ใครปลูกว่าน เล่นว่านบ้างเข้ามาคุยกันหน่อย

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย Paravatee, 9 กรกฎาคม 2005.

  1. khanclub

    khanclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +659
    ว่านเศรษฐีขอดทรัพย์ (เอามาแบ่งปัน จากกระทู้คุณ พญายา )

    ว่านเศรษฐีขอดทรัพย์

    ชื่อวิทยาศาสตร์
    -
    วงศ์
    LILIACEAE
    ชื่อสามัญ
    -
    ชื่ออื่นๆ
    เศรษฐีกอบทรัพย์

    ลักษณะทั่วไป
    ลำต้นเป็นหัวอยู่ใต้ดิน คล้ายหอมหัวเล็ก เนื้อภายในหัวจะมีสีขาว ใบว่านเศรษฐีขอดทรัพย์ออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เป็นกอ ลักษณะใบคล้ายใบกุยช่าย มีสีเขียวแก่เป็นเงามัน ปลายใบจะงอม้วนเป็นวง

    การปลูก
    ดินที่เหมาะแก่การปลูกคือดินร่วนผสมใบไม้ผุกับทราย ระบายน้ำได้ดี รดน้ำเช้า-เย็น ให้ว่านถูกแดดบ้างเป็นบางเวลา และควรปลูกในกระถางแขวน หรือกระถางทรงเตี้ยปากกว้าง

    การขยายพันธุ์
    ขยายพันธุ์โดยการแยกกอ หรือ โดยการใช้หัว

    ความเป็นมงคล
    ถือว่าเป็นว่านทางเมตตามหานิยม หากทำมาค้าขายก็จะซื้อขายคล่อง และยังเป็นว่านเสี่ยงทาย คือหากปลายใบม้วนเป็นวงหมดทุกใบธุรกิจการงานจะประสบความสำเร็จดี ยิ่งถ้าว่านออกดอกจะยิ่งมีโชคลาภยิ่งขึ้น แต่ถ้าใบตรงไม่ม้วนงอก็จะไม่มีโชคลาภ ธุรกิจการงานไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร

    [​IMG]

    ที่มา : ๑๐๘ พรรณไม้ไทย วาไรตี้ไม้ดอกไม้ประดับ ประทับใจ
     
  2. khanclub

    khanclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +659
    ถ้าเป็นตามรูปนี้ ผมได้มาจากพี่ทำงานนั้นหละครับ พี่เค้าก็ไม่รู้จักเช่นกันครับ แต่พี่เค้าบอกมาว่า ให้ดูที่ใบนะครับ ถ้าหยิกเป็นม้วนๆ จะ ดี ครับ ผมก็เอารูปมาเทียบกับชื่อ และ รายละเอียด และความเชื่อ เลยคาดว่าน่าจะเป็นชื่อเดียวกัน นะครับ ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอีกครั้ง นะครับ ๑๐๘ พรรณไม้ไทย วาไรตี้ไม้ดอกไม้ประดับ ประทับใจ

    [​IMG]
     
  3. ในฝัน131

    ในฝัน131 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +1,726
    อันนี้เป็นกรณีพิเศษ. หรือเป็นแค่ความเห็นส่วนตัว ไม่ได้มีเจตนาตั้งใจจะอวดหรือโม้
    ก็ถือว่าอ่านกันเล่นๆๆละกัน


    ที่บอกว่ามันมีทั้งส่วนดี/ส่วนเสีย นั้น. ความหมายของมันจริงๆๆแล้วเป็นแบบนี้ค่ะ

    ปกติแล้วคนที่เขาเล่นของดำ พวกนี้จิตใจค่อนข้างดุ/หยาบ......

    ช่วงวันพุธ/วันพระ/วันโกน คนเล่นของเขามักจะถ่ายเท พลังงานส่วนเกินที่เสียออกจากตัว
    แล้วพลังงานส่วนที่ถูกถ่ายออก(เป็นของไม่ดี)

    ก็จะล่องลอยไปตามอากาศ. บางส่วนก็จะไปตกตามหลังคาบ้าน/บางส่วนก็ถูกแรงขับไปตามเป้าหมาย/บางส่วนก็วนเวียนอยู่รอบๆๆ คนที่ดวงตก/จิตตก/คนที่ไม่มีสติ/
    คนที่กำลังมีเคราะห์(ว่าไปนั่น)

    ที่เขาเรียกว่าลมเพลมพัด(น่าจะใช่นะ)(เพราะเดา)

    ถ้าหากว่าไม่ได้คิดอะไรมากมายเอาไว้ป้องกันตัว มันก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี. เพราะลมเพลมพัดจะมักวนเวียนไปมารอบๆคนที่ไม่มีสติ เผลอไม่ได้เผลอเป็นเสร็จทุกราย....แต่ที่จะบอกว่าเป็นโทษก็เพราะว่า. ในโลกจริงๆๆของเรานี้มันยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่สามารถอธิบาย/หรือบอกใครๆได้/เล่าไปก็ยังไม่แน่ใจว่าจะมีคนเชื่อรึเปล่า ดีไม่ดีเขาจะหาว่าบ้า

    พลังงาน/คลื่นพลังงานที่มันซ้อนกันอยู่นี้
    บางจำพวกจะเป็นคลื่นพลังงานที่ค่อนข้างอ่อนแรง/อ่อนกำลังไม่มีแรง/มันมืดมันดับสนิท พวกนี้ก็จะพยายามมองหาแหล่งพลังงานที่สว่างกว่า เมื่อไหร่ที่เขามองเห็นแสงสว่างนั้น เขาก็จะตรงดิ่งเข้าหา


    แล้วถ้าหากว่าเรามีของป้องกันแบบนี้ พวกนี้ก็จะมาใกล้ไม่ได้

    เราอาจจะไปทำร้ายเขาโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ จะกลายเป็นบาปชะเปล่าๆ

    บางจำพวกอาจจะเรียกว่าวิญญาณเร่ร่อน/วิญญาณพเนจร(เรียกเอง)

    พวกนี้ไม่มีเจตนาจะเข้ามาทำร้าย ก็แค่เดินตามแสง ที่ส่องออกมาจาก....ข้างใน

    เมื่อพวกนี้ไม่สามารถเข้าใกล้ได้. พวกเขาก็ได้แต่ยืนอยู่ห่างๆ. ได้แต่รอแล้วก็รอ

    เห็นแล้วสงสารมากเลย. รู้สึกผิดที่ไปทำร้ายเขาโดยที่เราเองไม่ทราบมาก่อน

    จนกระทั่งได้ทราบความจริง

    ยังนึกเสียใจอยู่เลย......
     
  4. khanclub

    khanclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +659
    ขอบคุณครับ ...ผมอ่านแล้วพอเข้าใจอยู่บ้างนะครับ ....ถ้าเล็งถึงความเชื่อ ผมก็เคยผ่านเรื่องราวเหล่านี้ มาบ้างนะครับ ....เพียงเพราะในช่วงนั้นก็ผม มองโลกด้านเดียวมากไปนิดครับ เลยไม่ได้ทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ถึงรากหลักความเชื่อ จึงไม่ค่อยได้เชื่อเรื่องราวของไสยเวทย์ เท่าใดนัก ...และมองไปว่ามันคือเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้และไม่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้เท่าไร นัก เพราะเชื่อ ความคิดตัวเองมากไปหน่อยเพราะเรียนมาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์
    ปัจจุบันเมื่อผมได้พิสูจน์และวิเคราะห์ รากความเชื่อในอดีตหลายๆ เรื่องผ่านไปแล้ว ทำให้มีข้อพิสูจน์ ในหลายๆ ด้านสนับสนุนว่าเรื่อวราวของรากความเชื่อต่างๆ สามารถให้นิยามและพิสูจน์ได้ แม้ว่าจะยังไม่ทุกเรื่องในขณะนี้ ....

    ของดีที่มีอยู่ในเรา คือ ศีล สมาธิ และปัญญาครับ ...อยู่ในธาตุที่ส่งลงสู่ว่านที่ผ่านการปลุกด้วยพุทธคุณแลัวนั้น จักเปล่งประกายมากขึ้นเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับผู้ครอบครองด้วยเช่นกันครับ ....(good)
     
  5. khanclub

    khanclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +659
    ว่านเสน่ห์จันทน์ ความจริงที่ควรรู้เกี่ยวกับว่านเสน่ห์จันทน์

    เครดิต: ตาเชย (:: BlogGang.com :: Weblog for You and Your Gang - )

    ว่านเสน่ห์จันทน์ ความจริงที่ควรรู้เกี่ยวกับว่านเสน่ห์จันทน์

    ความจริงที่ควรรู้เกี่ยวกับว่านเสน่ห์จันทน์

    [​IMG]

    รูปว่านเสห่ห์จันทร์ขาว

    [​IMG]

    รูปเสน่ห์จันทร์แดงโกเมน

    [​IMG]

    รูปเสน่ห์จันทร์เขียว

    ข้อความที่ตาเชยจะเขียนต่อไปนี้ มีจุดประสงค์ที่จะนำเสนอความเป็นจริงในทุกๆ เรื่องของว่านเสน่ห์จันทน์ให้ปรากฏไว้เป็นหลักฐาน เป็นแบบอย่างสำหรับอ้างอิง และเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อประโยชน์แก่ผู้ที่อยากจะศึกษา หรือปลูกเลี้ยงว่านเสน่ห์จันทน์ในยุคหลังๆ สืบต่อไป

    ปัญหาแรก คือการเขียน " ชื่อ " ครับ เราควรจะเขียนชื่อว่านพวกนี้ว่า เสน่ห์จันทร์ หรือ เสน่ห์จันทน์ จึงจะถูกต้องตรงตามข้อเท็จจริง..

    เท่าที่ตาเชยได้อ่านตำราว่านหลักของไทยตั้งแต่เล่มแรก พิมพ์ พ.ศ. 2473 จนถึงเล่มที่ 12 พิมพ์ พ.ศ. 2516 พบว่าถ้าเป็นตำราเล่มที่ผู้เขียนมีความรู้ค่อนข้างดีแล้ว มักจะเขียนเป็นเสน่ห์จันทน์ครับ เหตุผลที่เรียกชื่ออย่างนี้ก็มาจากคำบรรยายลักษณะของว่านที่บอกว่า " ว่านเหล่านี้ มีกลิ่นหอมดังกลิ่นจันทน์ " นั่นเอง จากคำแปลของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน " เสน่ห์ : ลักษณะที่ชวนให้รัก; จันทน์ : ชื่อพรรณไม้ที่มีเนื้อไม้ ดอก หรือผลหอม " เมื่อนำมารวมกันเป็น เสน่ห์จันทน์ จึงมีความหมายว่า " ไม้ทีมีกลิ่นหอมและมีลักษณะน่ารัก " ซึ่งทุกอย่างก็ถูกต้องตรงตามความเป็นจริงและไม่น่าจะมีปัญหา

    แต่จุดที่เป็นปัญหาก็คือ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ท่านกลับเขียนเป็น ว่านเสน่ห์จันทร์ขาว และ ว่านเสน่ห์จันทร์แดง ซึ่งพอจะแปลความหมายได้ว่า " ดวงจันทร์ที่มีลักษณะชวนให้รัก " เมื่อฟังแล้วจะรู้สึกได้ว่ามันขัดกับความเป็นจริง มันไม่น่าจะมาเกี่ยวข้องอะไรกับว่านพวกนี้เลย ตาเชยจึงได้ตรวจสอบดูว่าราชบัณฑิตย์ท่านไปเอาคำว่าจันทร์ขาว กับ จันทร์แดง นี้มาจากไหน ไปดูที่พจนานุกรมเล่มแรก พ.ศ. 2493 ก็ยังไม่มีคำว่า จันทร์ขาว และ จันทร์แดง ปรากฏอยู่เลย แสดงว่าท่านเพิ่งไปเก็บสองคำนี้มาในภายหลัง เมื่อตรวจสอบบรรณานุกรมแล้วพบว่าการเก็บคำในเรื่องของว่าน ได้เก็บคำมาจากตำรากบิลว่านของหลวงประพัฒสรรพากร ได้เรื่องละทีนี้

    "ตำหรับ กระบิลว่าน" ของหลวงประพัฒสรรพากร รวบรวมพิมพ์(ในงานปลงศพสนองคุณ นางเอี่ยม กาญจนโภคิน) โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, 2475 เป็นตำราเล่มที่สองของไทยครับไม่ใช่เล่มแรก แต่ก็ถือกันว่าเป็นตำราว่านที่ได้มาตรฐานที่สุดในยุคก่อน พ.ศ. 2500 เมื่อไปเปิดดูสารบัญรายชื่อว่านจากหนังสือเล่มนี้ก็เห็นชัดเลยครับว่าท่านไปเก็บ 2 ชื่อนี้มาจากที่นี่จริงๆ

    แต่ราชบัณฑิตท่านดูแค่สารบัญครับ ไม่ได้ดูเนื้อหาข้างในเลย ท่านลืมไปกระมังว่าคนเขียนสารบัญนั้นส่วนมากเป็นคนของสำนักพิมพ์ ไม่ใช่คนเขียนเรื่องเป็นผู้เขียนเอง ทำไมตาเชยพูดอย่างนี้ ก็เพราะว่าตรงสารบัญเค้าเขียนเป็นเสน่ห์จันทร์ก็จริง แต่ในเนื้อหาข้างในนั้นเค้าเขียนชื่อเป็น ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว และ ว่านเสน่ห์จันทน์แดง ทุกแห่งเลยน่ะสิ

    สรุปว่า.. จากที่มาที่ไป จากความหมาย และจากหลักฐานที่ตาเชยได้รวบรวมมาให้อ่านแล้วนี้ เราควรเขียนว่า ว่านเสน่ห์จันทน์ ครับ จึงจะได้ความหมายที่สมบูรณ์และถูกต้อง แต่ถ้าท่านยังอยากจะเขียนเป็นเสน่ห์จันทร์อยู่อีก ก็เชิญตามสบายละกัน

    ปัญหาต่อไป คือ ว่านเสน่ห์จันทน์จริงๆ แล้วมีกี่ชื่อ และกี่ชนิดกันแน่

    ปัญหาที่ดูเหมือนจะตอบง่าย แต่จริงๆ แล้วตอบยากนะครับ เพราะแม้แต่ตำราเก่าก็ยังเขียนไว้ขัดกันเองให้วุ่นวายไปหมด ตาเชยจะพยายามลำดับมาให้ท่านอ่านจนเข้าใจละกัน วิธีนี้คงต้องแยกตำราหลักออกเป็น 2 ยุคเสียก่อนจะได้ไม่งง คือยุคก่อน พ.ศ. 2500 ประกอบด้วยตำราหลัก 5 เล่ม และยุคหลังระหว่าง พ.ศ. 2500 - 2520 อีก 7 เล่ม รวมตำราว่านหลักๆ ของไทยมีทั้งหมด 12 เล่มด้วยกัน จำให้ดีนะครับ เพราะการเขียนเรื่องว่านตาเชยจำเป็นต้องอ้างอิงถึงตำราเหล่านี้อยู่เสมอ

    ในตำราว่านยุคก่อน พ.ศ. 2500 มีชื่อว่านเสน่ห์จันทน์อยู่เพียง 3 ชนิดครับ คือ

    1) ว่านเสน่ห์จันทน์ 2) ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว 3) ว่านเสน่ห์จันทน์แดง

    ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว กับ ว่านเสน่ห์จันทน์แดง นี่คงไม่มีปัญหา เพราะเป็นชื่อที่เราคุ้นหูกันอยู่แล้ว แต่ชื่อว่านเสน่ห์จันทน์(เฉยๆ) นี่เชื่อว่าเกือบทุกคนแทบจะไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย เพราะว่านชื่อนี้มันเริ่มหายไปจากตำราว่านตั้งแต่ยุคต้นๆ พ.ศ. 2500 แล้วน่ะครับ ครั้นมาถึงตำราว่านเล่มที่ 6 ซึ่งพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2503 จึงได้เพิ่ม

    4) ว่านเสน่ห์จันทน์เขียว ขึ้นมาอีกชนิดหนึ่ง

    พอมาถึงตำราเล่มที่ 7 ซึ่งพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2504 ชื่อ ว่านเสน่ห์จันทน์ ได้หายไปจากตำราว่านเล่มนี้ แต่กลับมีชื่อว่านเสน่ห์จันทน์เพิ่มขึ้นมาอีก 3 ชนิด คือ

    5) ว่านเสน่ห์จันทน์มหาโพธิ์ 6) ว่านเสน่ห์จันทน์ทอง 7) ว่านเสน่ห์จันทน์หอม

    อ่านให้ดีนะครับ ตำราเล่มนี้ระบุไว้ชัดเลยว่า ว่านเสน่ห์จันทน์มหาโพธิ์ และว่านเสน่ห์จันทน์ขาว เป็นไม้ต้นเดียวกันแล้วแต่เราจะเรียกชื่อไหนก็ได้ และยังระบุว่าว่านเสน่ห์จันทน์เขียวนั้นมีอยู่ 2 ชนิด คือ ต้นหนึ่งมีกลิ่นหอมแรงมาก กับอีกต้นจะมีกลิ่นหอมน้อยมาก

    จากตำราเล่มแรก จนมาถึงเล่มสุดท้าย มีบันทึกชื่อว่านเสน่ห์จันทน์ไว้ทั้งหมด 7 ชื่อด้วยกัน แต่เนื่องจากว่านเสน่ห์จันทน์ขาวและว่านเสน่ห์จันทน์มหาโพธิ์นั้น เป็นไม้ต้นเดียวกันชนิดเดียวกัน จึงสรุปได้เป็นที่แน่นอนว่าเสน่ห์จันทน์ที่เป็นว่านจริงๆ นั้นมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ชื่อ 6 ชนิด ดังตาเชยจะได้บอกถึงวิธีดูลักษณะ ต้น-ใบ-ดอก ที่เป็นว่านของแท้ ตลอดจนถึงสรรพคุณของว่านเสน่ห์จันทน์แต่ละต้น แต่ละชนิดโดยละเอียดต่อไป.




    Create Date : 26 มกราคม 2556
    Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2556 9:49:27 น.
     
  6. khanclub

    khanclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +659
    ว่านเสน่ห์จันทน์ ชนิดที่ 1 ว่านเสน่ห์จันทน์

    เครดิต : ลุงเชย

    ว่านเสน่ห์จันทน์ ชนิดที่ 1 ว่านเสน่ห์จันทน์

    ชนิดที่ 1 ว่านเสน่ห์จันทน์


    ในปัจจุบันถ้าเขียนเพียงคำว่า " ว่านเสน่ห์จันทน์ " ขึ้นมาลอยๆ ร้อยทั้งร้อยจะต้องนึกไปถึง ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว ว่านเสน่ห์จันทน์แดง หรือว่านเสน่ห์จันทน์เขียว ฯลฯ ไปโน่น

    มีใครจะนึกบ้างว่านี่แหละ คือชื่อว่านต้นแรกของว่านจำพวกว่านเสน่ห์จันทน์ทั้งหลาย ที่ถูกบันทึกไว้ในตำรากบิลว่านเล่มแรกซึ่งจัดพิมพ์ขึ้นมาเมื่อ 83 ปีที่แล้ว และชื่อว่านต้นนี้ได้ถูกลบเลือนหายไป เมื่อมีการจัดพิมพ์ตำราว่านเล่มที่ 7 ใน พ.ศ. 2504 โดยว่านต้นนี้ได้ถูกนำไปรวมไว้ในว่านเสน่ห์จันทน์เขียว กลายเป็นว่าว่านเสน่ห์จันทน์เขียวมี 2 ต้น คือต้นหอมมาก กับต้นหอมน้อย

    นับแต่นั้นมาก็ไม่มีใครรู้จัก หรือเอ่ยถึงว่านชื่อนี้อีกเลย ทั้งๆ ที่ตำราเก่าระบุไว้ชัดเจนว่าว่านต้นนี้แหละที่มีอานุภาพสูงที่สุดในบรรดาว่านเสน่ห์จันทน์ทั้งหลาย ไม่เพียงแค่นั้นสรรพคุณของว่านต้นนี้ยังถูกก๊อบปี้เอาไปใส่ให้ว่านเสน่ห์จันทน์มหาโพธิ์จนกลายเป็นว่า ว่านเสน่ห์จันทน์มหาโพธิ์ต่างหากที่มีอานุภาพสูงที่สุดอยู่ในปัจจุบัน

    ต่อมาภายหลัง แม้แต่ที่ตำราระบุว่าว่านเสน่ห์จันทน์เขียวมี 2 ชนิด ก็ยังไม่มีใครสนใจคงเล่นกันอยู่แต่ต้นหอมน้อย ตลอดมา พอมาถึงช่วงที่นิยมเล่นว่านกัน(พ.ศ. 2520 - 2526) จึงค่อยมีคนหันมาสนใจพวกว่านเสน่ห์จันทน์ทั้งหลายบ้าง เล่นไปเล่นมาปรากฏว่ามันมีต้นที่หอมมากๆ อยู่ 3 ต้นด้วยกัน คือ

    1) ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีเพราะดูง่ายเนื่องจากก้าน ใบ ตลอดไปจนถึงเส้นใบมีสีขาวจัด
    2) ว่านเสน่ห์จันทน์มหาโพธิ์ ซึ่งกลายมาจากจันทน์ขาว รูปร่างและกลิ่นจึงเหมือนจันทน์ขาวทุกอย่าง เว้นแต่ต้น ก้าน ใบ มีสีเขียว
    3) เหลือว่านอีก 1 ต้นซึ่งเขียวทั้งต้นและใบ แต่รูปใบจะยาวกว่าว่านเสน่ห์จันทน์ทุกประเภท ส่วนกลิ่นก็หอมไม่แพ้ 2 ต้นแรกนั่นเลย แต่หาชื่อไม่ได้เพราะต่างคนต่างก็ไม่รู้จัก นายหล่อ ขันแก้ว นายกสมาคมว่านในสมัยนั้น จึงได้เรียกชื่อว่านต้นนี้ว่า ว่านเสน่ห์จันทน์ศรีมหาโพธิ์ คือเลียนชื่อมาจากว่านเสน่ห์จันทน์มหาโพธิ์นั่นเอง ชื่อว่านเสน่ห์จันทน์ศรีมหาโพธิ์จึงเกิดขึ้นมาด้วยประการฉะนี้

    ต่อมามีผู้ที่รู้มากแต่รู้ไม่หมด คือท่านทราบว่าไม้ตัวนี้มีการเล่นหากันมานมนานมาก ก่อนที่ว่านเสน่ห์จันทน์มหาโพธิ์จะเกิดขึ้นเสียอีก ท่านก็ว่าไม้ตัวนี้สมควรชื่อว่านเสน่ห์จันทน์มหาโพธิ์จึงจะถูกต้อง ส่วนต้นที่กลายจากจันทน์ขาวนั่นจึงสมควรชื่อว่านเสน่ห์จันทน์ศรีมหาโพธิ์เพราะเกิดทีหลัง นับแต่นั้นมาวงการว่านก็มีการใช้ชื่อว่านทั้งสองต้นนี้สลับกันไปมาอยู่ตลอด แล้วแต่ความเชื่อของใคร

    ก็เมื่อท่านรู้อยู่ว่าต้นที่หอมมากแต่ใบยาวนี้ มีการเล่นหากันมานานมาก(บางตำราอ้างว่าเล่นกันมาแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ) แล้วทำไมไม่เฉลียวใจบ้างล่ะว่าที่จริงแล้วว่านตัวนี้ก็คือต้นที่ถูกบันทึกไว้ในตำราว่านเล่มแรกว่าชื่อ ว่านเสน่ห์จันทน์ แล้วต่อมาได้ถูกยุบรวมเป็นว่านเสน่ห์จันทน์เขียว ต้นหอมมาก และต่อมาได้ถูกหลงลืมไปในที่สุดนั่นเอง

    ลักษณะ จากตำราเก่า ก้านเหมือนอุตพิต ใบเหมือนใบโพธิ์ หลังใบขาวเป็นนวล ยอดเหมือนพลับพลึง มีกลิ่นหอมดังกลิ่นจันทน์

    สรรพคุณ ตำราบูรพาจารย์กล่าวว่าเป็นว่านมหัศจรรย์ แม้ผู้ใดปลูกว่านชนิดนี้ไว้ในบ้าน จะสามารถบันดาลจิตใจของผูัคนทั้งหลายที่ได้พบเห็นเรา ให้เกิดความนิยมชมชอบอยู่เสมอ และดลใจให้ผู้คนทั้งหลายให้มาคบค้าสมาคมติดต่ออยู่เสมอมิได้ขาด

    [​IMG]

    ว่านนี้มีอานุภาพมากนัก ท่านว่าจะตีราคาบ่มิได้ เมื่อพบว่านนี้ให้บัดพลีเสียก่อนแล้วเสกน้ำมนต์รดจึงขุดเอามาได้ ให้นำหัวว่านมาแกะเป็นรูปต่างๆ ตามประสงค์ ก่อนแกะให้ถือศีลทำน้ำมนต์รดตัวเสกให้ได้พันคาบ แกะแล้วใส่ลงในขันเติมน้ำมันหอมให้ท่วม นำเข้าไปในโบสถ์จัดให้มีบายศรีทั้งซ้ายขวาจึงเสกให้ได้พันคาบ หรือจนกว่าน้ำมันหอมจะวนเป็นทักษิณาวัตร จึงเอาน้ำมันทาหน้าผาก ใครเห็นใครก็รัก ปรารถนาสิ่งใดได้ทุกอย่าง ทั้งอยู่คงกระพันฟันแทงมิเข้า ใครก็จับมิอยู่ ถ้าจะให้ล่องหนเอาน้ำมันนั้นมาทาตัวใครก็มองไม่เห็น ฯลฯ มันยาวมากขี้เกียจพิมพ์แล้ว

    ลักษณะเด่น รูปใบแคบยาวกว่าว่านเสน่ห์จันทน์ทุกชนิด มีกลิ่นหอมแรงมากทุกส่วน ไม่แพ้ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว หรือว่านเสน่ห์จันทน์มหาโพธิ์เลย

    ชื่อที่เรียกกันอยู่ในปัจจุบัน ว่านเสน่ห์จันทน์ศรีมหาโพธิ์ ว่านเสน่ห์จันทน์มหาโพธิ์ ว่านเสน่ห์จันทน์หอม

    [​IMG]
     
  7. khanclub

    khanclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +659
    ว่านเสน่ห์จันทน์ ชนิดที่ 2 ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว

    เครดิต : ลุงเชย

    ว่านเสน่ห์จันทน์ ชนิดที่ 2 ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว

    ชนิดที่ 2 ว่านเสน่ห์จันทน์ขาว

    ตาเชยจะเรียงลำดับชื่อว่านก่อนหลังไปตามลำดับ เหมือนดังที่ตำราว่านรุ่นเก่าท่านได้บันทึกไว้นะครับ ดังที่ได้บอกแล้วว่า ว่านเสน่ห์จันทน์ ชนิดแรกนั้น เป็นต้นที่เล่นหากันมานานประมาณครั้งกรุงศรีอยุธยายังเป็นราชธานีอยู่โน่น และเป็นว่านเสน่ห์จันทน์ในสกุลบอนเพียงต้นเดียวที่เป็นไม้ของไทยแท้ เพราะนับจากว่านเสน่ห์จันทน์ขาวนี้เป็นต้นไป ล้วนเป็นไม้ที่นำเข้ามาจากนอกทั้งสิ้น

    ลักษณะ ต้นคล้ายบอน ใบเหมือนใบโพธิ์แต่มีทางขาว ก้านขาว หัวมีครีบ มีกลิ่นหอมดังกลิ่นจันทน์ (ตาเชยได้คัดลอกลักษณะว่านทุกชนิดมาตามที่ตำราเก่าบันทึกไว้ทุกอย่าง ฉะนั้นถ้าใครไปเจอลักษณะว่านซึ่งได้บรรยายไว้ที่ไหนก็ตามแตกต่างไปจากที่ตาเชยบอกนี้ ก็ขอให้พึงเข้าใจนะครับว่าข้อความเหล่านั้นคนเขียนท่านเขียนของท่านขึ้นมาเองทั้งหมด)

    [​IMG]

    สรรพคุณ ปลูกไว้เป็นสิริมงคล เกิดเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม ช่วยป้องกันภัยอันตราย ค้าขายดี


    Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2556
    Last Update : 3 กุมภาพันธ์ 2556 10:03:07 น.

    ลองติดตามผลงานของลุงเชย ได้ที่ BlogGang.com : : นะครับ
     
  8. khanclub

    khanclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +659
    วันนี้มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับว่าน ต่างๆ ที่ผมปลูกไว้ มาแบ่งปันครับ ....

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ด้วยความซุกซน และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ของผม เอง นั่นหละ เอาว่านต่างๆ ไปรับแสงอ่อนๆ ตอนเช้านอกบ้าน ....แล้ว เอาออกไปรับแสง นาน - นามมาก ปล่อยไว้ จนเที่ยง(12.00 น.) พอดีผมติดธุระช่วงเวลานั้นพอดี จึงได้รีบยกกระถางว่านต่างๆ หลบแดด แต่ก็ทำได้ไม่เรียบร้อยเท่าไร นัก ...แล้วรีบไปทำธุระ ......ผมกลับมาอีกครั้ง บ่าย 2 กว่าๆ ทำเอาว่าน ที่รับแดดตอนเช้า ใบเหี่ยวไปตามๆ กัน เลย ....

    หลังจากที่ผมจัดการเอาว่านเก็บเข้าที่ร่ม ดังเดิม คิดว่า งานนี้แย่ซะแล้ว ( ว่านที่เอาไป รับแสงแดดตอนเข้ามีดังนี้ ว่านพญาช้างเผือก ว่านนางคุ้ม ว่านเสน่ห์จันทร์ศรีมหาโพธิ์ เสน่ห์จันทร์แดงโกเมน ว่านเพชรแดง ว่านขอดทรัพย์ ) ผมสังเกตว่านแต่ละกระถาง ใบจะหลบแดดเข้าร่ม ทุกกระถาง เลย ครับ ส่วนพญาช้างเผือก ที่ผมไม่ได้ยกเก็บ เห็นชัดเลยว่าใบอ่อนเฉา อย่างชัดเจน ยังหลบเข้าข้างกำแพง ที่มีร่มนิดๆ.....

    แต่หลังจากเวลาผ่านพ้นไป วันนี้ เข้าวันที่ 2 หลังจากเหตุการณ์นี้ ว่านทุกกระถาง ก็เยียวยาตัวเอง กลับมาพื้น ดังเดิมแล้วครับ ผมสังเกตจากลำต้น กาบ และใบ .............

    เหตุการณ์ที่2 ผมปลูกว่านชักมดลูกตัวผู้ รวมกับ ขมิ้นชัน ไว้ในตระกร้าพลาสติิกเดียวกัน ผมก้สังเกตอยู่ทุกวัน นะครับ เห็นว่า ว่าน ทั้งสอง จะโน้มใบเข้าหา กัน แล้วหันใบมาทาง ประตูทางเข้าออก บ้าน เพื่อรับแสงแดดอ่อนๆ ครับ .....ผมเลยรู้สึกว่า ต้นไม้แต่ละต้น นี้มีเสน่ห์จริงๆ....

    ก็เป็นประสบการณ์ ที่ แปลกใหม่ สำหรับผมอีกเหตุการณ์ครับ หลังจากที่ได้ลองเริ่มปลูก และดูแลว่าน .... หากเพื่อนๆสมาชิกท่านใด มี ประสบการณ์ใด เด็ดๆ ก็มาแบ่งปันกันได้ครับ ....การดูแลเลี้ยงหว่านจะได้ มีสีสรรกันนะครับ ขอบคุณครับ
     
  9. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    วันนี้ น้องคนงานเอาต้นไม้มาให้ เยอะเลย บางอย่างก็มาเป็นหัว เลยไม่รู้ว่าเป็นต้นอะไร
    เอาไว้ มันแตกใบ แล้วรู้ว่าเป็นต้นอะไรเมื่อไหร่ จะถ่ายภาพมาให้ดูเน้อ (เรื่องขี้โม้ขอให้บอก) อิอิ
    (เท่าที่รู้ก็มี ต้นตะขาบ, ต้นเขียวหมื่นปี, กล้วยไม้, หัวว่านฯ, ต้นพริกไทย ฯลฯ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2013
  10. khanclub

    khanclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +659
    เยี่ยมมมม เลย รอชม ด้วย คน ครับ
     
  11. khanclub

    khanclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +659
    บทความ: ความแตกต่างระหว่างไม้ลงดินกับไม้ในกระถาง (ลองประยุกต์ ใช้กับว่านดูครับ)

    บทความ: ความแตกต่างระหว่างไม้ลงดินกับไม้ในกระถาง
    สวัสดีครับ วันนี้จะมาเล่าเรื่อง ความแตกต่างระหว่างไม้ลงดินกับไม้ในกระถาง ให้อ่านกัน...

    บทความนี้กลั่นมาจากผมโดยตรงนะครับ ถ้าจะเอาไปลงที่อื่น กรุณา ให้ credit และขอก่อนด้วยนะครับ

    หลายๆท่าน เวลาได้ไม้ตอใหญ่เขียงใหญ่ขึ้นมา ถ้าพอมีพื้นที่ว่าง ก็มักจะเอาไปลงดินไว้ เพื่อต่อเขียงให้จบเร็วๆ (โดยเฉพาะเขียง 1 ที่ช้าเป็นพิเศษ) บางคนที่ไม่มีที่พอ หรืออยู่ตึก มักใช้วิธีลงกระถางที่ใหญ่กว่าไม้มากๆ โดยเชื่อว่า มันจะคล้ายคลึงกับการเอาไม้ลงดิน ซึ่งก็ถูกแต่ถูกไม่หมดครับ ไม้ในดินและในกระถางนั้นมีสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน...

    ความแตกต่างระหว่างไม้ลงดินกับไม้ในกระถาง

    ตอนนี้เราจะไม่พูดเรื่องชนิดของพันธ์ไม้นะครับ เอาเรื่อง คอนดิสชั่น อย่างเดียวเลยครับ เริ่มจากไม้ในดิน

    ไม้ในดิน เจริญเติบโตได้รวดเร็ว เพราะรากสามารถเดินไปหาอาหารที่ไหนก็ได้ตามที่ต้องการ ความชื้นของไม้ในดินจะอยู่ในสภาวะเหมาะสม คือ ชื้นพอดีๆ และไม่แฉะ เพราะดินบริเวณรอบข้าง (และถัดๆไป) คอยดูดแบ่งความชื้นไปในอัตตราที่เหมาะสม อาการรากเน่าจึงเกิดได้ยาก หากไม่ใช่บริเวณที่เป็นแอ่งกระทะที่มีน้ำท่วมขังตลอดเวลา

    ไม้ในการถางที่ใหญ่เกินไป...จริงอยู่ที่ปริมาณดิน เพิ่มปริมาณราก ปริมาณราก เพิ่มอัตตราการเจริญเติบโต เมื่อใดที่รากเต็มและแน่กระถาง กิ่งจะเจริญช้าลง... แต่...การใช้กระถางที่ใหญ่เกินไม้ไปมากๆนั้น จะทำให้เกิดอาการ ความชื้นเกินพอดี... เป็นเรื่องจริงที่ว่ากระถางทุกใบมีรูระบายน้ำอยู่ แต่น้ำในกระถางที่ถูกระบายออกไปแล้วนั้น ยังคงอยู่ในดินซึ่งมากเกินพอดี และไม่มีตัวช่วยดูดซับอื่นๆเหมือนไม้ที่ลงดินที่น้ำสามารถซึมไปพื้นที่ส่วนอื่นได้ ส่งผลให้ ไม้บางชนิดเกิดอาการรากเน่าตั้งแต่ยังไม่จบ เป็นต้น ลองสังเกตุเวลาฝรั่งและญี่ปุ่นหมักต้นไม้ดูครับ กระถางจะใหญ่แค่พอดีๆเท่านั้นเอง...

    แล้วเราควรต้องทำอย่างไร?

    สำหรับไม้ที่เอาลงดินก็ไม่ต้องทำอะไรหรอกครับ เพราะมันอยู่ในคอนดิชั่นที่เหมาะสมแล้ว แต่สำหรับไม้ในกะละมัง(กระถาง)ที่ใหญ่มากๆ อันดับแรกคือ ต้องดูว่าไม้อะไร? ถ้าเป็นไม้ที่กินน้ำมากแบบหมาก-โมก-เทียนทะเล-เข็ม อันนี้ก็ไม่น่าห่วงเพราะ แฉะเท่าไรก็กินหมด แต่ถ้าเป็นสนต่างๆ กับไม้ตระกูลส้มพวกมะสัง ฯลฯ ที่กินน้ำน้อย.... ถ้าจะใส่กระถางใหญ่ก็ควรใส่วัสดุปลูกโปร่งๆ จำพวกหินต่างๆ-มะพร้าวสับ เข้าไปเยอะๆ เพื่อคุมความชื้นให้พอดี แต่มีพื้นที่ให้รากสามารถเจริญเติบโตได้ก็จะดีไม่น้อยครับ

    สงวนลิขสิทธ์บทความโดย พงศธร กันทาบุญ

    ที่มา : http://www.pantown.com/board.php?id=2804&area=4&name=board8&topic=10075&action=view

    [​IMG]
     
  12. khanclub

    khanclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +659
    เอามาฝาก อีกนิด .....

    ว่านอะไร กันบ้าง ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน นะครับ ...เห็นเขียวชะอุ่มดี ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. khanclub

    khanclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +659
    ต้นเหตุ ของ แรงบันดาลใจ เกี่ยวกับว่าน

    ผมเก็บเอาใบของว่าน เสห่ห์จันทร์ขาว เสน่ห์จันทร์ศรีมหาโพธิ์ และเสห่ห์จันทร์แดงโกเมน มาเก็บใส่กระเป๋าไว้ครับ เก็บจากต้นตอนที่ใบที่แห้งแล้ว นะครับ พกติดตัวไปใหนต่อใหน แล้วกลิ่นหอมอ่อนๆของใบทำให้ชื่นใจดี นะครับ .....

    เพราะกลิ่นของว่านชนิดนี้หละครับ ที่ทำให้ผมเริ่มตามเรื่องว่านชนิดต่างๆไปเรื่อยๆ นะครับ .....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. makigochan

    makigochan ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    6,248
    ค่าพลัง:
    +68,023
    คุณในฝัน131 ว่านเศรษฐีน้ำเต้าทองดอกสวยใช่ไหมล่ะคะ มากิกำลังหาอยู่

    คุณพญายา ว่านเศรษฐีขอดทรัพย์มากิปลูกอยู่ค่ะ มีตั้งนานแล้ว ชอบที่เขามีใบขอดๆน่ารักดี ลืมไปว่าเขาก็เป็นว่าน

    คุณmukmik รบกวนมาโม้ เอ๊ย มาเล่าเรื่องว่านให้ฟังกันด้วยนะคะ

    อิอิ จะบอกว่าซื้อว่านลูกไก่ทองมา แต่ว่ามันตายแล้วค่ะราคาตั้ง 200 บาทค่ะ

    ส่วนมากแล้วมากิซื้อว่านมา เพราะว่าชอบดอกกับชอบที่ว่าเขาน่ารักดี เช่น ว่านลูกไก่ทองกะว่านเศรษฐีขอดทรัพย์ เป็นต้น

    ไปๆมาๆ มากิ เพิ่งมารู้ว่าเรามีว่านเยอะเหมือนกัน จากกระทู้คุณKhanclubนี่เอง


    ว่านลูกไก่ทอง

    [​IMG]
     
  15. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    จริงๆ แล้วจะบอกว่า ไม่ค่อยรู้เรื่องว่านเลยค่ะ แต่ว่าชอบปลูกต้นไม้
    ตอนหลังเลยลองหาต้นไม้ จำพวกพืชสมุนไพรมาปลูกในกระถางน่ะค่ะ
    ได้ทั้งความงาม ได้ทั้งประโยชน์ทางยา ^^
     
  16. khanclub

    khanclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +659
    ผมก็สนใจว่านยาด้วยเช่นกันครับ
     
  17. khanclub

    khanclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +659
    สรรพคุณด้านใหนครับว่าชนิดนี้
     
  18. ในฝัน131

    ในฝัน131 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +1,726
     
  19. khanclub

    khanclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +659
    สวยดีนะครับว่านลูกไก่ทอง.....สะดุดตาจริงๆครับ
     
  20. khanclub

    khanclub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    274
    ค่าพลัง:
    +659
    ค้นข้อมูลมาฝาก ครับสืบค้น จากชื่อว่านลูกไก่ทอง ตามกระทู้คุณ makigochan

    เครดิต: คุณ pee

    ว่านลูกไก่ทอง

    ว่านลูกไก่ทอง ต้นที่ผมถ่ายภาพมา เจ้าของเขาหวงและเชื่อถือมากครับ เอาไปซ่อนไว้หลังบ้านเลย ผมดื้อครับเลยตามไปเจอ แกบอกว่าว่านลูกไก่ทองสองต้นนี้แกเลี้ยงมา 26 ปี ออกลูกมาแล้วหลายต้น และที่สำคัญแกว่าเขาช่วยดึงลูกค้าดึงเงินมาให้แกแกถูกหวยก็บ่อยแกว่า (โปรดใช้วิจารณญาณ) ตอนนี้ผมเองก็มีในครอบครองสองต้นครับ ถามว่าดีไหม ตอบได้คำเดียวว่าดี ไม่ได้โฆษณาชวนเชื่อนะครับ แต่ดีจริงๆ

    [​IMG]

    ความเชื่อ : ว่านลูกไก่ทองนี้ บางคนที่ปลูกว่านนี้แล้ว ถ้าเจ้าของได้ยินเสียงหรือฝันเห็นลูกไก่ ร้อง จิ๊บๆๆๆๆ แสดงว่าเจ้าของจะมีโชคลาภเงินทอง แต่ด้วยความสัตย์จริงครับจากการพูดคุยกับกลุ่มผู้เลี้ยงทั้งหลายพบว่า ว่านลูกไก่ทองหากเลี้ยงดีๆตามวิถีของว่านไม่จำเป็นต้องรอให้ได้ยินเสียงไก่ครับ แค่มีเลี้ยงไว้ในบ้านให้ความรัก และเชื่อว่าเขาจะช่วยเราได้ เขาก็จะเรียกลูกค้า เรียกโชคลาภเงินทองและสิ่งที่ปรารถนามาให้เราได้ครับ ดังนั้นทุกคนที่เลี้ยงมักหวงแหนยิ่งนัก

    [​IMG]

    สรรพคุณทางยา : ขนของว่านลูกไก่ทองสามารถช่วยห้ามเลือดอย่างได้ผล ถ้าเกิดบาดแผลอันเกิดจาก ของมีคมทุกชนิด วิธีการใช้ หากมีบาดแผล เลือดไหลซิบๆ อยู่ ให้ถอนขนว่านลูกไก่ สักหยิบมือหนึ่ง แล้วโรยขนว่านลูกไก่ทอง ลงที่บาดแผลนั้น สักครู่เลือดที่ไหล จะหยุด
    โบราณเชื่อว่าหากบ้านใด มีสัตว์เลี้ยงเช่น วัว ควาย หมู หมา เกิดโรคติดต่อ ให้ท่านนำขนว่านลูกไก่ทองนี้ ไปแช่กับน้ำ แล้วให้สัตว์ที่ป่วยนั้นกิน หลังจากนั้นสัตว์จะหายป่วยอย่างน่าอัศจรรย์

    [​IMG]

    ลักษณะ : ว่านลูกไก่ทอง หากมองใกล้ๆ มีลักษณะคล้ายลูกไก่ตัวเล็ก มีลักษณะขนปุยสีทอง เป็นที่น่าอัศจรรย์ สมดังชื่อเรียกจริง ๆ ที่มีคำว่าทอง คงเป็นเพราะลักษณะขนของว่านลูกไก่ทองที่เป็นเส้นออกสีน้ำตาลเส้นเล็กๆ ซึ่งหากมองดูยามเช้า ตอนพระอาทิตย์ ขึ้นใหม่ๆ ประมาณ ตีห้าครึ่งถึง สองโมงเช้า จะมีสีสันเหลืองทองสวยงามก็เลยเป็นที่มาของคำว่าทอง
    วิธีปลูกว่านลูกไก่ทอง : เนื่องจากการว่านลูกไก่ทอง เป็นว่านที่ศักดิ์สิทธิ์ ควรจัดหาสถานที่ให้เหมาะสม โดยพิจารณาดังนี้ สถานที่ อยู่ในที่ร่ม มีลมโกรก ไม่มีน้ำแฉะขัง ดินที่ใช้ เป็นดินร่วนปนทรายผสมใบไม้ด้วย แต่ให้เน้นหนักทรายมากหน่อย เพราะลูกไก่ ชอบเล่นดินทรายครับ ชอบใบไม้ กระถาง ต้องเป็นกระถางดิน และรองด้วยเศษอิฐมอฐ ที่ทุบเป็นก้อนหยาบๆรองก้นกระถาง ป้องกันน้ำขัง ตำแหน่งการวาง ควรจัดวางกระถางไม่ให้ใกล้ คนเดินข้ามไปมา(เพราะเป็นว่านศักดิ์สิทธ์)รดน้ำพอประมาณไม่ต้องแฉะมาก ลูกไก่ไม่ชอบ เห็นว่านดีๆอย่างนี้ ต้องแนะนำท่านรีบหามาปลูกเลยนะครับ เพราะดีจริงๆ

    ติดต่อสอบถามเรื่อว่าน หรือ พูดคุยแลกเปลี่ยนเรียนรู้ได้ที่ https://www.facebook.com/saimherbal
    เบอร์โทร 09-06095124
    เผยแพร่โดย pee

    ข้อมูลเพิ่มเติม : ว่าน ว่านมงคล ไม้ประดับมงคล: ว่านลูกไก่ทองว่านมงคล,ไม้ประดับมงคล
     

แชร์หน้านี้

Loading...