เรื่องเด่น ในเรื่องการปฏิบัติ อย่าเปลี่ยนเป้าหมายบ่อย ๆ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมวิวัฒน์, 10 มีนาคม 2018.

  1. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,270
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,079
    29025402_1839467136123583_4023436256579594004_n.jpg

    ในเรื่องการปฏิบัติ อย่าเปลี่ยนเป้าหมายบ่อย ๆ

    "ในเรื่องการทำงานและการปฏิบัติ อย่าเปลี่ยนเป้าหมายบ่อย ๆ หลักการปฏิบัติก็ดี หลักการทำงานก็ดี อย่าเปลี่ยนบ่อย เคยเปรียบไว้ว่ามันเหมือนการขุดบ่อจะเอาน้ำ บางทีเราขุดไปสามเมตรสี่เมตรใกล้จะถึงแล้ว พอเขาบอกว่าตรงนั้นดีกว่า เราก็ขยับไปขุดตรงนั้น พอเขาบอกว่าตรงนี้ดีกว่า ก็ขยับมาขุดตรงนี้ ก็เลยไม่ถึงน้ำเสียที เพราะฉะนั้น..การทำงานเราก็ต้องจับเป้าหมายเดียวจริงจัง มันจะได้เร็ว

    พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า ท่านทรงแสดงธรรมเหมือนราชสีห์จับเหยื่อ ก็คือ... ราชสีห์เวลาล่าเหยื่อ ไม่ว่าเหยื่อจะตัวเล็กตัวใหญ่ก็ตาม มันทุ่มเทกำลังในการจับเท่ากันหมด เพราะฉะนั้น..จะไม่มีพลาด และสำคัญที่สุดมันเล็งเหยื่อตัวเดียว ถ้าหากมันไปละล้าละลังล่าตัวอื่นที่อยู่ใกล้ ตัวที่อยู่ข้างหน้ามันวิ่งตรง มันจะหนีไปได้ เพราะฉะนั้น..ราชสีห์มันล่าเหยื่อมันล่าตัวเดียว ตัวอื่นที่อยู่ใกล้มันจะไม่สน

    ทำงานอะไรก็ตาม ถ้าเราทุ่มเทให้มันเต็มที่ มันจะไม่มีอะไรยากเกินความสามารถมนุษย์หรอก ถ้าเราทุ่มเทเต็มที่แล้วก็จะเหมือนพระมหาชนก พระมหาชนกว่ายน้ำเจ็ดวันเจ็ดคืนไม่เห็นฝั่ง นางมณีเมขลาก็บอกว่ารู้ว่าว่ายแล้วไม่เห็นฝั่ง จะว่ายไปทำไม? พระมหาชนกก็บอกว่า อย่างน้อยเราได้ทุ่มเทกำลังเต็มที่ เราจะได้ตอบตัวเองได้ว่าเราได้ทำแล้ว

    ที่ท่านบอกว่า ยาวเม เถว ปุริโส เกิดเป็นคนต้องมีความพยายามอยู่ร่ำไป ท้อถอยไม่ได้ มันอาจจะเหลืออีกหนึ่งช่วงที่ว่ายน้ำก็ถึงแล้ว

    เรื่องของการปฏิบัติก็เหมือนกัน มันเป็นเรื่องของการสั่งสม สั่งสมความดีของศีล สมาธิและปัญญาไปทีละเล็กทีละน้อย แรก ๆ มันไม่เห็นหน้าเห็นหลังหรอก แต่ถ้าเราดูย้อนหลังไปว่า ก่อนหน้านี้เรามีศีลห้าครบไหม? ปัจจุบันนี้เราได้กี่ข้อแล้ว? ถ้าเราได้ครบถ้วนสมบูรณ์ไม่ละเมิดด้วยตนเอง แล้วเราไม่ยุผู้อื่นให้ละเมิดหรือเปล่า? เราไม่ยุคนอื่นแล้ว ถ้าคนอื่นทำเรายินดีด้วยหรือเปล่า? เราค่อย ๆ ทบทวนเรื่องศีลไปเรื่อย ๆ ว่าเราทำสมบูรณ์หรือยัง โดยเปรียบย้อนหลังดู จะเห็นความก้าวหน้าของตัวเองไปทีละน้อย

    ภาษิตจีนเขาบอกว่า คนอื่นขี่ม้าแต่เรายังขี่ลา ถ้าจะสงสารตัวเองว่าไล่ม้าไม่ทัน ก็ไม่ต้องสงสาร หันกลับไปดูข้างหลัง คนที่ไม่มีอะไรจะขี่ เดินเท้าเปล่าเยอะแยะไป และท้ายที่สุด พวกที่ยังนั่งไม่ได้เริ่มเดิน มีอีกตั้งเท่าไหร่?

    ถ้าหากว่ามองให้มองไปข้างหน้า ไม่ใช่มองไปข้างหน้าอย่างทะเยอทะยานอยากได้ แต่มองไปข้างหน้าเพื่อที่จะทำอย่างไรให้ได้เท่าเขาหรือมากกว่าเขา มันเป็นการแสวงหาความก้าวหน้า ถ้าอย่างนี้ทางโลกก็เจริญทางธรรมก็เจริญ

    เขาปฏิบัติได้ดีกว่าเรา เราต้องพยายามทำให้ได้เท่าเขา หรือไม่ก็เขาทำมาหากินมีความคล่องตัวกว่าเรา เขาทำอย่างไรเราก็พยายามทำให้ได้อย่างเขา"

    เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ เดือนมิถุนายน ๒๕๕๒
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี
     
  2. madeaw23

    madeaw23 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +188
    กราบสาธุครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...