ใจ เป็นมหาเหตุ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย อโศ, 13 เมษายน 2012.

  1. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผิดแล้ว เพราะไม่ไหลไปตามอารมณ์ จึงไม่รู้สึกหงุดหงิดแต่อย่างใด

    การที่หงุดหงิด แสดงออกว่า ไม่ถูกใจ รู้สึกขุ่นข้องหมองใจ

    จึงแสดงออกมาด้วยการหงุดหงิด แต่หากเพิกเฉยเสียแล้ว ย่อมไม่ไหลไปตามอารมณ์

    สาธุครับ
     
  2. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    เหตุคืออะไรเหรอ
    ดับยังไงเหรอ
    ดับแล้วเป็นยังไงเหรอ
     
  3. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    คุณเอาอารมณ์ไหน มาโต้ตอบผมครับ
    หรือคุณไม่มีอารมณ์แล้ว
     
  4. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ผมบอกไปแล้ว ว่าที่ผมโต้ตอบอยู่นี่ เพราะคุณคุยเรื่อง สติ

    ผมจะพูดคุยเรื่อง จิต สติ สัมปชัญญะ ผมบอกไปเมื่อไม่นานนี่เองนะครับ

    ที่ผมพูดคุยอยู่เพราะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เข้ามาอ่าน อย่าลืมที่พูดคุยกันสิครับ

    หากลืมจะทำให้พูดคุยกันไม่รู้เรื่องน่ะครับ ต้องมีสติในการพูดคุยครับ

    สาธุครับ
     
  5. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    เหตุเราเป็นผู้สร้าง จากการกระทบทางกาย จนเกิดเป็นความรู้สึก

    แต่หากเราเพิกเฉยต่อความรู้สึก การรับรู้จะไม่เกิดขึ้น

    เมื่อการรับรู้ไม่เกิดขึ้น การหงุดหงิดอย่างที่คุณเป็นก็ไม่เกิดครับ

    สาธุครับ
     
  6. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    คุณกล่าวเหมือนกับว่าให้ตัดการรับรู้ทิ้งไปเหรอครับ
     
  7. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ใน พรหมวิหาร 4 มีมุฑิตาอยู่ การยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี

    นี่ก็เกิดการรับรู้ครับ แต่หากสิ่งที่รับรู้นั้นไม่ดี ควรที่จะรับรู้ไหมครับ

    อย่างมีผู้อื่นได้ดี กลับไม่พอใจ แบบนี้ใช่สิ่งที่ควรรับรู้ไหมครับ

    เมื่อแยก กาย ใจ จิต แล้ว ก็ไม่มีการรับรู้ใดๆอีก ที่ยังรับรู้อยู่นี้

    เพราะมีตัวตน และ ยังถือตัว ถือตน อยู่ใช่ไหมครับ

    สาธุครับ
     
  8. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    คุณกล่าวว่า เมื่อแยกกาย ใจ จิตแล้ว ก็ไม่มีการรับรู้ใดๆอีก

    แสดงว่าจากคำกล่าวนี้ ไม่มีมุทิตาเกิดเช่นกันใช่ไหมครับ
    เพราะคุณบอกว่า มุทิตาในพรหมวิหาร 4 ก็เกิดการรับรู้
     
  9. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ดีแล้ว ดีแล้ว
     
  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    จิตที่ไม่ได้ฝึก..มักจะไปตามเรื่องตามราวของเค้า..หลงไป ขนาดหลงๆอยู่ยังไม่รู้่ว่าหลง..เข้าว่า ไอ้นี่ไม่มีสติเลย..ก็ไปโกรธให้เขา ..ก็คือไม่มีสติอย่างเค้าว่า..​

    สติที่บุคคลส่วนมากเข้าใจผิดคิดว่าตัวเองมีนั้น....เป็นสติทางโลกๆที่คิดเองเอ่อเองว่าตัวเองนั้นมี.....แต่สติที่กล่าวๆกันเป็น...สติที่เรามาสร้าง..
    จากการเจริญสติไม่ว่าจะเป็นการระลึกรู้วิธีไหนก็ตามที่เน้นลงที่กาย...เป็นสติในทางธรรม...ที่จะเข้าไปดูจิต เข้าไปชำระกิเลสที่จิตนั้น ตรงนี้...ไม่มี[/B]
    นอกจากบุคคลที่มาฝึกจริงๆ ถึงจะรู้ว่าเราไม่มีสติ มาฝึก มาดู มารู้ มาแยกได้จริงๆ นั่นแหละ...ถึงจะรู้ว่าเราหลง ทั้งๆ ที่เราหลงๆอยู่ เราก็ยังว่าไม่หลง... เราไม่หลง..ในส่วนของสมมุติเท่านั้นเอง

    ในระดับวิมุติ ตราบใดที่ยังแยกรูปแยกนามไม่ได้นี่...หลง
    ถึงจิตจะสงบอยู่ ก็เป็นเพียงขันที่คว่ำอยู่ ยังไม่ได้หงายขี้นมา
    เป็นสมาธิเฉยๆ สงบอยู่เฉยๆ ยังไม่ได้หงายขี้นมา
    ถ้าหงายขี้นมาแล้ว กำลังสติต้องตามค้นคว้า ตามทำความเข้าใจ..
    แล้วละออกให้หมดอีก แม้จิตก็ไม่ให้เกิด ถ้าจิตไม่เกิดแล้ว
    ดับความเกิดแล้วต้องวางอีก
    ค่อยๆเป็นค่อยๆไปครับ...
    อนุโมทนาสาธุครับ...
     
  11. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +4,065
    ..ก็มึงเพิ่งสอนกรูไปหยกๆ..ว่าอุเบกขาในกระทู้โน้น.. ไอ้ส้นตีน แล้วมึงมาต่อว่าต่อขานเขาทำไมอีก ..มาทะเลาะกับเขาทำไม หือ หือ อุเบกขามึงหายไปไหน
    ..จะเอายังไงแน่ กรูอุตส่าห์ยกให้มึงเป็นอาจารย์กรู..เอ้ยยยส์..ไอ้อธิเดชะ..!@ กูจะกิน ซาร่า หรือ พารา ดีวะคุยกับมึงนี่หื หือ.
     
  12. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    เมื่อแยก กาย ใจ จิต แล้ว ก็ไม่มีการรับรู้ใดๆอีก
    ปู่ ต้องอ่านให้ชัดๆ ตาไม่ค่อยดีแล้วสิ
    เขาไม่ได้มาทะเลาะกับผมนะ
    อ่านดิปู่
    ผมบอกไปแล้ว ว่าที่ผมโต้ตอบอยู่นี่ เพราะคุณคุยเรื่อง สติ

    ผมจะพูดคุยเรื่อง จิต สติ สัมปชัญญะ ผมบอกไปเมื่อไม่นานนี่เองนะครับ

    ที่ผมพูดคุยอยู่เพราะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เข้ามาอ่าน อย่าลืมที่พูดคุยกันสิครับ

    หากลืมจะทำให้พูดคุยกันไม่รู้เรื่องน่ะครับ ต้องมีสติในการพูดคุยครับ

    สาธุครับ

    ชัดไหมปู่ ผมอ่อนหัด ไปหงุดหงิดเขา เซ็งเจี้ยวเลย เหี่ยวหดหมด งานนี้
    ปู่ไม่ช่วยเลย:':)':)@
     
  13. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +4,065
    :mad:มึงนี่ก็อีกตัว..เผลอไปคุยกับมันแผล็บเดียว กูเตือนแล้วมันเป็นแมวดื้อ ดูซิติดอุเบกขาคอเป็นเอ็น..กลับมาแล้วซิมึงรีบไปฉีดยา เอาโซดาไฟกรอกคอแล้วอ้วกออกมาเร็ว เดี๋ยวเชื้อลามรักษาลำบาก..กรูนี่ชักเบ๋อไบ่กันมันแล้ว..ไอ้อธิเดชะนี่.
     
  14. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +4,065
    โอ้โฮ..ลืม ขออภัยท่านอโศด้วยครับ กำลังฝึกสอนศิษย์ หรืออาจารย์ อธิเดะอยู่ครับ ขออภัยด้วยครับ
     
  15. ช่อม่วง

    ช่อม่วง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    165
    ค่าพลัง:
    +312
    ใจ เป็นมหาเหตุ
    ---------

    *** หยุดที่รู้ ดูที่ปฏิบัติ <<< คำพระท่านสอน ***<!-- google_ad_section_end -->
     
  16. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,480
    ค่าพลัง:
    +1,880
    ...............น่าจะตามเห็นความไม่เที่ยง ของอารมณ์ที่รู้ อยู่เป็นประจำ มากกว่า ยกจิตหนี เพื่อเอา อุเบกขา:cool:
     
  17. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    เมื่อไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว จะมีไหมมุฑิตา เมื่อแยก กาย ใจ จิต แล้ว

    ไม่มีการปรุงแต่ง การเกิดจึงไม่มี แล้วจะเกิดการรับรู้ได้อย่างไร

    สาธุครับ
     
  18. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ไม่ใช่แค่ยกจิตหนีครับ แต่รู้จนเบื่อหน่ายแล้ว จึงยกจิตออกจากการปรุงแต่งครับ

    ห่างไกลจากกิเลส ด้วยการวางเฉยครับ ผู้ที่ไหลไปตามอารมณ์ ย่อมมองไม่เห็นจิต

    สติย่อมไม่เกิดขึ้น สัมปชัญญะย่อมไม่เกิดขึ้น แต่หากไม่ไหลไปตามอารมณ์

    จิตย่อมเป็นสมาธิ และ มีสติ สัมปชัญญะ บริบูรณ์ครับ

    สาธุครับ
     
  19. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    อนุโมทนาสาธุ กับ ธรรมที่ยกมาครับ

    สาธุครับ
     
  20. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ถามผม ผมไม่รู้หรอกครับ ว่าไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว จะมีมุฑิตาไหม
    ผมถามคุณ คุณตอบด้วยคำถามที่ผมตอบไม่ได้ครับ
    แล้วคุณล่ะ ตอบว่าอย่างไร มีหรือไม่มี ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...