แลกเปลี่ยนประสบการณ์หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน คําสอน หรือ วัตถุมงคล พระทองคําเมืองอยุธยา

หลวงพ่อชื้น เล่าว่า

เมื่อท่านบวชมาได้ประมาณ 10 พรรษา อายุก็อยู่ในราว 30 ปี
กำลังหนุ่มแน่น มีผู้มาแนะนำว่าท่านก็มีวิชาทางแพทย์แผนโบราณ
รู้จักตัวยาสมุนไพรหลายอย่าง อย่างนี้น่าจะไปเปิดร้านรักษาคน
หาเงินทองไปช่วยพ่อแม่ที่แก่เฒ่า จะเซ้งห้องแถวให้ที่ตลาดหัวรอ

หลวงพ่อชื้น ชักหวั่นไหว ในระยะนั้น
เช้ามืดในวันต่อมาจึงเก็บข้าวเก็บของเรียบร้อย กะว่าจะไปขอลึกต่อเจ้าคณะอำเภอ

พอเปิดกุฏิออกมา
หมา แมว เป็ด ไก่ ห่าน เหมือนจะรู้ด้วยสัญชาติญาณ
พากันมาพันแข้งพันขาหลวงพ่อชื้น โดยพร้อมเพรียงกัน เห่าร้องกันเซ็งแซ่

หลวงพ่อชื้น จึงคิดว่า
ถ้าเราสึกออกไป ใครจะดูแลเลี้ยงสัตว์เหล่านี้ คงจะอดมื้อกินมื้อ
แล้วตายไป ก่อนถึงกาลอันควร

จึงกลับเข้าไปในกุฏิ คว้าบาตรขึ้นสะพายออกไปบิณฑบาต
ต่อจากนั้นก็ไม่คิดสึกอีก

และถือว่าสัตว์เหล่านี้ มีบุญคุณที่ให้มีบุญได้อยู่ในร่มผ้ากาสาวพัสตร์ต่อไป
จนท่านได้บรรลุธรรมในบั้นปลายของชีวิต

กุฏิของท่านปัจจุบันนี้ ไก่ เป็ด หมา แมว ห่าน จึงพากันเด่นเพ่นพ่านอย่างเสรี
บางตัวที่ไร้มารยาทก็จะถ่ายมูลไว้ทั่วไป เป็นที่รำคาญแก่ผู้ที่ไปกราบไหว้
และนึกไปต่าง ๆ นานา

.................................................................................
<!-- / message --><!-- sig -->

 

เกจิอาจารย์ที่มีชื่อ

หลังจากนั้น ชาวอยุธยา ก็ถือว่าท่านเป็นเกจิอาจารย์ผู้หนึ่ง ที่รอบรู้พุทธวิทย์วิทยาคม

เมื่อมีพิธีปลุกเสก หรือพุทธาภิเษก ณ ที่ใด
จะมาอาราธนาให้ท่านไปร่วมในพิธีด้วยเสมอ

ตั้งแต่พิธีปลุกเสกเหรียญมงคลบพิตร ที่วัดพนัญเชิง ปี พ.ศ. 2485
ซึ่งขณะนั้นหลวงพ่อชื้นอายุได้ 35 ปี

ร่วมในพิธีฉลองการบูรณะเจดีย์
เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2490 จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ผู้มีอำนาจสูงสุด
ได้มีคำสั่งให้ทำการบูรณะตกแต่งเจดีย์วัดวาอารามต่าง ๆ ในตัวจังหวัด

และประมาณปี พ.ศ. 2495 ได้ทำพิธีฉลองอย่างเป็นทางการหลังบูรณะ
มีพิธีเปิดแพรคลุมป้าย และเข้าเยี่ยมชมผลงาน....
พระเกจิอาจารย์ต่าง ๆ มาร่วมสวดชัยมงคลคาถา
หลวงพ่อชื้น ท่านก็ได้รับนิมนต์ให้มาร่วมพิธีด้วย

ท่านเล่าว่า ได้มีหญิงชาวบ้านวัยกลางคนผู้หนึ่งล้มลงชักดิ้นชักงอ
ประเดี๋ยวหนึ่ง ก็ลุกขึ้นวิ่งไปที่หน้าปะรำพิธี

กระทืบเท้าชี้หน้าด่าจอมพล ป.พิบูลสงคราม ว่า

 

เหตุการณ์หลังปี พ.ศ. 2500

ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า หลวงพ่อชื้น ท่านได้พบอาจารย์ดี ชื่อ....
พระอาจารย์เตชะธัมโม ธัมมวาที
มาสอนแนวทางปฏิบัติ เพื่อให้พ้นทุกข์ ไปสู่พระนิพพาน

หลังจากที่หลวงพ่อชื้น ปฏิบัติได้แล้ว ก็ละทิ้งไสยศาสตร์ แนวทางปฏิบัติแบบเก่า

หลังจากท่านทำพระเครื่องรุ่นแรก แจกแก่ชาวบ้าน เมื่อปี พ.ศ. 2500 แล้ว
ท่านก็เลิกพิธีกรรมต่าง ๆ รับแขกน้อยลง
ปิดห้องนั่งปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน อยู่แต่ในกุฏิ

บางวันท่านก็ไม่รับแขก หรือออกมาดูผู้ที่มาหา
แล้วก็แนะนำให้อาจารย์ องค์อื่นรับแทน

...................................................................................

<!-- / message --><!-- sig -->

 

หลวงตาชื้นวัดญาณเสนมักจะสอนให้ภาวนาพุทโธ ธัมโม สังโฆ ประจำเคยไปกราบท่านบ่อยครับ ตอนนี้หลวงพี่เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันเป็นผู้รับสืบทอดวิชาจากหลวงตาได้หมดลองไปกราบท่านสิครับ

 

จริยาวัตร

จริยาวัตรบางอย่างของท่านเปลี่ยนไป
ซึ่งไปคล้ายกับหลวงพ่อโอภาสี แห่งอาศรมบางมด
หรือ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม

วิชาที่เรียนมาครั้งแรก กับวิชาบริสุทธิ์ ในครั้งหลัง หักร้างกัน

เช่นท่านไม่ลงโบสถ์ ทำวัตรเช้า-เย็นร่วมกับพระภิกษุอื่น ท่านทำของท่านในกุฏิ

ท่านไม่ไหว้พระสงฆ์ด้วยกัน ไม่ว่าพระผู้นั้น จะมีสมณะศักดิ์มากเพียงใด

ลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาส ขอเป็นเพียงพระลูกวัด เพื่อมีเวลาปฏิบัติธรรม

ไม่ยอมรับสมณะศักดิ์ เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอที่ได้รับแต่งตั้งมา

 

เรื่องที่ท่านไม่ไหว้พระสงฆ์ด้วยกัน ไม่ว่าพระผู้นั้น จะมีสมณะศักดิ์มากเพียงใด

ผมไม่ได้รับประสบการณ์โดยตรง....
แต่เคยได้รับฟัง ศิษย์ใกล้ชิดที่เคยอุปฐากหลวงปู่ฯ ว่า

มีครั้งหนึ่ง มีพระภิกษุอาวุโส(ด้วยพรรษา) ท่านหนึ่งมากราบเยี่ยมหลวงปู่ฯ ที่วัด
หลวงตาท่านนั้น เคยรู้จักกับหลวงปู่ฯมาก่อน นานมาแล้ว

เมื่อมาถึง ก็ไหว้หลวงปู่ฯ พร้อมกับกล่าวเอ่ย คำทักทาย

หลวงปู่ฯ ท่านไม่ได้ยกมือไหว้ตอบรับ เพียงแต่มองเฉย ๆ

หลวงตาท่านนั้น จึงพูดต่อว่า

 

ถูกเพ่งเล็ง

หลวงพ่อชื้น เล่าต่อไปว่า ท่านเจ้าคุณโกย และท่านเจ้าคุณแก
พระผู้มีสมณะในจังหวัด ได้ตั้งข้อหาว่า การกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์
ซึ่งเป็นข้อหาที่นิยมยัดเยียดกันในสมัยนั้น

ท่านผู้กำกับตำรวจ จึงส่ง ส.ต.ต.สุมาตราฯ จากแผนกสันติบาล
มาสอดส่อง ดูแลพฤติการณ์

ส.ต.ต.สุมาตราฯ มาถึง ก็ไม่ฟังเสียง ยกกล้องขึ้นถ่ายรูปเป็นการใหญ่
เมื่อนำไปล้าง ปรากฏว่าถ่ายไม่ติด จึงเอากล้องมาถ่ายใหม่

ปรากฏว่าครั้งนี้ กล้องถ่ายรูปถึงกับชำรุด

จึงได้กราบขอขมาต่อหลวงพ่อชื้น

แต่ผู้ที่เป็นระดับหัวหน้าทั้ง 2 ที่ยังไม่ละกิเลสอันหยาบหนา

ก็ถึงแก่การวิบัติ ด้วยอาการอันน่าสยอง ในต่อมา
ดังที่เป็นข่าวหน้าหนึ่ง เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว

 

รักธงชาติ

หลวงพ่อชื้น ท่านว่าท่านเป็นพระอธิปไตย รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ท่านให้ศิษย์สร้างเสาธงขนาดสูงใหญ่เต็มลานวัด
มีธงชาติขนาดใหญ่ชักขึ้นอยู่บนยอดเสาตลอดเวลา
จนกว่าธงขาด จึงได้นำธงใหม่ขึ้นชักแทน

เคยมีเหตุการณ์หลายครั้งที่ราชการต้องลดธงครึ่งเสาไว้อาลัย
ก็มีผู้ไปฟ้องว่าที่ วัดญาณเสน ไม่ยอมลดธง

ร้อนถึงนายอำเภอต้องมาขอร้อง
แต่ก็ถูกหลวงพ่อตอกหน้ากลับไปว่า ไม่เกี่ยวกัน

พร้อมทำความเข้าใจอันดี ในเวลาต่อมา

...................................................................................

 

สมเด็จพุฒาจารย์ (เสงี่ยม) วัดสุทัศน์ฯ มากราบ

สมเด็จพุฒาจารย์ (เสงี่ยม) แห่งวัดสุทัศน์ ท่านเป็นโรคเบาหวานมานานปีไม่หาย
กินทั้งยาไทย ยาเทศ หมดเงินหลายกระบุง

ท่านจะทราบเองด้วยญาณ หรือคนบอกเล่า ก็มิทราบได้
ท่านรู้ว่ามีอาจารย์ดีอยู่ที่วัดญาณเสน ท่านจึงให้คนที่รู้จักพามา
แล้วขึ้นไปกราบหลวงพ่อชื้น บนกุฎิ

พร้อมทั้งแนะนำตัว และบอกอาการป่วย

หลวงพ่อชื้น จึงอธิษฐานนำยาอุทัยขวดใหญ่ ในกุฏิ ผสมน้ำกิน

ปรากฏว่าหมดขวดแรก อาการดีขึ้น ข
วดที่สองให้คนรถมาเอา ขวดที่สามหายขาด

สมเด็จพุฒาจารย์(เสงี่ยม) ได้เดินทางมากราบหลวงพ่อชื้นฯ ด้วยตนเอง อีกครั้ง

น้ำโบกขรพรรษ

ในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์อธิษฐาน ขอให้ฝนโบกขรพรรษ
ตกลงมาเพื่อรักษาโรคแก่ชาวเมือง ฝนตกลงเป็นสีแดง

หลวงพ่อชื้น ท่านก็ใช้เคล็ดอันนี้ ใช้น้ำยาอุทัย ผสมน้ำสะอาด อธิษฐานจิต
แล้วก็ให้ญาติโยม ที่มีโรคภัยดื่ม ซึ่งมีอันได้ผล หายจากโรคภัยต่าง ๆ เป็นที่อัศจรรย์


ปัจฉิมวัย

หลวงพ่อชื้น ทุกวันนี้เปรียบเสมือนไม้ใกล้ฝั่ง อายุล่วงเข้า 81 ปี แล้ว
(ในขณะที่เขียนประวัติ)
ถ้าเป็นฆราวาสอย่างเรา ๆ ท่าน ๆ ป่านนี้ คงได้ฌาปนกิจกันไปนานแล้ว

สุขภาพของท่านดีพอสมควร ไม่เจ็บไข้ ได้ป่วยอะไร

มีเพียงอาการเกี่ยวกับหู ใครพูดอะไรค่อย ๆ จะไม่ได้ยิน ต้องใช้เครื่องช่วยในการฟัง

ท่านเป็นมาประมาณ 4

 

เหรียญรุ่น 2

ต่อมาปี พ.ศ. 2516 คณะศิษย์พ่อค้าจีน ตลาดหัวรอและตลาดเจ้าพรหม
ได้ขออนุญาตสร้างเหรียญขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ให้หลวงพ่อปลุกเสก
แล้วจึงได้นำไปแจกจ่ายกัน

ลักษณะเหรียญ รูปไข่กลางเหรียญเป็นรูปหลวงพ่อชื้น ครึ่งองค์
ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ
ขอบเหรียญด้านบนเขียนว่า ชัยมังฆรัง มีอักขระ นะ,
ฤ ฤา ฦ ฦา ลดหลั่นลงมา

ขอบเหรียญด้านข้าง มีอักษรจีน ทั้ง 2 ข้าง ด้านซ้าย อ่านว่า
ตั้วเซียะ แปลว่า อยุธยา
ด้านขวาอ่านว่า ฉื่อชื้อเพ่งอัง แปลว่า อยู่เย็นเป็นสุข

ขอบเหรียญด้านล่างมียันต์เฑาะขัดสมาธิ
และฉายาของหลวงพ่อ พระพุทธสโร

ด้านหลัง เหมือนกับเหรียญรุ่นหนึ่งทุกประการ แต่อักขระขอมเว้นช่องไฟห่าง ๆ
จำนวนการสร้าง
เนื้อทองคำ 9 เหรียญ,
เนื้อเงิน 99 เหรียญ
เนื้อลูกแก้ว 50 เหรียญ,
เนื้อทองแดง 10,000 เหรียญ
ขนาด ย่อม/กว่าเหรียญรุ่นหนึ่งเล็กน้อย กว้าง 2.5 ซม. X 3.5 ซม.

.................................................................................

<!-- / message --><!-- sig -->

 

เหรียญรุ่น 3

ต้นปี พ.ศ. 2525 สุชัย วงศ์ตระกูล ชาวจังหวัดลำปาง
ทำงานเป็นหัวหน้าช่างซ่อมบำรุง โรงแรมอินทรา รีเจนท์ ประตูน้ำ กทม.
มีความเลื่อมใสในปฏิปทาในหลวงพ่อชื้น ได้ฝากตัวขอเป็นศิษย์ถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ
ตลอดจนวิธีการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานตามแนวทางของหลวงพ่อ

จากนั้นวันที่ 11 เม.ย. 2529
สุชัยก็ได้บวชที่วัดญาณเสน ปรนนิบัติ หลวงพ่ออยู่ 1 เดือน

และในปี พ.ศ. 2525
สุชัย วงศ์ตระกูล ได้ขออนุญาตหลวงพ่อสร้างเหรียญขึ้นมารุ่นหนึ่ง
ลักษณะเหรียญ รูปกลีบบัว หรือหยดน้ำ
กลางเหรียญเป็นรูป หลวงพ่อชื้น นั่งสมาธิเต็มองค์

มือทั้ง 2 ประสานกันอยู่บนตัก ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ คาดรัดประคต
นั่งอยู่บนอาสนะตั่งเท้าสิงห์เตี้ย ๆ

ขอบเหรียญด้านบนเป็นรูปซุ้มลายกนกเรือนแก้ว
ขอบเหรียญด้านล่างเขียนว่า พระพุทธสโร อนุสาวก (ชื้น)
รอบ ๆ ตัวหลวงพ่อเหนือศีรษะมียันต์เฑาะขัดสมาธิ
ข้างไหล่ ทั้ง 2 มียันต์ เมตตา ฦ ฦา ฤ ฤา มีผ้าสังฆาฏิ มียันต์ นะ
ใต้อาสนะ มียันต์ นะ ใต้ลงมาอีกเขียนว่า วัดญาณเสน จังหวัดอยุธยา

ด้านหลัง เป็นเอกลักษณ์ของหลวงพ่อชื้น คือมีพระพุทธ 3 องค์ ล้อมรัตนะจักร
มียันต์ พุทธังอิธิ ธัมมังอิธิ สังฆังอิธิ ขอบเหรียญเป็นจุดไข่ปลาลึกลงไป
ขนาด กว้าง 2.1 ซม. X สูง 3.1 ซม.

จำนวนการสร้าง
เนื้อทองคำ 9 เหรียญ,
เนื้อเงิน 100 เหรียญ
เนื้อชิน 150 เหรียญ,
เนื้อทองแดง 10,000 เหรียญ

..................................................................................

<!-- / message --><!-- sig -->

 

เหรียญรุ่น 4

ปี พ.ศ. 2526
ศิษย์ได้ขออนุญาตต่อหลวงพ่อจัดสร้างเหรียญขึ้นมาอีกรุ่นหนึ่ง
ลักษณะเหรียญ รูปไข่มีหูในตัว กลางเหรียญเป็นรูปหลวงพ่อ นั่งสมาธิเต็มองค์
ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิ รัดประคด มือซ้ายหงายอยู่บนตัก
มือขวาจับหัวเข่า อยู่บนอาสนะตั่งเท้าสิงห์ เหนือศีรษะหลวงพ่อมี ยันต์เฑาะ
ขอบเหรียญด้านบน มีอักขระขอม อ่านว่า ชัยะมังคลัง
ที่ผ้าสังฆาฏิ มียันต์นะข้างไหล่มียันต์ฤฤา ........ฦ......ฦา
ใต้ตั่งเขียน พระพุทธสโร อนุสาวก ใต้ลงมาเป็นรูปดอกจัน
ขอบเหรียญด้านล่างเขียนว่า วัดญาณเสน จ. พระนครศรีอยุธยา

ด้านหลัง เป็นรูปพระตรัยรัตนจักร ล้อมด้วยอัขระ พุทธังฤทธิ ธัมมังฤทธิ สังฆังฤทธิ
ขนาด กว้าง 2.5 ซม. X สูง 3.7 ซม.

จำนวนการสร้าง
เนื้อทองคำ 9 เหรียญ
เนื้อเงิน 50 เหรียญ
เนื้อชินตะกั่ว 50 เหรียญ
ทองแดง 2,000
เหรียญ รวม 2,109 เหรียญ

...................................................................................

<!-- / message --><!-- sig -->

 

เหรียญรุ่น 5

ปี พ.ศ. 2528
หลังจากที่เหรียญรุ่น 4 ได้แจกจ่ายแก่หมู่ลูกศิษย์และญาติโยมหมดลงไป
ศิษย์ จึงได้ขออนุญาตต่อหลวงพ่อสร้างเหรียญขึ้นมาอีก

ลักษณะเหรียญ แตกต่างจากเหรียญรุ่น 4 เล็กน้อย รูปไข่ห่วงในตัว
ขอบเหรียญเป็นสันนูน กลางเหรียญเป็นรูปหลวงพ่อ นั่งอยู่บนตั่ง เท้าสิงห์หัวกนก
ห่มจีวรลดไหล่ พาดสังฆาฏิรัดประคด ที่สังฆาฏิไม่มียันต์ นะ เช่นรุ่น 4
มือซ้ายวางหงายอยู่บนตัก มือขวาจับเลยมาบริเวณหน้าแข้ง
ที่ขอบเหรียญด้านบน มีอักขระ ชัยะมังคลัง
ที่ข้างไหล่มี ยันต์เหาะ ที่ด้านไหล่ซ้าย กลางยันต์เฑาะ
มีอักขระ นหะ เบื้องหัวเข่าทั้ง 2 มียันต์ ฤ ฤา……ฦฦา
ใต้ตั่งมี ยันต์นะ ใต้ยันต์นะมีเลข 2528 หมาย พ.ศ. ที่สร้าง
ใต้ลงมาเป็นป้ายเขียนว่า พระพุทธสโรอนสาวก (ชื้น)
ที่ขอบเหรียญด้านล่างเขียนว่า วัดญาณเสน อ.เมือง จ.อยุธยา

ด้านหลังเหรียญ ขนาดของเหรียญเท่ากับเหรียญ รุ่น 4

จำนวนการสร้าง
เหรียญทองคำ 9 เหรียญ
เหรียญ เงิน 20 เหรียญ
เหรียญชินตะกั่ว 30 เหรียญ
เหรียญทองแดง 1,000 เหรียญ
รวม 1,059 เหรียญ

...................................................................................

<!-- / message --><!-- sig -->

 

เหรียญรุ่น 6

กลางปี พ.ศ. 2530
ศิษย์ฯ ได้ขออนุญาตต่อหลวงพ่อ
สร้างเหรียญขนาดเล็กรูปไข่ขึ้นมาอีกรุ่นหนึ่ง

ลักษณะเหรียญ รูปไข่หูในตัว มีขอบเหรียญ กลางเหรียญเป็นรูปหลวงพ่อ
นั่งเต็มองค์อยู่บนตั่งเท้าสิงห์ ห่มจีวรลดไหล่พาดผ้าสังฆาฏิรัดประคด
มือซ้ายวางหงายอยู่บนตัก มือขวาจับหัวเข่า
ขอบเหรียญด้านมีอักขระ ชัยะมังคลัง ช่องเหรียญข้างไหล่ทั้ง 2 มียันต์เฑาะ
และยันต์เฑาะตัวซ้าย มีอักขระ หะ อยู่กลาง
ช่องเหรียญข้างเข่าทั้ง 2 มียันต์ ฤฤา….ฦฦา
ใต้ตั่งมียันต์ นะ ใต้ลงมาเป็นตัวเลข 2530 หมายถึง พ.ศ. ที่สร้าง
ใต้ลงมาเป็นป้ายอักษรไทยเขียนว่า พระพุทธสโรอนุสาวก
ใต้ลงมาจรดขอบเหรียญเขียนว่า วัดญาณเสน อ.เมือง จ. อยุธยา

ด้านหลัง เป็นรูปพระตรัยรัตนจักรเอกลักษณ์ของหลวงพ่อ
ขนาด กว้าง 1.7 ซม. X สูง 2.7 ซม.

จำนวนการสร้าง
เหรียญทองคำ 9 เหรียญ,
เหรียญเงิน 50 เหรียญ
เหรียญชินตะกั่ว 50 เหรียญ,
เหรียญทองแดง 3,000 เหรียญ

...................................................................................


เหรียญรุ่นพิเศษ

ปี พ.ศ. 2525
คุณสุชัยฯ ได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์ขึ้นกรรมฐานกับหลวงพ่อ
ยามว่างได้ใช้หินมีดโกนแกะแม่พิมพ์ ขอโลหะเก่า ๆ ของหลวงพ่อ
ซึ่งมีเศษพระกรุวัดราชบูรณะ
เนื้อชินเงิน มาหลอมทำเป็นเหรียญไม่มีห่วง 8 เหรียญ

จึงได้นำไปให้หลวงพ่อปลุกเสก แล้วนำไปแจกแก่ผู้มีพระคุณในสถานที่ทำงาน
และที่บ้านเกิด

ลักษณะเหรียญ รูปคล้ายกลีบบัวยอดแหลม ขอบเหรียญเป็นลายกนก
กลางเหรียญเป็นรูปหลวงพ่อนั่งสมาธิเต็มองค์ มือทั้ง 2 ประสานกันอยู่บนตัก
นั่งตั่งฐานสิงห์ ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิรัดประคด ที่สังฆาฏิมียันต์ นะ ลึกลงไป

ด้านหลังหลวงพ่อเป็น รัตนจักร เหนือหัวมีอักขระ พุท ที่ระดับไหล่ทั้ง 2 มีอักขระ ฤา ฦา
ที่ช่องเหรียญเหนือเข่าทั้ง 2 มีอักขระ ธะ มะ สะ มะ ซึ่งอ่านรวมกันทั้ง 5 ตัว

หมายความว่า
พุทธัง ธัมมัง สังฆัง ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ใต้ตั่งมีอักษร เขียนว่า พระพุทธโร อนุสาวก (ชื้น)
ขอบเหรียญทำเป็นป้ายล้อมอักษรเขียนว่า วัดญาณเสน จ.พระนครศรีอยุธยา
ขนาด กว้าง 2.3 ซม. X สูง 3.3 ซม.

...................................................................................

<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig -->

 

ล็อกเกต

ปลายปี พ.ศ. 2525
คุณสุชัย วงศ์ตระกูล ได้นำรูปถ่ายของหลวงพ่อ
ด้านหลังวาดเป็น รัตนจักร
มีอักขระ ชัยมังคลัง พุทธังฤทธิ ธัมมังฤทธิ สังฆังฤทธิ ฤฤา ฦฦา
นำไปทำเป็นล็อกเกตขนาดเล็กรูปไข่

ด้านหลังบรรจุผงพทุธคุณถวายหลวงพ่อ ไว้แจกญาติโยม
ในโอกาสต่าง ๆ จำนวน 300 อัน
ปรากฏว่าเป็นที่นิยมมาก มีผู้ไปขอต่อหลวงพ่อจนหมดภายในปีนั้น

ต่อมากลางปี 2530 ได้จัดทำล็อกเกตรูปไข่ และรูปสี่เหลี่ยม
ด้านหลังบรรจุผงพุทธคุณ ขึ้นมาอีกอย่างละ 300 อัน ถวายหลวงพ่อ
ก็ปรากฏว่าหมดไปอีกในเวลาไม่นาน

...................................................................................

<!-- / message --><!-- sig -->

 

เหรียญรัตนจักรจิ๋ว

ต้นปี พ.ศ. 2528
มีผู้ที่ศรัทธาในหลวงพ่อ ไปกราบไหว้หลวงพ่ออยู่เนือง ๆ
ต่างก็อยากให้ของดี ของที่ระลึกไปกราบไหว้บูชารักษาตัว

ศิษย์ฯ จึงขอได้อนุญาตต่อหลวงพ่อจัดสร้าง เหรียญรัตนจักรจิ๋ว ขึ้นจำนวนหนึ่ง
มอบให้หลวงพ่อไว้แจกจ่าย หรือใครจะทำบุญก็แล้วแต่ศรัทธามิได้เรียกร้อง

อีกประการหนึ่งที่กุฏิของหลวงพ่อ หรือที่ใด ๆ ในวัดก็ไม่มีตู้ที่รับบริจาค
ผู้ที่เคารพนับถือหลวงพ่อก็ไม่ใคร่จะมีสตางค์ใช้กันเป็นส่วนมาก

ลักษณะเหรียญ สามเหลี่ยมหน้าจั่ว เกือบจะด้านเท่าขนาดจิ๋ว
ทำเป็นขอบกระจก มีพระพุทธปางมารวิชัยนั่งอยู่ภายในกรอบสามเหลี่ยม 3 องค์
ตรงกลางเป็นรัตนจักร ด้านหลังมี ยันต์เทฑาะ นูน กลางยันต์เฑาะมอักขระ ทะ
ขนาด ฐานกว้าง 1.2 ซม. X สูง 1.3 ซม.

จำนวนการสร้าง
เนื้อทองคำ 29 เหรียญ
เนื้อเงิน 100 เหรียญ
เนื้อลูกแก้ว 200 เหรียญ
เนื้อชินตะกั่ว 300 เหรียญ
เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง 5,000 เหรียญ
เนื้อทองแดง 15,000

เหรียญรวมทั้งสิ้น 20,629 เหรียญ

...................................................................................

<!-- / message --><!-- sig -->

 

พระองค์รัตนจักรรุ่นแรก

เมื่อต้นปี พ.ศ. 2530
ศิษย์ฯ ได้ขออนุญาตต่อหลวงพ่อสร้างพระผงขึ้นเป็นครั้งแรก
โดยขอให้หลวงพ่อใช้ดินสอพองเขียนยันต์ 108 เขียนสูตรปัทมัง สูตรอิทธิเจ สูตรมหาราช

แล้วลบนำผงดินสอพองนั้น มาผสมเกสรดอกไม้ ที่บูชาพระมงคลบพิตร,
ดอกไม้บูชาพระวัดพนัญเชิง, ดอกไม้บูชาพระประธานวัดพระญาติ
และจากวัดที่ศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ รวม 108 วัด
ผงดินก้นกรุวัดต่าง ๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา,
น้ำมนต์จากวัดต่าง ๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ปูนขาว ไคลเสมา และผงที่ศักดิ์สิทธิ์อีกเป็นจำนวนมาก

ลักษณะองค์พระ รูปทรงพิมพ์สามเหลี่ยมหน้าจั่วตรงกลาง
พิมพ์เป็น รัตนจักร บนยอด และฐาน 2 ข้างมีพระพุทธปางสมาธิ
พระกรทั้ง 2 ประสานอยู่บนพระเพลา,
พระบาทขวาเกยพระบาทซ้าย ประทับอยู่บนดอกบัวบานกลีบ 2 ชั้น
ขอบพิมพ์เรียบ ด้านหลังเรียบ

ขนาด ฐานกว้าง 2. ซม. X สูง 2.5 ซม. X หนา 0.5 ซม.

จำนวนการสร้าง
ผงพุทธคุณล้วนสีขาว 100 องศ์
ผงดอกไม้สีเหลือง 5,000 องค์

...................................................................................

<!-- / message --><!-- sig -->

 

ตะกรุด

ตะกรุดโทน,
ตะกรดเมตตา,
ตะกรุดกันกระทำ,
ตะกรุดกันผี,
ตะกรุดค้าขาย ฯลฯ

หลวงพ่อ ท่านจะทำให้ศิษย์ที่ไปขอเป็นคราวๆ ไป
ตั้งแต่เมื่อท่านอยู่วัดญาณเสน จนถึงปัจจุบัน

มีเนื้อทองแดง และเนื้อตะกั่ว หรือแล้วแต่ศิษย์จะนำแผ่นโลหะไปฝากไว้

..................................................................................

<!-- / message --><!-- sig -->

 

มีดหมอ

เมื่อต้นปี พ.ศ.2529
คุณสุชัย วงศ์ตระกูล ได้เรียนวิชาทีมีดหมอจากหลวงพ่อ
แล้วจึ่งได้ช่วยกันทำกับหลวงพ่อโดยท่านมอบเหล็กยอดเจดีย์เก่าของวัดญาฯเสน
ที่หักลงมา ให้นำไปหลอมทำมีด ปรากฎว่าเป็นเหล็กวิเศษเนื้อดี ขาวแวววับ

สร้างขนาดใหญ่ ยาวตลอดด้าม 12 นิ้ว ได้ 3 เล่ม ข
นาดเล็กยาวตลอดด้าม 5 นิ้ว 54 ด้าม

ด้ามและฝักทำด้วยไม้สักแลไม้มงคลต่างๆ
ตัวด้ามบรรจุเกศาหลวงพ่อ และผงพุทธคุณ

ใบมีดตอกค่าถา อิติปิโสวิเสเสอิ ปลายมีดเป็นยันต์องค์พระ และยันต์อุณาโลม

หลวงพ่อบอกว่ามีดนี้ดีมากใช้ปราบอมนุษย์ และอวิชชาต่างๆ ได้
ขณะนี้เป็นที่เสาะหากันในหมู่ผู้รู้พุทธคุณราคาด้ามละหลายพันบาท

 

ภาพถ่าย

ภาพถ่ายขาวดำขนาด 1 นิ้ว เป็นรูปหลวงพ่อ ห่มจีวรลดไหล่ครึ่งองค์
แจกประมาณ พ.ศ.2520 ก็เป็นที่นิยมกันในหมู่ศิษย์ ไม่ใคร่ได้พบเห็นบ่อยนัก