ใครต้องการถามเป็นการส่วนตัว ไปถามที่อื่น กลัวคนอื่นว่าให้มาที่นี่

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nilakarn, 20 เมษายน 2013.

  1. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014





    งั้นผมขอถาม อาจารย์ที่สอนคุณ คือ ใครครับ
    หรือว่า ฝึกสายไหน จนกระทั่ง ถึง อรูปญานที่สี่ ได้
     
  2. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    เนวสัญญานาสัญญายตนฌานจิต คือ
    ตอไม้ที่ไม่รับรู้ ถึง ความไม่มีอะไรเลย

    จริงไหม





     
  3. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014




    ผมไม่ได้บอกว่า
    อาการที่จิตสว่างโพลง
    เป็น เนวสัญญา นะครับ
    มันเป็น สมาบัติ ต่างหาก
     
  4. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nilakarn อ่านข้อความ
    ผมไม่ได้บอกว่า
    อาการที่จิตสว่างโพลง
    เป็น เนวสัญญา นะครับ
    มันเป็น สมาบัติ ต่างหาก






     
  5. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nilakarn อ่านข้อความ
    งั้นผมขอถาม อาจารย์ที่สอนคุณ คือ ใครครับ
    หรือว่า ฝึกสายไหน จนกระทั่ง ถึง อรูปญานที่สี่ ได้





     
  6. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014





    ขอให้หลวงปู่ สอนทำสมาบัติ
    ด้วยการเพ่งที่จุดมโนทวาร หน่อยครับ
    จะได้เอาไว้ฝึกตามครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าครับ
     
  7. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014






    หนังสืออ่านเล่น ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    เล่มที่ 21


    http://www.watthasung.com/wat/forumdisplay.php?fid=101


    เขียนตอนช่วงท้ายๆ ของท่าน
    ตอนที่ท่านจบกิจแล้ว
    แต่ต้องอยู่ต่อไป เพื่อสงเคราะห์ พระสงฆ์ และ ชาวโลก
    ลองเอาไปอ่านเล่นดูนะครับ
    อ่านแล้ว ก็อย่าไปคิดอะไรมาก
    ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า หนังสืออ่านเล่น
    อย่าไปคิดโน้น นี่ นั่น ให้เปลืองสมอง
    เดี๋ยวจะไปกันใหญ่
     
  8. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nilakarn

    ขอให้หลวงปู่ สอนทำสมาบัติ
    ด้วยการเพ่งที่จุดมโนทวาร หน่อยครับ
    จะได้เอาไว้ฝึกตามครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าครับ






     
  9. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nilakarn

    ขอให้หลวงปู่ สอนทำสมาบัติ
    ด้วยการเพ่งที่จุดมโนทวาร หน่อยครับ
    จะได้เอาไว้ฝึกตามครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าครับ





     
  10. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014




    แต่ไม่ลองทำฮา อะไรสักอย่าง


    ตอนนี้ที่ผมทำอยู่ ก็คือ
    การฝึกเข้าสมาบัติ ด้วยผลสมาบัติ
    ขณะที่เข้าไป ผมก็เห็นว่า
    อารมณ์ ของ วิปัสสนาญาน
    มันไปคล้าย อารมณ์ของอรูปเข้า

    ก็เลยเขียนมาถาม
    ท่านทั้งหลายที่ผ่านชั้นนี้มาแล้ว
    ช่วยมาตอบกันหน่อย
    เพื่อทิ้งไว้ ให้เป็นวิทยาทาน
    อันไหนจริง อันไหนไม่จริง
    เดี๋ยวผมเอาไปทำดู
    ถ้าได้ผลยังไง ก็จะมาบอกกัน
     
  11. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nilakarn อ่านข้อความ
    แต่ไม่ลองทำฮา อะไรสักอย่าง


    ตอนนี้ที่ผมทำอยู่ ก็คือ
    การฝึกเข้าสมาบัติ ด้วยผลสมาบัติ
    ขณะที่เข้าไป ผมก็เห็นว่า
    อารมณ์ ของ วิปัสสนาญาน
    มันไปคล้าย อารมณ์ของอรูปเข้า

    ก็เลยเขียนมาถาม
    ท่านทั้งหลายที่ผ่านชั้นนี้มาแล้ว
    ช่วยมาตอบกันหน่อย
    เพื่อทิ้งไว้ ให้เป็นวิทยาทาน
    อันไหนจริง อันไหนไม่จริง
    เดี๋ยวผมเอาไปทำดู
    ถ้าได้ผลยังไง ก็จะมาบอกกัน





     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 พฤษภาคม 2015
  12. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nilakarn อ่านข้อความ
    ขอให้หลวงปู่ สอนทำสมาบัติ
    ด้วยการเพ่งที่จุดมโนทวาร หน่อยครับ
    จะได้เอาไว้ฝึกตามครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าครับ





     
  13. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nilakarn อ่านข้อความ
    แต่ไม่ลองทำฮา อะไรสักอย่าง


    ตอนนี้ที่ผมทำอยู่ ก็คือ
    การฝึกเข้าสมาบัติ ด้วยผลสมาบัติ
    ขณะที่เข้าไป ผมก็เห็นว่า
    อารมณ์ ของ วิปัสสนาญาน
    มันไปคล้าย อารมณ์ของอรูปเข้า

    ก็เลยเขียนมาถาม
    ท่านทั้งหลายที่ผ่านชั้นนี้มาแล้ว
    ช่วยมาตอบกันหน่อย
    เพื่อทิ้งไว้ ให้เป็นวิทยาทาน
    อันไหนจริง อันไหนไม่จริง
    เดี๋ยวผมเอาไปทำดู
    ถ้าได้ผลยังไง ก็จะมาบอกกัน





     
  14. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014



    เพ่งดับ ทำยังไงครับ และ
    ดับตัวรู้ คือดับยังไงครับ

    ส่วนตัว ก็เห็น วิธีนี้ ก็น่าสนใจไปอีกแบบ
    ซึ่งอาจจะเป็นสมถะอย่างเดียว
    หรืออาจมีวิปัสสนาเจืออยู่ด้วย
    เดี๋ยวจะลองทำดูครับ หากว่า
    เข้าใจพอสมควรแล้ว ขอศึกษาก่อนนะครับ
     
  15. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nilakarn
    หนังสืออ่านเล่น ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    เล่มที่ 21


    เขียนตอนช่วงท้ายๆ ของท่าน
    ตอนที่ท่านจบกิจแล้ว
    แต่ต้องอยู่ต่อไป เพื่อสงเคราะห์ พระสงฆ์ และ ชาวโลก
    ลองเอาไปอ่านเล่นดูนะครับ
    อ่านแล้ว ก็อย่าไปคิดอะไรมาก
    ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า หนังสืออ่านเล่น
    อย่าไปคิดโน้น นี่ นั่น ให้เปลืองสมอง
    เดี๋ยวจะไปกันใหญ่





     
  16. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ถ้ำศรีฐาน


    ปรากฏว่ามาวันหนึ่ง อยู่ได้ประมาณ ๕ วัน เมื่อขณะที่เดินจงกรมไป คำว่า จงกรม ก็เดินแบบธรรมดา ๆ ไม่ใช่ค่อย ๆ ยกค่อย ๆ ย่าง ไอ้แบบ ค่อย ๆ ยก ค่อย ๆ ย่าง เขาเป็นเกณฑ์บังคับถือว่าเป็นการฝึกเบื้องต้น ทีนี้การฝึกขั้นปลาย เขาใช้เดินธรรมดา เดินธรรมดา ให้ใจมันพร้อมไปกับเท้า ใจคิดถึงด้านของความดี ไปพร้อมกับเท้าที่ลงเมื่อเดินไป ก็ปรากฏว่า พบพระองค์หนึ่ง สูงใหญ่ ห่มจีวรสีกรัก มีย่ามหนึ่งลูก มีบาตรหนึ่งลูก มีไม้เท้าหนึ่งอัน

    ไม้เท้า ก็คือ ไม้ท่อน ท่านเดินสวนทางมา ไอ้ความรู้สึกมันจะหลอก หรือไม่หลอกก็ไม่ทราบ ความรู้สึกก็นึกว่า พระองค์นี้คงเป็น พระมหากัสสป จิตมันมีความรู้สึกขึ้นเอง พอจิตนึกอย่างนั้น เสียงท่านบอกมา บอก ใช่แล้ว คิดถูกแล้ว ตกใจ เพียงแค่เราคิด ท่านบอกว่า ใช่แล้ว ถูกแล้วก็นั่งลงกราบท่าน ท่านก็นั่งลง

    ถามว่า พระคุณเจ้ามาอย่างไรขอรับ
    ท่านก็บอกว่า ที่มานี่ ก็จะมาเตือนน่ะซิ เห็นมาธุดงค์แบบฉัน ฉันก็พระชอบธุดงค์ เธอก็ชอบธุดงค์ จะได้เล่าเรื่องธุดงค์ให้ฟังสักหน่อยหนึ่ง เลยให้ท่านเล่าให้ฟัง แต่ว่าท่านไม่เล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟัง
    ท่านบอกว่า การธุดงค์ต้องฝึกเข้านิโรธสมาบัติ พอใช้คำว่า นิโรธสมาบัติ เราก็ตกใจคิดว่า คนอย่างเราไม่สามารถจะทำได้

    ท่านบอกว่า คุณอ่านแต่หนังสือไม่เข้าใจ อาจารย์คุณก็ไม่สอน สอนแต่ผลสมาบัติ แต่ความจริง ผลสมาบัติ กับนิโรธสมาบัติมันก็คล้ายคลึงกัน แต่ว่านิโรธสมาบัติ เราจะกำหนดเวลายาวหน่อย ผลสมาบัติเข้าตามเวลา ออกตามเวลาเล็กน้อย นิโรธ แปลว่า ดับ สมาธิ แปลว่า เข้าถึงเข้าถึงความดับทุกขเวทนา นิโรธสมาบัติ เขามีเขตบังคับว่า ต้องใช้ฌาน ๔ เป็นพื้นฐาน แต่พวกคุณเองก็ชำนาญในฌาน ๔ มาแล้วก็ไม่มีอะไรหนักใจ

    แต่ที่ผมพูดนี่ คุณหนักใจ เพราะว่าคุณไม่เคยทำไม่เข้าใจมาก่อน แต่ใช้เวลาน้อย ใช้เวลาเพียง ๑๐ นาทีบ้าง ๒๐ นาทีบ้าง ๓๐ นาทีบ้าง ขณะที่นั่งไป มันไม่รู้สึกปวดรู้สึกเมื่อย จิตสว่างโพลง อย่างนี้ก็เป็นนิโรธสมาบัติ จิตต้องตั้งไว้เพื่อนิพพานโดยเฉพาะ คือว่า จิตตั้งไว้โดยเฉพาะ ที่ใดที่หนึ่ง จิตแยกจากประสาทเด็ดขาดไม่รู้เรื่องของร่างกาย เป็นฌาน ๔ อย่างนี้ เป็นนิโรธะอย่างหนึ่ง

    และอีกอย่างหนึ่ง เมื่อจิตเข้าถึงฌาน ๔ แยกออกจากกายแล้ว จิตอารมณ์มีความสงัด หลังจากนั้นก็ท่องเที่ยวไปในภพต่าง ๆ ไปสวรรค์บ้าง ไปพรหมโลกบ้าง ไปนิพพานบ้าง พ้นไปเสียจากร่างกาย ไม่รู้สึกปวดรู้สึกเมื่อย มันก็เป็น นิโรธสมาบัติเหมือนกัน ทั้ง ๒ อย่างนี้จะใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ แต่ว่ากำหนดเวลาว่า เราจะใช้เวลาสัก ๓ วันหรือ ๕ วัน หรือ ๗ วัน หรือ ๙ วัน หรือ ๑๕ วัน ก็ตามใจชอบเลย


    ถามท่านบอกว่า ถ้าอย่างนั้น เวลาออกจากนิโรธสมาบัติแล้ว จะต้องเหาะไปบิณฑบาต ท่านบอกว่า ไม่จำเป็น พวกคุณยังเหาะไม่ได้ ไม่จำเป็นต้องเหาะ ถึงแม้ว่าเหาะได้ ก็ไม่จำเป็นต้องเหาะ ที่เขาเหาะไปแบบนั้น เขาจะโปรดคนจน คนไหนที่ยากจนมาก แต่ว่ามีศรัทธา ถ้าใส่บาตรกับพระที่ออกจากนิโรธสมาบัติ เพียงครั้งเดียวในชีวิต เขาจะเป็นมหาเศรษฐีในวันนั้น แต่นี่เราเข้าเพื่อเราเอง ไม่จำเป็นต้องเหาะไป พอหลังจากคุณออกจากนิโรธสมาบัติแล้ว

    เทวดา นางฟ้าก็จะเลี้ยงเอง เวลานี้เทวดา นางฟ้าท่านพร้อมแล้วตั้งแต่พรหมลงมา ก็หวังในบรรดาพวกคุณทั้ง ๓ องค์ หวังว่า ต้องการให้คุณทั้ง ๓ องค์ เข้านิโรธสมาบัติ
    ถามว่า ท่านทำบุญแล้ว ท่านจะมีผลเป็นอย่างไร
    ท่านบอก ถ้าทำบุญกับพวกคุณแล้ว จะมีรัศมีกายสว่างขึ้น เทวดา กับนางฟ้า หรือพรหมก็เช่นเดียวกัน ใครมีรัศมีกายสว่างมาก คนนั้น เรียกว่า มีบุญมาก มีบุญญาธิการมาก

    ก็เป็นอันว่า ท่านก็แนะนำว่า วิธีการไม่มีมาก ใช้ตามแบบที่คุณทำอยู่แล้ว อันดับแรก คุณซ้อมน้อย ๆ ก่อน จับตั้งแต่หัวค่ำ ยันสว่างว่า เราจะไม่ถอนสมาธิ ตั้งใจไว้ กำหนดเวลาไว้ ถ้าแสงอรุณขึ้นเมื่อไร ให้จิตตกทันที หรือว่าเราจะใช้ ๒ วัน ๓ วันก็ได้ ทีแรก ๆ เอาแค่น้อย ๆ ก่อน เข้ากันทุกวัน พอถึงตอนเย็นปั๊บ อาบน้ำอาบท่าเสร็จเข้านิโรธสมาบัติ เป็นอันว่า ใช้นิโรธสมาบัติตอนกลางคืน กลางวันนอน กลางวันกินข้าวเวลาเดียว เทวดาเลี้ยงแล้ว เราก็นอน ใช้อย่างนี้สะดวกดี หรือถ้านาน ๆ หนัก ๆ เข้า ถ้ารำคาญ วันเดียวไม่เอาลอง ๒ วัน ลอง ๓ วัน ลอง ๔ วัน ลอง ๕ วัน ลอง ๗ วันก็ได้ ตามใจชอบ

    ก็ยอมรับท่านว่า อย่างพวกผม ๓ องค์นี่ทำได้นะขอรับ
    ท่านบอกว่า อย่าย้ำซิ ฉันพูดแล้ว ต้องเป็นไปตามนั้น
    ท่านบอกว่า ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะกลับละนะ ฉันหมดห่วง ที่มานี่ห่วงเพียงเท่านี้สงสารเทวดา นางฟ้าท่าน ท่านพร้อมอยู่แล้ว

    พวกเราก็มีความรู้ใหม่ว่า การเข้านิโรธสมาบัติ ก็ไม่จำเป็นต้อง ๗ วัน ๑๕ วันเสมอไปก็เรียกว่า เข้ากันทุกวัน และมันก็ดีที่สุด พอพลบค่ำปั๊บ อาบน้ำอาบท่าเสร็จ ทำวัตรสวดมนต์เสร็จ ทำวัตรสวดมนต์ก็ใช้เวลาไม่มาก ก็เริ่มเข้านิโรธสมาบัติ จับพั้บ จับอานาปานสติ ก็ไม่ต้องใช้เวลามาก ใช้เวลาเพียงครึ่งนาที จิตก็เข้าถึงฌาน ๔ เต็มกำลัง ในตอนต้น ก็ตั้งอารมณ์เฉพาะจุดก่อนหลังจากนั้น ก็ท่องเที่ยวไปตามภพต่าง ๆ ตั้งใจว่า ถ้าสว่างจะให้จิตตกจากสมาธิ บางทีเราเที่ยวเพลินไป พอจะสว่าง เทวดาก็เตือนว่า สว่างแล้วครับ

    หลังจากนั้นลงมา เทวดา นางฟ้าก็มาใส่บาตร คราวนี้ท่านไม่แต่งตัวเป็นคนแล้ว ท่านมาเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า มีเครื่องเต็มยศออกมาเลย ท่านมากันมาก ข้าวที่ท่านใส่ รู้สึกว่ามาก แต่ก็กินพอดีหมดไม่เหลือก็รวมความว่า ทำแบบนี้ตลอดมา ตั้งแต่เดือน ๖ ข้างขึ้นจนกระทั่งถึงเดือน ๘ ข้างขึ้น พอถึงขึ้น ๘ ค่ำเดือน ๘ ก็เดินทางกลับการเดินทางกลับ บรรดาท่านพุทธบริษัท เขตนี้ทราบภายหลังว่าเป็นเมือง ขอนแก่น จากเมืองขอนแก่น มาถึง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยานี่ เวลานี้ถ้าเดินกัน จะต้องถึงหนึ่งเดือน

    แต่ว่าพวกเราใช้เวลาเดินแค่ ๓ วัน วันแรกรู้สึกว่าเดินมาเรื่อย ๆ ในป่า วันที่สองก็เดินมาเรื่อย ๆ ตามธรรมดา ๆ กลางคืนก็หลับตามทาง ปักกลด พอคืนที่สาม ปรากฏว่าตื่นขึ้นมาอยู่หลังวัด ไม่ทราบว่ามาได้อย่างไรก็ตกใจ
    ถามท่านอินทกะว่า ทำไมถึงมาถึงได้เร็วอย่างนี้ มันมาอย่างไรเมื่อคืนนี้หลับ
    ท่านบอกว่า โยมคุณ ท่านเกรงว่า คุณจะเข้าพรรษาไม่ทัน ท่านเลยใช้อำนาจเทวานุภาพ บันดาลให้มาอยู่หลังวัด

    ก็กราบท่าน เมื่อกราบในที่ว่าง ก็ปรากฏภาพองค์ท่านขึ้นมาพอดี ท่านบอกว่าคุณทำอย่างนี้ให้ดีทุกปีนะ โยมจะดีใจมาก เทวดา และนางฟ้าก็ดีใจมาก เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัท เป็นอันว่า เมื่อกลับถึงวัดแล้วก็เข้าพรรษา เวลานี้ เวลาเหลือเพียง ๔๐ วินาที ขอลาก่อน
    สวัสดี
     
  17. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ท่านบอกว่า คุณอ่านแต่หนังสือไม่เข้าใจ อาจารย์คุณก็ไม่สอน สอนแต่ผลสมาบัติ แต่ความจริง ผลสมาบัติ กับนิโรธสมาบัติมันก็คล้ายคลึงกัน แต่ว่านิโรธสมาบัติ เราจะกำหนดเวลายาวหน่อย ผลสมาบัติเข้าตามเวลา ออกตามเวลาเล็กน้อย นิโรธ แปลว่า ดับ สมาธิ แปลว่า เข้าถึงเข้าถึงความดับทุกขเวทนา นิโรธสมาบัติ เขามีเขตบังคับว่า ต้องใช้ฌาน ๔ เป็นพื้นฐาน แต่พวกคุณเองก็ชำนาญในฌาน ๔ มาแล้วก็ไม่มีอะไรหนักใจ

    แต่ที่ผมพูดนี่ คุณหนักใจ เพราะว่าคุณไม่เคยทำไม่เข้าใจมาก่อน แต่ใช้เวลาน้อย ใช้เวลาเพียง ๑๐ นาทีบ้าง ๒๐ นาทีบ้าง ๓๐ นาทีบ้าง ขณะที่นั่งไป มันไม่รู้สึกปวดรู้สึกเมื่อย จิตสว่างโพลง อย่างนี้ก็เป็นนิโรธสมาบัติ จิตต้องตั้งไว้เพื่อนิพพานโดยเฉพาะ คือว่า จิตตั้งไว้โดยเฉพาะ ที่ใดที่หนึ่ง จิตแยกจากประสาทเด็ดขาดไม่รู้เรื่องของร่างกาย เป็นฌาน ๔ อย่างนี้ เป็นนิโรธะอย่างหนึ่ง

    และอีกอย่างหนึ่ง เมื่อจิตเข้าถึงฌาน ๔ แยกออกจากกายแล้ว จิตอารมณ์มีความสงัด หลังจากนั้นก็ท่องเที่ยวไปในภพต่าง ๆ ไปสวรรค์บ้าง ไปพรหมโลกบ้าง ไปนิพพานบ้าง พ้นไปเสียจากร่างกาย ไม่รู้สึกปวดรู้สึกเมื่อย มันก็เป็น นิโรธสมาบัติเหมือนกัน ทั้ง ๒ อย่างนี้จะใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ แต่ว่ากำหนดเวลาว่า เราจะใช้เวลาสัก ๓ วันหรือ ๕ วัน หรือ ๗ วัน หรือ ๙ วัน หรือ ๑๕ วัน ก็ตามใจชอบเลย








     
  18. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nilakarn อ่านข้อความ
    เพ่งดับ ทำยังไงครับ และ
    ดับตัวรู้ คือดับยังไงครับ

    ส่วนตัว ก็เห็น วิธีนี้ ก็น่าสนใจไปอีกแบบ
    ซึ่งอาจจะเป็นสมถะอย่างเดียว
    หรืออาจมีวิปัสสนาเจืออยู่ด้วย
    เดี๋ยวจะลองทำดูครับ หากว่า
    เข้าใจพอสมควรแล้ว ขอศึกษาก่อนนะครับ





     
  19. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Saber อ่านข้อความ
    จัดเจน เคนะ จขกท ก็อย่าไป เข้าใจผิดๆ คิดเองเออเองว่า ตัวเองเข้า นิโรธ ได้เพราะ อาการที่จิตสว่างโพลง ละครับ


    "นิโรธสมาบัติ" ได้นั้น พระบาลีระบุว่า
    "ต้องเป็นพระอนาคามีและพระอรหันต์" เท่านั้น ต่ำกว่านั้นไม่สามารถเข้าได้


    ยกเว้นแต่ว่า จขกท จะยกตัวว่า เป็น พระอริยเจ้า ก็ปล่อยไปตามกรรม ^^

    บอกตรงๆ ไม่ใช่เห็นว่า จิตสว่างโพลง ก็ไปจำ copy นำมาใช้กับตัวเอง

    ตัวเอง จิตของใคร จิตของ พระอริยเจ้าไหม แล้วดันมาใช้กับตัวเอง

    แนะนำได้เท่านี่ละ คงพิจารณาด้วยตัวเองได้นะครับ




    ถูกต้องแล้วครับ
    อย่ามาสนใจผมเลย
    ว่าผมเป็นอะไร

    ให้สนใจแต่ตัวคุณดีกว่า
    ว่าคุณถึงขั้นไหนแล้ว
    ตนแล ย่อมเป็นที่พึ่งแห่งตน
    จะมามัวแต่สนใจคนอื่นอยู่ทำไม
     
  20. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,606
    ค่าพลัง:
    +3,014




    แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า
    อันไหนเรียก สุข อันไหนเรียก ทุกข์

    แล้วอะไรเรียกว่า สู้กับสุขทุกข์ที่เริ่มเกิด ครับ
    ช่วยบอกอาการหน่อย
     

แชร์หน้านี้

Loading...