เรื่องเด่น โครงการเผยแผ่ศาสนาและพัฒนาคุณภาพชีวิต สนองพระมหากรุณาธิคุณ

ในห้อง 'ในหลวงกับพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 13 กันยายน 2010.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    โครงการเผยแผ่ศาสนาและพัฒนาคุณภาพชีวิต สนองพระมหากรุณาธิคุณ



    [​IMG]





    รายงานพิเศษ / โครงการเผยแผ่ศาสนาและพัฒนาคุณภาพชีวิต สนองพระมหากรุณาธิคุณ โดยมั่นจิตร ดีลาส



    “...เจตนาของการศึกษานั้น กล่าวโดยสรุปก็คือ การวางรากฐานที่ดีที่ถูกต้องในตัวบุคคลทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และความรู้ทั้งปวง สำคัญที่สุด คือรากฐานด้านความรู้จักรับผิดชอบชั่วดี รู้จักคิดตัดสินใจตามทางที่ถูกที่เป็นธรรมที่สร้างสรรค์ ผู้จัดการศึกษาต้องดำเนินงานให้ได้ประโยชน์ พร้อมดังนี้จึงจะเรียกได้ว่าปฏิบัติการถูกต้องครบถ้วนเป็นนักการศึกษาแท้...”
    พระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2518

    ..........................................................................................................
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสนพระราชหฤทัยด้านการศึกษาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการศึกษาของเยาวชนไทย เพราะทรงตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษา ทรงถือว่า “การศึกษาเป็นกระบวนการพัฒนาชีวิตมนุษย์”
    พระองค์ทรงมีบทบาทในการพัฒนาการศึกษาในมาโดยตลอด ทรงมีพระปณิธานในการให้การศึกษาแก่ประชาชนอย่างทั่วถึง ในทุกระดับของการศึกษา ทั้งในระบบและนอกระบบ นับตั้งแต่ปัจเจกบุคคล จนถึงระดับประเทศ
    พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการพัฒนาการศึกษาในระบบโรงเรียนเริ่มมาตั้งแต่ปี 2498 โดยทรงให้ตั้ง “โรงเรียนจิตรลดา” ขึ้น ต่อมาจึงทรงให้สร้างโรงเรียน “ราชประชานุเคราะห์” ขึ้น เพื่อช่วยเหลือราษฎรซึ่งประสบภัยจากพายุแฮเรียต เมื่อปี 2505 จนทำให้ 12 จังหวัดในภาคใต้และที่แหลมตะลุมพุกได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทรงให้สร้างโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ขึ้น 12 แห่ง และสร้างเพิ่มเติมอีกหลายแห่งในเวลาต่อมา


    [​IMG]


    สำหรับภาคเหนือในพื้นที่ภูเขาหรือบนดอยที่ความเจริญเข้าไม่ถึง ทรงพระราชาทานทรัพย์ส่วนพระองค์ให้แก่กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อสนับสนุนให้ตั้งโรงเรียนชาวเขาขึ้น โดยพระราชทานนามว่า “โรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์”
    ส่วนในพื้นที่ชายแดนและพื้นที่สีชมพู เช่น จ. สกลนคร นครพนม นราธิวาส ปราจีนบุรี และแม่ฮ่องสอน เป็นต้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทหารร่วมกับราษฎรในพื้นที่สร้าง “โรงเรียนร่มเกล้า” ขึ้น สำหรับการศึกษานอกระบบ พระองค์ทรงริเริ่มโครงการพระดาบสขึ้น ในปี 2518
    สิ่งเหล่านี้นับเป็นสิ่งน้อยนิดที่เกิดขึ้นเพราะพระราชหฤทัยห่วงใยราษฎรไทย โดยเฉพาะเยาวชนที่จะต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่และเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต แต่ถึงแม้พระองค์จะทรงสนับสนุนให้สร้างโรงเรียนและสร้างโอกาสดังที่ทรงทำแล้วนั้น ยังมีเยาวชนจำนวนมากในพื้นที่ห่างไกลความเจริญที่ด้อยโอกาสทางการศึกษา
    สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์พระบรมราชินีนาถนั้น มีพระราชหฤทัยห่วงใยเรื่องการศึกษาของเยาวชนเช่นกัน รวมไปถึงทรงมีพระราชประสงค์ให้พระพุทธศาสนามีความเข้มแข็ง ดังกระแสพระราชดำรัสที่พระราชทานแก่ข้าราชการทุกหมู่เหล่า รวมทั้งคณะผู้เข้าเฝ้าฯ รับเสด็จฯ เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๐ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ความตอนหนึ่งว่า


    “เพราะว่าคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนา นั้นเป็นเสมือนแสงสว่างให้แก่ผู้ที่นับถือ และนำไปใช้จึงควรที่จะต้องสร้างให้พระพุทธศาสนามีความมั่นคง”


    ดังนั้น หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ฯพณฯองคมนตรี และบุคคลที่เกี่ยวข้องจึงร่วมกันจัดตั้ง “มูลนิธิเผยแผ่ศาสนาและพัฒนาคุณภาพชีวิต” ขึ้น โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ นักเรียน เยาวชน ประชาชน ชาวไทยภูเขา ตามแนวตะเข็บชายแดน ชายขอบ และพื้นที่ตามชนบท ที่ขาดโอกาส ห่างไกลความเจริญ หรือพื้นที่ที่มีปัญหาทั่วประเทศ วัตถุประสงค์ คือ เพื่อเผยแผ่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ปลูกฝัง ศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม และความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้เกิดขึ้น ภายในจิตใจของเยาวชนในกลุ่มเป้าหมาย
    วัตถุประสงค์อีกประการหนึ่งคือ เพื่อสร้างความมั่นคงตามแนวตะเข็บชายแดนให้กับพี่น้องชาวไทย ชาวไทยภูเขา และเยาวชนทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย เพื่อให้เยาวชนรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถิ่น และรู้จักพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเองให้ดีงามยิ่งขึ้น สามารถนำหลักธรรมทางพุทธศาสนาไปใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการติดยาเสพติด โรคเอดส์ และอาชญากรรม


    [​IMG]


    นายสมาน คุณากรไพบูลย์สิริ เลขาธิการมูลนิธิเผยแผ่ศาสนาและพัฒนาคุณภาพชีวิต เปิดเผยว่า มูลนิธิเผยแผ่ศาสนาฯ ได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กระทรวงวัฒนธรรม กรมการศาสนา สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กรมศิลปากร องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) มูลนิธิรามาธิบดี และหน่วยงานเอกชนจัดโครงการเผยแผ่ศาสนาและพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อนำองค์ความรู้ของแต่ละหน่วยงานไปจัดแสดงให้เยาวชนในพื้นที่ได้ศึกษา เพื่อนำสู่การหล่อหลอมซึมซับสู่จิตใจ นำสู่การเป็นเครื่องมือในการดำเนินชีวิต


    เลขาธิการมูลนิธิเผยแผ่ศาสนาฯ กล่าวต่อว่า การจัดงานในแต่ละครั้งจะมีระยะเวลา 4 วัน จัดขึ้นปีละ 5 ครั้ง เนื่องจากการจัดงานแต่ละครั้งต้องใช้เวลาเตรียมการ 2 เดือน เพราะต้องประสานงานกันหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน สำหรับกิจกรรมภายในโครงการจะมีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม ภูมิปัญญาชาวบ้าน รวมไปถึงการให้ความรู้ด้านเพศศึกษา ตามจุดประสงค์ของโครงการ

    “จากการดำเนินงานที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่าเด็กได้เรียนรู้ เพราะพื้นที่ที่เราไปทำนั้น เป็นพื้นที่อยู่ห่างไกลความเจริญ ซึ่งพวกเขาเป็นเด็กชายขอบจริงๆ เป็นเด็กที่ด้อยโอกาส ไม่มีโอกาสเท่ากับเด็กในเมือง เพราะฐานะทางครอบครัวก็ไม่ดี ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เราสามารถนำไปปลูกฝังเด็กเหล่านี้ได้คือ เรื่องของศาสนา ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นของตัวเอง ถ้าเราสอนเด็กให้รู้จักวัฒนธรรมของตัวเอง หรือรักถิ่นฐานของตัวเอง โดยมีเรื่องของศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็จะทำให้เด็กไม่กล้าออกไปไกล เพราะจะคำนึงถึงความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ ทำให้เด็กเหล่านี้รักถิ่นฐานของตัวเองมากขึ้น” นายสมาน กล่าว


    ด้านศาสตราจารย์แพทย์หญิง สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์ รองประธานบริหารมูลนิธิรามาธิบดี ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า คณะแพทยศาสตร์รามาธิบดี และมูลนิธิรามาธิบดีฯ เปิดเผยว่า คณะแพทย์ศาสตร์รามาธิบดี และมูลนิธิรามาธิบดีฯ มีการดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหาของเด็กวัยรุ่นในเรื่องของการแก้ปัญหาเพศสัมพันธ์ การตั้งครรภ์ การทำแท้ง รวมไปถึงปัญหาโรคเอดส์ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเดียวกันกับเด็กที่เข้าอบรมในโครงการเผยแพร่ศาสนาและพัฒนาคุณภาพชีวิต เมื่อได้รับคำเชิญชวนจากคุณสมาน จึงเข้าร่วมโครงการดังกล่าว โดยเพิ่มการให้เข้าความรู้ในการแก้ปัญหาโรคอ้วน ปัญหาการติดเกมด้วย

    เนื่องจากการดำเนินงานในส่วนนี้อยู่นอกงบปกติ ดังนั้น มูลนิธิรามาธิบดีจึงเห็นความสำคัญ และให้เงินสนับสนุนงบประมาณ ให้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางเวลาที่เราจะออกไปทำกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆ

    “เด็กในปัจจุบันมีความเข้าใจเกี่ยวกับเพศศึกษาไม่ถูกต้อง และไม่รู้จักวิธีคุมกำเนิด เนื่องจากไม่ได้รับการสอนที่ถูกวิธี ดังนั้น มูลนิธิรามาจึงจะเข้าไปให้ความรู้ด้านเพศศึกษาแก่เด็ก เพื่อให้เขามีความเข้าใจที่ถูกต้อง และรู้จักวิธีคุมกำเนิด และการป้องกันการติดโรคเอดส์ โดยการใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งจะทำให้เด็กได้รับความรู้ที่ถูกต้องและนำไปปฏิบัติ ” รองประธานบริหารมูลนิธิรามา
    ธิบดีฯ กล่าว


    [​IMG]


    สำหรับกำหนดการจัดโครงการที่เหลือภายในปี 2553 มี 2 ครั้ง คือ วันที่ 16-19 พ.ย. 2553 จัดโครงการภายในพื้นที่ จ. ลพบุรี วันที่ 14-17 ธ.ค. 2553 จัดโครงการภายในพื้นที่ จ. เชียงใหม่ ส่วนกำหนดการภายในปี 2554 มีการกำหนดเดือนและจังหวัดที่จะจัดโครงการคือ เดือนมกราคม จัดโครงการในพื้นที่ จ. กาญจนบุรี เดือนกุมภาพันธ์ จัดโครงการในพื้นที่ จ. เพชรบุรี เดือนมิถุนายน จัดโครงการในพื้นที่ จ. พิษณุโลก เดือนพฤศจิกายน จัดโครงการในพื้นที่ จ. หนองคาย และเดือนธันวาคม จัดโครงการในพื้นที่ จ. แม่ฮ่องสอน ตามลำดับ

    ประเทศไทยนั้นยังต้องการคนที่ทำงานเพื่อสังคมอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งถึงว่าเป็นการสนองพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

    นายสมาน กล่าวถึงความรู้สึกในการปฏิบัติงานว่า “เราได้มีโอกาสถวายงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท ส่วนตัวผมเองที่เราทำงานมาถึงวันนี้ ผมคิดว่าเราเกิดมาในประเทศไทย ถ้าเรามีโอกาส เราจะต้องรับใช้ประเทศชาติ สร้างเยาวชนให้แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการศึกษา สิ่งแวดล้อมและสิ่งที่ดีๆ เราควรจะทำเพราะถือเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะคนเราจริงๆ แล้ว ในขณะที่เรามีกำลังอยู่เราก็ควรจะทำจะได้ไม่เสียโอกาส ถ้าถามว่าเหนื่อยไหม ผมก็จะตอบว่าเหนื่อยมากเลย เพราะผมจะต้องไปถึงงานก่อนหนึ่งวัน และต้องไปประสานงานให้แต่ละหน่วยงานที่มีปัญหา แต่เมื่อนึกถึงภาพเด็กเราก็มีกำลังใจในการทำงาน และอีกสิ่งหนึ่งคือ เราถือว่าเราได้รับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นี้เป็นกำลังใจของเรา ในการทำงานทุกครั้ง”


    ด้านศาสตราจารย์แพทย์หญิงสุวรรณา กล่าวเสริมอีกว่า “รู้สึกทราบซึ้ง เพราะเรารู้สึกว่าเราได้ทำประโยชน์ให้แก่สังคม ถึงแม้เราจะรู้สึกเหนื่อย แต่เมื่อเราได้ดูข่าวในพระราชสำนัก หรือว่าได้ดูหนังเกี่ยวกับการทรงงานของพระองค์ท่าน เราก็จะทราบว่าสิ่งที่เราทำนั้นมันน้อยนิด เมื่อเทียบกับสิ่งที่พระองค์ท่านได้ทำให้กับแผ่นดิน เพราะฉะนั้น ก็เป็นความภาคภูมิใจที่เราได้ทำงานให้กับแผ่นดิน และเป็นการถวายงานเพื่อพระองค์ท่าน ให้พระองค์ท่านได้เหนื่อยน้อยลง ถึงแม้จะเป็นส่วนเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เราภูมิใจในการเกิดมาเป็นคนไทยและได้ช่วยเหลือพี่น้องภายในประเทศ”


    การช่วยผ่อนพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถนั้น เยาวชนไทยสามารถทำได้โดยการตั้งใจศึกษาเล่าเรียน พึงกระทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ตั้งมั่นอยู่ในความดี เพื่อที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชีนีนาถ จะได้ทรงเบาพระราชหฤทัยในการห่วงใยอนาคตของชาติ หลังจากที่ทรงงานหนักมาโดยตลอดโดยตระหนักและสำนึกถึงคำกล่าวที่ว่า


    “เพราะพ่อเหนื่อย หนักหนา มามากแล้ว”


    ----------------------------
    [​IMG]
    Siamrath |
     
  2. ปู นครนายก

    ปู นครนายก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    357
    ค่าพลัง:
    +530
    “เพราะว่าคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนา นั้นเป็นเสมือนแสงสว่างให้แก่ผู้ที่นับถือ และนำไปใช้จึงควรที่จะต้องสร้างให้พระพุทธศาสนามีความมั่นคง”
    การช่วยผ่อนพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถนั้น เยาวชนไทยสามารถทำได้โดยการตั้งใจศึกษาเล่าเรียน พึงกระทำตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ตั้งมั่นอยู่ในความดี เพื่อที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชีนีนาถ จะได้ทรงเบาพระราชหฤทัยในการห่วงใยอนาคตของชาติ หลังจากที่ทรงงานหนักมาโดยตลอดโดยตระหนักและสำนึกถึงคำกล่าวที่ว่า


    “เพราะพ่อเหนื่อย หนักหนา มามากแล้ว”
    ขอบคุณที่แบ่งปันสิ่งดีๆให้แก่กันครับ ขอโมทนาสาธุ
     
  3. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260

    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p

    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา
    [​IMG]</O:p>
     
  4. pipat551

    pipat551 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +345

แชร์หน้านี้

Loading...