แนะนำสถานที่ทำบุญวัดในจังหวัดอยุธยา

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย คนชอบใส่ร้ายโดนธรณีสูบ, 29 กรกฎาคม 2013.

  1. คนชอบใส่ร้ายโดนธรณีสูบ

    คนชอบใส่ร้ายโดนธรณีสูบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +908
    เข้าพรรษานี้ขอเชิญทุกท่านร่วมทำบุญกับวัดสำคัญๆในจังหวัดพระนคนศรีอยุธยากันค่ะ

    1.วัดสะแก

    เป็นวัดเก่าแก่ในสมัยกรุงศรีอยุธยา และเป็นที่พำนักของพระอริยะเจ้าที่สำคัญ คือ หลวงปู่ดู่ พรหม ปัญโญ หลวงปู่ดู่ท่าเป็นพระที่มีปฏิปทาเรียบร้อย

    อ่อนน้อมถ่อมตน นอกจากความอดทน อดกลั้นยิ่งแล้ว หลวงปู่ดู่ยังเป็นแบบอย่างของผู้ไม่ถือตัว วางตัวเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ยกตนข่มผู้อื่น เมื่อครั้งที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม) วัดสุทัศน์เทพวราราม หรือที่เราเรียกกันว่า“ท่านเจ้าคุณเสงี่ยม” ซึ่งมีอายุพรรษามากกว่าหลวงปู่ดู่ ๑ พรรษา มานมัสการหลวงพ่อโดยยกย่องเป็นครูเป็นอาจารย์ แต่เมื่อท่านเจ้าคุณเสงี่ยม กราบหลวงพ่อเสร็จแล้วหลวงพ่อท่านก็กราบตอบ เรียกว่าต่างองค์ต่างกราบซึ่งกันและกัน เป็นภาพที่พบเห็นได้ยากเหลือเกิน ในโลกที่ผู้คนทั้งหลายมีแต่จะเติบโตทางด้านทิฏฐิมานะ ความถือตัวอวดดี อวดเด่น ยกตนข่มท่าน ปล่อยให้กิเลสตัวหลงออกเรี่ยราด เที่ยวประกาศให้ผู้คนทั้งหลายได้รู้ว่าตนเก่ง โดยเจ้าตัวก็ไม่รู้ว่าถูกกิเลสขึ้นขี่คอพาบงการให้เป็นไป

    หลวงปู่ดู่ไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติธรรมของสำนักไหนๆ ในเชิงลบหลู่หรือเปรียบเทียบดูถูกดูหมิ่น ท่านว่า “คนดีน่ะเขาไม่ตีใคร” ซึ่งลูกศิษย์ทั้งหลายได้ถือเป็นแบบอย่าง




    2.วัดบรมวงศ์อิศรวราราม

    "หลวงพ่อเพชร" เป็นพระพุทธรูปประธานในพระอุโบสถวัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หล่อด้วยโลหะลงรักปิดทอง มีขนาดหน้าตักกว้าง 1 เมตร สูงตลอดยอดพระรัศมี 1.60 เมตร ประดิษฐานอยู่เหนือแท่นหินอ่อนภายใต้เรือนแก้ว ภาย ในซุ้มศรีมหาโพธิ

    วัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร แห่งนี้มีจดหมายเหตุระบุเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 5 ว่า พระองค์ได้เสด็จไปพระราชทานพระกฐินหลายครั้ง โดยเสด็จทางเรือ พระที่นั่ง วัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหารจึงเป็นอนุสรณ์ของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ามหามาลา กรมพระยาบำราบปรปักษ์ ต้นราชสกุลมาลากุล

    นับว่าวัดแห่งนี้เป็นวัดที่สวยงามมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างมาก มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันเป็นมงคลประดิษฐาน ภายในวิหารยังมีภาพประวัติศาสตร์ของวัดกับรัชกาลที่ 5 รวมทั้งยังมีตำหนักของรัชกาลที่ 5 เป็นที่เก็บรูปภาพโบราณ พระราชประวัติตั้งแต่ประสูติจนถึงสวรรคต

    ปัจจุบัน พระเทพวรเวที ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบรมวงศ์อิศรวรารามวรวิหาร และเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งท่านได้อุทิศทั้งร่างกายและจิตใจให้แก่พระพุทธ ศาสนา ตราบจนถึงทุกวันนี้



    3.วัดสระมณฑล

    เป็นวัดเก่าแก่ในสมัยกรุงศรีอยุธยาและเป็นที่จำพรรษาของหลวงปู่กอง ปาฎิหาริย์ของหลวงปู่กอง ที่เด่น ๆ ชัด ๆ ก็มีลองตะกรุดนี้แหละครับ ไทยประดิษฐ์ ๔ นัดไม่ออก ดังระงมไปทั่วอยุธยา

    ไหนจะเรื่องหลวงพ่อไปปลุกเศก-หล่อพระ ที่วัดหลวงปู่โง่น โสรโย หลวงปู่กอง ท่านเดินไปตรงที่พิธีหล่อพระ เอามือไปคนน้ำทองหล่อพระ ที่ร้อนเป็นพันองศา แค่เดินผ่านหัวก็เกรียมแล้ว เรื่องนี้ฟังมาจากป้ากวยครับ ลูกสาวของท่าน

    มีพี่ชื่อ สุวิทย์ คนนครสวรรค์ รถกระบะชนกับรถกระบะ เหตุเกิดเมื่อปี ๔๐ แยกก้าวเลี้ยว บู้บี้ หน้ารถบี้ เอารูปมาให้ผมดู ไปเกิดใหม่ซะพี่ !! ไม่ตายครับ รถอีกคันที่ชน ก็ไม่ตายเช่นกัน แต่ก็ ปาฎิหารย์ทั้งคู่ พี่สุวิทย์ห้อยหลวงปู่กอง รถเก๋งคันนั้น ห้อยหลวงปู่ทวด

    คนที่เคยขอเรียนวิชากับหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านก็สอนให้ท่องบทมงกุฎเพชรพระพุทธเจ้า ให้เดินหน้า-ถอยหลัง คาถาของหลวงพ่อส่วนมากจะเป็นคาถา พุทธคุณซ่ะมากกว่า อย่างเช่น อิติปิโสสร้อยสน อิติปิโสเรือนเตี้ย อิติปิโสกรงทอง ท่านบอกว่า "คุณโยมท่องแต่พระพุทธคุณนั้นแหละ มีอานุภาพมาก กันได้หมด" แต่ตอนนี้ท่านมรณธภาพแล้วมีลูฏศิษย์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของท่านมาเป็นเจ้าอาวาสแทน คือ หลวงตากอไผ่ หลวงพ่อไผ่เป็นพระป่า มารับเป็นเจ้าอาวาสต่อจากท่านอาวาสองค์ที่แล้ว เหมือนกับว่า มาเพื่อรักษาสมบัติของสงฆ์เอาไว้ เป็นหน้าที่ของท่าน ถ้าไม่มา จะโดนยึดวัด ข้าวของในวัด ของสงฆ์ก็สูญหาย จำต้องมาจำพรรษาอยู่ที่นี่

    ขอเล่าย้อนถึงตอนไปกราบหลวงตากอไผ่ก่อนวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา บังเอิญคุณพ่อคุณแม่และพี่สาวของแฟนอยากให้พาไปวัดฯ แล้วผมเคยพาเขาไปกราบท่านแต่ไม่พบเพราะท่านไม่อยู่ บังเอิญวันนั้นวันที่15 พ.ค.เขาก็อยากไปกราบหลวงตากอไผ่(ทั้งที่ยังไม่เคยพบมาก่อน) และโชคดีได้พบหลวงตากอไผ่ ที่วัดสระมณฑล...วันนั้นหลวงตากอไผ่กำลังสนทนากับญาติโยม แล้วคณะของผมไปถึงก็ร่วมสนทนากับหลวงตากอไผ่ด้วย...พอดีมีโยมและแม่ชีที่นังอยู่ก่อนแล้วกำลังปรึกษาท่านเรื่องจะทำหนังสือธรรมะ คุยกันเรื่องทำเพลทและค่าใช้จ่าย เราก็นั่งฟังอยู่ก็บังเอิญโยมกับแม่ชีที่เป็นเจ้าภาพคุยเรื่องจะบอกบุญหนังสือธรรมะ...หลวงตากอไผ่มองมาที่ผม..."ไอ้ทิด..มึงก็ร่วมเป็นเจ้าภาพกับเขาสัก5000บาทได้มั้ยล่ะ..แล้วมึงอย่าฉลาดคนเดียวนะ บอกญาติๆพี่น้องเพื่อนฝูงมึงให้ร่วมกัน.." ผมก็รับปากท่านว่าได้ครับ...ท่านก็บอกว่า...แล้ววันที่17 พค. ตอนบ่ายๆ ที่วัดบางนมโค จะมีพิธีบุญใหญ่คือปล่อยปลา3ตัน..มึงจะมาร่วมมั้ย..ตอนแรกผมฟังไม่ค่อยชัด ถามท่านว่า วันที่27 เหรอครับ..."ท่านก็พูดเสียงดัง...17....17...ไอ้...มึงไม่รู้เหรอว่าวันที่ 17 เป็นวันอะไร" ก็เรียนท่านว่า ทราบครับ พอดีผมฟังไม่ชัดเอง...แต่ก็กราบเรียนท่านว่า...วันที่17 พ.ค. วางโปรแกรมไว้แล้วว่าจะไปทำบุญวัดท่าซุง..เกรงว่าจะไม่ได้มาวัดบางนมโค..แต่จริงๆก็มาร่วมงานปล่อยปลาที่วัดบางนมโคทันพอดี...แล้วก็ได้ร่วมทำบุญหนังสือธรรมะที่รับร่วมเป็นเจ้าภาพด้วย...
    คุยกับท่านพักนึง ผมและครอบครัวของแฟนก็ลาท่านกลับ....แต่คุณพี่สาวของแฟนผมเขาเป็นคนที่ฟังการสนทนาแล้วเก็บรายละเอียดดีมากครับ (ผมยังนึกไม่ถึงเลย)....พี่สาวแฟนผมเขาเรื่องที่ผมสนทนากับหลวงตากอไผ่ไปตีเป็นหวยครับ...เขามาบอกทีหลังว่า...เขาถูกหวยทั้งบน และล่าง...แกดีใจใหญ่...เมื่อสองวันก่อนโทรมาหาผมขณะที่ผมอยู่ที่เชียงใหม่ถามว่าเมื่อไหร่จะไปกราบหลวงตากอไผ่อีก...เป็นซะงั้น..
    หลวงตากอไผ่..เป็นพระที่หาได้ยากในปัจจุบันนี้...ใครมีโอกาสไปอยธยาก็ลองแวะไปกราบท่านได้ครับที่วัดสระมณฑล

    4.วัดสมณโกฏฐาราม จ.พระนครศรีอยุธยา

    หรือ วัดพระยาคลัง ปัจจุบันเป็นวัดที่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ สร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น และบูรณปฏิสังขรณ์ในสมัยอยุธยาตอนปลาย โดย เจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) และ เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ (กษัตริย์องค์ที่ 27) ต่อมาในปี พ.ศ. 2233 สมัยสมเด็จพระเพทราชา (กษัตริย์องค์ที่ 28) ได้เสด็จพระราชทานเพลิงศพเจ้าแม่ดุสิต มารดาของเจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) และเจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) และเป็นพระนมของสมเด็จพระนารายณ์ ณ วัดแห่งนี้

    อีกทั้งยังเป็นวัดที่ สมเด็จพระเจ้าตากสิน ได้เคยทรงอุปสมบทเป็นพระภิกษุอีกด้วย

    จุดสนใจภายในวัดสมณโกฎฐาราม ประกอบด้วย

    พระวิหาร ตั้งอยู่ด้านหน้าของวัด เหลือเฉพาะส่วนฐาน และเสากลมก่ออิฐ ท้ายพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัย พระเศียรรัศมีเป็นเปลว? ชายสังฆาฏิเป็นเขี้ยวตะขาบ นามว่า พระพิชิตมารโมฬี หรือ หลวงพ่อขาว เบื้องซ้ายและขวาประดิษฐานพระอัครสาวก

    พระอุโบสถ ตั้งอยู่ด้านหลังเจดีย์ประธาน เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน มีประตูเข้าออก 4 ด้าน ตั้งอยู่บนฐานบัวลูกแก้วอกไก่ รูปทรงแอ่นโค้งในลักษณะแบบเรือสำเภา มีมุขลดด้านหัวและท้ายพระอุโบสถ

    ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานนามว่า พระศรีสมณโกฏบพิตร เป็นพระพุทธรูปหินทรายปางมารวิชัย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยาตอนต้น

    เจดีย์ประธานทรงปรางค์ ตั้งอยู่ด้านหลังพระวิหาร ล้อมรอบด้วยระเบียงคดเชื่อมต่อไปถึงท้ายวิหาร ภายในระเบียงคดมีเจดีย์ราย บริเวณมุมทั้ง 4 ของปรางค์


    5.วัดตาลเอน

    พระดีวัดดีที่ที่อยากจะแนะนำที่ข้าพเจ้าจะกล่าวถึงนี้ คือ วัดตาลเอน อ.บางประหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งทางวัดได้รับการยกย่องให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยท่านเจ้าอาวาสมีชื่อว่า พระครูสมุห์จิรยุืทธ์ อธิฉันโท สำหรับท่านเจ้าอาวาสนั้นเป็นพระนักปฏิบัติที่เก่งทั้งปฏิบัติและปริยัติ ด้วยวัยเพียง 37 ปี 21 พรรษา ซึ่งท่านบวชเรียนตั้งแต่เป็นสามาเณรด้วยวัยเพียง 14 ปี ซึ่งมท่านเป็นลูกศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี เนื่องจากวัดตาลเอนแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่หลายร้อยปีตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และท่านเจ้าอาวาสองค์ก่อนหน้านี้ได้มรณภาพลงไป ชาวบ้านจึงได้ไปร้องขอกับทางหลวงพ่อจรัญให้ส่งพระที่วัดอัมพวันมาเป็นเจ้าอาวาสแทน หลวงพ่อจรัญจึงได้ส่งพระครูสมุห์จิรยุทธ์ อธิฉันโทมารักษาการเจ้าอาวาสแทนจนกระทั่งปัจจุบันนี้ เนื่องจากหลวงพ่อเห็นว่าท่านพระครูเป็นผู้มีบุญบารมีสูง ซึ่งท่านเจ้าอาวาสรูปนี้ขอบอกเลยว่าท่านไม่ธรรมดาสามารถหยั่งรู้ว่าระจิตคน และท่านสามารถสร้างอาคราสถานที่ปฏิบัติธรรมซึ่งใช้มูลค่าหลายสิบล้านเป็นจำนวนหลายหลังเพื่อรองรับญาติโยมที่จะมาปฏิบัติธรรมกันที่วัด และตอนที่ท่านได้เข้ากรรมฐานเป็นจำนวน 30 วัน เนื่องจากวันเกิดของท่าน ได้มีพระบรมสารีริกธาุตุและพระธาตุเสด็จมาเป็นจำนวนมากหลายร้อยองค์ ญาติโยมที่พบเห็นต่างปลื้มปิติไปตามๆกัน และข้าพเจ้าก็ได้มีโอกาสได้พระบรมสารีริกธาตุมาบูชาด้วยเช่นกัน หากท่านใดต้องการสถานที่ปฏิบัติธรรมที่สงบ สัปปายะ และต้องการทำบุญกับพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านสามารถมาที่วัดตาลเอนแห่งนี้ได้ หรือสามารถเข้าไปเยี่ยยมชมเว็บไซต์ของทางวัดได้ที่ www.wattanen.org หรือสามารถเยี่ยมชมผ่านทางเฟสบุคได้ที่ www.facebook.com/watTanenPage หรือโทร 035-778552

    6.วัดบางนมโค

    วัดบางนมโค ตั้งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อำเภอ เสนา เดิมชื่อวัดนมโค สร้างขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไรไม่ปรากฏ บางท่านก็ว่ามีในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ครั้นเมื่อ พ.ศ. 2310 ในคราวที่มีศึกสงครามกำลังรุมล้อมกรุงศรีอยุธยา พม่าข้าศึกได้มาตั้งค่ายอยู่ใกล้ๆที่ตำบลสีกุก ห่างจากวัดบางนมโคไม่มากนัก(ปัจจุบันยังมีแนวค่ายอยู่ติดกับโรงงานผลิตเบียร์ช้าง) ซึ่งย่านวัดบางนมโคนี้มีการเลี้ยงวัวควายมากกว่าที่อื่นๆจึงสันนิฐานว่าพวกพม่าถือโอกาสมากวาดต้อนเอาวัวและควายจากย่านวัดนมโคไปเป็นเสบียงเลี้ยงกองทัพ ครั้นเมื่อกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่า บ้านเมืองระส่ำระสาย มีการทำลายวัดวาอารามหลายแห่ง วัดนมโค ก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ต่อมาก็ได้รับการซ่อมแซมขึ้นใหม่ และก็ยังมีการเลี้ยงวัวกันอยู่อีกมากมายกว่าที่แห่งอื่นๆ จนชาวบ้านเรียกติดปากว่า บางนมโค และเรียกวัดว่า วัดบางนมโค มาจนถึงปัจจุบัน
    และวัดนี้เป็นที่จำพรรษาของพระอริยะเจ้าที่โ่งดังมากองค์หนึ่งคือ
    หลวงพ่อปาน ซึ่งท่านเป็นครูบาอาจาร์ย ของหลวงพ่อฤษีลิงดำ ซึ่งพระหลวงพ่อปานขี่ไก่ของท่านและท่านเป็นเจ้าตำรับแห่งการเป่ายันต์เกราะเพ็ชรที่ขลังและศักดิ์สิทธิ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กรกฎาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...