ใจใสปิ๊ง *** เพราะถูกขัดใจ !!!

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย กระสือข้างส้วม, 19 กรกฎาคม 2005.

  1. กระสือข้างส้วม

    กระสือข้างส้วม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,212
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +392
    ใจใสปิ๊ง เพราะถูกขัดใจ
    สรยุทธ รัตนพจนารถ info@sorrayut.com

    คราวที่แล้วผมเขียนเล่าเรื่องปัญญาจากท่านผู้ใหญ่ที่ผมเคารพรักอย่างยิ่ง คือ ท่านอาจารย์ระพี สาคริก กับการเข้าถึงความสุขง่ายๆ ด้วยการเห็นความจริงว่า เรื่องราวต่างๆ นานารอบตัวเราที่ดูเหมือนยุ่งเป็นยุงตีกัน แท้จริงทำให้ง่ายได้ด้วยการมองเห็นว่ามันอาจแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือ เรื่องของเรา และ เรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของเรา

    ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อดูลงไปให้ดีก็จะเห็นว่าเรื่องส่วนใหญ่ที่เราเที่ยวไปแบกกันเอาไว้เป็นเรื่องประเภท " เรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของเรา "

    บ่ายวันนี้ผมก็ได้ทั้งชื่นชมกับปัญญาชุดเดียวกันนี้ แต่จากอาจารย์ผู้ใหญ่อีกท่านที่ผมเคารพรักเหมือนแม่ คือ ท่านอาจารย์สุมน อมรวิวัฒน์

    ในที่ประชุมกลุ่มจิตวิวัฒน์* วันนี้มีการทบทวนตนเองของกลุ่ม หลังจากได้พบกันมาปีเศษ อาจารย์สุมนกล่าวได้อย่างน่าสนใจว่า การที่ได้มาร่วมประชุมทำให้รู้สึกว่าตนเองนั้นตัวเล็กลง รู้สึกว่าสิ่งที่ยังไม่รู้นั้นมีอีกมากนัก ได้เรียนรู้ที่จะลดละอัตตาลง บรรดาทฤษฎีต่างๆ ประดามีที่เคยยึดถือว่ามีถูก-มีผิดชัดเจนก็เห็นความไม่เที่ยง (ของความจริงเชิงสมมติ/สมมติบัญญัติ) มากขึ้น

    ประโยคเด็ดของอาจารย์คือ " เดี๋ยวนี้ดีจัง เวลามีคนมาขัดใจ ก็ได้มีโอกาสขัดใจตัวเอง " คนฟังออกจะงงๆ กับการเล่นคำของอาจารย์ ท่านอธิบายเพิ่มเติมว่า ก็เวลามีคนมาขัดใจเรา เราก็ได้ฝึกการมีสติรู้ตัว เมื่อรู้ตัวก็มีโอกาสขัดใจตัวเอง คือ ขัดความขุ่นข้องหมองมัวออกไปจากจิตใจ (ว๊าว! เสียงจากที่ประชุมอุทานเบาๆ)

    ผมทั้งทึ่ง ทั้งซึ้งกับความงามของราชบัณฑิตท่านนี้ งามทั้งภายนอก งามทั้งภายใน เป็นความงามที่แผ่ความอบอุ่น ความร่มเย็นสบายๆ ออกมา

    ขณะที่นั่งฟังด้วยความอิ่มเอิบอยู่นั้น เทียบเคียงความรู้สึกเหมือนกับอยู่ใกล้ๆ ใครไม่มีผิด รู้สึกเหมือนกับได้อยู่ใกล้ๆ ท่านอาจารย์ระพีนั่นเอง ทั้งคู่เหมือนกับข้าวที่ออกรวงเต็มแล้วน้อมลง ถ่อมตัว ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ภายใน (contemplative learning) อย่างชัดเจน ทำให้นึกถึงว่าสิ่งที่สองท่านนี้เชื่อและปฏิบัติก็เหมือนกัน พิสูจน์ได้ว่าปราชญ์ของแผ่นดินนั้นเจริญปัญญาไปในทิศทางเดียวกัน

    เรื่อง" เวลามีใครโกรธขัดใจยิ่งดีเลย ได้โอกาส 'ขัด' ใจของเรา คือขัดเอาความขุ่นข้องหมองใจออกไป " ก็คือเรื่องเดียวกันกับการที่คนอื่นมาทำให้ (หรือพยายามทำให้) เราเซ็ง แล้วเรามีสติรู้ตัว และมีปัญญารู้ทันว่ามีส่วนที่เป็นเรื่องของเราและไม่ใช่เรื่องของเรา

    การที่เขาทำไม่ดีกับเรานั้นเป็นเรื่องของเขา เป็นปัญหาของเขา เรื่องของเราที่แท้จริงแล้ว คือการดูแลจิตใจตนเอง! หน้าที่ของเราแท้จริงคือ การดูแลตนเองให้ดี! (ผมถึงบางอ้อทางสติและปัญญาอีกครั้ง!)

    น่าเสียดายที่คนในสังคมส่วนใหญ่มักโทษ หรือโบ้ยปัญหาให้คนอื่นทั้งสิ้น วันไหนตื่นสายก็โทษคนที่บ้านว่าไม่ยอมปลุก คือ ถ้ามันลงตื่นสายไปแล้ว เซ็งหรือเกือบเซ็งไปแล้ว ก็น่าจะได้หยุดสักหน่อย พอให้มีสติแล้วคิดได้ว่า เขาลืมปลุกเราก็เรื่องของเขา เราอาจพยายามหาวิธีช่วยให้เขาไม่ลืมอีก แต่เรื่องสำคัญอยู่ที่เราจะจัดการกับความเซ็งหรือเกือบเซ็งตอนนั้นอย่างไรต่างหาก

    ฝากใครทำงานอะไร แล้วเขาลืมทำให้เหมือนกันไม่มีผิด ใช่ล่ะ ... ถึงแม้เราจะมีอำนาจ'สั่ง' (หรือวาน) ให้ใครทำอะไรแล้วเขาลืมทำ เช่น วานแม่ให้ช่วยโทรศัพท์ สั่งแฟนให้ซื้อของ สั่งลูกให้ทำการบ้าน สั่งคนใช้รดน้ำต้นไม้ ถึงเวลาคนเหล่านั้นลืมทำ (ไม่ว่าจะลืมจริงหรือตั้งใจลืมก็ตาม!) ไม่มีประโยชน์ที่เราจะเสีย'ใจ' ใสๆของเราให้กับความโกรธหรือความเซ็ง อย่างไรซะมันก็เกิดขึ้นไปแล้ว สู้เอาสมองที่เคลียร์ๆ คิดหาวิธีป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกดีกว่า

    เวลาใครทำอะไรที่เขาไม่ควรทำ หรือไม่ได้ทำอะไรที่เขาควรทำนั้น พอเรากำลังจะก้าวเข้าสู่บรรยากาศมาคุ ที่สมองส่วนควบคุมความโกรธและเศร้า ที่เรียกว่า อะมิกดาลา (Amygdala) จะทำงานแล้ว ถ้ารู้จักเตือนตนเอง มีสติและมองให้เห็นว่าใครทำหรือไม่ทำอะไรนั้นเป็นเรื่องของเขา เรื่องของเราเรื่องหลักคือ การดูแลจิตใจ (หรือ'ขัด' ความขุ่นข้องหมองมัวออกจากจิตใจ) รับรองว่าโลกนี้จะสดใสขึ้นอีกเยอะ

    วันๆ ไม่ต้องคอยกลุ้มนั่น กลุ้มนี่ เที่ยวปะ-ฉะ-ดะ กับเขาไปเรื่อย :)

    ...............................................................................

    หมายเหตุ * จิตวิวัฒน์เป็นที่ประชุมของนักคิด นักปฏิบัติที่สนใจเรื่องสุขภาวะองค์รวม สุขภาวะทางจิตวิญญาณ กระบวนทัศน์ใหม่ วิทยาศาสตร์ใหม่ การก้าวข้ามความคับแคบของตัวกูของกู เช่น ศ.นพ.ประเวศ วะสี, ศ.นพ.ประสาน ต่างใจ, ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม, พระไพศาล วิสาโล, นพ.วิธาน ฐานะวุฑฒ์ ดำเนินการโดยมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส.)
     
  2. พรายแสง

    พรายแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    833
    ค่าพลัง:
    +371
    ดีใจ...อย่างนี้เอมก็ได้โอกาสขัดล้างหัวใจตนเองบ่อยมากเลย เพราะเจอแต่เรื่องขัดใจบ้อย บ่อย
     
  3. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    เวลาใครทำอะไรที่เขาไม่ควรทำ หรือไม่ได้ทำอะไรที่เขาควรทำนั้น พอเรากำลังจะก้าวเข้าสู่บรรยากาศมาคุ ที่สมองส่วนควบคุมความโกรธและเศร้า ที่เรียกว่า อะมิกดาลา (Amygdala) จะทำงานแล้ว ถ้ารู้จักเตือนตนเอง มีสติและมองให้เห็นว่าใครทำหรือไม่ทำอะไรนั้นเป็นเรื่องของเขา เรื่องของเราเรื่องหลักคือ การดูแลจิตใจ (หรือ'ขัด' ความขุ่นข้องหมองมัวออกจากจิตใจ) รับรองว่าโลกนี้จะสดใสขึ้นอีกเยอะ

    **...จะพยายามค่ะ.......ขัดใจบ่อย ๆ ใจจะได้ใส เนอะเอมเนอะ..***
     

แชร์หน้านี้

Loading...