โลกสังคมโซเชียล รวม Live Camera แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของฮากีบีส

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย สูญหาย 11 คน และบาดเจ็บมากกว่า 90 คน จากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นฮากิบิส ขณะที่ปฏิบัติการกู้ภัยยังคงดำเนินไปในพื้นที่ตอนกลาง ตะวันออก และตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งเกิดน้ำท่วมและดินถล่ม

ขณะที่เช้าวันนี้ (13 ต.ค.) มีคำสั่งอพยพประชาชนเกือบ 3 ล้านคน ใน จ.อิวาเตะ จ.มิยางิ จ.ฟุกุชิมะ จ.อิบารากิ จ.โตชิงิ จ.กุนมะ จ.ไซตามะ จ.ชิบะ กรุงโตเกียว จ.คานางาวะ จ.นิอิงาตะ จ.ยามานาชิ จ.นางาโนะ และ จ.ชิซึโอกะ

สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นปรับลดระดับพายุไต้ฝุ่นฮากิบิส ลงมาเป็นพายุโซนร้อนที่มีความรุนแรง (severe tropical storm) และยกเลิกคำเตือนฉุกเฉินเกี่ยวกับฝนตกหนักทั้งหมด แต่ยังคงขอให้ประชาชนเฝ้าระวังเกี่ยวกับน้ำท่วมและดินถล่ม ขณะเดียวกัน มีรายงานเกิดทอร์นาโดในเมืองอิชิฮาระ ใน จ.ชิบะ ทำให้มีบ้านเรือนพังทลาย 12 หลัง และบ้านเรือนอีกมากกว่า 70 หลัง ได้รับความเสียหาย


ขอบคุณที่มา
https://mgronline.com/uptodate/detail/9620000098582

 

แชร์

ประเด็นน่าสนใจ

• เผยทุกเรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับ ‘อุโมงค์ยักษ์คัสสึคาเบะ’ ที่รัฐบาลญี่ปุ่นสร้างขึ้นเพื่อรับมือ และป้องกันเหตุน้ำท่วม
• ญี่ปุ่นทุ่มงบประมาณกว่า 1 แสนล้านบาท และใช้เวลาสร้างนาน 8 ปี
• อุโมงค์แห่งนี้เป็นการป้องการเหตุน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนเป็นโมเดลต้นแบบของการรับมือกับเหตุน้ำท่วมที่ได้รับคำชมจากทั่วโลก

ประเทศญี่ปุ่นนับได้ว่าเป็นประเทศหนึ่ง ที่เกิดภัยพิบัติอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็เป็นประเทศที่มีการเตรียมตัว และวิธีที่ชาญฉลาด ตื่นตัว แต่ไม่แตกตื่นกับการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่เสมอ รวมทั้งทางการ รัฐบาล และหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ยังมีขั้นตอน มาตรการในการรับมือกับภัยพิบัติได้อย่างดีเยี่ยม

สำหรับสถานการณ์ พายุไต้ฝุ่นฮากิบิส ที่รุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปี นอกจากนี้ มีการกล่าวด้วยว่า “ฮากิบิส” อาจเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งแม้ว่าขณะนี้พายุในแถบรอบๆโตเกียวได้เงียบสงบลงแล้ว แต่ทางการญี่ปุ่นยังคงประกาศแนะนำว่าห้ามออกจากบ้านจนกว่าพายุจะพ้นออกไป

• รู้จัก ‘อุโมงค์ยักษ์คัสสึคาเบะ’

เมื่อพูดถึงหนึ่งในโครงการที่ทั่วโลกรู้จักและพูดถึงคือ ‘อุโมงค์ยักษ์คัสสึคาเบะ’ (Metropolitan Area Outer Underground Discharge Channel) ที่ซ่อนตัวอยู่ใต้มหานครโตเกียว ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่น ทุ่มงบประมาณมหาศาลกว่า 3 แสนล้านเยน หรือ เกือบ 1 แสนล้านบาท และใช้เวลายาวนานกว่า 8 ปี ในการดำเนินโครงการ

โดย ‘อุโมงค์ยักษ์คัสสึคาเบะ’ เริ่มก่อสร้างขึ้นปี 1992 และแล้วเสร็จในปี 2000 ทั้งนี้แม้ว่าโครงการนี้จะใช้งบประมาณมากมายมหาศาล แต่ก็นับได้ว่า เป็นการดำเนินการที่คุ้มค่า เพราะเป็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้อย่างดีเยี่ยมโครงการหนึ่ง

• ทำไมถึงเริ่มสร้างอุโมงค์นี้ขึ้นมา ?

สาเหตุที่มีการสร้างอุโมงค์ยักษ์แห่งนี้ขึ้นมา เนื่องจากบริเวณดังกล่าว มักได้รับความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมหลายครั้ง เรียกได้ว่าเกิดน้ำท่วมขึ้นเกือบจะทุกปี เพราะลักษณะของดินในพื้นที่ที่มีรูปร่างเหมือนชาม ทำให้ง่ายต่อการกักเก็บน้ำเอาไว้ ความลาดชันของแม่น้ำก็มีน้อย ทำให้น้ำไหลลงทะเลได้ยาก

ดังนั้นเมื่อเกิดฝนตกหนัก ระดับน้ำจะลดลงช้า นอกจากนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในพื้นที่นี้ มีความก้าวหน้าเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พื้นที่ทั่วไปเป็นเขตเมือง จึงทำให้น้ำฝนซึมลงพื้นได้ยากขึ้น แทนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำโดยตรง จึงทำให้เกิดน้ำท่วมได้ง่ายขึ้น

• ใช้ทรัพยากรทุกอย่างอย่างคุ้มค่า !

ทั้งนี้ อุโมงค์ยักษ์คัสสึคาเบะ ที่ด้านล่าง ดูแล้วเหมือนภายในมหาวิหาร หรือ เหมืองมอเรียจากหนังเรื่อง Lord of the Ring มีความยาว 6.3 กิโลเมตร และลึกลงไปใต้ดินมากกว่าความลึกของรถไฟใต้ดินเสียอีก ซึ่งการก่อสร้าง เป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังใช้ประโยชน์จากดินที่ขุดขึ้นมาเพื่อสร้างอุโมงค์ นำไปรีไซเคิลเพื่อสร้างเขื่อนในแม่น้ำเอโดกาวะอีกด้วย



ทั้งนี้ ‘อุโมงค์ยักษ์คัสสึคาเบะ’ มีกลไลในการระบายน้ำคือ ใช้วิธีเชื่อมต่อเพื่อระบายน้ำจากแม่น้ำขนาดเล็กและขนาดกลางเช่นแม่น้ำนาคางาวะแม่น้ำคุระมัตสึแม่น้ำโอโตชิที่จะไหลลงมาในไซโล

โดยทางระบายแต่ละแท่ง มีความสูงประมาณ 70เมตรและกว้าง 30 เมตร ซึ่งน้ำจะถูกปั้มผ่านอุโมงค์น้ำใต้ดินกว้าง 10 เมตร วิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 16 ยาวไปยังแท็งค์กักเก็บน้ำในเมืองคัสสึคาเบะ ที่มีขนาดกว้าง 78 เมตร ยาว 177 เมตร สูง 18 เมตร หลังจากนั้นน้ำจะถูกปั้มลงแม่น้ำเอโดะ เพื่อปล่อยลงสู่อ่าวโตเกียวต่อไป


การรีไซเคิลดินที่ขุดจากอุโมงค์ เพื่อสร้างเขื่อนในแม่น้ำเอโดกาวะ

• ผนวกอุโมงค์เข้ากับเทคโนโลยีและการศึกษา

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีการผนวกเอาขั้นตอนการทำงานจากอุโมงค์เข้ากับเทคโนโลยี โดยมีการสร้างห้องควบคุม ที่มีหน้าจอควบคุมระบบภายในอุโมงค์ต่าง ๆ กว่า 20 เครื่อง ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถสอดส่อง ดูแล ควบคุมสถานการณ์ระดับน้ำได้อย่างทั่วถึง



สิ่งที่น่าสนใจของอุโมงค์ยักษ์คัสสึคาเบะ คือประชาชนทั่วไปก็สามารถยังเข้าไปชม และหาความรู้เกี่ยวกับระบบการทำงานของอุโมงค์ระบายน้ำขนาดยักษ์แห่งนี้ได้ โดยจะมีการอธิบายถึงขั้นตอน ของการระบายน้ำจากอุโมงค์ยักษ์ แบบเข้าใจได้ง่าย ที่คนทั่วไป สามารถเข้าใจได้ ทำให้ที่นี่กลายเป็นผลงานด้านวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม และมีวิศวกรจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาดูงานที่อุโมงค์แห่งนี้เป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของอุโมงค์แห่งนี้ทำให้ บ้านที่ถูกน้ำท่วมในเขตเมืองรอบลดลงอย่างมาก และช่วยลดความเสียหายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้นในลุ่มน้ำเป็นเวลาหลายปี

อัลบั้มภาพ 18 ภาพ

ญี่ปุ่นพายุไต้ฝุ่นฮากิบิสอุโมงค์ยักษ์



ขอบคุณที่มา
https://news.mthai.com/special-report/767238.html

 

วันนี้ (13 ต.ค.62) เฟซบุ๊ก คนไทยในญี่ปุ่น ได้โพสต์ข้อความ โดยเป็นการรายงานสถานการณ์ล่าสุด หลังพายุไต้ฝุ่นฮากิบิส ขึ้นฝั่ง ส่งผลให้ฝนตกอย่างหนัก ประชาชน นักท่องเที่ยว ต้องงดกิจกรรมนอกอาคารถานที่



โดยระบุว่า #อัพเดตข่าวยามเช้า!! ถึงในแถบคันโตจะมีอากาศสดใสแดดจ้าแล้ว แต่พายุฮากิบิสก็ได้สร้างความเสียหายไว้จำนวนมาก..

ความเสียหายตอนนี้มีนํ้าท่วมขังหลายพื้นที่ยังรอความช่วยเหลืออยู่ รวมถึงไฟไหม้ในโทชิกิและเขื่อนแตกจึงทำให้บ้านหลายหลังจมอยู่ไต้นํ้าอีกด้วย อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลกำลังประสานงานและช่วยเหลือในทุกๆพื้นที่อย่างใกล้ชิด



และล่าสุดไต้ฝุ่นกำลังเดินทางออกจากญี่ปุ่นโดยมุ่งไปทางตะวันออกเฉียงเหนืออย่างที่คาดการณ์เอาไว้ตามกรมอุตุญี่ปุ่น



การเดินทางในตอนนี้ล่าสุด 9:06 (ตามเวลาท้องถิ่น) รถไฟในบางสายยังไม่เปิดให้บริการรวมถึงชินคันเซ็นบางสายด้วย สามารถติดตามได้อย่างใกล้ชิดในเว็บ JR EAST

สำหรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบต่อเหตุการณ์นี้โปรดดูแลตัวเองอย่างใกล้ชิดด้วยนะครับ



สำหรับสถานการณ์ ณ ตอนนี้ ไต้ฝุ่นฮากิบิส ได้เคลื่อนตัวออกจากโทโฮคุ (Tohoku) หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศญี่ปุ่น กลับสู่มหาสมุทรแปซิฟิกแล้ว

ล่าสุด ไต้ฝุ่นฮากิบิสได้อ่อนกำลังลงเป็น “พายุเขตร้อนอย่างรุนแรง” และเคลื่อนตัวออกจากญี่ปุ่นทางด้านชายฝั่งตะวันออก

ทางด้านสำนักข่าว NHK รายงานสถานการณ์ มีผู้เสียชีวิตแล้วทั้งหมด 7 คน ยังสูญหายอีก 15 คน และบาดเจ็บ 124 คน

ทางการญี่ปุ่นได้ยกเลิกคำเตือนฉุกเฉินฝนตกทั้งหมด ขณะที่ยังมีฝนตกในหลายพื้นที่จนทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำหลายสายท่วมสูง

เพิ่มเราเป็นเพื่อน ข่าว ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ทุกวัน @springnews



ขอบคุณที่มา
https://www.springnews.co.th/news/557119

 

วันที่ 13 ต.ค. 2562 เวลา 04:42 น.


Views

บริษัท กสท โทรคมนาคม และค่ายโทรศัพท์มือถือ เอไอเอส, ทรูมูฟ เอช และดีแทค ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม อำนวยความสะดวกเพื่อรับมือกับสถานการณ์พายุไต้ฝุ่น “ฮากิบิส” ที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้ โดยเปิดให้คนไทยโทรฟรีไปญี่ปุ่น ในช่วงวันที่ 12-14 ตุลาคมนี้

ด้วยการโทรเข้าระบบ 001 800 001 หลังเสียง IVR กด 009 ตามด้วยหมายเลขปลายทาง โดยสามารถโทรได้ทุกเครือข่าย ตั้งแต่วันที่ 12-14 ตุลาคมนี้

ทั้งนี้ ทางการญี่ปุ่นได้เปิดสาย Visit Japan Hotline ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว Hotline สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ประสบปัญหาการเดินทางท่องเที่ยว กรณีประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วย และเกิดภัยพิบัติ

Tag : สนามข่าว 7 สี ฮากิบิส Savejapan พายุฮากิบิส



ขอบคุณที่มา
https://news.ch7.com/detail/369015

 

เที่ยวบินเกือบทุกเที่ยวที่เดินทางจากสนามบินนาริตะ ในกรุงโตเกียว ยังไม่สามารถให้บริการได้ในช่วงเช้าวันนี้ (13 ตุลาคม) โดยเที่ยวบินเกือบทั้งหมดอยู่ในสถานะ CANCELED หรือเลื่อนเวลาใหม่ (NEW TIME) และเลื่อนวัน (NEW DATE)


จากการตรวจสอบเที่ยวบินที่จะเดินทางกลับมาประเทศไทยยังคงต้องเลื่อนการเดินทางออกไปเป็นเวลาใหม่ในช่วงเวลา 09:00 – 12:00 ตามเวลาท้องถิ่น ส่วนเวลา 12:00 – 15:00 ต้องเลื่อนวันเดินทางออกไป

อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินที่เดินทางจากสนามบินคันไซ เมืองโอซาก้าเริ่มให้บริการตามปกติแล้ว โดยมีเที่ยวบินที่เดินทางมายังประเทศไทยให้บริการตามปกติ เช่นเดียวกับสนามบินฟุกุโอกะ แต่สนามบินในเขตโทโฮกุ หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่นที่เซนได ยังมีปัญหาระงับการเงินทางเหมือนในกรุงโตเกียว

สำหรับความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดในรอยหลายสิบปี ล่าสุด สถานีโทรทัศน์สาธารณะ NHK รายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 7 คน สูญหายไป 15 คน และทำให้กรุงโตเกียวเป็นอัมพาต

ส่วนการแข่งขัน Rugby World Cup ในกรุงโตเกียวจะดำเนินต่อไป โดยเฉพาะแมตช์การแข่งขันระหว่างเจ้าภาพคือญี่ปุ่นกับสก็อตแลนด์ จะจัดขึ้นที่สนามโยโกฮามา สเตเดียมในวันนี้ หลังจากภัยพิบัติจากพายุไต้ฝุ่นสิ้นสุดลงแล้ว



ข่าวที่เกี่ยวข้องในอดีต

ขอบคุณที่มา
https://www.posttoday.com/world/603426

 

เพจ “กลุ่มคนไทยขอทวงคืนทางเท้า” เปิดเผยวิธีรับมือน้ำท่วมของคนญี่ปุ่น ทำอย่างไรไม่ให้มีเศษขยะลอยเกลื่อน พบเป็นการปลูกฝังวินัยตั้งแต่เด็กและความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ ซึ่งมีการวางแผนรับมือล่วงหน้า

เมื่อวันที่ 12 ต.ค. เพจ “กลุ่มคนไทยขอทวงคืนทางเท้า” ได้โพสต์รูปภาพภายในเมืองแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ที่ถูกน้ำท่วมสูงแต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้กับชาวเน็ตนั้นคือแม้จะถูกน้ำท่วมสูงถึงเพียงนี้กลับไม่พบเศษขยะเลยสักชิ้นและน้ำก็มีลักษณะใส จึงเกิดคำถามว่า คนญี่ปุ่นมีวิธีการจัดการกับขยะอย่างไร จึงสะอาดได้ถึงเพียงนี้

โดยทางเพจ ซึ่งได้รวบรวมข้อมูลจากสื่อต่างๆ จึงได้ระบุข้อความอธิบายให้ทราบกันว่า “ก่อนหน้าที่พายุไต้ฝุ่นฮาบีกิสจะพัดขึ้นฝั่งบนหมู่เกาะญี่ปุ่นราว 3 – 4 วันนั้น ทางการของญี่ปุ่นได้มีการออกประกาศผ่านสื่อต่างๆ ทั้งโทรทัศน์ สื่อออนไลน์ และการส่งข้อความสั้นผ่านโทรศัพท์มือถือ(SMS) เพื่อขอให้ประชาชนในพื้นที่ที่พายุจะเคลื่อนผ่านเตรียมความพร้อมรับมือกับพายุ ซึ่งรวมไปถึงทำการเก็บขยะ และสิ่งปฏิกูลภายในบ้านเรือนของตัวเอง โดยให้ประชาชนทุกคนทำการแยกขยะ และมัดใส่ถุงขยะให้เรียบร้อย และนำขึ้นไว้บนที่สูงเหนือน้ำ รวมทั้งสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่น้ำจะท่วมถึงต้องเอาเก็บขึ้นไปบนที่สูงด้วย แม้แต่กระถางต้นไม้หน้าบ้านก็ไม่เว้น พร้อมกับปิดประตู หน้าต่างให้มิดชิด ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ขยะลอยไปกับกระแสน้ำ รวมถึงทรัพย์สินต่างๆ จะได้อยู่แต่ภายในบ้านเรือนไม่ลอยหายไปไหนอีกด้วย

ในส่วนเจ้าหน้าที่รัฐในเขตเทศบาลต่างๆ ในจังหวัดที่รับอิทธิพลจากพายุ ก็เข้าปฏิบัติหน้าที่ทำการลอกท่อและทำความสะอาดท่อระบายน้ำ พร้อมกับพร่องออกจากท่อระบายน้ำและลำรางสาธารณะให้หมด เพื่อให้ไม่มีสิ่งอุดตันเมื่อต้องรับน้ำเข้ามาใหม่จากฝนที่พายุไต้ฝุ่นฮาบีกิสหอบมาด้วย และทำให้การไหลของน้ำสะดวกขึ้นนั่นเองนี่ถือเป็นการร่วมมือของประชาชนในพื้นที่ประสบเหตุวาตภัย ในการที่จะรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยที่ประชาชนชาวญี่ปุ่นทุกคนกระตือรือร้นที่จะมีส่วนร่วมในการรับมือกับภัยพิบัตินี้ โดยไม่ปล่อยให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่รัฐโดยตรงเพียงฝ่ายเดียว เพราะในสถานการณ์เช่นนี้เจ้าหน้าที่รัฐในทุกๆ ภาคส่วนต่างต้องรับมือกับสถานการณ์อย่างหนักตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน

การที่ชาวญี่ปุ่นเจอภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ มาอย่างต่อเนื่องหลายพันปี ทำให้คนญี่ปุ่นมีคำๆ นึง ที่เอาไว้พูดกันในช่วงเวลาที่จะต้องเจอเหตุการณ์ร้ายๆ ว่า “ทุกคนต้องสามัคคีกัน เพราะความสามัคคีจะทำให้ประเทศชาติของพวกเราอยู่รอด นี่คือสิ่งที่อยากแบ่งปันให้ทราบถึงความสุดยอดของคนประเทศนี้ ที่ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์อะไรก็ตาม การปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดยังคงอยู่ในสายเลือดเสมอ”

ทั้งนี้ โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากโลกโซเชียลเป็นจำนวนมาก จนมียอดแชร์โพสต์ออกไปแล้วกว่า 54,000 ครั้ง และคอมเมนต์ชื่นชมการจัดการของเจ้าหน้าที่และระเบียบวินัยของคนญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก


ขอบคุณที่มา
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9620000098602

 

เหล่าคนบันเทิงร่วมเผชิญ “พายุไต้ฝุ่นฮากิบิส” ที่ญี่ปุ่น คอยอัพเดทสถานการณ์


จากกรณีสถานการณ์พายุระดับ 5 “พายุไต้ฝุ่นฮากิบิส (Hagibis)” ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือที่เคลื่อนขึ้นฝั่งที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกิดฝนตกหนัก โดยพื้นที่ที่หนักที่สุดคือ กรุงโตเกียวและโทไก และเมื่อวานนี้ 12 ตุลาคม ได้มีการรายงานว่าเกิดไฟดับใน 4.8 แสนครัวเรือน และเกิดพายุหมุนทำให้บ้านเรือนพังในเขต จ.ชิบะ ดังนั้นทางการญี่ปุ่นจึงย้ำว่า “พายุไต้ฝุ่นฮากิบิส” มีอันตรายอย่างยิ่ง ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยควรรีบอพยพออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัย

และในช่วงนี้ก็มีคนดังคนบันเทิงของไทยได้เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนกันที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งพวกเขาต่างก็ได้โพสต์ทางโซเชียลอัพเดทสถานการณ์อยู่เรื่อยๆ และออกมาบอกว่าพวกเขานั้นปลอดภัยเพื่อให้ไม่ต้องกังวลกัน

View this post on Instagram

พวกเราไม่เครียดยังสนุกสนานกันอยู่แต่ไม่ประมาท พรุ่งนี้เช้าเจอกันนะพี่ๆแฟนขาบ กู้ดไนท์ ?????? #พายุฮากิบิส #hagibis #3ยอดกุมาร

A post shared by HARU SUPRAKOB (YAMAGUCHI) ? (@harusuprakob) on Oct 12, 2019 at 6:13am PDT
​

ข่าวที่เกี่ยวข้องในอดีต
เรื่องอื่นๆที่คุณอาจสนใจ


Yengo Premium

ขอบคุณที่มา
https://www.posttoday.com/ent/news/603415

 

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพายุไต้ฝุ่น “ฮากิบิส” ซึ่งคาดการณ์กันว่า อาจเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา เข้าพัดถล่มประเทศญี่ปุ่นเมื่อช่วงเย็นวานนี้ 12 ต.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) ล่าสุด บรรยากาศ ณ กรุงโตเกียวและบริเวณโดยรอบ กลับเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง หลังพายุไต้ฝุ่น “ฮากิบิส” อ่อนกำลังลงเป็น “พายุเขตร้อนอย่างรุนแรง” แล้ว และเคลื่อนตัวออกจากญี่ปุ่นไปทางด้านชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือลงทะเลต่อไป

ทั้งนี้ กล้อง Live Camera ที่ได้มีการติดตั้งไว้ตามสถานที่สำคัญต่างๆของญี่ปุ่น ได้เผยให้เห็นถึงสภาพท้องฟ้าที่สดใสและมีแสงแดด หลังจากที่พายุใหญ่ได้พัดผ่านไป และประชาชนชาวญี่ปุ่นเริ่มออกจากบ้านมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติแล้ว


ภาพจาก TOKYOTOWER LIVE CAMERA

ภาพบรรยกาศที่ SHIBUYA จาก (LIVE CAMERA) SHIBUYA COMMUNITY NEWS

ภาพมุมสูงย่าน Shiodome ภาพจากTokyo Live Camera

FB P’Pin Pawanrat

เปรียบเทียบ ภาพเช้านี้และคืนก่อนไต้ฝุ่นจะมาถึง FB アラカワ アラカワ

วัดเซ็นโซจิ หรือวัดอาซากูซะ จาก Live camera (ASAKUSA NAKAYA) OFFICIAL

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-รวมลิ้งค์ถ่ายทอดสดพายุญี่ปุ่น “ไต้ฝุ่นฮากิบิส”
-ไต้ฝุ่นฮากิบิส! ชาวเน็ตคาด ระดับน้ำที่ญี่ปุ่นจะได้รับ 2 วัน เท่ากรุงเทพรับทั้งปี
-ระทึก! ซูเปอร์ไต้ฝุ่น “ฮากิบิส” จ่อถล่มญี่ปุ่น ความรุนแรงเท่าเฮอริเคนระดับ 5
-สถานการณ์ล่าสุด ญี่ปุ่นเตรียมตัวรับมือ”ฮากิบิส” ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นแห่งปี

เพิ่มเราเป็นเพื่อน ข่าว ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ทุกวัน @springnews



ขอบคุณที่มา
https://www.springnews.co.th/global/557139

 

​

ทั่วโลกยังคงจับตามองและเอาใจช่วย หลังจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น ประกาศเตือนภัยไต้ฝุ่น “ฮากิบิส” ที่มีความรุนแรงเท่าพายุเฮอริเคนระดับ 5 ซึ่งจะก่อความเสียหายอย่างหนัก โดยพบว่าชาวญี่ปุ่น ได้เตรียมความพร้อมรับพายุด้วยการอพยพจากจุดเสี่ยงและเตรียมบ้านเรือนให้พร้อม และตุนอาหาร น้ำดื่มให้เพียงพอ ขณะที่ชาวโซเชียลแห่ติดแฮชแท็ก #SaveJapan #Hagibis #PrayForJapan ให้กำลังใจกันจำนวนมาก

​

นอกจากนี้อีกหนึ่งสิ่งที่ทำเอา เหล่าทาสแมว เป็นกังวลหนัก เพราะ บนเกาะแมว โอกิชิมะ (Okishima )กลางทะเลสาบบิวะ และเกาะแมว เอโนชิมะ (Enoshima) ใกล้กรุงโตเกียว มีน้องแมวนับพันตัวอาศัยอยู่ เกรงว่า จะได้รับผลกระทบจากไต้ฝุ่น “ฮากิบิส” เพราะอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยจากพายุที่พัดผ่าน

และล่าสุด มีการรายงานยืนยันแล้วว่า ตอนนี้ทางการญี่ปุ่น ได้ทำการอพยพ เคลื่อนย้ายสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะ “น้องแมว” ทั้งหลายไปไว้ในสถานที่ปลอดภัยก่อนหน้านี้ถึง 2-3 วันแล้ว ดังนั้นบรรดา “ทาสแมว” สบายใจได้ว่า “น้องแมว” ทั่งหลายจะได้รับความปลอดภัย มีที่พักพิงและอาหารเพียงพออย่างแน่นอน

​

เครดิตแหล่งข้อมูล : #SaveJapan #Hagibis #PrayForJapan

เรียบเรียง : ทีมงาน Teenee.com


ขอบคุณที่มา
http://socialnews.teenee.com/penkhao/24909.html

 

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศยกเลิกคำเตือนฝนตกหนักแล้ว หลังไต้ฝุ่นฮากิบิสเคลื่อนตัวผ่านพ้นภูมิภาคโทโฮกุ แต่ยังคงเตือนประชาชนให้ระมัดระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงผลกระทบต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ทางการเผย มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 9 ราย ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ประชาชนหลายล้านคนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ

นับเป็นไต้ฝุ่นที่ทรงพลังที่สุดลูกหนึ่งตั้งแต่ไต้ฝุ่นไอดะพัดถล่มญี่ปุ่นเมื่อปี 1958 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 1,200 ราย ทางรัฐบาลญี่ปุ่นระบุ เตรียมรับมือกับไต้ฝุ่นลูกนี้เต็มความสามารถ และเชื่อมั่นในระบบการจัดการภัยพิบัติของประเทศ

ด้านสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ยังคงประกาศเตือนขอให้ตรวจสอบความปลอดภัยของที่อยู่อาศัยและบริเวณโดยรอบ อาจมีของใหญ่ปลิวไปค้างอยู่บนที่สูง และอาจตกลงมาเป็นอันตรายได้

รถไฟและชินคันเซนจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการ ในช่วงเช้าของวันนี้ (13 ตุลาคม) แต่หากเดินทางโดยรถยนต์ ขอให้ตรวจสอบความปลอดภัยตลอดเส้นทางเดินรถไปยังจุดหมาย และขอให้ระมัดระวังความเป็นไปได้ของแผ่นดินถล่มในพื้นที่ต่างๆ และน้ำเอ่อล้นบริเวณริมแม่น้ำ

ภาพ: Kyodo News via Getty Images

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

ขอบคุณที่มา
https://thestandard.co/japan-typhoon-hagibis-5/

 

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแจ้งไปยังคนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่นถึงสถานการณ์พายุใหญ่ “ฮากิบิส” โดยระบุว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 13 ตุลาคม 2562 กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศยกเลิกคำเตือนฝนตกหนัก (heavy rain emergency warning) ของจังหวัดชิซึโอกะ โตเกียว อิบารากิ โทจิกิ คานากาวะ ไซตามะ กุมมะ นากาโนะ ยามากาตะ ยามานาชิ นีงาตะ ฟูกูชิมะ และล่าสุดยกเลิกคำเตือนของจังหวัดมิยากิแล้ว ซึ่งเป็นจังหวัดสุดท้าย เป็นการยกเลิกครบทุกจังหวัดแล้ว

แต่ยังคงคำเตือนของจังหวัดอิวาเตะไว้ โดยคาดว่าช่วงเช้าประมาณ 09.00 น. วันนี้ (13 ตุลาคม 562) พายุไต้ฝุ่นจะพ้นภูมิภาคโทโฮคุ ทั้งนี้ ขอให้ตรวจสอบความปลอดภัยของที่อยู่อาศัยและบริเวณโดยรอบ อาจมีของใหญ่ปลิวไปค้างอยู่บนที่สูงและอาจตกลงมาเป็นอันตรายได้

ขณะที่รถไฟและชินคันเซนจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการ ในช่วงเช้าของวันนี้ แต่หากเดินทางโดยรถยนต์ ขอให้ตรวจสอบความปลอดภัยตลอดเส้นทางเดินรถไปยังจุดหมาย และขอให้ระมัดระวังความเป็นไปได้ของแผ่นดินถล่มในพื้นที่ต่างๆ และน้ำเอ่อล้นบริเวณริมแม่น้ำด้วย

ด้าน น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว รายงานว่าได้ตรวจสอบกับเครือข่าย วัด นักเรียน และอาสาสมัครปลอดภัยดี ไม่มีรายงานว่าคนไทยได้รับบาดเจ็บ หลังไต้ฝุ่นฮากิบิสพัดผ่านกรุงโตเกียว




matichon


ขอบคุณที่มา
https://www.matichon.co.th/foreign/news_1710443

 

‘ไต้ฝุ่นฮากิบิส’พ่นพิษ! ล่าสุดดับแล้วเกือบ 20 ราย

ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุ ‘ไต้ฝุ่นฮากิบิส’ พัดถล่มญี่ปุ่น ล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 18 ราย บาดเจ็บกว่า 100 คน
​

วันนี้( 13 ต.ค.62) หลังจากเกิดฝนตกหนักและมีกระแสลมแรงในลักษณะคล้ายทอร์นาโดถล่มในหลายพื้นที่ของประเทศญี่ปุ่น จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “ฮากิบิส” ที่พัดขึ้นฝั่งคาบสมุทรอิซุ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงโตเกียว ในเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 17.00 น. วันเดียวกันตามเวลาในไทย ซึ่งถือเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบ 60 ปีที่พัดเข้าถล่มญี่ปุ่น โดยเช้าวันนี้ (อาทิตย์ที่ 13 ต.ค.) ไต้ฝุ่นลูกนี้ กำลังเคลื่อนตัวไปทางเกาะสำคัญ ทางชายฝั่งด้านตะวันออกของญี่ปุ่น ด้วยความเร็วลม 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ล่าสดสำนักข่าว NHK ได้รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้แล้วเบื้องต้น 18 ราย สูญหายอีก 13 คน และบาดเจ็บ 149 คน โดยกระทรวงกลาโหมส่งเจ้าหน้าที่ 27,000 นาย จากกองกำลังป้องกันตนเอง ลงพื้นที่กู้ภัยและบรรเทาภัยพิบัติทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตามประชาชนในพื้นที่ชานกรุงโตเกียว เมืองหลวงญี่ปุ่น เริ่มทำความสะอาดดินโคลนออกจากถนนและบ้านเรือนแล้ว หลังจากไต้ฝุ่นฮากิบิสพัดถล่ม ซึ่งคาดว่าไต้ฝุ่นฮากิบิส จะมุ่งหน้าออกทะเลในช่วงเย็นวันอาทิตย์หลังพัดเข้าเกาะฮอกไกโด ทางตอนเหนือของประเทศ





ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทำงาน 24 ชั่วโมง! ญี่ปุ่นระดมจนท.กว่าหมื่นคนช่วยผู้ประสบภัย

ไต้ฝุ่น ‘ฮากีบิส’ สร้างความเสียหายทั่วญี่ปุ่น คร่าชีวิตแล้ว3ราย

มาตามนัด! ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น “ฮากิบิส” หอบลม-ฝน ถล่มโตเกียว

ด่วน! ญี่ปุ่นสั่งอพยพพื้นที่ใกล้แหล่งน้ำ-ภูเขา อันตรายจาก “พายุฮากิบิส”

อุตุฯ คาด “ฮากิบิส” ถึงญี่ปุ่น 3 ทุ่มคืนนี้ นาโกย่า-โตเกียว โดนก่อน

เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand

ขอบคุณที่มา
https://www.tnnthailand.com/content/18966

 

วางแพลนไว้ตั้งนานแล้วเพื่อยกครอบครัวไปเที่ยวต่างประเทศในวันว่างที่ตรงกัน สำหรับ ฮารุ สุประกอบ และสามีหนุ่ม กาย รัชชานนท์ ที่ล่าสุดได้กระเตงลูกน้อยทั้งสาม น้องคีริน น้องไนร่า และน้องเอเดน บินไปพักที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

แต่ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น เมื่อครอบครัวของ ฮารุ เป็นอีกหนึ่งคนดังในวงการบันเทิงไทยที่ต้องเจอภาวะวิกฤติพายุไต้ฝุ่นฮากิบิสถล่มที่ญี่ปุ่น จนต้องปรับเปลี่ยนแผนใหม่ทั้งหมด ด้วยการหาซื้ออาหารตุนเป็นเสบียงไว้และเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น

IG:harusuprakobฮารุ พาลูกๆ ซื้ออาหารตุนเสบียงก่อนวันพายุเข้า

และล่าสุด ฮารุ ก็อัปเดตให้ฟังว่า “ปลอดภัยหายห่วง ผ่านพายุฮากิบิสมาแล้ว วันนี้ถึงเวลาเที่ยวได้แล้ว” จากนั้นเธอก็ได้อัดคลิปลูกๆ ทั้งสามคน ที่กำลังตื่นเต้นกับการได้ออกไปเที่ยวสวนสนุก หลังจากต้องอยู่แต่ภายในบ้านตลอดหลายวันที่ผ่านมา

โดยขณะเดินทางไปข้างนอกนั้น น้องคีริน น้องไนร่า และน้องเอเดน ก็ยืนยันว่าตอนนี้ปลอดภัยแล้ว พร้อมเผยถึงเหตุการณ์ของวันก่อนที่ต้องเจอกับพายุไต้ฝุ่นฮากิบิส ว่าบ้านที่ตนอาศัยอยู่ไม่พัง แต่มีกิ่งไม้ที่ถูกพายุพัดตกลงมาเต็มถนนไปหมด และตอนนี้ทุกคนก็เริ่มกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติบนความไม่ประมาทอีกครั้ง

ขอบคุณที่มา
https://www.sanook.com/news/7922026/

 

ในวันนี้ (อาทิตย์ที่ 13 ต.ค.) รัฐบาลญี่ปุ่นส่งทหารและเจ้าหน้าที่กู้ภัยรวมกันทั้งสิ้น 27,000 นาย เข้าไปช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมจากไต้ฝุ่น “ฮากีบิส” หนึ่งในไต้ฝุ่นกำลังแรงที่สุดลูกหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศ ซึ่งทำให้พื้นที่ราบต่ำกว้างใหญ่ไพศาลในภาคกลางและตะวันออกของประเทศ จมบาดาล และบ้านเรือนประชาชนเกือบ 500,000 หลังไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 19 คนและทำให้กรุงโตเกียว เมืองหลวงของประเทศกลายเป็นอัมพาตในช่วงสั้น ๆ ส่วนสำนักข่าวเอ็นเอชเค รายงานว่า ยังมีผู้สูญหายอยู่อีก 13 คน หลังไต้ฝุ่น “ฮากีบิส” เคลื่อนตัวเข้าถล่มพื้นที่ทางตอนใต้ของกรุงโตเกียวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มุ่งหน้าขึ้นเหนือทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างหนัก

แต่ในวันอาทิตย์ ไต้ฝุ่น “ฮากีบิส” อ่อนกำลังลง และเคลื่อนตัวออกจากแผ่นดินใหญ่แล้ว



Advertisement


ทางการญี่ปุ่นประกาศยกเลิกคำเตือนฝนตกหนักในภูมิภาคคันโต ใกล้กรุงโตเกียว ทำให้ห้างร้านต่าง ๆ กับมาเปิดทำการได้อีกครั้ง และเส้นทางรถไฟก็กลับมาให้บริการได้ตามปกติ แต่ทางการก็เตือนว่า ยังมีความเสี่ยงของแม่น้ำหลายสายในภาคตะวันออกของประเทศ จะเกิดน้ำเอ่อล้นฝังสร้างความเสียหายครั้งใหม่ ในพื้นที่จังหวัดนากาโนะ ภาคกลาง น้ำท่วมรถไฟหัวกระสุนหลายขบวน ขณะเฮลิคอปเตอร์หลายลำก็ช่วยกันดึงประชาชนที่ติดค้างขึ้นจากหลังคาบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัย

ส่วนเที่ยวบินที่สนามบินนาริตะและฮาเนดะ ในกรุงโตเกียวที่ถูกยกเลิก ก็เริ่มกลับมาให้บริการได้ แต่ก็ยังมีเที่ยวบินมากกว่า 800 เที่ยวถูกยกเลิกในวันอาทิตย์ รวมทั้งรถไฟหัวกระสุนชินคันเซน ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด



Advertisement


นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่น เรียกประชุมฉุกเฉินกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและส่งรัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติ ไปยังพื้นที่ประสบภัย เขาแสดงความเสียใจต่อครอบครัวที่มีผู้เสียชีวิต และกล่าวว่า รัฐบาลกำลังทำงานเพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

“รัฐบาลจะทำทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอำนาจ เพื่อร่วมมือกับหน่วยงานและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องให้กลับมาให้บริการได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รัฐบาลได้ตั้งหน่วยเฉพาะกิจเพื่อจัดการกับความเสียหายครั้งนี้โดยเฉพาะและจะทำอย่างดีที่สุด” นายอาเบะกล่าว พร้อมให้คำมั่นส่งทหารเข้าไปเพิ่มหากจำเป็น

รัฐบาลแถลงว่า ขณะนี้ มีทหารจากกองกำลังป้องกันตนเอง, เจ้าหน้าที่ดับเพลิง, ตำรวจและหน่วยยามฝั่งประมาณ 27,000 นาย ถูกส่งเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่ประสบภัยของจังหวัดนากาโน และที่อื่น ๆ ด้วย

“ฮากีบิส” ซึ่งหมายถึงความเร็ว หรือสปีด ในภาษาตากาล็อก ฟิลิปปินส์ ขึ้นฝั่งเกาะฮอนชู เกาะใหญ่ของญี่ปุ่นในช่วงเย็นวันเสาร์ และมุ่งหน้าออกสู่ทะเลในช่วงเช้าวันอาทิตย์ ท้องฟ้ากลับมาแจ่มใสไร้เมฆหมอก และอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นทั่วประเทศ


Advertisement





แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวนิว18พายุญี่ปุ่นไต้ฝุ่น

ขอบคุณที่มา
https://www.newtv.co.th/news/42891