แชร์ประสบการณ์และคำสอน หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ติสาโร, 19 เมษายน 2018.

  1. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    " #ตาพงษ์" และ " #หลวงปู่บุญส่ง"
    .
    "ใครลงมือก่อนผู้นั้นคือคนขี้แพ้และอ่อนแอที่สุด"
    .
    " ... ความอดกลั้น คือ ตบะที่ทรงพลังอย่างยิ่ง
    ที่จะช่วยแผดเผาความอ่อนแอให้มลายหายไปเสียสิ้น
    .
    ใครก็ตามที่ลงมือก่อนคนนั้นคือผู้ที่อ่อนแอ คือ คนที่ขี้แพ้
    สำหรับเราน่ะนะ ไม่เคยคิดว่าคนที่กระทำคนอื่นก่อน
    ลงมือกับผู้อื่นก่อนคือผู้ที่เข้มแข็งหรอกนะ
    .
    หากแต่เรามองว่าใครก็ตาม
    ที่ลงมือกับผู้อื่นก่อนไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม
    .
    คนผู้นั้นคือคนที่อ่อนแอ ไม่ได้เข้มแข็งอะไรเลย
    เพราะอะไร เพราะด้วยว่าตนเองนั้น
    เต็มไปด้วยความกลัว เต็มไปด้วยความขี้ขลาด
    ที่เกาะกุมอยู่เต็มหัวใจ
    .
    กลัวว่าอีกฝั่งฝ่ายจะมาทำอะไรเรา กลัวไปเสียหมด
    กลัวมากจนกระทั่งตนเองต้องชิงลงมือก่อนนั่นไง
    .
    ใครจะมองอย่างไรเราไม่รู้
    แต่เรามองว่าคนที่ลงมือก่อน หรือทำร้ายผู้อื่นก่อน
    คน ๆ นั้นคือผู้ที่อื่นแอและขี้กลัวเสียจริง ๆ
    .
    .
    สมัยหนึ่งที่เราเองยังถูกรุกราน
    ตอนที่มาสร้างวัดใหม่ ๆ (วัดสันติวนาราม)
    โดนไล่ที่จากกลุ่มนายทุน กลุ่มคนพื้นที่ต่างๆ นานา
    .
    .
    คนแล้วคนเล่า กลุ่มแล้วกลุ่มเล่า
    เข้ามาบังคับขู่เข็ญเราสารพัด
    แต่เราไม่เคยกลัว เรายืนหยัดที่จะสู้
    สู้ทั้งที่เป็นพระนี่แหละ
    .
    .
    เพราะเราไม่กลัวอะไรมันอยู่แล้ว
    เราไม่มีอะไรจะสู้มีแต่ใจและความบริสุทธิ์เท่านั้น
    .
    .
    มีอยู่คนหนึ่งชื่อ "ตาพงษ์" เข้ามารุกรานเราเช่นกัน
    ก่อนหน้าตาพงษ์มีเข้ามาแล้วประมาณ 3-4 ราย
    แต่มีอันเป็นไปทั้งหมด
    ที่พูดนี่ไม่ได้อวดอ้างหรอกนะ
    แต่มันคือเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นกับเรา
    .
    .
    สมัยก่อนเราอยู่ของเราเงียบ ๆ อยู่ในป่าในดง
    บำเพ็ญปฏิบัติของเราอย่างเงียบ ๆ
    ไม่ได้สนใจอะไรกับใคร
    และไม่คิดจะวุ่นวายกับใคร
    หลังจากที่เราถูกรุกราน
    จากกลุ่มคนกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า
    ก็มาถึงตาพงษ์คนนี้
    .
    .
    ตาพงษ์คนนี้คือเขาบอกว่าเป็นนักเลงเก่า
    เป็นนักเลงเมืองหลวงที่ต้องคดี
    ยิงคนตาย ที่ถูกเพิ่งปล่อยตัวออกมา
    จากนั้นมาอยู่ทางภาคตะวันออก มาอยู่แถววัด
    ตอนแรกยังดี ๆ อยู่กับเรา หลัง ๆ ไป
    นาน ๆ ไปธาตุแท้ของตาพงษ์คนนี้เริ่มออก
    .
    .
    มาตั้งต้นใหม่อยู่แถวทางภาคตะวันออกนี้
    มาอยู่ทางจันทบุรี
    ประกอบอาชีพเกี่ยวกับการกว้านซื้อที่
    บุกรุกที่ไปเรื่อย ๆ
    .
    แรกเริ่มเดิมทีก็ยังดี ๆ แต่นานวันไป
    ตาพงษ์คนนี้เริ่มที่จะปลูกพืชต่าง ๆ ปลูกต้นไม้ต่างๆ
    รุกล้ำเขตแดนมาเรื่อย ๆ จนกินที่ของวัด
    ประหนึ่งว่าจะเขมือบพื้นที่ของวัด
    โดยที่คนทางวัดไม่รู้ตัว
    .
    .
    ตอนนั้นก็มีลูกศิษย์มาบอกเราว่า
    ตอนนี้ตาพงษ์เริ่มปลูกรุกพื้นที่
    กินที่เข้ามาเรื่อย ๆ แล้ว
    ให้ไปดูหน่อย
    .
    .
    ด้วยความที่ตาพงษ์คนนี้เป็นนักเลงเก่า
    และยิ่งต้องคดียิงคนตายมาด้วย
    ชาวบ้านหรือลูกศิษย์เราเขาก็ไม่มีใครกล้ายุ่ง
    .
    .
    พอเราไปดูก็เห็นว่า
    ตาพงษ์คนนี้ปลูกรุกล้ำพื้นที่เข้ามาในเขตวัดจริง ๆ
    และตั้งใจที่จะรุกล้ำ เพื่อครอบครองพื้นที่วัด
    เราเห็นดังนั้นก็คิดคงจะไม่ดีเสียแล้ว
    หากปล่อยไว้อย่างนี้
    ปัญหาคงจะต้องมีเสียด้วยในอนาคต
    .
    .
    และที่สำคัญเหมือนตาพงษ์คนนี้
    ตั้งใจให้รู้เลยว่า เขาต้องการครอบครองพื้นที่
    เขตแดนบริเวณนั้นของวัด
    .
    ซึ่งเขาทำการปักเขตแดนพื้นที่บริเวณนั้น
    ด้วยไม้ไผ่ปักบริเวณพื้นดินตรงนั้นลักษณะกากบาท
    เป้นรูปกระโหลกไขว้ เลยทีเดียว
    .
    .
    เราไม่รู้หรอกทำไมต้องทำแบบนั้น
    แต่เราเห็นเช่นนั้นก้คิดในใจ
    ตาพงษ์คนนี้มันเอาเรื่องเสียแล้ว
    และก็คิดในใจตาพงษ์คงจะอายุไม่ยืนยาวอย่างแน่นอน
    ที่ทำแบบนี้ ... แหมม ตาพงษ์กล้าจริง ๆ เราคิดแบบนี้
    .
    .
    หลังจากนั้นเราได้เจอกับตาพงษ์คนนี้
    เขาก็ #ถือปืน มาเลยทีเดียว ถือลูกซองมา
    เราก็ไปคุยกับเขาสองต่อสองนี่แหละ
    เรื่องที่ดินที่มีปัญหาบริเวณนั้น
    เราบอกว่าจะมาทำแบบนี้ไม่ได้
    คิดจะมาเขมือบที่ดินวัดแบบนี้ไม่ได้
    มันเป็นที่ดินของวัด มันไม่ถูกต้อง
    .
    .
    ทีนี้ตาพงษ์เขาก็ออกอาการนักเลงเลยทีเดียว
    ชักปืนขู่ขึ้นมาว่าจะทำไม เล็งมาที่เรา
    ถามว่าแน่หรือ จะเอาหรือ มีปัญหาหรือ
    .
    ตอนนั้นเราก็ไม่กลัวหรอก
    เพราะปืนอะไรพวกนี้เราเคยผ่านมันมาแล้ว
    เคยจับมาแล้วตั้งแต่ก่อนบวชแล้ว
    และก่อนเจอตาพงษ์นี้
    เราก็ถูกคนจ้องทำร้ายมาก่อนแล้ว
    เราไม่ได้อวดดี เราเอาความถูกต้อง
    .
    .
    เราก็ชี้หน้าแล้วบอกไปว่า
    .
    .
    " เธอไม่ใช่นักเลงหรือว่าคนกล้าอะไรหรอก
    แต่เธอน่ะมันคนขี้ขลาด อย่าคิดว่าเราจะไปกลัวเธอ
    เหมือนคนอื่นหรอกนะ ชักปืนขึ้นมาแบบนี้
    ที่นี่ใช้ไม่ได้กับแบบเมืองหลวงที่เธอเคยทำมาหรอก
    พ้นคุกมาได้ก็ยังใช้นิสัยขี้ขลาดแบบเดิม ทำแบบเดิม ๆ
    .
    จะบอกให้นะที่เธอไปยิงเขาจนถึงแก่ความตายแล้วเธอติดคุกนั้น เธอไม่ใช่คนกล้าหาญหรือน่ากลัวอะไรหรอก
    แต่เธอคือคนที่ขี้ขลาดและน่าสงสารที่สุด
    เพราะไปลงมือก่อน ชิงกระทำก่อนเขาก่อน จนเขาตาย
    .
    เพราะอะไรก็เพราะเธอน่ะกลัวว่าเขาจะเข้ามากระทำเธอ
    ใจเธอมันไม่นิ่ง มีแต่ความขี้ขลาด เธอเลยลงมือก่อนไง
    เธอจะมาใช้วิธีนั้นกับเราไม่ได้หรอก ... มันไม่ได้ผล
    .
    ถ้าจะยิงเราก็ยิงเข้ามาเลยตรงนี้ ยิงเข้ามาตรง ๆ ไหน ๆ ก็ไหนแล้ว แสดงความกล้าออกมาให้เราดูหน่อย ที่ว่ากล้า ที่ว่าแน่ ยิงออกมาเลย ถือออกมาแล้วก็ยิงมาเลย "
    .
    .
    เราพูดบอกออกไปแบบนั้น แต่ไม่ใช่ว่าเรากลัว
    เราไม่กลัวหรอกกับคนแบบนี้ คนที่เป็นนักเลงไม่จริง
    เราไม่เคยกลัวเลย พูดเสร็จเราก็เดินเข้าหา
    ตาพงษ์นี่ก็ถือปืนขู่เราอยู่แบบนั้น
    แต่ขู่ไป ก็ถอยหลังไป เดินถอยไปเรื่อย ๆ
    จากนั้นปากก็พูดว่า
    .
    .
    " เดี่ยวก่อน ๆ คราวหน้าไม่รอดแน่ ๆ ระวังตัวไว้ ๆ "
    .
    .
    ปากพูดกับเราย้ำ ๆ อยู่แบบนั้น
    พลางขาก้ถอยหลังไปเรื่อย ๆ
    เพราะเราเดินเข้าหาไปเรื่อย ๆ เหมือนกัน
    .
    .
    พอตาพงษ์พูดจบ เราก็พูดสวนขึ้นมาทันทีว่า
    .
    .
    " ไม่ต้องไปรอคราวหน้าคราวหลังอะไรทั้งนั้นอีกแล้ว
    เอาตอนนี้ เวลานี้เลย ถ้าแน่จริง ๆ
    ตอนนี้เราอยู่กันสองคน มีเธอกับเราเท่านั้น
    มันไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น
    .
    แล้วจะไปเวลาอื่น รอคนอื่นเห็นอีกทำไม
    ถือปืนใช่มั้ย ไหนแสดงความกล้าออกมาให้ดูหน่อย
    แสดงมันออกมาเลย อย่ากล้าแค่คำพูด
    .
    คนจริง นักเลงจริงเขาไม่ทำคนอื่นก่อน
    ถ้าชักปืนออกมาเล็งแบบนี้แล้วก็ยิงเลย
    อย่ามาถือโชว์ มันเสียเวลา ยิงเรามาเลย
    ไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็นหรอก ถ้าเธอจะยิงพระ
    เพราะอยู่กันสองคน
    ไหน ๆ ก็ไหนแสดงความกล้าออกมา"
    .
    .
    พูดเสร็จเราก็เดินเข้าหาเรื่อย ๆ
    ตาพงษ์ก็ถอยฉากออกไปรื่อย ๆ อีก
    ถอยไปปากก็พลางพูดแบบเดิม ว่า
    .
    .
    " ไว้ก่อน ๆ ระวังตัวดี ๆ คราวหน้า จะไม่รอดแน่ ๆ "
    .
    .
    จากนั้นก็ฉากหลบไป หายไป เราก็ไม่ได้ตามต่อไป
    เพราะดูแล้วว่าตาพงษ์คนนี้จิตใจยังไม่ได้เด็ดขาดอะไร
    แต่เวลานั้นนะถ้าเราเดินไปจับปืนได้ เดินถึงตัวเมื่อไหร่
    ปืนกระบอกนั้นไม่เหลือ
    .
    เราจะหวดไม่ให้เหลือซากเลยทีเดียว
    ทุบทิ้งให้พัง ฟาดกับแถว ๆ นั้น น่ะแหละ
    ชักขึ้นมาทำไม ชักขึ้นมาแล้วไม่ยิง
    .
    .
    เวลานั้นเราไม่กลัวจริง ๆ นะ เราก็เดินเข้าไปของเรา
    คิดว่าถ้าจะโดนยิงเพราะคนแบบนี้ก็ให้มันรู้ไป
    และปืนผาหน้าไม้พวกนี้เราก็ผ่านมันมาทุกอย่างจนโชกโชนแล้ว เราเลยเฉย ๆ
    .
    .
    แต่นั่นแหละก็อย่างที่บอกว่าเราไม่ได้อวดดี
    เราแค่กำลังปกป้องบางสิ่งบางอย่าง
    เรากำลังต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง
    ต่อสู้กับความอยุติธรรม
    .
    .
    หลังจากนั้น ...
    ตาพงษ์คนนี้เชื่อมั้ยหลังจากที่ยกปืนมาขู่เรา
    ทำท่าจะยิงเรา หลังจากนั้นก็ไม่ตายดี
    .
    .
    ถูกอาวุธปืนหรือระเบิดด้วยกันนั่นแหละ
    จากใครก็ไม่ทราบ ฝังเข้าที่ศรีษะและลำตัวเสียชีวิต
    อย่างอนาจเลยทีเดียว
    .
    เราไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะอะไร
    แต่ตาพงษ์นี่ถือว่าเป็นรายที่ 4 ที่ถูกยิงเสียชีวิต
    หลังจากที่มาขู่เราด้วยอาวุธปืน
    แบบที่เขามาขู่เรานั่นแหละ
    .
    .
    เราไม่รู้หรอกว่าใครจะคิดยังไง
    แต่สำหรับเรา เรามองว่าคนที่ลงมือก่อน
    หรือทำร้ายผุ้อื่นก่อน
    .
    คน ๆ นั้นคือผู้ที่อื่นแอและขี้กลัวเสียจริง ๆ
    เป็นคนที่ขี้ขลาด มีแต่ความกลัวอยู่เต็มในหัวใจ
    คนที่กล้าหาญจริง ๆ เขาจะไม่ทำใคร
    เขาจะอดทน อดทนจนถึงที่สุด
    .
    รู้มั้ยคนที่นิ่งเฉยและวางเฉยน่ะ
    ไม่ใช่คนที่อ่อนแอหรอกนะ
    แต่คนที่นิ่งเฉยและวางเฉยนั้น
    มันเต็มไปด้วย ความเข้มแข็ง ความกล้าแข็ง
    .
    .
    และความเข้มแข็งที่ว่านี้
    คือ #ความอดทนอดกลั้น
    ที่มันเต็มไปด้วยตบะที่ทรงพลังอย่างยิ่ง
    ที่จะช่วยแผดเผาความอ่อนแอให้มลายหายไปเสียสิ้น
    นี่คือคนที่เข้มแข็งจริง ๆ กล้าหาญจริง ๆ
    ต้องเป็นแบบนี้
    .
    .
    สำหรับเราน่ะคนที่เข้มแข็ง คือ คนที่อดทน
    .
    .
    ไม่ใช่คนที่ไปเที่ยวทำร้ายหรือทำลายคนอื่นก่อน
    คนพวกนั้นน่ะคือคนขี้ขลาด คือคนที่หวาดกลัว
    คือคนที่น่าสงสาร ...
    .
    .
    คนพวกนี้เราไม่เคยคิดจะยกย่องเอาเสียเลย
    เรามองว่าเป็นคนอ่อนแอที่น่าสงสารเอามาก ๆ
    .
    .
    บริเวณวัดที่เราอยู่น่ะ ...
    เจอกับความกดดันเจอกับความเลวร้ายต่าง ๆ นานา
    ที่เราถูกกระทำจากกลุ่มคนต่าง ๆ โดยไม่เลือกวิธีการ
    .
    จะเอาเราออกจากพื้นที่ตรงนั้นกันให้ได้
    ใช้วิธีต่าง ๆ สารพัดกับเรา
    คนแล้วคนเล่า กลุ่มแล้วกลุ่มเล่า
    .
    .
    แต่เชื่อมั้ยทุกคนที่เข้ามาทำอะไรกับเรา
    ต่างก็มีอันเป็นไปล้มหายตายจากกันไปหมดแล้ว
    .
    .
    จนปัจจุบันก็เหลือแค่เราที่ยังอยู่ในพื้นที่บริเวณนั้น
    และพื้นที่บริเวณนั้นปัจจุบันก็กลายเป็นวัดอย่างที่เห็น
    ที่ปัจจุบันคนทุกคนได้มาร่วมบุญสร้างโบสถ์กันนั่นแหละ
    .
    .
    จำไว้นะถ้ามีอะไรให้ใช้ความอดทน ใช้ขันติ
    ใช้ความนิ่งและการวางเฉยเข้าสู้
    .
    เพราะ #ความอดทนอดกลั้น คือ ตบะที่ทรงพลังอย่างยิ่ง
    ที่จะช่วยแผดเผาความอ่อนแอ
    ให้มลายหายไปเสียสิ้น
    .
    .
    นี่แหละคือวิถีของคนที่เข้มแข็ง
    และกล้าหาญจริง ๆ ต้องเป็นแบบนี้ ... "
    .
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี
    พ่อแม่ครูอาจารย์ผู้เปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรม
    ที่มีจิตใจแข็งแกร่งดุจราชสีห์
    .
    .
    .
    #น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า
    .
    .
    สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

    12.jpg
     
  2. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    #หลวงปู่บุญส่งเป็นใคร
    .
    หลวงปู่บุญส่งท่านเป็นพระไม่เหมือนใคร
    และไม่มีใครเหมือน จริตของท่านเป็นปัจเจก
    มีความเป็นเอกเทศไม่ขึ้นกับใครและไม่นิยมตามใคร
    ส่วนใหญ่ท่านจะปฏิบัติตนโดยองค์ท่าน
    ทำอะไรด้วยองค์ท่าน
    อีกทั้งท่านก็ไม่ปรารถนาที่จะมีชื่อเสียงอะไร
    .
    ก่อนหน้านี้ท่านมักจะปรารภอยู่เสมอว่า
    ท่านชอบที่จะอยู่ป่า ชอบที่จะอยู่ตามถ้ำ ตามดง
    .
    .
    " ... เราเนี่ยมันคือพระป่าพระดง ขนานแท้
    ไม่ปรารถนาที่จะอยู่ตามเมือง ถ้าเราไม่สร้างโบสถ์
    เธอทุกคนก็อย่าหวังว่าจะได้เจอกับเรา
    ธรรมะพาเราเข้าป่า แต่ว่าโบสถ์หลังนี้พาเราเข้าเมือง
    .
    พระอย่างเราถ้าไม่มีเหตุจำเป็น
    จะไม่ไปสถานที่ ๆ อัดแน่นไปด้วยผู้คนเด็ดขาด
    เพราะเราไม่ได้หวังความดังความวุ่นวายอะไรเหล่านั้น
    แต่นี่มันมีเหตุเราเลยต้องออกมา ... "
    .
    เบื้องต้นคือคำปรารภที่หลวงปู่ท่านมักจะบอกอยู่เสมอ
    ว่าท่านไม่ชอบความวุ่นวาย
    แต่ที่ท่านออกมาสู่สาธารณะชนนั้น
    ก็ด้วยมันมีเหตุ มีการสร้างโบสถ์นี้ที่ท่านต้องออกมา
    เพราะว่า "มันถึงเวลา" ของท่านแล้ว
    .
    ในช่วง 3-4 ปีมานี้จึงเห็นได้ว่า
    หลวงปู่บุญส่งท่านจะเดินสายออกงานเกือบจะทั่วประเทศ
    ทั้งเหนือ ใต้ ออก ตก ท่านไปหมดเกือบทุกที่
    โดยเฉพาะปีสองปีให้หลังมานี้
    คนส่วนใหญ่จะเริ่มรู้จักเป็นพิเศษ
    .
    แต่ก็มีบ้างที่เกิดข้อสงสัยและเกิดคำถามขึ้นมาว่า
    .
    "หลวงปู่บุญส่งท่านเป็นใคร ? "
    "มาจากสายไหน ? "
    "เป็นศิษย์ของใคร ? "
    .
    .
    คำถามเหล่านี้ยังอยู่ในความสงสัยของใครหลายคน
    .
    บ้างว่าท่านทันพ่อแม่รุ่นก่อน ๆ จริงหรือ
    บ้างว่าท่านเป็นศิษย์สำนักนั้น ๆ จริงหรือ
    .
    .
    ในที่นี้จะขออธิบายเกี่ยวกับเรื่องราวในองค์ท่าน
    จากที่ได้อยู่ใกล้ชิดท่าน(ในระดับหนึ่ง)
    และท่านมักปรารภเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟังอยู่เสมอ
    ให้ได้รู้ถึงที่มาและความเป็นไป
    ในจริตนิสัยขององค์ท่านว่าเป็นอย่างไร
    .
    .
    ขอโอกาสพ่อแม่ครูอาจารย์ ..
    .
    .
    ในเบื้องต้นนั้นอย่างที่ได้อรรถาธิบายไปแล้ว
    จริตของหลวงปู่นั้นท่านเป็นพระที่ไม่เหมือนใคร
    การปฏิบัติของท่านจะแตกต่างกับพระอื่น ๆ
    ด้วยว่าท่านผ่านทางโลกมามาก มีความเด็ดเดี่ยวเด็ดขาด
    จิตใจท่านห้าวหาญและเข้มแข็งเป็นอย่างมาก
    .
    เคยเป็นมาหมดทุกอย่าง
    ก่อนที่จะเข้าสู่ร่มผ้ากาวสาวพัสตร์
    ก็ยังความเด็ดเดี่ยวไว้เช่นเดิม
    ท่านเคยปรารภให้ฟังว่า
    .
    .
    " เราเนี่ยความคิดขบถ
    ต่อต้านอะไรที่ไม่ถูกต้องมาแต่ไหนแต่ไร
    ตั้งแต่ก่อนบวช อะไรไม่ถูกต้องเราก็ต่อสู้
    ไม่เคยยอม ไม่เคยถอย สู้กับมันจนถึงที่สุดนั่นแหละ
    .
    ถ้าเราไม่บวชซะก่อน
    อาจจะเป็นหัวหน้ากลุ่มที่มีความคิดขบถ
    ไม่ใช่มันไม่ดีนะ แต่เราแค่ต่อสู้กับความอยุติธรรม
    ความไม่ถูกต้องแค่นั้นเอง ...
    .
    พอมาบวชเราก็ไม่ขึ้นกับใคร
    ขึ้นกับพระพุทธเจ้าและธรรมวินัยอย่างเดียวเท่านั้น
    อะไรที่เหนือกว่าธรรมวินัย ก็เท่ากับเหนือกว่าพระพุทธเจ้า
    นอกกฎเกณฑ์ที่พุทธองค์ทรงบัญญัติไว้
    หรืออะไรที่หย่อนจากธรรมวินัย
    ก็เท่ากับไม่เคารพพระพุทธเจ้า ...
    .
    เราจึงไม่ยอมทั้งนั้น
    เพราะเราเคารพพระพุทธเจ้าเท่านั้น
    .
    เราคือลูกพระตถาคต
    ใครก็ตามที่มามีอะไรนอกเหนือกว่าธรรมวินัย
    ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เราก็ไม่สนใจทั้งนั้น
    เพราะถือว่ามีอะไรให้กับความไม่จริง
    อ่อนข้อให้กับความไม่ถูกต้อง
    ยินดีกับความอยุติธรรม
    เราจะไม่ยอมใครหรอก
    .
    อย่ามาเป็นนายเหนือเรา
    นายเรามีแค่พระพุทธเจ้าเท่านั้น ...
    นี่คือความคิดหลังจากที่เราบวชแล้ว
    เราคิดไม่ค่อยเหมือนใคร
    และไม่ค่อยยินดียินร้ายอะไรกับใคร
    ใครดีเราก็โมทนา ใครไม่ดีเราก็ไม่ยุ่ง
    .
    และไม่ค่อยเข้ากับหมู่พวก
    ชอบอะไรที่ทำด้วยตนเอง ปฏิบัติเอง
    .
    มีธรรมในหัวใจยังไงเราก็ไม่หลงทาง
    คุณธรรมประจำใจนั้นสำคัญ อย่าทิ้งขว้าง
    ดูสิเราจึงอยู่ในเส้นทางนี้ได้มามากว่า 50 ปีแล้ว "
    .
    .
    นี่คือความเป็นหลวงปู่บุญส่ง ในเบื้องต้น
    ที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน
    .
    .
    และด้วยจริตของท่านนั้นที่ไม่ค่อยชอบความวุ่นวาย
    ท่านจึงไม่ได้บอกล่าวกับใคร
    ให้ทราบมากนักว่าท่านเป็นใคร
    ศิษย์ที่ไหน อยู่กับพ่อแม่ครูอาจารย์อะไร
    สหธรรมิกมีใครบ้าง
    .
    ถ้าไม่มีใครถาม ท่านก็จะไม่บอก
    และถ้าบอกก็จะไม่ค่อยบอกอะไรมาก
    และไม่ค่อยลงรายละเอียด เพราะว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร
    ท่านว่าเราจะเอาชื่อเสียงพ่อแม่ครูอาจารย์
    เราจะเอาความดัง หรือเราจะเอาธรรมล่ะ
    .
    .
    การที่ท่านรู้จักกับใครไม่จำเป็นต้องโฆษณา
    หากแต่ว่าให้ดูกันที่ธรรม จะมาอยากรู้จะสงสัยกันทำไม
    พ่อแม่ครูอาจารย์ยุคก่อนด้วยกันท่านทราบของท่านดี
    เพราะท่านมีคุณธรรมของท่าน มีธรรมของท่าน
    .
    .
    บ้างว่าท่านเป็นเพียงหลวงปู่หลวงตาธรรมดา
    ก็ขออนุญาติตอบว่าถูกแล้ว
    .
    .
    เพราะว่า #หลวงปู่บุญส่ง
    ท่านเป็นพระที่ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์
    ไม่ว่า "ท่านจะเจ้าคุณ" "พระครู"
    หรือว่า "สมณศักดิ์" ใด ๆ นำหน้าท่าน
    .
    .
    ท่านเป็นเพียง #หลวงปู่บุญส่ง
    #หลวงพ่อบุญส่ง #หลวงตาบุญส่ง
    หรือ #พระอาจารย์บุญส่ง ของลูกศิษย์ลูกหา
    หรือว่าเด็กน้อยที่รักและเคารพท่านเท่านั้น
    และท่านไม่เคยมุ่งหวังชื่อเสียงลาภยศอะไรในส่วนนี้
    .
    .
    ทั้งที่จะพูดกันจริง ๆ แล้ว เพื่อนร่วมรุ่นของท่าน
    ที่รู้จักกันสหธรรมิกหลายรูปในปัจจบันนั้น
    ขึ้นเป็นเจ้าคุณชั้นเทพ ชั้นธรรม เจ้าคณะภาคกันหลายรูปแล้ว
    .
    คราวไปเจอกันตามงานศาสนกิจทั่วไปก็ยังทักทายกัน
    บางรูปถึงขั้นปรารภถึงวันวานกับหลวงปู่บุญส่งว่า
    .
    .
    "ถ้าไม่ได้ท่าน(หลวงปุ่บุญส่ง)ในครั้งนั้น
    ผมก็คงไม่มีวันนี้ ไม่ได้มาถึงขั้นนี้ ธรรมะของท่านช่วยผมได้"
    .
    .
    ที่กล้ายืนยัน ก็ด้วยว่าตนเองอยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย
    รวมถึงอีกหลาย ๆ เหตุการณ์หลาย ๆ ครั้ง
    .
    หลวงปู่ท่านก็เคยปรารภให้ฟังว่า
    ถ้าท่านมุ่งปริยัติไปด้วย ไม่หนีเข้าป่าตัดทุกอย่างเสียก่อน
    เป็นพระบ้านพระเมืองเข้าหมู่เข้าพวก
    .
    "ปัจจุบันนี้เราเป็นเจ้าคุณไปแล้ว"
    .
    แต่เพราะหลวงปู่ท่านอยากปฏิบัติ
    อยากละทุกอย่างจริง ๆ
    แม้แต่สมณศักดิ์ใด ๆ ท่านก็ไม่รับ
    .
    ขอเป็นเพียงหลวงปู่หลวงตาของลูกหลานเท่านั้น
    ท่านละทุกอย่สง ปฏิบัติทุกอย่าง
    ทำทุกอย่างที่ละเสียซึ่งอาสวะกิเลสโดยไม่ย่อนย่อ
    .
    จนครั้งหนึ่งมีท่านเจ้าคุณพระผู้ใหญ่
    ระดับจังหวัดรูปหนึ่งที่รู้จักมักคุ้นกับท่านดี
    ได้ถึงขั้นปรารภกับหลวงปู่บุญส่งว่า
    .
    .
    " ท่านปฏิบัติยังไง ปฏิบัติจนพ้นลาภ พ้นยศ
    ปฏิบัติจนไม่เอาอะไรทั้งนั้น
    ทิ้งเสียทุกอย่าง ปฏิบัติอะไรขนาดนั้น ...
    .
    เราฟังแล้วหมดใจ เราก็ตอบท่านไปว่า
    เพราะใจผมมันมุ่งแต่โลกุตรธรรม
    จิตใจผมไม่ล่มสลายจากธรรม
    ผมมุ่งปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น
    ผมไม่ได้เข้ามาเพื่อกอบโกย ..
    .
    เราตอบกลับไปแบบนี้
    ท่านพูดแบบนั้น เราก็หมดใจ
    .
    หมดใจที่ว่าเป็นพระที่ยศสูงศักดิใหญ่
    แต่บางทีก็กลับเก็บเกี่ยอวะไรไว้เต็มไปหมดก็ไม่รู้
    คนอื่นเป็นยังไงเราไม่รู้ แต่ที่รู้เรามาสายนี้
    เพราะต้องการจะปฏิบัติจริง ๆ ไม่หวังอะไร
    ใครจะเป็นอะไรก็เป็นไป แต่ไม่ใช่เรา
    ไม่ใช่พระแบบเรา "
    .
    .
    นี่คือหนึ่งในเหตุการณ์
    ที่ท่านได้เคยปรารภให้ฟัง
    ท่านไม่หวังอะไร
    .
    หวังที่จะอยู่ปฏิบัติตนครองธรรม รักษาความดี
    อยู่ในร่มบวรพระพุทธศาสนา
    ตามรอยของพระบรมศาสดา
    ที่องค์ท่านให้ความเคารพยิ่ง
    .
    .
    โดยถึงแม้ว่าท่าน
    จะไม่ได้มียศหรือสมณศักดิ์ที่สูงส่งอะไร
    หากแต่เทียบกับคุณธรรม
    และบารมีที่ท่านมีแล้วก็คิดว่าคงไม่ธรรมดา
    .
    กับการที่พระป่า พระบ้าน พระดงแบบท่าน
    ที่ไม่ได้เปิดตัวออกมาสู่สาธารณะชนเลย
    เป็นเวลาสี่สิบกว่าปี
    .
    ที่ผ่านมารู้กันเฉพาะวงในหรือศิษย์ที่คุ้นเคยกันเท่านั้น
    จนมาถึงช่วง 4-5 ที่ผ่านมานั้น
    ที่องค์ท่านมีดำริสร้างโบสถ์
    นั่นแหละท่านจึงเปิดตัวออกมาตอนปี 2555
    .
    ที่ถือว่าเป็นการเปิดตัวออกมา
    สู่ภายนอกจริง ๆ จากที่อยู่แต่วัดแต่ป่า
    แบบชนบท ไม่ได้มีความวุ่นวายอะไร
    .
    ท่านเปิดตัวออกมาพร้อมกับการสร้างโบสถ์
    เรื่องราวของมหาอุโบสถเนื้อที่กว่า 5 ไร่
    .
    .
    โบสถ์จตุรมุขขนาดมหึมา
    พร้อมชื่อของหลวงปุ่บุญส่ง
    ก็เริ่มเป็นที่พูดถึงขึ้นเรื่อย ๆ
    จนมาในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้
    .
    ชื่อของท่านถูกพูดถึงไปทั่ว เป็นที่รู้จักกันมาก
    เพราะว่าศิษย์เริ่มทะยอยกันเข้าหามากขึ้น
    การบอกข่าวการประชาสัมพันธ์
    รวมถึงงานบุญต่าง ๆ จึงมากขึ้นไปด้วย
    .
    .
    คิดแบบง่าย ๆ แบบผู้ที่มีปัญญา
    พระป่า พระบ้าน ที่เคยอยู่ดงอยู่แต่ป่า
    ไม่ปรารถนาที่จะสะสมชื่อเสียง สมณศักดิ์ใด ๆ
    บวชมากว่า 50 ปี
    โดยที่คนไม่ค่อยรู้จัก(แต่พระด้วยกันเองรู้จัก)
    .
    .
    อยู่ ๆ ทำไมท่านจึงเปิดตัวออกมา
    อยู่ ๆ ทำไมท่านถึงมาสร้างโบสถ์ขนาดมหึมาขนาดนี้
    ตอนที่อายุเฉียด 80 แล้ว
    ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรที่พิเศษจริง ๆ
    .
    .
    เป็นใครก็ไม่อยากทำ
    พราะมันเหนื่อย และมันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ
    เพราะว่ากว่าจะสร้างให้เสร็จมันไม่ใช่เรื่องธรรมดา
    แต่ว่าท่านเลือกที่จะทำ เลือกที่จะทิ้งความสงบ
    เลือกที่จะออกมาสู่สาธารณะ เลือกที่จะเปิดตัว
    เลือกที่จะมาเจอลูกศิษย์ต่าง ๆ ทั้งที่ตอนนั้น
    ใครก็ยังไม่รู้จักท่าน ...
    .
    .
    พอปรารภกับใครว่าโบสถ์ที่ท่านสร้างอยู่นั้น
    เนื้อที่กว่า 5 ไร่ กับวัยที่ขึ้นเลข 8 แล้ว
    ในตอนนี้ (ปัจจุบันอายุ 81 ปี ย่าง 82)
    ทุกคนก็ต่างตกใจกันไปตาม ๆ กัน
    เพราะมันใหญ่ และมันทำยาก ... สิ่งนี้ต้องยอมรับกันตรง ๆ
    .
    .
    แต่เพราะอะไร หลวงปู่ หลวงตา
    ของลูกศิษย์รูปนี้ถึงทำได้และเลือกที่จะทำ
    .
    ตอบอย่าง่าย ๆ ก็เพราะ "บารมี" ของท่านนั่นไง
    พ่อแม่ครูอาจารย์หลายรูปเองที่ได้เห็นโบสถ์หลังนี้แล้ว
    ยังปรารภกันว่า
    .
    .
    "มีเงินอย่างเดียวสร้างไม่ได้ ต้องมีบารมีด้วย"
    .
    .
    " ไม่ใช่โบสถ์อย่างเดียวที่ใหญ่
    หากแต่ว่าคนที่สร้างโบสถ์หลังนี้ใจต้องใหญ่
    ใจต้องเด็ดเดี่ยวด้วย"
    ฯลฯ
    .
    .
    ถึงท่านจะเป็นแค่หลวงปู่ หลวงตา ที่สูงวัยรูปหนึ่ง
    ที่ซึ่งไม่มีสมณะศักดิ์ที่สู่งส่งอะไร
    แต่ให้ท่านทั้งหลายเชื่อเถิดว่า
    "คุณธรรม" และ "บารมี" ของหลวงปู่บุญส่งนั้น
    .
    สูงกว่าที่หลาย ๆ คนคิด
    และนี่ไม่ใช่ผู้เขียนทึกทักเอาเอง
    หากแต่เป็นคำยืนยันและรับรอง
    จากพ่อแม่ครูอาจารย์ผุ้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
    หลายรูปได้ปรารภไว้ให้ฟัง
    .
    .
    ส่วนถ้าถามอีกว่า
    ท่านเป็นศิษย์ใครมาจากไหน
    ก็จะตอบให้ได้รับทราบกันตรงนี้
    เพราะประวัติที่แท้จริงของท่าน
    ยังไม่ได้มีการบันทึกไว้โดยสมบูรณ์
    หรือเป็นกิจลักษณะ
    .
    ชุดข้อมูลยังมีประจัดกระจายกันไปหลายที่หลายทาง
    จึงขอโอกาสแจ้งคร่าว ๆ เบื้องต้นดังนี้
    .
    .
    " เราไม่ค่อยรู้จักใคร อยู่แต่ป่าแต่ดงมานมนาน
    รุ่นที่ทัน ที่พอรู้จักรู้จักก็ต่างทะยอยละสังขารกันไปหมดแล้ว
    เราบวชตอนอายุ 29 ปี 9 เดือน
    ที่ จ.ระยอง กับอุปัชฌาย์แฟ้ม
    ที่ วัดตรีรัตนาราม (ธ) จ.ระยอง
    (" พระวรพรตปัญญาจารย์ "
    หรือ "หลวงปู่แฟ้ม อภิรโต"
    วัดป่าอรัญญิกาวาส (วัดป่า) จ.ชลบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์)
    .
    อาจารย์สุธรรม
    (หลวงพ่อสุธรรม สุธัมโม วัดป่าหนองไผ่ จ.สกลนคร)
    นั่นก็บวชวัดเดียวกับเรา
    แต่ท่านเข้ามาบวชหลังเรา
    ปฏิบัติกับเราอยู่ระยะหนึ่ง
    .
    อยู่กับหลวงปู่แฟ้มไม่นาน
    เราก็ได้เจอกับอาจารย์รูปหนึ่ง
    ที่มีบุญคุณกับเรามาก สอนเราหลายอย่าง
    จนต่อมาอาจารย์รูปนั้น
    ก็ถือเป็น #อาจารย์ใหญ่ ของเรา
    .
    .
    คือ "ท่านอาจารย์สง่า"
    (พระอาจารย์สง่า จิตวัฒโน
    สำนักสงฆ์เวชทรัพย์ จ.จันทบุรี
    (ปัจจุบันคือวัดบ้านขอม เวชทรัพย์)
    (จะเล่าเรื่องราวของท่านโดยละเอียดในภายหลัง)
    .
    ท่านอาจารย์สง่า หรือว่า อาจารย์ใหญ่รูปนี้
    ท่านเป็นพระไม่ดัง ไม่มีใครรู้จัก
    อายุก็ไม่มากในตอนนั้น
    .
    แต่ท่านสอนเราให้ละความโกรธ
    สอนให้มีเมตตา สอนให้เรามีขันติ
    ท่านทำลายทิฐิของเราไปเสียสิ้น
    ความอวดดี การมีโมหะ โทสะ
    .
    เราละอะไรหลายอย่างได้
    จากพระอาจารย์สง่ารูปนี้
    พระที่คนมองว่าไม่ดัง
    บางทีท่านก็สอนเราได้ ...
    เราไม่ได้มองว่าท่านดังไม่ดัง
    เรามองแค่าว่าท่านให้ธรรมเรา
    นั่นแหละเราก็นับถือท่านเป็นอาจารย์ใหญ่ของเรา
    .
    อาจารย์สง่ารูปนี้แหละที่สอนให้เรา
    "กราบพระเสพเฮโรอีน"
    จนสามารถฟาดฟันอัตตา
    ที่หนาเตอะของเราไปเสียสิ้น
    .
    .
    และเราก็ได้รู้จักกับคำว่า "ขันติ"
    นับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
    และจะเห็นได้ว่า "ขันติ" หรือ "ความอดทน"
    เป็นหลักธรรมที่เรามักสอนทุกคน
    เพราะมันคือบันไดไปสู่ความสำเร็จ
    .
    .
    ตอนแรกเรายังไม่ได้อยู่ที่เมืองจันทบุรี
    บวชเสร็จอยุ่กับอุชฌาย์แฟ้ม ก็ปฏิบัติอยู่ระยอง
    จากนั้นก็ขอออกเดินธุดงค์วิเวกไปเรื่อย
    รู้จักเพื่อนสหธรรมิกวัดสัมพันธ์วงศ์ฯ
    คือ "พระครูชินเทพฯ"
    ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ กทม. ในสมัยนั้น
    .
    ก็พากันขึ้นไปกราบหลวงปู่แหวน ที่ดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงหม่
    สมัยนั้นเดินทางลำบาก ทุลักทุเล แต่ก็เดินทางไปหาท่าน
    กราบท่านศึกษากับท่าน ไป ๆ มา ๆ
    แต่ไม่ได้อยู่จำพรรษา ไปหาท่านอยู่หลายครั้ง
    .
    .
    อยู่ปฏิบัติกับหลวงปู่แหวนตอนนั้นคนยังเข้าหาท่านไม่เยอะ
    กับอาจารย์หนู สุจิตโต(เจ้าอาวาสวัดดอยแม่ปั๋ง)
    กับอาจารย์ทวี ป่าลัน จ.เชียงราย(พระอุปัฏฐากหลวงปู่แหวน)
    .
    รวมถึงศิษย์ยุคแรก ๆ ของท่าน
    เราก็รู้จักดี รวมถึงอาจารย์หนูพิน
    (เจ้าอาวาสวัดดอยแม่ปั๋งในปัจจุบัน)
    .
    เราไปตอนที่คนยังเข้าหาท่านไม่มาก
    อยู่ปฏิบัติกับท่านสักระยะ
    พอตอนหลังเห็นว่าต่อไปคนจะต้องมามากขึ้น ๆ เรื่อย ๆ
    และความวุ่นวายจะต้องตามมา
    เราก็ออกจากหลวงปู่แหวนมาแต่บัดนั้น
    .
    เราไม่มีภาพถ่ายอะไรกับเขา
    เพราะสมัยนั้นมันไม่มีกล้องติดตัว
    และเราไปหาท่านเราไม่ได้เอาภาพถ่าย
    เราไปเอาธรรมจากพ่อแม่ครูอาจารย์
    .
    เราเคารพระลึกถึงท่าน
    เป็นพ่อแม่ครูอาจารย์อยู่ในจิตในใจเสมอ
    ด้วยความที่เราไม่ค่อยได้คุยกับใคร
    และก็ไม่ได้บอกใคร
    .
    และตอนหลังมีศิษย์เข้าหาท่านมาก
    ก็มีไม่น้อยที่ไม่ได้รู้จักกัน
    เพราะหลวงปู่แหวนศิษย์เยอะ
    .
    พอออกจากหลวงปู่แหวนเราก็ออกวิเวกไปเรื่อย
    หาพ่อแม่ครูอาจารย์สลับกับเดินป่าเดินเขาเข้าถ้ำ
    ธุดงค์ของเราไปเรื่อย ถ้าจะให้ไล่ว่าเจอรูปไหนก่อนหลัง
    ก็ประมาณนี้
    .
    หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง
    หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล
    หลวงปู่เทสก์ วัดหินหมากเป้ง
    หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    หลวงปู่หล้า ภูจ้อก้อ
    หลวงปู่อ่อน วัดนิโคธาราม
    .
    หลวงปู่คำดี วัดถ้ำผาปู่
    หลวงปู่ชอบ วัดป่าสัมมานุสรณ์
    หลวงปู่ศรีจันทร์ วัดเลยหลง
    หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน
    หลวงปู่เหรียญ วัดอรัญบรรพต
    พระอาจารย์วัน ถ้ำพวง (รูปนี้ท่านมาช่วยในนิมิตด้วย)
    พระอาจารย์จวน ภูทอก
    .
    .
    และอีกหลาย ๆ รูป หลาย ๆ องค์
    .
    .
    เจอกันหลายรูปหลายองค์ในสมัยก่อน
    โดยเราจะไปธุดงค์อยู่ทางเหนือ ทางเมืองเลยเป็นส่วนใหญ่
    "ถ้ำผาจม" ที่เชียงราย ของหลวงพ่อวิชัย เขมิโย ก็เคยไป
    ไปตั้งแต่ยังไม่มีอะไร และก็นิมิตเห็นเขาน้ำตก
    (วัดสันติวนาราม ในปัจจุบัน)
    .
    รวมถึงที่ตั้งวัดสันติวนาราม
    ที่เราอยู่ในปัจจุบันก็ที่ถ้ำผาจมนั้นนั่นแหละ
    และในตอนหลังก็เดินทางตามหาภูเขาตามนิมิตนั้น
    จนได้มาพบและสร้างวัดขึ้นที่จันทบุรี
    .
    .
    พะเยาเองก็เคยไป "ดอยบุษราคัม"
    ของท่านอาจารย์ไพบูลย์
    (หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล ดอยบุษราคัม จ.พะเยา)
    ไปที่นั่นตั้งแต่ยังไม่มีอะไร ไม่ได้สร้างอะไร
    เคยไปนอน ไปอยู่ไปปฏิบัติอยู่ที่นั่น
    แม่ชีบางรูปที่อยู่ที่นั่นก็คงจะยังจำเราได้
    แต่มันนานมาก ๆ แล้ว
    .
    .
    ลำปางก็ไป หลวงปู่แว่น ธนปาโล
    หลวงปู่หลวง กตปุญโญ ก็เจอกับท่าน
    ที่เกาะคา เจอกับพ่อแม่ครูอาจารย์หลายที่
    .
    .
    ทีนี้พอได้อยู่ทางภาคเหนือ
    ได้รู้จักพ่อแม่ครูอาจารย์และธุดงค์ไปที่นั่นที่นี่แล้ว
    เราก็ลงมาทางเมืองจัน
    .
    โดยเดิมทีนั้นไม่ได้ตั้งใจมาทางนี้
    แต่พอดีเตี่ยไม่สบาย
    กำลังป่วยอยู่และเหมือนท่านจะไม่ไหวแล้ว
    เลยคิดจะมาอยู่ใกล้ท่าน แถวระยอง แถวจันทบุรี
    .
    สุดท้ายก็เลยเลือกที่จันทบุรี
    เพราะว่าตอนนั้นพ่อแม่ครูอาจารย์
    สายพระป่าท่านเคยมาอยู่กันเยอะ
    .
    และตอนนั้นก็มาอยู่กันที่นี่มาก
    ทั้งหลวงปู่กงมา ท่านพ่อลี หลวงปู่ตามหาบัว
    หลวงปู่เจี๊ยะ หลวงพ่อสมชาย
    หลวงปู่แบน และอีกหลาย ๆ รูปหลาย ๆ องค์
    .
    จนสุดท้ายก็ได้ตัดสันใจมาอยู่เมืองจัน
    และได้ไปเจอเขาน้ำตกตามที่นิมิต
    และก็ได้ต่อสู้กับนายทุนและผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น
    จนโดนลักยิงด้วยอาวุธสงครามไปหลายครั้ง
    แต่สุดท้ายก็ผ่านพ้นมาได้
    และได้สร้างวัดทำโบสถ์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน
    .
    .
    ซึ่งวัดที่อยู่ที่นี่
    แต่ก่อนคือ "สำนักสงฆ์สันติผาวนาราม"
    ตอนหลังยกระดับเป็นวัดแล้ว
    สมัยตอนที่ยังเป็นสำนักสงฆ์
    มีพ่อแม่ครูอาจารย์ยุคก่อนท่านก็มากันมาก
    มาเทศน์ให้แม่เราทุกปี
    .
    ทำบุญบวชเนกขัมมะ
    จัดมาตั้งแต่ตอนนั้น จนถึงปัจจุบันนี่แหละ
    พ่อแม่ครูอาจารย์ที่มีมาก็เช่น
    .
    หลวงปู่สิม
    หลวงปู่คำพอง ติสโส
    หลวงปู่จันทา
    หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก
    หลวงปู่ท่อน
    และอาจารย์ประสิทธิ์
    .
    .
    อย่าง "หลวงปู่ท่อน"
    ท่านมาเทศน์จนแม่เราตาย คากัณฐ์เทศน์ท่าน
    เราจึงเคารพท่านมาก เพราะท่านเมตตาเรา
    .
    และมากันอีกหลายรูป
    "อาจารย์ประสิทธิ์" นี่ก็มาบ่อย
    .
    "หลวงพ่อวิชัย" ถ้ำผาจมก็มา
    "อาจารย์เหลี่ยม" ภูตูม จ.เลย ก็มา
    "อาจารย์ไพโรจน์" ดอยปุย เชียงใหม่ ก็มา
    "อาจารย์ธรรมรัตน์" ชากใหญ่ ก็มา
    .
    หลายรูปหลายองค์
    มาช่วยงานที่วัดสันติวนารามแห่งนี้
    .
    ช่วยดูแลงาน
    บางรูปมาเทศน์ บางรูปมาช่วยงาน
    อย่างท่านอาจารย์ไพโรจน์
    (หลวงพ่อไพโรจน์ วิโรจโน วัดดอยปุย จ.เชียงใหม่)
    นี่สนิทกัน เคยมาคุมงานที่วัดให้ เราติดกิจพอดี
    .
    ตอนนั้นมีงานบวชเนกขัมมะที่วัด
    ท่านก็มาจัดการมาดูแลให้
    ยังมีพ่อแม่ครูอาจารย์อีกหลายรูปหลายองค์
    ที่ท่านเดินทางมา
    คนยุคนั้นรู้กันดี ....
    .
    .
    ส่วนอาจารย์ประสิทธิ์
    จะสนิทกับท่านมาก และไม่ได้เพิ่งมาสนิทกัน
    สนิทกันมานานพอสมควร
    .
    เจอท่านครั้งแรกที่ แถวแม่เมาะ จ.ลำปาง
    งานประชุมเพลิงพ่อแม่ครูอาจารย์รูปหนึ่ง พระไปกันเยอะ
    เราก็ไม่ค่อยคุยกับใคร
    แต่พอเจอกับท่านอาจารย์ประสิทธิ์
    ก็ถูกคอกัน ถูกชะตากัน
    .
    ท่านเองก็พูดน้อย
    สมัยนั้นสูบบุหรี่จัด
    ได้พูดคุยกันนิดหน่อย
    แต่หลังจากนั้นก็ไปมาหาสู่กันเสมอ
    และออกธุดงค์ด้วยกันสององค์ก็เคย
    เข้าป่าเข้าดงไปด้วยกัน โป่งเดือด โป่งชี
    .
    ท่านเคยให้เราไปอยู่ "ผาน้อย" แทนท่าน
    ไปดูแลวัดผาน้อย ที่จ.เลยตอนนั้น
    ที่ปัจจุบันคือวัดป่าเวฬุวนาราม
    ที่ "ท่านอาจารย์สมศรี อัตตสิริ"
    เป็นเจ้าอาวาสอยู่นั่นแหละ
    .
    ที่เราไปอยู่ผาน้อยปลายปี 2520
    เกือบ 2530 ถ้าจำไม่ผิด
    เราไปอยู่ตอนนั้นท่านอาจารย์ประสิทธิ์ไม่อยู่
    ท่านไปโป่งชี ให้เราช่วยดูแลที่นั่น
    เราก็ไปจำพรรษาอยู่ให้
    .
    .
    พระเณรรุ่นนั้นมีอยู่หลายรูป
    อย่างเช่น " อาจารย์นา "
    (พระอาจารย์นาที ภูริปัญโญ
    หลานหลวงพ่อประสิทธิ์และหลวงปู่จันทร์เรียน
    เจ้าอาวาสวัดป่าหมู่ใหม่ รูปปัจจุบัน)
    .
    เราก็เคยปกครองเคยดุแลท่านมา
    เราจึงคุ้นเคยกับพระเณรวัดป่าหมู่ใหม่
    คุ้นเคยกับอาจารย์ประสิทธิ์มาก
    .
    แต่ก็ไม่ได้บอกให้ใครทราบ ...
    ความผูกพันและคุณธรรมในใจ
    ของเรากับท่านถึงกันเสมอ
    .
    .
    เดินธุดงค์อะไรด้วยกันมา
    เคยเดินจากเมืองเลย
    ไปถึงหนองวัวซอ จ.อุดรนู้นเลยทีเดียว
    ไปกับท่าน 2 องค์ เข้าป่าสลับถนน
    ในสมัยก่อนที่ยังเป็นเขตพื้นที่สีแดง
    .
    .
    เรารู้จักกับพ่อแม่ครูอาจารย์
    หลาย ๆ รูปหลาย ๆ องค์
    แต่ก็มีไม่น้อยเช่นกันที่เราไม่รู้จัก
    .
    เพราะเราไม่ได้คุยกับใคร
    เอาเวลาส่วนใหญ่ไปปฏิบัติภาวนาเสียมากกว่า
    และเราชอบอยู่ป่าอยู่ดง
    ไม่ค่อยคลุกคลีกับหมู่กับเพื่อน
    .
    เราจึงไม่ค่อยรู้จักใครในยุคหลัง
    และใครก็ไม่ค่อยรู้จักเรา
    เพราะพระรุ่นเก่าท่านไม่ค่อยอยู่กันแล้ว
    .
    .
    เราออกมาก็เพราะมันมีเหตุนี่แหละ
    ต้องทำต้องสร้าง แต่ถึงอย่างไร
    เราก็มีคุณธรรมอยู่ภายในของเรา
    มีหลักใจของเรา มีครูบาอาจารย์ของเรา ... "
    .
    .
    เบื้องต้นคือประวัติและเรื่องราวของหลวงปู่บุญส่ง
    ที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ทราบกัน
    ว่ามีความเป็นมาอย่างไร
    .
    .
    ท่านมีความเกี่ยวพัน
    กับพ่อแม่ครูอาจารย์แต่ละท่านในยุคเก่าอย่างไรบ้าง
    และชุดข้อมูลนี้ บางส่่วนยังไม่เคยเปิดเผย
    ในที่สาธารณะมาก่อน
    .
    เป็นเรื่องเล่าและคำปรารภ
    ที่หลวงปู่ได้ปรารภให้ฟังโดยตรง
    ขณะได้อยู่ใกล้ชิดอุปํฏฐากดูแลท่าน
    .
    .
    หลวงปู่ไม่ใช่พระดัง
    ไม่ใช่พระที่มีสมณศักดิ์ที่สูงส่งอะไร
    เป็นเพียงพระบ้าน พระป่าธรรมดา ๆ รูปหนึ่ง
    แต่องค์ท่านก็คงไว้ซึ่งคุณธรรมและความดี
    รวมถึงบารมีที่อาจกล่าวได้ว่า
    ไม่ธรรมดาในสายตาของใครหลาย ๆ คน
    .
    .
    ศรัทธาเป็นเรื่องส่วนบุคคล
    หากแต่ท่านได้ใช้ปัญาพิจารณาดีแล้ว
    ก็จะทราบได้ทันทีว่า
    นี่คือพ่อแม่ครูอาจารย์พระผู้ปฏิบัติดี
    ที่ควรค่าแก่การบูชาหรือไม่
    .
    .
    อนึ่ง ข้อเขียนหรือชุดข้อมูลเหล่านี้
    ที่นำออกมาเผยแพร่นั้น
    ไม่ได้มุ่งหวังโฆษณาประชาสัมพันธ์
    หรือว่าพีอาร์โปรโมตอะไร
    .
    หากเพียงแต่ต้องการ
    ที่จะบันทึกไว้ในยุคสมัยให้กับผู้ที่ยังไม่ทราบ
    ผู้ที่ยังไม่เข้าใจ ผู้ที่ยังไม่กระจ่างในความเป็นจริง
    ได้รู้และได้พิจารณา
    .
    อีกทั้งเพื่อบันทึกไว้ว่า
    ป้องกันไม่ให้ข้อมูลเหล่านี้
    สูญหายไปตามกาลสมัยในอนาคตวันข้างหน้า
    จึงเป็นที่มาของการเปิดเผยข้อมูลที่ว่า
    .
    .
    ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการอนุญาติจากองค์หลวงปู่แล้ว
    .
    .
    " ... เราออกมาสู่โลกยุคใหม่
    ในตอนที่พ่อแม่ครูอาจารย์ยุคเรา
    ที่เราเคยปฏิบัติกับท่าน
    ต่างทะยอยละขันต์กันไปหมดแล้ว
    เราจึงไม่ค่อยรู้จักใครหรอก
    อยู่กับปู่แหวนไม่นานก็ออกมา
    .
    แต่เรากล้าพูดได้เลยว่าเราก้าวขึ้นมาได้
    ก็ด้วยปลีน่องลำแข้งของเราเอง
    .
    เราไม่เคยหวังเกาะชื่อเสียงของพ่อแม่ครูอาจารย์ดัง
    เราทำ เราปฏิบัติด้วยตัวเราเอง
    เราสร้าง เราทำด้วยตัวเอง
    .
    โดยเราไม่ตื่นเต้น
    ไม่อิจฉาริษยาใคร และไม่เคยกีดกันหมู่พวก
    .
    หากใครปฏิบัติดี ทำดี เราก็อนุโมทนากับเขา
    นี่คือเรา ... พระแบบเราเป็นแบบนี้ "
    .
    .
    #หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    วักสันติวรนาราม จ.จันทบุรี
    .
    .
    ......................
    .
    .
    น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ด้วยเศียรเกล้า
    .
    .
    อ่านประวัติหลวงปู่บุญส่ง เพิ่มเติม : https://bit.ly/2qxiP1H
    .
    .
    .
    บันทึก : จ๊อด คณะศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    .
    .
    สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

    12.jpg
     
  3. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    แจ้งข่าวสารจากทางวัด
    .
    ทางวัดยังต้องการใช้ปัจจัยในการก่อสร้างอีกเป็นจำนวนมาก ทุกท่านสามารถร่วมบุญโดยการโอนเงินเข้าบัญชีของทางวัดได้โดยตรง และสามารถช่วยแชร์กระทู้เพื่อประชาสัมพันธ์ได้เลยครับ
    .
    หรือสามารถเข้ากลุ่มเฟสของวัดได้ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี"
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    ขออนุญาตประชาสัมพันธ์งานทอดกฐินสามัคคี
    .
    ...กำหนดงานกฐินสามัคคี ณ วัดสันติวนาราม...
    ในงานนี้ได้มีการเททองหล่อพระหลวงพ่อโสธร
    ขอเชิญร่วมงานกฐินสามัคคีประจำปี 2561

    ....วันอาทิตย์ที่ 11 เดือน พฤศจิกายน 2561 เวลา 13.00น.

    ทางคณะลูกศิษย์จากทุกภูมิภาคได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพมาทอดกฐินปีนี้โดยการจัดตั้งเจ้าภาพร่วมกฐินกองละ 100,000 บาท เนื่องมาจาก องค์หลวงปู่จะปรารภอยุ่เสมอๆว่า ท่านใช้ปัจจัยวันละ 1 แสนบาท เดือนละ 3 ล้าน ซึ่งขณะนี้ศิลปะลวดลายจิตรกรรมกำลังดำเนินการจัดทำ จึงเป็นเหตุให้งบประมาณค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งด้านวิหารคต 4 ทิศหลังละ 5 ล้านบาท ที่อยู่รอบอุโบสถ รวมถึงพระเจดีย์ที่ตั้งอยู่บนอุโบสถ งบประมาณ 20 ล้าน (ก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562)
    ดังนั้นคณะศิษย์ได้พร้อมใจกันร่วมถวายเป็นกฐินสามัคคีเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระธาตุขันธ์ขององค์หลวงปู่ และช่วยทะนุบำรุงและสืบทอดพระศาสนาให้ยั่งยืนต่อไป
    กำหนดการ

    วันเสาร์ ที่ 10 เดือน พฤศจิกายน 2561
    เวลา 19.00น พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์สมโภชน์ องค์กฐิน

    วันอาทิตย์ที่ 11 เดือน พฤศจิกายน 2561
    เวลา 08.00 น. พระสงฆ์ฉันภัตตาหาร
    เวลา 13.00 น. ถวายผ้ากฐินสามัคคีและปัจจัย

    เวลา 14.30 น. พระสงฆ์ เจริญพุทธมนต์
    เวลา 15.59น. เททองหล่อพระหลวงพ่อโสธร
    หน้าตัก 44 นิ้ว เพื่อประดิษฐานภายในอุโบสถ

    และขอรับซองงานกฐินสามัคคีได้ที่ Puttachat Bunsri
    ทางวัดจะได้จัดทำซองและส่งให้ตามจำนวนคะ หรืออินบ็อก Puttachat Bunsri หรือสะพานบุญทุกท่าน
    .
    .
    สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เรื่องเล่าจากลูกศิษย์... ปิมเปม คุณพ่อสองลิง
    .
    อานิสงส์ของการสร้างพระอุโบสถ

    ๑ ก่อให้เกิดความสงบร่มเย็นในชีวิตและครอบครัวเปรียบเหมือนกับการได้สร้างบ้านสร้างที่อยู่อาศัย

    ๒ ก่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้าในทรัพย์สิน เพราะว่าอุโบสถเป็นที่จัดกิจกรรมที่ทำนุบำรุงพระศาสนา ให้เจริญรุ่งเรืองและเป็นทีเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ

    ๓ ก่อให้เกิดสติปัญญา ความเฉลียวฉลาดเพราะอุโบสถเป็นที่ทำสังฆกรรมของพระ เช่น การทำวัตรสวดมนต์ การบวชนาค การสวดปฏิโมกข์ การปวารณา รวมทั้งเป็นสถานที่มีประโยชน์แก่พระพุทธศาสนามากมาย

    ๔ ก่อให้เกิดความสามัคคีปรองดอง เพราะอุโบสถนอกจากจะเป็นที่ทำสังฆกรรมของพระแล้ว ยังเป็นที่ทำ กิจกรรมของชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญต่างๆจึงก่อเกิดอานิสงส์อย่างหาประมาณมิได้

    "หมายเหตุ" ๑ บริจาคสร้างพระอุโบสถเพียง ๑ บาททรัพย์นั้นก็จะอยู่คู่กับอุโบสถสถานไปจนชั่วลูกชั่วหลาน เหลน โหลน

    ๒ การสร้างพระอุโบสถถวายสงค์ มีอานิสงส์มากมายมหาศาล เพราะวัดหนึ่งๆมีอุโบสถได้เพียงหลังเดียว ดังนั้นการว่วมสร้างอุโบสถ ๑ หลัง เท่ากับการได้สร้างวัด ๑ วัด

    ๓ การที่จะสร้างอุโบสถสำเร็จได้ต้องมีอธิฐานธรรม ๔ ประการ คือ

    ๓.๑ การมีปัญญา คือการเล็งเห็นโทษของความโลภ คือการที่คิดว่าจะสร้างคนเดียว เพราะการสร้างอโบสถ ค่าก่อสร้างสูง เราต้องช่วยกันบอกบุญต่อๆกันไปเป็นการกระจายบุญ แบ่งบุญ แจกบุญ ให้กันต่อๆไป

    ๓.๒ การถือสัจจะ คือการพูดจริง ตั้งใจจริง การกระทำจริง ในการที่คิดจะทำ

    ๓.๓ ความเสียสละ คือการร่วมมือร่วมใจกันบริจาคทรัพย์สินในการก่อสร้างตามกำลังทรัพย์

    ๓.๔ การมีอุปสมะ คือความสงบในใจ ไม่ยอมให้อะไรมาทำให้เกิดความท้อแท้ ท้อถอย เลิกรากลางคัน
    .
    .
    สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

    15.jpg 16.jpg 17.jpg 18.jpg 19.jpg 20.jpg 21.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เรื่องเล่าจากลูกศิษย์... ศร จันทบุรี
    .
    #เคยกราบเรียนถามหลวงปู่บุญส่ง ว่าทำไมเวลาที่หลวงปู่ไปงานตามกิจนิมนต์ต่างๆ

    ที่หลวงปู่ได้นั่งเป็นองค์ประธานสงฆ์ #หลวงปู่สวดท่านจะเจริญพระพุทธมนต์เป็นจำนวนหลายบท ซึ่งแต่ละบทก็ยาวๆ ทั้งนั้น...

    #ท่านก็เมตตาเล่าให้ฟังว่า บางงานนะ ท่านนั่งเป็นองค์ประธานสงฆ์ แต่มีพระจากวัดหรือสำนักอื่น นั่งอันดับถัดไปจากท่าน พอเห็นท่านสวดหลายๆ บท เข้า...
    ก็เอามือเคาะขาท่านบ้าง แกล้งดึงชายจีวรท่านบ้าง เพื่อเหมือนทำเป็นเครื่องหมายหรือส่งซิก ให้ท่านหยุดสวด หรือพอแล้วนั่นเอง.....

    #แต่หารู้ไม่....ที่ท่านสวดเจริญพระพุทธมนต์ยาวนานนั้น มิได้สวดยาวทุกงาน หรือเลือกสวดแค่บางสถานที่เท่านั้น

    #ท่านเมตตาเล่าให้ฟังว่า...ที่เราสวดบทแต่ละบท เพราะบทนั้นๆ มีความสำคัญแตกต่างกัน อีกอย่างเราก็เห็นสิ่งไม่ค่อยดีต่างๆ ที่อยู่ ณ สถานที่นั้นๆ

    #ทั้งอยู่ด้านล่างใต้ดินลึกลงไป ตัวอาคารเองก็ดี ลอยในอากาศก็ดี เราสวดทั้งที ต้องทำให้เขาดีขึ้นสิ..เปิดช่องทางเปิดความเป็นสิริมงคลให้เขาด้วย...

    นับว่าเป็นความเมตตาของหลวงปู่บุญส่งโดยแท้ครับ ที่เมตตาแก่เหล่าศิษย์โดยไม่คำนึงว่า..การสวดนานๆนั้น จะส่งผลทำให้ธาตุขันธ์ขององค์ท่านอ่อนเพลีย

    #มิน่าเล่า .....ใครๆ ก็อยากให้ท่านไปโปรดตามที่ตนเองพำนักอยู่ ทั้งเคหะสถาน อาคารที่ทำงานก็ดี
    ก็เมื่อท่านไปเหยียบยังสถานที่นั้นแล้ว...มีแต่ดีขึ้นๆ
    ในทุกๆ ทาง ยังไม่เคยมีใครบอกกลับมาว่าแย่ลงเลยครับ....

    #ภาพล่างที่ภาพองค์หลวงปู่เพิ่งไปในงานวันอาทิตย์ที่ 29 ก.ค. 2561 ที่วัดใหม่เสนา (ลาดพร้าว/วังหิน) ท่านเจริญพระพุทธมนต์นานมากๆ ประมาณชม.เต็มๆ หลายบทสวดมากๆสวดแบบเต็มจริงๆ
    .
    มีทั้งบทธัมมจักรกัมปวัฒนสูตร ...บทพระปริตร...มงคลจักรวาลใหญ่...ชินบัญชร และพาหุงมหากา ...

    #ลูกศิษย์คนรึ ท่านใด มีของ รึมีสิ่งไม่ดีในตัว
    ขอบอกครับ หลุดแน่ๆ รึได้น้ำมนต์ในขัน ในพิธี ไปทาน รึ ไปพรหม บ้าน รถ ก็เป็น ศิริมงคล กับผู้นั้นๆครับ...

    #น้อมกราบในความเมตตาขององค์หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร ด้วยเศียรเกล้าครับ 1f64f.png 1f64f.png 1f64f.png

    Cr. ท่านลุงสว. ศร จันทบุรี

    คณะศิษย์หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร
    .
    .
    สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

    15.jpg 16.jpg 17.jpg 18.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 19.jpg
      19.jpg
      ขนาดไฟล์:
      77.4 KB
      เปิดดู:
      38
  6. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    "เก็บๆ...ไว้มั่งนะ...อีกหน่อย...จะได้เห็นความพิเศษเอง...และ...จะมีคุณค่า...อย่างมหาศาล"

    - หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร...วัดสันติวนาราม อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี


    .
    สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

    18.jpg 19.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 20.jpg
      20.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.3 KB
      เปิดดู:
      46
  7. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
  8. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เรื่องเล่าจากลูกศิษย์ ... Tle Limpiriyapanin และ กิตติพงษ์ เรืองฉ่าง
    .
    ถ้าคนที่รู้จักผม จะรู้ว่าผมศรัทธา หลวงพ่อกวย มากๆ
    คนที่ทำให้ผมได้มากราบ ลพ.จริงจัง คือน้องชาย คนที่ผมจะแชร์ประสบการณ์น้องเค้า ซึ่งมีคำยืนยัน ให้น้องเค้ามาร่วมสร้างบุญกับ หลวงปู่บุญส่ง
    .
    .
    สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

    8.jpg 9.jpg 10.jpg 11.jpg
     
  9. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ภาพแห่งความประทับใจเมื่อครั้งหลวงปู่บุญส่งไปเยี่ยมเยียนครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง
    .
    .
    สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

    8.jpg 9.jpg 10.jpg
     
  10. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เรื่องเล่าจากลูกศิษย์... Piti Songchom
    .
    หลังจากนิมนต์หลวงปู่บุญส่งมาที่บ้านที่สงขลา
    .
    รู้สึกมีความเป็นบ้านผู้รับเหมา
    อาทิตย์ที่แล้วจู่ๆที่บ้านสงขลาก็มีผู้รับเหมาทำถนนมาขอที่จอดรถสำหรับทำถนน
    ถนนลูกรังดินแดงมาเป็นร้อยปี

    แต่กิจนิมนต์บ้านสงขลาครั้งต่อไป
    หลวงปู่มาถนนลาดยางป้ายแดงครับ
    ผมมั่นใจในอานิสงส์ที่หลวงปู่ได้เมตตามาโปรดที่บ้านทั้งสองครั้งก่อนหน้านี้
    สาธุ สาธุ สาธุ
    .
    .
    สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

    6.jpg 7.jpg 8.jpg 9.jpg 10.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 11.jpg
      11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.8 KB
      เปิดดู:
      48
    • 12.jpg
      12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85.8 KB
      เปิดดู:
      49
  11. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เรื่องเล่าจากลูกศิษย์... ศร จันทบุรี
    .
    เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร ปี 57
    หลวงปู่เมตตาอนุญาตให้ครูบาประโยชน์เป็น
    ผู้พิจารณาการสร้างเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทาง
    การในนามของทางวัด เพื่อเป็นที่ระลึกแห่งการ
    วางศิลาฤกษ์มหาอุโบสถจตุรมุข..ซึ่งก่อนหน้า
    นั้นครูบาประโยชน์ได้เคยกราบเรียนขออนุญาต
    ในเรื่องการจัดสร้างมาถึงสามวาระ แต่องค์ท่าน
    ก็ยังมิได้อนุญาต เนื่องด้วยพิจารณาแล้วเห็นว่า
    ยังมิถึงเวลาที่เหมาะสมนั่นเอง
    .

    ใครเลยจะคาดคิดว่า..อดีตแต่ก่อนที่จะมาเป็นวัดสันติวนารามในทุกวันนี้...เป็นแค่สำนักสงฆ์ที่มีชื่อ
    ว่า "สำนักสงฆ์สันติผาวนาราม" อำเภอแก่งหางแมวท่ามกลางชุมชนห่างไกลจากตัวเมือง อีกทั้งเป็นอำเภอที่แต่ก่อนนับได้ว่า...เป็นอำเภอที่มีความทุร-
    กันดารมากๆ อีกอำเภอหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี
    เลยทีเดียว
    .

    แต่กลับมีมหาอุโบสถขนาดใหญ่บนเนื้อที่ 4-5 ไร่
    ตั้งตระหง่านอยู่หน้าแนวเขา(เขาน้ำตก) เพื่อเป็น
    สถานที่ประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนาและรองรับผู้มีบุญจากที่ต่างๆ ในอนาคต และรูปแบบของ
    มหาอุโบสถหลังนี้นั้นเองได้ถูกจารึกไว้บนด้านหลังเหรียญรุ่นแรกอันเป็นเครื่องระลึกเตือนสติสาธุชน
    คนทั้งหลายที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้าง
    นั่นเอง
    .
    .
    สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี


    12.jpg 13.jpg 14.jpg
     
  12. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เรื่องเล่าจากลูกศิษย์... วริษฐ์ นาคชัย
    .
    ก้อนข้าวสารหิน หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร เมตตาจารให้เมื่อครั้งพาครอบครัวไปกราบท่านที่วัดสันติวนาราม และยังเมตตาทำน้ำพระพุทธมนต์ให้กับครอบครัวผมครับ กราบสาธุครับ
    .
    .
    สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

    12.jpg 13.jpg 14.jpg
     
  13. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    อัพเดทล่าสุดถุงทรัพย์ทวี 1000 ล้าน จะมีเลขกำกับถุงทุกใบนะครับ
    12.jpg 13.jpg
     
  14. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    "เงินหมดเมื่อไหร่ สั่งหยุดเมื่อนั่น...
    จะไม่ยอมเป็นหนี้...
    ตั้งแต่ทำมา 5ปีกว่าๆ ยังไม่เคยเป็นหนี้...
    พอมองดูในบัญชีเหลือน้อยเต็มที ก็จะแหงนหน้ายกบัญชีขึ้นฟ้า....ข้างบนมีบริสุทธิเทพ ข้างล่างมีสมมติเทพ ถ้าเทพทั้งสองยังมีอยู่ก็คงไม่อยู่เฉย...

    "ทำบุญกับพระไม่มีหนี้...ถ้าเป็นหนี้จะหมดหนี้เร็ว
    แต่ถ้าไม่มีหนี้จะรวยเร็ว...

    "มีปัจจัยมากก็ทำเป็นชิ้น มีไม่มากก็ทำทั้งหลัง...

    เป็นคำพูดขององค์หลวงปู่...เวลามีญาติโยมถามว่าหลวงปู่มีปัจจัยจากไหนทำอุโบสถซึ่งใหญ่โตขนาดนี้...

    ซึ่งลูกศิษย์ได้รับฟังจากองค์หลวงปู่ว่าท่านต้องใช้ปัจจัยวันละ 1 แสนบาท
    ดังนั้นจึงรวมพลังสามัคคีจัดตั้งกฐิน กองละ 1 แสนบาทในงานทอดกฐินสามัคคี วันอาทิตย์ที่ 11 เดือนพฤศจิกายน 2561 เวลา 13.00น.

    .....วิสุทธิเทพและสมมติเทพทั้งสองยังมีอยู่จริงคะ...ขณะนี้มีผู้ปวารณาจองเจ้าภาพกฐินสามัคคี
    รวม 37 กอง
    และมีอีก 1 เจ้าภาพปวารณาถวาย 1 ล้านบาท

    และพลังสามัคคีของลูกศิษย์ที่มาร่วมทำบุญที่วัดและแจ้งมาทั้งทางไลน์และทางเฟสบุ๊ค รับซองกฐินไปช่วยบอกบุญ พิมพ์ครั้งที่ 1 จำนวน 6,000 ซองได้หมดลงภายใน 4 วัน
    พิมพ์ครั้งที่ 2 อีก 4,000 บ่ายนี้จะทำการจัดส่งให้นะคะเพราะซองพึ่งพิมพ์เสร็จ)

    อนุโมทนาสาธุ...กับศิษยานุศิษย์ทุกท่านคะ...

    (Cr. ทีมช่าง บ.ซุ้มนายช่าง จำกัด)

    ปัจจุบัน งานก่อสร้างกำลังดำเนินการสร้างองค์พระเจดีย์และวิหารคต
    .
    .
    สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.9 KB
      เปิดดู:
      37
    • 7.jpg
      7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34 KB
      เปิดดู:
      35
    • 8.jpg
      8.jpg
      ขนาดไฟล์:
      144.9 KB
      เปิดดู:
      30
    • 9.jpg
      9.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.4 KB
      เปิดดู:
      32
    • 10.jpg
      10.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.9 KB
      เปิดดู:
      45
    • 11.jpg
      11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95.1 KB
      เปิดดู:
      38
    • 12.jpg
      12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      184 KB
      เปิดดู:
      47
    • 13.jpg
      13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      180.3 KB
      เปิดดู:
      39
    • 14.jpg
      14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      95.6 KB
      เปิดดู:
      35
    • 15.jpg
      15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      146.1 KB
      เปิดดู:
      40
    • 16.jpg
      16.jpg
      ขนาดไฟล์:
      116.2 KB
      เปิดดู:
      46
    • 17.jpg
      17.jpg
      ขนาดไฟล์:
      108.8 KB
      เปิดดู:
      37
    • 18.jpg
      18.jpg
      ขนาดไฟล์:
      114.9 KB
      เปิดดู:
      36
    • 19.jpg
      19.jpg
      ขนาดไฟล์:
      147.8 KB
      เปิดดู:
      46
    • 20.jpg
      20.jpg
      ขนาดไฟล์:
      163.3 KB
      เปิดดู:
      48
    • 21.jpg
      21.jpg
      ขนาดไฟล์:
      395.2 KB
      เปิดดู:
      52
    • 22.jpg
      22.jpg
      ขนาดไฟล์:
      87.3 KB
      เปิดดู:
      38
  15. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    อัพเดด #ถุงทรัพย์ทวี 1000 ล้าน หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร หน้าตาที่เสร็จแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ มีตราปั้ม มีลอยจารมือที่ตัวยันต์1ตัวทุกใบเพื่อเป็นเอกลักษณ์ของถุง และมีเลขรันนัมเบอร์ทุกใบอยู่ด้านใน ไม่สามารถเลือกเลขได้เพราะเลขจะอยู่ข้างในถุงและทุกใบจะแพ็คเกจถุงปิดไว้ครับ ถุงจะถูกคละๆเลข1-5000อยู่ที่ดวงใครจะได้เลขไหน เลขสวยๆบางเลขจะถูกเก็บไว้เพื่อประมูลครับ ภายในเดือนสิงหาคมหลังจากหลวงปู่เมตตาอธิฐานจิตเสร็จแล้วทางวัดจะดำเนินการจัดส่งให้ครับและท่านใดที่จองไว้กับทางวัดจะแจ้งวันรับอีกครั้ง รายได้จากการทำถุงทรัพย์ทวี 1000ล้านน้อมถวายหลวงปู่บุญส่งสร้างโบสถ์ครับ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ร่วมทำบุญนะครับ
    .
    Cr. ตั้ม หล่อรวยเท่ห์
    .
    .
    สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

    6.jpg 7.jpg 8.jpg 9.jpg 10.jpg
     
  16. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    Update!...ถุงทรัพย์ทวี1000ล้าน
    .
    มาดูของขวัญติดถุงกันครับตามที่ผู้สร้างตั้งใจทำถวายหลวงปู่บุญส่งด้วยความบริสุทธิ์ใจ
    .
    ของขวัญติดถุงชิ้นที่1
    รูปหลังติดจีวร กระดาษเก็บไว้ประมาณ10กว่าปี ในปัจจุบันหากระดาษแบบนี้แทบไม่มีแล้ว เป็นรูปหลวงปู่บุญส่งขนาด1นิ้วสามารถเลี่ยมแขวนติดตัวเพื่อความสิริมงคลเมตตาแคล้วคลาด
    12.jpg
     
  17. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    Update!...ถุงทรัพย์ทวี1000ล้าน
    .
    มาดูของขวัญติดถุงกันครับตามที่ผู้สร้างตั้งใจทำถวายหลวงปู่บุญส่งด้วยความบริสุทธิ์ใจ
    .
    ของขวัญติดถุงชิ้นที่2
    ไหลน้ำพี้ ของดีจากเมืองอุตรดิตถ์ เป็นที่สุดยอดแห่งโลหะ มหัศจรรย์มีอาถรรพ์เร้นลับ และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถติอยู่ทุกๆ อณู มีอานุภาพอาถรรพ์ล้ำล้างอาถรรพ์ได้นานาประการ แม้คู่ต่อสู้จะคงกระพันชาตรีเพียงไร ป้องกันภูตผีปีศาจ จิตวิญญาณและคุณไส ลมเพลมพัด กระทำย่ำยีผีร้ายหรือมายาดำเรียกเดรัจฉานวิชา ก็สามารถป้องกันได้ตลอดกาล
    13.jpg
     
  18. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    Update!...ถุงทรัพย์ทวี1000ล้าน
    .
    มาดูของขวัญติดถุงกันครับตามที่ผู้สร้างตั้งใจทำถวายหลวงปู่บุญส่งด้วยความบริสุทธิ์ใจ
    .
    ของขวัญติดถุงชิ้นที่3
    ข้าวสารประคบองค์หลวงปู่บุญส่ง เป็นของสิริมงคลที่ผ่านองค์หลวงปู่แล้ว สิ่งของเหล่าใดทีสัมผัสองค์พระอริยะของเหล่านั้นจะเป็นของบริสุทธิ์เป็นสิริมงคลแก่ผู้ได้กราบไหว้บูชา
    14.jpg
     
  19. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ประมวลภาพ...พิธีเททองฯ

    (พระกริ่งปวเรศฯ...พระกริ่งน้อย...พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศ)

    - องค์หลวงปู่ฯเมตตา...เป็นองค์ประธาน เททองฯ...ที่วัดสันติวนาราม จ.จันทบุรี(ในวันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2560 เวลา 08.49 น.)

    ***คางคก...รอดตาย***

    มีช่วงหนึ่ง...ครูบาประโยชน์ ท่านถือขันเข้ามา ในนั้นมีคางคกอยู่ตัวหนึ่ง ครูบาประโยชน์ เล่าให้หลวงปู่ฯฟังด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น ระคนแปลกใจ ที่คางคกตัวนี้ อยู่ในเบ้าหลอมพระกริ่งปวเรศฯ ซึ่งในวันนี้ ได้มีการเททองพระกริ่งฯ(เพื่อดูเนื้อ และ ดูสัดส่วนขององค์ พระกริ่งปวเรศฯ)ซึ่งคางคกตัวนี้ ไปแอบอยู่ในมุมหนึ่งของเบ้าหลอม ซึ่งขณะหลอมนั้น มีความร้อนมาก ร้อนจนขนาดเบ้าหลอมแตกออกมา และเห็นคางคกตัวนี้หลุดออกมา แต่รอดตาย กลับไม่เป็นอะไร ตามเนื้อตามตัว น่าจะมีรอยพองอยู่บ้าง ครูบาประโยชน์บอกว่า ด้วยความร้อนขนาดนี้ คางคกไม่น่ารอด แต่แปลก ตัวนี้กลับรอดตายเฉย

    หลวงปู่ฯ ท่านเลยพรมน้ำมนต์ ให้คางคกตัวนี้ จากนั้น ครูบาประโยชน์ จึงได้นำไปปล่อย

    หลวงปู่ฯ ท่านกล่าวว่า

    "คางคกตัวนี้ เก่งจริงๆรอดตายได้ ถ้าเป็นเรานะ ป่านนี้คงไม่รอดหรอก ร้อนขนาดนั้น"
    .
    .
    สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

    6.jpg 7.jpg 8.jpg 9.jpg 10.jpg 11.jpg 12.jpg 13.jpg 14.jpg 15.jpg 16.jpg 17.jpg 18.jpg 19.jpg 20.jpg 21.jpg 22.jpg
     
  20. ติสาโร

    ติสาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +5,431
    #ศึกษาก่อนสะสม ลงเป็นวิทยาทานหลายๆท่านอาจจะรู้แล้วครับ แต่ก็มีหลายๆท่านยังไม่รู้เลยทำรูปมาให้ดูความแตกต่างที่เป็นข้อมูลจากหลักฐานจริง ไม่มีมโนด้วยจิตญานชั้นสูงหรือคิดไปเอง ข้อมูลทุกอย่างพิสูจน์จากหลักฐานอ้างอิงชัดเจนแจ่มแจ้ง
    #รูปแรกคือเปรียบเทียบพิมพ์เล็กพิมพ์ใหญ่ ให้สังเกตุด้วยตาเปล่าแบบไม่ต้องส่องกล้อง พิมพ์ใหญ่จะมีเนื้อเกินตรงที่วงไว้หมายเลข1 พิมพ์เล็กจะไม่มี หมายเลข2นั้นจากรูปจะแตกต่างกันชัดเจนถึงความใหญ่เล็กของหูเหรียญและตัวอักระยันต์ครับ
    #รูปสองคือเปรียบเทียบแยกเนื้อนวะกับทองแดง เหรียญนวะทั้งหมดทุกเหรียญที่ผมมีนั้นจะมีหลุมตำหนิคล้ายตัว s ตามหมายเลข1 ส่วนทองแดงจะไม่มี หมายเลข2คือตำหนิอีกจุดที่ดูง่ายจะมีเส้นขีดๆ2-3เส้นให้เห็นชัดเจน หมายเลข3 คือเนื้อเกินที่ขอบเหรียญจะมีมากกว่าทองแดง ซึ่งทองแดงทุกเหรียญที่ผมมีนั้นเส้นเกินจะมีแต่จะไม่เยอะขนาดเท่ากับนวะครับ และจะมีอีกหลายๆจุดที่ดูได้ผมยกตัวอย่างมาให้ดูแค่นี้ก็แยกออกแล้วครับว่าอะไรนวะหรือว่าทองแดง

    *เหรียญสามารถทำผิวเป็นอะไรก็ได้แค่ตำหนิที่มาจากเหรียญตอนปั๊มนั้นทำไม่ได้แน่นอนครับ อ้างอิงจากข้อมูลพร้อมหลักฐานชัดเจนไม่มีมโนหรือคิดไปเองครับ เหรียญทุกเหรียญน้ำหนักต่างกันเพราะตอนรีดแผ่นก็ไม่เท่ากันครับ แต่ที่ผมลองชั่งน้ำหนักดูยังไงนวะก็หนักกว่าทองแดงอยู่ดีครับหากคุณมี2เหรียญในมือเทียบคุณลองชั่งน้ำหนักเหรียญดูครับรับรองต่างกัน*
    .
    .
    สมาชิกทุกท่านสามารถเข้ามาหาข้อมูลของหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร และอุโบสถวัดสันติวนารามได้ที่เวปของทางวัด http://luangpuboonsong.com/web/
    .
    อีกช่องทางคือเข้ากลุ่มไลน์ของลูกศิษย์หลวงปู่บุญส่ง
    https://line.me/R/ti/g/KmbjepJz09
    .
    หรือจะเข้ากลุ่มทางเฟส ชื่อ "หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี


    6.jpg 7.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...