เห็นแก้วน้ำเปล่าในสมาธิ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย chaimongkol2, 23 มกราคม 2005.

  1. chaimongkol2

    chaimongkol2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +2,113
    ได้นั่งสมาธิแล้วเห็นแก้วน้ำเปล่าเหมือนแก้วกาแฟโบราณตอนแรกเห็นไม่ชัดแล้วมีการซูมจนเห็นชัด
    อยู่ได้ไม่นานก็หายไป..ไม่ทราบคือการบอกอะไรจะเกี่ยวกับกสิณหรือไม่..ขอคำแนะนำด้วยครับ
     
  2. ต้นตะขบ

    ต้นตะขบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +49
    ขอเข้ามาแสดงความเห็นนะคะ
    โดย...ขอถามก่อนนะคะว่าเห็นภาพในอุปจารสมาธิขาขึ้นหรือขาลง
    หมายถึงเห็นนิมิตรก่อนถึงฌาน หรือเห็นเมื่อผ่านฌานแล้วกำหนดดูน่ะค่ะ

    ถ้าเห็นตอนผ่านฌานสี่แล้วกำหนดดูนิมิตรนั้น จะสามารถถามต่อพระพุทธบารมีได้เลยค่ะว่าแก้วน้ำนี้หมายถึงอะไร บางทีจะเกิดอาการผุดรู้หรือได้ยินเสียงตอบ

    แต่ถ้าเป็นนิมิตรที่ลอยมาเอง โดยยังไม่ได้ผ่านฌาน พระท่านสอนให้ละไปก่อนเพราะยังไม่ใช่นิมิตรใช้งานค่ะ เพราะภาพจะมาว็อบๆ แว็บๆ ยังทรงภาพไม่ได้
    แต่ถ้าเป็นนิมิตรที่กำหนดถามหลังฌานนั้น จะตัดนิวรณ์ในขณะนั้นได้ มีความแม่นยำสูง และจะทรงอารมณ์อุปจารฌานได้ดีกว่าค่ะ
     
  3. chaimongkol2

    chaimongkol2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +2,113
    เป็นขาลงครับ
     
  4. ต้นตะขบ

    ต้นตะขบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +49
    แสดงว่าเป็นนิมิตรใช้งานนะคะ

    คาดว่าลักษณะเป็นถ้วยไม่มีหูจับ แบบจอกน้ำหรือเปล่าคะ
    ถ้าใช่ บางทีจะเป็นสิ่งของที่คุณเคยเกี่ยวข้องในอดีตชาติเมื่อสมัยโบราณน่ะค่ะ

    ถ้าคุณจะถามนิมิตรก็คือ เข้าฌานสี่แล้วขอต่อพระพุทธบารมี ขอดูเรื่องนั้นๆ ที่อยากทราบเลยค่ะ
    เช่น อยากทราบความราบรื่นในเส้นทางธรรมก็ขอดูนิมิตรในเชิงอุปมาก็ได้ค่ะ

    ต้นตะขบเคยดูแบบนี้เหมือนกัน ก็จะเห็นว่าถนน(ทางธรรม)ของตัวเองนั้นราบเรียบหรือขรุขระเพียงใด มีพงหนามมาขวางไหม อะไรประมาณนี้

    หรือถ้ายังสงสัยเรื่องถ้วยน้ำนั้น พักความสงสัยไว้แล้วทำใจสบายตามปกติที่คุณปฏิบัติฌาน เข้าฌานแล้วถามในกรรมฐานถึงความหมายของถ้วยน้ำก็ได้ค่ะ น่าจะได้ความชัดเจนขึ้น

    คืบหน้าอย่างไรมาเล่าต่อนะคะ
     
  5. chaimongkol2

    chaimongkol2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +2,113
    เป็นแก้วน้ำไม่มีหูจับเหมือนแก้วกาแฟถูกๆตามต่างจ.ว.และ ฌาน 4 ผมยังไม่ทรงตัวอยู่ได้ไม่นาน
    จะลองทำตามคุณต้นตะขบดูนะครับ
     
  6. ต้นตะขบ

    ต้นตะขบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +49
    คาดว่าเป็นจอกน้ำโบราณนะคะ
    สีตุ่นๆ คล้ายๆ สีดินที่สีอ่อนๆ ไม่เคลือบเงาแบบแวววาวใช่ไหม
    ถ้าใช่ คุ้นๆ ว่าเป็นจอกน้ำศักดิ์สิทธิ์ทำนองในหนังนะคะ

    ที่จำได้คือเป็นจอกน้ำโบราณในอดีตชาติของคุณ
    บริเวณนั้นเป็นป่าหรือถ้ำไม่แน่ใจ หรืออาจจะใช่ทั้งสองอย่างค่ะ
    มีผู้ชายอีกคนอยู่ในบริเวณนั้นด้วย
    คุณเคยบำเพ็ญสมถะที่นั่นค่ะ

    สรุปว่านิมิตรนั้น เป็นฉากหนึ่งของอดีตชาติอันไกลโพ้นของคุณ คาดว่าไกลราวพันๆ ปีขึ้นไปนะคะ
    คุณสามารถฝึกดูอดีตชาติคุณได้แล้ว และจะคล่องตัวขึ้นหากฝึกฝนต่อเนื่อง และประคองจิตให้ใสในชีวิตประจำวัน
    โมทนาด้วยค่ะ
     
  7. chaimongkol2

    chaimongkol2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +2,113
    ขอบคุณมากครับ
     
  8. merit

    merit สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +4
    ถามคุณต้นตะขบค่ะ
    ทีเห็นเป็นประจำก่อนผ่านฌานจะเป็นน้ำใสๆที่เห็นถึงก้นบึ้งกรวดทรายด้านล่าง
    ถ้าผ่านฌานไปแล้วจะเห็นเป็นแสงสีเป็นดอกไม้ที่พุ่งแสงสีจากกลีบเลี้ยง
    ส่วนใหญ่ผู้รู้บอกว่าให้สักแต่ว่าเห็น เลยไม่ได้สนใจ
    หลังๆนิมิตจะอยู่นานไม่เหมือนเมื่อก่อน ถ้าเห็นเป็นภาพคนก็มักจะนำมาปลงอสุภะ
    ถ้าเป็นภาพสวยงามก็จะเพ่งไปนานๆเพื่อเก็บรายละเอียด
     
  9. ต้นตะขบ

    ต้นตะขบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +49
    คุณ merit ควรละนิมิตรช่วงก่อนผ่านฌานนะคะ
    เพราะนิมิตรที่ลอยมาเองนั้นจะเป็นอุปสรรคต่อการฝึกระดับฌาน และมีโอกาสเป็นอุปาทานสูงค่ะ

    ส่วนนิมิตรหลังผ่านฌานสี่แล้ว ควรถามต่อพุทธบารมีนะคะ
    จะดูภาพอะไร เกี่ยวกับเรื่องอะไรที่นำมาพัฒนาตน หรือให้กำลังใจตนในการปฏิบัติก็ถามต่อพระพุทธบารมีได้เลยค่ะ
     
  10. แพรว

    แพรว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +166
    น่าจะเป็นนิมิตทั่วไปหรือไม่ก็มาบอกอะไรสักอย่าง
     
  11. merit

    merit สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +4
    ขอบคุณค่ะ คุณต้นตะขบ,คุณดวงดาว

    <center><table border=1 cellpadding=50 bgcolor=navyblue><tr><td><img src=http://members.thai.net/judger/Resize%20of%200110_1024.jpg></img><br><br><center><font color=blue>***ทุ่งดอกไม้ในห้วงคำนึง***<center></font></td></tr></table><center>
     
  12. ต้นตะขบ

    ต้นตะขบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +49
    ช่วงนี้การฝึกของคุณchaimongkol2 กับคุณmerit เป็นอย่างไรบ้างคะ
    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นค่ะ
     
  13. merit

    merit สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +4
    ขอบคุณค่ะคุณต้นตะขบที่เป็นห่วงถามไถ่
    ก็ยังคงฝึกปฏิบัติอยู่ทุกวัน เพราะรู้สึกเหมือนกับถูกล็อคตัวให้อยู่อย่างนั้น
    เพราะเริ่มต้นฝึกมาจากแนวสติปัฏฐานสี่ เลยเดินตรงทางมุ่งหน้าไปเรื่อยๆ
    แม้จะเห็นข้างทางมีที่ให้แวะเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ค่อยได้แวะเท่าไหร่
    บางทีมีอะไรให้ดูก็ไม่ค่อยอยากดู ไม่อยากรู้อดีตและอนาคต
    รู้สึกเป็นภาระให้กับตัวเองมากกว่า
    มีสิ่งหนึ่งที่จะถามคุณต้นตะขบนานแล้ว คือแสงออร่า
    ยังไม่เคยอ่านรายละเอียดของเรื่องนี้ เลยไม่ทราบเป็นอย่างไร
    แต่แสงที่ตัวเองเห็นประจำคือ แสงสีเหลืองทอง
    ไม่ทราบว่ามีความหมายว่าอย่างไรคะ

    ขอให้เจริญในธรรมเช่นกันค่ะ
     
  14. ต้นตะขบ

    ต้นตะขบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +49
    หากมีอัชฌาสัยที่ไม่ชอบดูนิมิตร ไม่ชอบใช้งานนิมิตรก็ดีค่ะในแง่ที่ไม่เพิ่มสัญญาแก่ตน และไม่เสี่ยงกับโอกาสของมานะทิฐิ
    เรื่องนี้แล้วแต่อัธยาศัยผู้ปฏิบัติที่จะใช้ หรือไม่ใช้นิมิตรพิจารณาให้เกิดข้อธรรมน่ะค่ะ เพราะการไม่ใช้นิมิตรเลยก็ได้ข้อธรรมอีกแบบเหมือนกัน
    และทั้งสองประเภทก็ดีทั้งนั้น

    คุณmerit ถามถึงสีออร่า
    เท่าที่จำได้นี่ คนออร่าสีเหลืองทองจะเป็นคนใจเย็น สนใจธรรมะ พบออร่าสีนี้ได้มากในหมู่นักบวช ฤาษีชีไพรค่ะ
    ถ้าจิตใส ออร่าจะเป็นแสงใสๆ นะคะ และยิ่งมีกุศลประจำจิตมาก รัศมีออร่าก็ยิ่งกว้างค่ะ
     
  15. chaimongkol2

    chaimongkol2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +2,113
    ผมเองยังไม่ก้าวไปไหน..ยังปฏิบัติทั้งจับลมหายใจ..และ กสิณ
    ...ลมหายใจ..ยังทำได้ไม่ทุกครั้งมักเพ่งเสมอ..ผมไม่ทราบว่าที่ทำถูกหรือไม่..ดังนี้
    ...จับลมหายใจรู้ลมเข้าในตัวรู้ลมออก...แต่ถ้าทำแล้วมันฝืดๆ
    ..ผมเปลี่ยนรู้ที่ท้องพอง.ท้องยุบ...ถ้าฝืดอีกมาดูลมที่ปลายจมูก...เอาแน่ไม่ได้
    ...บางครั้งสงบตัวโปร่งเบา..ไปจนถึงไม่มีลมหายใจได้5-10วินาทีก็ตกลงมาที่ลมใหม่
    ...แต่ไม่สงบมากกว่าสงบ
    ..ผมทราบครับว่าให้รู้ลมเฉยๆไม่บังคับลมแต่ทำได้ไม่นาน
    ..เช่นเช้าวันนี้ตอนตื่นนอนจับลมเข้าออกที่ปลายจมูกได้ยินเสียงลมและรู้ว่ามันแยกกันคือตัวรู้และลมเข้า,ออก
    เป็นคนละส่วนกันแต่เป็นได้ไม่นาน..ยังไม่ทราบจะทำยังไงดี
    .......ส่วนกสิณ..ผมมีความรู้สึกว่ามันคุ้นๆชอบกลคือ อาโป,เตโช,อาโล.เวลามองผิวน้ำและเปลวเทียน
    ..รู้สึกว่าคุ้นๆ..เคยถามคุณ ณฐมณฑ์..ว่ากสิณที่เหมาะคืออะไร..รออยู่แต่เกรงใจ
    ..ส่วนที่เคยถามเห็นนิมิตรแก้วน้ำเปล่าไม่มีหูเป็นแก้วใส..ครับผมมาคิดว่าอาจเป็นอาโล
    ..ตอนนี้ผมนึกเห็นลูกแก้วใสมีองค์พระสีทองอยู่กลาง..ลูกแก้วอยู่ศูนย์กลางกายแบบธรรมกาย
    ..บางวันนึกเห็นชัดแต่หลับตากลับนึกเห็นไม่ชัด...ผมเลยทำแบบนี้คือถ้านั่งหลับตาก็จับลม
    ...แต่ตอนลืมตาทำงานนึกเห็นลูกแก้วมีองค์พระสีทอง...รู้ตัวว่าขาดความเพียรถึงไปไม่ถึงไหน
    ...ที่จริงก็ชอบดูจิตเหมือนกัน..แต่ความอยากรู้อยากเห็น..เลยสับสน.เลยไปไม่ถึงไหน
    ...ขอคำแนะนำด้วยนะครับ..คุณ ณฐมณฑ์.บอกว่าเคยเจอกับผมตอนอยุธยา..ไม่ทราบว่าคุณต้นตะขบเรา
    เคยเจอกันบ้างไหมครับ...อยากทำได้จริงๆครับ
     
  16. ต้นตะขบ

    ต้นตะขบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +49
    ผมเองยังไม่ก้าวไปไหน..ยังปฏิบัติทั้งจับลมหายใจ..และ กสิณ
    ...ลมหายใจ..ยังทำได้ไม่ทุกครั้งมักเพ่งเสมอ..ผมไม่ทราบว่าที่ทำถูกหรือไม่..ดังนี้
    ...จับลมหายใจรู้ลมเข้าในตัวรู้ลมออก...แต่ถ้าทำแล้วมันฝืดๆ
    ..ผมเปลี่ยนรู้ที่ท้องพอง.ท้องยุบ...ถ้าฝืดอีกมาดูลมที่ปลายจมูก...เอาแน่ไม่ได้
    ตอบ ทำไม่ผิดค่ะ เลือกเอาที่จิตเบาสบาย และปฏิบัติง่ายในขณะนั้นนั่นแหละถูกต้องค่ะ

    ...บางครั้งสงบตัวโปร่งเบา..ไปจนถึงไม่มีลมหายใจได้5-10วินาทีก็ตกลงมาที่ลมใหม่
    ...แต่ไม่สงบมากกว่าสงบ
    ตอบ ได้ฌานสี่ แต่ยังไม่ทรงตัวนัก ไม่เป็นไรค่ะ ฝึกต่อไปเรื่อยๆ ก็จะทรงตัวดีขึ้นตามธรรมชาติเอง
    แต่ต้องไม่คาดหวังว่าวันไหนจะได้ขั้นไหนนะคะ
    คือได้เท่าไรอารมณ์ใจก็พอใจเท่านั้น
    โดยฝึกทุกวัน กำลังฌานที่ฝึกบ่อย จะทรงอารมณ์ได้ดีขึ้น ละเอียดทรงตัวขึ้น และย่อมต้องดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นธรรมดาค่ะ

    ..ผมทราบครับว่าให้รู้ลมเฉยๆไม่บังคับลมแต่ทำได้ไม่นาน
    ..เช่นเช้าวันนี้ตอนตื่นนอนจับลมเข้าออกที่ปลายจมูกได้ยินเสียงลมและรู้ว่ามันแยกกันคือตัวรู้และลมเข้า,ออก
    เป็นคนละส่วนกันแต่เป็นได้ไม่นาน..ยังไม่ทราบจะทำยังไงดี
    ตอบ ทำถูกแล้วค่ะ ฝึกให้ต่อเนื่องจะมีพัฒนาการเองค่ะ

    .......ส่วนกสิณ..ผมมีความรู้สึกว่ามันคุ้นๆชอบกลคือ อาโป,เตโช,อาโล.เวลามองผิวน้ำและเปลวเทียน
    ..รู้สึกว่าคุ้นๆ..เคยถามคุณ ณฐมณฑ์..ว่ากสิณที่เหมาะคืออะไร..รออยู่แต่เกรงใจ
    ตอบ คงจะตอบอีกไม่นานนักกระมังคะ

    ..ส่วนที่เคยถามเห็นนิมิตรแก้วน้ำเปล่าไม่มีหูเป็นแก้วใส..ครับผมมาคิดว่าอาจเป็นอาโล
    ตอบ เป็นนิมิตรในอดีตชาติของคุณจริงๆ ค่ะ
    คือภาพนี้ ดิฉันเห็นนิมิตรของคุณค่ะ จึงตอบเรื่องแก้วน้ำโบราณไม่มีหูจับได้ถูก โดยนอกกจากแก้วน้ำ ดิฉันเห็นบริบทโดยรอบของเหตุการณ์นั้นอยู่บ้างอีกนิดหน่อนค่ะ
    ส่วนกสิณน้ำ น่าจะเห็นนิมิตรของตัวน้ำหรือการระลึกรู้ถึงธาตุน้ำมากกว่าน่ะค่ะ ไม่ใช่นิมิตรเห็นแก้วน้ำเฉยๆ กระมังคะ

    ..ตอนนี้ผมนึกเห็นลูกแก้วใสมีองค์พระสีทองอยู่กลาง..ลูกแก้วอยู่ศูนย์กลางกายแบบธรรมกาย
    ..บางวันนึกเห็นชัดแต่หลับตากลับนึกเห็นไม่ชัด...ผมเลยทำแบบนี้คือถ้านั่งหลับตาก็จับลม
    ...แต่ตอนลืมตาทำงานนึกเห็นลูกแก้วมีองค์พระสีทอง...รู้ตัวว่าขาดความเพียรถึงไปไม่ถึงไหน
    ตอบ ถ้าชอบแบบลืมตาก็ฝึกแบบลืมตานั่นแหละค่ะ พอคล่องๆ จะสามารถกำหนดถามโดยภาพเกิดกับใจเป็นมโนภาพค่ะ

    ...ที่จริงก็ชอบดูจิตเหมือนกัน..แต่ความอยากรู้อยากเห็น..เลยสับสน.เลยไปไม่ถึงไหน
    ตอบ ดูจิต โดยเข้าฌานสี่ในอานาปานสติแล้วมาพิจารณาจิตต่อ ก็จะดีมากค่ะ
    นั่นเป็นวิปัสสนากรรมฐาน

    ...ขอคำแนะนำด้วยนะครับ..คุณ ณฐมณฑ์.บอกว่าเคยเจอกับผมตอนอยุธยา..ไม่ทราบว่าคุณต้นตะขบเรา
    เคยเจอกันบ้างไหมครับ...อยากทำได้จริงๆครับ
    ตอบ เคยเจอกันในอดีตชาติไม่ต่ำกว่าสองชาติหลังๆ นี่แน่นอนค่ะ
    ในนิมิตรเกี่ยวกับจอกน้ำโบราณนั้น คุณกับดิฉันตอนเป็นชาย เราเคยพบกันในถ้ำ หรือในป่านั้นค่ะ เราอาจเป็นเพื่อน หรือพี่น้อง หรือครู อย่างใดอย่างหนึ่งนี่แหละค่ะ

    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งขึ้นค่ะ
     
  17. Candle

    Candle เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2004
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +909
    สาธุครับ ขอให้ก้าวหน้าในการปฎิบัตินะครับ คุณchaimongkol2 ,คุณmerit
     
  18. chaimongkol2

    chaimongkol2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +2,113
    ขอบคุณมากครับคุณ นายจันทร์เจ้า..ขอให้เจริญในธรรมเช่นกันน่ะครับ
    ..เรียนคุณต้นตะขบ..นิมิตร แก้วน้ำเปล่าถือว่าเป็น..นิมิตรของ กสิณน้ำหรือครับ...
    ..งั้นผมควรเปลี่ยนการปฏิบัติกสิณแสงสว่างเป็นกสิณน้ำจะดีกว่าใช่ไหมครับ.
    ..เรื่องฌาณ4.ที่จะให้ทรงตัวนานขึ้นผมก็พยายามอยู่แต่ไม่ได้ฌาณ4ทุกวันเอาแน่ไม่ได้
    ..ดีใจมากเลยครับที่มาเจอกันอีก..ยังไงขอรบกวนคุณต้นตะขบขอปรึกษาทางปฏิบัติน่ะครับ
     
  19. merit

    merit สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +4
    <center><img src=http://palungjit.org/attachments/a.10366/></img><center>


    ขอบคุณค่ะ คุณต้นตะขบ
    ชอบอ่านข้อความที่คุณต้นตะขบ post นะคะ
    ชอบอ่านหนังสือในแนวเจาะเวลาหาอดีต

    อีกอย่างที่จะถามคือดวงสีขาว หรือสีเหลือง หรือบางครั้งเห็นเหมือนอุโมงค์สีดำ
    เขาเรียกกสิณอะไรคะ ไม่ค่อยได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการเพ่งกสิณ เลยไม่ค่อยทราบ
    บางทีจิตไม่นิ่งก็ชอบเพ่งกสิณเหมือนกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6671-2.gif
      6671-2.gif
      ขนาดไฟล์:
      6.4 KB
      เปิดดู:
      707
  20. ต้นตะขบ

    ต้นตะขบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +49
    แก้วน้ำเปล่าเป็นนิมิตรถึงอดีตชาติสมัยที่เราเคยเป็นชายน่ะค่ะ
    บังเอิญดิฉันทราบเรื่องนี้อยู่ก่อนแล้ว แล้วคุณก็มาถามพอดี ปกติไม่ค่อยเห็นในนิมิตรของใครบ่อยๆ หรอกค่ะ
    อันนี้ไม่ใช่นิมิตรที่ต้องตีความอะไร เป็นนิมิตรตรงๆ ดังนั้น คงไม่ได้มีความหมายพิเศษไปถึงกสิณน้ำหรอกค่ะ

    เมื่อคุณชอบกสิณใดก็ปฏิบัติในกสิณกองนั้นจะดีที่สุด เพราะการที่เราชอบสิ่งใดก็มักจะสะท้อนกระแสใจที่เคยผูกพันมาในอดีตค่ะ
    ปฏิบัติกสิณกองแรกให้ถึงที่สุดก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนกองนะคะ

    การที่ฌานสี่จะทรงตัวนั้น อาศัยปฏิบัติบ่อยๆ และต่อเนื่องก็จะทรงตัวเองค่ะ
    ไม่ต้องกังวล หรือเร่งนะคะ เพราะใจที่เร่งนั้นจะกลายเป็นอุปสรรคของกรรมฐานเสียเอง
    ใจปล่อยวาง พอใจกับปัจจุบันขณะจะทำให้ปฏิบัติก้าวหน้าค่ะ
    เวลาที่ปฏิบัติแล้ว ฌานในแต่ละวัน ได่ไม่เท่ากัน ก็น้อมนำมาพิจารณาไตรลักษณ์เป็นวิปัสสนากรรมฐานด้วยก็จะเป็นการดีค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...