ใครถึงนิพพานมาเป็นอาจารยํลุงที

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมแท้ว่าง, 11 กุมภาพันธ์ 2019.

  1. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    กิริยาคุณ Supop เด่วส่วนตัวเล่า
    ให้ฟังแล้วกันครับ
    ปกติแล้ว กิริยาที่กล่าวมา
    พวกกลุ่มที่มีญานวิถี
    ที่ไปแนวๆผู้โปรด จะเข้าใจ
    กันเป็นปกติครับ

    กิริยาที่ขยายไปแบบไร้ขอบเขต
    หรือหาขอบไม่ได้ นั่นหละเค้าเรียกว่า

    กิริยาที่จิตคลายตัวเอง
    เพราะถ้ามีขอบแสดงว่ายังทีตัวกระทำ
    พอมันคลายตัวได้แล้ว

    ลำดับต่อมา จิต
    มันก็จะค่อยๆกลับคืน
    สู่เนื้อหาเดิมแท้ของมันเองครับ

    เนื้อหาเดิมแท้ของมัน ก็คือ
    สิ่งที่จิตเคยได้สร้างสะสมมาในอดีตนั่นเอง
    ขึ้นอยู่กับว่า จะเป็นทางด้านไหน

    ผลที่เข้าใจเบื้องต้น ณ ปัจจุบันก็คือ
    มันจะ กลายเป็นองค์ความรู้
    ความเข้าใจขึ้นมา
    ในระดับที่ลึก ละเอียดลงไป
    ในด้านนั้นๆ(สิ่งที่มันเคยสะสมมา
    มันค่อยๆขึ้นมาเพราะการคลายตัวของจิต). บางครั้งเราก็เรียก
    กิริยาแบบนี้ว่า
    ญานวิถี หรือวิถีญาน ก็ได้
    แตกต่างกันที่ความละเอียดครับ
    ซึ่งเป็นผลมาจาก ระยะเวลาที่จิต
    คลายตัวเองได้นั่นเองครับ
    หลักสังเกตุ แค่ไม่กี่วินาทีที่เกิด
    บางครั้งอาจจะต้องเขียนหลายหน้า
    กว่าจะเขียนบรรยายในสิ่งที่รู้ได้หมดครับ

    ซึ่งหลักสังเกตุกิริยาตรงนี้คือ
    มันเป็นองค์ความรู้
    แบบไม่มีตัวกระทำให้มันเกิด คือพ้น
    การที่มี ตัวสมาธิ ตบะ ฌาน ฌาน กำลังจิต
    ความชำนาญในการเข้าไปกระทำ หรือแม้กระทั่งตัวจิตเอง ที่เข้าไปกระทำครับ

    พูดง่ายๆคือแบบธรรมชาติ
    หรือ อัตโนมัติ
    ของมันเองครับ
    บางครั้งก็เรียกว่า
    เป็นกริยา จิตเหนือจิต
    เพื่อเป็นภาษาเรียกทางโลก

    กิริยาพวกนี้ ในช่วงแรกๆที่เกิดได้
    อาจจะติดผลของกิริยา ที่มันเริ่มคล้ายตัว
    เองมาได้บ้างเป็นเรื่องธรรมดา เช่น
    กิริยา โล่ง โปร่ง เบา คลาย สบาย
    สุดท้ายตามด้วยการดับ
    เพราะสิ้นความสงสัย. กิริยาพวกนี้จะเกิดได้
    โดยเฉพาะบริเวนหน้าอก จนส่งผลไปที่กาย
    จะบอกว่ามันเป็นกิริยาที่เป็นปกติครับ

    ระดับโปรดซีรี่ย์ ระดับที่ตีตัววิญญาณแตก
    ระดับท่านที่ตัดขันธ์ ๕ ได้ขาด
    กริยาแบบนี้ แทบจะเป็นปกติ
    ได้ทั้งวันเป็นเรื่องธรรมดาครับ

    ทำให้ความสามารถท่าน ปรูดปร้าด
    ถามอะไรตอบได้หมด รู้ลึกรู้ละเอียด
    แบบไม่ต้อง มีลีลาหรือ
    ท่าทางอะไรประกอบนั้นหละครับ

    การพัฒนาในกิริยานี้ ต่อไปคือ
    ให้มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
    ของมันเองต่อไปครับ

    ของคุณ Supop ที่เกิดเพราะ
    การมาตั้งหลักใหม่ มันเลยเหมือน
    การไปตัดตัวรู้ ตัวตั้งใจ ตัวเจตนา
    ที่เข้าไปทำ ซึ่งมันยังส่งผลให้เป็นไปตาม
    จริต อนุสัย วิบาก อย่างหนึ่งอย่างใดอยู่

    มันก็เลยกลายเป็นการไม่อะไรๆกับมัน
    ถึงตรงนี้ จิตเลยคลายตัว เพราะมันตัด
    ตัววิญญาณตรงนี้ออกไปได้นั่นเอง
    แบบไม่ได้ตั้งใจครับ


    แล้วเกิดจังหวะ To be continued
    เพราะการคลายตัวของจิตแบบไร้
    ขอบเขต จิตมันย่อมไม่อาศัยเกาะกาย
    ชั่วคราว แต่ด้วยทุนเดิม จากกำลังสมาธิ
    จึงไม่ส่งผลผละกระทบกับการในทาง
    ไม่ดีอะไร


    แต่พอมาเสริมด้วยการให้(แผ่เมตตา)
    แบบไม่อะไรกับอะไร เพราะมันกระทบชิ่ง
    มาจากจิตที่คลายตัวได้ การให้เลยผลิกเป็นการให้ แบบที่เรียกว่า
    ให้แบบไร้ๆ คือ ไร้เชื้อที่ทำให้ผู้รับ
    ยังมีการเวียนว่ายตายเกิด
    หรือการเกิดดับอยู่ มันจึงเปรียบเสมือน
    เป็นการกระทำที่เข้าสู่สภาวะไม่เกิด
    แบบชั่วคราว.

    หรือไร้ทั้งกาย ไร้ทั้งจิต
    ไร้ขอบเขต


    แต่ปัญหาก็คือ สภาวะนี้ โดยปกติจะเข้าได้
    ธาตุที่รวมเป็นร่างกาย มันจะต้อง
    แตกดับก่อนไปก่อน หรือกลับคืน
    สู่ธรรมชาติเดิมของธาตุนั้นๆ

    ดังนั้นเมื่อเราเสมือนเข้าไปทางนามธรรม
    ธาตุที่รวมเป็นรูปธรรมอยู่ก็เลยฟอร์ม
    ก่อนที่จะสู่ สภาวะคืนตัวของมัน
    เช่นกันครับ. ก็เลยรู้สึกว่ามันจะแตกสลาย
    นั่นเอง. บางคนถึงกับสลบ
    เป็นวันๆเลยก็มีนะครับ

    ซึ่งกิริยาพวกนี้ ก็ถือว่าเป็นธรรมดา
    เช่นกันครับ. นี่เองเป็นเหตุให้มีการสะสม
    กำลังสมาธิ กำลังจิต เพื่อสร้างภูมิต้านทาน
    ในด้านนี้นั่นเองครับ

    คลายตัวเองบ่อยๆ มันจะกลายเป็นบารมี
    ที่ว่า กว้างใหญ่ต่างกัน ก็ขึ้นอยู่กับ
    บารมีของจิตดวงนั้นๆนั่นเองครับ

    ปล เจอกิริยานี้ได้ถือว่าดีแล้วหละครับ
    พวกนี้จะพัฒนาจากหลัก
    วินาทีทั้งนั้นหละครับ
    การรับรู้ ความละเอียดในญานวิถี
    ของแต่ละดวงจิต ต่างกันตรง
    ธรรมชาติของจิตในการเข้าถึง
    สภาวะการคลายตัวเองได้
    ของมันเองนั่นหละครับ

    มันต้องอาศัยทั้งสมถะ และวิปัสสนา
    ร่วมกัน ในระดับที่สมดุลย์
    ถึงจะอยู่ในสภาวะปกติ
    ใช้ชีวิตได้ปกติเหมือนคนทั่วไปครับ


    ทั้งหมดนี้
    ถือว่าเล่าให้ฟังเล่นๆนะครับ
     
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,301
    ค่าพลัง:
    +12,628
    หาฟังธรรมต่อไป เจริญสติสัมปชัญญะ
    สวดมหาจักรพรรดิํ
    แผ่เมตตาไปพลางๆ
    จนกว่าจะเจอผู้มาจูงมือ... ฮับ
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,301
    ค่าพลัง:
    +12,628
    ศรัทธาง่อนแง่นกับศรัทธาที่มั่นคง
    ต่อพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆเจ้า
    จะวัดกันด้วยมโนกรรม หรือพฤติกรรม
    หรือทั้ง 2 อย่าง
    และแค่ไหนเพียงไรฮับ
     
  4. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,805
    ค่าพลัง:
    +7,940
    พูด ธรรม ไม่ชัด

    แผ่ เมตตา พุทธ กับ แผ่เมตตา
    แบบ บ้านๆของชาวบ้าย(นอก
    ศาสนา) ไม่เหมือนกัน

    แผ่ เมตตา พุทธ จะ กลั่นออกจาก
    ญานกำหนดรู้อริยสัจจสี่ คือ รู้ทุกข
    จากการมีภพ ชาติ

    เปน สุญญตา ไม่ใช่ สภาพสัตว์
    พูดให้ เทห์ก้คือ เปน กริยาจิต
    พูดให้ต้องตำรา ก้ อัปปมัญญา


    แผ่เมตตาพุทธ กาย จิต จะ
    สลาย ไม่มีความเปนตน ตั้งแต่
    ฐานราก แล้ว แผ่เผยสภาพธรรม
    นั้นออก เหมือนแผ่อำนาจกสิณ
    อิทธิวิธี .....โดยที่ ไม่เบียดเบียน
    สัตว์ที่ยังติดข้องในกายในจิต จะ
    ข้ามไป แผ่ถึงเหล่าสัมมาทิฏฐิ
    เท่านั้น ไม่แผ่มั่วชั่ว ขี่หัวเขา

    นะ

    ที่ พูด ธรรม ไม่ชัด เพราะ เปน
    พวก กายสักขีปฏิปทา เวลาจะ
    วัดผลอะไร ชอบเอา กายมาตรวจ

    กาย ที่เอามาตรวจ หากไปเอา
    กายที่เปนรูปมาตรวจ จะคาอยู่ที่
    ปิติ สุข ให้ผลไม่เกินกายรูป(เว้น
    แต่จะเกิด วิภวตัณหา กระโดดกัด
    พาลากไป)

    ถ้าเฝ้น นามกาย ได้ จะเลย
    รูปวจร ขึ้นไป

    ถ้าเหน นามกาย ได้(ว่าเปนทุกข์)
    จะไม่เข้าไปิติด รูปวจร อรูปวจร
    จะโคจรไปแบบ สัมผัสอยู่ แต่ไม่
    เสพ ไม่พะวงประมาทไปนั่งประมาณ
    รสชาติให้เสียเวลา

    ติ๊ง....อบไก่เสร็จพอดี ไปทำกับข้าวต่อแระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2019
  5. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,805
    ค่าพลัง:
    +7,940
    เอา ไก่ลง กระทะเสะ ก้ มาต่อ...

    หากเคยอ่านตำรา จิต พระพุทธฯ
    พระปัจเจก สาวกอสีติ สาวก( และ
    รัตนโกสินสกสาวก )จะต่างกันตรง
    ไหน

    ต่างกันตรงที่ หากมีสัตวติดข้อง
    ทุกข์อยู่อีกฝากฝั่งของมหาสมุทร

    สาวก จะ นั่งพิจารณาก่อน หายไป
    หนึ่งชั่วโมงแล้ว จึง ว่ายน้ำข้าม
    มหาสมุทร ไปประคองช่วย

    อสิติ คิดนิดเดียว

    ปัจเจก เหนจิตเหนใจขยับ

    พระพุทธฯ ลงไปแหวกว่าย
    ไปปู้นแล้วมือเนี่ยะ ส่งไปหาแล้ว
    แต่คนว่ายเนี่ยะทั้งจิกหัว ถีบ
    เตะ ใส่ สารพัด...เหนตำรา
    ละด่าเช็ด!

    เหน บาลีมา ด่ายันโคตะระ.พ.ม
    .. ภาษาเฮียอะไร ใช่เวลา มะอึง
    มาพูดกะkuไหม ดูคนอื่นเขาสอน
    บ้าง เขามีภาษาเข้าใจง่าย....
     
  6. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    เข้าถึงพระนิพพานง่าย ๆ ไม่เห็นจะยาก


    ใครอยากจะไปนิพพานก็ดู clip ข้างบนนี้ได้เลยครับ อนุโมทนาครับ
     
  7. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,301
    ค่าพลัง:
    +12,628
    การแผ่เมตตาตามศาสตร์หลวงปู่ดู่
    พรหมปัญโญพระโพธิสัตว์
    แห่งแห่งวัดสะแก อยุธยา
    โดยอาศัยบารมีและกำลังจิต
    จากท่านผ่านใจเรา
    ซึ่งต่างกันมากกับการใช้กำลังจิตของเราอย่างเดียวอาจแผ่ไม่ออกฮับ
     
  8. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,805
    ค่าพลัง:
    +7,940
    คิดุดิ...

    ถะหะว่า ยะคุแมวเซเวียน คืนึง
    ฝะปาว่า..เหนใครไม่รู้ ชุดส้มๆ
    เดินมา...แล้วกล่าวกะเขาว่า

    "ยังกิญจิ สมุทยธัมมัง
    สัพพันตัง นิโรธธัมมัง ..."

    แกตื่นมา คงระลึกไป พยธ
    ซะกะละมัง

    แต่ถ้าเปน ....... แช่ง เลย ไม่
    ก้ว่า ทุ๊ด! ไม่กล้า พูดไทย

    แล้วถ้าเปน มุแมมมง ....ดาเชะ
    โค พ โค ม ไม่มา จูง กุ เดิน วะ
    อายเฮีย!
     
  9. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ฟังคลิปแล้ว ...ตลกดี.....ว่าเวลาจะตายให้นึกไปนิพพาน แล้วได้ไป....55555555...ถ้าง่ายขนาดนั้น พระพุทธเจ้า ท่านก็คงไม่ต้องแสดงธรรมอะไรมากมายแล้วล่ะ...แค่เวลาจะตายให้นึกเอาว่าจะไปนิพพานก็จะได้ไป....โห เก่งกว่าพระพุทธเจ้าเสียอีก...ลัทธิ ลัดดิ อะไรครับเนี่ย..?
     
  10. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    มีลุงแมว กดอนุโมทนาด้วย...อย่างนี้คงได้คนจูงมือไปนิพพานแบบง่ายๆแล้วล่ะ...เพราะแค่นึกว่าจะไปนิพพานก่อนตาย..ก็ได้ไปเองง่ายๆ...คงถูกใจลุงแมว....จะได้ไม่ต้องปฏิบัติสติปัฏฐานอะไรให้มันยุ่งยาก...555...นิพพานอะไรมันจะง่ายปานนี้
     
  11. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ตัวเองมีบาปหนาหรือเปล่า...จึงแผ่ไม่ออก...แค่แผ่เมตตามันจะไปยากอะไร ทำไมต้องไปอาศัยอ้างชื่อคนอื่นด้วยในการทำกุศล...ไร้สาระสิ้นดีเลย คิดแบบนี้
     
  12. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    5555..มันมีพวกสาปแช่งแบบนี้ด้วยหรือครับ....อืม..แปลกนะ มีแบบนี้ด้วย.พึ่งเคยได้ยิน
    ระดับที่ ถึงนิพพานแล้วจะมาโดนคนอื่นสาปแช่งได้นี่..ฟังแล้วมัน โจ้ก ดีนะ ...คนที่ถึงนิพพานจริงๆ เขาคงไม่มากลัวตายแล้วล่ะครับ

    จะมีก็แต่ การชำระกรรมให้มันหมดสิ้นไปเป็นชาติสุดท้าย เท่านั้นแหล่ะ..ฝว่าแต่..มีใครบ้างล่ะ ที่ไม่ตาย จะกลัวตายทำไม เรื่องแค่นี้ครับ
     
  13. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,301
    ค่าพลัง:
    +12,628
    5555ไหนแผ่เก่งนัก
    แผ่โชว์หน่อนดิ่ แผ่ให้ อ.ปังมันมีความ
    สุขที่อยู่เงียบๆ หน่อยจิ๊
     
  14. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,301
    ค่าพลัง:
    +12,628
    มันต้องฝึก เป็น 10 ปี 20 ปีไม่ใช่จะมานึกก่อนตขาดใจแล้วจะทำได้สำเร็จ
    เพราะจิตมันชินกับกระแสทางโลก
    และวิบากกรรมที่สะสม
    มา
    ตั้งร้อยชาติพันชาติ
    มันตัดฉับฉับไม่ได้ ฮับ
     
  15. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ยินดีด้วยกับนักดูจิต...ที่เฝ้าดูจนรู้ทันสภาวะความเปลี่ยนแปลงของจิตของตนเอง
    สภาวะที่จิตขยายออก ระเบิดออกจากที่เคยอยู่ในร่างกายมานาน อยู่กับโลกนี้มาแสนนาน เมื่อมันระเบิดออกขยายการรู้ออกไปนอกโลกจนเหมือนไม่มีที่สุดไม่มีประมาณไม่มีขอบเขต แบบนี้ บางคนเรียกว่า จิตเข้าสู่ โลกุตร หรือจิตนอกโลก แต่ยังไม่เหนือโลกนะ...และการที่รู้สึกเหมือนจะตายกายจะแตกสลาย..คุณน่าจะเฝ้าดูสภาวะตอนนี้ให้ชัดเจนนะ เพราะมันคือการที่จิตวางกาย มันจะไม่ยึดกาย ไม่ยึดมั่นถือมั่นในกาย เหมือนปล่อยวางกาย ออกจากกาย เหมือนกายตาย ไม่สนกาย...สักวัน เฝ้าดูต่อไป เรื่อยๆ ครับ ให้อยู่กับสภาวะจิตที่สงบนี้ไปเรื่อยๆ จนจิตมันจะยกระดับลอยตัวออกนอกโลกคือ ลอยพ้นโลก คือ ไม่ยึดมั่นถือมั่นในโลก..จึงจะเป็นสภาวะ จิตเหนือโลกจริงๆ จิตจะอยู่ทั่วไปนอกโลกที่ว่างกว้างไร้ขอบเขตนั้น ช่วงนี้คุณจะเบากายเบาจิตจริงๆ ผมเรียกมันว่า เป็นสภาวะที่จิตมันสมุทัยออกมาเต็มตัว เพื่อ คิดหาที่จะไปต่อ....หาที่มันคิดว่ามีที่ดีกว่า กายคน ดีกว่าในโลก..หาคำตอบให้ตัวเอง ในคำถามที่ว่า กายและโลกคือต้นเหตุแห่งทุกข์ตัวการจริงหรือไม่ หรือว่าตัวจิตที่มันออกมานี้ มันร้อนรนเป็นทุกข์ด้วยตัวของมันเอง.....จงเฝ้าดูต่อไปครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2019
  16. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    การแผ่ คือกุศลที่ผู้แผ่ได้กระทำกุศล เหมือนฝนตกทั่วฟ้า เท่าเทียม แต่ผู้รับจะรับได้น้อยได้มาก แล้วแต่บุญกรรมครับ
    ผู้แผ่ได้ทำทานไป..แล้ว เหมือน ถวายสังฆทานที่ไม่เจาะจง แบบใจกว้าง ไร้ขอบเขตครับ
     
  17. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,301
    ค่าพลัง:
    +12,628
    รอต่อ.... รอคนมาจูงมือ
     
  18. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,805
    ค่าพลัง:
    +7,940
    งับ งับ รับงับ มา เคี้ยวต่อ เลย นะฮับ

    "ยังกิญจิ สมุทยธัมมัง
    สัพพันตัง นิโรธธัมมัง ..."

    หาก ผู้ใด สดับแล้ว สำคัญว่า

    ธรรมะ ต้อง แปลก่อน จึงจะ รู้ธรรม

    นี่ชัดเลย พวกไม่เคยปฏิบัติ หรือ
    ปฏิบัติแบบทำตามๆกันไป

    ยังไม่เข้าใจ การกระทำในใจให้แยบคาย

    ตามเหน สัญญาขันธ์ ปรกติ ดับ!!!

    ถ้า ยังเข้าใจว่า การฟังธรรม
    สัญญาเที่ยงฟังแล้วต้องแปล
    แล พยักหน้า ถึงจะเหนสัญญา
    ดับให้ดู ก้ โอ้ละพ่อ สร้าง ศัพท์
    ภาษาใหม่ๆ ถ้า ไม่พูดภาษา
    เดียวกัน เปนอันว่า ไม่ได้ปฏิบัติ
    (อุปทานหมู่ สะกดจิต).....ก้....โอย

    ธรรมะ เขาให้ตามเหน สัญญาไม่เที่ยง

    ฟังไม่เข้าใจ เหนสัญญาดับๆๆๆๆ
    คนที่กระทำในใจแยบคาย แทบ
    จะ สดับธรรมอยู่ตรงพระบาท
    สัมมาสัมพุทธเจ้า

    ไม่ต้อง ngo จานลาย ไปท่อง
    กถา 108จบ ไปอิงภูเขาคนเฮียๆ!
    แล้วจะได้บุญได้แผ่เมตตา
     
  19. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ นั่นแล... เป็น "ตัวดู" 100% เพราะ คำพูดคำเดียว ว่า "ดู" นั่นแล เลยกลายเป็น "ผู้ดู/ตัวดู" เลย ติดแหง็กอยู่ตรงนั้น แม้ว่ามันจะ "ดูจิต" ก็ตาม
    +++ ไม่ต้องเริ่มใหม่ก็ได้ เพียงแค่ เพิ่ม "รู้ ตัวดู" ไปอีกชั้นหนึ่ง ก็ได้แล้ว จนกว่า "ตัวดู หลุด/พ้น ออกไปจาก รู้"
    +++ แล้วจะเข้าใจคำว่า "ตัวดู/ตัวกู/หลุมดำ/อัตตาจิต/วัญญาณขันธ์ ฯลฯ" ได้เอง
    +++ ฟังดูคล้าย ๆ "แผ่ 4 สลึง" รึป่าว... คือ แผ่แล้วเหมือนมันจะตาย มีดิ้นแด่ว ๆ ประกอบฉากด้วยป่าว...

    +++ หากภาษาที่ใช้มาข้างบนนั้น คำว่า "ร่างกายข้าพเจ้าจะแตกสลายไปเลย" มีอาการดังนี้

    +++ 1. วาปจ้า เกิดขึ้นมา
    +++ 2. ความเป็น ตน/ตัวกู สลายอย่าง "ระเบิดออก"
    +++ 3. ทั้ง ตนและจิต ไม่ปรากฏมาใน "สภาวะรู้"

    +++ 4. อาการ ระเบิดออก เป็นอาการแบบ "รังสีปรมณู" แผ่ซ่านสาดกระจาย รอบทิศ ไปในความว่าง (อวกาศ)

    +++ 5. มีอาการ "รู้ สัพสิ่ง ณ ปัจจุบัณขณะ ชัดเจน"
    +++ 6. เนื้อของสภาวะรู้ "แจ่มแจ้ง ประดุจมีสภาพ มั่นคงแข็งแกร่ง"
    +++ 7. มีสภาวะ "บันเจิดจ้า ของ พรรณรังสี" สาดกระจายออกรอบทิศ (ไปในความว่าง)

    +++ 8. สภาวะของข้อ 5-7 เป็นสภาวะเดียวกัน "เป็นเนื้อเดียวกัน" เรียกว่า (รู้/แจ้ง/จ้า)
    +++ 9. ตรงคำว่า "มันเหมือนจะตาย" คืออาการที่ "ความเป็น กาย/จิต" ไม่มีอะไรเหลืออยู่

    +++ หากคุณ Supop ถามว่า "ใครเคยเป็น ตามอาการ 9 ข้อนี้"
    +++ คำตอบก็ คือ "คนในกลุ่มฝึก" ผ่าน 9 ข้อนี้ มาจนเกือบครบทุกคน นะครับ

    +++ เว้นไว้แต่ อาการ "แตกสลาย/ตาย" ของคุณ Supop จะไม่ตรงกับอาการทั้ง 9 ที่ผมกล่าวมา และเป็น คนละอย่างนะ
     
  20. ธรรม-ชาติ

    ธรรม-ชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    2,567
    ค่าพลัง:
    +9,957
    +++ มือลุงแมว หยู่คงหนัย ไม่เห็นยื่นออกมาเลย นี่ฮับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...