ถาม : จักรวาลในวิทยาศาสตร์และในพุทธศาสนาต่างกันอย่างไรครับ ?
ตอบ : เหมือนกัน เพียงแต่วิทยาศาสตร์รู้ไม่เท่าพระพุทธศาสนา จักรวาลทางวิทยาศาสตร์ก็คือหมู่ดาวหมู่หนึ่ง ที่มีดาวฤกษ์คือดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง จักรวาลของพระพุทธศาสนาก็ลักษณะเดียวกัน แต่พระพุทธเจ้าท่านรู้ว่าจักรวาลไหนมีมนุษย์อยู่บ้าง และพระองค์ท่านหรือพระอรหันต์ก็เสด็จไปโปรดเขาเป็นประจำ
แต่ในเรื่องของวิทยาศาสตร์ แค่ดาวพฤหัสกว่าเขาจะส่งยานเข้าไปในบริเวณที่สามารถสำรวจได้ใกล้เคียง ก็ใช้เวลาเป็นสิบ ๆ ปีแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสว่ามีทั้งหมดแสนโกฏิจักรวาล ไม่น่าเชื่อว่าเยอะขนาดนั้น สุดชายขอบจักรวาลจึงเริ่มเป็นเขตของสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
มีพระสูตรหนึ่ง กล่าวถึงฤๅษีองค์หนึ่ง ท่านอยากจะรู้ว่าจักรวาลนี้กว้างใหญ่เท่าไร ท่านจึงใช้อำนาจอภิญญาเริ่มเหาะจากโลกมนุษย์ไปเรื่อย ๆ มุ่งตรงไปอย่างเดียว ปรากฏว่าท่านหมดอายุของความเป็นมนุษย์เสียก่อน ยังเหาะไม่พ้นเขตจักรวาลเลย นั่นขนาดไปด้วยอำนาจอภิญญานะ ท่านก็เล่าให้เป็นอุทาหรณ์ว่า เรื่องพวกนี้สงสัยไปก็เสียเวลาเปล่า เพราะท่านตายฟรีมาแล้ว..!
ถาม : ตายแล้วไปเป็นพรหมหรือครับ ?
ตอบ : เป็นพรหม เพราะตายด้วยกำลังของอภิญญา จำไม่ผิดน่าจะอยู่ในเทวตาสังยุต ของสังยุตตนิกาย ลองไปหาอ่านดู
ที่มา วัดท่าขนุน
ใช้อำนาจอภิญญาเหาะไปดูว่าจักรวาลกว้างใหญ่แค่ไหน
ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Apinya Smabut, 19 เมษายน 2019.