โห...เพิ่งเจอ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย อาโลกสิณัง, 1 มกราคม 2010.

  1. อาโลกสิณัง

    อาโลกสิณัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +57
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ขออนุโมทนาบุญกับคุณ
    โดย ผู้จัดการออนไลน์
    </TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>yutkanlaya ด้วยคับ สาธุๆๆ...

    21 พฤษภาคม 2550 14:23 น.
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>2.4 ระดับของความสงบ

    มี 3 ระดับ คือ

    บริกรรมสมาธิ เป็นความสงบจิตในเบื้องต้น อันเนื่องมาจากการเพ่งบริกรรมนิมิตและอุคคหนิมิตอย่างสบายๆ

    อุปจารสมาธิ เป็นความสงบจิตในระดับที่ใกล้จะได้ฌาน หากมองในแง่ตัวอารมณ์ก็ใช้ปฏิภาคนิมิตเป็นอารมณ์ ยกเว้นกรรมฐานบางอย่าง ที่ไม่มีปฏิภาคนิมิต ก็ยังคงต้องใช้อุคคหนิมิตเป็นอารมณ์ต่อไป เพียงแต่มีความสงบแนบแน่นลึกซึ้งยิ่งขึ้นกว่าในขั้นที่จิตมีบริกรรมสมาธิ ในขั้นนี้จิต จะไม่แส่ส่ายไปสู่อารมณ์อื่นโดยไม่ต้องประคองรักษาไว้

    อัปปนาสมาธิ เป็นความสงบจิตในระดับฌาน หมายถึงความสงบแนบแน่นของจิตอยู่กับอารมณ์ กรรมฐาน จนไม่โยกคลอนแส่ส่ายไปสู่อารมณ์อื่น และกิเลสไม่สามารถรบกวนจิตได้ วิธีการที่จะทำอัปปนาสมาธิให้เกิดขึ้นก็คือการเพ่งอุคคหนิมิตเมื่อ ทำอัปมัญญา 4 และอรูปกรรมฐาน 4 หรือเพ่งปฏิภาคนิมิตเมื่อทำกรรมฐานที่มีปฏิภาคนิมิตเกิดขึ้นได้อันได้แก่กสิณ 10 อสุภะ 10 กายคตาสติและอานาปานสติ ไม่ใช่การเพ่งบริกรรมนิมิต ให้รักษาอุคคหนิมิตหรือปฏิภาคนิมิตนั้นไว้ให้บริบูรณ์ ด้วยอุปจารสมาธิ จนกระทั่งฌานจิตเกิดขึ้น จึงเรียกว่าได้อัปปนาสมาธิ

    ตัวอย่างเช่นในการเจริญอานาปานสติ เราใช้ การรู้ลมหายใจ ลมหายใจจัดเป็นบริกรรมนิมิต เมื่อตามรู้ลมหายใจไปจนจิตเริ่มสงบ จะเห็นลมหายใจ เป็นแสงสว่าง ก็ให้รู้แสงสว่างนั้นแทนลมหายใจที่เคยรู้อยู่เดิม แสงสว่างนั้นจัดเป็นอุคคหนิมิต ให้รู้แสงสว่างนั้นจนเกิดปฏิภาคนิมิตและฌานจิต ทั้งนี้การทำความสงบในระดับลึกนั้น บางท่านที่เคยทำ ได้มาแล้วในกาลก่อน จิตก็จะรวมสงบเข้ามาได้อย่างรวดเร็ว แต่ท่านที่ไม่เคยทำมาในกาลก่อนก็ยากที่จะทำได้ แต่ก็ไม่ต้องกังวลใจ เพราะเพียงทำ ความสงบในระดับหนึ่งก็พอจะใช้เป็นฐานในการเจริญปัญญาต่อไปได้แล้ว

    แท้จริงอารมณ์ของสมถกรรมฐานมีมากไม่มี ประมาณเพราะใช้บัญญัติเป็นอารมณ์ แต่ที่ท่านสรุป เป็นกรรมฐาน 40 ก็เพียงแสดงเป็นตัวอย่างไว้เท่านั้น ตามประวัติของพระเถระและพระเถรี ก็มีอยู่หลาย ท่านที่ทำสมถกรรมฐานด้วยอารมณ์ที่นอกเหนือจากกรรมฐาน 40 เช่น บางท่านพิจารณาดอกบัวแดง บางท่านขยี้ผ้าขาว บางท่านดูน้ำแข็งละลาย บางท่านดูดวงประทีปที่ดับไปแล้วคิดพิจารณาชีวิต บางท่านดูดวงจันทร์ ใช้ดวงจันทร์แทนดวงกสิณจนเกิดปฏิภาคนิมิต เป็นต้น

    สรุปแล้วกรรมฐานทั้ง 40 อย่างสามารถทำให้เกิดบริกรรมสมาธิ และอุปจารสมาธิได้ กรรมฐาน 30 อย่างคือกสิณ 10 อสุภะ 10 กายคตาสติ 1 อานาปานสติ 1 อัปมัญญา 4 และอรูปกรรมฐาน 4 สามารถทำให้เกิดอัปปนาสมาธิได้ แต่กรรมฐาน 10 อย่างคืออนุสติ 8 (ยกเว้นกายคตาสติและอานาปานสติ) อาหาเรปฏิกูลสัญญา 1 และจตุธาตุววัตถาน 1 สามารถทำให้เกิดได้เพียง อุปจารสมาธิเท่านั้น ไม่ถึงอัปปนาสมาธิ

    อนึ่งเรื่องการทำสมถกรรมฐานในระดับลึกนั้น ท่านผู้สนใจควรปลีกตัวออกไปเรียนจากครูบาอาจารย์ ซึ่งบางรูปจะชำนาญในเรื่องสมถกรรมฐาน แต่ในหนังสือเล่มนี้จะไม่แนะนำวิธีการปฏิบัติไว้ เพราะการทำสมถกรรมฐานในระดับลึกควรอยู่ภายใต้การดูแลของครูบาอาจารย์อย่างใกล้ชิดจึงจะปลอดภัย

    สมถกรรมฐานมีประโยชน์มาก นอกจากการ ทำให้เกิดความสงบสุขทางจิตใจแล้ว สมถกรรมฐาน ยังมีประโยชน์อย่างอื่นอีก เช่น ในเบื้องต้นที่ยังเจริญวิปัสสนาไม่เป็น ก็อาจจะเริ่มจากการเจริญสมถกรรมฐานไปก่อนก็ได้ เช่นมีสติตามระลึกรู้ลมหายใจเข้าออกไปอย่างสบายๆ หรือรู้ท้องพองยุบอย่างสบายๆ หรือบริกรรมพุทโธอย่างสบายๆ เมื่อรู้อารมณ์นั้นไปสักช่วงหนึ่งก็ให้สังเกตดูความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลงไปของตนเอง เช่นเมื่อกี้จิตฟุ้งซ่านตอนนี้จิตสงบ หรือเมื่อกี้จิตสงบตอนนี้จิตฟุ้งซ่าน เมื่อกี้จิตไม่มีปีติตอนนี้จิตมีปีติ หรือเมื่อกี้จิต มีปีติตอนนี้จิตไม่มีปีติ เมื่อกี้จิตไม่มีความสุขตอน นี้จิตมีความสุข หรือเมื่อกี้จิตมีความสุขตอนนี้จิตไม่มีความสุข เป็นต้น นี้เป็นการเจริญสมถกรรมฐาน เพื่อเป็นพื้นฐานในการเจริญวิปัสสนานั่นเอง

    ประโยชน์อย่างอื่นยังมีอีก คือเมื่อเจริญวิปัสสนาไปนานๆ จิตจะสูญเสียพลังงานและเกิดความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าขึ้นได้ จนไม่สามารถ ตามรู้กายหรือตามรู้จิตใจอันเป็นการเจริญวิปัสสนาได้อีกต่อไป ก็ให้กลับมาเจริญสมถกรรม-ฐานเพื่อให้จิตใจได้พักผ่อน เมื่อจิตใจได้พักผ่อนเพียงพอแล้ว รู้สึกสดชื่นแล้ว ก็กลับไปเจริญวิปัสสนาต่อไป การเจริญวิปัสสนารวดเดียวโดยไม่รู้จักการพักผ่อนจิต เป็นความยากลำบากของผู้ปฏิบัติ เหมือนคนมีสองขาแต่เดินเพียงขาเดียว อนึ่งจิตที่มีความสงบสุขเพียงพอย่อมจะมีสติมีปัญญาแหลมคมกว่าจิตที่ขาดความสงบสุข การรู้สภาวธรรมใดๆด้วยจิตที่มีความสงบตั้งมั่นเพียงพอ จะเป็นความรู้ที่ซาบซึ้งถึงใจดีมากทีเดียว

    สมถกรรมฐานเป็นดาบสองคม เมื่อจะเจริญ สมถกรรมฐานอย่าทิ้งสติปัญญาเป็นอันขาด มิฉะนั้นอาจจะหลงเพลินไปกับความสงบสุขจนไม่ยอมเจริญวิปัสสนา หรืออาจจะเกิดอาการที่เรียกว่านิมิตแปลกปลอมต่างๆ หากนิมิตใดเกิดขึ้นให้ย้อนดูจิตตนเอง หรือพิจารณานิมิตนั้นลงเป็นไตรลักษณ์เสียให้หมดก็จะไม่มีอันตรายใดๆเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่นบางท่านทำสมถกรรมฐานด้วยการคิดพิจารณากายลงเป็นปฏิกูล เป็นอสุภะ เมื่อจิตเกิดความสงบแล้วเกิดนิมิตเห็นกายเป็นของน่าเกลียดน่าขยะแขยง ถ้าจิตติดความรู้สึกเช่นนี้อยู่จะเกิดความเกลียดหรือกลัวตนเองอย่างรุนแรง ดังนั้นหากจะพิจารณากายเป็นปฏิกูลหรือเป็นอสุภะก็ตาม ในช่วงสุดท้ายจะต้องน้อมพิจารณา ลงเป็นไตรลักษณ์ให้ได้ จิตจึงจะถึงความสงบสุขได้จริงๆ

    ในทางการแพทย์...กรรมฐาน...คาบเกี่ยวกับ...จิตฟุ้งซ่าน...ภาวะโรคจิตเภท...ถ้าจิตใจไม่เข้มแข็งพอ



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. mib8gdviNz

    mib8gdviNz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +1,523
    เดินผ่านมาอีกละ~...
     
  3. KritZ_2530

    KritZ_2530 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +293
    คุณอาโลกสิณังมีรัศมีกายผ่องใสยิ่งขึ้นกว่าเดิม ขอให้ปฏิบัติต่อไป ดีแล้ว!!!
     
  4. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +2,040
    ได้ ถือว่าเป็นผู้ ปฏิบัติชอบเเล้ว
     
  5. KritZ_2530

    KritZ_2530 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +293
    ...!!! .... .........!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2010
  6. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +2,040
    ...... ........ ....... อนิจจา
     
  7. KritZ_2530

    KritZ_2530 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +293

    เสีย เส้น หมด อนิจจา!!!
     
  8. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +2,040
    .......................
     
  9. KritZ_2530

    KritZ_2530 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +293
    ไม่น่ากลับเข้ามาดูอีกรอบเลยกู!!! เฮ่อ! เซ็งเป็ด - -"
     
  10. KritZ_2530

    KritZ_2530 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +293
    ............... = ออกไปดีกว่า!!! ^^
     
  11. KritZ_2530

    KritZ_2530 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +293
    อืม!!! จริง ตามนั้นหล่ะ!!!
     
  12. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +2,040
    ...............= ปฏิบัติโดยชอบเเล้ว
     
  13. Jera

    Jera เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2009
    โพสต์:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +2,040
    ทุก สิ่ง ล้วน อนิจจา
     
  14. THEFOOL23

    THEFOOL23 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2010
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +136

    ขอโทษคับ ผมอ่าน แล้ว มั่วมากคับ ไม่ออกความเห็น



    ลองฟันเทศน์ ของพระอาจารย์สงบ มนัสสันโต นี้ดูคับ

    ควรทำอย่างไร เทศน์เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2553

    เสียเวลา ฟรี ๆ ไป 19 ปี เพราะโดนหลอก ทำสมาธิ ผิดทาง

    ฟังแล้ว ไม่ต้องเชื่อ แต่ฟังเอาไว้เป็น แล้วลองตัดสินด้วย ปัญญา ตัวเองดูคับ ว่าจริง หรือปลอม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2010
  15. phoohats

    phoohats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +540
    แล้วรัสมีกายผมเป็นยังไงอะครับ:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...