"แก้กรรม ตัดกรรม"

"แก้กรรม ตัดกรรม"

กรรม คือ การกระทำ
แต่มักมองไปว่าเป็นเรื่องของผลจากเหตุในอดีต (ชาติ) เสียมาก
กรรมจริงๆแล้ว ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต มีเพียงปัจจุบันเท่านั้น
ผลกรรมที่ได้รับ ย่อมสัมพันธ์กับเหตุปัจจัยที่ได้กระทำไว้ก่อนเสมอ

เช่น การสอบไล่
ถ้าเราเลือกที่จะไปสอบ ย่อมต้องมีผลตามมา
คือเป็นไปได้ทั้งสอบผ่านและสอบไม่ผ่าน
และจะผ่านหรือไม่ผ่านล้วนมีเหตุปัจจัยเช่นกัน
หากเราไม่ขยัน ไม่อ่าน ไม่ทำความเข้าใจ
ก็ย่อมไม่สามารถสอบผ่านได้
หากเราขยัน อ่านหนังสือมาก ทำความเข้าใจมาก
ก็ย่อมสามารถสอบผ่านได้
บุคคลผู้สอบตกอยู่เสมอเพราะมีความเกียจคร้านไม่ใช่กรรมเก่า
จึงต้องแก้ที่กรรมใหม่ (พฤติกรรมปัจจุบัน)
เปลี่ยนให้เป็นคนขยัน เปลี่ยนพฤติกรรม
อย่างนี้เรียกว่า "แก้กรรม"

กรรมเก่าไม่ได้มีผลเป็นต้นเชื้อ
แต่เป็นเพียงเชื้อที่รอปะทุเท่านั้น
พฤติกรรมของตนเองในปัจจุบันนั่นแหละ
ที่จะเป็นต้นเพลิงที่จะทำให้เชื้อปะทุขึ้นมา
ถ้าเราเปลี่ยนพฤติกรรมปัจจุบันแล้ว
ก็เท่ากับมีเชื้อแต่ไม่มีเพลิง
ปัจจัยมันไม่ครบ ผลมันก็ออกไม่ได้
กรรมเก่าที่เคยทำแม้จะยังมีอยู่
แต่ก็ให้ผลไม่ได้
อย่างนี้เรียกว่า "ตัดกรรม"

"พฤติกรรมปัจจุบันเหมือนเดิม ก็ได้ผลกรรมแบบเดิม"
"เปลี่ยนพฤติกรรม เท่ากับเปลี่ยนผลกรรม"

เมื่อกรรมชั่วที่เคยกระทำไปแล้ว ปัจจัยยังไม่ครบ
ทำให้ยังไม่ต้องรับผลได้ กรรมดีก็เช่นกัน
ทำบุญหนึ่งบาท หวังให้ถูกหวยร้อยล้าน
เป็นไปไม่ได้ ก็เพราะปัจจัยที่ทำ กับผลที่ต้องการมันไม่ตรงกัน
อยากให้เพื่อนบ้านปันอาหารให้
เราก็ต้องทำเหตุเสียก่อน
เมื่อเราปันอาหารให้เพื่อนบ้าน
เมื่อปัจจัยครบ เพื่อนบ้านก็ปันอาหารให้เราบ้าง
อย่างนี้ปัจจัยที่ทำ สมดุลกับผลที่ต้องการ
กรรมที่กระทำจึงออกผลได้

"ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" นั้นเป็นจริง
แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความสมดุลของเหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดผล
ถ้าทำดี โดยหวังให้ผลออกมาอย่างหนึ่ง
แต่ทำเหตุปัจจัยไม่ตรง ก็จะกลายเป็น
"ทำดีไม่ได้ดี" (คิดไปเอง)

ถ้าบอกให้ชัดก็ต้องบอกว่า
"บุคคลใดกระทำเหตุปัจจัยพร้อมให้เกิดผลอย่างไร พึงหวังผลอย่างนั้นได้"

"จะแก้กรรม ตัดกรรม ทำความดี ต้องทำให้เป็น"
"ทำเหตุปัจจัยอย่างฉลาด ทำอย่างเข้าใจ ถึงจะเกิดผล"




- วิริยะ โสดาปัตติผล -

 

ขอบพระคุณครับ