โรงพยาบาลพระพุทธเจ้า สร้างสัมพันธ์แดนพุทธภูมิ

“ไปไหว้พระที่อินเดียไปไม่ยาก ถ้าอยากไป”

เป็นคำกล่าวของ พระธรรมโพธิวงศ์ (วีรยุทฺโธ) หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย-เนปาล เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา รัฐพิหาร สาธารณรัฐอินเดีย สามารถสัมผัสได้อย่างเป็นรูปธรรม เมื่อท่านได้เดินทางเข้าสู่การแสวงบุญบนแผ่นดินพุทธภูมิ

กับคำถามที่ว่า “สร้างวัดไทยทำไมที่อินเดีย” คำตอบจากพระธรรมโพธิวงศ์ฯ คือ นำความเจริญเฉกเช่นวัดในประเทศไทยไปไว้ที่อินเดีย เพื่อเป็นเครื่องบูชาต่อองค์พระศาสดา


พระศรีโพธิวิเทศ เจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินี-เนปาล ต้อนรับชาวเนปาลผู้ป่วยเป็นโรคต้อกระจก ที่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ และมาขอบคุณ.

การสร้างวัดไทยเท่ากับเป็นการเผยแพร่วิถีพุทธในประเทศไทยที่มีทั้งสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม รวมถึงกิจวัตรของสงฆ์ ฯลฯ ไปสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยใช้ศาสนาเป็นสื่อเชื่อมความเข้าใจซึ่งกันและกัน

“ส่งผลให้วันนี้บนเส้นทางของการแสวงบุญในทุกจุดของการเชื่อมต่อเพื่อมุ่งหน้าสู่สังเวชนียสถาน 4 ตำบล นอกจากทางการของอินเดียจะเร่งสร้าง เร่งปรับปรุงเส้นทาง เพื่อรองรับแล้ว

พระธรรมทูตไทยยังผนึกกำลังกันต่อสู้กับความยากลำบากที่เป็นความกังวลของผู้ที่ไปแสวงบุญให้ลดน้อยลงมากที่สุด จะเหลือไว้ก็เพียงแค่มนต์เสน่ห์ของความเป็นอินเดีย ให้ได้พบเจอะเจอเท่านั้น”

โดยเฉพาะวัดไทยทุกวัดได้มีการปรับตัวกันอย่างต่อเนื่องทั้งห้องพัก อาหารไทย ห้องสุขา ถูกจัดสร้างไว้ตลอดทุกเส้นทาง ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องแวะเข้าพงหญ้าข้างทางในการปลดทุกข์ เช่นอดีตที่เคยกลัวกัน

อีกหนึ่งความสำคัญคือการสร้าง “โรงพยาบาลพระพุทธเจ้า” ขึ้นจำนวน 3 แห่ง เพื่อดูแลสุขภาพของผู้แสวงบุญ โดยแห่งแรกที่วัดไทยพุทธคยา แผ่นดินแห่งการตรัสรู้ แห่งที่ 2 ที่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ แผ่นดินแห่งการปรินิพพาน และแห่งที่ 3 ที่วัดไทยลุมพินี เนปาล แผ่นดินแห่งการประสูติ


คณะแพทย์อาสาจาก รพ.มะเร็งลพบุรี ให้การตรวจรักษาชาวอินเดีย ซึ่งมารับการตรวจอย่างแน่น ที่ รพ.พระพุทธเจ้า วัดไทยพุทธคยา.

โรงพยาบาลพระพุทธเจ้าทั้ง 3 แห่งเปิดให้บริการรักษาทั้งผู้แสวงบุญชาวไทย พระภิกษุ สามเณรที่อาพาธ “ฟรี” รวมทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วย

สำหรับชาวอินเดียและเนปาล จะเข้าโครงการ 8 รูปี (4 บาทไทยโดยประมาณ) รักษาทุกโรค เหตุที่กำหนดไว้ 8 รูปีซึ่งน้อยนิดมาก เพราะต้องการให้ชาวอินเดีย-เนปาล ได้รู้จักการให้ควบคู่ไปกับการรับ แต่หากคนเหล่านั้นไม่มีเงินจริงๆ พระธรรมทูตไทยจะเป็นผู้ออกค่ารักษาพยาบาลให้แทน

ทุกโรงพยาบาลจะมีทีมแพทย์อาสา ทีมพยาบาลอาสาและทีมเภสัชกรอาสา จากโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ ที่กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข จัดส่งไปผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกัน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลแสวงบุญระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนมีนาคมของทุกปี

ที่โรงพยาบาลพระพุทธเจ้า วัดไทยพุทธคยา ช่วงนี้มีทีมแพทย์จากโรงพยาบาลมะเร็งลพบุรีไปประจำอยู่ ประกอบด้วย พญ.อนัญญา ก้อนทอง นางยุพา ศรัณยูเศรษฐ นางจันทวรรณ พุทธเจตน์ พยาบาลวิชาชีพ และ ภกญ.อรนุช แจ่มดี

“การได้ไปเป็นจิตอาสาบนแผ่นดินพุทธภูมิ ได้มาช่วยเหลือพระภิกษุ สามเณร ผู้แสวงบุญและชาวอินเดียผู้ยากไร้ที่ประสบปัญหาการเจ็บป่วย ได้เห็นสัจธรรมทุกอย่างบนโลกใบนี้ที่เป็นไปตามคำสอนของพระพุทธองค์ และได้ปฏิบัติธรรมทุกวันด้วย” พญ.อนัญญากล่าว

ส่วนโรงพยาบาลพระพุทธเจ้าที่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เป็นไปตามพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นอาคาร 2 ชั้น ตั้งอยู่หน้าวัด โดยชั้นล่างร่วมกับคณะแพทย์ของอินเดียให้บริการตรวจรักษาชาวอินเดีย ในราคาครั้งละ 8 รูปี ก่อนจะปรับเป็น 12 รูปี (6 บาทไทย) ในปีนี้ ส่วนชั้น 2 เปิดให้การรักษาชาวไทย พระภิกษุ และผู้แสวงบุญชาวไทยฟรี


ชาวเนปาลที่ได้รับการผ่าตัดจากคณะแพทย์ไทยและเนปาล มานั่งรอการตรวจและเปิดผ้าปิดตา ที่สนามของวัดไทยลุมพินี.

ปัจจุบันมีคณะแพทย์จากโรงพยาบาลศูนย์มะเร็งลำปางประจำอยู่ และยังหมุนเวียนกันไปตรวจรักษาที่สถานพยาบาล สาขาวัดไทยนวราชรัตนราม 960 ด้วย ได้แก่ พญ.สิริกุล ศรฤทธิ์ชิงชัย, น.ส.จิตสุภา ทายะ, น.ส.ธนัฏฐา ต๊ะนางอย พยาบาล และ ภกญ.เกียรติสุดา ประเสริฐวัฒน์

ล่าสุด ณเดชน์ คูกิมิยะ นักแสดงชื่อดัง และ นางสุดารัตน์ คูกิมิยะ ได้ไปบริจาคสร้างห้องพยาบาล 1 ห้อง พร้อมอุปกรณ์ประจำห้องที่สาขาวัดไทยเฉลิมราชย์ และรวบรวมเงินจากญาติโยมได้ 1 ล้านบาท ถวาย พระครูนรนาถเจติยาภิรักษ์ (สมพงศ์) รักษาการเจ้าอาวาส เพื่อใช้ในกิจการสถานพยาบาลอีกด้วย

โรงพยาบาลพระพุทธเจ้า ที่วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล มี พระศรี-โพธิวิเทศ (สุพจน์ กิตฺตวณโณ) เจ้าอาวาส เป็นผู้ดูแลร่วมกับคณะแพทย์โรงพยาบาลเอกชนของอินเดีย และคณะแพทย์จากประเทศไทย ให้การรักษาชาวอินเดียและผู้แสวงบุญ

โดยจัดโครงการผ่าตัดต้อกระจกฟรีให้กับชาวเนปาลซึ่งเป็นกันมาก และทำต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว ทำให้ชาวเนปาลมีความรู้สึกที่ดีต่อพระสงฆ์ไทย แพทย์ไทยและชาวไทย

นายสุจินต์ อ่อนหนู ประธานบริษัทเอ็นซี ฮอลลิเดย์ทัวร์ ผู้ช่ำชองอินเดีย-เนปาล กล่าวว่า จัดทัวร์นำชาวพุทธไปแสวงบุญที่อินเดีย-เนปาล ตั้งแต่ยุคบุกเบิกมาจนถึงปัจจุบัน ได้เห็นการพัฒนาในทุกด้านเพื่อรองรับการแสวงบุญและการช่วยเหลือชุมชนในพื้นที่มากมาย จากผลงานของพระธรรมทูตไทย

ทุกวันนี้ใครที่ไปแสวงบุญอินเดีย-เนปาล ไม่ต้องกังวลใจอะไรอีกแล้ว การได้ไปแสวงบุญในดินแดนพุทธภูมิ นอกจากได้ร่วมกันทำนุบำรุงวัดแล้ว ยังได้ร่วมกันสร้างโรงพยาบาลพระพุทธเจ้าอีกด้วย ถือเป็นการทำบุญต่อบุญ…สาธุ.

ขอขอบคุณที่มา
https://www.thairath.co.th/content/1498970