โอวาส..หลวงพ่อกัสสปมุนี

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เพชรฉลูกัน, 26 สิงหาคม 2009.

  1. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,163
    การที่เราทำความดีใส่จิตใจแล้ว ขอให้เชื่อเถิดว่า ความ..ดี.นั้นต้องสนองเราเสมอ และจงเชื่อใจตนเอง ผู้ปฏิบัติไม่เชื่อตนเองว่าปฏิบัติอยู่ มันจะได้ความจริงอะไร เรารู้ตัวอยู่นี่ว่า เราทำความ.ดี..อะไรไว้หรือ ทำความ..ชั่ว..อย่างไม่น่าให้อภัย อันนี้เข้าใจเข้าใจตนเองดีอยู่แล้วไง

    อาตมาออกเดินธุดงค์ในครั้งโน้น อาตมาก็เชื่อความดีที่มีศีลธรรม แม้จะบวชเข้ามาในสมัยชราแล้ว ก็ตามคือ พ.ศ. 2505 อาตมาก็เชื่อว่า เราต้องทำได้ ปฏิบัติได้แน่นอน อะไรจะมาขวางทางแห่งความ.ดี..งามของเราไม่ได้

    อาตมาเคยไปผจญอยู่ในป่าถ้ำมาหลายๆแห่ง เช่น ภูกระดึง ฯลฯ พวกสัตว์ป่า เช่น เสือ งูพิษ ที่พูดนี่ขอพูดเพื่อให้มีกำลังใจ ในการปฏิบัติธรรมนะ

    สัตว์พวกนี้ มาอยู่กับอาตมาได้อย่างสบาย นั่งภาวนาอย่างปกติ ไม่มีความระแวงต่อกัน เขาอยู่ของเขา เราก็ภาวนาไป ทำอย่างนี้ทุกวัน ก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น

    นอกจากอาตมาสงสาร แผ่เมตตาให้เขาได้พ้นชาติกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อทำคุณงามความดีต่อไป

    ทีนี้เรื่องวิญญาณ เรื่องนี้อาตมาได้รับรู้บ่อยครั้ง
    เลยทีเดียว เราก็สอนเขาบ้าง ให้ธรรมะ(เทศนา)แก่เขาบ้าง แผ่เมตตาเขาจะไดพ้นทุกข์

    กระแสธรรมเป็นสิ่งที่อ่อนละไม มีใครบ้างไม่อยากรับ ธรรมะของพระพุทธเจ้านี้เป็นคุณค่ามหาศาล ไม่มีสิ่งใดจะเลิศล้ำกว่า คือ ธรรมะ นี่..วิญญาณทั้งหลายเขาได้ยินได้ฟัง เราก็ได้บุญได้กุศลอีกด้วย

    เมื่อมีโอกาสอันนี้แล้ว เราจงเรีบเร่งปฏิบัติกันเสีย อย่าทิ้งเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะเกิดมาในชาติหนึ่งแสนยากเย็นเข็ญใจ ถ้าแม้ไม่มี..บารมีธรรม..จริงๆ จะไม่ได้เกิดมาแน่ ญาติโยมต้องเข้าใจในหลักความจริงว่า..

    เกิดมาแล้ว ความตายก็ใกล้เข้ามา ..พยายามลุกไล่มาอยู่ทุกขณะจิต มันตายอยู่ตลอดเวลา ขอให้เป็นเครื่องกำหนดรู้ จะไม่เสียกาลนะ

    ปฏิบัติเป็นบูชาอย่างยิ่ง ที่ขึ้นตรงต่อหลักธรรมและพระพุทธเจ้า เรามีสิ่งประเสริฐแล้วในขณะนั้น เรามีพระพุทธเจ้าอยู่กับ..ใจ นี่จึงเมตตาสอนให้ และจงจำไว้ว่า นี่เป็นหัวใจของเราจริงๆ
     
  2. datchanee

    datchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,947
    ค่าพลัง:
    +1,276
    satu satu ka
     
  3. เพชรฉลูกัน

    เพชรฉลูกัน ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    18,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    24
    ค่าพลัง:
    +23,163
    คำสอนพระอริยเจ้า....ผู้ทรงฤทธิ์
     
  4. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    อืม ...... ชื่อหลวงพ่อ ทำไมคล้ายกับชื่อพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งจังเลย...
    ถ้าศิษย์โง่ไปบวช แล้วอยากให้ญาติโยมรู้สึกขลัง ศิษย์โง่ขอตั้งชื่อบ้างได้ไหม
    "ศิษย์โง่ สมนโคตม"

    ศิษย์โง่ ไปธุงดงค์มา เจอเสือ สิงห์ กระทิงแรด มาเยอะแยะ

    เจอยักษ์ เจอไรจิน เจอก๊อดซิล่า

    ศิษย์โง่ ก็แผ่เมตตาไป อยากให้เขาไม่มารุกรานโลกมนุษย์

    ญาติโยมได้ฟังก็แผ่เมตตา สาธุ ศักดิสิทธิแท้หนอ หลวงพ่อศิษย์โง่...





    เฮ่ย ศาสนาพุทธนะ ไม่ใช่ลัทธิผี

    อะไรก็มองว่าศักดิ์สิทธฺไปหมด

    พาศาสนาเสื่อมแท้ แน่นอน ถ้ายังถือลัทธิกันแบบนี้
    แค้นี้ เถรวาท ก็เหลือเพียงแค่ไม่กี่ประเทศแล้ว




    ปอลิง ขออภัย แท๊กมาอภิญญา ก็ต้องรับน้องกันโหด(ไม่เกี่ยวกับอายุล๊อคอิน)
    เพราะกระทู้ที่แท๊กมา ก็ต้องเตียมข้อมูลมาให้ถกได้
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    หลวงพ่อองค์นี้ ส่วนตัวจะกล่าวถึง
    ยังต้องระมัดระวังในการใช้คำพูดมากๆเพราะท่านสะสมบารมีมามากจริงๆครับ

    เรียกว่าแทบจะรอบด้านเลยก็ว่าได้
    ในประเทศไทยในปัจจุบันเอาแค่พระที่จะมีบารมีมากพอ ที่ภาคส่วนภพภูมิ
    ต้องมาฟังธรรมก็แทบจะ
    นับได้องค์ได้แล้วครับ
    ลองนึกภาพดูเล่นๆนะครับ
    ว่าจิตต้องดีขนาดไหน
    ปัญญาทางธรรมระดับไหน
    ภพภูมิเค้าถึงยอมฟัง

    นักปฎิบัติบ้านเรา บางดวงจิต
    ปฎิบัติมานาน ขนาดผียังไม่เคยมาขอ
    ส่วนบุญก็มี อย่าว่าแต่ระดับสูงกว่า
    เค้าจะยอมรับนับถือหรือเกรงใจเลยครับ
    นี่ยังสอนเค้าได้อีก (ในอดีตมี ลป ม)

    นี่ยังไม่นับรวมความสามารถระดับ
    ยืนพื้นปฏิสัมภิทาญาน และไม่ใช่
    เอกทางภายในอย่างเดียวนะครับ
    เพราะเอกภายในอย่างเดียว มีเยอะแยะ
    แต่ประกันว่าเข้านิโรธสมาบัติ
    นานแบบท่านไม่ได้แน่ๆ
    เผลอๆแอบให้คนส่งอาหารให้อีก
    เพราะถ้าไม่แน่จริง
    บารมีไม่มากจริง
    ไม่มีทางเป็นแบบ
    ท่าน หรือทำแบบท่านได้หรอกครับ

    ปล วันนี้วันพระ ระมัดระวัง
    ความคิดฝ่ายอกุศลให้ดีครับ

     
  6. ศิษย์โง่ V2

    ศิษย์โง่ V2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2017
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +243
    ผมคิดแบบใช้ปัญญาให้มากนะ
    ส่วนใคร จะไปปฏิบัติอะไร หรือไม่ปฏิบัติก็เรื่องส่วนบุคคล

    ส่วนตัว จะไม่ค่อยชอบฟังธรรม กับประเภทที่เล่าอภินิหารอะไรมากๆ
    ส่วนตัว มองว่ามันฟังแล้วรู้สึกเฝอ ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรกับตนเอง

    พระพุทธเจ้าท่านก็ทรงรังเกียจ อิทธิปาฏิหารย์ ถึงขนาดท่านใช้คำว่า

    "ขยะแหยง"



    แค่สะท้อนความคิดมุมมองส่วนตัวให้ผู้อื่นมองอีกมุมหนึ่ง
    โลกเรามีหลายจริต มีทิฐิ 62
    ความสวยงามของโลกนี้ ก็เพราะคนเรามีความคิดและมุมมองไม่เหมือนกัน

    ขอบคุณ ๆ นพที่พยายามตักเตือน ไม่ให้ผมคิดไปทางอกุศล

    นะครับ
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    ถ้าเอาปัจจุบันสมัยนี้นะครับ
    ส่วนตัวเชื่อจากประสบการณ์
    ที่ได้เคยพบเจอมา ครูบาร์อาจารย์
    ที่ท่านเก่งจริงๆ มีความสามารถจริงๆ
    ท่านจะเข้าใจเรื่อง การแสดงความสามารถ
    พิเศษต่างๆ เรื่องปาฏิหาริย์ต่างๆ
    เป็นทุนในใจ และจะระมัดระวังมากๆ
    ในการเสวนาทั่วๆไปกับบุคคลต่างๆครับ
    และมีแต่เน้นเรื่องปัญญาเพื่อการหลุดพ้นทั้งนั้น ยกเว้นในกรณีบางท่าน
    ที่ยังสงเคราะห์ชาวบ้าน หรือบุคคลทั่วไปอยู่

    แต่เราชาวพุทธเองนี่หละครับส่วนมาก
    ที่ยังขาดเรื่องปัญญา ว่าเรื่อง
    อะไรควรเน้น ไม่ควรเน้น
    มีศรัธาแบบสุดโต่งเพราะใช้โมหะนำศรัทธา
    เลยกลายเป็นยึดมั่นถือมั่น
    ในเรื่องที่ไม่ควรไปยึด
    และยึดในสิ่งที่ไม่ควรยึด
    จนเป็นตัวเป็นตนขึ้นมา
    กลายเป็นการสร้างวิบากให้เกิด
    ให้วกวนทั้งวิบากแบบเฉพาะตน
    และวิบากแบบหมู่ได้อย่างคาดไม่ถึง

    ปัญหาไม่ได้เกิดจาก ครูบาร์อาจารย์เหล่านั้น
    ไม่ว่าท่านในอดีตหรือท่านในปัจจุบัน
    ปัญหาเกิดจากโมหะนำศรัทธา
    หรือเรียกง่ายๆว่า ศรัทธาที่หลงในศรัทธา
    กลายเป็นความเชื่อทั้งที่ตนยังมีทุกข์อยู่
    เป็นความเชื่อที่ไม่มีความแน่นอน
    ในเรื่องของทางจิตวิญญาณของตน
    กลายเป็นว่ามีแต่ความเชื่อ
    ที่เชื่อ
    ว่าจะต้องเป็นแบบโน้นนี่นั่น
    ของเหล่าผู้ที่ศรัทธาจน
    กลายเป็นความยึดมั่นถือมั่น
    เป็นโมหะหมู่ เป็นอุปทานหมู่
    กลายเป็นแบบที่ต้องมีรูปแบบ
    มีขั้นตอน มีพิธีการต่างๆ
    สร้างตัวชี้วัดโน้นนั่นนี่
    จนลืมว่า ควรนำเสนอในแง่
    มุมไหนออกสู่สาธารณะชน

    และกลายเป็นว่ายิ่งห่างไกลแก่นแท้
    พุทธศาสนาที่มักไม่ปรากฎเป็นรูปแบบ
    อย่างนั่นโน้นนี่และไม่ชี้วัดอะไรได้
    เพราะแก่นแท้พุทธศาสนา
    จะไร้ความยึดติดใดๆ
    ได้อย่างคาดไม่ถึง
    เพราะโมหะนำศรัทธา
    ของผู้ที่ศรัทธาแบบ
    หลงในศรัทธาเองนี่หละครับ
    ปล แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...