เห็น(ผัสสะ)แล้วรู้ เข้าใจ แล้ว อธิบาย ได้..คืออย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วรณ์นิ, 23 เมษายน 2016.

  1. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ทุกคน มี ผัสสะ สัมผัส รับรู้ หรือ จะมองเห็นด้วยตา หรือจะมองไม่เห็นด้วยตา
    หรือบางคนอ้างว่า ตนเองมองเห็นด้วยตาในตาทิพย์ หรือมองเห็นด้วยใจ...

    ทั้งหมดคือ ผัสสะคือ รับรู้มา...แต่จะเข้าใจ หรือไม่เข้าใจ ...ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    เข้าใจแปลว่ารู้เหตุปัจจัย แห่งการ เกิดขึ้น ตั้งอยู่(เห็นอยู่ ผัสสะอยู่ รู้อยู่) และดับไป ของสิ่งนั้น ด้วยเพราะขาดเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดสิ่งนั้น....นี่คือการเข้าใจ

    ส่วนการจะอธิบายได้ ให้คนอื่นเข้าใจตามได้นั้น ก็อีกเรื่องหนึ่ง

    ....
    มีท่านใด ..ที่สามารถ ทำได้ครบ ครับ (คือ ผัสสะรับรู่มา แล้ว เข้าใจ และสามารถอธิบายให้คนอื่น เขาได้รู้ได้เข้าใจตามได้ ตลอดจนคนอื่นก็สามารถเอา สิ่งที่รู้ที่เข้าใจจากเราไปอธิบายต่อไป ให้คนอื่นๆเขาได้รู้ ได้เข้าใจ และสามารถอธิบายได้..แบบนี้บ้างครับ

    ทุกคนถือเทียน ถ้าเรา สามารถจุดไฟที่เทียนตัวเองได้ก่อน แล้วค่อยไปสอนวิธีจุดเทียนให้คนอื่นมีไฟที่เทียนของเขาติดไฟ แล้วคนนั่นก็สามารถไปสอนให้คนอื่นจุดที่เทียนของแต่ละคน ต่อไปๆได้...ถ้าเป็นแบบนี้ได้ คนแรก ก็คงไม่ต้องเหนื่อยมากนะครับ
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    คนละเรื่องแล้วฮับ

    ผัสสะ กระทบ สฬายตนะเกิด จิตเกิด เวทนาเกิด สัญญาเกิด ไพบูลย์ของมัน ห้ามไม่ได้

    แต่การจะรู้ว่า พ้น แล้วแลอยู่ ที่ว่า เห็นเกิดดับ เขาจะหมายเอา เหน อุเบกขา ที่เกิดไหม

    อุเบกขามันจะไม่เกิด ถ้ายัง ยินดี ยินร้าย

    อุเบกขาเกิด เหนไหมว่า อุเบกขาดับ จะมาอ้าง เฉยๆ ก้ให้เอา สันติไปกิน

    เพราะเราไม่ได้ภาวนาเอาเฉย

    แต่เอาการเหน เฉย นั่นแหละ โคตรลวงโลก ไม่พ้น

    เรียกว่า กำหนดรู้ทุกข์ เหนือ สามโลก ยินดี ยินร้าย และ เฉยโคพอโคแมมะอึง
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    รุ้เรื่อง หรือ ไม่รุ้เรื่อง ไม่เกี่ยวเลย

    เหน เวทนาเกิดดับได้ ย่อมชื่อว่า สันโดษ ไม้ชื่อว่าฟังจากใคร แม้แต่ จากอัตตวาทุปาทาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2016
  4. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    หัดตอบ ตีวงให้แคบลง ในสิ่งที่ถามมั่งดิ ท่านนนนนน นี่วอน
    ถามอย่าง ตอบอย่าง...ต๊ะล๊อดดดดดๆๆๆๆๆๆๆ
     
  5. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    มันเกี่ยวกัน ก็หัดยอมรับว่ามันเกี่ยวกัน หน่อยสิ?......ถ้าไม่เกี่ยวกัน มันจะมีเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป มีเหตุมีปัจจัย....แห่งการเกิดสิ่งนั้นมีสิ่งนี้จึงมีได้ไง

    ไม่รู้..ก็จะยังไม่รู้ อยู่อย่างนั้นแหล่ะ...เหมือน นี่วอนจัง
     
  6. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ในวงจร เหตุปัจจัยมัน ต่อเนื่องกันอยู่...และการตั้งอยู่ของแต่ละอย่าง ก็แสดงว่า มันอุปทานกันอยู่..เป้งๆจะๆ...ยังมาจะมาพูดว่าเห็นแค่เวทนาเกิดดับ ได้ไง

    มันต้องรู้ว่า อะไรคือเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดเวทนา ย้อนทวนไปจนถึง วิญญาณ สังขาร อวิชชา....จนไปให้เห็นโทมนัส โสกะปริเทวะ...เหตุแห่งการมีอวิชชาโน่น...

    แล้วถ้ามีคนสงสัยเหตุแห่งการเกิดของเวทนา เหตุแห่งการดับของเวทนา...จะตอบว่า ไม่รู้ ไม่เข้าใจ ไม่สนด้วย....แบบนี้....มันก็ เหมือนถามตอไม้น่ะสิ
     
  7. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    คือว่า ขั้นตอนกรดับอวิชชา ดับได้อย่างไร.....ใครก็รู้ อ่านเอาได้จาก พระไตร
    ว่า อวิชชาเกิดได้ เพราะมีโทมนัส โสกะปริเทวะ มันคือตัณหา ต่างๆ คือสัญญาอาหารของสังขาร(การมีอัตตาตัวตนของคนนั้นๆ

    แต่พระพุทธเจ้าคือ เจ้าแห่งสัพพัญญู.... ดังนั้น อย่าคิดนะว่า คนคนนึงจะมานั่งสมาธิ เข้าสมาบัติจน เข้าไปเห็นเหตุแห่งการมีอัตตาตัวตน เหตุแห่งการมีอวิชชาของตนเอง...แล้วก็คิดเอาเองว่า เราจะชำระเหตุ(ตรัสรู้ได้เอง).......อิอิ..ยากครับ

    เพราะหมากกลแห่งการบรรลุธรรมได้ หมากกลแห่งการชำระอวิชชาได้หมากกลแห่งการชำระอัตตาตัวตนได้นั้น...ไม่มีใครทำเองชำระได้ด้วยตนเอง หรอกครับ..พระพุทธเจ้าท่าน วางขั้นตอน เอาไว้เรียบร้อยแล้วครับ

    มันต้อง อาศัย..พระสัพพัญญู(พระตถาคต)...อาศัยการเห็นธรรม(ในคนอื่น) ผู้นั้นจึงได้ชื่อว่า เห็นตถาคต

    เพราะ ธรรมะมีไว้เพื่อ...สรรพสัตว์...ไม่ได้มีไว้เพื่อเอาตัวรอดคนเดียว(อันนี้ความจริง)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2016
  8. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    คถาคต..คือผู้ชี้ คือผู้ช่วยเหลือคน ออกจากทุกข์...โดยไม่เอาอะไร(ความเป็นสัมมา เป็นกลาง)
    ใครที่ต้องการชำระอวิชชาในตน...ถ้าไม่เรียนรู้ สิ่งนี้...มันก็จะไม่รู้คุณค่าของคนอื่น(ผู้ชี้) และไม่รู้คุณค่าของคนอื่น(ไม่คิดช่วยเหลือคนอื่นว่าถ้าคนอื่นเป็นคนดีได้แล้ว เขาก็จะมีประโยชน์ขึ้นมาได้) และไม่รู้คุณค่าของตนเอง(ว่าจะไปช่วยเหลืออะไรใครได้)

    เนี่ย...มันเป็นสิ่ง ที่พระพุทธเจ้าหรือพระศาสดาแห่งศาสนานี้ วางเอาไว้..มันเลยแตกต่างจากศาสดาอื่นๆ โดย สิ้นเชิง

    ไม่งั้นคนก็เอามาล้างบาปกันว่าเล่น.ทำร้ายเบียดเบียนคนอื่นต่อไป ไม่หยุด..
    ไม่งั้นคนก็เอามาอ้างว่าตายเพื่อพระเจ้า...ไม่ผิด...ทำร้ายเบียดเบียนผู้อื่นโดยไร้ ความรับผิดชอบใดๆ..น่ะสิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2016
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    เหตุปัจจัยของเวทนา พระพุทธองค์ก้ตรัสไว้แล้วฮับ


    และ อย่าไปดับ ตัด เวทนานะฮับ

    เพราะพระพุทธองค์ ให้เสพให้มากๆ อุเบกขาเนี่ยะ
    ต้องบริกรรมเปนวิหารธรรม ไม่อิ่มจากกุสลเด็ดขาด

    แต่เพราะเวทนา เกิด และ ดับ อาสัยระลึก จึงเกิด
    สัมมาปฏิปทา เสพให้มาก พร้อมนำออกใน ขณะ เดียวกัน
    ลงเปนปัจจุบัน จึง เหนือโลก แต่ไม่แล้งน้ำความดี
     
  10. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ม่ายช่าย 45 องสา ออกไปเหนือสมมติ
    กลับมาโลก มาจับภูเขา ทำลายทำนบน้ำ
    แบบ น้าวงกงจุก จั๊กหน่อย
     
  11. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นได้ด้วยตัวของมันเอง ต้องอิงอาศัยปัจจัยจึงเกิดขึ้นมีขึ้น เราไม่กล่าวสิ่งนั้นว่าเป็นตัวตน หรือมีตัวตน เมื่อเห็นตามความเป็นจริงดังนี้ ย่อมเกิดการสลัดทิ้ง ในความยินดีความพอใจ ความไม่ยินดีความไม่พอใจ ความเฉยๆๆ ต่อสิ่งเหล่านั้น เมื่อเกิดผัสสะแล้ว อาการนึกคิดถึงรูปหรือสิ่งต่างๆคือสังขาร รูปต่างๆ นั้นมาปรากฎในใจ คือ สัญญา สุข หรือ ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น คือเวทนา ความรับรู้ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น คือ วิญญาน รูปในขณะนั้น คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย รวมแล้ว คือ ความเกิดขึ้นของขัณธ์ 5 นั้นเกิดขึ้นพร้อมกัน ไม่ได้เกิดเฉพาะขันธ์ใด ขัณธ์หนึ่ง เมื่อปัจจัยดับแล้ว ขันธ์ 5 ก็ดับลงพร้อมกัน เมื่อมีปัจจัยเข้ามาใหม่ ขันธ์ 5 ก็เกิดขึ้นใหม่ หมุนเวียนอยู่อย่างนั้น เป็นอุปทานขันธ์ การเกิดขึ้นของขันธ์ ไม่ใช่ของที่จะเห็นได้โดยง่าย จำเป็นต้องสั่งสมสติ ปัญญา อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิด สมาธิ เข้าไปเห็น ดุจมองเห็นรูป ด้วยตาเนื้อ ถึงแม้ว่าจะมีผู้ชี้ทางให้แล้ว ผู้ปฎิบัติก็ควรจุดแสงสว่างให้เกิดปัญญารู้เห็นด้วยตนเอง ประจักษ์แจ้งด้วยตนเอง ก็จะถึงซึ้งความสิ้นทุกข์ในที่สุด แม้นจะยังมีขันธ์ 5 อยู่ แต่เครื่องเสียดแทงใจนั้นไม่มีแล้ว ทุกข์เพราะอุปทานไม่มีแล้ว ไปที่ไหนๆมันก็สบาย เป็นอิสระแก่ตนอย่างแท้จริง ความรู้ความเห็นของผมนั้นยังด้อยนัก ยังต้องศึกษาอยู่อีกมาก แต่ก็คงจะพอมีสาระอยู่บ้าง ขอให้เจริญในธรรม ยิ่งๆ ขึ้นไปครับ.
     
  12. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เสพให้มากน่ะคือ..กายตยคติ....อานาปาณสติ .ต้องไปจำพระสูตรมาดีดีนะ

    อะไรคือสิ่งที่ควรเสพให้มากมากและต้องเข้าใจถูกด้วยว่าเสพมากๆๆคือ กุศลธรรม ธรรมฝ่าย..กุศล....เป็นวิหารธรรมต้องเข้าใจด้วยว่าวิหารธรรมคือสิ่งที่กำหนดมา ดูรู้อยู่ จนเป็นความรู้สึกที่ เสพมากๆรู้มากๆจนกลายเป็น นิสัย(วสี) กลายเป็นที่ทรงอารมณ์นั้นมากๆ. จนลืมอารมณ์อกุศลอื่นๆไป เลย...เนี่ย จนกลายมาเป็นคุ้นเคยกับอารมณ์กุศลธรรมเหล่านั้นตลอดวัน อย่างต่อเนื่อง..จนไม่ไขว้เขวไปหาอารมณ์อกุศธรรม..ได้ ถึงเรียกว่าเป็น วิหารธรรม

    ทำไมต้องแปลให้ ด้วยนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2016
  13. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    อันนี้ เป็น ความสามารถเฉพาะตัว ห้ามคนด้อยปัญญา อย่างนิวรณ์เอาไปเลียนแบบโดยเด็ดขาด
     
  14. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    เอ้านิวรณ์ จะแจกเบอร์โทรแล้วนะ....ออกมา ..ทำหน้าที่ เป็นจระเข้ขวางคลอง ..เร็วๆดิ
     
  15. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ก็พระพุทธองค์ตรัสไว้ดีแล้ว แล้วแกมาบอกคนอื่นให้ดูแต่เวทนาเกิดดับก็พอ...ได้ไง....แล้วยังมาบอกอีกว่า รู้เรื่องของเหตุปัจจัยที่ทำให้เวทนาเกิดดับ หรือไม่...ไม่เกี่ยวกัน....แล้วอุเบกขาธรรมที่แกให้คนเสพให้มากๆ นั้นคือผลของการดับไป ของเวทนา......ถ้าคนไม่รู้...มันจะเข้าใจมั้ยว่า เสพอุเบกขาธรรมมาจากไหน..กัน อุเบกขาธรรมมันคืออะไร มันมีเหตุปัจจัยใดที่ทำให้เกิดอุเบกขาธรรม แล้วอุเบกขาธรรมตั้งอยู่ที่ใด

    นิวรณ์ บื้อ...ง้อวง่อ.(สระโอแทน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2016
  16. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465

    แปลผิดไงฮับ

    ตรงที่ ไม่อิ่มจากกุสล. เพราะว่า. มันอิ่มไม่ได้ ต่างหากฮับ

    คือ เจริญให้ตาย. ก้ ต้องสลับ กับเสื่อม. เปน
    อนิจจาสังขารา

    สัพเพธรรมมา อนัตตาติ

    เพราะเหน สัจจอริยะ ตามจริงอย่างนี้ แม้นสัจจนี้ด้วย ก้เกิดดับ

    ก้ไม่ต้องไป กล่าวถึงบัญญัติอื่นๆ

    นี่แค่ เจริญการเหนอริยสัจจด้วย การสมาทานสิกขาเองนะฮับ

    ยังไม่ได้กล่าวถึงการเพียรเหนแรมปี แรมอสงไขย กรณีไม่เคยสดับ

    หรือ ไม่เก๊ท
     
  17. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    คนไม่ฮุ้ ก้เปนคนที่ ขยำภูเขา ทำลายเขื่อนพันยา จิฮับ

    ส่วนคนส่องเสพ. การห่างสงัดจาก ราคะ. มีจิตไม่ห่างจากปฐมฌาณ
    ไม่ยุ่งภูเขา สายน้ำ สายตา. สายใย เขาไม่งงหรอกว่า. อุเบกขามาจากไหน

    หายไปไหม.

    หายไปลมหายใจเดียว. อย่ามาพุดว่า. รุ้จักการภาวนา
     
  18. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ว่าแล้วเชียว....พูดกันเข้าใจกันคนละประเด็นละ...

    ประเด็นที่ผมพูดคือการรู้การเข้าใจ ในวงจรครบทุกขั้นตอน...ในเรื่องของเหตุปัจจัย ที่ทวนไป จนพบเหตุปัจจัยของอวิชชา แล้ว ดับเหตุปัจจัยนั้นได้..

    แต่แกจะมาเน้น ที่ เวทนาเกิดดับ..ทำไม อุเบกขา..อะไรของแก
    อุเบกขาเพราะ ไม่มีปัญญา เข้าไป ชำระอวิชชาได้อ่ะดิ..
     
  19. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ไร้สาระ จริงๆ.เลย แกคิดว่า แค่ อยู่ในวิหารธรรมของอุเบกขาได้ ก็จบแล้วเหรอ
    เดี๋ยวอุเบกขาธรรมมันก็หายไปเอง ก็ถึงนิพพานไปเอง งั้นเหรอ

    ไม่งง หรือ ไม่เข้าใจ กันแน่.....เนี่ย..หรือแค่จำได้ ว่า ตำราเขาเขียนเอาไว้ อย่างนี้

    อิอิ..ฉันก็อ่านมา ตรงนี้น่ะ และเข้าใจ...แต่มันไม่ได้เป็นเร็วปุ๊บปั๊บตามตำรา..ซักหน่อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2016
  20. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    อ้อ หรือ จะมีดีที่อ้างว่า มีจิตไม่ห่างจากปฐมญาณ..คือ วิหารธรรม

    อิอิ...นิวรณเอ้ย....ญาณต่างๆฌาณต่างๆมีเอาไว้..รองรับการเข้าไปเห็น โสมนัส โสกะปริเทวะ ให้มัน แสดงตัว....แล้วญาณปัญญาก็มีเอาไว้ให้เรารู้และยอมรับว่า เรามีสิ่งเหล่านั้น สิ่งเหล่านั้นมีในเรา.....รู้ได้เห็นได้ เพราะมีฌาณมีญาณ และคนมาก่อกวน..(ผู้ชี้).....จะไปดูอะไรในอุเบกขาธรรม ได้เล่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...