ในเมื่อไม่เคยเห็นพุทธเจ้า เรื่องเล่า 2500 กว่าปี ฟังเขาเล่ามาก็เชื่อเรียกว่างมงายไหม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มาจากดิน, 21 พฤศจิกายน 2014.

  1. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    คุณอภิญญาว่าทำไมถึงเป็นยังงี้ หรือเป็นกรรม (กรรมตามนิยามของคุณ)

    "คือเรานั่งสมาธิไปเรื่อยๆแล้ว ทำไมตัวเราเหมือนจะค่อยๆจะลุกขึ้น ขาก็เหมือนจะยกขึ้น เขาเรียกอาการอะไรค่ะ"
     
  2. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    มันเป็นอาการปีติอย่างหนึ่ง
     
  3. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,396
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
    รู้จากครูบาอาจารย์หลายองค์ที่เคยสนทนาธรรมกับในหลวงท่าน
    และครูบาอาจารย์ที่กล่าวมานี้ล้วนแล้วแต่ละสังขารไปแล้ว และอัฐิของท่านก็เป็นพระธาตุกันทั้งหมด และมีบางองค์ที่ร่างกายของท่านไม่ได้เผาแต่สิ่งของบางอย่างที่ท่านเคยใช้เช่น ชานหมาก และอีกหลายอย่างที่เกี่ยวกับองค์ท่านก็กลายเป็นพระธาตเช่นเดียวกัน

    พระธาตุ เป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่าท่านผู้นั้นได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้วนั่นเอง
     
  4. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    อ้อ มันเป็นยังงี้นี่เอง : )
     
  5. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    ถามอีกนิดหนึ่ง ทำไมคนเป็นๆอยู่ไม่ช่วยกันนำไปเผาเสียล่ะ แม้แต่พระพุทธเจ้าคนอยู่ยังช่วยกันนำไปเผาเลย
     
  6. ABT

    ABT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ครูบาอาจารย์ที่ยังไม่ได้เผา ส่วนมากท่านจะสั่งการเอาไว้รอบุคคลผู้เกี่ยวพันกันตั้งแต่อดีตชาติมาดำเนินการให้ ส่วนทีี่อธิษฐานไว้ก็มีมากเช่น พระมหากัสสป ครับ สังเกตุว่ามีพระธาตุมากกมาย แต่ไม่มีพระมหากัสสป ครับ (เท่าที่รู้นะครับ) ท่านพ่อลีอีกองค์ครับ ยังไม่ได้เผา หลวงปู่ฤาษีลิงดำก็ยัง เพราะมีบุคคลอธิษฐานไว้ว่าขอเป็นผู้ดำเนินการครับ ส่วนเป็นใครบ้างต้องหาอ่านเอา ผมจำไม่ได้ครับ
     
  7. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    อ้อ มันเป็นยังงี้นี่เอง : )
     
  8. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +20,320
    ถ้าเราให้ความเชื่อเป็นคะแนน สำหรับผมจะแบ่งคะแนนให้ไตรสิกขาดังนี้

    1 ปริยัติ ให้คะแนนความปักใจเชื่อ=25 คะแนน
    2 ปฏิบัติ ให้คะแนน =50 คะแนน
    3 ปฏิเวธ ให้คะแนน = 25 คะแนน

    เหตุที่มาคือ

    1 ปริยัติ ที่ให้คะแนนส่วนเดียวในสี่ส่วนเพราะปริยัติ ทั้งหลายหากพิจารณาตามตรรกะและตามเหตุและผลเบื้องต้น ย่อมสามารถพิจารณาความเป็นจริง ที่พอจะเชื่อถือได้บ้างเพราะมันมีความเป็นเหตุเป็นผลรองรับอยู่ คือเราเชื่อในความเป็นเหตุเป็นผลของปริยัตินั้นๆ แต่เราไม่ได้เชื่อเพราะว่ามันเป็นคำภีร์ของพระพุทธเจ้าหรือครูอาจารย์ แต่เราเชื่อในความเป็นเหตุเป็นผลที่มันสอดรับกันอยู่ในธรรมที่พระพุทธเจ้าและครูอาจารย์กล่าวแสดงไว้

    2 ปฏิบัติ ให้คะแนนครึ่งหนึ่งของความเชื่อ เพราะการปฏิบัติครึ่งหนึ่งย่อมให้ผลปรากฏขณะปฏิบัติ ทำให้เราเห็นสภาพความเป็นจริง ปัญญารู้แจ้งทันทีแต่ก็ใช่ว่าทั้งหมด ส่วนที่เหลือคือการปฏิบัติอาจจะยังไม่แสดงปรากฏเพราะมีเหตุปัจจัยอื่นกีดกั้นขัดขวางไว้หรือไม่สมควรแก่เวลาของมันก็มีเป็นต้น

    3 ปฏิเวธ ให้คะแนนความเชื่อที่25 คะแนนเพราะอาศัยเหตุส่วนที่ตกค้างอยู่รอให้ผลตามเวลา จากการปฏิบัติ

    แต่ในความเป็นจริงปฏิเวธที่ให้ผลนั้น แท้จริงผลที่เกิดย่อมหมายถึงสภาพความจริง100เปอร์เซ็นต์ไม่เป็นอื่น แต่ผลที่เกิดที่ปรากฏ นั้นไม่สามารถปรากฏพร้อมกันทีเดียว แต่ผลที่เกิดปรากฏย่อมรปากฏตามแต่เหตุคือการปฏิบัติในเรื่องต่างๆที่มีอายุหรือกาลที่ให้ผลที่แตกต่างกันนั่นเอง

    สุดท้าย ไม่ว่าจะอย่างไร เราก็จำเป็นต้องอาศัยไตรสิกขาทั้งสามส่วนนี้ ประกอบธรรม ดำเนินไปเพื่อความงอกงามเจริญก้าวหน้าในธรรมยิ่งๆขึ้นไป

    ปริยัติ ส่วนหนึ่งล้วนมีเหตุมีผลรองรับในตัวของมันเอง ยังความน่าเชื่อถือ เมื่อนำไปปฏิบัติจริงย่อมเกิดปัญญารู้แจ้งโดยง่าย

    ปริยัติ ส่วนหนึ่งกล่าวลงลึกหรือกว้างมาก ไม่มีเหตผลมารองรับ ทำให้ไม่ทราบว่าจริงแท้หรือไม่อย่างไร จึงไม่ควรวางใจปักใจเชื่อจนกว่าจะปฏิบัติไปจนเห็นผลแล้ว หรือมีปฏิเวธให้ผลเกิดปัญญารู้แจ้งแล้ว นั้นเองครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2014
  9. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    สัทธรรม ธรรมที่ดี, ธรรมที่แท้, ธรรมของคนดี, ธรรมของสัตบุรุษ สัทธรรมมี ๓ คือ

    ๑. ปริยัติสัทธรรม สัทธรรมคือสิ่งที่พึงเล่าเรียน ได้แก่ พุทธพจน์

    ๒. ปฏิบัติสัทธรรม สัทธรรมคือสิ่งพึงปฏิบัติ ได้แก่ ไตรสิกขา

    ๓. ปฏิเวธสัทธรรม สัทธรรมคือผลที่พึงบรรลุ ได้แก่ มรรค ผล และนิพพาน
     
  10. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ปีติ

    เป็นแล้วถ้าอยู่คนเดียวก็ปิด lock ให้เรียบแล้ว แล้วก็ปล่อยให้เต็มที่ครับ จะช่วยแก้ได้หลังๆอาการจะหายไป เวลาจิตสงบเป็นสมาธิ

    บางทีถ้าไป ฝืน ปิติ มากๆเข้า อาการก็จะยิ่งหนัก ออกท่าออกทางหนักไปตามจริตแต่ละคนละ

    แต่ถ้าอยู่หลายคนก็อย่าให้คนอื่นเห็น เดี่ยวเค้าจะ มโนโน้นนี้ให้แทน เหอๆ

    .
     
  11. kunasan

    kunasan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +2,816
    ตัวตนของพระพุทธเจ้า เราไม่สามารถสัมผัสหรือทราบท่านได้ แต่เมื่อใดก็ตามที่เราเข้าใจธรรมะตามที่พระองค์ท่านทรงแนะนำสั่งสอน เราจะรู้เลยว่า พระองค์ทรงมีจริง ดังพระดำรัสว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต"
    ตัวตนของพระองค์เป็นเพียงสิ่งสมมติ มีหรือไม่มี รู้หรือไม่รู้ไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือ พระธรรมคำสอนที่พระองค์ทรงสอนไว้ แล้วเรามาทำตามได้ผลเหมือนที่พระองค์สอน เช่น การคบคนชั่ว พระองค์ทรงเปรียบเหมือนการกำถ่านเพลิง เมื่อคนชั่วพาไปทำชั่ว ก็เหมือนถ่านเพลิงติดไฟ เมื่อคนชั่วที่เราคบไม่ไปทำอะไร แต่เรายังสนิทสนมคุ้นเคย คนอื่นก็มองเราว่าเป็นคนชั่วเหมือนถ่านเพลิงแม้นไม่ติดไฟ แต่ก็เปื้อนมือฉะนั้น

    พระธรรมคำสอนของพระองค์มีค่ามากกว่าตัวตนของพระองค์ที่พวกเราพากันสงสัย ในสิ่งที่ไม่ควรสงสัย ควรเอาเวลาไปใส่ใจพระธรรมคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจถ่องแท้ แล้วเราจะรู้เลยว่า พระองค์มีจริง และคำสอนของพระองค์เป็นอมตะ ไม่จำกัดกาล ต่อให้อีกกี่พันปี ก็ยังเป็นความจริง ขอผู้บำเพ็ญบารมีทุกท่านอย่าได้สงสัยในพระรัตนตรัยเลย จะได้ไม่เป็นเครื่องขัดข้องต่อกระแสพระนิพพาน
     
  12. jikkiijang

    jikkiijang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    215
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +335
    แวะมาเยี่ยมชม
     
  13. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014

    พระอรหันต์สายปัญญานำ เช่น พวกมหาเปรียญ
    ยึดติดอยู่กับตำรา ไม่มีเวลาทำสมาธิมากนัก
    เวลาบรรลุธรรม กำลังสมาธิย่อมมีน้อย
    จึงไม่อาจจะเล่นฤทธิ์ได้ ไม่สามารถพยากรณ์ผู้อื่นได้
    พยากรณ์ได้เฉพาะตนเอง จะเห็น พระนิพพาน
    เฉพาะแค่กำลังจะตอนที่ตายเท่านั้น
    เพราะจิตจะปล่อยวาง ทุกอย่างได้
    ก่อนตาย จึงไม่คิดว่า การเล่นฤทธิ์มีอยู่จริง
    แต่พอตาย พอเห็น แดนนิพพาน ก็อ๋อเข้าใจได้ทันทีว่า
    แดนนิพพานมีอยู่ตั้งแต่ สมเด็จองค์ปฐม ที่ท่านทรงเป็น
    พระพุทธเจ้าสายวิริยะธิกะองค์แรกสุด ของ วัฏฏจักรนี้เท่านั้น
    แต่ก่อนหน้านั้น ก็ยังมีวัฏฏจักรอื่นอีก ที่เกิดขึ้นก่อนนั้น
    แล้วก็เสื่อมสลายไป ตามกฏพระไตรลักษณ์ เช่นกัน


    พระอรหันต์ ที่อยู่แดนนิพพาน ท่านตัดเยื่อขาดใย
    เป็นคนไร้บ้าน ไร้ญาติ โดยสิ้นเชิงแล้ว
    ย่อมจะไม่ออกมาจากแดน พระนิพพาน
    เพื่อช่วยเหลือ หรือ โปรดญาติมิตรอีก
    แต่ก็ยังสามารถออกมาได้ หากว่า
    เป็นงานเพื่อพระพุทธศาสนา
    มาด้วยกำลังของ สมเด็จองค์ปฐม
    หรือ กำลังของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน นั่นเอง
    หากเป็นพระอรหันต์มาองค์เดียว
    ก็จะต้องมาตามคำสั่ง ของ พระโคดมพุทธเจ้า
    จะไม่ออกมาเดี่ยวๆ แน่นอน
    หาก พระอรหันต์รูปใด ถูกใช้ให้มา
    พระอรหันต์รูปนั้น ก็จะต้องเคยมี บุพกรรม ร่วมกับคนที่จะสอนสั่ง
    อาจจะเคยเป็นญาติกันมาก่อน เหมือน สมเด็จองค์ปฐม
    ที่ท่านมาโปรด หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เพราะเคยเป็น พ่อลูก กันมาก่อน


     
  14. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014


    ท่านมาจากดิน เป็นสายปัญญานำ
    ก็ไม่แปลกหรอกครับ ที่คิดว่า แดนพระนิพพานไม่มีจริง
    พระพุทธเจ้า ฝั่งมหายาน กล่าวว่า ดวงจิต ทำลายไม่ได้
    มีแต่แปรเปลี่ยนไปตามภาชนะที่รองรับ เท่านั้น
    ดวงจิตที่ใสจนกิเลส จับไม่ได้แล้ว จะเอาไปทิ้งไว้ที่ไหนครับ
    ถ้า จิตจักรวาล ไม่หาที่ให้อยู่ ดวงจิตจะอยู่อย่างไร
    ลองพิจารณาดู

    เราเรียนตำรา เพื่อให้เป็นเครื่องชี้นำทาง เท่านั้น
    ไม่ใช้ให้แบกตำราเทินหัว ไปด้วยทุกที่
    แต่ไม่ใช่ว่า จะใช้ตำรา ไปทำลาย
    ผู้ที่กำลังบำเพ็ญเพียร จะบาปหนักเสียเปล่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2018
  15. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014



    ขอเสริมให้คุณมาจากดินวิเคราะห์ดูนะครับว่า

    หลังจากในหลวง ไปพบหลวงพ่อฤาษีลิงดำแล้ว
    ท่านก็ของฝากตัวเป็นศิษย์ ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    เพราะฉนั้น อะไรที่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำทำได้
    ท่านก็ฝึกจนทำได้เช่นกัน โดยเฉพาะ กรรมฐาน40
    เรื่องไปแดนนิพพาน ทำไมท่านจะทำไม่ได้
    ปถุชนคนธรรมดา ก็ไปได้ ด้วยการอาศัย บารมีของพระพุทธเจ้า
    แต่อยู่ได้ไม่นาน จิตใจก็จะร้อนรุ่ม อยากทำอย่างอื่นแทน
    แดนนิพพานจึงไม่ใช่ แดนแห่งบรมสุขของคนธรรมดา
    แต่เป็นแดนแห่งบรมสุขของพระอรหันต์ เท่านั้น
    คนทั่วๆไป ไปดูได้ แต่อยู่ไม่ได้ กายทิพย์ยังไม่ละเอียดพอ
     
  16. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014

    มนุษย์โลก พ้นทุกข์บรรลุธรรมได้ เพราะ ปล่อยวาง เท่านั้น
    ไม่ใช่ว่า จะต้องเห็น แดนนิพพาน จึงมีสิทธิ์จะพ้นทุกข์
    ขั้นแรก ปล่อยวางกาย ได้
    ขั้นต่อไปก็ ปล่อยวางเวทนา
    ขั้นที่สามก็ ปล่อยวางจิต
    และขั้นสุดท้ายก็ ปล่อยวางธรรม
    ให้เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง มาฝึกปล่อยวาง
    จนสุดท้าย ปล่อยวางได้ทุกสิ่ง
    คนผู้นั้นก็จะได้เป็น พระอรหันต์แบบมีชีวิต นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กุมภาพันธ์ 2018
  17. ชั่งเถอะ

    ชั่งเถอะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2017
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +339
    อ่านกระทู้นี้แล้วเริ่มคิดถึงหลานๆ ครับ ลูกตัวเองไม่มี ถือว่าเป็นเคราะห์ดีของผม ....... เจ้าหนูจำไม.......ถามทุกอย่างไม่มีจบ คุนมาจากดิน ยังจบเป็นบางข้อ หรือ ขี้เกียจถามต่อหรือยังไงครับ อย่าถือสา คำถาม เพราะนึกสงสัยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...