ใครเคยโดนภาพหลุมดำบ้าง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Suryar, 5 มิถุนายน 2018.

  1. Suryar

    Suryar ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    2,061
    ค่าพลัง:
    +699
    งั้น สิ่งที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นอะไรคะ ตามที่ท่านวิเคราะห์

    ภาพนิมิตรนี้ ปลดยังไงคะ สัญญาณจะได้ไม่เชื่อมต่อถึงกัน

    ค่ะ เกิด กามกำหนัดค่ะ ปวดท้องน้อยบิดไปมา ต้องใช้ถุงน้ำร้อนประคบ ทรมานสุดสุดค่ะ
     
  2. Suryar

    Suryar ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    2,061
    ค่าพลัง:
    +699
    จากนั้น ใช้เหล็กไหล และแร่หินขนาด หนึ่งกิโลกรัม ดูดพลังกำหนัดออกจากท้องค่ะ

    จนหินพลังงานร้าว ใกล้แตกแล้วค่ะ
     
  3. Suryar

    Suryar ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    2,061
    ค่าพลัง:
    +699
    ต้องส่งหินนี้ ไปให้พี่ชายควบคุม สวมใส่ โดยเขาจะดูดพลังงานหยางจากพี่ชายมา

    แล้วเอามาถ่ายลงให้ดิฉัน เพราะดิฉันมีแต่พลังหยินค่ะ

    หินร้าวเลยค่ะ สงสารพี่หินมาก ส่วนตอนนี้ พี่ชายใกล้วิปลาสไปอีกคนแล้วค่ะ

    ไม่รู้จะทำยังไงดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2018
  4. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ถาม : เมื่อจิตเริ่มเป็นสมาธิบ้างเล็กๆ น้อยๆ จากขณิกสมาธิไปสู่อุปจารสมาธิ แล้วก็สู่อัปปนาสมาธิ อันนี้ท่านพอจะบรรยายเป็นคำพูดได้ไหมครับ ไม่ใช่ในส่วนของการปฏิบัติแต่เป็นในส่วนของความรู้สึกที่เกิดขึ้น แล้วในแต่ละขั้นจิตไปจับอยู่ตรงไหน อย่างไรบ้างครับ ?

    ตอบ : อันดับแรกความรู้สึกทั้งหมดต้องอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หลุดจากลมหายใจเข้าออกเมื่อไรจะไม่สามารถสร้างสมาธิได้ เมื่อลมหายใจเข้าออกเริ่มทรงตัวอยู่ในลักษณะละเอียดขึ้น นั่นจะเป็นลักษณะของ ขณิกสมาธิ

    ปกติสภาพจิตของเราอยู่ในลักษณะน้ำที่กระเพื่อมอยู่ตลอดเวลา น้ำที่กระเพื่อมอยู่ไม่สามารถที่จะสะท้อนเงาสิ่งต่างๆ ลงไปได้ แต่พอน้ำเริ่มนิ่ง เงาจากสิ่งต่างๆ จะสะท้อนลงไปให้เห็น บางทีก็ชัดเจนเหมือนกับมองของจริงเลยก็มี การรู้เห็นจะเริ่มปรากฏ นี่เป็นขั้นตอนของ อุปจารสมาธิ

    ก่อนที่จะถึงฌาน สมาธิที่เรียกว่า อุปจารสมาธิ ก็คือใกล้จะทรงเป็นฌานนั้นจะมีอาการต่างๆ เกิดขึ้นกับร่างกายที่เรียกว่า ปีติ ก็จะมี ขณิกาปีติ ก็คือบางคนก็ขนลุกเป็นพักๆ ถ้า ขุททกาปีติ ก็น้ำตาไหล โอกกันติกาปีติ ร่างกายโยกไปโยกมา ดิ้นตึงตังโครมคราม ถ้าหากว่าเป็น อุเพ็งคาปีติ ก็ลอยขึ้นได้ ลอยไปไกลๆ ก็มี ถ้าหากว่าเป็น ผรณาปีติ บางทีก็ตัวพอง ตัวใหญ่ ตัวแตก ตัวระเบิด ความรู้สึกเป็นอย่างนั้นชัดเจนมาก จนบางคนไม่กล้าทำสมาธิอีก เพราะกลัวว่าจะตาย..!

    เมื่อลมหายใจเข้าออกของเราทรงตัวมากขึ้น อาการภายนอกที่เกิดกับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง (ซึ่งเป็นส่วนที่ชัดเจนที่สุด) แต่ไม่ก่อเกิดความรำคาญ ความรู้สึกทั้งหมดผูกอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก นี่เป็นอาการของ อัปปนาสมาธิขั้นแรกที่เรียกว่าปฐมฌาน

    เมื่อก้าวเข้าไปถึงในส่วนอัปปนาสมาธิขั้นปฐมฌาน สิ่งที่มากระทบอายตนะ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ จะไม่ได้รับความสนใจ เห็นสักว่าเห็น ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน สมาธิจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออกเฉพาะหน้า พอไปถึง อัปปนาสมาธิขั้นที่ ๒ ก็คือทุติยฌาน ความรู้สึกผูกแน่นอยู่กับลมหายใจเข้า รู้สึกว่าลมละเอียดขึ้น บางทีคำภาวนาก็หายไป หรือท่านที่กำลังใจหยาบหน่อยก็ไม่รู้สึกถึงลมหายใจเลยก็มี แต่ว่าความรู้สึกยังคงจดจ่อแน่วนิ่งอยู่เฉพาะภายในเท่านั้น

    พอไปถึง อัปปนาสมาธิขั้นที่ ๓ ที่เรียกว่าตติยฌาน ความรู้สึกทั้งหมดจะค่อยๆ รวบเข้ามา บางทีจะรู้สึกเย็นจากปลายมือปลายเท้าเข้ามา บางทีจะรู้สึกเย็นจากปลายจมูก หรือริมฝีปาก หรือคาง แล้วขยายตัวออกไป ความเย็นที่ขยายตัวออกไปนั้นบางทีก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเราแข็งเป็นหิน หรือกลายเป็นก้อนน้ำแข็งไปแล้วก็มี บางทีก็รู้สึกว่าตึงแน่นเหมือนกับโดนมัดศีรษะจรดปลายเท้าเลยก็มี อาจจะเปรียบเทียบง่ายๆ ว่าเหมือนโดนสาปเป็นหินไปเลยก็มี แต่ว่าความรู้สึกทั้งหมดก็ยังจดจ่อมั่นคง แน่วนิ่งอยู่ภายในเหมือนเดิม อันนี้เป็นลักษณะของอัปปนาสมาธิขั้นที่ ๓ หรือตติยฌาน

    แล้วความรู้สึกทั้งหมดก็จะรวบมาอยู่จุดใดจุดหนึ่งภายในร่างกายของเรา อาจจะเป็นตรงหน้าก็ดี ในศีรษะก็ดี หรืออาจจะเป็นในอกในท้องก็ตาม จะสว่างไสว สว่างโพลงอยู่ตรงนั้น ความรู้สึกทั้งหมดจดจ่อแน่วนิ่งอยู่ภายใน ไม่ส่งออกมาภายนอกเลย อะไรเกิดขึ้นภายนอกไม่รับรู้โดยสิ้นเชิง อันนี้เป็น อัปปนาสมาธิขั้นสุดท้ายคือขั้นที่ ๔ คือจตุถฌาน

    สรุปว่าไม่ว่าจะเป็นฌานขั้นไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ หรืออัปปนาสมาธิก็ตาม ใจจะจดจ่ออยู่ภายใน ไม่ได้ส่งออกนอก ส่งออกนอกเมื่อไร ความฟุ้งซ่านเกิดขึ้น สมาธิก็จะไม่ทรงตัว

    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๕
    ที่มา : เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๕ - หน้า 8 - กระดานสนทนาวัดท่าขนุน===
     
  5. Suryar

    Suryar ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    2,061
    ค่าพลัง:
    +699
    วิธีที่ทำคือ ใส่แว่นตาดำแล้วเอาสำลีมาจุดแว่นขยายที่ส่องดวงอาทิตย์ให้สำลีติดไฟ

    แล้วจับภาพเปลวไฟ ควันไฟ

    จากนั้น นั่งหลับตา

    เกิดวงกลมสีดำสว่างขอบใส สลับกับวงกลมสว่างขอบสีดำ

    จากนั้นเกิดความเย็นที่จิต นิ่งลึก ดิ่งลง

    ไม่มีลมหายใจ

    จิตนิ่ง ถอนไม่ขึ้น ต้องรอเวลาลดเกียร์ ห้าสี่สามสองหนึ่ง
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    สร้างจิตให้มีกำลังจิต
    จากการปั่นปฏิภาคนิมิต กสิณให้ได้
    หรือเข้าถึงปฎิภาคนิมิตภาพพระฯ
    ในระดับที่ไม่ถูกภาพดูดเข้าไปใต้ฐาน
    และทิ้งภาพ ระลึกภาพขี้นมาให้ได้
    หรือสามารถอฐิษฐานจิตให้ได้

    ไม่ว่าภาพอะไร ก็ทำอะไรเราไม่ได้หรอกครับ
    อย่าไปใช้สัมผัสภายใน อย่าไปส่งออกมันไปรับรู้
    เพราะการไปรับรู้ในระดับนี้ ความปลอดภัยต่อกายและจิต
    ยังน้อยมากๆครับ
    เพราะกำลังจิตเรามันน้อย
    ภูมิต้านทางพลังงานทั้งภายนอกภายในยังไม่พอ
    ดังนั้นต้องเจริญสติในชีวิตประจำวันให้ต่อเนื่องจริงๆร่วมด้วย
    ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมในการแก้
    เพราะไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่คลอบคลุม
    มันต้องแก้จากตัวเราเองครับ

    มันดูเหมือนไม่ยึดก็จริง
    เราอาจจะคิดว่า เรานะตัดแล้ว
    มันยังไม่ตัดหรอกครับ
    การตัด มันต้องอาศัยกำลังจิต
    เข้าไปตัดสายใยการเชื่อมครับ
    เพราะถ้าได้ไปเชื่อมแล้ว ปรุงไปแล้ว
    แม้ไม่คิด มันก็เชื่อมของมันอยู่
    พอเข้าใจที่พูดเนาะ
     
  7. Suryar

    Suryar ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    2,061
    ค่าพลัง:
    +699
    ส่วนเวลาจุดเทียน

    จะเห็นดวงกลมๆ สีเหมือนข้างบนที่กล่าว แต่สลับเป็นชั้นสีรุ้งซ้อนเป็นวงวง คือ ม่วงคราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง

    แล้วสลับกับวงกลมๆ สีดำขอบสว่าง และลึกลงไปวงสว่างขอบดำ แล้วไล่เป็นสีรุ้ง แล้วสลับกลับไปเริ่มต้นใหม่เป็นแบบนี้เรื่อยไปค่ะ

    ผิดปกติมั้ยคะ
     
  8. Suryar

    Suryar ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    2,061
    ค่าพลัง:
    +699
    ท่านวิษณุเคยตอบแบบนี้
    แต่อ.บาสไม่รู้ว่า ภาพมันรุนแรงมากสำหรับเด็กฝึกใหม่
    ยิ่งเป็นหญิง ยิ่งไม่รู้เท่าทัน
    อ่อนต่อโลกเลยโพสต์ควายแทนตัวเองค่ะ
     
  9. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ผิดครับ เด่วมาโพสต่อ หาก่อน
     
  10. Suryar

    Suryar ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    2,061
    ค่าพลัง:
    +699
    ขอบคุณนะคะที่ช่วยหนู ทุกอย่างมันเพี้ยนเหมือนนมแลคโตสฟรีเลยค่ะ
     
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,019
    เรียกว่า ซน ครับ...
    ถ้าจะสร้างกำลังจิต ให้ลืมวิธีที่เล่าไปเลยนะครับ...
    ยังไง ถ้ามีเวลา ไป หา อ.สุริยัญ วัดป่า ฉัพพรรณรังสี อ.จุตรัส ชัยภูมิ
    ดูนะครับ ถ้าได้ทุกเรื่อง รวมวิธีแก้ด้วย...
    ส่วนกสิณถ้าว่างพอ ลองไปอ่านใน
    กระทู้กสิณอะไรฝึกง่ายสุดดูครับ
    แนะถึงระดับใช้งานได้ ถึงอรูปฌาน ๓ แล้วครับ
    ไม่อยากใช้หนังซ้ำบ่อย ครับ
     
  12. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    หลุมดำมีอยู่ในเราทุกครับ เพียงแต่จะเห็นหรือไม่

    ยังมีเห็นจริงและมโนเองด้วย

    ให้สังเกตุ หลุมดำที่เห็น มีแรงดึงดูดหรือไม่ ถ้ามีก็ใช่ ถ้าไม่มีคือมโนเอง

    ถ้าเป็นหลุมดำจริง ห้ามเข้าตามแรงดึงดูดเด็จขาด ตายแน่นอน ผู้เข้าไปได้มีแค่ระดับพระอรหันต์เท่านั้นนะครับ ต่ำกว่านั้น ไม่รอด

    ส่วนอาการเจ็บที่ดั้งจมูก ให้ทดลองทำดังนี้

    ลองกำหนดย้ายจุดที่เจ็บปวดได้หรือไม่

    วิธีกำหนดย้ายง่ายๆ ให้ลอง กลอกตามองขึ้นบน กลอกตาไปทางซ้ายทางขวา อาการเจ็บปวดที่ว่ามีการเคลื่อนที่ตามหรือไม่ อาจจะเคลื่อนที่เล็กน้อย ก็ถือว่าสามารถเคลื่อนได้

    หากอาการเจ็บจมูกไม่เคลื่อนตาม ลองไปหายาขมตราใบห่อมารับประทานครั้งละ 7 เม็ดไปเลย เพราะอาจเกิดจากสาเหตุ ไม่ขับถ่ายเลยมีอาการชามมาถึงดั้งจมูกหว่างคิ้วได้ครับ
     
  13. Suryar

    Suryar ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    2,061
    ค่าพลัง:
    +699
    มันไมเคลื่อนเลยค่ะความเจ็บที่ดั้งจมูก เวลากรอกตาไปมา

    หลุมดำนี้เป็นของจีนค่ะ

    คาดว่า อาจารย์สุริยัญ น่าจะช่วยได้ค่ะท่าน

    แต่ไม่มีใครเขาช่วยกัน พอบอกว่า โดนหลุมดำของใคร เขากลัวเดือดร้อนกันค่ะ

    เลยท้อใจ นี่ผ่านมาสิบปีแล้ว คิดว่า เคราะห์กรรมน่าจะหมด คงจะเจอคนช่วยได้ค่ะ

    หนูได้ท่านท่านเมตตา ขอบพระคุณนะคะ
     
  14. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    กสิณ เราจะรักษาอารมณ์หนึ่ง ไม่มีสอง ครับ และการที่เราไปไล่สีรุ้งนั้น เรียกว่า กสิณโทษครับ เป็นตัวขวาง และผิดวิธี ทำให้เราเป็นโทษในการฝึก

    เราให้ดูภาพแล้วจำภาพนั้นให้ได้เวลาหลับตาครับ เพ่งตรงกลาง ไม่ใช่ไปไล่สีรุ้งใดๆทั้งสิ้นเป็นการฝึกผิดวิธี ครับ

    อ่านดูครับ ท่านให้เพ่งแต่ไฟที่มีแสงหนาทึบที่ปรากฏ ไม่ใช่เพ่งเปลวไฟ หรือ ไฟที่ไหวไปมา

    อ่านดูครับ
    http://www.thasungmedia.com/wat/puy/ebook/2555/Kammatharn/#/104/
     
  15. Suryar

    Suryar ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    2,061
    ค่าพลัง:
    +699
    หนูไปมาทั่ว ออกไปถึงเขมรโน่น

    แฟนทิ้ง มาสิบปี ตกงานมาห้าปีแล้วค่ะ

    ชีวิต จากคุณหนูกลายเป็นยาจก

    หนูมิใช่นกอินบรีด เป็นแค่นกวัดค่ะ

    สู้ทุกรูปแบบ จนตอนนี้ ปลงตกค่ะ

    ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เมตตา

    หนูจะพยายามแก้ไขสิ่งผิด

    ขอบคุณที่ช่วยชีวิตนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2018
  16. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    หลุมดำ ของจีน เวียดนาม คริส พุทธ มันก็คืออันเดียวกันนั้นละครับ

    เช่นนั้นลองกำหนด ให้มันขยายทั่วๆตัว เรียกว่าความรู้สึกตัว ความรู้สึกตัวนี้เรียกอีกอย่างว่า กายเวทนา ในสติปัฏฐาน4 คือ เวทนา นั้นเอง

    หากขยายความรู้สึกปวดหนึบๆ ที่ดั้งจมูก ออกไปทั่วตัวได้ก็ถือว่ารู้จักเวทนาของจริง

    เป็นการเพ่งเกินไปจนเกิดความรู้สึกขึ้น จะเรียกว่าจิต ก็ได้

    อาการปวดหนึบๆ ถูกรู้ ส่วนเรารู้อยู่ ไม่ใช่เพ่ง จะสามารถ ขยายความรู้สึกได้ ลองดูนะครับ
     
  17. Suryar

    Suryar ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    2,061
    ค่าพลัง:
    +699
    มันปวดตามจังหวะเต้นของหัวใจ บางครั้งปวดกดหน่วงๆแรงๆ ทรมานมากค่ะ

    ยิ่งดูอะไรที่สว่างไสวพื้นสีขาวไม่ได้เลยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2018
  18. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    อาการปวดถูกรู้ส่วนเรารู้อยู่ จะขยายทั่วตัวได้

    ลองทำหลายๆรอบ ไม่ใช่ครั้งเดียวจะได้เลย บางคนใช้เวลาเป็นเดือน บางคนครั้งแรกก็ทำได้เลย

    ต้องมีความเพียร และเป็นความเพียรที่ไม่ทื่อด้าน เจอตอก็ขวิดมันอยู่นั้นละเป็นควายถึก แค่เดินหลบก็จบ
     
  19. Suryar

    Suryar ขอบคุณเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2018
    โพสต์:
    2,061
    ค่าพลัง:
    +699
    รับทราบ จะทำตามค่ะ
    อนุโมทนานะคะ
     
  20. Bodhisattva

    Bodhisattva The Spirit of BUDDHA

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    506
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,662
    .....
    ....
    ...

    แล้วเส้นสายพลังงานสีออกขาวๆ ใสๆ ที่มันเป็นเส้นแสงลักษณะตาข่าย ตาราง ผืนใหญ่ ยืดได้ หดได้ ดึงไปมาได้ เป็น 3มิติ กระเพื่อมเป็นคลื่นเป็นรอน ล่องลอยอยู่ในอากาศมืดที่มีแต่ดวงดาว ณ จุดนี้มันอันตรายหรือไม่ อย่างไรคะ ถ้าอันตรายจะได้อยู่ให้ห่างๆ มันไว้ค่ะ

    เคยเข้าไปในหลุมอุโมงค์ทอร์นาโดแสงสีรุ้งและสีอื่นๆ แต่ยังไม่เคยเข้าไปเฉียดใกล้หลุมดำค่ะ เห็นทีจะไม่ปลอดภัย ก็ขออยู่ให้ห่าง ดูอยู่ไกลๆ ดีกว่าค่ะ ==!
    ..
    ..

    ถือว่าถามอาจารย์พี่นภเอาเป็นความรู้ค่ะ
    เพราะส่วนตัวจะได้ระวังเอาไว้ด้วยค่ะ
    ..
    ..

    ปล, อ่านแล้วรู้สึกเห็นใจ จขกท มากค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ เรียนรู้ไปเรื่อยๆ อย่าท้อแท้ค่ะ เวลาภาวนาเราเองก็เกาะพระเอาไว้ตลอดเป็นพุทธานุสติ กันไว้ดีกว่าแก้ อุ่นใจดีด้วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2018

แชร์หน้านี้

Loading...