสสุวัณ ) จงช่วยสิ่งที่ร้าย ให้กลายเป็นดีในครั้งนี้ด้วยเถิด "
    สวดอย่างนี้แล้ว จะขออะไรก็ขอไป บอกท่านท้าวธตรฐ พระพุทธเจ้า ๒๘ พระองค์ ในพระมหาวิหารโคตรรเศรษฐี
    บอกคุณพ่อ คุณแม่ ครูอาจารย์ เทวดาในราศี และหลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี ( พระราชพรหมยาน ) วัดท่าซุง
    ขอให้ท่านช่วยลูกด้วย
    บูชาเวลากลางคืนตอนสงบ สำรวมจิตคิดว่า ท่านเสด็จมาช่วยเราแล้ว แล้วท่านจะได้ผลสมความปรารถนาทุกประการ
    ท้าวมหาราชประจำทิศทั้ง ๔
    ท่านท้าวธตรฐ ทิศตะวันออก
    ท่านท้าววิรุฬหก ทิศใต้
    ท่านท้าววิรูปักษ์ ทิศตะวันตก
    ท่านท้าวกุเวร ( ท้าวเวสสุวัณ ) ทิศเหนือ
    หมายเหตุ
    - หากใช้พระคาถานี้อาราธนาพระโคตรเศรษฐี ให้ตั้งจิตกล่าวคำอาราธนา
    และใช้ควบคู่กับ พระคาถาเงินล้าน ๙ จบ ของหลวงพ่อฤาษี ( พระราชพรหมยาน ) วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี
    หากท่องจนชิน จะมีความคล่องตัวในการดำรงชีพ และด้านโภคทรัพย์เป็นอันมาก
    ร่วมบูชาท่านท้าวมหาราชทั้งสี่ วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ สร้างศาลา ๑๐๐ ปี พระราชพรหยาน ร่วมกันที่ :
    https://www.facebook.com/thanate.eakoraphan
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...