แก้ปัญหาอาการน้อยใจหรือขี้งอน

อยากจะทราบว่าขี้งอนกะน้อยใจนี้คือ อย่างเดียวกันป่าวอ่ะ และจะมีวิธีแก้ไขให้หายจากอาการเหล่านี้ ได้ อย่างไร
และในใจของคนที่ขี้งอนกะน้อยใจนี้เค้าคิดอย่างไรหรอ


ขอคำแนะนำหน่อยครับ

 

ก็แค่คิดว่าไม่ได้ดั่งใจเล้ยย... แต่จะไปบีบบังคับอ้อนวอนขอร้องให้คุณทำอย่างที่เขาอยากจะให้คุณทำก็ไม่ได้... ก็เลยทำให้ผลของการที่คุณไม่ได้ดั่งใจแสดงออกมาในลักษณะไม่สนใจใยดีกะคุณ...
(b-ng)
หรืออีกลักษณะหนึ่งคือ เขาผิดหวังในเรื่องที่เขาคิดว่าคุณต้องทำให้เขา ( เขาคิดว่าเป็นหน้าที่ที่คุณจะต้องทำให้เขา ) แต่คุณกลับไม่ทำ แล้วคิดว่าไม่ใช่เรื่อง ( คุณคิดว่าไม่ใช่หน้าที่ที่จะต้องทำ หรือคุณพยายามหลบหลีกที่จะไม่ทำเพื่อรักษาผลประโยชน์ใดๆก็ตาม ) ซึ่งจะทำให้เขารู้สึกผิดหวังในตัวคุณ ( เขาตั้งความหวังว่าคุณจะทำ แต่คุณกลับไม่ทำ ก็จะทำให้เขาผิดหวัง ) และเมื่อเขารู้สึกผิดหวังในสิ่งที่เขาคิดว่าคุณต้องทำ... ก็จะทำให้ภาพพจน์ของคุณในสายตาเขาตกต่ำลง และเมื่อภาพพจน์ของคุณต่ำลงก็จะทำให้เขามีความรู้สึกเกลียดคุณมากขึ้นอ่ะนะ
(b-hmm)

 

อันนี้ก็คิดไม่ออกเหมือนกันแฮะ

... แก้อยู่แต่ลำพัง สันโดษแทน คาดหวังกะคนอื่นและกัน อิอิ

 

จริงๆ แล้วเราอาจจะกล่าวได้ว่า ความน้อยใจเป็นอาการที่เกิดในใจ เมื่อเกิดแล้วก็ได้กระทำการสานต่ออยากให้บุคคลอื่นรับรู้ต่อความน้อยใจของตัวบุคคลนั้นๆ โดยจะแสดงออกมา ทางวาจาบ้าง ทางการกระทำบ้าง อย่างนี้ เราจะเรียกว่าเป็นการงอน
ทีนี้ ความคิดของบุคคลลักษณะนี้ มักจะเป็นผู้ที่มีความยึดถือในอัตตาตัวตน ในแบบที่ชอบให้คนมาชื่นชมยอมรับสนับสนุนในสิ่งที่ตนกระทำไป สิ่งที่ตนทุ่มเทให้ไป โดยคาดหวังผลตอบรับกลับมา มักจะคาดหวังไปว่า เมื่อเราทำอย่างนี้ ก็อยากให้เขามีอาการตอบรับอย่างนี้ ดังนั้น เมื่อกระทำไปแล้ว ผลตอบรับไม่ได้ดั่งที่คิดไว้ ก็เกิดความผิดหวัง คิดต่อไปต่างๆ นานา จนเกิดเป็นความน้อยใจ คิดตัดพ้อว่า เราอุตส่าห์ทำให้ อยากให้คิดหรือรับรู้ในสิ่งที่เราทำอย่างที่เราปรารถนา เมื่อผิดหวังก็จะเกิดการงอน เป็นอาการปรุงของใจต่อกิเลส

จะเห็นได้ว่า จริงๆ แล้วก็คือ ยึดถืออยากให้บุคคลอื่นเป็นหรือตอบรับให้เป็นอย่างใจเรา และคาดหวังในผลที่ทำให้ครับ วิธีแก้ ก็ค่อยๆ ทำให้ด้วยจิตเมตตารักกันแบบไม่คาดหวังผลตอบแทน เพราะบุคคลบางคนเขาก็รับรู้ชื่นชม และขอบคุณในสิ่งที่เรากระทำให้ แต่เขาคนนั้นอาจเป็นบุคคลที่ไม่ชอบแสดงออกก็เป็นได้ครับ

 

อืมมม จะหวังว่าจะให้โดยไม่หวังผลตอบแทนงั้นเหรอ... อย่าดีกว่า เพราะถ้าเราไปแสดงออกว่าเราจะให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน คนอื่นก็จะคิดว่าการที่เราให้นั้น เขาไม่ต้องทำดีตอบ นั่นคือ ถ้าเราไปแสดงตัวว่าเราเป็นคนที่ให้คนอื่นโดยไม่หวังอะไรตอบแทน เราจะเป็นคนทำดีไม่ขึ้น ทำดีให้ตายยังไงคนอื่นก็จะไม่เห็นว่ามันดี ( และวันหนึ่งเราก็จะเลิกทำไปเลย )

แล้วยังไม่พอ ถ้าคนอื่นรู้ว่าเราทำดีให้เขาโดยไม่หวังว่าจะได้อะไรตอบแทนกลับมา มันก็จะคิดไปเองว่ามันจะหลอกใช้ให้เราทำอะไรให้มันโดยที่มันไม่ต้องให้อะไรเราก็ได้ ( เพราะถ้ามันสามารถหลอกใช้เราโดยไม่ให้อะไรเราตอบแทนได้ มันก็จะคิดว่ามันฉลาดกว่าเรา มันเหนือกว่าที่หลอกเราได้ ) ดังนั้นถ้ามันคิดว่าเราให้มันได้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ดีไม่ดีเรายังไม่ได้ให้อะไรมัน ไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรเพื่อมัน มันก็อาจจะมาหลอกเราว่ามันจะให้อันนั้นอันนี้กะเราให้เราทำอย่างนั้นอย่างนี้ให้มัน แต่พอเราทำแล้วมันก็หักหลัง ไม่ให้เราอย่างที่มันบอกว่าจะให้ ( เพราะมันคิดว่าเราทำงานให้มันมันไม่ต้องให้ค่าแรงเราตอบแทนก็ได้ เราจะไม่ว่าอะไร ) แล้วเราก็จะเป็นคนที่ทำอะไรไม่สำเร็จไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ทำแล้วลัมเหลวตลอด... ( เพราะทุกคนจะคิดว่าถ้าเราทำ มันไม่ต้องให้ความช่วยเหลืออะไรก็ได้ เพราะเราทำโดยไม่หวังอะไร แล้วงานอะไรที่จำเป็นต้องยุ่งเกี่ยวกับบุคคลอื่นหลายๆฝ่ายก็จะพังไม่เป็นท่า เพราะว่าบุคคลทั้งหลายที่จะต้องยุ่งเกี่ยวกับงานเรานั้น คิดว่าไม่ต้องทำงานให้เราก็ได้ เราไม่เห็นว่ามันผิด เราจะไม่ว่าอะไรมัน )
(bb-flower

 

การให้โดยไม่หวังผลตอบแทน ก็คือการให้ด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ หรือเรียกว่าเมตตาในอุเบกขา (จาคะ)

เราให้เขาแล้ว เขาจะให้อะไรตอบเราหรือไม่ เราก็ไม่ได้สนใจ เพราะสิ่งที่เราสนใจก็คือ

ความอิ่มเอิบใจที่เราได้รับ เมื่อเราได้เป็นผู้ให้ เราให้เค้าไปเพื่อเป็นการหวังตัดโลภะ หรือความโลภของตัวเราเอง

ถ้าเรามัวแต่ไปสนใจว่าเราทำอะไร หรือให้อะไรใครไป แล้วเค้าต้องสนองตอบเรา นั้น

มันไม่สมควรเรียกว่าการให้ ควรจะเรียกว่าเป็นความคิดในการอยากจะแลกเปลี่ยนมากกว่า เพราะต้องการสิ่งตอบแทน

และถ้าเราไม่ได้ของตอบแทน หรือการกระทำตอบสนองกับมา ที่เราคิดว่าเหมาะสมกับความต้องการของเรา เราก็จะเกิด "ความน้อยใจ"
และแสดงออกมาโดยอาการที่เค้าเรียกว่า "งอน" ในลักษณะต่างๆ

 

โดยธรรมชาติขี้งอนและน้อยใจเป็นธรรมชาติของผู้หญิง คิดว่าต่างกันตรงที่ขี้งอนนี่น่าจะหมายถึงอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็งอน แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่มาก เช่น แฟนเดินไปไม่รอ กินก่อนไม่รอ อะไรทำนองเนี้ย ส่วนน้อยใจเนี่ยน่าจะใช้กับเรื่องที่ใหญ่กว่าและกระทบกระเทือนความรู้สึกผู้หญิงมากกว่า ซึ่งคุณผู้ชายทั้งหลายอาจไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ เช่น หายไปหลายวันไม่โทรมา ผู้หญิงจะน้อยใจว่าไม่รัก ไม่คิดถึงหรือจะพาลคิดว่ามีคนอื่นด้วย ความน้อยใจนี่อาจจะสะสมและจะค่อย ๆ รุนแรงขึ้นถ้าไม่ได้รับการแก้ไข เช่น ถ้าคุณไม่ได้อธิบายให้เค้าเข้าใจ เรียกว่าไม่เคลียร์กัน เมื่อปัญหามันถึงขั้นเลวร้ายที่สุด อาจเลิกกันไปเลยก็ได้ค่ะ
ส่วนวิธีแก้ง่ายนิดเดียว ก็ง้อเข้าไปสิ ตื๊อ ๆ เข้าไว้ ผู้หญิงชอบงอนให้ผู้ชายง้อ จะได้รู้สึกว่าตัวเองยังมีความหมายกับเค้าอยู่

 

อืมมมม คุณ Oatto81 นี่มีแนวโน้มจะหลอกใช้คนอื่นนะเนี่ย [Embarrass
( เพราะว่าคุณคิดว่าการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนนั้นดี หวังสิ่งตอบแทนไม่ดี ดังนั้นคุณก็จะคิดว่าถ้าคนอื่นจะทำอะไรให้คุณก็ไม่ควรจะหวังสิ่งตอบแทน เมื่อคนอื่นทำดีกับคุณคุณก็ดันจะคิดว่าไม่จำเป็นต้องตอบแทนก็ได้เพราะเขาน่าจะไม่หวังสิ่งตอบแทนจากคุณ นั่นคือคุณจะเป็นคนไม่รู้คุณคน คนอื่นทำดีให้ก็ไม่รู้สึกว่าเป็นบุญคุณ )

และถ้าคุณไปเข้าใจว่าการให้โดยไม่หวังผลนั้นดี แล้วจะทำให้คุณเป็นคนหวงบุญ นั่นคือถ้าคนอื่นทำดีให้คุณ คุณก็จะไปแสกนว่ามันหวังอะไรรึป่าว ถ้ามันทำอย่างนี้แล้วมันได้อะไร ถ้าคุณรู้สึกได้ว่ามันหวังอะไรจากคุณ คุณก็จะไม่คิดว่ามันทำดีให้... แต่จะคิดว่ามันกำลังหลอกทำดีกะคุณเพื่อให้คุณทำอะไรให้มัน เมื่อคุณรู้สึกอย่างนี้ คุณก็จะไม่ทีดีกะมัน ( ทั้งๆที่มันดีกะคุณ ) เพราะคุณจะรู้สึกว่าตัวเองโง่ที่ไปยอมทำตามที่มันต้องการ โดนมันหลอกไซโคให้ทีดีกะมันได้ก็หมายความว่าคุณโง่กว่ามัน เมื่อคุณกลัวว่าคุณจะโง่เมื่อทำดีก็จะทำให้คุณไม่ทำดี ( เพราะรู้สึกว่าถ้าทำดีแล้วจะโง่... ) และมันเป็นระบบอัตโนมัติที่ถ้าคุณเลือกที่จะไม่ทำดี... คุณก็จะทำเลวเสมอนะจ๊ะ... ( มนุษย์มองทางออกของปัญหาได้เพียงสองทางเท่านั้นคือทำดีกับทำเลว ปัญญาระดับนี้มองทางเลือกที่อยู่กลางๆทำไปก็ไม่ใช่จะดีและไม่ใช่จะเลวไม่ได้ เมื่อใดที่มนุษย์เลือกที่จะไม่ทำดี ( เพราะดูโง่ๆ ) มนุษย์ก็จะเลือกทางเลือกที่เหลือก็คือทำเลวไปโดยอัตโนมัตินาจ๊ะ... )
(b-hmm)

 

แต่ผู้ชายจะคิดว่าถ้าตัวเองไม่ผิด ก็ไม่จำเป็นต้องง้อ... ดังนั้นคุณจะให้ผู้ชายง้อเพื่อให้คุณรู้สึกว่าคุณมีความกับเขาอยู่ได้ในกรณีที่เขาทำผิด " เท่านั้น " ถ้าคุณคิดว่าการง้อเป็นหน้าที่ของผู้ชาย เมื่อเกิดการทะเลาะกันผู้ชายจะต้องง้อผู้หญิงเสมอทุกกรณี ไม่ว่าใครจะถูกใครจะผิด ถ้าผู้ชายไม่ง้อถือเป็นบกพร่องในหน้าที่ที่มีความผิดร้ายแรงถึงขั้นจะต้องนอกใจไปมีคนอื่น... เมื่อใดที่คุณทำผิดแล้วหวังว่าผู้ชายจะมาง้อขอคืนดีแล้วก็เอาแต่เชิดใส่เพื่อให้ตนเองดูมีค่า ขอบอกว่า " ได้เลิกแน่ " ครับท่านนน...

จะว่าเข้าใจก็เข้าใจ จะว่าไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจ เอางี้ละกันขอบอกว่าเราเข้าใจผู้หญิงดีทุกอย่างแต่ไม่เข้าข้างผู้หญิง ( หวังว่าจะเข้าใจ ) เราขี้เกียจจะมานั่งสาธยายถึงมูลเหตุแรงจูงใจที่ทำให้พวกผู้หญิงมัน ego จัดอย่างนี้ แต่ขอให้เข้าใจถึงหลักเหตุและผลไว้บ้าง ผู้ชายจะง้อก็ตอนที่ตัวเองทำผิด.. ถ้าทำไม่ได้ผิดทำไมต้องรู้สึกว่าผิดแล้วต้องไปง้อ ถ้า ego จัดไม่อยากง้อผู้ชายก็ต้องไม่ทำผิดต่อผู้ชาย เหตุผลโง่ๆและง่ายๆขนาดนี้หัดเข้าใจไว้บ้างเถอะขอร้อง อย่าคิดว่าตัวเองมีสิทธิเลือกอยากจะคบใครก็คบได้ดังนั้นถ้าเธออยากจะให้ฉันเลือกก็จงมาง้อฉันไม่งั้นฉันก็ไปคบคนอื่นได้เรื่องอะไรจะง้อเธอ แล้วก็เป็นผู้หญิงที่จะคบใครก็ได้คบดะ ไม่เลือกว่าเป็นใครขอให้ตัวเองยังรักษาความ ego จัดของตนไว้แฟนมันจะตายมันจะทิ้งก็ไม่เป็นไรน่ะขอทีเถอะ แม่งเห็นแล้วรู้สึกถึงความโรคจิตวิปริตซาดิสยังไงไม่รู้ว่ะ
(b-love2u)