โรคแปลกที่ปรากฏในห้อง จิตวิทยาฯ

ที่มันยิบ ๆ ละเอียด ๆ เต็มไปหมดใช่หรือเปล่าค่ะ

 

........ครับ ...ถ้าเข้าใกล้ความเร็วแสงมากกว่านี้มาก ๆ คือ เข้าใกล้อุปจาระละเอียด...มันแทบจะเป็นแบบสโลว์โมชั่นให้เห็นเลยครับ ถ้าเห็น มันยิบ ๆ ละเอียด ๆ ก็ยังไม่ใกล้ความเร็วแสงเท่าไร ถ้าได้ อุปจาระละเอียด เมื่อไร คุุณก็จะได้เห็นสิ่งที่มากับ แสง ...... อะไรหรือ ......ก็ภาพไงล่ะครับ ...................จิตก็เริ่มเป็นทิพย์ ...จะเห็นภาพโน้นภาพนี่ ........ถ้าฝึกจนสามารถกำหนดมันได้ ก็กำหนดดู อดีต เค้าก็เรียกว่า ระลึกชาติ นั่นล่ะครับ .......เริ่มมีฤทธ์แล้วใช่ไหมครับ......นั่งฝึกไปเรื่อยเถอะครับ รู้ด้วยตัวเองนี่หนุกกว่าเยอะครับ คิ ๆๆๆๆ;welcome2ิฺ์

 

ขอบคุณค่า จริง ๆ แล้วเห็นมาตั้งนานแล้วน่ะค่ะแบบนี้ ยิบ ๆ นี่อะคะ นึกว่ามันปกติ อิอิ

ด้วยความเคารพ

;aa40

 

ขอยืนยันคำพูดข้างล่างนี้

 

ไหว เป็นไง( ไหว ออกไปรู้ เห็น เป็นหนึ่งกับสิ่งที่เห็น )

นิ่ง เป็นไง ( เป็นเอก )

เมื่อเป็นผู้เห็นสองสิ่งอย่างชัดเจน ... ไม่ติดสองข้าง ก็จะ......



ตอนนี้ทราบรายละเอียดตามลำดับ ก็ปล่อยไปตามปัจจัย แต่ไม่ไขว่คว้าให้เห็นอีก

ไม่ทะยานให้เห็นเพิ่ม

พอง-ยุบ

นิ่ง-ไหว

แล้วจะ....

 

เดวีก็เคยเป็นตอนเด็กๆ เห็นภาพยิบๆตลอด แล้วหูก็แว่วด้วย
ไปบอกผู้ใหญ่เขาก็เลยคิดว่าป่วย โดนจับส่งโรงพยาบาลศิริราช
ตรวจทั้งตา ทั้งหูเลย กลัวมาก กลัวโรงพยาบาลน่ะค่ะ
รักษากันอยู่พักใหญ่ ก็พยายามทำเป็นว่ามันหาย
เพราะไม่อยากไปโรงพยาบาลอีก เวลาเห็นหรือได้ยินอะไร
ก็จะเก็บไว้รู้อยู่คนเดียว ไม่กล้าพูด เพราะเข็ดโรงพยาบาลมาก
ตั้งแต่เด็กจนโตมาก็เลยเป็นคนเงียบๆไปเลย

 

ของอย่างนี้ไม่ต้องรีบร้อนรับถึงเวลาทุกอย่างมาเองครับ

 

สติ เยอะอย่างเดียว เป็นสมถะ ตัวนิ่ง ง่าย เป็นดาบสองคมได้ทีหลัง

อย่าลืม สัมปชัญญะ คือ การย้อนมาดูตัวรู้ แล้ววางทุกสิ่ง

เริ่มชีวิตใหม่ ทุกขณะ


กระบวนการสมถะวิปัสสนา จะครบวงจร ในชีวิตประจำวัน สั่งสมไปครับ


ทำดีแล้ว สาธุ สาธุ สาธุ

 

เข้าสู่ความว่าง ไม่มีตัวตน เงียบสนิท ไร้ขอบเขต ไม่มีรูปลักษณ์ เป็นสีขาวสว่าง กว้างกระจาย ใจนี้เงียบสนิท ใช่หรือเปล่าคะ

ด้วยความเคารพ

 

โชคดีที่ไหวตัวทัน หากโวยวาย ยืนยันในสิ่งที่สัมผัสได้
รับรองได้ว่า ......
ไม่อยากบอก .....ว่าเขาทำอะไรกับเรามั่ง

อยากรู้ถามสันโดษนะเอย

เรื่อง Bipolar Disoder ยังไม่ได้เข้าเรื่องเลย ที่เล่าๆกันตอนนี้เป็นเพียง ออเดิฟ เรียกน้ำย่อยเท่านั้น
รอสักพักนะติดงานอยู่

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


ยกจิตเหนือว่างอีกที หรือ


นิ่ง ไหว กับสภาวะ ว่างแบบที่คุณบอกอีกที


แล้วจะ......

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


อย่าติดตำรา และ ครู

สิ่งที่ผมบอก ผมใช้ ค่อนข้างฉีกตำรา แต่ผลที่ได้มาสามารถเทียบเคียงกับพระไตรได้



สิ่งที่บอกให้เมื่อโพสที่ผ่านมา # 113 ไม่ใช่การใช้สมาธิลึก

แต่ เป็นการรวมตัวของสมถะ และวิปัสสนาแล้ว ไม่มีลึก ไม่มีตื้น ไม่ต้องเข้า ไม่ต้องออก

เป็นการเอาความหนา หนัก เหนียว ของสันมีด (สมถะ )

มารวมกับสติสัมปชัญญะ ที่ถี่สูง แหลมคม ดั่ง คมของมีด ( วิปัสสนา )

เพื่อ ตัดขาด ในบางสิ่ง....ที่คุณเกรง ไมกระจ่าง ฯลฯ




ตราบใดยังมี เจตนา อฐิษฐาน....

ยังไม่ใช่ สภาวะ ไร้การปรุงแต่ง


เพราะยังมีเจตนา


ยังมีการทวนด้วยสัญญา...



นำโพสท่อนนี้ ไปพิจารณาดีๆ



...ผู้ทาน ผู้ดื่ม คือ คุณเอง

 

กินก็รู้

 

ขออนุญาตินำโพสเหล่านี้มาไว้ที่นี่
เพราะสิ่งนี้จะเป็น คีเวอร์ด ในการบันเทาและรักษา โรค Bipolar Disorer

<TABLE class=tborder id=post1615683 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>สันโดษ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1615683", true); </SCRIPT>
ผู้ร่วมสนับสนุนบริจาค



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 08:25 AM
วันที่สมัคร: Oct 2007
ข้อความ: 5,120
ได้ให้อนุโมทนา: 18,774
ได้รับอนุโมทนา 43,866 ครั้ง ใน 6,731 โพส
<IF condition="">
</IF>พลังการให้คะแนน: 601



</TD><TD class=alt1 id=td_post_1615683 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->การที่เข้าไปในโลกเเห่งจิต หรือ โลกเเห่งวิญญาณ

ถ้าขาด สติ คุณก็จะเชื่อ วิญญาณมากจนปฏิเสธโลกภายนอก

จริงๆ เเล้วมนุษย์ทุกคน อยู่ระหว่าง สองโลก คือ โลกที่พวกเราอยู่ หรือ โลกมนุษย์

กับโลกเเห่งจินตนาการ หรือ โลกเเห่งความคิด

มนุษย์ ไม่สามารถรับรู้เเละยอมรับ โลกทั้งสอง ในเเบบเป็น กลาง

จึงทำให้ มนุษย์ ไม่เข้าใจคนบ้า และ คนบ้า ปฏิเสธ ที่จะเชื่อมนุษย์

ทั้งๆที่ โลก ทั้งสอง เเห่ง ก็ คือ โลกคู่ขนาน ที่ทำงาน ควบคู่ กันมาโดยตลอด

หากขาด ซึ่งสิ่งใด สิ่งนึง ความสมบูรณ์แบบ จะไม่มี

การทำตัวเป็น น้ำ เเละ เข้าใจปัจจุบัน ของ สถานะตัวเอง จึงเป็น ทางออกเเห่งปัญญา

เมื่อใดที่อยู่กับมนุษย์ ก็จง มีสมาธิเเละ เป็น มนุษย์ ด้วยความตั้งใจเป็น

เมื่อใดที่อยู่กับวิญญาณ ก็จง ตั้งใจ ฟัง ด้วยสติเเละเปิดรับ โดยไม่มีอคติ

เหมือนกับเพื่อนเราที่ต้องการ ขอคำปรึกษา และ ให้คำปรึกษา

เเล้วคุณจะรอดพ้นจากการ ถูกปฏิเสธของโลกทั้งสองใบ

การทำตัวเป็นน้ำเเละยอมรับตัวเอง รักตัวเองให้มากๆ เคารพทุกสิ่ง เหมือนเป็นตนเอง

เเล้ว จิตจะประสาน เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบ ที่รู้ว่า โลกเเห่งวิญญาณ มีจริง ก็เพียงพอ

โดยการประนีประนอมว่า นี้ คือ ตัวตนของเราที่เเท้จริง

ทีนี้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็มีเเต่คนรักไม่ว่าจะ มนุษย์ หรือ วิญญาณ


ความลับบางเรื่อง บางที มันก็เหมาะที่จะเป็นเพียงเเค่ ความลับ ตลอดไป นะเอย นะเอย

</TD></TR></TBODY></TABLE>


<TABLE class=tborder id=post1615759 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>suwi<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1615759", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 08:24 AM
วันที่สมัคร: Jun 2007
อายุ: 57
ข้อความ: 643
ได้ให้อนุโมทนา: 48
ได้รับอนุโมทนา 8,701 ครั้ง ใน 680 โพส
<IF condition="">
</IF>พลังการให้คะแนน: 257



</TD><TD class=alt1 id=td_post_1615759 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->สุดยอดจะ

คีเวอร์ด อยู่ที่
สติ(รู้) ๑
และสัมปชัญญะ (ควบคุม) อีก ๑

บริหารพี่น้องฝาแฝดคู่นี้ให้ดี
บางครั้งให้สติรู้ อยู่ล้ำหน้าครึ่งก้าว
และในบางงานให้สัมปชัญญะ อยูล้ำหน้าครึ่งก้าวแทน

สุดยอดจริงๆ ข้าน้อยขอคารวะ

แต่จะทำอย่างไรให้ผู้ประสพปัญหาอยู่ ได้เข้าใจในสิ่งที่สันโดษกล่าว
จะได้อยู่รอดจากเภทภัยที่กำลังประสพอยู่

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วิธีแก้ คือ ต้องสอนธรรมะเขาให้เข้าใจ คะ เเนะนำ คำสอนของหลวงพ่อปราโมทย์

เพราะเข้าใจง่ายมากๆคะ ทำให้สันโดษ รู้ว่า จิตไม่มีตัวตน แต่ พวกเขาอยู่ในร่างเรา แต่ไม่ใช่เรา

อีกวิธีนึง ก็คือ การให้ พวกเขา อยู่ในที่เสียงดัง และ อยู่กับคนเยอะๆ

ให้เขาพูด ให้พอ เเละ ให้บอกพวกเขาว่า เชื่อเขา ที่สำคัญ สอนเขาให้อยู่กับปัจจุบัน ให้ได้

สอนให้เขา มีสติอยู่กับปัจจุบัน เเล้ว จิต จะ กลับมารวมตัวเหมือนเดิมเองคะ


เพียงเเต่ จิตไม่รู้ว่าพวกเขาไม่มีตัวตน เขาเลย หาคำตอบเองไม่ได้คะ

เจ้าของร่างก็ ไม่สอนตนเองเพราะ ยังไม่ว่างจริงคะ

จิตผู้รู้ ก็ ต้องไม่มีด้วยคะ ต้องไม่มีอะไรเลย เเล้ว จิตจะกลับมาอยู่กับปัจจุบันเองคะ<!-- / message --><!-- sig -->

 

งั้น deejaimark ก็อยู่ในเกณท์ดี นะเอย นะเอย........อิ อิ อิ อิ......(ขอเข้าข้างตัวเองหน่อยนะคะ)

 

ถ้ารู้สึกว่า เริ่มเคลียดแล้ว ก็แวะไปที่ห้องนี้นะคะ ไปคลายเคลียดสักพัก แล้วค่อยกลับมาใหม่คะ
http://palungjit.org/showthread.php?t=170804

 

พระพุทธองค์ตรัสแก่พระอานนท์ ว่า

อานนท์ การแสดงธรรมแก่ผู้อื่น ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย

อานนท์ ผู้แสดง ( พระธรรมกถึก ) ก่อนแสดงธรรม พึงตั้งธรรม ๕ อย่างไว้ในตน แล้วจึงแสดง คือ

๑. จักแสดงธรรมตามลำดับ ไม่ตัดวรรคถ้อยความ
๒. จักแสดงโดยปริยาย อ้างเหตุผลให้ผู้ฟังเข้าใจ
๓. จักอาศัยความเอ็นดูแสดงธรรม ( มีความเมตตาปรารถนาดีต่อผู้ฟัง )
๔. จักไม่เห็นแก่อามิส ( หวังอยากได้ลาภผล )
๕. จักไม่กล่าวคำที่กระทบตนและผู้อื่น ( ไม่ยกตนข่มท่าน หรือใช้คำเสียดสี )


ดังนั้นผู้ที่จะให้ธรรมทานพึงตั้งอยู่ในองค์คุณดังกล่าวมานี้ จะยังประโยชน์ใหญ่ อานิสงส์ยิ่งใหญ่ให้
เกิดขึ้นกับผู้แสดงธรรมได้อย่างเต็มที่ ทำให้ผู้แสดงธรรมได้บุญกุศลมหาศาล ดังพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัส
สรรเสริญว่า " บุคคลให้ธรรมเป็นทาน โดยไม่ปรารถนาลาภสักการะ ย่อมมีอานิสงส์ประมาณมิได้ "

ooooooooooooooooooo

 

เหอๆ...แล้วเวลาที่ โดนเข็มตำมือ.......แล้วมันก็ดูอยู่ตั้งแต่ ตอนที่เข็ม...
เริ่มทิ่มลงในเนื้ออ่างับ....แล้วมันก็จิ้มๆๆๆๆ มันลึกลงไปเรื่อยๆอ่า....
แล้วมันก็รู้ว่า เข็มกำลังทิ่มนิ้วมือ.....มันก็รู้ตัว...มันก็คิดว่า ให้ดึงเข็มออก....
แล้วมืออีกมือก็รับคำสั่ง...ให้นิ้ว จับเข็มอันนั้น แล้ว ออกแรงดึงขึ้น.....
พอออกแรงดึงขึ้น เข็มก็ค่อยๆ ปลิวออกจากนิ้ว แบบว่า ยังรู้สึกตัว...
ว่าเข็มกำลังจะออกจากนิ้วแล้ว......รพอเข็มออกจากนิ้วปุ๊บ.....มันก็โล่งๆๆๆ
พอดูๆ ไปอีกแป๊บนึง นิ้วที่โดนเข็มเล่มนั้นทิ่มเอา ก็ เริ่มเจ็บ.....แล้วพวกเราก็นั่งดูต่อไป...
5555+......ทุกอย่างนี้มันเกิดขึ้น ภายในเวลาไม่เกิน วินาทีเองง่า.....*-*....

 

ใช่ ใช่ ใช่ เป็นเหมือนกันค่ะ แรกๆที่เห็นจิตก็เอ่ย เอ๊ะ อะไร จากนั้นก็ปรุงแต่ง ผีหรือเปล่า พักหลังที่เห็นก็พยายาม อ๋อเห็น ให้หยุดอยู่แค่เห็น มันเห็นไม่เหมือนเห็นค่ะ เป็นการเห็นจากหางตา บางครั้งหลับตาเห็น ลืมตามองไม่เห็น เล่าให้ใครฟังก็จะกลายเป็น ตาฝาด หลอกตัวเอง คิดมาก