โลกวิปริต สัตว์วิปลาส

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9490000147329


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>มท.สั่ง 4 หน่วยงานหลักรวบรวมข้อเสนอ-แนวทางรับมือสึนามิ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 พฤศจิกายน 2549 16:17 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> นายสาโรช คัชมาตย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จัดทำความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาระบบเตือนภัย เผชิญภัย และหลบภัย กรณีธรณีพิบัติภัยสึนามิ

โดยในส่วนของกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ 4 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กรมการปกครอง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมโยธาธิการและผังเมือง และจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยสึนามิ 6 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา สตูล ตรัง และระนอง ร่วมกันจัดทำความเห็นทั้งในด้านข้อเสนอทางนโยบายและแนวทางมาตรการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีให้พิจารณาต่อไป



http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9490000147346


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ตะลึง!!! ฝูงหมูรุมขย้ำกินเด็กทั้งเป็น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 พฤศจิกายน 2549 16:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> หนังสือพิมพ์ฮินดูสถานไทมส์ในอินเดีย รายงานว่า เด็กชายวัยเพียง 3 ขวบ ถูกฝูงหมูรุมขย้ำกินทั้งเป็นในหมู่บ้านแห่งหนึ่งชานกรุงนิวเดลีของอินเดีย

ลุงของเด็กเคราะห์ร้าย เล่าว่า ทุกคนกำลังนั่งรับประทานอาหารกลางวันอยู่ในบ้าน โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นว่า หนูน้อยอาเจย์ วัย 3 ขวบ เดินออกไปนอกบ้าน จนกระทั่งแม่ของเด็กสังเกตเห็นฝูงหมูเคี้ยวอะไรบางอย่าง จึงเริ่มส่งเสียงกรีดร้องออกมา พร้อมขว้างก้อนหินเข้าใส่หมู และพบเศษเสื้อผ้าของลูกชายในบริเวณนั้น

ด้านพ่อของเด็กชายกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ลูกของเขาคงเจ็บปวดและทรมานมากก่อนตาย โดยพบแต่เพียงชิ้นส่วนอวัยวะของเด็กน้อยที่หลงเหลืออยู่เท่านั้น

ตำรวจอินเดียลงบันทึกว่า เจ้าของหมูมีความผิดฐานประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ทั้งนี้ ชาวบ้านในกรุงนิวเดลีมักเลี้ยงหมู ควาย และแพะ ไว้ใกล้ๆ บ้าน


http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9490000146345


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ลิงสาวสิงห์อมควัน อัดบุหรี่แก้รักคุด</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 พฤศจิกายน 2549 13:02 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

ซินหัวเน็ต

 

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9490000147400


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อนาคตฤดูหนาวโบกมือลาคนกรุงฯ เหตุภาวะโลกร้อน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 พฤศจิกายน 2549 17:39 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> ผู้เชี่ยวชาญชี้ชัดแนวโน้ม กทม.จะไม่มีฤดูหนาว ผลจากภาวะโลกร้อนสร้างปรากฏการณ์โดมความร้อนของเมือง ส่งผลอุณหภูมิอุ่นขึ้น 2 องศา ส่วนทุกภาคก็ไม่แพ้ ฤดูหนาวสั้นลง รวมทั้งได้รับผลจากปรากฏการณ์เอลนิโญ ชี้จับตาพายุไต้ฝุ่น “ทุเรียน” หวั่นซ้ำรอยลินดา

รศ.ดร.จริยา บุญญวัฒน์ ผู้ประสานงานศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (START) กล่าวถึงผลการเปลี่ยนแปลงของโลกกับประเทศไทยในเวทีการสัมมนา 1 ทศวรรษ การวิจัยการเปลี่ยนแปลงของโลกในประเทศไทยว่า

ขณะนี้มีแนวโน้มค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าในอนาคตกรุงเทพฯ จะไม่มีฤดูหนาวอีกต่อไป

ซึ่งเรื่องนี้ศูนย์เคยศึกษาผลของการเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินและสิ่งปกคลุมที่เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเมื่อหลายปีก่อน มีข้อสรุปว่าการขยายตัวของชุมชนในเขต กทม. เป็นไปอย่างรวดเร็วในช่วง 40 ปี (พ.ศ.2499-2540) ทำให้เกิดภาวะ Urban Heat Island หรือโดมความร้อนของเมือง ซึ่งเป็นมลภาวะทางความร้อนและการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศในเขตชุมชน กทม.

"การวิจัยพบว่า กทม.เกิดโดมความร้อนหรือปรากฏการณ์อุณหภูมิในเมืองสูงกว่าชานเมืองของ กทม. มีลักษณะคล้ายโตเกียวคือมีอุณหภูมิระดับพื้นดินในเมืองสูงกว่าเขตชนบท ค่าสูงสุด 5 องศาเซลเซียส ส่วน กทม. โดยเฉลี่ยอุณหภูมิในบรรยากาศแนวดิ่งที่วัดด้วยเครื่องมือที่ติดกับบอลลูนที่ระดับความสูง 100 เมตร พบว่าอุณหภูมิเหนือ กทม. สูงกว่านอกเมือง 2 องศา เนื่องจากสิ่งปกคลุมดินที่เป็นต้นไม้ สนามหญ้า และพื้นที่คูคลองลดลงกลายเป็นตึกสูงและถนน

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมค่าอุณหภูมิเฉลี่ยของแต่ละภาคยังพบว่าในภาคเหนือที่เคยหนาวมากจนอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 10 องศา อาจจะเหลือหนาวสุดแค่ 11-15 องศา เท่านั้น ทั้งนี้ เพราะโซนภาคเหนือขึ้นไป เช่น จีน อินเดีย เวียดนาม มีการพัฒนาเมืองและทำให้เกิดมลภาวะมากขึ้น ขณะที่ภาคกลางที่หนาวสุดน่าจะอยู่ที่ประมาณ 25 องศา และจะมีหน้าร้อนยาวนานขึ้นและหน้าหนาวสั้นลง” รศ.ดร.จริยา กล่าว

นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า จากกรณีที่คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าในปีนี้อากาศร้อนมากและไม่หนาวเหมือนปีที่ผ่านมานั้น เป็นผลโดยตรงจากภาวะโลกร้อน

โดยขณะนี้ประเทศไทยได้เข้าสู่ปีเอลนิโญแล้วและจะยาวนานไปจนถึงปลายปี 2550 โดยปรากฎการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดความแห้งแล้งและร้อน ซึ่งถือว่าตรงข้ามกับปี 2549 ที่เป็นปีลานีญาจะมีฝนชุกและมีอุทกภัย

นายอานนท์ กล่าวต่อว่าในปลายสัปดาห์นี้ต้องจับตาว่าพายุโซนร้อนทุเรียนที่กำลังจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์สู่ทะเลจีนใต้ตอนกลาง และจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามจะส่งผลกระทบกับประเทศไทยมากน้อยแค่ไหน เพราะส่วนใหญ่ถ้าเป็นพายุปลายฤดูฝนเข้าฤดูหนาวก็ค่อนข้างน่าเป็นห่วงและควรต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมความพร้อมและเตือนภัยชาวบ้านในเขตพื้นที่เสี่ยง เพราะไม่แน่ว่าพายุอาจจะรุนแรงเหมือนกับพายุลินดา ที่เคยสร้างเกิดความเสียหายอย่างหนักเมื่อช่วงปี 2540 ในพื้นที่ภาคใต้มาแล้วหรือไม่


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ง่า แบบนี้จะไปเรียนที่กรุงเทพดีมั๊ยเนี่ย (แต่ว่ายังไม่ได้สอบทีอ่า ทำยังกะว่าติดแล้ว ^^)

 

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9490000141512


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>7 ขวบมะกันใจกล้า คว้ามีดชิงของเล่น ขี่จักรยานหนีลอยนวล!?</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 พฤศจิกายน 2549 11:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ตัวต่อเลโก้ ของเล่นที่เด็กๆ ชื่นชอบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> แทมปา เบย์ส - ตำรวจแห่งเมืองลาร์โก รัฐฟลอริดา กำลังตามหาเด็กหญิงตัวน้อยที่ใช้มีดข่มขู่พนักงานร้านขายของเล่น ขณะที่เธอพยายามขโมยตัวต่อเลโก้ 2 กล่องออกจากร้าน

ตำรวจกล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนมิสซูรี่ เวลาประมาณ 3 ทุ่มของคืนวันอังคาร (14) ตามเวลาท้องถิ่น โดยหนูน้อยวัยประมาณ 7-8 ปี ได้ซ่อนของเล่นไว้ใต้เสื้อโค้ตของเธอ และพยายามจะเดินออกจากร้านไป ขณะที่พนักงานในร้านมองเห็นการกระทำของเธอโดยตลอด จึงเข้าไปหาเธอ และขอ ให้เธอคืนกล่องตัวต่อเลโก้ทั้งหมด

จากนั้น ตามคำบอกเล่าของตำรวจ เด็กหญิงคนนี้จึงเปิดเสื้อคลุมของเธอ และคว้ามีดแล่เนื้อที่มีปลายง่ามขนาด 10 นิ้วออกมาขู่ โดยเธออ้างว่าใช้เพื่อป้องกันตัว

ทั้งนี้ พนักงานร้านคนดังกล่าวได้ต่อรองให้หนูน้อยเลือดร้อนวางมีดลง และคืนของเล่นให้ทางร้าน แต่เธอกลับขี่จักรยานหนีไปอย่างลอยนวล อย่างไรก็ดี พนักงานคนนี้ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9490000147480


<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เละเทะ!สส.เม็กซิโกฟัดกันนัวกลางสภา แย่งเวทีสาบานตัวปธน.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 พฤศจิกายน 2549 19:30 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ส.ส.อันทรงเกียรติฟัดกันนัวราวกับผีนักมวยเข้าสิง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอเอฟพี - สส.เม็กซิโกตะลุมบอนแลกหมัดกันกลางสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันอังคาร(28) ในการต่อสู้แย่งชิงการควบคุมห้องประชุมสภา ที่ซึ่งเฟลิเป กัลเดรอน จะทำพีธีเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันพรุ่งนี้(1)

ภาพเหตุชุลมุนในห้องประชุมจากกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นสมาชิกสภาจากพรรคแนชันนัลแอคชันปาร์ตี้ (PAN) ของกัลเดรอน ชกต่อยกับกับสมาชิกสภาจากพรรคปาร์ตี้ออฟเดอะเดโมแครติกเรฟโวลูชัน (PRD) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ที่ส่งอันเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดี และได้พ่ายแพ้ไป แต่โอบราดอร์ประท้วงว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่โปร่งใส

ก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้สนับสนุนโลเปซ โอบราดอร์ ได้ประกาศแผนจะใช้ร่างกายตัวเองปิดกั้นไม่ให้กัลเดรอนได้ขึ้นเวทีในสภาเพื่อสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 1 ธ.ค.

ในวันอังคาร กลุ่มผู้สนับสนุนกัลเดรอนพยายามซัดหมัดใส่ สส.ของPRD และเข้ายึดเวทีระหว่างการประชุมเพื่อให้แน่ใจว่าพิธีสาบานตนจะจัดขึ้นได้

ฆอร์เค เซร์เมโน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคPAN ประกาศให้มีการหยุดพักการประชุมและสั่งให้ที่ประชุมอยู่ในความเรียบร้อย แต่ก็ไร้ประโยชน์

ภาพจากโทรทัศน์แสดงให้เห็น สส.จากทั้งสองพรรครุมกันแย่งพื้นที่เวที เป็นเหตุให้เกิดการผลักกันอย่างแรงและชกต่อยกัน

ท้ายที่สุดแล้ว สส.จากPANเป็นฝ่ายได้เปรียบ และรวมตัวก่อกำแพงมนุษย์ขึ้นมากั้นเวทีเอาไว้

"ทุกอย่างที่เราทำก็เพื่อปกป้องและคุ้มครองเวที" โซเฟีย กัสโตร รองหัวหน้าพรรคPAN กล่าวกับสถานีวิทยุฟอร์มาโต 21 ในภายหลัง

สส.พรรคPRD "ลุกขึ้นมาและมุ่งไปที่เวที เราจึงต้องเข้าไปคุ้มครองมันเอาไว้" เธอกล่าว

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. สมาชิกสภาของพรรคPRD ปิดกั้นไม่ให้ประธานาธิบดี บิเซนเต ฟอกซ์ ที่จะลงจากตำแหน่ง แถลงรายงานประจำปีต่อรัฐสภา เนื่องจากทางพรรคต้องการประท้วงว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่โอบราดอร์พ่ายแพ้ไปนั้น เต็มไปด้วยการทุจริตคดโกง

โลเปซ โอบราดอร์ ยังได้ประกาศจัดตั้งครม.และสาบานตนในฐานะ "ประธานาธิบดีที่ชอบด้วยกฎหมาย" ของเม็กซิโก

อย่างไรก็ดี ตอนนี้ ดูเหมือนนอกจาก โลเปซ โอบราดอร์จะพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีแล้ว ยังจะแพ้การคุมสภาอีกด้วย

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

[bw-cry] วุ่นวายกันเข้าไปสัตว์โลกทั้งหลาย อีกไม่นานหลอก โลกจะชำระตัวเองแล้ว ทำบุญกันให้เยอะ ๆ แล้วกัน(b-evil2)

 

อันที่จริงดังที่เราทั้งหลายรู้กันดีอยู่ว่า ในแต่ละวันของยุคนี้ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องวิปริตวิปลาสและปั่นป่วนไปจากสิ่งที่เคยเป็นปกติของยุคก่อน ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกของธรรมชาติ คนหรือแม้แต่สัตว์ก็ตาม นั่นคือสัญญาณบ่งบอกว่า เวลานั้นใกล้เข้ามาแล้ว

ขอให้เราทุกคนจงรักษาศีลและมีความดีที่เพียรสั่งสมเป็นเครื่องคุ้มครองตนเองเถิด แล้วจะปลอดจากภัยพิบัติทั้งมวล

 

อย่าประมาทในการภาวนา
อย่าประมาทในการปฏิบัติ