ใช่ถอดจิตมั้ย

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย คนเก่ง ฟ้าประทาน, 11 กันยายน 2017.

  1. คนเก่ง ฟ้าประทาน

    คนเก่ง ฟ้าประทาน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2017
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +12
    คือ ฝึกปฐวีกสิณผ่านมาสักระยะหนึ่ง แล้วมีคืนหนึ่งตัวเองเอียงตัวขึ้นมาจากที่นอนประมาณ90องศา และหันกลับไปดูก็เห็นอีกร่างหนึ่งเอียงตัวขึ้นมาเหมือนกัน แต่จะทำมุมเอียงประมาณ 45องศา แล้วร่างแท้ๆนอนอยู่บนที่นอน ผมตกใจ แต่มันเหมือนไม่มีแรงลุกขึ้นเหมือนไม่มีพลังจึงล้มลงนอน แล้วก็ลืมตาคิดวิเคราะห์มันคืออะไร ตกลงถอดจิตหรืออะไรมีหลายร่างแท้(ขำ) จะถามว่า ปฐวีกสิณ ถ้าเป็นเรื่องของฤทธิ์สามารถแยกร่างได้เหรอ
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    อย่าไป ไล่ค้นคว้า ในลักษณะ เอาผลที่เกิดมาวิเคราะห์ สรุปว่าเกิดอะไร

    ให้ เฝ้นกลับไป ย้อนกลับไป ใน วันนั้น ได้เพียรอะไรมา

    ถ้า วันนั้นเพียรวางอารมณ์ในกรรมฐานมา ก็ ระลึกไปตรงๆว่า เพราะเหตุนั้น จึงเกิดสิ่งนี้
    เพราะเราหมั่นประกอบเหตุ สิ่งที่เป็น ผลใดๆ ย่อมปรากฏ ...

    พอวางจิต ยกพิจารณา สิ่งที่เรียกว่า จิต ด้วยอาการอย่างนี้ จิตจะไม่ไปสาระวน
    อยู่กับ การ ตะครุบ หรือ หาคนอื่นมาช่วยรับรอง ผล ที่เกิด แต่จะตรงกันข้าม
    คือ จิตจะกลับไปเพียรที่เหตุทันที แล้วจะมีอาการไม่ต้องถามใคร

    ถ้าวันนั้นไม่ได้เพียรวางอารมณ์กรรมฐานใดๆ เพียงแต่ว่า กระทบโลกที่วุ่นวาย วกวน
    จนจิตมัน หาทางออกจากภพ ก็ให้รับรู้ถึง จิตที่มันเพียรปรารภออกจากภพ โดยที่
    อาศัยการทำงาน หมั่นเพียรทางโลกๆ สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าอะไรก็ตาม จะมีรสไม่ทิ้งโลก
    แต่จะรู้ชัดว่า เพราะอาศัยโลกนั่นแหละ จึงเห็น จิตที่พยายามหลุดพ้น ตามเห็น
    จิตที่ปรารภความเพียรนั้น แล้วอย่าไปฉวยจิต คว้าจิต กดจิต ให้จมโลก หรือแม้น
    กระทั่งจมธรรม ถึงจะทราบย้อนกลับไปที่ "เหตุ"

    เหตุของการเพียรปรารภออกจากภพ ก็ อาศัยเหตุ สาวไปที่เหตุเหล่านั้น ซึ่งเกิด ดับ

    ถ้าไม่เห็น เหตุในการเพียรปรารภในการออกจากภพ ก็เป็นสิ่ง เกิด ดับ ก็ไม่มีทางรู้ อริยสัจจ

    สัจจ ที่ทำให้ก้าวพ้น ภพ ชาติ ข้าม สิ่งปกคลุม ปิดหน้า ปิดตา

    เมื่อรู้รอบใน "เหตุ" ผลที่เป็น สามัญเช่น ออกไปโน้น นั่น นี่ ก็จะปรากฏใน
    อาการ สามัญผล ผลที่เกิดเป็นสามัญ สำหรับคนที่ ทำความเพียร กำหนดรู้
    เหตุเกิด เหตุดับ ของธรรมเหล่านั้น
     
  3. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +952
    คือ ฝึกปฐวีกสิณผ่านมาสักระยะหนึ่ง แล้วมีคืนหนึ่งตัวเองเอียงตัวขึ้นมาจากที่นอนประมาณ90องศา และหันกลับไปดูก็เห็นอีกร่างหนึ่งเอียงตัวขึ้นมาเหมือนกัน แต่จะทำมุมเอียงประมาณ 45องศา

    ตอบ ขันธ์ ๕ คือ ชีวิต ประกอบไปด้วย (ผู้ใดรู้เห็นขันธ์ ๕ หู ตา สว่าง) รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ถ้าไม่ครบ ขันธ์ ๕ ก็นอนนิ่ง ๆ ไม่ขยับ ก็คือ คนตายนั่นเอง หรืออีกอย่างหนึ่ง

    ...คนมีชีวิต...ได้แก่ กายหยาบ (รูป = ธาตุ ๔) + กายทิพย์ (อาทิสมานกาย, กายละเอียด) + จิต
    1. การปฏบัติ เพื่อเข้าถึงกายละเอียด จิตจะเคลื่อนจากกายหยาบไปสู่กายละเอียด คือ ความละเอียดของจิตเข้าไป เข้าไป นั่นเอง สุดท้าย จิตจะไปอยู่ที่กายละเอียด (ทำฤทธิ์ที่นั้น)
    2. การถอดจิต(ถอดอาทิสมานกาย) จิตจะไปอยู่ที่กายทิพย์ แต่จะยังมีประสาทกายเชื่อมถึงกันอยู่จะควบคุมกายทิพย์ได้ต้องมีพลังจิตเพียงพอ

    ...คนไม่มีชีวิต...ได้แก่ กายทิพย์ + จิต (ไม่มีกายหยาบเพราะจิตไม่สามารถควบคุมกายหยาบได้)..ส่วนนี้แระที่มีอายุยาวนานมากและจะพาไปเกิดในภพภูมิต่าง ๆ (๓๑ ภพภูมิ)


    แล้วร่างแท้ๆนอนอยู่บนที่นอน ผมตกใจ แต่มันเหมือนไม่มีแรงลุกขึ้นเหมือนไม่มีพลังจึงล้มลงนอน

    ตอบ เป็นอาทิสมานกาย (กายทิพย์, กายละเอียด) แต่ไม่มีพลังจิตเพียงพอ จึงควบคุมยังไม่ได้... อาทิสมานกายสามารถแยกได้แบบนับประมาณไม่ได้ก็ได้

    จะถามว่า ปฐวีกสิณ ถ้าเป็นเรื่องของฤทธิ์สามารถแยกร่างได้เหรอ

    ตอบ ปฐวีกสิณ ถ้าเป็นเรื่องของฤทธิ์สามารถเนรมิตคนเดียวให้เป็นหลายคนได้......

    ...อนุโมทนาบุญ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2017
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    นั่นมั่นแค่กิริยาระหว่างทางแบบที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป
    สำหรับคนฝึกกสิณครับ แค่ไก่กา พูดพอฮาๆได้อยู่ครับ

    และที่เราเห็นอย่างนั้น มันฟ้องว่า จิตยังตัดร่างกาย
    ไม่ขาด(ต้องมาวิปัสสนาต่อ)
    และสมาธิสะสมเรามันยังไม่พอครับ(ต้องมา
    เจริญสติให้ต่อเนื่องเพิ่มขึ้นอีกครับ)

    กสิณ จะใช้งานได้จริง ต้องเข้าใจไว้ว่า
    ไม่ว่า จะเกิดกิริยาอลังการงานสร้างระดับโลก
    แค่ไหนก็ตาม ไม่ว่า สัมผัส ทางด้านใดๆ
    หรือเกิดทางจิตไม่ว่า กรณีใดๆ
    ห้ามสนใจ ทุกๆกรณี ห้ามสนใจก็คือ ให้ช่างหัวพระญาติมันครับ
    (ถ้าอยากจะถึงระดับใช้งานได้จริงนะครับ)
    จนกว่า จะปั่นปฏิภาคนิมิต ในกำลังสมาธิระดับสูงได้ครับ
    ย้ำว่า ในกำลังสมาธิระดับสูงครับ....


    การถอดกาย จริงๆในกำลังระดับสูง มันจะไม่เงียบนะครับ
    นึกภาพนะตามนะ ขนาดเรานั่งสมาธิมีกายอยู่
    พอสงบระดับหนึ่ง เสียงมด เสียงแมลงยังได้ยินชัดเลย
    ถ้าถอดกายได้จริง ในระดับกำลังสูง มันไม่เงียบหรอก
    เรียกว่า เหมือนหูแทบแตก....เสียงลมรอบๆกาย
    ได้ยินยังกับเสียง เครื่องบินบินผ่านโน้นครับ

    และถ้าสังเกตุดู ทำไมเราต้องออกท่านั้น
    และต้องกลับท่าที่ออก และทำไมไปไม่ได้ไกล ฝากให้คิด
    สังเกตุดีๆ จะเห็นอะไรที่ด้านหลังเรา

    ตรงนี้เรียกว่า สายใยทิพย์ ถ้าโดนดับ
    โดนวิญญานภายนอกมาแกล้ง ประกันได้ว่า
    เพี้ยนแน่นอน ล้านเปอร์เซนต์
    ดังนั้น ให้ดูว่า เรามีครูบาร์อาจารย์
    หรือสร้างพันธิมิตรทางภพภูมิไว้รองรับ
    เรื่องแบบนี้หรือยังด้วยนะครับ

    ปล.เล่าให้ฟังเล่นๆนะครับ
     
  5. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ให้ดูตัวอย่างหนึ่ง

    เรื่องมีอยู่ว่า หนูนั่งไปแล้วเกิดเห็นร่างตัวเองเสียอย่างนั้น คือยืนมองตัวเองอยู่ ทีนี้พอเล่าให้แม่ฟัง ท่านก็เกิดกลัวขึ้นมา ว่าหนูจะไม่กลับมาอีก หนูเองก็ไม่ได้กลัวการที่จะตายหรอกนะคะ แต่สงสารท่านเหมือนกัน
    หนูจึงขอเรียนถามว่า มีสิทธิ์เกิดอันตรายจากภาวะนี้ไหม หนูจะเอาไปตอบคำถามแม่ค่ะ

    ไปคิดสร้างคำพูด (สร้างวาทกรรม) ถอดจิตถอดใจถอดนั่นถอดนี่ แล้วตนเองก็ตกหล่มความคิดนั่นเอง
     
  6. sedd123

    sedd123 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2013
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +52
    ผมเคยได้ยินมาว่า การออกจากสมาธิเร็วไป จะทำให้เกิดอาการนี้ได้ ถ้าจะให้ปลอดภัย ควรค่อยๆถอนสมาธิ เช่น จากฌาณ4 ไป 3 //จาก 3 ไป 2 //จาก 2 ไป 1 จาก 1 ก็ค่อยๆถอนสมาธิออกมา ผมว่าอาจจะเกิดจิตมันคุ้นว่ากายละเอียดแยกจากกายหยาบจากการที่ถอนสมาธิอย่างทันทีทันใดบ่อยๆ เพราะเวลานั่งสมาธิได้ลึกจิตจะละเอียด พอถอนสมาธิเร็ว จิตละเอียดก็คุ้นกับสภาวะกระชากออกจากกายหยาบอย่างรวดเร็ว งงมั้ยครับ 555 ไ่มรู้จะอธิบายยังไง เอาเป็นว่าลองดูครับ เผื่อหาย
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    เล่าให้ฟังแบบ ฟังหูไว้หูนะครับ...
    และถือว่า ส่วนตัวพูดแล้วจบนะครับ
    คำว่าระดับสมาธิอะไรเนี่ย ไม่ว่า ฌาน ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ หรือ ๔
    อะไรทำนองนี้นะครับ โลกใบนี้จะไม่รู้จักภาษาสมมุตินี้เลย
    ถ้าหากว่า ในวันนั้น. ท่านผู้เป็นเลิศด้านทิพย์จักขุ
    ที่รู้แม้กระทั่งว่า ฝนตกลงมากี่เม็ดนั้น
    ท่านไม่ได้ไล่ดู สภาวะผู้ของเป็นเลิศทั้ง ๓ ภพ
    ในวันที่ท่านเสด็จปรินิพพานครับ
    ลองนึกภาพตามนะครับ
    ว่าในวันนั้น มีผู้เป็นเลิศแต่ละด้านกี่ท่าน
    ทำไมถึงมีแต่ ท่านผู้เป็นเลิศด้านทิพย์จักขุ
    ท่านนี้ท่านเข้าถึงได้เพียงท่านเดียวนะครับ

    เพราะจริงๆแล้ว สภาวะพวกนี้มันเป็นปัจจัตตังครับ
    มันเอามาเล่ามาบอกกันให้เข้าถึงได้ยาก
    เหมือนอาการคนป่วยนั่นหละครับ
    เราไม่มีทางที่จะรับรู้อารมย์ความรู้สึก
    ของผู้ป่วยนั้นได้อย่างร้อยเปอร์เซนต์นั่นหละครับ
    ถ้าหากว่าเราไม่ใช่คนป่วยท่านนั้นครับ

    แต่มายุคหนึ่ง ในสมัยหลวงพ่อมีชื่อ ท่านหนึ่งในอดีต
    ที่ลวงลับไปแล้ว ที่ จ.อุทัยธานี นั้นเป็นท่านต่อมา
    ที่สะสมบารมีมาทางด้านนี้ เป็นท่านเดียว ที่สามารถ
    แยกกิริยาต่างๆของสภาวะสมาธิระดับต่างๆนั้น
    ถ่ายทอดมาเป็นตำราสืบๆกันมา ให้อนุชนคนรุ่นหลัง
    ได้อ่านกันจนเหมือนว่าดูไม่มีอะไร
    ซึ่ง บางท่านไม่เข้าใจ แล้วไปยึดกลายเป็นสัญญา
    แล้วนำ สัญญาเหล่านี้ ไปนำการปฏิบัติของตน
    ทำให้การปฏิบัติไม่ได้ผลจริง กลายเป็นหลงสภาวะ
    ของระดับสมาธิไปเลยก็มี พบเห็นได้มากมายครับ
    และกลายเป็นสัญญาถอนหรือเข้าออกระดับสมาธิ
    ต่างๆไปอย่างที่คาดไม่ถึงครับ

    เหตุเพราะไม่ทิ้งสัญญาตัวนี้
    คือ อ่านเป็นแนวทางได้ แต่ตอนปฏิบัติต้องทิ้งครับ
    แล้วปฏิบัติ
    ให้เข้าถึงสภาวะให้ได้ก่อนด้วยตนเองก่อน
    เป็นอันดับแรกในเบื้องต้น.
    มันจะมาระลึก มานึก มาย้อน
    ในขณะที่ปฏิบัติไม่ได้หรอกครับ
    เพราะมันจะกลายเป็นสัญญาที่ขึ้น
    จากจิตเข้ามาปรุงร่วมโดยทันทีครับ....

    เพราะอะไร เพราะว่าระดับสมาธินั้น
    หากแม้ท่านปฏิบัติได้จนถึงปลายทางแล้วนั้น
    เอาเฉพาะระดับ ฌาน ๔ นะครับ
    เพื่อพูดเปรียบให้เข้าใจนะครับ
    ท่านไม่มีทางที่จะระลึก นึกย้อนถึง
    การย้อนถอยหลัง การเข้า การไล่ลำดับ
    ได้ในขณะนั้นแน่นอนครับ

    เพราะถึงแม้ว่า ท่านจะขึ้นด้วยอาปาฯ
    หรือหายใจแบบธรรมดาทั่วไปก็ตามถ้าทำได้นะครับ
    ท่านจะพบได้ด้วยตัวท่านเองว่า
    การไต่ระดับไปสูงและลดลงจากระดับสูงลงมานั้น
    มันจะรวดเร็วมาก
    เร็วกว่าเสี้ยววินาทีอีกครับ

    หรือแม้ท่านจะขึ้นด้วนภาพ
    การยกระดับมันก็จะรวดเร็ว
    และในระหว่างทางของระดับสมาธิ
    ก็จะไม่ปรากฏให้ท่านเห็น
    ท่านจะเห็นได้ในช่วงเริ่มต้น
    กับช่วงปลายเท่านั้นครับ

    ดังนั้นหากใครที่จะมาบอกว่า
    ใครที่จะมาบอก จะไปซ้อมเข้า
    ไต่ระดับโน้นนั่นนี่ หรือว่าตนได้
    ระดับโน้นนี่นั้นในระหว่างทาง
    ขอให้พึ่งระลึกไว้เลยว่า
    เป็นการไต่ระดับจากสัญญา
    ความจำได้ในจิตทั้งนั้นหละครับ
    ไม่เชื่อ ให้ท้าพิสูจน์ผลของสมาธิ
    ของบุคคลเหล่านั้นได้เลยครับ....
    คือถ้าทำได้จริง มันจะไต่จะลงได้ของมันเอง
    และมันต้องแสดงผลอะไรได้
    ในระหว่างลืมตาปกติครับ
    เข้าใจนะครับ


    เพราะเนื่อจากมันจะเป็นสัญญาความจำได้
    มาปรุงร่วมทันที .....
    ท่านจะทำได้ และรู้ได้ก็ต่อเมื่อ
    ท่านออกมาแล้ว ถึงค่อยมาย้อน
    สังเกตุกิริยาต่างๆที่มันเกิดขึ้น
    ในขณะที่นั่งสมาธิเอาครับ
    ซึ่งความละเอียดในการที่จะเห็น
    หรือเข้าใจสภาวะตรงนี้จะแตกต่างกัน
    แต่ต้องยอมรับว่า ณ ปัจจุบัน
    ความละเอียดในแยกแยะสภาวะตรงนี้
    ก็ยังไม่มีท่านใด ที่จะเท่า
    หลวงพ่อมีชื่อในอดีต
    ที่ จ.อุทัยธานี นะครับ...

    ทำได้แล้วท่านถึง
    จะไปเทียบเคียงกับตำราเอา
    ท่านถึงจะพออนุมานได้ว่า
    ตอนนั้นสภาวะสมาธิท่านเป็นอย่างไรครับ
    แต่ก็ยึดไม่ได้อีกนะครับ.....

    ปล.หวังว่าจะพอเข้าใจอะไรเพิ่มขึ้นบ้างนะครับ
    พูดง่ายๆว่า เราต้องทิ้งสัญญาและทำให้ได้ก่อน
    แล้วค่อยมาย้อนดูสภาวะในขณะลืมตาปกติ
    ว่าเราละเอียดและแยกแยะได้ขนาดไหนด้วยตัวเราเอง
    อย่าพึ่งไปยึดตำราของท่านเลย
    โดยที่ไม่ยอมทิ้งตอนที่ปฏิบัตินะครับ
    เพราะบารมีที่สะสมมาของแต่ละดวงจิต มันต่างกันนะครับ
    และมันจะกลายเป็นสัญญาความจำได้
    ทำให้เราปฏิบัติไม่ได้ผล อย่างคาดไม่ถึงได้ครับ
    เผลอๆจะหลงตัวเองเอาง่ายๆ อย่างไม่รู้ตัวครับ

     
  8. wisarn

    wisarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    726
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +2,502

แชร์หน้านี้

Loading...