ใครรู้ที่มาภาพนี้บ้าง

ภาพพระพุทธเจ้า รูปนี้มีทีมาอย่างไร?

 

ตำนาน ภาพเบื่องสูงนี้
มี ชาวฝรั่งต่างชาติ ท่านหนึ่งเดินทาง ไปเที่ยวที่ ประเทศ
อินเดีย ชาวต่างชาติท่านนี้ ได้ไป เที่ยวสถานที่ต่างๆๆ
ได้ไป พบเจอ ชาวบ้าน ชาวอินเดีย ต่างกราบไหว้
ต้นศรีมหาโพธิ์ ต้นหนึ่ง ชาวต่างชาติจึงแปลกใจ ว่าทำไม
คนอินเดีย จึงไหว้ต้นไม้ เขาจึงได้สอบถาม แล้วได้ความว่า
ต้นศรีมหาโพธิ์ ที่ชาวอินเดียกราบกันอยู่นี้ เป็นต้น ที่
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่าน ตรัสรู้ เขาจึงได้
ถ่ายรูป ต้นศรีมหาโพธิ์ กลับไป บ้านเกิดเพื่อเป็นที่ระลึก แต่
พอล้างรูปออกมาแล้ว ก็ได้ ปรากฎ ภาพมงคล นี้ขึ้น
นี้ก็เป็นตำนาน ที่ผมเคยทราบมานะครับ

แต่ผมไม่อยากให้ ท่านเจ้าของกระทู้ ใช่คำว่า จริงหรือปลอม
ไม่งั้น จะบาปกรรมมาก เพราะ ถือว่า หมิ่น พระพุทธเจ้า ได้เลย
ผลกรรม คือ ตกนรกอเวจี โดยไม่รู้ตัว เพราะความไม่รู้นี้ละ ครับ
ที่ทำให้ มนุษย์โลก ตกนรก มาแล้วนับไม่ถ้วน

รูปภาพนี้ ตอนผม อัญเชิญพระพุทธองค์ มาในนิมิตร ท่านก็มีรูปร่าง
แบบในรูป นี้เลยครับ แต่ พอผมขอให้ท่าน มาในรูป ชุด พระนิพพาน
ท่านก็ เปลี่ยนเป็น ชุดเพชร ระยิบระยับ มีแสง รัศมี เปล่งออกมาอย่างมหาศาล

ทางที่ดี ควรจะเปลี่ยนคำใหม่ เช่น ภาพพระพุทธเจ้า รูปนี้มีทีมาอย่างไร? จะดีกว่า

 

เปล่าเลยค่ะ ความไม่รู้ในบางเรื่องเท่านั้นที่ทำให้ตกนรก เช่นฆ่าสัตว์โดยไม่รู้ตัว
ทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์โดยไม่รู้ตัว ความไม่รู้ตัวในที่นี้ การมองเห็นเอาแต่ตัวไม่เห็นความทุกข์ของคนอื่นเช่น ฆ่าสัตว์เพราะคิดว่าไม่เป็นไรมันคืออาชีพ ฆ่าคนคิดว่าบาปไม่มาก หรือไม่บาปเพราะเราฆ่าเพื่อป้องกันตัว ฆ่าตัวตายคงไม่บาปเพราะไม่ได้ฆ่าผู้อื่น สิ่งเหล่านี้จัดว่าทำบาปโดยไม่รู้ตัว ตัวในที่นี้คือสติ

แต่การสงสัย ต้องการคำตอบ และมีทิตฐิในความรู้เดิมของตนไม่จัดว่าบาปถึงขั้นตกนรก แต่จะเป็นบาปในขั้นปิดกั้นความรู้ของตน ถ้าปิดมากๆ เข้าก็ตกนรกได้เพราะบางราย อาจจะไม่แค่สงสัย อาจจะลองของด้วย โดยการกล่าวคำลบหลู่ออกมาเป็นคำพูดที่ตั้งใจ ไว้แล้ว และมีจิตที่โยนความผิด ความไม่ถูกต้องให้ผู้อื่นพร้อมทั้งคำพูดการกระทำ ทำให้ผู้ที่ทำความดีมีราคีโดยมิใช่ของตน ( มันคือ การเบียดเบียนผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน ดังนั้นจึงถือว่าผิด และจะบาปมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับบุญบารมีของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนนั้นแหล่ะ)

 

แต่คิดว่าพระพุทธองค์ไม่คิดยึดติดกับชื่อเสียง ตัวตน ความเป็นของตน แล้วดังนั้นท่านจึงไม่เดือดร้อนกับคำลบหลู่ต่างๆ นาๆ นั้น

แต่ผู้ที่ลบหลู่นั้น กลับตกนรกเพราะมีจิตเป็นอกคติและไม่ว่าจะได้ยินคำสอนของพระองค์ ให้ทำดีแล้ว แต่ไม่ทำเพราะมัวคิดว่า ถือว่า เป็นคำสอนของผู้ที่เราไม่นับถือ ไม่ศรัทธา แล้ว ก็มัวแต่มุ่งหน้าทำในสิ่งที่ต่างออกไป จึงลงนรกได้เช่นกัน

เหมือนกับสนธิ เป็นผู้มีทิตฐิในความรู้ของตน มีเส้นทางที่ดีแต่ไม่สู่รู้ที่จะค้นหาและก้าวเดิน แต่กลับชักชวนกลุ่มคนให้หลงเชื่อว่าสิ่งที่ทำนั้นดี สิ่งนั้นคือหน้าที่ แล้วสร้างความเดือดร้อนหนักใจให้กับคนไทยจำนวนมากของประเทศและนอกประเทศ ( เขาจึงถือได้ว่าทำบาปแบบไม่รู้ตัวทั้งแกนนำและผู้ชุมนุม )

โดยปกติแล้วถ้ารักประเทศ รักในหลวง ควรรู้จักหน้าที่ของตน หน้าที่ของคนเรานั้นทั้งในยามปกติ และ ยามไม่ปกติ จักต้องครองสติและตริตรองด้วยปัญญาอยู่เสมอเพื่อประโยชน์สุขแก่ตัวเราและผู้อื่น ถ้ารู้ข้อนี้ดีแล้ว ไม่ว่าใครจะเป่าหูอย่างไร ใครจะทำหรือสร้างปัญหาอะไรให้กับชาติ วิธีแก้ที่ดีมันต้องมี ไม่ใช่งอแงจะเอาโน้นนี่ไม่รู้จบ และการงอแงจะเรียกร้องขอโน้นขอนี้ไม่รุ้จักจบ และทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เราเรียกว่าพาล หรือเด็กไม่รู้จักโต ( เด็กไม่มีเหตุผล เอาความชอบและความพอใจของตนเป็นที่ตั้ง และจะการต่างด้วยใจอยากทำ )

 

อุ๊บ ขออภัยด้วยนะ สำหรับใครที่มีความศรัทธาในตัวสนธิทั้งหลาย
อันตัวข่อยนี้ไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใดเลย คือ เบื่อหน่ายแล้ว หละ เห็นดีด้วยถ้าใครรักประเทศไม่อยากให้ประเทศล่มจม แต่ขอร้องวิธีแก้ที่ดีไม่ใช่การก่อม็อบแบบไม่จบสิ้น ในเมื่อเขายอมยุบสภาแล้ว เราก็ควรจะทำการเลือกตั้ง มิใช่มาก่อม็อบอีกเพื่อที่ไม่ให้มีการเลือกตั้งแล้วให้เขาออกไป ถ้าคุณมีสติ คิดดูดี ๆ การก่อม็อบเพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้งนั้นคุณกำลังปิดกั้นความคิดของผู้อื่นนะค่ะ คนอื่นเขาก็อยากใช้สิทธ์ของเขา จ๊ะ

 

ภาพพระพุทธเจ้าที่อ้างว่าถ่ายติดโดยบังเอิญนั้น ข้อเท็จจริงคือ เป็นภาพวาดที่ติดอยู่ในผนังถ้ำแห่งหนึ่งของประเทศอินเดีย เป็นการเขียนถึงพุทธประวัติ ตอนที่พระพุทธองค์ ผจญมาร ครับ ภาพนี้เผยแพร่พิมพ์ออกมาให้ปรากฏสายตาคนไทย เมื่อปี 2499 อยู่ด้านหลังปกหนังสือแม่บ้านการเรือน มีพวกหัวการค้า ตัดเอาเฉพาะภาพพระพุทธองค์ มาสร้างเป็นเรื่องราวปาฏิหาริย์ เป็นตุเป็นตะ เพื่อผลทางการค้า ครับ ผมมีหลักฐานตัวอย่างหนังสือ ฉบับนี้มาลงให้ชมกัน จะได้ตาสว่างกันนะครับ

 

สาธุ ถ้าเราสงสัยแล้วต้องการคำตอบ เราอาจจะไม่เชื่อโดยนัก ต้องหาข้อพิสูจน์ อันนี้ผมก็คิดว่างั้น เพราะถ้าลบหลู่เพียงครั้งเดียวถึงกลับตกนรกอเวจีไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด
อันนี้ มันน่ากลัวที่สุด น่ากลัวจิงๆ

 

พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ ในหลักกาลามสูตร อย่าเชื่อโดยได้ฟังมา ฯลฯ ควรต้องพิสูจน์ให้รู้ได้ด้วยตนเอง เสียก่อนจึงเชื่อ นะครับ

 

เอาเป็นว่ายังไงก็เป็นรูปแทนพระพุทธเจ้า ไหว้ไว้ก็ไม่เสียหาย
ที่มาไม่สน เพราะเราสนใจในหลักธรรมคำสอนและ ศรัทธาในตัวพระองค์ท่านก็พอ