ในเว็บนี้มีใครปรารถนาพุทธภูมิบ้าง

มาลงชื่อด้วยคน และอนุโมทนาสาธุกับทุกท่านที่รู้ตัวแล้วว่าท่านเป็นพุทธภูมิ
สำหรับท่านที่ยังลังเล หรือแน่ใจในความปรารถนาของตนเองแล้ว แต่ยังไม่มั่นใจว่าอยู่ในขั้นไหน ผมขอเสนอให้สอบอารมณ์ตนเองก่อนดังนี้ครับ

๑ หากท่านคิดอยู่แต่ในใจ ไม่กล้าบอกใครอื่น ทำบุญไหว้พระก็อธิษฐานในใจบ้าง ไม่อธิษฐานบ้าง ทำบุญทำทานตามกำลัง แบบนี้ท่านก็เป็นพุทธภูมิอยู่ในช่วง มโนปณิธาน ครับ

๒ หากท่านเปล่งวาจาออกมาให้บุคคลอื่นรู้ว่าท่านปรารถนาพุทธภูมิ แบบนี้ท่านก็เป็นพุทธภูมิอยู่ในช่วง วจีปณิธาน ครับ หากว่าท่านกล้าพูดบ้างไม่กล้าพูดบ้างก็เป็นช่วงต้นๆ กล้าพูดเปิดเผยก็เป็นช่วงกลาง และหากถึงขั้นเป็นผู้นำเพื่อนพ้องในการทำบุญกุศล ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยด้วยแล้ว เรียกว่าท่านกำลังอยู่ในช่วงปลาย กำลังสะสมบริวารครับ
๓ หากท่านมั่นใจเต็มที่ ทั้งพูด ทั้งทำ อุทิศแรงกายแรงใจ ยอมสละได้แม้ชีวิต การทำบุญให้ทานก็ทำได้แบบคว่ำน้ำในบาตรโดยไม่เสียดายน้ำที่ไหลออกไป แบบนี้ท่านก็เป็นพุทธภูมิอยู่ในช่วง กายวจีปณิธาน แล้วครับ

อนุโมทนาในกำลังใจของพุทธภูมิทุกท่าน

 

แนะนำ วิสัยการปรารถนา และการปฏิบัติ เพื่อพุทธภูมิ

ลืมไปนาน ไม่ได้เข้ากระทู้นี้....

มาแล้วครับ รายละเอียด
วิสัยการปรารถนา และการปฏิบัติ เพื่อพุทธภูมิ
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=16896

เข้าไปดูกันได้ นะครับ....

 

ขอกราบโมทนาในคุณ ความดี และมโน ที่ตั้งมั่น อันดีแล้ว....
ของหน่อเนื้อพุทธวงศ์ ทั้งหลาย....

ด้วยความ"ศรัทธา" ยิ่งนัก

และด้วยบุญบารมี ที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญเพียรมาดีแล้ว ตั้งแต่ต้น จวบจน ณ บัดนี้....
ตลอดจนถึงความตั้งใจ ที่มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำหมู่สัตว์ทั้งหลาย ข้ามพ้นฝั่งนทีกิเลส....
นับตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน พร้อมด้วยการบรรลุถึงซึ่งพระโพธิญาน....

สาธุ สาธุ สาธุ
พระโพธิญานะ ปัจจะโย โหตุ
ขอบุญบารมี ดังกล่าวมาแล้ว ทั้งสิ้น ทั้งปวง ทั้งที่ได้กระทำมาแล้ว และที่ตั้งใจมั่น ในอนาคตกาล ขอจงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเข้า ได้บรรลุถึงซึ่งพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาน เป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง ในอนาคตกาล ด้วยเทอญ.

ด้วยบุญอันพึงมี พึงเกิดขึ้น จากการบำเพ็ญเพียร และตั้งใจมั่น....
ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ ท่านทั้งหลาย ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์ อยู่ก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงพ้นทุกข์ และประสบกับความสุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป เทอญ

ขอเทพยเจ้า พรหม เทพ นานา โปรดจงสาธุการ....
และขอได้โปรด ประคองจิต ประคองใจ ดลจิต ดลใจ ให้ข้าพเจ้า มีความมุ่งมั่น ตั้งตรง ต่อพระโพธิญาน ไม่เสื่อม ไม่คลาย ตราบเท่าเข้าสู่พระโพธิญาน ด้วยเทอญ.

สาธุ สาธุ สาธุ
ข้าพเจ้าขอตั้งสัตย์ อธิษฐานบารมี ให้ครบ 30 ทัศ ในพระโพธิญาน
ด้วยจิต ด้วยวาจา ด้วยการปฏิบัติ
ด้วยความ "ศรัทธาแท้" ที่มุ่งมั่น ฟันฝ่า

ด้วยชีวิต ด้วยจิต และวิญญาน เป็นหนึ่งเดียว คือ พระโพธิญาน เท่านั้น....
ไม่มีความปรารถนาเป็นสิ่งอื่นใด....

กราบ....
กราบ....
กราบ....

 

ในห้วงเวลา ณ ปัจจุบันนี้....
พระโพธิสัตว์ ทั้งหลาย ต่างก็ลงมาบำเพ็ญเพียร บำเพ็ญบารมี กันมาก เป็นพิเศษ....

เพราะว่า ในวัน เวลา หลังจากนี้ไปไม่นาน จะเป็นความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนา อย่างเฟื่องฟู....

พระโพธิสัตว์ ต่างก็มาทำหน้าที่กัน เพื่อเป็นการปูพื้นฐานความเจริญรุ่งเรืองของพระศาสนา นั่นเอง....

พระศาสนา จะรุ่งเรืองอยู่ได้ ก็ต้องมีอาณาจักร คือ ประเทศ ที่มั่นคง....
มีพระมหากษัตริย์เจ้าอันมากด้วยพระบารมี....
(พวกเราโชคดีอย่างยิ่ง ที่มาเกิดใต้ร่มโพธิสมภาร พระโพธิสัตว์เจ้าอันยิ่งใหญ่)

พระโพธิสัตว์ จึงมีความรู้สึกเสมอว่า....
ชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องตั้งมั่น....
พระศาสนา จึงจะสามารถดำรงได้มั่นคง เช่นกัน....

และผลประโยชน์ส่วนรวม จักต้องมาก่อนในเรื่องประโยชน์ส่วนตน เสมอ....

สิ่งใดอันจะเอื้อให้เป็นประโยชน์ส่วนรวม เพื่อชาติ เพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์....
นั่นย่อม หมายถึง ประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เช่นกัน....
พระโพธิสัตว์ ย่อมจะไม่ลังเลใจ น้อมปฏิบัติด้วยชีวิต....
(ก็เป็นไปตามบุญบารมี)

ความเจริญ ในบ้านเมืองของเรา ก็ต้องมุ่งหวังบุคคล คณะบุคคล....
ที่มองเห็นประโยชน์ส่วนรวม สำคัญยิ่ง เท่าชีวิตของตนนั่นเอง....

ก็คงจะเป็นยุคของ "ชาววิไล" หรือ "ชาวศรีวิไล" ที่องค์หลวงพ่อฯ ได้พูดถึง....

"เมื่อ คนดี ปกครองประเทศ ทรัพยากรของประเทศ อันเป็นสมบัติส่วนรวม ก็จะปรากฏ ให้เห็น มีการค้นพบ และนำมาเป็นประโยชน์ ต่อประเทศชาติ ได้อย่างง่าย ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง มีความร่ำรวย มั่งคั่ง"

นี่ คนดี ก็ต้องหมายถึง คนที่มองเห็นในประโยชน์ส่วนรวม นั่นเอง....
พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ก็ย่อมต้องมีส่วนร่วม อยู่ด้วย ในการพัฒนาชาติ ให้เจริญ....
และช่วยจรรโลงพระศาสนา ให้รุ่งเรือง....

กราบโมทนาในคุณความดีของพระโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย....

สาธุ สาธุ สาธุ

..........................................................................

ฝากไว้ ด้วยนะครับ....
ช่วยเหลือทหารหาญ และประชาชนในภาคใต้ กันด้วยนะครับ....
http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=19038

..........................................................................

 

(ping-love ผมเคยถาม อาจารย์ ไก่ ครับ ตอบผมมาว่า แบบปัญญาธิกะแต่ พอถามระยะเวลาบำเพ็ญ อาจารย์ ไก่ บอกว่าผม บำเพ็ญมาแล้ว 10 อสงไขย ตอนนี้เหลือ เศษ มหากัลป สุดท้าย ซึ่งผมงงในตอนแรกว่า ปัญญาธิกะ นี้แค่ 4 อสงไขย แต่ทำไมของผมเป็น 10 อสงไขยแล้ว ยังไม่เต็ม ผมยังไม่ได้ถามอาจารย์ไก่ว่าได้อธิฐานอะไรพอเศษไวเปล่า เพราะ มัน เลยมามากแล้ว

 

อันนี้ของแสดงความรู้สึกส่วนตัวนิดนึงนะครับ ผมสังเกตดูในยุคนี้ และเป็นช่วงที่พระพุทธเจ้าสมเด็จองค์ปฐมมาโปรดช่วยด้วยอีกพระองค์ ซึ่งผมคิดว่าแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นเลยก็ว่าได้ การที่สมเด็จองค์ปฐมมาช่วยด้วยก็อาจเป็นไปได้ว่า "มีพุทธภูมิที่บำเพ็ญบารมีมานานมากๆ แล้วอยู่เยอะพอสมควร และสมควรแก่เวลา" ส่วนเรื่องทำไมถึงบำเพ็ญบารมีเกินกว่ากำหนดระยะเวลาปกติ อันนี้ก็นี้ไม่ทราบจริงๆ แต่พอจะคาดเดาเอาตามประสาคนอยากคิดอยากรู้ ก็น่าจะด้วยลักษณะการปราถนาและรูปแบบวิธีการบำเพ็ญบารมี ถึงจะไม่มีการบำเพ็ญบารมีหนักๆ แรงๆ แต่ด้วยบำเพ็ญบารมีมานานมากๆ ก็ทำให้จิตใจเข้าสู่ระดับปรมัตถบารมีได้เหมือนกัน ทำให้ระยะเวลาที่บำเพ็ญมาเลยระดับมาตราฐานไปมากน้อยก็แล้วแต่ละบุคคล มายุคนี้ถึงกาลที่โพธิสัตว์เหล่านี้จะเข้าสู่พระนิพพานได้ ก็เลยลงมากันเยอะ จริงๆ ก็แค่คิดเล่นๆ ดูไว้คลายสงสัยเฉยๆ จริงไม่จริงไม่ต้องสนใจมากครับ สบายๆ เน้นปฏิบัติกันดีกว่า ผิดถูกก็แนะติเตียนกันได้ครับ พร้อมรับฟังเพื่อความรู้ต่อไป ขอบคุณครับ

 

รอมานานอยากจะถามมานานแล้วเหมือนกันครับว่าในปัจจุบันมีใครบ้างที่ปารถนาพระโพธิญาณ ผมเองก็กำลังคิดว่าจะเขียนเป็นจดหมายไปหาหลวงพี่ชัยวัฒนที่วัดท่าซุงประกาศทางหนังสือธรรมวิโมกข์ ว่ากลุ่มของวัดท่าซุงนี้มีใครบ้าง ก็เพื่อการรวมตัวเพื่อที่อาจจะทำกิจกรรมในแบบพุทธภูมิร่วมกันหรืออื่นๆที่เป็นเรื่องที่พุทธภูมิด้วยกันเท่านั้นถึงจะรู้รสชาดของพระโพธิญาณ มีอย่างหนึ่งที่ผมอยากจะพูดอยากจะบอกจากประสพการณ์และความรู้สึกจากใจก็คือผู้กล้านั้นบางครั้งก็มีความรู้สึกเดียวดายนะครับ
ผมก็ขอประกาศตัวด้วยคนนะครับ ผมเองปารถนาพระโพธิญาณแบบวิริยาธิกะ
และก็เติมความพิเศษเข้าไปก็เพื่อหวังให้หมู่สรรพสัตว์ทั้งหลายที่ผมสงเคราะได้มีความสุขสมบูรณ์บริบูรณ์ไปด้วยประการทั้งปวง
ก็ขอตั้งมโนปนิธานสัตยาอธิฐานขออ้างถึงผลบุญที่ข้าพระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้ และที่จะมีต่อไปเป็นเอนกอนันต์ในภายภาคหน้านั้นจงส่งผลให้ข้าพระพุทธเจ้าจงได้บรรลุอภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณใบแบบวิริยาธิกะพิเศษในอนาคตกาลโน้นเถิด
และถ้าหากยังไม่บรรลุมรรคผลเพียงใดคำว่าละคำว่าลาจากพุทธภูมินั้นจงอย่าได้มีขึ้นกับใจ แม้ว่าร่างกายกายาจะต้องสลายไป เลือดในกายจะเหือดแห้งไป แม้ว่าหัวจะต้องถูกตัดขาดนับพันนับหมื่นครั้งในวันเดียว ก็ขออย่าได้เป็นอันตรายกับพระโพธิญาณ กิจอันใดที่จะเป็นการประมาทพลาดพลั้งไปในพระรัตนตรัย ขอพระบารมีตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมเป็นต้นลงมามีพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง(หลวงพ่อพระราชพรหมยาน)เป็นที่สุด และองค์สมเด็จพระชินสีห์จอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตที่ข้าพระพุทธเจ้าได้มีโอกาศผ่านไปในอายุกาลคำสอนของท่านแล้วไซร้ขอจงทรงโปรดตักเตือนสั่งสอนถ้ากิจนั้นจะพลาดไป ประดุจดั่งพ่อที่ดูแลลูกไม่ให้ทำผิดฉันนั้นด้วยเถิดพระพุทธเจ้าข้า

 

ขอร่วมอนุโมทนาสาธุ ในการตั้งมโนปนิธานสัตยาอธิฐาน ของคุณ pco ด้วยนะ

ตุมฺเหหิ ปตฺถิตปตยา เอวํ โหนตุ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

สาธุ สาธุ สาธุ
ขอโมทนากับคุณ PCO ด้วยครับ

 

ผู้กล้านั้นบางครั้งก็มีความรู้สึกเดียวดาย

 

ขอร่วมด้วย

ขอปรารถณาด้วย...
เมื่อถึงกาลหรือเวลาอันควรก็ว่าจะลองไปบำเพ็_ _ารมีโ_ธิ_ตว์
FROM ผู้เกิดจากดอกบัว

 

<TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" UNSELECTABLE="on" width="100%"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">ข้าพเจ้าขอเดินตามทางแห่งความสงบเพื่อเข้าถึงพุทธภูมิครับ</TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขอโมทนาในกำลังใจที่ปารถนาเป็นคู่บารมีพระโพธิสัตว์ของคุณศนานันนะครับ ผู้กล้าท่านใดหากได้ยินคนข้างกายของท่านพูดอย่างคุณศดานันนี่มันชื่นใจหายเหนื่อยเพราะนี่คือคนของเราจริงๆคนที่จะเข้าใจเราและจะเคียงข้างสนับสนุนเราไปจนถึงกาลอวสาน สำหรับผมแล้วผมให้ความสำคัญยกย่องคล้ายกับแม่เลยทีเดียว เพราะอย่าลืมว่าหญิงท่านใดก็ตามที่เป็นคู่บารมีนั้นย่อมที่จะสั่งสมแต่คุณงามความดีอยู่ในศีลในธรรมคล้ายๆกันพอๆกันกับคู่บารมีที่เป็นพระโพธิสัตว์ขอสรรเสริญยกย่องนับถือในน้ำใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกในชาตินี้ที่ได้เห็นคนเป็นๆมีตัวตนจริงๆที่เป็นผู้หญิงปารถนาที่จะร่วมทางบำเพ็ญบารมีกับพุทธภูมิ ซึ่งหนทางนั้นยาวใกลนักเต็มไปด้วยความยากลำบาก มากกว่ามาก กว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง ก็ขออวยพรขอให้พระรัตนไตรและบุญญาธิการของคู่บารมีนั้นจงคุ้มครองให้ตลอดปลอดภัยและจงสำเร็จสมความปารถนาทุกประการนะครับ วันหน้าจะเขียนถึงความรู้สึกของผมในฐานะพุทธภูมิวิริยาธิกะพิเศษที่มีต่อคู่ปารถนาว่ารู้สึกอย่างไรในกระทู้เรื่องของนางแก้วสตรีที่โลกลืมน่ะครับ 6 มกราคม 2549

 

ผมยังไม่รู้ตัวเลย แต่มีคนมาบอกว่าปราถนาหมือนกัน แล้วก้ยังไม่รู้ว่าเป็นแบบใหนด้วย ใครรู้ช่วยมาตอบหน่อยค๊าฟ จะเป็นความกรุณาอย่างยิ่ง แล้วก็อีกหน่อยคือ ผมอยู่ในช่วงใหนแล้ว

 

ก็ต้องเป็นกำลังใจเดี่ยวๆหล่ะครับ

 

ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ปราถนาพุทธภูมิสายศรัทธาธิกะครับ

 

เป็นศรัทธาธิกะครับ

 

จะขอ
แตกฉานในการทำสมาธิทุกอย่าง
สำเร็จโพธิสัตว์ทุกวิธี
แตกฉานทุกยานทุกนิกาย
แตกฉานในเวทมนต์ไสยศาสตร์
แตกฉานในการรักษาสรรพสัตว์ให้หายด้วยวิธีธรรมชาติ โบราณ พลังจิต
เป็นพระมหาโพธิสัตว์แห่งความเมตตากรุณามีรัศมีบารมี3คื่อ เมตตา ฌาน ปัญญา ยิ่ง ดั่งพระมหาโพธิสัตว์กวนอิม
โปรดสัตว์ต่อไปเอย

 

ของผม ปัญญาธิกะครับ