เห็นความจริงเพื่อละ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย แค่พลัง, 21 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,571
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ จริง ๆ แล้ว "ฐีติภูตัง อวิชชาปัจจยาสังขารา" (คำพูดของหลวงปู่มั่น) ตรงนี้ คือ "เหตุปัจจัยโย" ในมหาปัฏฐาน แต่อาการของมัน "เกิดก่อน" อารัมมนปัจจัยโย ซึ่งเป็น "การก่อหวอดของ อวิชชา"

    +++ "ฐีติภูตัง อวิชชาปัจจยา สังขารา" อาการตรงนี้ จะตรงกันกับ "ธรรมะของเราเป็น อณู" ของพระพุทธองค์

    +++ เป็น "สภาวะรู้บริสุทธิ" เท่านั้น จึงจะ "รู้อาการ" ของการ "เกาะติดอนุภาคอิสระ" แล้วก่อให้เกิด หย่อมความกด ที่เข้ามา "บดบัง สภาวะรู้" เมื่อยัง "เกาะติด" ในสภาวะที่เข้าบดบังนี้ อาการ "ไม่รู้" ก็เกิดขึ้น จากนั้น "เกลียววน ของ สังขารา วัฏฏะ ก็เกิดขึ้น" ทั้งหมดเป็น กระบวนการตามธรรมชาติของสังขารทั้งหมด

    +++ ฐีติภูตัง มีอยู่ตลอดกาลนาน มีมา "ก่อนสังขารจิต จะ ถือกำเนิด"

    +++ หาก "การเห็น" โดย "ไร้ แสงสี/การตกกระทบ รวมถึง ไร้ฉาก" ยังไม่เกิดขึ้นกับผู้ใด

    +++ ผู้พูดในบริเวณนี้ จะเป็นการ "มโน ตรรกะ" ล้วน ๆ

    +++ ฐีติภูตัง เป็น "สาเหตุเดียว" เท่านั้น ที่ทำให้ผู้ที่ "เข้านิโรธสมาบัติ" สามารถ "ออกจากนิโรธ" เข้าสู่ปัจจุบันขณะได้

    +++ ฐีติภูตัง เป็นปัจจุบันขณะหรือไม่ ก็ต้องไปถามผู้ที่ "เข้า/ออก นิโรธสมาบัติ" โดยตรงว่า

    +++ "ข้างใน" นิโรธสมาบัติ เป็น ปัจจุบันขณะหรือไม่ ฉันใดฉันนั้น

    +++ ตัว ฐีติภูตัง เป็น "อกาลิโก" ชนิดหนึ่ง ที่อยู่ "เหนือกาลเวลา" ที่มีอยู่จริง

    +++ ดังนั้น ฐีติภูตัง เป็นผู้ให้กำเนิด "ปัจจุบันขณะ" จะจัดว่า "ตัวมัน ไม่ใช่ปัจจุบันขณะ" ก็ถูก
    +++ ตรงนี้ "ใช่เลย" เป็น วิสังขารธรรม ที่ก่อกำเนิด สังขารธรรม

    +++ นั่นแล... ที่สุดของคำว่า สังคตะธรรม/อสังคตะธรรม ย่อมชี้ไปใน ที่ตรงนี้

    +++ นั่นแล... วิคตะ/อวิคตะปัจจะโย ก็ชี้ไปที่ตรงนี้ เช่นกัน

    +++ ก็นั่นแล... ผู้ที่ "ไม่เข้าไปสู่" ย่อมพ้นอยู่

    +++ ผู้ที่เคยถามมาก่อน ก็ตอบได้ว่า มันก็คือ "อาการนี้" เช่นกัน... นะครับ
     
  2. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    ขอต่อจากพี่ธรรมชาตินะคับ เรื่องฐีติภูตัง นั่นแหละเขาเรียกว่า จิตไม่ใช่เราและเราไม่ใช่จิต ตรงตัวไม่แปรเปลี่ยน วิสังขารเพราะจิตจะไม่รับรู้หรือเสวยอารมณ์ใดใดเลยในความเป็นจริง แต่สติปัญญาที่อยู่เหนือกว่าจิต จะมองเห็นว่าถ้าเราไม่รับเข้ามาสุขหรือทุกข์หรือแม้กระทั่งความว่างเปล่าก็จะไม่เิกิด ในทางธรรมคือความละเอียดและเป็นจุดที่ควรจะแยกแยะได้ว่ากิเลสเราคืออะไร ใครเป็นผู้สร้างและใครคือผู้กำหนด..นี้เท่านั้นผมเรียกฐีติภูตังคจิต
     
  3. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    ท่านธรรมชาติกล่าวมา ต้องยอมรับว่าท่านมีภูมิความรู้ที่ลึกซึ้ง แต่ผมขออนุญาตถามท่านไม่มาก ท่านจะตอบก็ได้ไม่ตอบก็ได้ถ้าท่านไม่สะดวกที่จะตอบ ทั้งหมดที่ท่านรู้นี้ มาจากความจงใจกระทำให้เกิดขึ้นและเป็นไปตามความคาดหมายที่ท่านมีอยู่ก่อนแล้ว หรือว่าเป็นเรื่องพ้นวิสัยแห่งการควบคุมจริงๆ มันเกิดขึ้นเอง โดยไม่คาดหมายหรือคาดหมายไม่ถึงมาก่อน หรือถ้าจะให้เห็นภาพของคำถามชัดขึ้น ตอนพระอานนท์ท่านเร่งความเพียรเพื่อให้บรรลุอรหันต์ทันการปฐมสังคายนา ไม่หลับไม่นอนยังไงก็ไม่บรรลุ พอท่านตัดสินใจเอนกายขอพักผ่อนเท่านั้น คือมันพ้นเจตนา ท่านจึงบรรลุอรหัตตผลในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนนั้นเอง เชื่อว่าท่านคงพอเห็นในสิ่งที่ผมถามชัดเจนแล้วนะครับ
     
  4. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,571
    ค่าพลัง:
    +9,966
    +++ ไม่เกี่ยวกับ "ภูมิความรู้" อะไรทั้งสิ้น ทั้งหมด "เกิดจาก การปฏิบัติ ล้วน ๆ"
    +++ อย่างที่บอก "คำศัพท์ภาษา หลาย ๆ ครั้ง" มันระบุถึง "การเพ่งโทษ" อย่างชัดเจนอยู่ในตัวของมันเอง

    +++ ภาษาที่บ่งออกมาว่า "มาจากความจงใจกระทำให้เกิดขึ้นและเป็นไปตามความคาดหมายที่ท่านมีอยู่ก่อนแล้ว" ตรงนี้ "ระบุชัดเจน" ถึงอาการที่มีอยู่ในใจของผู้พูด

    +++ เหมือนกับ "ความจงใจที่ใช้ภาษาว่า ไถยจิต (อ่านว่า เถย-ยะ-จิด) แปลว่า จิตคิดจะขโมย" ตรงนี้ หากไม่มีการ "เพ่งโทษ" ในจิตของคุณ ภาษาแบบนี้ จะเกิดขึ้นมาเองลอย ๆ ไม่ได้
    +++ คุณ "ไปหาเอาเอง ก็แล้วกัน" ตราบใดที่ "การเพ่งโทษ" ยังไม่หมดไปจากจิตคุณ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะ "เสียเวลา" สนทนาด้วย

    +++ การเพ่งโทษของคุณ มีมาตั้งแต่ "โพสท์แรก" ในกระทู้อื่น ที่คุณพยายามสนทนากับผม

    +++ การตอบโพสท์ทุกครั้งของผม ก็ได้รับ "การเพ่งโทษ" จากคุณกลับมาทุกครั้ง

    +++ ดังนั้น หากคุณ "ยังไม่เปลี่ยน นิสัย หรือ การใช้ภาษาในแบบฉบับของคุณแล้ว"

    +++ การพูดคุยกับคุณ จะ "ไม่เกิดประโยชน์" อะไรออกมาได้เลย รังแต่จะ "เป็นโทษ" ไปเสียเปล่า ๆ
    +++ เห็นอยู่ แต่ถ้าตอบกลับไป "ผลลัพธ์" อย่างเคยก็จะ ตอบสนองกลับมาทุกครั้ง

    +++ หากคุณ "ยังแก้นิสัยไม่ได้" คุณก็ต้อง "ไปหาคำตอบเอาเอง" ก็แล้วกัน

    +++ ตรงไปตรงมา "ของจริง" ต้องไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ลับลมคมใน แฝงเจตนาอื่น คงชัดเจน นะครับ
     
  5. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267

    เอาอย่างนี้ก็แล้วกันครับ มันนิดเดียว ถ้ามาจากการจงใจกระทำ มันมีตัณหาแทรก มรรคไม่เกิดจริงครับ ที่ท่านเล่าจะเป็นเรื่องกิริยาของฌานสมาบัติไปเฉยๆ ดีไม่ดีท่านจะศึกษาแบบ ค่อยๆ แกะแบบไป ปฏิบัติไป แบบแกะโน๊ตเพลงเสียด้วยซ้ำ (ผมดูจากวิธีการแยกข้อความของท่านออกเป็นทีละประโยคๆ บางทีมันก็บอกอะไรได้อยู่ครับ) อย่าหาว่ามานั่งจับผิดเพ่งโทษอะไรกันเลย ไม่จริง มาช่วยต่างหาก ถามว่าประโยชน์ถ้าจะเกิด ควรจะเกิดกับใคร ผมหรือท่านกันแน่ล่ะครับ

    ถ้าพ้นเจตนาจริง ก็อาจหาญในธรรมไปเลย ฟาดโต้งๆไปเลย คนรอบข้างจะพลอยได้ประโยชน์ไปด้วยกันครับ

    อย่ามองว่ามาชวนทะเลาะนะครับ มาชี้ชวนพิจารณาตามความเป็นจริงให้เห็นจริงเห็นถูกเห็นตรงต่างหากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2018
  6. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    +++ ผู้ที่เคยถามมาก่อน ก็ตอบได้ว่า มันก็คือ "อาการนี้" เช่นกัน... นะครับ

    ท่านธรรมชาติเขาบอกว่า "ผู้ที่เคยถาม" ผมก็เคยถาม และถามในกระะทู้นี้เสียด้วยไม่ใช่ที่อื่นเลย เกี่ยวกับเรื่องฐีติภูตังเป็นยังไง ตอนนั้นที่ถามเพราะอยากจะทราบว่า คุณพลังงานฯ แกเข้าใจยังไง เพราะแกมีไปรับรองความเห็นบางท่านก่อนหน้าว่า เข้ากันได้กับฐีติภูตัง นั่นถึงเกิดเป็นคำถามขึ้นมา

    ในเมื่อท่านธรรมชาติเขากล่าวไปแบบนั้น ก็หมายความว่า กำลังอธิบายเรื่องฐีติภูตังให้ผมรับทราบไปด้วย เมื่ออธิบายมา มีข้อกังขาก็ต้องถามกลับไป ความเข้าใจมันใกล้เคียง แต่..ทำไมความปล่อยวางความคลายตัวของจิตกลับไม่มี นี่น่าสนใจ ก็วิเคราะห์อยู่ว่ามันเพราะอะไร ดูๆแล้ว มันเกิดมาจากมีความจงใจไปกระทำให้เกิดให้เป็น มันมีความคาดหวังตั้งธงมาก่อนหน้าแล้ว มันจึงกลายเป็นเรื่องเฟคไปหมด ใครรู้จักทฤษฎีสมคบคิดจะเข้าใจ ประเภทหวยออกแล้ว ฝันแม่นไปหมด แต่ไม่ถูกสักงวด ทีนี้ลองคิดดูว่า นี่คือการเพ่งโทษกันหรือเปล่า เพ่งโทษหรือชี้โทษ ต่างกันนะครับ

    ดังพระพุทธเจ้าทรงตรัสกับพระอานนท์ว่า

    อานนท์ ! เราไม่พยายามทำกะพวกเธอ อย่างทะนุถนอมเหมือนพวกช่างหม้อ ทำแก่หม้อ ที่ยังเปียก ยังดิบอยู่

    อานนท์ ! เราจักขนาบแล้ว ขนาบอีก ไม่มีหยุด
    อานนท์ ! เราจักชี้โทษแล้ว ชี้โทษอีก ไม่มีหยุด
    ผู้ใดมีมรรคผลเป็นแก่นสาร ผู้นั้นจักทนอยู่ได้.

    ( มหาสุญฺญตสุตฺต อุปริ. ม. ๑๔/๒๔๕/๓๕๖ )

    แล้วดูท่านตอบกลับมาสิ

    ประมาณบอกให้ภาวนาอะระหัง ก็หาว่าไปกล่าวร้ายตัวว่า มีหาง มีหางไหม บอกให้ภาวนาพุทโธ ก็ไปเข้าใจว่า เขาว่าตัวว่า พุดโท่ พุดโท่เอ๋ย นี่มันไปเห็นเป็นแบบนั้นไปหมดนะครับ อกุศลบังกุศล ทิฏฐิบังความจริง แล้วจะเอาอะไรมารู้พระนิพพานตามความเป็นจริงได้ล่ะครับ
     
  7. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    กรณีศึกษาแบบนี้มีเยอะ ส่วนมากพอพูดความจริง ชี้ผิดชี้ถูกให้ดู จะรับกันไม่ค่อยได้ จะต้องหาว่าเขาอิจฉา เพ่งโทษ เพ่งไปเถอะครับส่วนที่เป็นโทษ จะได้รู้ตัวรีบปรับปรุงแก้ไข ถ้าใครมีมรรคผลเป็นแก่นสาร เรื่องพวกนี้เล็กน้อยมาก มองเป็นธรรมไปหมด

    จิตถ้ามันมุ่งแสวงหาทางหลุดพ้นจริงนะ ใครพูดใครแนะอะไรมา มันเก็บเอามาคิดพิจารณาทบทวนตนเองหมดหาหนทางดับทุกข์หมด เรื่องจะมาคิดเล็กคิดน้อยไม่มี ใจมุ่งพระนิพพานแล้วไม่มี อัตตาเอาวางทิ้งหมด นี่อุปนิสัยของผู้ที่เขาจะเข้าถึงธรรมเข้าถึงความจริง เขาจะไม่หลอกตัวเอง เขาจะยอมรับความจริง เพราะความจริงคือสัจธรรม ทำตัวประพฤติตนให้เข้าใกล้ความจริงที่สุดเสียก่อน ถ้าหนีความจริง มันก็คือหนีสัจธรรม จะเอาอะไรมาเห็นความจริง จะเอาอะไรมาพ้นทุกข์ ลองพิจารณากันดีๆ ครับ

    อย่าคิดว่าผมมาเอาอะไรเลย ผมมาช่วยกัน ความดีถ้ามี ผมถวายเป็นพุทธบูชาหมด ไม่แบกไว้ให้หนักเปล่าๆ หรอกครับ เสียเวลาครับ
     
  8. ถวายบูชา

    ถวายบูชา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +560
    จริงๆเดินจิตตาม คุณธรรมชาติเขียนตอบ ก็รู้แล้วว่า จริงไม่จริง
    การเขียนบรรยายธรรม ยาวเหยียด แต่ไร้ซึ่งวิธีการลงมือปฏิบัติ เพื่อที่จะเข้าถึง ในหัวข้อประเด็นต่างๆ มันไม่ได้อะไรเท่าไร
    ขอเสนอแนะ คุณคนไทบ้านๆ ทำแบบคุณธรรมชาติ บ้างก็ดีเหมือนกันนะ
     
  9. งูๆปลาๆ

    งูๆปลาๆ นตฺถิ ปญฺญาสมา อาภา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    563
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +412
    การแสดงธรรมมีทั้งโดยตรงโดยอ้อม อยู่ที่ผู้แสดงจะหวังผลให้เกิดแก่ใคร เพราะผู้รับไปนั้นจะรู้ดี สายเจโตก้ต้องสอนแบบสายเจโตให้ไปรู้เห็นในจิตแบบเจโตเช่นพระ
    พระจูฬปันถกเถระ จะให้ท่องคาถาพิจารณาแบบสายปัญญาท่านก้จะทำไม่เกิดผล แต่ให้ท่านไปพิจารณาผ้าขาว ทำสมถะอย่างนั้นก้เกิด ญาน เป็นเครื่องรู้แก่ท่านได้ ดังนั้นบางท่านแล้วที่เป็นสายเจโต แสดงธรรมบางแบบไปอย่างไร ก้ไม่เกิดผลหรอกครับต้องให้ท่านไปพิจารณาใจจิตท่านเอกตามแบบเดิม
    สายปัญญาก้ต้องสอนแบบสายปัญญาจะให้ไปนั่งสมาธิทำแบบเจโตก้ไม่เกิดผลต้องชี้ธรรมไปที่จิตปัจจุบันขณะ บอกให้ท่านไปนั่งทำสมถะภาวนาลึกๆท่านก้ไม่ทำหรอกครับ

    ต่อเมื่อบรรลุแล้วก้จะบรรลุด้วยปัญญาวิมุติและเจโตวิมุติทั้งคู่ แต่สายเจโตวิมุติจะมีญานอันเกิดจากสมถะที่สั่งสมมาด้วย เช่นอภิญญา และอื่นๆ+++ เช่นมโนมยิทธิพระจูฬปันถกเถระเป็นเอตทัคคมโนมยิทครับ
     
  10. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    เดินจิตตาม !

    ใครเขาให้เอาจิตไปเป็นตัวกระทำกัน เขามีแต่สอนให้รู้จักเจริญสติเข้าไปรู้จักอาการของจิตตามความเป็นจริง จะได้รู้ว่าทุกข์เกิดขึ้นมาได้อย่างไร อะไรคือเหตุแห่งทุกข์ที่แท้จริง เห็นมรรคเห็นทาง ภาวนาไปจนเกิดสัมมาทิฏฐิ จนเกิดปัญญา เกิดมรรคเกิดผล กระทำนิพพานให้แจ้ง

    ไม่ใช่มัวมานั่งพิสูจน์อะไรแบบนั้น พิสูจน์ไปก็หลงอยู่ดี อยู่ๆไปสร้างสถานการณ์ขึ้นมา แล้วก็ไปพิสูจน์ในสถานการณ์ที่จัดตั้งขึ้น คำตอบที่ถูกที่สุดรู้อยู่ก่อนแล้ว แบบนี้เขาเรียกว่าเตี๊ยมๆกันเอาไว้ก่อน จิตหลอกจิต จิตหลอกตัวมันเอง สร้างมายาภาพขึ้นมา ทีนี้การจะกระทำได้หรือไม่ได้ ดีแค่ไหน จึงขึ้นอยู่กับความชำนาญของแต่ละบุคคล ก็มีอยู่แค่นั้น ไม่เกี่ยวอะไรกับการบรรลุธรรมสักนิดเลย ความรู้จัดตั้ง ดีไซด์ โปรแกรมหลักสูตร โลกๆเขาทำกันแบบนั้น ดีไม่ดี พอจบหลักสูตรมีมอบประกาศนียบัตรกันอีกต่างหาก รับรองตัวตนกันเต็มที่ ลาภยศสรรเสริญตามมาเต็มที่ เมาเหมือนเดิม กระหายเหมือนเดิม ไม่มีส่วนไหนบอกว่าพ้นทุกข์เลยสักนิดเดียว นิพพานคือดับความเมา บรรเทาความกระหายฯ ไหนล่ะ สวนทางกันสิ้นเชิง
     
  11. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    บางท่านเข้ามาโดยไม่มีอัตตา
    บางท่านเข้ามาโดยอัตตา
    บางท่านคิดแต่จะสั่งสอนผู้อ่าน
    บางท่านมีปฏิปทาที่เป็นกลางดีแล้ว
    บางท่านมาเพื่อให้ผู้อื่นช่วยขัดเกลา
    บางท่านก็เข้ามาแสวงหาอัตตา

    บางท่านก็มีหลายข้อที่กล่าวมารวมกันอยู่

    ท่านจึงว่า
    มีสหรคต มีสัมปยุต
    ไม่ได้กล่าวแต่เพียงสหรคตหรือสัมปยุตอย่างใดอย่างหนึ่ง

    นี่กิเลสนี่ลึกล้ำยิ่งนัก
    แต่ธรรมนั้นลึกซึ่งและแยบคายยิ่งกว่า
    เกินวิสัยของบุคคลที่จะเกลี่ยดินให้เสมอกันได้ทั้งหมด

    ส่วนของท่านอานนท์เถรเจ้า พุทธอุปปัฏฐากนั้น
    เพียงปล่อยวางเจตนาและหยุดเท่านั้น
    ขอให้โชคดี
     
  12. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    มีความเห็นว่า ถ้าจะไปทางฌานสมาบัติชั้นสูง เขาจะทำกันไปจนเบื่อ จนเห็นว่าไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แล้ว เขาก็ไม่เอาไม่ติดใจ ทิ้งหมด ทีนี้อุปาทานอยู่ตรงไหนเขาเห็นหมด ไม่ใช่ครึ่งๆกลางๆ ร่างหลักสูตร จบหลักสูตร ไปก็ไปให้สุดทางครับ ให้รู้ว่าไม่มีอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว ทำกันได้ไหมล่ะครับ

    ส่วนมากก็มีบางท่านบอกอยู่แล้วว่า มักจะไปติดกับดักตรงกิริยาระหว่างทาง ไปไม่รอด นี่ก็ดูเอาเองครับ ใช่หรือไม่ใช่ กิริยาปลายทางคือเห็นทุกข์เห็นโทษน่ะครับ ถ้ายังไม่เห็นทุกข์เห็นโทษก็เล่นไปเรื่อย สนุก ความรู้ท่วมหัว เมาสังขารไปเรื่อยครับ
     
  13. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    เอาของท่านดีกว่า เป็นปฏิปทาแบบไหน เอาปฏิปทาท่านดีกว่า ตรงไปตรงมา เขาเรียกว่าเปิดเผยตัวตนให้ชัดเจน อย่าให้มีลักษณะธรรมปกปิด ส่วนผมบอกไปหมดแล้ว ทำไมจึงถามเอากับท่าน ก็ท่านโพสต์มาแบบนี้ก็เลยต้องถามเอากับท่าน อย่าเอาแต่หล่อ กระทืบหล่อ ถอดเกราะทิ้งไปให้หมด แมนๆให้อัตตาหกไปเลยครับ จะได้เบาตัวเบาตน หรือจะหนักกว่าเก่า ก็เท่าทันเอาครับ :D
     
  14. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    55555
    แสดงว่ายังไม่รู้จักผมสินะ
    อย่ากระนั้นเลย
    อย่าคุยแต่ในกระทู้เลย
    คุยทางจิตเป็นมั้ย
     
  15. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    ทำตามที่รับปากด้วยล่ะ
    อย่าโยกโย้เฉโก
    ไม่งั้นจะโดนมิใช่น้อย
     
  16. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    ขี้โม้
     
  17. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    แล้วทำเพื่ออะไร อ่านตัวเองออกไหม
     
  18. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม..อโหสิ
     
  19. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    55555
    ไอ้เด็กเว็ดพัง
    ที่โดนลบกระทู้ไปน่ะเพราะกำชับไว้
    คนที่เค้าลบน่ะเค้ารู้ดี
    ในนี้มีทั้งของจริงและของปลอม
    อย่าคิดลองดี
    อยากเจอเหมือนกันไอ้พวกขี้โม้อวดอ้างต่างๆน่ะ
     
  20. คนไทบ้านๆ

    คนไทบ้านๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2018
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +267
    ผมอโหสิตลอดทุกกรณีตั้งแต่รู้ตัวแล้ว ไม่รู้คนจริงของเขาคือแบบไหนนะ คนจริงๆ คนให้ยุ่งไปหมด เสียดายเวลาแทน
     

แชร์หน้านี้

Loading...