ใครต้องการถามเป็นการส่วนตัว ไปถามที่อื่น กลัวคนอื่นว่าให้มาที่นี่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nilakarn, 20 เมษายน 2013.

  1. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014





    ครับ เป็นญานเมือนกันการทำ สมาธิ
    แล้วจิตนิ่ง แต่ว่า อันนี้เป็นการทำวิปัสสนา


    เร่ิ่มใหม่ๆ ให้ภาวนาเฉยๆ แบบสมถะ
    แต่พอคุ้นแล้ว ชำนาญแล้ว
    ก็ให้คุณคิดตามคำภาวนาไปด้วย
    พอจิตเข้าลึก ไปนิ่ง ก็ปล่อยให้นิ่งไปครับ
    อย่าไปบังคับ แต่พอจิตคลายออกมา
    จนภาวนาได้ ก็ให้ภาวนาครับ
    สลับไปสลับมาอย่างนี้ ตลอด


    ที่เกิดอาการขนลุกซู่ เกิดปิติขึ้นมา
    เพราะจิตของคุณ ตอบรับออกมา
    ด้วยการดีใจจนขนลุก
    และเหล่าเทวดาอารักขาของคุณ
    ก็ดีใจด้วย ที่คุณจะได้ทำวิปัสสนา
    ภพภูมิเหล่านั้น ก็จะได้บุญด้วย
    คุณก็ต้องอุทิศให้เค้าด้วย บ่อยๆ
     
  2. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014



    อาการอย่างนี้ เค้าเรียกว่า เกทในธรรม
    หรือ อาการเข้าใจในธรรมะครับ
    เนื่องจากจิตของเราสูงเท่ากับ
    ธรรมะข้อนั้นพอดี จิตของเราจึง
    เข้าใจได้ ทั้งที่อาจจะเคยฟังมาหลายครั้งแล้ว
    แต่ตอนนั้น จิตของเรายังไม่สูงพอ
    จึงไม่อาจเข้าใจ ธรรมะที่สูงๆได้

    เหมือนคนที่ยังไม่บรรลุธรรม
    พอไปฟังเทศน์ เรื่องการดูจิต
    ก็ยิ่งงงสับสนไปใหญ่
    ฟังเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจ
    ผลสุดท้าย ก็ปรามาสพระว่า
    ท่านเทศน์เรื่องอะไรหว่า
    ไม่เห็นมีสาระเลย
    สู้การทำสมถะไม่ได้ สนุกดี
    มีฤทธิ์ด้วย

    แต่ถ้าหากเป็นพวกปัญญาธิกะเหมือนผม
    คือ พวกที่มีปัญญามาก อธิษฐานทีไร
    ก็ขอให้เกิดปัญญาเห็นธรรม
    พวกนี้จะปัญญามาก แต่ไม่มีทรัพย์
    เพราะตอนทำบุญ ไม่ได้เงินขอทอง
    เกิดมาชาติหนึ่งๆ จะมีแค่พอกิน ไม่ร่ำรวยแต่อย่างใด
    แต่จะได้ไปเกิดในครอบครัวที่เป็นพุทธ
    มีโอกาศจะได้บวชต่อไปเรื่่อยๆ เกือบทุกชาติ
    เพราะมีบ่วงเรื่องการ บรรลุธรรม เกี่ยวเข้ามา
    ไม่อาจจะใช้ชีวิตทางโลกได้
    ถึงอยู่ได้ แต่ก็หากินไม่รอด อยู่ดี

    พวกนี้จะศึกษาธรรมมามาก เกือบทุกชาติ
    มีแววของผู้บรรลุธรรม ตั้งแต่เด็ก
    สามารถบรรลุธรรมได้เลยทันที
    หากเกิดไปเจอ ผู้สอน หรือ อาจารย์ที่ดี
    ดังนั้น พอฟังธรรมปุ๊บ ก็เกทปั๊บได้เลย
    ไม่ต้องไปศึกษาอีก เกิดอาการแป๊บในหัวใจ
    เรียก ดีใจจนเนื้อหัวใจเต้น จึงส่งผลมา แสดงที่ผิวหนัง
    ขนลุกขนพองทันที


    อาการบรรลุธรรม ก็เป็นเช่นเดียว
    แต่เป็นรุนแรงกว่า เป็นหมื่นเท่า
    จนเราคิดว่า มีคนมาระเบิดภูเขาอยู่ข้างๆ
    เนื่องจากว่า เราสะสมบารมีมาเต็มแล้ว
    มรรคมีองค์แปดของเราก็เต็มแล้ว

    แต่มันเหมือนกับจิกซอร์ ที่ยังไม่ต่อให้ถูกต้อง
    พอเราฟังธรรมข้อนั้นปุ๊บ ก็เปรี้ยงเลย
    เหมือนโดนฟ้าผ่า เราก็ต่อจิ๊กซอร์
    ตามที่เราได้ฟัง ทีนี้พอต่อจิกซอร์เสร็จแล้ว
    เราก็เห็นว่า มรรคที่พาให้เราถึงนิโรธนั้น
    ได้เกิดขึ้นกับเราแล้ว ช่วงนี้แหละที่เรียกว่า
    ได้ดวงตาเห็นธรรม เราจึงเกิดความเชื่อมั่นขึ้นในจิต
    ว่า ถ้าเราปฏิบัติตามที่เราเห็นนั้น
    เราจะสามารถบรรลุธรรมได้
    ความเชื่อมันตรงนี้แหละ ที่ทำให้เรา
    ตัดสังโยชน์สามได้

    พราะฉนั้น พระโสดาบันปัตติมรรค
    ไม่ได้ตัดกิเลสอะไรเลย
    เพียงแค่มีความเชื่อมั่นเต็มร้อยเท่านั้น
    ยังกินเหล้าเมายาได้ตามปรกติของจิต
    แต่ถ้าไปถามว่า ให้เลิกนับถือพุทธแลกกับเงินทองเอาไหม
    พระโสดาบัน จะไม่เอาเด็ดขาด
    แต่ถ้าเป็นศึล ยังกระพร่องกระแพร่ง เท่าขี้เล็บเท่านั้น
    ต่อเมื่อเป็นพระโสดาปัตติมรรคแล้ว
    จิตถึงจะนิ่ง จะสามารถรักษาศึลได้เอง
     
  3. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
  4. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014




    คุณกำลังแกล้งโง่อยู่ใช่ไหมครับ
    แล้วก็ หลอกให้คนอื่นมาโพสต์ไว้
    แล้วก็หาจุดอ่อนในนั้น
    แล้วก็เอา เขามาแหกอกประจานว่า
    ธรรมะของ ผู้ที่โพสต์ ยังไม่เท่าของคุณ


    ถ้าไม่เช่นนั้น คุณไม่รู้ธรรมเลย เป็นจริงหรือครับ
    แต่ถ้ารู้ ก็แสดงออกมาได้เลย ไม่ต้องใครว่า
    ผู้รู้ธรรม ก็ต้องแสดงธรรมบ้าง กันคนครหา

    และที่บางครั้ง ผมเว้นระยะไว้
    รอให้คนอื่นมาคอมเมนต์แทน
    เพราะว่า ผมจะคอยดูว่า
    มันสำคัญจริงๆ หากเป็นหลักโดยทั่วๆไป
    ก็ให้คนอื่นได้แสดงความคิดเห็นมั่ง
    นอกจากว่า คนๆนั้น ขอมา
    ทาง ข้อความส่วนตัว
    อันนี้ ก็อาจจะพิจารณาเป็นพิเศษ ครับ
     
  5. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014






    ผมคือ nilakarn หรือ ืniakarn เท่านั้น
    ไม่ได้ใช้นามอื่น นอกจากนี้ครับ


    และ ขอชี้แจง อย่างนี้ว่า
    ผมจะคอยฟันธง ตามประสพการณ์ของผมเอง
    ไม่ได้ไปหยิบของคนอื่นมา
    แต่ถ้าอันไหนที่หยิบมา ผมจะแจ้งว่า
    อันนี้เอามาจาก หรือ ของใคร

    เพราะฉนั้น เมื่อผมบอกเป็นนัยๆ แล้ว
    บุคคลที่เข้าใจได้ เค้าก็จะเข้ามาโพสต์อธิบาย
    ตามปัญญาของเค้าครับ ส่วนคุณหรือคนอื่น
    จะเข้าใจได้ไหม ก็แล้วแต่ บุญวาสนา ครับ
     
  6. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nilakarn อ่านข้อความ
    ท่านต้องศึกษา กาลามะสูตรให้ดี
    ให้เข้าใจเสียก่อน

    เมื่อเข้าใจดีแล้ว ก็ต้องศึกษา สังโยชน์10

    เมื่อเข้าใจดีแล้ว ค่อยมาถามต่อ
    จะได้ไม่สับสน





    อ้างอิง:
    ท่านต้องศึกษา กาลามะสูตรให้ดี
    ให้เข้าใจเสียก่อน







    เมื่อเข้าใจกาลามะสูตรแล้ว
    ต่อไป ก็ภาคปฏิบัติของ กาลามะสูตรครับ


    เริ่มจากตัวคุณเองต้องฝึกสนทนาธรรม
    แล้วแยกให้ได้ว่า อะไรคือธรรมะที่เราต้องศึกษา ควรคิด ควรทำ
    อันไหนคือ ธรรมะ ที่เราไม่ต้องศึกษา ไม่ควรไปคิด ไม่ควรทำ

    สนทนาตอบโต้ในธรรมบ่อยๆ
    จะเกิดปัญญาเฉลียวฉลาดในธรรม
    ไม่ถูกหลอกง่ายๆ จะรู้ว่า
    ธรรมอันไหน เป็นกุศลธรรม
    ธรรมอันไหน เป็น อกุศลธรรม
     
  7. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014





    ผม ไม่ใช่ มังคละมุนี ครับ
    เต็มสิบยัง
     
  8. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    เนวสัญญานาสัญญายตนฌานจิต คือ
    ตอไม้ที่ไม่รับรู้ ถึง ความไม่มีอะไรเลย

    จริงไหม
     
  9. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 พฤษภาคม 2015
  10. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ขณะที่นั่งไป มันไม่รู้สึกปวดรู้สึกเมื่อย จิตสว่างโพลง อย่างนี้ก็เป็นนิโรธสมาบัติ จิตต้องตั้งไว้เพื่อนิพพานโดยเฉพาะ คือว่า จิตตั้งไว้โดยเฉพาะที่ใดที่หนึ่ง จิตแยกจากประสาทเด็ดขาด ไม่รู้เรื่องของร่างกาย เป็นฌาน ๔ อย่างนี้เป็นนิโรธะอย่างหนึ่ง และอีกอย่างหนึ่ง เมื่อจิตเข้าถึงฌาน ๔ แยกออกจากกายแล้ว จิตอารมณ์มีความสงัด หลังจากนั้นก็ท่องเที่ยวไปในภพต่าง ๆ ไปสวรรค์บ้าง ไปพรหมโลกบ้าง ไปนิพพานบ้าง พ้นไปเสียจากร่างกาย ไม่รู้สึกปวดรู้สึกเมื่อย มันก็เป็น นิโรธสมาบัติเหมือนกัน ทั้ง ๒ อย่างนี้จะใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้




    โอ นิโรธสมาบัตินี่
    ทำไมง่ายดายจังครับ
    มีใครอยากจะแย้งไหม
    ผมจะได้ไปฝึกไว้


    แค่ถอดจิตออกจากกายไปท่องเที่ยว
    อันนี้ง่ายดีครับ แต่ที่มันยากก็คือ
    ต้องนั่งเป็นวันๆ อันนี้ ยาก
    แต่เคยเห็น เณรน้อยที่ขอนแก่นทำได้ 3 วัน
    เมื่อปี 2540 ที่ สวนเวฬุวัน ขอนแก่น
    แต่เป็นเณรที่เรียนอยู่ที่วัดศรีนวล
    ซึ่งมาปฏิบัติธรรมทุกๆ ปีที่สวนเวฬุวัน
    หากจะสอบถาม ก็คงจะมีรูปอยุ่ที่ วัดศรีนวล แน่นอน

    อาการที่จิตสว่างโพลง
    อันนี้เป็นบ่อยๆ ครับ
    เหมือนๆ กับ สามโลกธาตุ
    สว่างจ้าไปหมด
    ตอนแรกคิดว่า เป็นเพราะ
    ฝึกกสินแสงสว่างมากเกินไป
     
  11. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014






    เนวสัญญานาสัญญายนะ
    ตัวนี้ ไปเหมือนกับอาการของวิปัสสนา
    เรื่อง อนัตตา คือ ไม่มีตัวตน
    คนที่เคยฝึกวิปัสสนา
    ย่อมง่ายที่จะฝึก เนวสัญญา


    การฝึกก็คือ ต้องตั้งจิตให้เหมือน
    ตอนที่ฝึกวิปัสสนา เนวสัญญา ก็ไม่ยาก
     
  12. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    เนวสัญญานาสัญญายตนฌานจิต คือ
    ตอไม้ที่ไม่รับรู้ ถึง ความไม่มีอะไรเลยจริงไหม

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 พฤษภาคม 2015
  13. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    เนวสัญญานาสัญญายตนฌานจิต คือ
    ตอไม้ที่ไม่รับรู้ ถึง ความไม่มีอะไรเลย

    จริงไหม

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 พฤษภาคม 2015
  14. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    เนวสัญญานาสัญญายตนฌานจิต คือ
    ตอไม้ที่ไม่รับรู้ ถึง ความไม่มีอะไรเลย

    จริงไหม





     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 พฤษภาคม 2015
  15. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    เนวสัญญานาสัญญายตนฌานจิต คือ
    ตอไม้ที่ไม่รับรู้ ถึง ความไม่มีอะไรเลย

    จริงไหม





     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 พฤษภาคม 2015
  16. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014






    สภาวะอารมณ์เบื่อหน่ายตัวเองอย่างสุดๆ

    อันนี้เค้าเรียก นิพพิทาญาน
    ต้องใช้ให้ถูก แต่มันสลับไปมา
    กับอารมณ์ที่เราอยากจะฆ่าตัวตาย
    กับเบื่อในสังขาร
    เพราะถ้าหากทรงอารมณ์ไม่ถูก
    แทนที่จะเป็นนิพพิทาญาน
    กับเป็นการอยาก ฆ่าตัวตายไปงั้น

    ส่วน เนวสัญญา เป็น อรูปพรหม ครับ
    แต่ผมก็ไม่ได้ตำหนิ อรูปพรหม นะครับ
    แต่อยากจะรู้กับผู้ที่เคยทรงได้ว่า
    อารมณ์ของ อรูปพรหม ขั้น เนวสัญญา
    มันเป็นยังไงกันแน่
    ถ้าเราไม่รู้อารมณ์ของ ญาน
    เราจะฝึกได้ยังไง
    หากฝึกมั่วๆ ตามกันไป
    แล้วเราจะรู้ได้ยังไง
    ว่า ของใครถูก ของใครผิด
     
  17. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nilakarn อ่านข้อความ
    สภาวะอารมณ์เบื่อหน่ายตัวเองอย่างสุดๆ

    อันนี้เค้าเรียก นิพพิทาญาน
    ต้องใช้ให้ถูก แต่มันสลับไปมา
    กับอารมณ์ที่เราอยากจะฆ่าตัวตาย
    กับเบื่อในสังขาร
    เพราะถ้าหากทรงอารมณ์ไม่ถูก
    แทนที่จะเป็นนิพพิทาญาน
    กับเป็นการอยาก ฆ่าตัวตายไปงั้น

    ส่วน เนวสัญญา เป็น อรูปพรหม ครับ
    แต่ผมก็ไม่ได้ตำหนิ อรูปพรหม นะครับ
    แต่อยากจะรู้กับผู้ที่เคยทรงได้ว่า
    อารมณ์ของ อรูปพรหม ขั้น เนวสัญญา
    มันเป็นยังไงกันแน่
    ถ้าเราไม่รู้อารมณ์ของ ญาน
    เราจะฝึกได้ยังไง
    หากฝึกมั่วๆ ตามกันไป
    แล้วเราจะรู้ได้ยังไง
    ว่า ของใครถูก ของใครผิด



     
  18. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014







    แต่ผมเป็นคนที่ได้ นิพพิทาญาน
    ผมจึงเข้าใจได้ว่า มันเป็นยังไง
    มันเป็นญานที่เกิดกับนักวิปัสสนา
    ที่ฝึกจนเห็นผลในระดับหนึ่ง
    จะเกิดมากๆ กับผู้ที่เล่นอยู่กับอสุภะ ครับ


    เมื่อจิตเกิดนิพพิทาญาน
    ย่อมจะหาทาง ที่จะออกจากภพภูมิ
    การที่จะตัดวงจร ปกิจสมุปบาท
    ต้องเริ่มจากตรงนี้
    ใคร่ครวญในใจอยู่เสมอ
    หาเหตุ และ ผล มาหักล้างกันให้ได้
    เมื่อหักล้างกันครั้งหนึ่ง
    ย่อมจะละความอยากในภพ ในชาติได้
    เมื่อทำได้บ่อยๆ ความอยากก็จะหมดไปเรื่อยๆ
     
  19. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    เนวสัญญานาสัญญายตนฌานจิต คือ
    ตอไม้ที่ไม่รับรู้ ถึง ความไม่มีอะไรเลย

    จริงไหม



     
  20. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nilakarn อ่านข้อความ
    ผมก็เป็นคน ไม่ได้อยากเป็น อรูปพรหม เหมือนกัน
    แต่จำเป็นต้องศึกษาให้ถ่องแท้ไว้
    เพื่อที่ภายภาคหน้า หากสั่งสอนคน
    จะต้องให้ถูกต้อง ตรงทางที่สุด ของแต่ละคน
    ซื่งจะไม่เหมือนกัน

    และเป็นการ คงการฝึกของอรูป ไว้
    ตามคำสอนของพระองค์
    มิให้ตกหล่น หรือ ตกหายไป
    และเพื่อรองรับ บุคคลที่พร้อมจะฝึก
    แต่ก็คงจะมีน้อยเต็มที





     

แชร์หน้านี้

Loading...