ใครเคยรู้ความคิดของคนอื่นบ้างครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย sedd123, 14 กันยายน 2017.

  1. sedd123

    sedd123 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2013
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +52
    ผมอยากรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับผม มันคืออะไร แล้วมีใครเคยมีประสบการณ์แบบเดียวกันบ้างมั้ย

    เป็นเรื่องที่ผมรู้ความคิดของคนที่แอบชอบผม และผมก็แอบชอบเค้าด้วยนะครับ แต่เค้าไม่น่าจะรู้ว่าผมเองก็แอบชอบนะ ที่จริงชีวิตผมก็เจอคนหลายๆคน แอบชอบมาก็หลายคน มีแฟนเก่าก็หลายคน แต่มีแค่คนนี้ที่ผมเห็นความรู้สึกและภาพที่เค้าคิด ผมไม่ได้รู้ว่าใจเค้าคิดอะไรเป็นภาษาคำพูดนะครับ เพียงแต่เห็นภาพและรับรู้อารมณ์ความรู้สึกเท่านั้น ผมก็กลัวว่าผมมโนไปเอง แต่ผมก็ไม่เคยสัมผัสได้อย่างนี้กับแฟนเก่าที่ผมยังรักและคิดถึง หรือไม่เคยสัมผัสแบบนี้กับผญ.คนอื่นที่ผมแอบชอบ

    การฝึกจิตของผมที่ผ่านมา เคยลองนั่งสมาธิพวกกสิณบ้าง อานาปานสติบ้าง สลับกัน เพราะยังไงก็ทำให้จิตเป็นสมาธิอยู่ดี เพื่อเอาสมาธิไปอ่านหนังสือ เอาไปทำภารกิจในชีวิตประจำวัน เพื่อว่าทำอะไรมีสมาธิแล้วมันจะได้เสร็จเป็นอย่างๆไป ส่วนมากระหว่างวันจิตผมจะสงบ ไม่ว่าจะเป็นสมาธิอยู่หรือไม่ก็ตาม ส่วนนึงเพราะผมค่อนข้างใจเย็น แม้ว่าจะต้องเจอเรื่องน่าหงุดหงิดตามประสาโลกๆก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากคับ ส่วนมากก็ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป

    ทานและศีลก็ทำสม่ำเสมอครับ ส่วนสมาธินั้นก็ทำเป็นช่วงๆถ้ามีเวลา ช่วงไหนไม่มีเวลาแต่ถ้าสามารถรวมสมาธิทำงานได้ผมก็โอเค ถ้ารวมสมาธิไม่ได้ก็หาเวลานั่งฝึกสัก15-30นาทีก็จะสามารถฟื้นสมาธิกลับมาทำงานได้โดยไม่ต้องฝึกอีกเป็นเดือนๆละครับ

    ผมไม่ค่อยชอบสวดมนต์ แต่ชอบนั่งสมาธิไปเลย แล้วก็ชอบสังเกตอารมณ์อยาก กับ ไม่อยาก ว่าตอนไหนจิตมีความอยาก ตอนไหนจิตมีความอยากน้อยลง มากขึ้น ตอนไหนจิตไม่มีความอยากแล้ว ฝึกแค่นี้ครับ

    ผู้ใดรู้กรุณาชี้นำด้วยครับ
     
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ฟังหูไว้หูนะครับ
    อดีต จิตมันเคยใช้งานด้านทิพย์จักขุมาก่อน
    เคยใช้งานได้ในระดับที่ชำนาญด้วยนะครับ
    ไม่ใช่แบบไก่กากระโหลกกะลาทั่วไปนะครับ
    เรียกว่าใช้งานแบบมาตฐานทั่วไปของคน
    ที่ใช้งานได้หรือแบบห่มเหลืองมีชื่อบางท่านเลยครับ
    และใช้ร่วมกับจิตใจที่ดีมาก่อนด้วย
    คือไม่นอกทาง พูดถึงอดีตนะครับ
    ย้ำว่าด้วย ๒ องค์ประกอบที่เล่านะครับ

    ปัจจุบันพอสภาวะการใช้งานมันเอื้อแบบพอดี
    คืออารมย์ใช้งานมันบังเอิญได้
    (คือการใช้งานมันจะเป็นแบบอัตโนมัติ
    พอนึกภาพออกเนาะ)
    มันก็เลยเห็นอย่างที่เป็นนั่นหละครับ
    แต่ว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกนะครับ
    เพราะรู้คนแอบชอบอะไรเนี่ย
    มันเป็นกันได้ปกติ คนไม่ฝึกก็เกิดได้
    ผลของกสิณระหว่างทางก็เกิดได้

    ผลอาปาฯก็เกิดได้
    เพียงแต่ไม่มีภาพครับ

    พอมีคนเป็นได้พอหาได้อยู่ ส่วนมากเป็นเด็ก
    ที่มีเชื้อมาจากพ่อหรือแม่ที่ปฏิบัติมา
    แต่ทั่วไปส่วนมากต้องฝึกเอาถึงระดับปั่นปฎิภาคนิมิต
    แล้วไปทางอฐิษฐานจิตเอา ถึงจะพอมีภาพ
    แบบความรู้สึกได้

    ถ้าจะให้แนะนำให้ปลอดภัยทั้งกายและใจ
    และป้องกันการเฝื่อในอนาคต(เผลอปรุ่งร่วม
    กับขันธ์ ๕ ส่สนนามธรรม ทำให้แยกไม่ออกว่ามโน
    หรือจริง)
    และพัฒนาไปในระดับใช้งานได้ต่อไปได้
    คือเป็นสากลใช้ได้ทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะบุคคล

    ให้เราดันภาพที่เป็นความรู้สึกที่ยังไม่พ้นกายนั้น
    ให้มันผ่านออกเหนือระหว่างคิ้ว
    ให้ภาพนี้ไปปรากฏอยู่กลางอากาศในมุมสูง
    คือแหงนหน้ามองเล็กน้อยแทน
    ยังไม่ต้องสนว่านะชัดเจนหรือไม่
    ให้ค่อยเป็นค่อยไป
    และที่สำคัญ ห้ามขยับลูกตา
    ไปทางด้านซ้ายและขวาเป็นอันขาด
    ให้ทำตาแข็งๆไว้ ขณะใช้งาน
    ก็จะพัฒนาได้เองตามที่
    บอกไว้ก่อนหน้าครับ
     
  3. sedd123

    sedd123 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2013
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +52
    หูยยยย สุดยอดเลยครับบบบ ขอบคุณมากเลยนะครับ จะนำไปปฏิบัติตามนะครับ แต่ว่าถ้าเกิดขออนุญาตถามอะไรเพิ่มเติมในส่วนตัวด้วยนิดหน่อย จะได้มั้ยครับบบ

    เรื่องกสิณแสงสว่างผมก็เคยฝึกนะ คือฝึกกสิณขาว กสิณแสงสว่าง แล้วก็อานาปานสติ 3 อย่าง ก็รู้สึกว่าจิตใจเป็นสมาธิทั้ง 3 อย่างเลย แล้วก็เคยสัมผัสความรู้สึกคนอื่นได้บ้าง แต่นานๆครั้ง แล้วก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรครับ ก็สนใจมาฝึกเอง แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องได้ญาณอะไรนะครับ แต่ถ้าได้ก็ดีน่ะครับ แต่ที่ได้แน่ๆคือได้สมาธิครับ
     
  4. rakjung2524

    rakjung2524 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +17
    ผมเป็นหลายครั้งแล้วครับ ตั้งแต่เข้าฝึกในกลุ่มฝึกสมาธิ ของ อ.ธรรม-ชาติ เวลาใดที่ปัจจัยพอเหมาะ จะสามารถ รู้ได้เองเลยไม่ต้องทำอะไร

    มีคราวนึง ผมกำลังแชตกับ เพื่อนในกลุ่มฝึก อยู่ แล้ว อยู่ๆ ได้ยินเสียงคนคุยกันในหัว เกี่ยวกับ ลาออกจากราชการ ผมรู้ว่าไม่ใช่เสียงในจิตผมเองแน่ เลยถามพี่เขาไปว่า มีใครแถวนั้นกำลังคุยเกี่ยวกับลาออกจากราชการมั้ยพี่

    พี่เขา เลยบอกว่า กำลังคุยกันเกี่ยวกับพนักงานราชการ คนนึง ปลอมแปลงเอกสาร เลยจะไล่ออก แต่ว่าไล่ออกมันยาก ต้องให้เขาลาออกจากราชการ เอง (ซึ่งผมได้ แคปหน้าจอการคุยกันส่วนนี้ไว้ สามารถขอดูได้ครับ)

    เรื่องจิต มันก็แปลกนะครับ นี่เป็นเรื่องเล็กๆของผมที่สามารถเอามาเล่าได้ แต่มีหลายๆเรื่องที่เพื่อนในกลุ่มไปพบไปเจออะไรแปลกๆ ยิ่งกว่านี้ ถ้าอยากฝึกจิต จริงๆ จังๆ เห็นผลจริง ก็ส่งข้อความ หา อจ. ได้เลย ไปลอง อ่านวิธีฝึก ได้ที่กระทู้นี้นะ http://palungjit.org/threads/ฝึก-กรรม-ฐาน-ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย.512443/
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    จร้าพอเข้าภาพรวม เรื่อง กสิณ ของน้อง มีกสิณดินที่อ่อนสุด
    แต่อีก ๙ กองที่เหลือมันเท่าๆกันหมด ดังนั้นฝึกอะไรก็ได้
    ที่ไม่ใช่ดิน มันก็จะได้ผลพอๆกัน ส่วนสีขาว กับแสงสว่าง
    มันเอื้อไปทางสร้างความสามารถทางตาเป็นปกติอยู่แล้ว...
    แต่แสงเนี่ย ถ้าไปต่อ มันจะเลยไปอรูปฌานขั้นที่ ๓ ได้
    ส่วน ลมกับอากาศนิมิต มันคล้ายๆกัน
    ถ้าไม่ได้คิดว่า จะไปต่อ อรูปฌาน หรือ ไปต่อวิชาเดินธาตุ
    ก็ไม่ต้องไปสนใจอะไรก็ได้ ....
    ส่วนตา บอกนิดหนึ่ง เวลาใช้งานควรให้มีคนมาสังเกตุนะ
    เพราะว่า เวลาใช้งานแบบที่แนะนำไป มันจะติดขยับไป
    ทางด้านซ้ายแบบไม่รู้ตัว ย้ำว่า ไม่รู้ตัวนะ...

    ส่วนในการใช้งานนั้น
    ให้พึ่งระลึกแบบที่จะกล่าวให้มั่นว่า

    ถ้าคิดจะใช้ก็ใช้ไป
    แต่ใช้แล้วให้แล้วไป
    และไม่ต้องไปตาม ไปหวัง
    ไปคาดอะไรกับมัน

    ถ้ามันจะรู้ก็รู้ไป แต่รู้แล้วก็ให้แล้วๆไป
    ถ้ามันจะไม่รู้ก็ช่างมัน และไม่ต้องไปพยายาม
    ให้รู้ พยายามอะไรกับมันอีก
    เรื่องอื่นๆถ้าจะรู้ก็รู้ไป แต่อย่าไปสนใจ
    ส่วนเรื่องตัวเองรู้ได้แต่อย่าไปยึด

    และในเวลาปกติให้ทิ้งไปเลย
    ไม่ต้องคิดว่า เราเคยมีเคยทำอะไรได้

    ทำได้แบบนี้ เด่วต่อไปมันถึงจะพัฒนา
    ได้เองเป็นแบบอัตโนมัติได้
    ถึงจะไม่เกิดการสร้างวิบากทางจิต
    ให้เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัวในอนาคต

    ไอ้กรณีที่เค้ามา บ่นๆ ว่าเป็นโน้นนี่นั้น
    รับนั้นโน้นนี่มา ก็เพราะว่า ตอนใช้งาน
    ไปมีตัวนำในการใช้งาน มันเลยกลายเป็น
    วิบากทางจิต ยิ่งพอไม่ทิ้ง กลัวว่ามันจะหาย
    ก็เลยสะสมวิบากทางจิต เลยทำให้ส่งผลกระทบ
    ทางกายตามมานั้นหละ.....

    ปล.พวกนี้ ถ้ามีแล้ว ยิ่งต้องทิ้ง
    ยิ่งทิ้งยิ่งอัตโนมัติ.แล้วมันถึงจะค่อยๆ
    กลับเข้าสู่เนื้อหาเดิมแท้จิตเรา
    (ก็คือที่เราเคยสะสมมา มันจะค่อยๆขึ้น
    มาได้เองตามวาระ)..เข้าใจเนาะ
    ทั่วไปไม่มีอะไรหรอก...
    แต่สำคัญที่สุดคือ อย่าลืมว่า พุทธศาสนาเน้นอะไรเป็นหลัก
    พวกเรื่อง ความสามารถพิเศษระหว่างทางต่างๆที่เกิด
    จริงๆแล้ว พวกนี้มันเรื่อง กระโหลกกะลา ไก่กา
    มีพอทำให้ คนหลงตัวเองเล่น ว่าตนเป็นผู้วิเศษ
    พอมีคนค้าน คนแย้ง ก็ยังพยายามทำตัวเป็นผู้วิเศษ
    เลยทำให้เกิดปัญหาตามมา และเป็นเหตุให้ยัง
    เวียนว่ายตายเกิดอยู่ทุกวันนี้อย่างหนึ่งนั้นหละ

    .. อยู่ให้เป็น อยู่ในเนียน ในทุกๆสังคม..
     
  6. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,882
    เคย แต่นานๆที ถ้าจิตว่างๆจะได้ยินเลยว่าคนรอบข้างคิดยังไง

    ได้ยินเสียงเค้าพูดแต่ไม่ได้ขยับปาก คิอจิตเค้าที่พูดออกมา

    บางคนนินทาเราก็มี เราก็ยิ้มๆให้เค้าไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...