แม่หมูร้องขอชีวิตลูก

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย จันทโค, 21 มิถุนายน 2012.

แท็ก: แก้ไข
  1. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    แม่หมูร้องขอชีวิตลูก

    <table style="float: right; margin: 2px 0pt 3px 7px; width: 40px; height: 11px;" cellpadding="1" cellspacing="0"> <tbody><tr><td style="vertical-align: bottom; padding: 0pt 3px 1px 0pt;">
    </td> <td style="vertical-align: bottom; padding: 0pt 3px 1px 0pt;">
    </td> <td style="vertical-align: bottom; padding: 0pt 3px 1px 0pt;"></td> <td style="vertical-align: bottom;">
    </td> <td style="vertical-align: bottom; padding: 2px 0pt 1px 3px;">
    </td> </tr></tbody></table> [​IMG]

    ในสมัยที่ผมบวชใหม่ๆ เป็น พระใหม่ (นวกะ) ที่วัด บรมนิวาสราชวรวิหาร (โบ้เบ้) ในตอนนั้น..... ท่าน....พระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณ พระพรหมมุนี (บู่ สุจินโณ) ชั้นหิรัญญบัตร (ชั้นรองสมเด็จ) ยังมีชีวิตอยู่ สมัยนั้น ผมนับว่า โชคดี แสนเหลือเกิน ที่ได้ท่านเป็น ผู้อบรมสั่งสอน เป็นรุ่นสุดท้าย เพราะได้รู้ ในสิ่งที่คนอยู่ไม่รู้มากมาย *และหาก......จะมี...สิ่งหนึ่ง สิ่งใด ที่เป็น กุศล เกิดขึ้น จากการนี้ ขอยก...ผลบุญทั้งหมดนี้ ถวายแด่ ท่าน ผู้เป็นเสมือน บุพพการี ของผม ในบวรพระพุทธศาสนา เช้าวันหนึ่ง ณ พระอารามหลวง ชั้นโท หลัง ทำวัตรเช้า เสร็จ หลวงพ่อ พระเดช พระคุณ พระพรหมมุนี ท่านได้ประชุมสงฆ์ สาเหตุที่ประชุมสงฆ์ ก้อเนื่องมาจาก.....เมื่อเช้าตรู่ ของวันนั้น มีข่าว.....ที่น่าสลด หดหู่ ยิ่งนัก มันเหมือน สัตว์นรก ไม่ใช่คน ไม่น่าเป็นคน แต่ไม่รู้ว่า.....เป็นเพราะ บุญ หรือ บาป ที่ทำให้ แม่ชั่วๆ คนนี้ เกิดขึ้นมาในโลกใบนี้

    ตำรวจ.....ได้รับแจ้งว่า ได้มี พลเมืองดี ไปแจ้งความว่า ได้พบศพ เด็กชาย อายุประมาณ 7 เดือน ลอยอยู่ใน คลองหลัง วัดบรมนิวาส ราชวรวิหาร สภาพศพ....มีสภาพ ถูก......หั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำใส่ถุง....พลาสติก โยนทิ้งลงมา ในลำคลอง แห่งนี้ เมื่อเปิดถุง...ออกมา ทุกคนในที่นั่น.....ต่างหัน หน้าหนี.....บางคน....ทนไม่ไหว ถึงกับ อ้วก...พุ่งสวน ออกมาเลยทีเดียว ภายในถุง......นั้น มีแต่กลิ่น....คาวเลือด และเศษ....ชิ้นส่วน ของมนุษย์ กระจายอยู่เต็มถุง เมื่อสอบถาม.......ไม่มีใครรู็ว่า เป็นลูกของใคร ตำรวจ...จึงสันนิษฐานว่า แม่ใจร้าย เอาลูกออกและกลัวความผิด เลยทำการ หั่นศพ ลูกของตนเอง และยัดใส่ถุงพลาสติก โยนทิ้ง แล้วลอยมาติดที่ท้ายวัดแห่งนี้ เกิดความสะเทือนขวัญและสยดสยอง แด่ผุ้พบเห็นมิใช่น้อย ท่ามกลาง...เสียงแช่งด่า แม่ผู้ใจร้าย ที่มีจิตใจเหมือนสัตว์นรก รายนี้
    [​IMG] เมื่อทำวัตรเช้าเสร็จ หลวงพ่อ ท่านเจ้าคุณ จึงประชุมสงฆ์ เพื่อจะเล่า เหตุการณ์ เหตุการณ์หนึ่งให้ฟัง ซึ่งแตกต่างกัน อย่างสิ้นเชิง ระหว่าง แม่ที่เป็นคน ทีี่่่่่มี....จิตใจ เหมือนสัตว์ กับ สัตว์เดรัจฉา ที่มีจิตใจ สวยงาม ยิ่งกว่า....เสียอีก เรื่องมี....อยู่ว่า ในเวลา ตี 4.30 น. ของทุกๆวัน จะต้อง...ตีระฆัง วัดเพื่อเป็นสัญญาณ ให้พระเณร ภายในวัด ได้ล่วงรู้ว่า.....เหลืออีก 30 นาที จะถึงเวลา.......ปฏิบัติกิจของสงฆ์ ในเช้าวันใหม่แล้ว ซึ่งระฆัง...ของ วัดบรม นั้น ไม่ได้เป็นเพียง เสียงนัดหมายของ พระเณร ในวัดเท่านั้น ชาวบ้าน แม่ค่า ร้านรวง แถวนั้น ก็ใช้......เสียงนี้แหละ.....เป็นสัญญาว่า กำลังจะต้อง ตื่นมาเตรียมตัว ต้อนรับเช้าวันใหม่ ด้วยความที่ สมัยก่อนนั้น ยังไม่มี....ตึกมากมาย เหมือนอย่าง....ทุกวันนี้ เสียงระฆังนี้ จึงดังไปได้ถึง วัดบวรนิเวศ ที่บางลำภู เลยทีเดียว เรียกว่า พอวัดนี้ตี อีกวัด ก้อต้องตี เช่นเดียวกัน.


    [​IMG] พอเวลาประมาณ 4.00 น.พี่ที่มีหน้าที่ตี ระฆัง ก็จะต้อง เตรียมตัว มาก่อนผุ้ใด เพราะ ระฆัง ที่นี่นั้น ต่างจากที่อื่น ที่ว่า.....ต่าง ก็เพราะ ในการตีระฆัง จะต้องปีน ขึ้นไปที่อีกตึกหนึ่ง ซึ่งอยูู่ ฝั่งตรงข้ามกับ หอระฆัง พระที่ทำหน้าที่ จะต้อง ดึงเชือก จากตึก.....อีกตึกหนึ่ง เพื่อดึง เชือกมะลิลา เส้นใหญ่ ที่ผูกระฆังไว้ ให้มันโยกไปมาอย่างแรง เพื่อให้มันตีระฆังได้ ซึ่งในสมัยนั้น ยังไม่ได้ติดตั้ง ระฆังไฟฟ้า อย่างเช่น ทุกวันนี้


    [​IMG] เสียงของระฆัง ที่วัดนี้ ยังเป็นเสมือนเสียง สัญญาเตรียม เข้างานของ สถานที่หนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไป ไม่ไกลนัก นั่นก็คือ โรงเชือดหมู นั่นเองเมื่อทางวัด ตีระฆัง เฮีย แก ก็จะตื่นมา เตรียมเปิดโรงเชือด เพื่อเชือด หมู ไปส่ง.....ตลาดในระแวง ใกล้เคียง เพราะฉะนั้น เสียงระฆัง วัดบรม นั้น เปรีัยบเสมือน เสียงออด เข้างานเลยทีเดียว และในเช้าวันนั้น ก็เช่นเดียวกัน หลวงพี่ ผู้ทำหน้าที่ พิทักษ์รักษา ระฆัง ก็รีบจัดการ ภาระกิจ ส่วนตัว เพื่อ จะมาตีระฆัง ให้ทันเวลา เพราะ หากวัน บรมนิวาส ไม่ตี วันบวร ก็จะยังไม่ตี จนกว่าจะได้ยินเสียง จากวัดบรม เหตุการณ์ ผ่านไป.....จนถึง ในช่วง บ่ายหลวงพี่ ผู้พิทักษ์ระฆัง เมื่อฉัน ภัตรหาร เสร็จเรียบร้อย การเข้าจำวัด ในขณะ....ที่นอนหลับไปนั้น ท่านได้.... ฝัน กลางวันไปว่า ท่านยืน อยู่ที่หอระฆัง กำลังจะดึงเชือก เพื่อตี ระฆัง ในทันใดนั้นเอง ได้ยินเสียงของ.....หญิง คนหนึ่ง พูดกับท่าน ด้วยน้ำเสียงที่เคารพ และปนไปด้วยน้ำเสียงที่ อ้อนวอน ว่า พระคุณเจ้า....เจ้าขา......โยม อยากจะขอให้ ท่านได้โปรด.....เมตตา...ดิฉันและลูกๆ ด้วยเถอะค่ะ หลวงพี่ ระฆัง (นามสมมุติ ที่เรา ล้อเลียน ท่านกัน) เมื่อได้ยินเสียงของ โยมผู้หญิง แต่ไม่เห็นตัว จึงได้ร้องถามว่า นั่นใคร......อยู่ตรงไหน แล้วมาทำอะไรที่นี่ สิ้นเสียง ท่านก็ต้องประหลาดใจ เมื่อเบื้องหน้าท่านนั้น....... เป็น หมู ตัวหนึ่ง มายืนอยู่ตรงหน้า ขว้างทางท่านอยู่ ท่านถามว่า โยม รึ....ที่พูด เมื่อกี้....... แม่หมู รับคำในทันที......ใช่ เจ้าค่ะ เท่านั้นแหละครับ หลวงพี่ ระฆังแทบลมจับ เมื่อได้ยิน ได้เห็นหมู พูดได้........... แต่ด้วยหน้าที่ เทพเจ้าพิทักษ์ระฆัง จำเป็นที่จะต้องรีบไป ตีระฆัง....จึงได้พูดขึ้นว่า.... เจ้ามาขวาง...อาตมาทำไม อาตมา กำลังจะรีบไปทำกิจของสงฆ์ แต่...แม่หมู กลับยืนขวางเอาไว้ และพูดว่า.... ท่านเจ้าคุณ..ขา.. งด....ตีระฆัง สักวันได้ไหม พระคุณเจ้า ช่วยเหลือ ดิฉันและลูกสักครั้งได้ไหม เจ้าค่ะ หลวงพี่ จึงร้องถามไปว่า เจ้ามาขอเรื่องแบบนี้ทำไม คือว่า ดิฉันนั้น ตอนนี้ได้ตั้งครรภ์ และกำลังจะคลอดวันนี้ หากท่าน.....ตีระมัง ดิฉันและบรรดาลูกๆของดิฉัน ก้อต้องตายไปด้วย หากท่าน งด สักวันหนึ่ง ให้ดิฉันไป รักษาชีวิต ของลูก ดิฉันไว้ เมื่อคลอดแล้ว ดิฉันก็พร้อมที่จะตาย ขอแต่เพียงให้ลูกๆ ของดิฉันได้ ลืมตามาดูโลก ก่อนนะเจ้าค่ะ

    [​IMG]
    ในฝัน....ท่านได้รับปาก แม่หมู..... และท่านก็ได้ สะดุ้ง...ตื่น แต่เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ท่านได้เก็บเอาไว้เป็นความลับ ไม่ได้เปิดเผยให้ใครได้ ล่วงรู้ แต่ในใจก็ กำลังใช้ ความคิดว่า มันเป็นเรื่องจริง หรือไม่ อย่างไร และแล้ว เวลาที่ต้องตี ระฆังใน เข้าวันใหม่นั้น ก็มาถึง......ท่านได้แต่....ครุ่นคิด อยู่เพียงผู้เดียวว่า..... มันเป็นความจริงหรือไม่ และหากไม่ตี ระฆัง......ท่านจะทำอย่างไร ให้พระทั้งวัด มาทำวัดได้ ผ่านไป....พักใหญ่ ท่านก็็รีบ ห่มจีวร.... และออกเดินไปตามกุฎิ ในทันที....เพื่อไปเรียก พระทั้งวัด มาทำวัด เมื่อพระ....มาร่วมกันครบ จึงได้....ทำวัตร ต่อไปโดยที่ ไม่มีผู้ใดได้ถามว่า เหตุใด ทำไมไม่ตี ระฆัง เหมือนเช่นทุกวัน เช้าวันนั้น เวลาประมาณ 07.30 น. เฮีย เจ้าของโรงเชือดหมู ก็ได้หอบกับข้าว ใส่ปิ่นโต มาถวาย หลวงพ่อ และได้ สอบถามว่า เหตุใด.....วันนี้....จึงไม่ได้ ตีระฆัง ดังเช่น ทุกวันที่ผ่านมา ทำให้...ทางกระผมนั้น....ไม่ได้เปิดโรงเชือดเลย เพราะ ทั้งกระผมและลูกน้อง ต่างก็....ถือเอา เสียงของระฆัง ที่วัดเป็นเครื่องหมาย ในการนัดแนะว่า ถึงเวลา....เปิดโรงเชือดแล้ว ทำให้วันนี้ กระผม...ตื่นสาย จึงเปิดโรงเชือดไม่ทัน ตลาดต่างๆในละแวกนี้ จึงไม่มี เนื้อหมูขายเลย เมื่อได้ยิน เช่นนั้น ท่านจึงได้ให้ เด็กวัดไปเรียก หลวงพี่ระฆัง มาเพื่อ สอบถาม...และได้สอบถาม จนได้ความ..... ฝ่าย....เฮีย ก็...ยืนยันว่า ไม่มีนะครับ ไม่มีหมู....ที่ท้องนะครับ พอกลับมา จึงได้เดินมาดู ปรากฎว่า....... เห็น...แม่หมู ตัวหนึ่งได้ คลอดลูกออกมา 4 ตัว เมื่อถามคนงาน คนงานจึงบอกว่า คลอดเมื่อตอน เช้านี้เองครับ เห็นไหม.......ครับ ขนาดหมู มันยังรักลูก ของมันมาก ขนาดคิดหาวิธีว่า จะทำอย่างไรได้ เพื่อรักษา.... ชีวิตลูกน้อยของมัน เพื่อให้...ลืมตามองโลกได้ และอาจจะด้วย เหตุแห่งความรัก ที่บริสุทธินี้เอง ทำให้ จิต ของมันนั้น มีพลังสามารถ ส่งออกไปยัง หลวงพี่ระฆัง เพื่อขอชีวิต แต่ท่านได้ ท่านจะเห็นว่า......แม้แต่.....หมู มันยังสามารถ..........ใช้ประโยชน์ จาก กระแสจิต ของมันได้เลย เพราะฉะนั้น มนุษย์ตัวเหม็น อย่างเรา ทำไมจะทำไม่ได้ หากมีจิตอันบริสุทธิ ที่ฝึกไว้ดีแล้ว
     
  2. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    ผมได้เริ่มถือข้อปฏิบัตินึงมาสักพักนึงแล้ว และจะถือไปตลอดชีวิต
    คือ การละกิเลส ความอยากในรสชาติอาหาร จากการกินเนื้อสัตว์

    ผมถือมังสวิรัติแบบไม่เคร่ง นับจากนี้ไป ตลอดชีวิต ครับ
    (ไม่เคร่ง คือ กินนม ไข่ และเครื่องปรุงจากสัตว์ เช่น น้ำปลา และ น้ำมันหอยได้ และหากมื้อใดไม่มีผักให้กิน ผมขอกินเนื้อสัตว์เพื่อประทังชีวิตในมื้อนั้นๆ ตามคำสอนพระพุทธองค์ในข้อให้เป็นผู้เลี้ยงง่าย ครับ)

    หากการกระทำนี้จะส่งผลดีอย่างไรก็ตาม ขอให้ผลนี้ได้เกิดกับทุกท่าน ที่ได้อ่านกระทู้นี้เช่นเดียวกับที่ผมจะได้รับครับ
     
  3. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,019
    สัตว์เมื่อตายแล้ววิญญาณเป็นคน:หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    [​IMG] สัตว์เมื่อตายแล้ววิญญาณเป็นคน

    วันหนึ่งอาตมาลงไปเป็นพระอาจารย์ แหม...น่ากลัวจะเป็นจานกระเบื้องนะท่านผู้อ่าน ไม่ใช่จานกะละมัง ไอ้จานกะละมังขว้างเพล้งบางทีกะเทาะ แต่ไม่แตก ทีนี้ไอ้อานกระเบื้องนี่เขวี้ยงเปรี้ยง แตกพอดี ลงไปคุยกับญาติโยม คุยไปคุยกันมา มาตอนดึกจะกลับแล้วห้าทุ่ม โยมคนหนึ่งแกถามว่า
    "พระคุณเจ้าคะ ! ฉันอยากจะทราบว่า เขาลือกันว่าคนที่ทำบาปนี่ เทวดาเขาจดลงในหนังหมา คนทำบุญนี่ เทวดาจดไว้ในแผ่นทอง มันเป็นความจริงไหม ? ”
    อีตอนนี้ความจริงก็เคยได้ยินเขาพูดกันมาเหมือนกัน แต่ว่าการตอบเอาจริงเอาจังกับญาติโยมนี่มันตอบส่งเดชไม่ได้ มันต้องเป็นเรื่องจริงจัง ในเมื่อไม่แน่ใจก็เรียนให้ทราบว่า
    "โยม ! เรื่องนี้ วันพรุ้งนี้อาตมาจะตอบให้ฟัง หรือวันพระหน้าอามาจะมาตอบให้ฟัง"
    แล้วความจริงก็ตั้งใจไว้ว่าวันรุ่งเช้าจะถาม หลวงพ่อปาน ดู ว่าไอ้เรื่องนี้มันเป็นความจริงไม่จริงเพียงใด ครั้นกลับไปถึงกุฎิแล้วก็จุดธูปเทียนบูชาพระ ตั้งใจเจริญพรกรรมฐาน พอจุดธูปเทียนเสร็จ เริ่มนั่งเข้าสมาธิ พอนั่งหลับตาปุ๊บ มีมือส่งมาแค่ศอกยื่นมาข้างหน้าแขนสวยเหลือเกิน มีกระดาษห้อย แล้วมีเสียงพูด เสียงดังฟังชัดว่า
    "นี่แหละขอรับ ! ที่เขาจดคนทำบุญทำบาป เขาใช้กระดาษทิพย์ เขาไม่ได้ใช้หนังหมาหรือว่าแผ่นทองคำ ถ้าจะใช้หนังหมาจดคนทำบาปละก็เทวดาไม่รู้จะไปฆ่าหมาที่ไหนมาพอ เพราะเมืองเทวดาไม่มีหมา ไอ้สัตว์เดรัจฉานนี่ มันมีแต่เฉพาะเมืองมนุษย์เท่านั้น ในเมืองเทวดาเมืองอบายภูมินี่มันไม่มีหรอกครับ มันมีอยู่แดนเดียว คือสัตว์ทั้งหมดที่ตายไปแล้ววิญญาณออกจากร่างก็มีร่างเป็นคน ไม่ใช่มีร่างเป็นสัตว์ อีกประการหนึ่ง ถ้าจะไปหาแผ่นทองคำมาจารึกมันก็ไม่ไหว สำหรับคนมีบุญ ก็ต้องใช้กระดาษทิพย์ ”
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2012
  4. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    สาธุ กราบอนุโมทนาด้วยนะครับ
    ดีแล้วครับ จะเป็นผลดีต่อร่างกายของท่านเองนะครับ
    ปกติแล้วมนุษย์เป็นสัตว์ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์เป็นอาหารนะ วัดทางโครงสร้างทางกายภาพร่างกายของมนุษย์
    แต่คนเรากินเนื้อสัตว์มานาน(10,000 ปี ++) นานจนเกิดความเคยชิน ชินจนต้องกินเป็นประจำ
    พระพุทธเจ้าถึงบัญญัติศีลข้อที่ ๑ ไงครับ
     
  5. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    อานิสงส์ของศีลข้อที่ ๑

    พุทธลักษณะที่ ๓. ส้นพระบาทยาว – อายะตะปัณหิ – พระ บาทแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ปลายพระบาทสองส่วน ลำพระชงฆ์ (แข้ง) ตั้งในส่วนที่สาม เหลือส้นพระบาทอีกหนึ่งส่วน และส้นพระบาทนั้นสีแดงงาม
    ๔. นิ้วพระหัตถ์ นิ้วพระบาทยาวเรียว กลมงาม – ทีฆังคุลี
    ๕. พระวรกายตั้งตรงดังกายท้าวมหาพรหม – พรหมุชุ คัตโต
    – ไม่น้อมไปข้างหน้า หรือหงายไปข้างหลัง
    ผลในชาตินี้ พระพุทธองค์มีพระชนมายุยืน ไม่มีผู้ใดปลงพระชนมชีพได้
    บุพพกรรมในภพชาติก่อน พระพุทธองค์ทรงเว้นปาณาติบาต มิได้เหยียบสัตว์ให้ตายด้วยความประมาท มิได้ประหารสัตว์ให้ตายด้วยพระหัตถ์ มีความละอาย มีความกรุณา มีความปรารถนาดีแก่สัตว์ทั้งปวง




    พุทธลักษณะที่ ๒๐. มีเส้นประสาทสำหรับนำรสอาหารดีเลิศ - ระสัคคะสัคคี - มีเส้นประสาทปลายข้างบนประชุมอยู่ที่พระศอสำหรับนำรสอาหารแผ่ซ่านสม่ำเสมอไปทั่วพระวรกาย
    ผลในชาตินี้ พระพุทธองค์ทรงมีโรคาพาธน้อย มีความลำบากน้อย สมบูรณ์ด้วยเตโชธาตุทำให้ย่อยอาหารได้ดี เหมาะแก่การบำเพ็ญเพียร ปฏิบัติธรรม
    บุพพกรรมในภพชาติก่อน พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้ไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลาย ไม่ว่าด้วยมือ ก้อนหิน ไม้ หรืออาวุธ ฆ่าเองหรือบังคับให้ผู้อื่นฆ่า หรือทำให้สัตว์ทั้งหลายหวาดกลัว
     
  6. Luthiien

    Luthiien เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +215
    อ่านแล้วน้ำตาำำไหล ซาบซึ้งใจค่ะ
     
  7. guaregod

    guaregod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    962
    ค่าพลัง:
    +1,009
    กลับไปดู drama นี่ซะความรู้ที่ไม่ถูกเอาไปเผยแพร่ต่อไม่ดีนะครับ http://drama-addict.com/2012/06/30/ไม่เห็นย่อมไม่บาป/
     
  8. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    มนุษย์เป็น omnivore จริงๆ ครับ ฟันของมนุษย์นั้น มีโครงสร้างที่กินได้ทั้งพืช และ เนื้อสัตว์จริงๆ แต่ลำไส้ของมนุษย์นั้น ค่อนข้างยาว มีลักษณะค่อนไปทางสัตว์กินพืช มากกว่าสัตว์กินเนื้อครับ ดังนั้นแล้ว อาหารของมนุษย์ ควรจะเป็นผสมผสานกัน แต่หนักไปทางพืชเป็นหลัก มากกว่าการกินเนื้อสัตว์ ครับ
     
  9. Pra_THoNG

    Pra_THoNG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +739
    ผมเรียน สัตวศาสตร์มา แต่ผมเลือกที่จะทำงานด้านอาหารสัตว์

    ไม่เลือกเป็นสัตวบาลในฟาร์ม ครับ ตอนเรียน โดนบังคับให้ทำ ตอนหมู ลูกหมูที่เกิดมาพิการก็ต้อง ฆ่าทิ้ง บาปปปป มากๆ สงสารมันครับ
     
  10. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    เอามาให้ครบสิครับ(อ้างอิงนะ) จะได้ข้อมูลที่ครบ เดี๋ยวผมพิมให้ครบนะ

    ปกติแล้วมนุษย์เป็นสัตว์ที่ไม่บริโภคเนื้อสัตว์เป็นอาหารนะ
    วัดทางโครงสร้างทางกายภาพร่างกายของมนุษย์
    แต่คนเรากินเนื้อสัตว์มานาน(10,000 ปี ++) นานจนเกิดความเคยชิน ชินจนต้องกินเป็นประจำ
    พระพุทธเจ้าถึงบัญญัติศีลข้อที่ ๑ ไงครับ
     
  11. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ฟันของมนุษย์ จะมีลักษณะเรียบและเรียงติดกันซึ่งเป็นลักษณะเช่นเดียวกับสัตว์กินพืช น้ำลายของมนุษย์มีสภาพเป็นด่างไม่สามาถย่อยเนื้อสัตว์ที่อยู่ในปากได้อย่าง รวดเร็วเหมือนสัตว์กินเนื้อที่น้ำลายมีสภาพเป็นกรด ดังนั้นฟันของมนุษย์จึงเหมาะสำหรับใช้บดเคี้ยวอาหารประเภทพืชผักผลไม้ให้ ละเอียด

    ลำไส้ของมนุษย์ ไม่เหมาะที่จะย่อยอาหารประเภทเนื้อสัตว์เพราะไม่มีเส้นใยที่เป็นประโยชน์เลย เมื่อผ่านกระบวนการย่อยสลายแล้ว จะยังคงเหลือกากที่เน่าเสียหากตกค้างอยู่ในลำไส้นานเกินไป ตับก็จะต้องทำงานหนัก ฉะนั้น ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคนที่กินเนื้อสัตว์จึงต้องป่วยเป็นโรคตับเรื้อรังและ มะเร็งตับกันมาก
     
  12. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    กราบอนุโมทนาด้วยนะครับ
     
  13. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ปาณาติปาตาเวรมณี

    ศีลข้อที่ ๑ ปาณาติปาตาเวรมณี คือ เจตนา เป็นเครื่องงดเว้นจากการฆ่า การเบียดเบียน การทำร้ายร่างกายคนและสัตว์ แล้วมีจิตใจประกอบด้วยเมตตากรุณา มีความปรารถนาดี และสงสารเห็นอกเห็นใจผู้อื่นสัตว์อื่น
    ย่อมได้รับอานิสงส์ถึง ๒๓ ประการ คือ
    ๑. บริบูรณ์ด้วยอวัยวะน้อยใหญ่ คือร่างกายไม่พิกลพิการ
    ๒. มีกายสูงและสมส่วน
    ๓. สมบูรณ์ด้วยความคล่องแคล่ว
    ๔. เป็นผู้มีเท้าประดิษฐานลงด้วยดี
    ๕. เป็นผู้สดใสรุ่งเรือง
    ๖. เป็นคนสะอาด
    ๗. เป็นคนอ่อนโยน
    ๘. เป็นคนมีความสุข
    ๙. เป็นคนแกล้วกล้า
    ๑๐. เป็นคนมีกำลังมาก
    ๑๑. มีถ้อยคำสละสลวยเพราะพริ้ง
    ๑๒. มีบริษัทบริวารมิได้พลัดพรากจากตน
    ๑๓. เป็นคนไม่สะดุ้งตกใจกลัว
    ๑๔. ข้าศึกศัตรูทำร้ายมิได้
    ๑๕. ไม่ตายด้วยความเพียรของผู้อื่น
    ๑๖. มีบริวารหาที่สุดมิได้
    ๑๗. รูปสวย
    ๑๘. ทรวดทรงสมส่วน
    ๑๙. ป่วยไข้น้อย
    ๒๐. ไม่มีเรื่องเสียใจ
    ๒๑. เป็นที่รักของชาวโลก
    ๒๒. มิได้พลัดพรากจากผู้หรือสิ่งที่รักและชอบใจ
    ๒๓. มีอายุยืน
     
  14. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    โดยสรีระแล้ว มนุษย์ยังมีฟันเขี้ยวกับฟันตัดดอยู่ครับ ซึ่งเป็นลักษณะฟันที่ใช้กัดฉีกเนื้อให้เป็นก้อนๆ
    แล้วกระเพาะของมนุษย์ก็มีน้ำย่อยที่เป็นกรดไฮโดรคลอริก ย่อยเนื้อสัตว์ได้ ซึ่งสัตว์กินพืชแท้ กระเพาะจะไม่สร้างกรดพวกนี้ออกมาครับ

    แต่ไม่อยากให้มองว่า เพราะร่างกายเราตามธรรมชาติเป็นอย่างไร เราจึงต้องเป็นแบบนั้น...
    ข้อเท็จจริงอย่างนึงที่คนไม่ค่อยทราบคือ สัตว์ตระกูลสุนัข หมาบ้าน หมาจิ้งจอก แม้กระทั่งหมาป่า สามารถกินพืช และผลไม้ล้วน ไม่กินเนื้อสัตว์เลย และมีชีวิตอยู่ได้ตามปกคิครับ (แต่สัญชาติญาณตามธรรมชาติของมัน มันจะชอบเนื้อสัตว์)

    ผมจึงคิดว่า จริงๆ แล้ว เรื่องสรีระของสัตว์ ต้องกินสิ่งใดเป็นหลัก ผมมองว่า มันเป็นแค่เรื่องของกายสังขารครับ ณ ปัจจุบันเราไม่ได้อาศัยอยู่ในป่าแล้ว หากเรายังอยู่ในยุคดึกดำบรรพ์ อาศัยในป่า ถ้าเราจะให้ได้สารอาหารครบถ้วน เราก็ต้องกินผสมๆ กัน ทั้งพืชผัก ถั่วต่างๆ แล้วก็เนื้อสัตว์ แต่ในสภาวะสังคมมนุษย์ปัจจุบัน เราสามารถอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องกินเนื้อสัตว์เลยแม้แต่นิดเดียว และได้สารอาหารครบถ้วน

    ดังนั้น อานิสงส์ของการละเว้นเนื้อสัตว์ สำหรับผมคือ การมีเมตตาต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย และ ความตั้งใจ ที่จะออกจากวัฏฏะ ออกจากการถูกครอบงำโดยกายสังขารนี้ ไม่ให้ร่างกาย ไม่ให้สัญชาติญาณดิบ มาชักจูงเราในการกระทำ ในการกิน แต่เราจะควบคุมการกระทำ การกินของเรา โดยสติปัญญา และ เมตตา ครับ
     
  15. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    “จากผลการศึกษาและวิจัย ของวงการแพทย์ที่มีชื่อเสียง ในแต่ละประเทศทั่วโลก ว่าด้วยเรื่องโครง สร้าง ด้านกายภาพของมนุษย์พบว่า… อวัยวะหลายส่วน เช่น ตา หู จมูก ลิ้น เล็บมือ เล็บเท้า ฟัน กระดูกส่วนคางและฟันกราม มีโครงสร้างที่คล้ายคลึงกับสัตว์กินพืชมากที่สุด

    ฟันของมนุษย์ทำ หน้าที่ บดและเคี้ยว อาหารซึ่งมีคุณลักษณะที่แตกต่างไปจาพฟันของสัตว์กินเนื้ออย่างเห็นได้ชัด สัตว์กินเนื้อจะมีฟันที่แหลมคม ใช้ทำหน้าที่ฉีกกัดเนื้อ แต่ไม่สามารถบดชิ้นเนื้อให้ละเอียดได้ มันจะกลืนอาหารลงคอทันที
    ฟันของ มนุษย์ จะมีลักษณะเรียบและเรียงติดกันซึ่งเป็นลักษณะเช่นเดียวกับสัตว์กินพืช น้ำลายของมนุษย์มีสภาพเป็นด่างไม่สามาถย่อยเนื้อสัตว์ที่อยู่ในปากได้อย่าง รวดเร็วเหมือนสัตว์กินเนื้อที่น้ำลายมีสภาพเป็นกรด ดังนั้นฟันของมนุษย์จึงเหมาะสำหรับใช้บดเคี้ยวอาหารประเภทพืชผักผลไม้ให้ ละเอียด

    ฟันหน้าและเขี้ยวของสัตว์กินเนื้อ จะแหลมคม เพื่อใช้ในการล่าเหยื่อดังนั้นฟันและเขี้ยวที่แหลมคมจึงสามารถกัดทะลุ ชำแหละเนื้อและกระดูกของเหยื่อออกเป็นชิ้นๆ พบว่าสัตว์ที่กินเนื้อเหล่านั้นไม่มีฟันกรามใช้สำหรับบดเคี้ยวอาหารให้ ละเอียดเหมือนมนุษย์

    ลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ ของมนุษย์และสัตว์กินพืชนั้นยาว 10-12 เท่าของลำตัวเหมือนกัน จำเป็นต้องใช้เวลาในการย่อยอาหารนานกว่า ด้วยเหตุผลดังกล่าวหากมีของเสีย (เนื้อสัตว์ฉ ตกค้างอยู่ในร่างกายนานเกินไปจะทำให้เลือดเป็นพิษ และยังเพิ่มภาระให้แก่ตับอีกด้วย

    ลำไส้ของมนุษย์ ไม่เหมาะที่จะย่อยอาหารประเภทเนื้อสัตว์เพราะไม่มีเส้นใยที่เป็นประโยชน์เลย เมื่อผ่านกระบวนการย่อยสลายแล้ว จะยังคงเหลือกากที่เน่าเสียหากตกค้างอยู่ในลำไส้นานเกินไป ตับก็จะต้องทำงานหนัก ฉะนั้น ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคนที่กินเนื้อสัตว์จึงต้องป่วยเป็นโรคตับเรื้อรังและ มะเร็งตับกันมาก

    ลำไส้เล็กของสัตว์กินเนื้อสั้น เพียง 3เท่าของลำตัว ลำไส้ใหญ่ตรง ผนังลำไส้เรียบและลื่น ดังนั้นระบบทางเดินอาหารของสัตว์ที่กินเนื้อจึงมีลำไส้ที่สั้น ไม่สลับซับซ้อน ซึ่งสามารถขับถ่ายอาหารที่กินเข้าไปได้อย่างรวดเร็ว

    กรด ในกระเพาะอาหารของสัตว์กินเนื้อ มีฤทธิ์แรงกว่า 20 เท่าของมนุษย์และสัตว์กินพืช ทั้งนี้ก็เพื่อย่อยสลาย เอ็น กล้ามเนื้อ กระดูก และส่วนอื่น ๆ ที่ย่อยยากของเหยื่อที่กลืนลงไป”

    ลองใช้สติปัญญา(ของสัตว์ที่เรียกว่ามีเหตุผล) และเมตตา ตรองดูนะครับว่าทำไม องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติศีลข้อที่ ๑ ไว้ให้เป็นข้อแรกนะครับ
     
  16. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    ผมเชื่อตามที่ลุงต้นละพูดแล้วว่า กินเจประหยัดกว่าเนื้อสัตว์อีก เพราะเมื่อก่อนผมเรียน มหาลัย
    แล้วการกินแต่ผักแต่ละครั้งมันไม่ค่อยสะดวก แต่พอซื้อของเกบบ้าน ผักจะถูกกว่า เนื้อสัตว์มาก
     
  17. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    การกินผักคั้งแรกรู้สึกหมดแรง แต่พอกินไปซักพักหนึ่งร่างกายปรับสภาพได้ไม่เป็นอะไร
    แล้วพอนึกว่าไม่มีโปรตีน ก็เลยเอามันฝรั่งมาแทนเพราะได้พลังงานเยอะเหมือนกัน
    แล้วพอกินไปซักพักกลัวว่าผักมันวิตตามินน้อยเพราะไม่มีเนื้อสัตว์
    แต่พอมาคิดดีๆแล้ว คิดเองหมดเลย
    ผักต่อให้ยังไง ก็มีวิตตามินเยอะกว่าเนื้อทั้งนั้น
    แล้วคนที่กินผักเยอะๆ จะผิวพันดีกว่า คนกินเนื้อเยอะด้วย
    ช่วงน้สามารถเข้าใจตัวเองแล้วหันมากินแต่ผักได้แล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2012
  18. bosslnwskr10

    bosslnwskr10 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,912
    ค่าพลัง:
    +1,512
    ผมไปเจอชาวคริสคนหนึ่ง เขาบนกับพระเจ้าว่าถ้าสำเร็จผล จะไม่กินข้าว3เดือน
    แล้วเป็นอย่างนั้นจริงๆ เขาก็ทำตามสัญญา ไม่กินข้าว3เดือน
    กินแต่ผลไม้ น้ำ และนม แต่จะกินน้ำเยอะมาก เพราะแก้หิว
    สุดท้ายกลายเป็นคนติดน้ำ พอผ่านไป3เดือนเขา ผิวเขาดีมาก ขาวใสขึ้น
    หันมากินข้าตามปรกติ แต่ติดนิสัยกินน้ำเยอะเหมือนก่อน

    ไม่กินข้าว 3 เดือน ผมยังรับถือความพยายามของเขาเลยว่าทำได้ไง
     
  19. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    คุณเคยพูดไว้ว่า "ถ้าหากเป็นพุทธะ พระโพธิสัตว์ ย่อมเคารพความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่ตัดบทหรือปิดกั้น ไม่มองที่ความคิดใครถูกหรือผิด แต่มองที่เจตนาหรือความปรารถนาดีของผู้ให้วิทยาธรรมเป็นทานที่นำมาแลก เปลี่ยนความรู้เพื่อสว่างทางปัญญา แบ่งปันประสบการณ์ และประโยชน์ในสาระธรรมะที่ทั้งผู้พูดแลผู้ฟังได้รับ ทุกปัญหาเกิดจาก ทัศนคติที่เป็นทั้งลบ"

    ดังนั้น โปรดพิจารณา ตาม link เหล่านี้ด้วย
    The Vegetarian Resource Group (VRG) - Humans are omnivore Humans are Omnivores -- The Vegetarian Resource Group
    จากกลุ่มของผู้เผยแพร่การกินมังสวิรัติใน Baltimore
    มนุษย์เป็น omnivore กินทั้งพืชและสัตว์ โดยเป็นผลการวิเคราะห์จาก Dr. John McArdle นักชีววิทยาผู้เชี่ยวชาญสาขาสรีระวิทยาสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ผู้กินมังสวิรัติ

    แล้วย้อนกลับไปอ่าน comment ของผมตั้งแต่ต้นกระทู้นะครับ ว่าผมก็กินมังสวิรัติ แล้วไม่ได้บอกว่ามนุษย์เป็นสัตว์กินเนื้อ
     
  20. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,102
    ค่าพลัง:
    +2,134
    อย่าบังคับคนอื่นไม่ให้กินเนื้อสัตว์ แค่เพราะว่าที่บ้านคุณมีคนตายเพราะมะเร็งเยอะเลยครับ ถ้าคุณทำแบบนั้น ดูถูกคนกินเนื้อสัตว์ พยายามยัดเยียดให้คนกินมังสวิรัติ คุณก็กำลังเบียดเบียนคนอื่นทางใจอยู่ครับ และอย่าไปดูถูกคนที่อยู่ประเทศโลกที่สามเลยนะครับ ถ้าคุณกินมังสวิรัติ มีเมตตาต่อสัตว์ แต่ใช้ภาษาแนวทางแบ่งแยก เหมือนว่า คนประเทศโลกที่สามต้องด้อยกว่า อันนั้นคุณก็กำลังเบียดเบียนผู้อื่นทางใจเหมือนกัน

    อีกอย่างหนึ่ง อย่าดูถูก protein deficiency นะครับ... อาการขั้นรุนแรงของมันคือ สมองเสื่อม เนื้อเยื่อต่างๆ เสื่อม และ ปัญญาอ่อน เลยนะครับ สำหรับเด็กวัยเจริญเติบโตช่วงต้นๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กรกฎาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...