เห็นเจ้าแม่กวนอิมทั้งในสมาธิ และในฝัน2ครั้ง

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ปมณฑ์, 2 มีนาคม 2008.

  1. kuro122

    kuro122 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +410
    คุณโอม ฟังเสียงสวดมนต์ แล้วซ่า ไปทั้งตัวเลยค่ะ ตั้งแต่ศรีษะลงไปแรงมาก เหมือนชา ๆ ซ่า ๆ มากเลยค่ะ หลับตาฟัง แล้วขาวจ้าพอสมควรค่ะ
     
  2. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,244
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,001
    ดีครับ คุณมาถูกทางเเล้ว ลองฝันเห็นท่านได้เเบบนั้น ถือเป็นนิมิตหมายอันดึครับ ขอให้ตั้งใจปฏิบัติธรรมต่อไป ซักวันจะไปถึงเองครับ อนูโมทนาครับ จขกท
     
  3. sathanaphon

    sathanaphon สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +4
    เรื่องเหลือเชื่อที่เกิดกับผม!!!!

    ผมนับถือพระกวนอิมตั้งแต่เรียนปี 1 ครับ โดยนำท่านเข้ามาบ้านเอง โดยที่บ้านผมไม่อนุญาติ เพราะทุกคนทานเนื้อวัว ปัจจุบันทุกคนเลิกทานเนื้อวัวแล้วนำเข้าบ้านเด้ดขาด เพราะเกิดปฏิหารย์กับทุกคนไม่สามารถทานเนื้อวัวได้


    แต่ผมเป็นคนรุ้นใหม่ ไม่ค่อยเชื่อเรื่องเทพเจ้าเท่าไร เน้นหนักไปด้านการปฏิบัติธรรมมากกว่า เช่น สวดมนต์ ไหว้พระ นั่งกรรมฐาน เดินจงกรม ศีล ทาน ภาวนา ซะส่วนใหญ่


    แล้วเกิดเรื่องขึ้นกลับผมครับ



    ผมกลับมาจากการเรียนจากต่างประเทศ ปัจจุบันเปิดบริษัทเป็นของตัวเองครับ



    มีอยู่วันหนึ่งผม......



    สามารถพูดภาษาจีนโบราณได้ ผมหลับตานั่งสมาธิผมสามารถพบเจ้าแม่และองค์เทพอื่นๆๆๆ ได้ และที่สำคัญผมสามารถขึ้นสรรค์และลงนรกได้ แต่เป็นไปทางจีนนะครับที่เห็น แบไทยและแขกไม่เห็น


    เคยไปพิสูจน์ให้อากงแก่ๆๆ ที่เรียนภาษาจีนโบราณมาตั้งแต่เด็กฟัง


    ท่านตกใจมาก บอกว่า มนุษย์ปัจจุบันไม่มีใครสามารถพูดได้เป็นบทสวดพระแต่ละองค์ครับ



    ปัจจุบันผมก็ไม่หายจากการพูดภาษาจีนที่ผมฟังไม่ออก และการเห็นอะไรที่มากมาย



    ผมเบื่อๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆ


    จนเซ็งไปแล้วครับ



    ปัจจุบันปล่อยวางแล้วครับ ไรเกิดก็เกิด



    ปฏิบัติธรรมอย่างเดียวพอครับ หนทางหลุดพ้น



    ปล, เพื่อนคนใดครับที่ญาณพิเศษ สามารถติดต่อผมได้นะครับ ผมอยากรู้เหมือนกันว่าผมเป็นไรกันแน่ๆๆๆ รบกวนด้วยครับ
     
  4. อุมา

    อุมา สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    พระแม่กวนอิม

    ขออนุโมทนาบุญแก่ทุกท่านที่โชคดีได้เห็นพระแม่กวนอิม อยากเห็นบ้างจัง
     
  5. cheriemmanuel

    cheriemmanuel สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +12
    ความฝันเกียวกับพระแม่กวนอิมหลังจา

    ขอร่วมอนุโมทนาสาธุ กะทุกท่านด้วยนะคะ ดิฉันเพิ่งมาเจอเวปนี้ก็วันนี้ค่ะ แต่ก่อนจะชอบฝันเห็นพระแม่บ่อยมาก แต่ว่าไม่เคยฝันเห็นท่านแบบร่างมนุษย์ จะฝันก็แต่องค์ท่านแบบที่เราบูชาทั่ว ๆ ไป
    ความฝันครั้งที่ 1 หลังจากแต่งงาน
    ดิฉันแต่งงานกะชาวฝรั่งเศสและได้มาอยู่กะสามีที่นี่ประมาณ 5เดือนแล้ว ดิฉันฝันเห็นท่านครั้งแรกดิฉันฝันว่าได้เดินไปตามภูเขาและเห็นองค์สิื่่งศักดฺ์มากมายลอยบนท้องฟ้ารอบ ๆ ตัวเอง จากนั้นดิฉันก็ได้ท่องคาถาเชิญเทพ ซึ่งก็น่าแปลกดิฉันเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งนะคะ ไม่ใช่ร่างทรง
    จากนั้นพระแม่กวนอิมก็ได้มาประทับที่ร่างกายและได้ตรัสออกมาเป็นภาษาจีนในความฝัน พอดิฉันพูดภาษาจีนก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเพราะว่า พอตื่นสามีบอกว่าดิฉันนอนบละเมอพูดจีนอยู่คนเดียว

    ความฝันครั้งที่ 2 หลังจากแต่งงาน

    ก่อนหน้าที่จะมีเทศกาลกินเจ ทุก ๆ ปีดิฉันเคยกินเจเพื่อเป็นสิริมงคลแต่ตัวเองและถวายแด่องค์ท่าน ดิฉันเลิกทานเนื้อวัว และ สัตว์ใหญ่ มาประมาณ 12ปีแล้วค่ะ
    ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ หลังจากดิฉันแต่งงานสามีและพ่อแม่เขาก็กินเนื้อวัวน่ะค่ะ และดิฉันก็เป็นแม่บ้านต้องทำอาหารให้สามี ปีนี้ดิฉันเลยอธิษฐานบอกองค์ท่านว่า เนื่องจากว่าลูกอยู่ไกลบ้านไกลเมือง และยังต้องทำหน้าที่แม่บ้าน ลูกขออนุญาตไม่ขอเข้าเจนะคะ คุณเชื่อไหมคะว่าคืนนั้นดิฉันฝันว่าตัวเองได้ไปวัดและนุ่งขาวห่มขาว ไปเฝ้าท่านเจ้าอาวาสวัด ตรงหน้าโบสถ์ที่ดิฉันเข้าไปดิฉันเห็นพระแม่ห่างตัวเองประมาณ 50 เมตรนะคะ กะเอา แต่ว่าตัวเองนั้นไม่ได้ไปเข้าเฝ้าองค์เท่านเลย ท่านมาปรากฏให้เห็นแต่ว่าไม่ได้ไปเห็นพระพักตร์ท่านใกล้ ๆ เสร็จแล้วดิฉันมานั้งทบทวน ท่านคงมาเตือนให้เรากินเจมั้ง เพราะว่าในความฝันตัวเองนุ่งขาวห่มขาว จากนั้นดิฉันเลยอธิษฐานถึงองค์ท่านว่าลุกขอเข้ามังสวิรัติแต่ว่าดิฉันก็งดเว้นกินไข่ และผักต้องห้ามอยุ่ค่ะ ถ้าบอกว่าเข้าเจเดี๋ยวจะเคร่้งเกินไป

    ความฝันครั้งที่ 3
     
  6. cheriemmanuel

    cheriemmanuel สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +12
    ความฝันครั้งที่ 3

    ความฝันครั้งที่ 3 หลังจากบูชาองค์ท่านมาไว้ที่บ้าน

    ตอนอยู่เมืองไทยที่บ้านดิฉันก็มีองค์ท่านอยู่ค่ะแต่ว่าพอดีสามีไม่มีศาสนาก็เลยไม่ได้อัญเชิญมาด้วย แต่พอหลังจากฝันเห็นท่านอีกก็เลยตัดสินใจไปบูชาองค์ท่านมาจากไชน่าทาวน์ วันที่ดิฉันดิฉันไปบูชาท่านดิฉันก็ผิดมากเลยค่ะ พ่อแม่สามีมาเยี่ยมและสามีอยากโชว์อาหารไทยว่าอร่อย ก็เลยพาพ่อแม่สามีไปทานอาหารไทย พอดีว่าพ่อแม่สามีก็สั่ง ยำเนื้อและลาบเนื้อ พ่อแม่บอกอร่อยมาก ท่านก็บอกให้ดิฉันทานด้วย ดิฉันก็ลองทานดู
    คุณทราบไหมคะรุ่งขึ้นอีกวันดิฉันทัองเสียทั้งวันและเวียนหัว คลื่นไส้ และ อ้วกแตก ประมาณ 3ครั้ง ทานยาหยุดถ่ายก็พอทุเลาหมดฤทธิ็ยา อาการก็กลับมาอีก พอวันที่ 2ดิฉันยังถ่ายท้องอีก รู้สึกว่ามันไม่น่าจะ้ท้องเสียจากอาหารเป็นพิษนะ ดิฉันก็นึกถึงองค์ท่าน ก็เลยหาผลไม้ น้ำชา น้ำ จุดธูปขอขมาท่านน่ะค่ะ ว่าดิฉันจะหยุดแต่ดิฉันก็อธิบายว่าเรายังเป็นมนุษย์อยู่ บางครัืงมันก็ยากลำบากน่ะค่ะ ฝรั่งเขาไม่ค่อยเชื่อเรีืองแบบนี้ พ่อแม่สามีถามว่าทำไมแต่ก่อนไม่กินเนื้อ ก็บอกกะท่านไปค่ะ ว่าเราเคยสัญญากะสิ่งศักด์สิทธิ็ที่เรานับถือว่าจะเลิกกินเนื้อวัว บางครั้งเวลาอยู่กะครอบครัวเราก็เกรงใจน่ะค่ะ
    จากนั้นพอขอขมาท่านเสร็จดิฉันก็บอกกะสามีว่า ถ้าพ่อแม่คุณมาอีกถ้าแม่คุณจะทำกับข้้าวจากเนื้อ ฉันจะไม่กินนะ ต้องเข้าใจฉันด้ัวยฉันไม่อยากผิดคำพูด ซึ่งสามีก็เข้าใจค่ะ
    จากนั้น 3วันก่อนประมาณตี 1ของประเทศฝรั่งเศสก็ประมาณ 7โมงเมืองไทยค่ะ
    ในความฝันดิฉันฝันว่าพระแม่ได้เข้ามาประทับร่างของดิฉันเพื่อลงมาปราบ ปอป ดิฉันเป็นคนภาคอีสานค่ะ ที่หมู่บ้านมีหญิงแก่คนหนึ่งเรียนวิชาจนแก่กล้าแต่ว่ารักษาขัอห้ามไม่ได้จึงกลายเป็นปอปเกือบ 20ปีแล้วค่ะ
    ในความฝันของดิฉัน ปอป ตนนั้นยืนอยู่นอกรั้วบ้านไม่สามารถเข้ามาในบริเวณบ้านของดิฉันได้เพราะว่าองค์พระแม่ได้เสด็จลงมา สักพักปอปตนนี้นก็ได้หายตัวไป พอองค์ท่านกลับไป ปอป กลับมาปรากฏกายให้ดิฉันเห็น เขากะว่าจะเข้ามาที่ตัวดิฉัน คุณเชื่อไหมคะ ภาพลาง ๆ ค่อย ๆ เห็นหน้าปอปและยืนอยู่นอกรั้วอีก ดิฉันกลัวมากกลัวปอปเข้าตังเอง ดิฉันวิ่งขึ้นไปบนบ้านตัวเอง เห็นภาพพระแม่แขวนอยู่บนบ้านประมาณ 3ภาพ พอจะลงบันไดก็เห็นเป็นรูปปั้นท่านอีก
    คุณเชืี่อไหมคะ องค์บริวารท่าน กิมท้ง มาประทับร่่างดิฉันและถามหาดาบจะไปปราบปอบ ท่านโมโหมากที่ปอป คิดจะมาทำร้าย ท่านโวยวายเป็นภาษาจีน ดิฉันตกใจตื่นขึ้นมา ทำไมเราฝันเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้ และฝันเห็นปอบด้วย ตัวดิฉันร้อนไำปหมดเลยค่ะ
    ก็เลยตื่นโทรกลับหาแม่ที่เมืองไทยกลางดึก คำถามแรกทีึี่ถามแม่ คือแม่ ๆ ยังแขวนพระที่คอไหม แม่บอกว่าสร้อยแม่หายตอนแม่เข้า รพ หมอให้ถอดออก ดิฉันใจหายหมดเลย ดิฉันบอกว่าฝันร้ายฝันเห็นปอป ไปกวนที่บ้าน แม่บอกว่าเมื่อคืนแม่นอนไม่หลับเลย หมามันเห่าทั้งคืน ดิฉันกังวลใจมากค่ะ ก็เลยบอกแม่ว่า แ่ม่ต้องหาพระมาแขวนที่คอนะ อีกอย่างที่จิงแล้ว ที่บ้านต่างจังหวัดดิฉันคุณพ่อคุณแม่ไม่ไดู้บูชาองค์พระแม่มาไว้ที่บ้าน ดิฉันคิดว่าด้วยความที่ดิฉันคอยสวดมนต์พระคาถาของท่านเป็นประจำ ท่านคงไปปกรักษาคุณพ่อคุณแม่ของดิฉันด้วยน่ะค่ะ
    ดิิฉันเจอเรื่องแปลก ๆ มาเยอะแต่ไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวเขาว่าเราบ้าและเพ้อเจ้อน่ะค่ะ
    ทุกวันนี้แม้อยู่ไกลบ้านเกิดเมืองนอน ก็ยังพยายามที่จะสวดมนต์ภาวนา นั่งสมาธิค่ะ สิ่งศักดิ์ท่านจะได้มาปกปักรักษา
    ขอบคุณค่ะ
    คนไกลบ้าน
     
  7. แผ่นฟ้า

    แผ่นฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +428
    โมทนาด้วย เจ้าค่ะ
     
  8. แหวนหมั้น

    แหวนหมั้น Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +29
    ดิฉันเองก็เคยฝันถึงเจ้าแม่กวนอิมท่านค่ะ เมื่อ 6 ที่แล้วดิฉันได้มีโอกาสไปอาศัยอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ได้ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่วัดบนเขาปีนัง และอีกหลายๆที่ ตอนอยู่ปีนังยังม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น จนกลับมาเมืองไทย ได้ 3-4 เดือน ก็เริ่มที่จะฝันเห็นเจ้าแม่กวนอิม มาหา ท่านไม่ได้พูดอะไร นอกจากจะยิ้ม บางคืนก็ฝันว่าท่านยื่นของมาใส่มือให้ และดิฉันก็รับเอา และอีกหลายๆคืนที่ฝันถึงท่าน บางคืนฝันเห็นตัวเองก้มกราบรูปปั้นเจ้าแม่อยู่ที่วัดบนเขาปีนัง ประเทศมาเลเซีย ดิฉันเองก็ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมความฝันถึงมีเจ้าแม่กวนอิมมาอยู่ด้วย เกือบจะทุกคืนเลยล่ะค่ะ ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ใช่คนเคร่งครัดทางศาสนาอะไรมากมาย ฝันอยู่แบบนี้เป็นเวลาร่วม 3 เดือนเต็มๆ จนกระทั่ง คืนหนึ่งดิฉันได้ฝันว่า ตัวเองกำลังจะออกไปข้างนอก แล้วเดินลงมาจากชั้นบนเพื่อที่จะหารองเท้าใส่ แต่มือควานไปทำรูปปั้นเจ้าแม่หล่นแตกกระจาย คุณๆเชื่อไหมคะ หลังจากนั้น 1อาทิตย์ ดิฉันก็ได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ นอน รพ.ร่วมเดือน ทั้งๆที่รู้ตัวว่าท่านมาเตือน และดิฉันก็คิดว่าระวังตัวเป็นอย่างดีแล้ว ช่วงที่นอนรักษาตัวที่ รพ.ดิฉันไม่เคยฝันเห็นเลย จนกระทั่ง คืนสุดท้าย ก่อน ออกจาก รพ. ดิฉันได้ฝันว่า ในคอมีสร้อยทองเส้นใหญ่และมีจี้รูปเจ้าแม่กวนอิมและนางกวักห้อยอยู่ นั่นคือคืนสุดท้ายที่ดิฉันได้ฝันถึงท่านค่ะ เป็นความฝันต่อเนื่องเป็นเวลานาน(3เดือน) ซึ่งก็ยังคงไม่เข้าใจจนกระทั่งทุกวันนี้ ว่าทำไมถึงได้ฝันเห็นเจ้าแม่กวนอิม และ ทำไมเด๋วนี้ถึงไม่เคยฝันเห็นท่านอีกเลย ลืมบอกไปค่ะ ก่อนหน้าที่จะฝันเห็นเจ้าแม่กวนอิม ดิฉันก็ยังคงทานเนื้อเป็นปกติ มาเลิกทานเนื้อนับถือเจ้าแม่จริงๆจังๆก็ตอนออกจากโรงพยาบาลแล้วค่ะ เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนๆและคนรู้จักฟัง เขาก็เฉยๆกัน เลยไม่ได้กระจ่างใจอะไรเลย วานผู้รู้ช่วยตอบทีค่ะว่าทำไม ครั้งหนึ่งดิฉันถึงได้ฝันเห็นเจ้าแม่กวนอิมเกือบจะทุกคืน

    ขอบคุณมากๆค่ะ สบายใจจังเลยที่ได้ระบายเล่าเรื่องราวที่ตัวเองได้ประสบมาให้ท่านอื่นๆรับรู้ด้วย
     
  9. แหวนหมั้น

    แหวนหมั้น Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +29
    ดิฉันเองก็เคยฝันถึงเจ้าแม่กวนอิมท่านค่ะ เมื่อ 6 ที่แล้วดิฉันได้มีโอกาสไปอาศัยอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ได้ไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่วัดบนเขาปีนัง และอีกหลายๆที่ ตอนอยู่ปีนังยังม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น จนกลับมาเมืองไทย ได้ 3-4 เดือน ก็เริ่มที่จะฝันเห็นเจ้าแม่กวนอิม มาหา ท่านไม่ได้พูดอะไร นอกจากจะยิ้ม บางคืนก็ฝันว่าท่านยื่นของมาใส่มือให้ และดิฉันก็รับเอา และอีกหลายๆคืนที่ฝันถึงท่าน บางคืนฝันเห็นตัวเองก้มกราบรูปปั้นเจ้าแม่อยู่ที่วัดบนเขาปีนัง ประเทศมาเลเซีย ดิฉันเองก็ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมความฝันถึงมีเจ้าแม่กวนอิมมาอยู่ด้วย เกือบจะทุกคืนเลยล่ะค่ะ ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ใช่คนเคร่งครัดทางศาสนาอะไรมากมาย ฝันอยู่แบบนี้เป็นเวลาร่วม 3 เดือนเต็มๆ จนกระทั่ง คืนหนึ่งดิฉันได้ฝันว่า ตัวเองกำลังจะออกไปข้างนอก แล้วเดินลงมาจากชั้นบนเพื่อที่จะหารองเท้าใส่ แต่มือควานไปทำรูปปั้นเจ้าแม่หล่นแตกกระจาย คุณๆเชื่อไหมคะ หลังจากนั้น 1อาทิตย์ ดิฉันก็ได้รับอุบัติเหตุทางรถยนต์ นอน รพ.ร่วมเดือน ทั้งๆที่รู้ตัวว่าท่านมาเตือน และดิฉันก็คิดว่าระวังตัวเป็นอย่างดีแล้ว ช่วงที่นอนรักษาตัวที่ รพ.ดิฉันไม่เคยฝันเห็นเลย จนกระทั่ง คืนสุดท้าย ก่อน ออกจาก รพ. ดิฉันได้ฝันว่า ในคอมีสร้อยทองเส้นใหญ่และมีจี้รูปเจ้าแม่กวนอิมและนางกวักห้อยอยู่ นั่นคือคืนสุดท้ายที่ดิฉันได้ฝันถึงท่านค่ะ เป็นความฝันต่อเนื่องเป็นเวลานาน(3เดือน) ซึ่งก็ยังคงไม่เข้าใจจนกระทั่งทุกวันนี้ ว่าทำไมถึงได้ฝันเห็นเจ้าแม่กวนอิม และ ทำไมเด๋วนี้ถึงไม่เคยฝันเห็นท่านอีกเลย ลืมบอกไปค่ะ ก่อนหน้าที่จะฝันเห็นเจ้าแม่กวนอิม ดิฉันก็ยังคงทานเนื้อเป็นปกติ มาเลิกทานเนื้อนับถือเจ้าแม่จริงๆจังๆก็ตอนออกจากโรงพยาบาลแล้วค่ะ เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนๆและคนรู้จักฟัง เขาก็เฉยๆกัน เลยไม่ได้กระจ่างใจอะไรเลย วานผู้รู้ช่วยตอบทีค่ะว่าทำไม ครั้งหนึ่งดิฉันถึงได้ฝันเห็นเจ้าแม่กวนอิมเกือบจะทุกคืน

    ขอบคุณมากๆค่ะ สบายใจจังเลยที่ได้ระบายเล่าเรื่องราวที่ตัวเองได้ประสบมาให้ท่านอื่นๆรับรู้ด้วย
     
  10. คุณมณฑ์

    คุณมณฑ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +50
    ขออนุโมทนา กับทุกๆท่าน ด้วยน่ะค่ะ

    เมื่อไม่กีวัน ดิฉัน ก็ฝันเห็นเต่า อีกแล้ว แต่เป็นเต่า ที่แปลก มาก รูปร่าง เขาจะคล้ายๆ สี่เหลี่ยม เขาค่อยๆคลาน มา และ เอา ปาก มางับที่ ขา ท่าทาง เขาน่ารัก น่าเอ็นดู เชียว และ ตอนที่ เขางับ ที่ขา ดิฉัน เหมือน เขา อยาก จะพูด อะไร แต่ พูดไม่ได้ อีกแล้ว ดิฉัน ก็เดาๆ ว่า จะไปซื้อ ลอตเตอรี่ 045 415 455 545 อะไรทำนองนี้แหละ ค่ะ เอามาเล่า ให้ฟังเฉยๆ น่ะค่ะ ห้ามงมงาย ตอนที่ ฝัน เห็นพระแม่ ก็มีโชค จาก ท่าน เหมือนกันค่ะ

    ดิฉัน เข้า มาใหม่ ใช้ชื่อ คุณ มณฑ์ น่ะค่ะ แต่ก็เป็น คนๆเดียวกัน กับ คุณ ปมณฑ์ค่ะ

    ดิฉันจะเปิดสอนโหราศาสตร์ไทย และ ไพ่ ยิปซี เป็น วิทยาทาน น่ะค่ะ จะเปิด สอนช่วง หลัง มีนาคม น่ะค่ะ เดือน นั้น มีอะไร เปลี่ยนแปลง เยอะ ค่ะ ดาว 0 ก็ยกวัน ที่ 2 มีนาคม เป็นดาวใหญ่ ซึ่ง เขาจะอยู่ ตำแหน่งนั้น ถึง 7 ปี และ เป็นช่วง ที่ถึงเวลา ที่ดิฉัน จะต้อง เป็นผู้สอน และ วันที่ 6 มีนาคม ก็วันเกิดดิฉัน อายุ 45 ปี และ วันเกิด พระแม่ กวนอิม ก็เป็น วันที่ 15 มีนาคม เช่นกันค่ะ ก็เลย ถือเป็น ฤกษ์ งามยามดี ในการสอน ไปด้วยเลยค่ะ สนใจติดต่ สอบถามได้น่ะค่ะ 08-6086-9045 หรือ จะสนทนา ในด้านธรรมะ แลกเปลี่ยนกัน ก็ยินดีน่ะค่ะ

     
  11. คุณมณฑ์

    คุณมณฑ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +50
    ลูกขอตั้งจิตอธิษฐาน และ ขอพรจากพระองค์ ท่าน ขอให้ท่าน ทุกผู้ ทุกนาม ที่ศรัทธาใน พระองค์ท่าน ขอจงได้รับพระเมตตาจากพระองค์ท่าน ขอให้ ทุกๆ ได้รับบุญ กุศล เป็นผู้ ที่มีความบริสุทธิ์ มีความสุข ทั้งกายและใจ และ ขอให้แคล้วคลาด จาก ภัย อันตราย ทั้งปวง ด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

    ดิฉันไม่ใช่ร่างทรง น่ะค่ะ แต่ทุกครั้ง ที่ได้ สวดมนต์ คาถา ของท่าน ทุกๆบท จะรู้สึกใจสบาย และ เป็นสุข โล่ง ไปทั้งตัว ดิฉัน ก็ได้ แต่ขอพร ให้ทุกๆท่าน ได้ รับ เช่นเดียวกันค่ะ ดิฉัน ไม่สามารถ บอกได้ ว่า เป็นสุข อย่างไรค่ะ แต่ ทำให้ ดิฉัน ยืน อยู่ บนผืนดินนี้ อย่าง มีความสุข ทั้ง กาย และ ใจ จริง ถึง จะถูกกล่าวหา ว่า ร้ายอย่างไร ก็ยัง เป็นสุข เพราะ เรา เป็นผู้รู้ ว่า เราทำอะไรลงไปบ้าง ท่านจึง ประทาน ความสุข ให้ ดิฉัน ได้รับ จริงๆ ค่ะ
     
  12. คุณมณฑ์

    คุณมณฑ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +50
    <CENTER>[​IMG]
    ป๋ายอีกวนสี่อิมผ่อสัด แรม ๒๕ ค่ำ เดือน ๘ จีน
    </CENTER><CENTER>
    [​IMG]
    ไต่กามเหล็งกวงสี่อิมผ่อสัด แรม ๒๑ ค่ำ เดือน ๖ จีน
    [​IMG]
    อีกั๋วกวนสี่อิมผ่อสัด แรม ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ จีน
    </CENTER><CENTER>[​IMG]
    ตี๋จั้งกวนสี่อิมผ่อสัด แรม ๒ ค่ำ เดือน ๘ จีน
    [​IMG]
    เซี่ยวกางกวนสี่อิมผ่อสัด แรม ๒ ค่ำ เดือน ๗ จีน
    [​IMG]
    เซี่ยวไจ้กวนสี่อิมผ่อสัด แรม ๙ ค่ำ เดือน ๗ จีน
    </CENTER><CENTER>[​IMG]
    ไต่ซวยกวนสี่อิมผ่อสัด แรม ๕ ค่ำเดือน ๑๒ จีน
    [​IMG]
    เป็กก้าวท่องจูกวนสี่อิมผ่อสัด แรม ๖ ค่ำ เดือน ๘ จีน
    ไต้หวัน แรม ๒๑ ค่ำ เดือน ๖ จีน


    [​IMG]
    ไต่ซามเซงกวนสี่อิมผ่อสัด แรม ๙ ค่ำ เดือน ๕ จีน
    </CENTER><CENTER>[​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    </CENTER><CENTER>[​IMG][​IMG]
    [​IMG]
    </CENTER>[​IMG][​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG][​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG][​IMG]


    <CENTER>[​IMG][​IMG]
    [​IMG]
    </CENTER><CENTER>[​IMG][​IMG]
    [​IMG]
    </CENTER><CENTER>[​IMG]
    [​IMG][​IMG]
    </CENTER><CENTER>[​IMG]
    [​IMG][​IMG]
    </CENTER>
     
  13. คุณมณฑ์

    คุณมณฑ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +50
    [​IMG]
    ความเมตตาจากพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์


    ความเมตตาจากพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์
    โอม นำโม ออ นี ถ่อ ฮุก (หรือ อา มี ทอ ฝอ) ขอบูชาพระอมิตตาพุทธเจ้า
    โอม นำโม กวน ซี อิม ผ่อ สัก (หรือ โอม มณี เปมา ฮูง เป็นภาษาธิเบต)


    ขอบูชาพระอวโลกิเตศวรพระโพธิสัตว์กวนอิมเจ้า หลายคนที่เกิดมาในโลกนี้ ยังหาคำตอบให้กับตนเองไม่ได้ว่า ที่แท้จริงพวกเราทั้งหลายเกิดมาเพื่ออะไรไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ ล้วนหาคำตอบให้ตนเองไม่ได้ ประสพกับความสับสนวุ่นวายในการดำรงชีวิตตลอดเวลา ท่านที่ทุกข์น้อยก็ว่าสุขแล้ว พอทุกข์เพิ่มขึ้นก็รู้สึกทุกข์อย่างเหลือประมาณจนแทบจะสิ้นใจ ทุรนทุรายพยายามค้นหาวิธีที่จะหนีความทุกข์นั้น ก็แล้วแต่ว่าใครจะได้รับทุกข์แบบไหน คนจนก็ทุกข์แบบหนึ่ง คนที่มีฐานะปานกลางก็ทุกข์แบบหนึ่ง คนที่มั่งมีพรั่งพร้อมก็ทุกข์แบบหนึ่ง ไม่เห็นมีใครไม่มีทุกข์นอกจากมีทุกข์แล้วยังนิยมการเสาะแสวงหาความทุกข์มาใส่ตัวเพิ่มขึ้นทั้งที่รู้สึกตัวและไม่รู้สึกตัว ที่กล่าวนี้มิได้หมายถึงความทุกข์ที่เกิดจากสถาพบังคับทางธรรมชาติ คือ เกิด แก่ เจ็บ และตายเท่านั้น แต่หมายถึงการเสาะแสวงหาความทุกข์ประเภทสนองความต้องการความสุขทางใจ-ทางกายทุกประเภทด้วย อันเกิดจากตัณหาอุปทานทั้งปวง เพราะจิดใต้สำนึกแห่งความกลัวที่หลบซ่อนอยู่ภายในจิตใจเช่น กลัวความยากจน กลัวความผิดหวัง กลัวความล้มเหลว ฯลฯ กลัวแก่และกลัวตายความจริงแล้วสันชาติญาณของความกลัวแตกแยกย่อยออกไปอีกมากมาย ยิ่งกลัวมากยิ่งหาสิ่งมาสนองกิเลสมากเพื่อปกป้องตนเอง เพื่อเป็นการปลอบประโลมใจว่าสิ่งที่กลัวจะไม่เกิดขึ้น สมหวังก็ดีไป แต่ถ้าไม่สมหวังยิ่งทุกข์หนักเข้าไปอีก พอทุกข์มากครั้งทุกข์บ่อยๆจนเกิดเป็นความเคยชินอย่างจิตไร้สำนึก อารมณ์นั้นก็ฝังรากลึกจนเป็นจิตใต้สำนึกกันไปเลยทีเดียว เกิดเป็นการบ่มเพาะกลายเป็นสันดานจนกลมกลืนเหมือนเป็นธรรมชาติ หมักหมมทวีคูณทุกภพทุกชาตินับชาติกันไม่หวาดไม่ไหว บางคนสะสมความดีจนเคยชินตามที่กล่าวมาข้างต้น บางคนสะสมความชั่วจนเคยชินเช่นกัน กรรมแสดงผลออกมาเป็นตัวตนตามภพชาติที่ไปกำเนิดนั้นๆ นี่แหละคือเหตุผลว่า เกิดมาทำไม เกิดมาแลัวต้องทำอะไร และไม่ควรทำอะไร สุดท้ายจะหยุดเกิดได้อย่างไร ถ้าเราตั้งสติให้ดีค่อยๆ ลำดับภาพชีวิต จะค้นพบสัจธรรมบางอย่าง ยกเว้นเราไม่เคยให้ความละเอียดปราณีตและมอบความเมตตาให้กับชีวิตของตนเอง มีแต่คิดว่าได้เกิดมาทั้งทีรีบหาผลประโยชน์ใส่ตัวให้มากที่สุด จริงๆแล้วเราเกิดมาทำไม? ข้าพเจ้าคิดว่า เพื่อค้นหาข้อบกพร่องทางจิตวิญญาณ เพื่อสร้างกรรมใหม่ (การละเลยการสร้างความดีมาตลอดเวลาอันยาวนานของการเวียนว่ายตายเกิด) และแก้ไขสิ่งที่ผิด (บาปที่เคยทำมา) รีบหาหนทางไปสู่ทางสว่าง สะอาด สงบ เป็นมหาปัญญาอันเลิศ คือการหลุดพ้นจากกงล้อแห่งวัฎจักร วัฎสงสาร คือ เข้าสู่นิพพานเป็นสิ่งปราถนาสูงสุดของทุกดวงจิต
    ถ้าท่านศึกษาทางธรรมมาไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตาม สิ่งที่พอจะสรุปได้คือ ธรรมะ นั้นมุ่งเน้นให้สรรพสัตว์ทั้งหลายอยู่ได้อย่างสงบเย็น ไม่ร้อนรุ่มอันเนื่องมาจากการถูกเพลิงกิเลสตัณหาเผากาย ใจ ตะเกียกตะกายหาวิธีดับไฟกิเลสนั้นอย่างคนหูหนวก ตาบอด และใจแคบ เช่น การดิ้นรนเรื่อง ปากท้อง ชื่อเสียง เกียรติยศ ความรัก ความใคร่ ความไม่รู้จักพอ โดยอ้างถึงสังคมรอบข้างโทษว่าเป็นความผิดของคนอื่น แต่ไม่เคยมองตนเองว่าทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นที่ใจเรา นั่นคือ ตอบสนองความอยาก-ความต้องการ ปกป้องตนเองให้พ้นจากความขาดที่เติมไม่เคยเต็ม เป็นนิสัยเคยชินจนกลายเป็นขันธสันดานของตนเอง พยายามหาวิธีทำอย่างไรให้ตนเดินนำหน้าคนอื่นหรืออย่างน้อยยืนเสมอคนอื่น ลืมคิดไปว่า ตนเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งแห่งตน ไม่ต้องเทียบกับใคร สุขใจจริงกว่า
    ลองมาคิดทบทวนสิ่งนี้ดูสักตัวอย่างเช่น ความต้องการมีทรัพย์และการมีหน้าตาทางสังคม (ขอกล่าวเพียงสั้นๆให้ได้ใจความ) คุณแสวงหาทรัพย์เพื่ออะไรเพื่อข้าวปลาอาหาร ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม..........หลังจากนี้เป็นความต้องการทางใจ ของที่ได้มาต้องดีกว่า เด่นกว่า ลูกหรือคนรักของตนต้องเหนือกว่า บ้านต้องหลังใหญ่กว่า รถยนต์ต้องหรูหราราคาแพงกว่า อาหารต้องวิจิตรปราณีตกว่า และบางคนในสังคมมีมากกว่านั้นเช่น แก้วแหวนเงินทองเครื่องประดับต่างๆ รวมไปถึงความฟุ้งเฟ้อในยุคปัจจุบันอาทิ โทรทัศน์จอยักษ์ โทรศัพท์มือถือสารพัดประโยชน์มั้ง? บัตรดีใจจังเป็นหนี้แล้ว! (บัตรเครดิต) เป็นต้น รวมไปถึงการสนองกิเสสแบบน่าอัศจรรย์ใจในคนบางจำพวก เช่น พวกมีเทพรักษา มีองค์คุ้มครอง ไม่ได้บอกว่าท่านไม่มีจริง และไม่ได้ยืนยันว่าท่านมีจริง เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องความเชื่อและประสพการณ์ตรงของแต่ละคน แต่ที่พบเห็นเสมอคือแต่ละคนมักกล่าวว่าเทพของตนยิ่งใหญ่กว่า แน่กว่า แรงกว่า (เรียกว่าองค์เล็กไม่ได้เดี๋ยวหาว่ากระจอกต้องระดับมหาเทพเท่านั้น เฮ่อ!) ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ผู้คนส่วนมากมักเป็นเช่นนี้ ยกเว้นพระอรหันต์ พระอริยะ หรืออริยะบุคคลเท่านั้นที่รู้ทันกลเกมแห่งกรรมและการหลุดพ้นจากกลไกแห่งกรรม มีอยู่อย่างหนึ่งพอจะยกให้ท่านคิดตามได้ เช่น พระธุดงค์ หรือพระสายธรรมยุต มีกฎว่า เมื่อรับบาตรมาแล้ว ให้ฉันในบาตร และต้องสำรวมกาย วาจา ใจ ไม่ให้มอง ลอบมอง ชำเลืองมองไปที่บาตรและอาหารของพระองค์อื่น เพื่ออะไรขอให้ท่านลองพิจารณาเอง ตัวอย่างง่ายๆ นี้ ถ้าเป็นเราๆ ท่านๆ ลองนำไปใช้บ้างกับการดำเนินชีวิต คิดว่าคงได้ประโยชน์มหาศาล กับโลกนี้ทั้งใบ เพราะทุกคนจะรู้จักคำว่า “พอเพียง อย่างเพียงพอ” ของแท้และของจริง! แต่เราท่านมีนิสัยเคยชินคือ ชอบแอบมอง แอบคิด แอบทำ ชอบเปรียบเทียบนั่นจึงทำให้เกิดเป็น ความอยาก ต้นเหตุแห่งกิเลสทั้งปวง เมื่อแอบบ่อยๆ มันก็เต็ม เหมือนน้ำเต็มแก้วก็ต้องล้นออกมา เป็นการกระทำอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อสนองความต้องการ เมื่อทำบ่อยๆก็เคยชินจนไม่ต้องแอบอีกต่อไป สืบทอดเป็น DNA และวัฒนะธรรมว่า ผู้ใดมีมากกว่า(ในทุกด้านแล้วแต่บุคคล) ผู้นั้น เด่น ดัง น่านับถือ น่าเป็นตัวอย่างแก่คนรุ่นหลัง จนแยกไม่ค่อยออกแล้วว่าควรทำตามเรื่องอะไรบ้าง และอะไรไม่ควรทำตาม เพราะค่านิยมที่ว่า มีมาก เด่นมาก ดังมาก จึงเป็นบุคคคลที่ควรยกไว้แถวหน้า ด้านหน้า หัวหน้า(ใคร่ครวญให้จงหนัก เน้อ!) คุณควรสำรวจตัวเองได้แล้วว่า อะไรควรทำให้ชิน อะไรควรเลิกกับความเคยชินนั้น แล้วลงมือขัดเกลา-เจียรไนเพชรในใจของเราทุกคนให้ส่งประกายสดใสดังดาวประกายพฤกกันตั้งแต่บัดนี้เถิด รักท่าน รักธรรมะ รักความสงบเย็น รักที่จะเป็นมิตรแท้ รักมนุษย์-สัตว์และรักโลกใบน้อยนี้ รักที่จะเป็นผู้รับใช้เบื้องบนพระผู้เป็นเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ โอม มณี เปมา ฮูง โอม มณี เปมา ฮูง โอม มณี เปมา ฮูง / อามี ทอ ฝอ ฮุก และสุดท้ายเราทุกคนควรรักตัวเองอย่างถูกต้องถูกควร พร้อมทั้งมอบความรักให้กับเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตายและถนอมโลกใบนี้ไว้ให้ดีที่สุด ลองหันไปทบทวนดูว่าเรารักตัวเองจริงหรือเปล่า เช่น รักตัวเองแต่เล่นการพนัน รักตัวเองแต่ยังสูบบุหรี่เล่นยา กินเหล้า เที่ยวกลางคืน รักตัวเองแต่นิยมการสร้างศัตรูชอบว่ากล่าว ปองร้าย และมุ่งร้ายผู้อื่น รักตัวเองแต่ยังทำร้ายคนที่เรารัก สามี ภรรยา บุตรของตน และรักตัวเองแต่ยังแต่ละโมบโลภมากโกงกินแผ่นดิน ยุแหย่ให้เกิดความแตกแยกในครอบครัวและหรือประเทศชาติ ถ้ารักตัวเองจริง ต้องโอบอ้อมอารี ผูกมิตร เมตตา กรุณา ปราณี ปราถนาดีพร้อมเสียสละและให้การช่วยเหลือผู้อื่น ทั้งคนและสัตว์ ซื่อสัตย์จงรักภัคดีต่อประเทศชาติ ซื่อสัตย์ต่อตนเอง และซื่อสัตย์กับคนที่ตนรักนี่เขาเรียกว่ารักแท้ รักนิรันดร รักบริสุทธิ์ รักแบบผู้ให้อย่างแท้จริง ไม่แม้แต่จะคิดกระทำการใดๆที่จะทำให้ตนเองหรือคนรักของตนและบุคคลอื่นใดก็ตามต้องตกระกำลำบาก ไม่ว่าจะเป็นทางกาย หรือทางใจก็ตาม ศรัทธาการทำความดีศรัทธาที่จะละเว้นความชั่วทั้งปวง (ไม่ก่อกรรมทำเวรกับใคร หากกระทำเช่นนี้ แม้กรรมเก่ามีก็ได้รับการอโหสิเพราะเจ้ากรรมนายเวรอนุโมทนาบุญกับท่าน รับรองชีวิตของท่านจะเจริญรุ่งเรืองและร่มเย็นแบบทันตาเห็น)

    โอม มณี เปมา ฮูง โอม มณี เปมา ฮูง โอม มณี เปมา ฮูง / นำโม อามี ทอ ฝอ ฮุก
     
  14. คุณมณฑ์

    คุณมณฑ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +50
    คำ ส ว ด ม ห า ก รุ ณ า ธ า ร ณี สู ต ร

    นำ มอ ฮอ ลา ตัน นอ ตอ ลา เหย่ เย • นำ มอ ออ ลี เย •
    ผ่อ ลู กิด ตี ซอ ปอ ลา เย • ผู่ ที สัต ตอ พอ เย
    • หม่อ ฮอ สัต ตอ พอ เย • หม่อ ฮอ เกีย ลู นี เกีย เย
    • งัน • สัต พัน ลา ฮัว อี • ซู ตัน นอ ตัน เซ
    • นำ มอ สิด กิด ลี ตอ อี หม่ง ออ ลี เย
    • ผ่อ ลู กิด ตี สิด ฮู ลา เลง ถ่อ พอ • นำ มอ นอ ลา กิน ซี
    • ซี ลี หม่อ ฮอ พัน ตอ ซา เม • สะ พอ ออ ทอ เตา ซี พง
    • ออ ซี เย็น • สะ พอ สะ ตอ นอ มอ พอ สะ ตอ นะ มอ พอ เค
    • มอ ฮัว เตอ เตา • ตัน จิต ทอ • งัน ออ พอ ลู ซี • ลู เกีย ตี
    • เกีย ลอ ตี • อี ซี ลี • หม่อ ฮอ ผู่ ที สัต ตอ • สัต พอ สัต พอ
    • มอ ลา มอ ลา • มอ ซี มอ ซี ลี ทอ ยิน • กี ลู กี ลู กิด มง
    • ตู ลู ตู ลู ฟา เซ เย ตี • หม่อ ฮอ ฮัว เซ เย ตี • ทอ ลา ทอ ลา
    • ตี ลี นี • สิด ฮู ลา เย • เจ ลา เจ ลา • มอ มอ ฮัว มอ ลา
    • หมก ตี ลี • อี ซี อี ซี • สิด นอ สิด นอ • ออ ลา ซัน ฮู ลา เซ ลี
    • ฮัว ซอ ฮัว ซัน • ฮู ลา เซ เย • ฮู ลู ฮู ลู มอ ลา • ฮู ลู ฮู ลู ซี ลี
    • ซอ ลา ซอ ลา • สิด ลี สิด ลี • ซู ลู ซู ลู • ผู่ ถี่ เย ผู่ ถี่ เย
    • ผู่ ถ่อ เย ผู่ ถ่อ เย • มี ตี ลี เย • นอ ลา กิน ซี • ตี ลี สิด นี นอ
    • ผ่อ เย มอ นอ • ซอ ผ่อ ฮอ • สิด ถ่อ เย •หม่อ ฮอ สิด ถ่อ เย
    • ซอ ผ่อ ฮอ • สิด ทอ ยี อี • สิด พัน ลา เย • ซอ ผ่อ ฮอ
    • นอ ลา กิน ซี • ซอ ผ่อ ฮอ • มอ ลา นอ ลา • ซอ ผ่อ ฮอ
    • สิด ลา เซง ออ หมก เค เย • ซอ ผ่อ ฮอ • ซอ ผ่อ หม่อ ฮอ ออ สิด ถ่อ เย
    • ซอ ผ่อ ฮอ • เจ กิด ลา ออ สิด ถ่อ เย • ซอ ผ่อ ฮอ • ปอ ทอ มอ กิด สิด ถ่อ เย
    • ซอ ผ่อ ฮอ • นอ ลา กิน ซี พัน เค ลา เย • ซอ ผ่อ ฮอ • มอ พอ ลี เซง กิด ลา เย
    • ซอ ผ่อ ฮอ • นำ มอ ห่อ ลา ตัน นอ ตอ ลา เย เย • นำ มอ ออ ลี เย • ผ่อ ลู กิต ตี
    • ชอ พัน ลา เย • ซอ ผ่อ ฮอ • งัน สิด ติน ตู • มัน ตอ ลา • ปัด ถ่อ เย • ซอ ผ่อ ฮอ

    ....................................................................................................

    มนต์บทนี้ผูกเป็นคาถา 84 ประโยค มีคำแปลดังนี้

    ๑. นำ มอ ฮอ ลา ตัน นอ ตอ ลา เหย่ เย
    นำ มอ - ความนอบน้อม
    ฮอ ลา ตันนอ - ความเป็นรัตนะ
    ตอ ลา เหย่ - 3
    เย - นมัสการ
    ขอนอบน้อมนมัสการพระไตรรัตน์ทั้งสาม
    หมายถึง..การน้อมเอาพระไตรสรณคมน์, พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึก
    ผู้ต้องการปฏิบัติให้ถึงพระองค์จะต้องสาธยายมนตราด้วยความมีเมตตากรุณา และเปี่ยมด้วยศรัทธา
    ไม่ควรสวดด้วยเสียงอันดัง เกรี้ยวกราด และเร่งร้อน

    ๒. นำ มอ ออ ลี เย
    นำ มอ - ความนอบน้อม
    ออ ลี - องค์อริยะ
    เย - นมัสการ
    ขอนอบน้อมนมัสการแด่องค์พระอริยะ ผู้ห่างไกลจากบาปอกุศล
    วัตถุประสงค์แห่งบทนี้... พระโพธิสัตว์ทรงสั่งสอนชาวโลกให้ปฏิบัติทางจิตเป็นมูลฐาน พระสัทธรรมทั้งหลายล้วนกำเนิดมาแต่จิต
    เหตุนี้ผู้ปฏิบัติจะต้องมีความชัดแจ้งแห่งจิต และมองเห็นสภาวะแห่งตน จึงจะสามารถบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ
    เมื่อไม่แจ้งชัดในจิตก็ไม่สามารถเห็นสภาวะแห่งตน หากแต่จิตเป็นอจล มีความมั่นคง ก็สามารถเดินทางสู่พระนฤพานได้

    ๓. ผ่อ ลู กิด ตี ซอ ปอ ลา เย
    ผ่อ ลู กิด ตี - การเพ่ง พิจารณา อีกนัยหนึ่งคือความสว่าง
    ซอ ปอ ลา - เสียงของโลกอันเป็นอิสระ
    เย - นอบน้อมนมัสการ
    ขอนอบน้อมคารวะแด่องค์พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ผู้เพ่งเสียงแห่งสรรพสัตว์ผู้ยาก
    พระโพธิสัตว์ผู้สงสารชีวิตแห่งสรรพสัตว์ผู้ตกอยู่ในกองทุกข์
    เขาเหล่านั้นล้วนมีความทุกข์อันเกิดจากการหลงลืมสภาวะเดิมของตน
    จำต้องเวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ พระองค์พิจารณาตามนี้ จึงเกิดเมตตาจิตที่จะโปรดสัตว์

    ๔. ผู่ ที สัต ตอ พอ เย
    ผู่ ที (โพธิ) - ตรัสรู้
    สัต ตอ (สัตว์) - การมีชีวิต อารมณ์
    พอเย - น้อมคารวะ
    ขอนอบน้อมคารวะต่อผู้ให้ความตรัสรู้แก่ทุกชีวิต
    หากตั้งใจในธรรม นอบน้อมต่อความแจ้งในสภาวะเดิม ก็จะถึงความหลุดพ้น...

    ๕. หม่อ ฮอ สัต ตอ พอ เย
    หม่อ ฮอ - ใหญ่มาก
    สัต ตอ - สัตว์โลก หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึง ผู้กล้าหาญ
    พอ เย - น้อมคารวะ
    เมื่อน้อมคารวะผู้กล้าหาญก็มีโอกาสที่จะหลุดพ้น มวลสรรพสัตว์ในโลกอันไพศาล
    ถ้ารู้สึกตัวแล้วลงมือปฏิบัติ ล้วนถึงความหลุดพ้นได้

    ๖. หม่อ ฮอ เกีย ลู นี เกีย เย
    หม่อ ฮอ -ใหญ่มาก
    เกีย ลู - กรุณา
    นี เกีย - จิต
    เย - คารวะ
    ขอนอบน้อมคารวะต่อผู้มีมหากรุณาจิต

    ๗. งัน
    งัน (โอม) - นอบน้อม
    ขอนอบน้อม บูชาถวาย
    พระโพธิสัตว์เป็นผู้มีความเมตตากรุณาไม่มีประมาณ นำสัทธรรมอันเป็นความดับสูญโดยแท้จริง
    ปลุกให้มนุษย์ฟื้นคืนสภาวะเดิมที่มีอยู่ เข้าถึงสัทธรรมอันบริสุทธิ์

    ๘. สัต พัน ลา ฮัว อี
    สัต พัน ลา - อิสระ
    ฮัว อี - อริยะ
    องค์อริยะผู้อิสระ ผู้มีกายใจอันบริสุทธิ์สะอาด
    กาย ใจ จะบริสุทธิ์ได้ ต้องตั้งอยู่ในสัจธรรม ปฏิบัติตนอยู่ในศีล

    ๙. ซู ตัน นอ ตัน เซ
    การปฏิบัติธรรมต้องถือความสัจเป็นพื้นฐาน ใช้ความเพียรเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุสู่อริยสัจ
    หากการปฏิบัติธรรมไม่ประกอบด้วยความสัจ ก็จะไม่พบหนทางสู่ความสำเร็จ
    เนื่องจากความสัจนั้นเป็นธรรมที่ปราศจากการหลอกลวง จิตจึงรวมเป็นหนึ่งได้
    เมื่อมีความสัจ ก็จะมีความเข้าใจ เมื่อเข้าใจก็จะมองเห็นความปลอดโปร่ง
    เมื่อปลอดโปร่งก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลง และกลับกลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น

    ๑๐. นำ มอ สิด กิด ลี ตอ อี หม่ง ออ ลี เย
    นำ มอ - นอบน้อม
    สิด กิด ลี ตอ อี หม่ง - ผู้ปฏิบัติธรรมย่อมได้รับความคุ้มครองจากพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์
    ออ ลี เย - การปฏิบัติธรรมจะรีบร้อนให้ได้ผลในทันทีย่อมเป็นไปไม่ได้
    ผู้ที่จะน้อบน้อมเข้าถึงองค์อริยะ จำต้องปฏิบัติธรรมโดยมานะพากเพียร มีจิตใจมั่นคงเป็นหนึ่ง
    จะกระทำโดยเร่งรีบไม่ได้ ต้องทำใจให้ว่างเข้าถึงองค์แห่งพระธรรมคัมภีร์
    หมั่นในการปฏิบัติตามหลักธรรม มีความคิดดำริมั่นที่จะก้าวข้ามห้วงแห่งโอฆ
    จะคิดจะกระทำประโยชน์แก่สรรพชีวิต

    ๑๑. ผ่อ ลู กิด ตี สิด ฮู ลา เลง ถ่อ พอ
    ผ่อ ลู กิด ตี - จิตต้องกับธรรม
    สิด ฮู ลา - ท่องเที่ยวไปอย่างอิสระ
    เลง ถ่อ พอ - เนื่องด้วยสำเร็จในมรรคผล
    ผู้ปฏิบัติต้องจงใจมุ่งไปข้างหน้า ฝึกฝนให้กายและจิตรวมเป็นหนึ่ง (เอกัคคตา)

    ๑๒. นำ มอ นอ ลา กิน ซี
    นำ มอ - นอบน้อม
    นอ ลา กิน ซี - การคุ้มครองคนดี นักปราชญ์ นักปฏิบัติ
    ด้วยความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์ ทรงย้ำเตือนให้ยึดถือพระไตรสรณาคมน์
    ต้องปฏิบัติตนอยู่ในมนุษยธรรม ทำตนเป็นตัวอย่างเพื่อให้สาธุชนรุ่นหลังได้รับรู้เป็นแบบอย่างและเจริญรอยตาม
    สาธุชนผู้ปฏิบัติตามพระพุทธองค์และพระธรรมยิ่งต้องมีความเมตตากรุณาจิตและโพธิจิตเพื่อโปรดสัตว์
    รักษาพระธรรมยิ่งกว่าชีวิตและเผื่อแผ่ทั่วไปไม่มีประมาณ

    ๑๓. ซี ลี หม่อ ฮอ พัน ตอ ซา เม
    ซี ลี หม่อ ฮอ - ความเมตตากรุณาอันไพศาล สามารถบำบัดทุกข์บำรุงสุขได้
    พัน ตอ ซา เม - ผู้มีบุญวาสนาจะได้รับการคุ้มครองจากเทพเจ้า มารทั้งหลายไม่สามารถมารบกวนได้
    ...พระโพธิสัตว์เล็งเห็นว่าชาวโลกถือเอาความรวย, มีชื่อเสียง,
    ศักดินา เป็นที่นิยมศรัทธา อันเป็นการเพิ่มพูนความทุกข์
    พระองค์จึงเตือนจิตให้มนุษย์ จงผ่อนใจในทางโลก โน้มน้าวจิตใจมาในทางมรรคผล
    เมื่อจิตว่างแล้ว พระสัทธรรมอันพิสุทธิ์ก็จะเจริญขึ้น

    ๑๔. สะ พอ ออ ทอ เตา ซี พง
    สะ - การได้เห็น
    พอ - เสมอภาค
    ออ - พระสัทธรรมอันบริสุทธิ์
    ทอ เตา ซี พง - ธรรมไม่มีขอบเขต
    ทุกคนที่ปฏิบัติสามารถรู้ได้เห็นได้ และบรรลุสู่พระพุทธภูมิได้โดยเสมอกัน

    ๑๕. ออ ซี เย็น
    ผู้ที่ทำความดีย่อมได้รับการชมเชย ผู้ทำบาปจะต้องสำนึกและขอขมาโทษ

    ๑๖. สะ พอ สะ ตอ นอ มอ พอ สะ ตอ นะ มอ พอ เค
    สะ พอ สะ ตอ - พุทธธรรมอันไม่มีขอบเขตสิ้นสุด สรรพสัตว์ในโลกนี้ล้วนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าได้
    นอ มอ พอ สะ ตอ - พุทธธรรมเป็นความเสมอภาค มิได้แบ่งแยกเป็นสูงหรือต่ำ
    นะ มอ พอ เค - พุทธธรรมมีความไพศาล ผู้ปฏิบัติตามจะสามารถระงับภยันตรายทุกสิ่ง
    ไม่ว่านักปราชญ์หรือผู้โง่เขลา เบาปัญญา คนหรือสัตว์ ล้วนสามารถหลุดพ้นได้ ถ้าเขาเหล่านั้นปฏิบัติธรรมด้วยความสัจ

    ๑๗. มอ ฮัว เตอ เตา
    ผู้ปฏิบัติต้องถือพระสัทธรรมเป็นสูญ ไม่ข้องแวะ ไม่ติดในรูป ไม่ยึดในจิต
    ถือเอาสัจธรรมเป็นใหญ่ และต้องละความวิตกกังวล กำจัดความโกรธ ความโลภ ความหลง
    โดยใช้หลักแห่งปัญญาดับกิเลสให้จิตสงบ เป็นอยู่ในโลกนี้โดยสันติสุข

    ๑๘. ตัน จิต ทอ
    ความศรัทธาจริงอันต่อเนื่องกัน จิตต้องตรงกับพระธรรม ห้ามมิให้มีความคิดทางโลกเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
    ทั้งนี้ เนื่องจากว่าหากปล่อยให้ความคิดทางโลก เกิดขึ้นในจิต กาย ใจ ก็จะไม่บริสุทธิ์
    ทำให้เกิดการขัดแย้งกับพระธรรม ไม่อาจจะพบความสันติสุขได้

    ๑๙. งัน ออ พอ ลู ซี
    งัน - นอบน้อม เป็นบทนำ
    ออ พอ ลู ซี - เป็นพระโพธิสัตว์ หมายถึงพระธรรมคือความสะอาดจิตสะอาดสดใสไร้ราคะ
    ผู้ปฏิบัติธรรมต้องมีจิตใจที่เด็ดเดี่ยว ไม่หวั่นไหวต่อการก่อกวนของเหล่ามาร(กามกิเลส)
    หากสามารถตั้งจิตข่มจิตสำรวมกาย วาจา และจิต ละทิ้งโลกาวิสัยทั้งหมดก็จะเข้าถึงพุทธสภาวะที่มีอยู่เดิม
    ถ้าทำให้จิตมีความสงบนิ่งอยู่ทุกขณะ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน ก็จะมีความสำเร็จในธรรมโดยมิรู้ตัว
    พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ รวมทั้งพระโพธิสัตว์เจ้าได้หลุดพ้นในขณะที่อยู่ในโลกอันมากล้นไปด้วยกิเลสนี้

    ๒๐. ลู เกีย ตี
    เป็นโลกนาถ มีความเป็นอิสระ
    มีกุศลจิตสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มัวหมอง มีรัศมีสว่างรอบกาย และสามารถร่วมกับดินฟ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
    รักษาความมีกุศลจิต อย่าทำลายตนเอง อย่าหลงผิดเป็นชอบ
    สิ่งสำคัญ...ต้องรักษาจิตให้บริสุทธิ์

    ๒๑. เกีย ลอ ตี
    ผู้มีความกรุณา ผู้ปลดปล่อยทุกข์ เป็นผู้มีจิตในทางธรรม ดำรงมรรคมั่นคง มีสติปัญญาเฉียบแหลมยิ่งใหญ่
    เมื่อจิตมีความสงบก็สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งชั่วร้ายให้กลับกลายเป็นดี

    ๒๒. อี ซี ลี
    กระทำตามโอวาท อย่ามีจิตหลงผิด

    ๒๓. หม่อ ฮอ ผู่ ที สัต ตอ
    หม่อ ฮอ - ความไพศาลของพุทธธรรม ทุกคนน้อมนำไปปฏิบัติได้
    ผู่ที - เห็นโลกนี้เป็นสูญ
    สัต ตอ - การเน้นปฏิบัติอนัตตธรรม มองเห็นสรรพธรรมเป็นสูญ
    มองความรุ่งเรืองแห่งลาภยศ สรรเสริญเป็นสูญ มองให้เห็นเป็นเงาลวง ทำจิตใจร่างกายให้หมดจด

    ๒๔. สัต พอ สัต พอ
    พุทธธรรมมีความเสมอภาค อีกทั้งยังอำนวยประโยชน์สุขแก่สัตว์โลก ผู้ที่มีปัจจัยแห่งบุญย่อมได้รับความสุข

    ๒๕. มอ ลา มอ ลา
    ผู้ปฏิบัติจะได้มีมโนรถแก้วมณี แก้วมณีนี้แจ่มใสไม่มีอะไรขัดข้อง
    ความคิดคำนึงเกิดมาแต่จิต จิตเป็นใหญ่ จิตเป็นประธานแห่งบุญและบาป
    ผู้ปฏิบัติต้องกำจัดความคิดอันเป็นอกุศล ความคิดฟุ้งซ่าน ระงับความวิตกกังวล
    เพียรพยายามเสาะหาสัจธรรม ชำระล้างอายตนะภายในให้สะอาดพิสุทธิ์ ละความห่วงใยใดๆให้สิ้นเชิง

    ๒๖. มอ ซี มอ ซี ลี ทอ ยิน
    มอ ซี - ความมีอิสระทันที ผู้ปฏิบัติไม่มีเวลาใดที่ไม่เป็นอิสระคือมีอิสระทุกเมื่อ
    ลี ทอ ยิน - การปฏิบัติกระทั่งสำเร็จวิชชาธรรมกาย มีอาสน์ดอกบัวรองรับ
    โดยปกติแล้วผู้ที่มีจิตว่างก็จะมีความสะอาดทั้งกายและจิต เมื่อลงมือปฏิบัติแล้วก็สามารถบรรลุมรรคผลได้
    และก็จะตั้งอยู่เช่นนั้น ไม่มีวันเสื่อมถอย

    ๒๗. กี ลู กี ลู กิด มง
    กี ลู - การเกิดความคิดปฎิบัติธรรมสามารถบันดาลให้เทพเจ้ามาปกปักรักษา
    กิด มง - ผู้ปฏิบัติจะต้องสร้างสมบุญบารมีเพื่อเป็นพื้นฐานในการบรรลุสู่มหามรรค (มรรคผล-นิพพาน)

    ๒๘. ตู ลู ตู ลู ฟา เซ เย ตี
    ตู ลู - ผู้ปฏิบัติจะต้องยืนให้มั่นตั้งใจปฏิบัติ ไม่หลุ่มหลงด้วยพวกเดียรถี มีความแน่วแน่ มีสมาธิ มีความสงบ
    ฟา เซ เย ตี - มีความบริสุทธิ์อันยิ่งใหญ่สามารถข้ามพ้นสังสารวัฏได้

    ๒๙. หม่อ ฮอ ฮัว เซ เย ตี
    พระสัทธรรมอันไพศาล สามารถระงับความเกิดดับแห่งกิเลสได้
    ภัยพิบัติต่างๆไม่แผ้วพาน ทุกคนสามารถสำเร็จเป็นพุทธะได้เหมือนหัน
    กำจัดความหลงผิด ความเห็นแก่ตัว ปล่อยวางปัจจัยทางโลก

    ๓๐. ทอ ลา ทอ ลา
    เมื่อปฏิบัติจิตให้มีสภาพเหมือนอากาศอันโปร่งใส ไร้ละอองธุลีแม้แต่น้อย ก็จะได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นพรหมได้

    ๓๑. ตี ลี นี
    ตี - โลก
    ลี - สัตว์ทั้งหลายล้วนสามารถรับการโปรดได้
    นี - พรหมจาริณีที่ปฏิบัติธรรมอยู่

    ๓๒. สิด ฮู ลา เย
    เมื่อปฏิบัติธรรมเข้าถึงความสมบูรณ์แห่งสภาวะเดิมแล้ว จะมีความสว่างปรากฏในกายของตน

    ๓๓. เจ ลา เจ ลา
    ความโกรธ ดุ สุรเสียงที่เปล่งออกมาดุจเสียงคำรามของฟ้า
    กระหึ่มไปทั่วสารทิศธรรมเหมือนดังฟ้าร้องคำรามไปทุกสารทิศ
    เป็นเสียงแห่งพรหมเมื่อเหล่ามารได้ยินศัพท์สำเนียงนี้ ก็จะเกิดความสะดุ้งกลัว

    ๓๔. มอ มอ ฮัว มอ ลา
    มอ มอ - การกระทำดี สามารถทำลายความกังวลแห่งภยันตรายได้
    ฮัว มอ ลา - ธรรมะเป็นสิ่งลึกซึ้ง เข้าใขยาก และมีความศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถประมาณ
    หรือคาดคิดได้ เป็นประโยชน์ที่ไม่มีสิ่งใดทัดเทียม

    ๓๕. หมก ตี ลี
    หลุดพ้น
    ผู้ปฏิบัติได้เช่นนี้ ย่อมบรรลุสู่ภูมิแห่งพุทธ

    ๓๖. อี ซี อี ซี
    การชักชวนตามพระศาสนา ทุกสรรพสิ่งให้ดำเนินไปตามธรรมชาติ
    ทุกสิ่งปล่อยให้ดำเนินไปตามเหตุปัจจัยปรุงแต่ง อย่าฝืนกระทำตามใจชอบ

    ๓๗. สิด นอ สิด นอ

    เป็นมหาสติ มีจิตใจมั่นคงสามารถเข้าสู่มหาปัญญา
    ผู้ปฏิบัติธรรม มีความสว่างแห่งสติปัญญาอยู่ ถ้าใช้จิตนี้เป็นฐานใช้ธรรมให้เป็นประโยชน์ ก็จะได้รับฐานธาตุที่สดชื่น
    แต่หากไม่มีจิตใจมั่นคงกำจัดกิเลสในตนไม่หมด ก็ไม่มีทางที่จะให้ความว่างแห่งสติปัญญาที่มีอยู่ดั้งเดิมปรากฏออกมาได้เลย.

    ๓๘. ออ ลา ซัน ฮู ลา เซ ลี
    ออ ลา ซัน - ความผ่านธรรมไปถึงธรรมราชา มีความอิสระในธรรม
    ฮู ลา เซ ลี - การได้พระธรรมกายอันบริสุทธิ์ ได้ดวงแก้วแห่งพระรัตนะ

    ๓๙. ฮัว ซอ ฮัว ซัน
    ฮัว ซอ - ผู้ที่มีธรรม ตั้งอยู่ในขันติธรรม
    ฮัว ซัน - ผู้บรรลุธรรม มีความสุขอันแท้จริงยากจะบรรยาย
    เป็นการอนุโมทนาตามเหตุตามปัจจัย
    ความสุขที่แท้จริง จะต้องได้จากการปฏิบัติที่ยากลำบาก
    ถ้าสามารถอดทนต่อความยากลำบากก็จะเข้าถึงความสุขอันยิ่งได้

    ๔๐. ฮู ลา เซ เย
    จะต้องมีความรู้ด้วยตนเอง ผู้จะบรรลุธรรมหากสามารถละการยึดเกี่ยวเข้าถึงสภาวะดั้งเดิม ก็จะพบพระพุทธเจ้าได้ทุกพระองค์

    ๔๑. ฮู ลู ฮู ลู มอ ลา
    การประกอบพิธีตามปรารถนา ประกอบพิธีกรรมไม่ละจากตัวตน

    ๔๒. ฮู ลู ฮู ลู ซี ลี
    การประกอบธรรม โดยปราศจากความคิดคำนึงมีความเป็นอิสระสูง

    ๔๓. ซอ ลา ซอ ลา
    ผู้ปฏิบัติเพียงแต่มีความมุ่งมั่น มีความเพียรพยายามอย่างต่อเนื่อง มีจิตอันเป็นหนึ่งเดียว ก็จะได้เห็นองค์พระโพธิสัตว์

    ๔๔. สิด ลี สิด ลี
    ความเป็นมหามงคลอันสูงสุด สามารถอำนวยประโยชน์ และคุ้มครองสรรพสัตว์โดยไม่ละทิ้ง

    ๔๕. ซู ลู ซู ลู
    น้ำอมฤตทานสามารถอำนวยประโยชน์แก่สัตว์โลกทั้งปวง

    ๔๖. ผู่ ถี่ เย ผู่ ถี่ เย
    การตรัสรู้ธรรม ตรัสรู้ถึงภูมิจิต ผู้ที่ปฏิบัติจะต้องมีความวิริยะพากเพียรอย่างแรงกล้า
    ปฏิบัติทุกวันทุกคืนเสมอต้นเสมอปลายไม่ท้อถอย

    ๔๗. ผู่ ถ่อ เย ผู่ ถ่อ เย
    เป็นการรู้ในธรรม รู้ในจิต ผู้ปฏิบัติจะต้องถือ “ตัวเขา-ตัวเรา” เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
    ไม่เพียงแต่ไม่เห็นลักษณะตัวเขาตัวเรา แม้สรรพสัตว์ในทุคติ ก็ต้องถือว่าเท่าเทียมกับเรา

    ๔๘. มี ตี ลี เย
    มหากรุณา ให้ผู้ปฏิบัติต้องเจริญเมตตากรุณาจิต เพื่อให้สรรพสัตว์เข้าถึงโพธิมรรค
    รักในตนเองเท่าใด ก็ให้รักผู้อื่นเท่านั้น

    ๔๙. นอ ลา กิน ซี
    นักปราชญ์ผู้รักษาตนเองได้ มีมหากรุณาจิต
    ผู้ปฏิบัติจะต้องเคารพนักปราชญ์ เห็นผู้ทำดีจะต้องช่วยกันรักษา ผู้ที่เกิดความท้อถอยก็ต้องส่งเสริมให้กำลังใจ

    ๕๐. ตี ลี สิด นี นอ
    ความคมของวัชระ ให้คนเรามีความมั่นคงในการปฏิบัติธรรม

    ๕๑. ผ่อ เย มอ นอ
    สุรเสียงก้องไปสิบทิศ เป็นสุรเสียงแห่งความปิติยินดี

    ๕๒. ซอ ผ่อ ฮอ
    ความสำเร็จผล มงคล นิพพาน ระงับภัยเพิ่มพูลประโยชน์ พระสัทธรรมไม่เกิดไม่ดับ เป็นสภาวะอันสงบมาแต่เดิม

    ๕๓. สิด ถ่อ เย
    ความสำเร็จในธรรมทั้งหลาย เข้าถึงพระวิสุทธิมรรคปราศจากขอบเขตอันจำกัด
    สรรพสัตว์เพียงแต่ละวางจากลาภยศชื่อเสียง ก็จะเข้าถึงความหลุดพ้นได้

    ๕๔. ซอ ผ่อ ฮอ
    ผู้ปฏิบัติถ้าเห็นแจ้งในพระสัจธรรมและความหลอกลวง(ไม่แท้) ก็จะสำเร็จได้ง่าย

    ๕๕. หม่อ ฮอ สิด ถ่อ เย
    ความไพศาลของพระพุทธธรรม ผู้ใดน้อมนำไปปฏิบัติจะสำเร็จในพระพุทธผล

    ๕๖. ซอ ผ่อ ฮอ
    เน้นย้ำประโยชน์ในการปฏิบัติธรรม

    ๕๗. สิด ทอ ยี อี
    สิด ทอ - ความสำเร็จ
    ยี อี - ความว่างเปล่า
    ทวยเทพเจ้าต่างได้รับความสำเร็จอันเป็นความว่างเปล่า (สุญญตาธรรม)

    ๕๘. สิด พัน ลา เย
    เป็นความอิสระสมบูรณ์ เป็นการกล่าวถึงบรรดาเทพีที่ต่างสำเร็จในอิสระธรรม

    ๕๙. ซอ ผ่อ ฮอ
    อสังสกฤตธรรมนั้น เป็นสภาวธรรมที่สมบูรณ์โดยอิสระ เป็นการประกาศมหามรรคที่ยิ่งใหญ่มีผลที่ลึกซึ้ง

    ๖๐. นอ ลา กิน ซี
    ความสำเร็จด้วยความรัก ความเมตตากรุณา การปกปักษ์รักษา

    ๖๑. ซอ ผ่อ ฮอ
    แสดงถึงความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์

    ๖๒. มอ ลา นอ ลา
    มอ ลา - มโนรถ ความหวัง ความประสงค์
    นอ ลา - อนุตตรธรรม
    การปฏิบัติอนุตตรธรรมสมดังประสงค์

    ๖๓. ซอ ผ่อ ฮอ
    พระโพธิสัตว์มุ่งเน้นให้คนปฏิบัติธรรม อีกทั้งยังเปิดเผยหัวใจอันลึกซึ้งของมหามรรคนี้

    ๖๔. สิด ลา เซง ออ หมก เค เย
    เป็นการแสดงความรักของพระโพธิสัตว์ต่อหมู่ชน

    ๖๕. ซอ ผ่อ ฮอ
    คนเรานั้นมีโรคทางจิตเป็นภัยคุกคาม พระธรรมโอสถเท่านั้นที่สามารถรักษาให้หายได้

    ๖๖. ซอ ผ่อ หม่อ ฮอ ออ สิด ถ่อ เย
    ซอ ผ่อ หม่อ ฮอ - สัตว์ทุกประเภทมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน สามารถบรรลุพระสัมมาสัมโพธิได้เหมือนกัน
    ออ สิด ถ่อ เย - สรรพสัตว์มีโอกาสร่วมรับความสุขสบายทั่วถึงกัน
    บุคคลมีขันติธรรมก็จะเข้าถึงธรรมได้ด้วยดี สามารถสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณได้ไม่จำกัด

    ๖๗. ซอ ผ่อ ฮอ
    ความเมตตาอันสูงสุด

    ๖๘. เจ กิด ลา ออ สิด ถ่อ เย
    เจ กิด ลา - การใช้วชิรจักรปราบเหล่ามาร
    ออ สิด ถ่อ เย - ความสำเร็จอันไม่มีสิ่งใดเทียบได้
    การใช้วชิรธรรมจักร ปราบเหล่ามารศัตรูได้รับความสำเร็จ

    ๖๙. ซอ ผ่อ ฮอ
    สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนสำเร็จในความบริสุทธิ์ได้ จึงไม่ควรประกอบอกุศลกรรมทั้งหลาย

    ๗๐. ปอ ทอ มอ กิด สิด ถ่อ เย
    ปอ ทอ มอ กิด - พุทธธรรมเป็นธรรมที่ไม่มีขอบเขต จะต้องปฏิบัติเพื่อได้รับความสุขร่วมกัน
    สิด ถ่อ เย - ย้ำเตือนให้ผู้ปฏิบัติจะต้องประกอบด้วยสติปัญญาเพื่อการหลุดพ้น ละจากกิเลส

    ๗๑. ซอ ผ่อ ฮอ
    ผู้ปฏิบัติไม่ยึดในทางใดทางหนึ่ง ปฏิบัติโดยการพิจารณา พร้อมทั้งมีหิริโอตตัปปะ
    มรรคผลนั้นสำเร็จได้ด้วยตนเอง สำเร็จได้ด้วยการพิจารณา
    ในทุกขณะจะต้องพิจารณาจิตของตน รักษาไว้ในทุกเหตุปัจจัยไม่ให้วิตกจิตเกิดขึ้นได้

    ๗๒. นอ ลา กิน ซี พัน เค ลา เย
    นอ ลา กิน ซี - รักษาไว้ด้วยความเป็นภัทร
    พัน เค ลา เย - เถระเพ่งโดยอิสระ
    เป็นที่รักของผู้เจริญ เป็นที่รักของพระอริยะ

    ๗๓. ซอ ผ่อ ฮอ
    การปฏิบัติให้ถือเอาสัมมาจิต และความมีสัจเป็นหลัก

    ๗๔. มอ พอ ลี เซง กิด ลา เย
    มอ พอ ลี เซง - ผู้กล้า
    กิด ลา เย - สภาวะเดิม
    คุณธรรมจะสำเร็จได้ ด้วยสภาวะแห่งเมตตาธรรม
    หากจิตตั้งอยู่ในอกุศลก็ย่อมเป็นการยากที่จะสำเร็จพระอนุตตรธรรม

    ๗๕. ซอ ผ่อ ฮอ
    เป็นการรวมเอาพระคาถาทั้งหมดแห่งมหากรุณาธารณีสูตรมาไว้ในประโยคนี้
    มีนัยบ่งบอกถึงความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์
    เพื่อโปรดเหล่าสรรพสัตว์ทั้งปวงให้ได้รับหิตานุหิตประโยขน์ มีพระสัมมาสัมโพธิเป็นหลักชัย

    ๗๖. นำ มอ ห่อ ลา ตัน นอ ตอ ลา เย เย
    เน้นย้ำให้พยายามควบคุมกายใจไม่ให้ลื่นไหลไปตามอารมณ์ที่มากระทบ
    โน้มนำเอาฌานสมาธิเพ่งการเกิดการดับ

    ๗๗. นำ มอ ออ ลี เย
    เป็นการสาธยายมนต์สรรเสริญพระอริยะ และกล่าวย้ำถึงการปฏิบัติธรรม
    ต้องละความเป็นตัวตน, บุคคล, เรา-เขา
    จึงสามารถไม่ให้เกิดความคิดนึกอันเป็นบ่อเกิดแห่งทุกข์ได้ความนึกคิดติดยึดไม่เกิด
    ความเข้าใจถึงธรรมก็จะเป็นที่หวังได้

    ๗๘. ผ่อ ลู กิต ตี
    พระสัทธรรมไม่มีความสิ้นสุด บรรดาผู้ปฏิบัติธรรมย่อมมีความบริสุทธิ์เป็นเครื่องอยู่ นำทางสู่แดนสุขาวดี
    มีการเกิดย่อมต้องมีการตาย มีความชนะย่อมต้องมีความพ่ายแพ้...
    แต่ชาวโลกผู้ตกอยู่ภายใต้อวิชชากลับยินดีต่อการเกิดเกลียดชังความตาย ท้ายที่สุดก็ต้องตายอยู่นั่นเอง
    ฉะนั้นหากต้องการรอดพ้นจากความตาย จะต้องค้นหาความเป็นในความตายให้ได้เสียก่อน

    ๗๙. ชอ พัน ลา เย
    ผู้ปฏิบัติต้องสำรวมตาเห็นรูป ไม่ปรุงแต่งไปตามรูปที่มองเห็น

    ๘๐. ซอ ผ่อ ฮอ
    สำรวมหูฟังเสียง ไม่ปรุงแต่งไปตามเสียงที่ได้ยิน

    ๘๑. งัน สิด ติน ตู
    สำรวมจมูกดมกลิ่น ไม่ปรุงแต่งไปตามกลิ่นที่จมูกดม

    ๘๒. มัน ตอ ลา
    สำรวมลิ้นรับรส ไม่ปรุงแต่งไปตามรสที่ลิ้นรับ

    ๘๓. ปัด ถ่อ เย
    สำรวมกายถูกต้องสัมผัส ไม่ปรุงแต่งไปตามที่ร่างกายถูกต้องสัมผัส

    ๘๔. ซอ ผ่อ ฮอ
    สุดท้ายสำรวมใจรับรู้อารมณ์ ไม่ปรุงแต่งให้เกิดอารมณ์ใดๆที่ใจรับรู้
    รวมเรียกว่าสำรวมอินทรีย์ ๖ อันมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ บรรลุเป็นโพธิสัตว์อันบริสุทธิ์
     
  15. คุณมณฑ์

    คุณมณฑ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +50
    โอม มณี เป เม ฮง
    ดูบทสวดโอมมณีเปเมฮงประกอบเสียงไปด้วยคลิกลิงค์ด้านล่าง http://www.oknation.net/blog/buddhamantra/2007/07/14/entry-2
    Post by buddhamantra : 10.51 น. | แสดงความคิดเห็น


    <CENTER><OBJECT id=objMediaPlayer codeBase=http://activex.microsoft.com/activex/controls/mplayer/en/nsmp2inf.cab#Version=6,4,5,715 type=application/x-oleobject height=70 standby="Loading Microsoft Windows Media Player components..." width=300 classid=CLSID:22d6f312-b0f6-11d0-94ab-0080c74c7e95 VIEWASTEXT> <Embed src="http://www.oknation.net/blog/home/video_data/824/8824/video/6892/6892.mp3" TYPE="application/x-mplayer2" pluginspage="http://www.microsoft.com/Windows/MediaPlayer/" Name="objMediaPlayer" Width="300" autoSize="false" showdisplay="false" displaySize="0" Height="70" center="true" AutoStart="True"> </embed> </OBJECT>

    </CENTER><!---->
    <!--comment---><!---ปิดระบบคอมเมนต์ --><!--comment_check--><!-- show comment --><FORM action=http://www.oknation.net/blog/home/comment_video.php method=post><INPUT type=hidden value=del name=mode> <INPUT type=hidden value=8824 name=blog_id> <INPUT type=hidden value=6892 name=video_id> <INPUT type=hidden value=buddhamantra name=owner_nick> <INPUT type=hidden value=9628 name=owner_id> <INPUT type=hidden value=buddhamantra name=blog_name> <INPUT type=hidden value=chanin2000@gmail.com name=owner_email> [​IMG]อ่านความคิดเห็น

    <TABLE class=comment_topic2 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width=65>[​IMG] </TD><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 5px; PADDING-BOTTOM: 0px; PADDING-TOP: 0px" align=left>ความคิดเห็นที่ 1
    buddhamantra <!-- [​IMG] -->วันที่ : 19/08/2007 เวลา : 19.35 น.
    http://www.oknation.net/blog/buddhamantra
    </SPAN>
    </TD><TD width="2%"></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=comment_detail cellSpacing=0 cellPadding=3 align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD></TD></TR><TR><TD height=40>โอม มณี เป เม ฮง
    ธิเบตออกเเป็น "โอม มณี เป เม หุง"
    จีนออกเป็น"โอม มณี แปะ มี่ ฮง

    โอม มณี ปัทเม หุม แปลตรงตัวคงแปลได้ว่า "โอ..ดวงมณีในดอกบัว"
    หรืออย่างที่ชาวจีนออกเสียงว่า "โอม มา นี แปะ หมี่ ฮง"
    มณีแห่งดอกบัวหรือหัวใจที่เบิกบาน ใจที่สะอาด สว่าง หลุดพ้น จากเครื่องพันธนาการ
    หลุดพ้นจากกิเลสที่ร้อยรัดให้เศร้าหมอง มณีแห่งปัญญาคือดอกบัวสว่างที่กลางใจ มณีนี้คือใจของเรา
    ดอกบัวคืออาสนะอันบริสุทธิ์ ดังนั้นผู้ที่ภาวนาพระคาถานี้อยู่เนืองๆ
    ย่อมเป็นผู้ที่มีแก้วสารพัดนึกที่จะเป็นอาสนะอันวิเศษ ซึ่งจะนำพาให้ไปถึงนิพพานโลกธาตุได้ในที่สุด

    มูลเหตุแห่งพระคาถา

    ในครั้งที่พระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรกำลังเข้าสมาธิบำเพ็ญบารมีอยู่นั้น
    หมู่มารได้มาราวีรังควาน แต่พระเมตตาพระองค์จึงไม่ได้ทรงตอบโต้
    ยิ่งทำให้หมู่มารได้ใจราวีหนักขึ้น จนในที่สุดพระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรได้ทรงเปล่งพระวาจาออกมาสั้น ๆ
    เพียง 6 คำ แต่เปี่ยมล้นด้วยบุญญาภินิหารอันยิ่งใหญ่ไพศาลมิอาจจะเปรียบประมาณได้
    ซึ่งก่อกำเนิดมาจากก้นบึ้งแห่งดวงจิตที่ได้บำเพ็ญสั่งสมบุญบารมีมานานนับภพนับชาติไม่ถ้วน
    ยิ่งกว่าเม็ดทรายในมหานทีคงคา พระคาถาอันกล่าวอ้างถึง บารมีธรรมแห่งพระโพธิสัตว์ทั้งหกประการ

    พระคาถาอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของชาวพุทธวัชรญาณ เป็นเสมือนหัวใจแห่งพุทธวัชรญาณ
    ด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ของพระคาถาบทนี้เอง ทำให้หมู่มารทั้งหลายต่างขวัญหนีแตกกระเจิงไปสิ้น
    อีกทั้งเหล่าทวยเทพยดาบนชั้นฟ้าต่างต้องสะดุดลุกขึ้นมาโมทนาโดยทั่วถ้วน
    โอม มณี ปัท เม ฮุม’ (เส้อ) แปลว่า.........

    ข้าพเจ้าขอนอบน้อมเอาพระรัตนตรัย
    และดวงใจของพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์มาไว้ในดวงใจของ
    ข้าพเจ้า ก็คือ มีพระรัตนตรัยเป็นสรณะ คือ มีพุทธรัตนะ ธรรม
    รัตนะ และสังฆรัตนะเป็นที่พึ่งอันสูงสุด และมีจิตเป็นมหา
    เมตตากรุณาดุจดั่งพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์เจ้า
    วิธีทำสมาธิจะมี 2 รูปแบบ คือ:-

    รูปแบบที่ 1 จะใช้ลูกประคำ
    รูปแบบที่ 2 จะใช้เทปเสียงมหามนต์

    ในรูปแบบที่ 1 จะใช้ลูกประคำ
    ให้ทุกๆคน นำลูกประคำที่ถืออยู่ในมือขึ้นมา ลูก
    ประคำจะต้องมีจำนวน 108 เม็ด เพราะถือว่าเป็น 1 รอบ
    พุทธจักรอันมีมรรค และผลครบ 108 ซึ่งถือว่าเป็นลูกประคำที่
    สมบูรณ์แบบที่สุดก็คือต้องมี 108 เม็ด ใน108เม็ดนี้จะมี
    ประคำรัตนะ ให้ดูลูกเม็ดกลางใหญ่ซึ่งจะมีอยู่เม็ดหนึ่งที่ใหญ่ที่
    สุด1 เม็ด คือประคำรัตนะถือว่าเป็นลูกกลางซึ่งเราจะไม่นับ
    เม็ดใหญ่นี้ เราจะเริ่มนับประคำเม็ดเล็กที่ติดกับประคำรัตนะ
    ใช้นิ้วกลางและนิ้วหัวแม่มือของมือขวาจับประคำเม็ดแรก แล้ว
    ก็ท่องมหามนต์ ‘โอม มณี ปัท เม ฮุม’ (เส้อ) ให้เสียง
    ดังพอที่ตัวเราจะได้ยิน

    ‘โอม มณี ปัท เม ฮุม’ (เส้อ) ๆ ๆ ..........

    โดยภาวนามหามนต์ ‘โอม มณี ปัท เม ฮุม’ (เส้อ) ไป
    ให้เสียงก้องอยู่รอบๆตัวเรา โดยท่อง ‘โอม มณี ปัท
    เม ฮุม’ (เส้อ) คำหนึ่งก็เลื่อนประคำจากเม็ดที่1 ไปยัง
    ประคำเม็ดที่2 แล้วก็ท่อง ‘โอม มณี ปัท เม ฮุม’ (เส้อ)
    อีกคำหนึ่งแล้วเลื่อนไปยังเม็ดที่3 แล้วก็ท่อง ‘โอม มณี
    ปัท เม ฮุม’ (เส้อ) ทำเช่นนี้ไปทีละคำ ภาวนาไปทีละ
    บท ๆ ‘โอม มณี ปัท เม ฮุม’ (เส้อ) เม็ดประคำหนึ่งเม็ด
    ก็เลื่อนไปเรื่อยๆ ไปจนถึงเม็ดประคำที่ 108 ก็จะได้ 108 จบ

    เมื่อครบ 108 จบ มือที่จับประคำแต่ละเม็ดท่องมหามนต์ไป
    1 บท หากเราท่องมหามนต์จนประคำครบรอบ เราก็ได้
    ท่องมหามนต์ไปได้108 บท

    *** อย่าท่องข้าม ‘ประคำรัตนะ’ ซึ่งเป็นเม็ดที่ยื่นออกมา
    และมีปมเชือกห้อยอยู่ ซึ่งเราจะไม่นับเม็ด ‘ประคำรัตนะ’ นี้

    เมื่อท่องจนครบ 108 บทก็จะมาถึง ‘ประคำรัตนะ’ อีกด้าน
    หนึ่ง ให้พลิกประคำกลับมาทางเดิม โดยใช้นิ้วมือพลิกกลับมา
    ทางเดิม จากนั้นท่องมหามนต์รอบที่ 2 ............
    โดยเลื่อนนิ้วไปข้างหน้าจากประคำเม็ดที่ 108 กลับไปหา
    ประคำเม็ดที่ 1 ใหม่ ประคำเม็ดที่ 108 ที่เราจับไว้ที่นิ้ว ให้
    เราพลิกนิ้วกลับมาเม็ดที่ 108 แล้วก็ท่อง ‘โอม มณี ปัท
    เม ฮุม’ (เส้อ) จากนั้นก็เลื่อนกลับมาเรื่อยๆจนถึงประคำเม็ด
    ที่ 1 ก็เท่ากับว่าได้ท่องมหามนต์จบครบรอบที่ 2 แล้ว
    ในรอบที่ 3 ก็พลิกนิ้วประคำกลับไปใหม่ทำเหมือนรอบที่ 1
    ให้ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ เมื่อครบ 1 รอบประคำ ก็เท่ากับว่าเรา
    ได้ภาวนามหามนต์ ‘โอม มณี ปัท เม ฮุม’ (เส้อ)ไป
    108 ครั้ง

    ในตอนฝึกใหม่ๆ เราอาจจะท่องวันละ 1-2 รอบ แล้วค่อยๆ
    พัฒนาให้มากขึ้นๆ จิตเราจะเป็นสมาธิจรดอยู่ในคำ
    ภาวนา ‘โอม มณี ปัท เม ฮุม’ (เส้อ)
    อันเป็นมหากุศล ซึ่งจะชำระล้าง กาย วาจา ใจ ของเราให้
    ใส สะอาด บริสุทธิ์ เพื่อจะได้เป็นธาตุธรรมที่บริสุทธิ์ประดุจ
    หนึ่งเดียวกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทุกๆ
    พระองค์

    ในรูปแบบที่ 2 จะใช้เทปเสียงมหามนต์

    ให้เปิดเทปเสียงมหามนต์
    ‘โอม มณี ปัท เม ฮุม’ (เส้อ)
    ซึ่งจะมีดนตรีประกอบคำสวดมหามนต์
    ‘โอม มณี ปัท เม ฮุม’ (เส้อ)

    ให้นั่งสมาธิแล้วสวดมหามนต์นี้ไปตามเสียงเพลง ‘โอม มณี
    ปัท เม ฮุม’ (เส้อ) เบาๆ พอที่ตัวเราจะได้ยินจนจิตเราเริ่ม
    เข้าสู่ความสงบ ใจของเราก็จะไม่อยากออกเสียง ก็ค่อยๆหยุด
    สวด จิตก็จะดิ่งเข้าสู่สมาธิซึ่งจะเป็นความสงบที่แท้จริง สุข
    สงบ สว่าง จะประจักษ์แก่ผู้ที่ตั้งใจปฏิบัติจริงอย่างสม่ำเสมอ
    เสียงทิพย์แห่งมหามนต์ที่เราปฏิบัติทุกวันอย่างสม่ำเสมอนี้
    จะก้องอยู่ทุกขณะจิตไม่ว่าเราจะเดิน ยืน นั่ง นอน
    ‘โอม มณี ปัท เม ฮุม’ (เส้อ) ๆ ๆ จะก้องอยู่ทุกขณะ
    จิต นับว่าเป็นวิธีที่ประเสริฐ์ในการฟื้นฟูชะรำจิตใจเราให้ใส
    สะอาด บริสุทธิ์ จิตใจของผู้ปฏิบัติก็จะพ้นจากเครื่อง
    พันธนาการของกิเลส ตัณหา อวิชชาทั้งหลาย

    จากประสบการณ์ในการปฏิบัติเราจะสัมผัสรู้ได้ว่า ..........
    การทำสมาธิด้วยเสียงมหามนต์นี้ หรือบทมนต์อันยิ่งใหญ่เพื่อ
    การหลุดพ้นนี้ เราจะรู้สึกมีความปลื้มปิติ สุขมากในทันที
    ความปิติสุขนี้ลงมาจากสวรรค์ชั้นทิพย์ซึ่งอยู่เหนือสิ่งอื่นใดใน
    โลก กาย ใจ จิตวิญญาณจะถูกชะล้าง วิถีชีวิตของผู้ปฏิบัติ
    ก็จะดีขึ้น ทั้งทางโลก และทางธรรม และเข้าสู่ความหลุดพ้นที่แท้จริง</TD></TR></TBODY></TABLE></FORM>
     
  16. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    南无观世音菩萨。
    ท่านเมตตาไม่มีประมาณจริงๆ......
     
  17. แก้วพรัตน์

    แก้วพรัตน์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +4
    ;aa25
     
  18. แก้วพรัตน์

    แก้วพรัตน์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +4
    นู๋ฝันเห็นเจ้ากวนอิมมาแล้วสิบครั้งเรื่องยาวมากค่ะ....ไว้ว่างๆนู๋จะมาเล่าให้ทุกท่านฟังกันนะค่ะและท่านเห็นว่ามันแปลกประหลาดมากเลยเพราะตอนที่นู๋ฝันนั้นมันเป็นทั้งตอนที่นู๋มีความทุกข์...และปกติ....ซึ่งท่านมาจะมาปลอบและพูดสอนให้นู๋ทำความดี่เสมอ.....ท่านเป็นแบบนู๋กันบ้างไหมค่ะนู๋จะเกลียดและแขย่งเนื้อมากๆ จะเหม็นเมื่อได้กลิ่น....และอาหารที่มีคราวของเนื้อติดมาแม้แต่นิดนึ่งเมื่อนู๋ไม่รูแล้วนู๋กินเข้าไปนู้จะเกิดอาการคันคอเป็นผึ่นและอาเจียนออกจนม่สบายหมดเลยค่ะ.....นู๋จะเป็นแบบนี้ทุกครั้ง......นู๋คิดว่านู๋ต้องมีอารัยเกี๋ยวกับเจ้าแม่ท่านแน่ๆ....ไว้ว่างๆนู๋จะเล่าให้ฟังนะคะเจ้าแม่ท่านมาหาและมาสอนนู๋บ่อยๆ และนู๋อยากให้ทุกคนได้อ่านแล้วพิจารณา....แล้วทำแต่ความดีอย่างที่ท่านต้องการนะคะ...เจ้าแม่ท่านต้องการให้ทุกคนทำดีโดยไม่หวังผลตอบแทนจริงค่ะ....และนู๋เชื่อว่าท่านก็คงจะต้องการให้นู๋บอกกับทุกคนให้ทำเช่นนั้น...นู๋พูดความจิงนะคะ....นู๋เองก็เป็นคนที่มีสัจจะของตนเองไม่โกหกหรอกค่ะ
     
  19. สรรเสริญมหาโพธิสัตว์

    สรรเสริญมหาโพธิสัตว์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +1,176
    โอม มณี ปัทเม หุม

    ขออนุโมทนาสาธุการกับทุกท่านด้วยนะครับ
     
  20. fahsaipkt

    fahsaipkt สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +2
    เห็นเจ้าแม่กวนอิม

    อยากให้คุณมากินเจที่ภูเก็ตจังเลย ไม่แน่นะคุณอาจจะได้รู้ถึงสาเหตุที่คุณฝันหรือเห็นในนิมิต เพราะประสบกับตัวเองมาแล้วในลักษณะคล้ายกับของคุณเลย ถ้าต้องการรายละเอียดก็ส่งเมล์ fahsaipkt@hotmail.com นะคะ
    ตอนนี้ก็สวดมนต์ นำโมไต่ซือไต่ปุ่ย วันละ108 จบ แล้วนั่งสมาธิต่อ แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้ญาติกับเจ้ากรรมนายเวรทุกท่าน ที่บ้านมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมนั่งบนมังกรด้วย เพิ่งจะได้มาเมื่อกินเจปีที่แล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...