ให้จำไว้ว่าไม่ว่ากายหรือจิตก็ไม่ใช่ของเรา

คนมีธรรมเขาต้องรู้จัก ผ่อนคลาย รู้จักไหมผ่อนคลาย น่ะ คนมีธรรมไม่จำเป็นทำตัวสุขุม
ให้ดูดี คนอื่นจะได้เคารพ ท่านคิดผิด คนมีธรรมคือความเย็นจะแผ่ซ่านให้ผู้อื่นเข้าหาเอง
ผู้อื่นศรัทธาเอง ไม่ต้องร้องให้เหนื่อย ไม่ต้องใช้คำพูดที่ดูดี ...เอ่อเราพูดมากไปแล้ว
..............Q....

 

อกุศลเกิดในใจ ให้รู้ทัน
กุศลเกิดในใจ ให้รู้ทัน
ก็ไม่หลงไปอบาย

 

เวลาผ่อนคลายมีใครเห็นบ้าง

 

อือ นี่แหละ

กุศล กะ อกุศล เป็นยังไง อยู่ตรงไหน ถึงรู้ว่า อันนี้คือ กุศล อันนี้คือ อกุศล

เรารู้ว่ามันเป็นกุศลหรืออกุศลตอนไหน รู้ทันความคิดกุศล อกุศล หรือ จิตกุศล อกุศล อันนี้ให้ผลต่างกัน

ผู้ใหม่รู้ทันจิตกุศล อกุศล
ผู้ชำนาญเขารู้ทันความคิดกุศล อกุศล ฉะนั้น จึงมีคำกล่าวว่า มี แต่ไม่เอา ดังนี้

 

อันดับแรกเลยนะ จิต ที่รู้ ของเรา อารมณ์ปรุงแต่งของเรา
และร่างกายของเรา และให้สิ่งดี ๆ. ให้กับคนรอบข้าง นะ
จริง ๆ ชีวิตเรามีอุปสรรคเยอะนะ เราเป็นคนเข็มแข็งนะ
แต่หลวงพ่อบอกว่า นานานั้นแหล่ะ คืออัตตาของแก
เอางี้แกเอา ทุกข์ของแก มาพิจารณานะ มันจะได้ไม่หนัก ^_^
....ได้หรือเปล่าไม่บอกนะ.....

 

กระบวนการก่อตัวของสุขของทุกข์ เป็นเรื่องที่เราต้องเรียนรู้ และทำความเข้าใจกับมันให้ได้ ไม่งั้น เราจะหลงก่อสุขก่อทุกข์แบบไม่รู้ตัวเลย พอหลงก่อขึ้นมาแล้ว เราก็วิ่งวุ่นไปตามเขาตลอด เราเรียนกันแต่ธรรมะชั้นสูง ธรรมะเรียบง่ายแค่นี้เอง เรายังไม่เห็นกันเลย น้อยคนจะพูดถึงเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่มันเป็นต้นทางของการปฏิบัติจริง ๆ

 

เหอะๆๆๆ ดีแล้ว ทำไปเถอะ

ดีแล้ว แปลว่า สาธุ

ไม่ขวางการเรียนรู้ของกันและกัน มีแต่ให้กำลังใจกัน เพียงแ่ต่อย่าเอาจิตเกิดมาตัดสินกันก็พอ ผิดถูกเป็นเรื่องพอกพูนความรู้ไป

 

จริง ๆ นานาก็งง นะ คำว่า สาธุ จริง ๆ มันแปลว่า นักบวช ที่เป็นสุปัตติปันโน(สะกดถูกไหม)หรือเปล่า....ภาษาอื่นว่ากันแบบนั้นน่ะงงฮะ

 

ไม่มีอะไรแปลว่าไม่มีอะไรคือหลายวันก่อนผมบังเอิญหลงไปในหลุมดำไปต่อล้อต่อเถียงกับใครก็ไม่รู้หลายชื่อมากแต่สื่อความหมายเดียวกัน เรื่องที่เกี่ยวกับพระศาสนาเรานี่ละครับ ว่าพระพุทธเจ้าเป็นพระเจ้าบ้าง อ้างโน้นอ้างนี่ยกพระสูตรนั้นพระสูตรนี้มา อธิบาย แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้มีโทสะอะไร แค่นึกว่าเพราะเขาไม่เข้าใจจึงย้อนถามเขาไปต่างๆนานาๆ จนเขาโดนแบน เพราะเขาระงับโทสะของตนไว้ไม่ได้ และต่อมาก็ทราบว่ายังมีหลายคน จากนั้นก็เลยยุติเพราะว่ามันจะเข้าตัวหมายถึงว่า บางสิ่งถ้ารู้จริงและเป็นเรื่องดีไม่ควรพูด ยิ่งพูดยิ่งจะไปกันใหญ่อะไรทำนองนั้น บางสิ่งถ้าไม่รู้เลยยิ่งไม่ควรพูดเพราะถือเป็นการมุสา ก็เลยโพสต์ถามดูเฉยๆไม่มีอะไรจริงๆ

 

ธรรมดาครับที่โพสท์เฉยๆ ดูจิตก็ดูเฉยๆ จิตรู้มั้ย?

;aa24

 

มันก็ต้องรู้สิครับ เพราะว่าเราทุกคนทำอะไรก็ต้องมีสติไม่ใช่หรือครับ ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไงเพราะว่าเห็นแล้วก็ไม่ได้อะไร ก็เลยไม่สนว่าจะเห็นหรือไม่เห็น

 

ควรเชื่อจอมศาสดา หรือควรเชื่อสาวกโดยเฉพาะพวกที่ยังต้องสดับ ยังต้องกระทำให้ตื้น
พระอริยสาวกและจอมศาสดา ย่อมกล่าวตรงกัน ไม่ขัดแย้งกัน
พระอริยสาวกย่อมรู้เห็นแตกต่างจากปุถุชน โดยเฉพาะคนบาปหนา
ระหว่างกัลยาณปุถุชน ย่อมดีกว่าพวกอันธพาลชนคนบาปหนาครับ

มหาปุณณมสูตร

[๑๒๕] ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ก็สักกายทิฐิ จะมีได้อย่างไร ฯ

พ. ดูกรภิกษุ
ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับในโลกนี้

ย่อมเล็งเห็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ โดยความเป็นอัตตาบ้าง
เล็งเห็นอัตตาว่ามีรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ บ้าง
เล็งเห็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ในอัตตาบ้าง
เล็งเห็นอัตตาในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ บ้าง

[๑๒๖] ภิ. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สักกายทิฐิจะไม่มีได้อย่างไร ฯ

พ. ดูกรภิกษุ
อริยสาวกผู้ได้สดับแล้วในธรรมวินัยนี้

ย่อมไม่เล็งเห็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ โดยความเป็นอัตตาบ้าง
ไม่เล็งเห็นอัตตาว่ามีรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ บ้าง
ไม่เล็งเห็นรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ในอัตตาบ้าง
ไม่เล็งเห็นอัตตาในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ บ้าง

…………..

พ. ดูกรภิกษุ

บุคคลเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงดังนี้ว่า
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อย่างใดอย่างหนึ่ง
ทั้งที่เป็นอดีต ทั้งที่เป็นอนาคต ทั้งที่เป็นปัจจุบัน เป็นไปในภายในหรือมีในภายนอกก็ตาม
หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม อยู่ในที่ไกลหรือในที่ใกล้ก็ตาม
ทั้งหมดนั่น ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่เรา ไม่ใช่อัตตาของเรา

ดูกรภิกษุทั้งหลาย
อริยสาวกผู้สดับแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้
ย่อมเบื่อหน่าย แม้ในรูป แม้ในเวทนา แม้ในสัญญา แม้ในสังขาร แม้ในวิญญาณ
เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมคลายกำหนัด
เพราะคลายกำหนัด จิตย่อมหลุดพ้น

เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ย่อมมีญาณรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว
รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ได้ทำเสร็จแล้ว
กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ฯ


พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระภาษิตนี้แล้ว
ภิกษุเหล่านั้นต่างชื่นชมยินดีพระภาษิตของพระผู้มีพระภาค
และเมื่อพระผู้มีพระภาคกำลังตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้อยู่

ภิกษุประมาณ ๖๐ รูป ได้มีจิตหลุดพ้นจากอาสวะ เพราะไม่ถือมั่นแล ฯ

 

ถ้ากุศล หมายถึงกิเลสฝ่ายดี ปิติ สุข สบายใจ โล่ง โปร่ง เบา
เกิดก็ให้รู้ทันใจตัวเองไป

ถ้าอกุศล หมายถึงกิเลสฝ่ายไม่ดี เช่นเครียด สมองทึบ แน่นหน้าอก
หายใจไม่สะดวก หงุดหงิด ไม่สบายใจ เกิดขึ้นให้รู้ทันตัวเองไป

ส่วนเฉยๆ หรือไม่รู้ว่าเป็นกุศลหรืออกุศล เกิดขึ้นก็ให้รู้ทันตัวเองไป

ส่วนอีกแบบคือ จิตเกิดประกอบด้วยสติเจตสิก เรียกว่า กุศลจิต
เกิดขึ้นก็ให้รู้ทันใจตัวเองไป

ส่วนจิตเกิดไม่ประกอบด้วยสติเจตสิก เรียกว่า อกุศลจิต
ทำให้หลงไปอยู่ในภาวะขาดสติ เกิดขึ้นก็ให้รู้ทันใจตัวเองไป

รู้อะไรได้เท่าไหน ก็รู้ไปเรื่อย อะไรเกิดก็ให้รู้ทันใจตัวเอง ไม่จำเป็นต้องไปแยก
แยะวิเคราะห์ว่ามันคืออะไร พอรู้มากๆ มันก็จำสภาวะนั้นได้ พอจำได้มันก็รู้เรื่อง
เอง ไม่ต้องสมมุติชื่อมันก็รู้เอง เข้าใจเอง พอไปอ่านธรรมะเรื่องพวกนี้ ก็จะเข้า
ใจ ไหลเข้าสู่ใจได้เองเพราะเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ความรู้สึกตามจริง

 

ครับ อนุโมทนาสาธุครับ อีกอย่างเอามาด้วยก็ดีนะครับ คำว่า อัสมิมานะ กับ คำว่า อธิมุตติ คนอื่นเขาจะได้รู้

 

เมื่อมันรู้แล้ว มันละได้มั้ย? ถ้าละไม่ได้ก็อย่างที่พูดหละ
เห็นหรือไม่เห็นไป ก็ไม่มีประโยชน์อะไร

แต่ถ้ามันรู้แล้ว มันละได้(เป็น) เพราะเห็นโทษ ทุกข์ ภัย
ก็เป็นจิตที่มีสติและปัญญา เป็นประโยชน์ตนโดยส่วนเดียว
ถ้าสามารถชี้ให้คนอื่นเห็นได้ จะยังประโยชน์อันยิ่งใหญ่

เป็นที่น่าเสียใจอย่างมากว่า พวกชาวพุทธในปัจจุบัน ขาดซึ่งความเพียร
ในการปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนา จึงไม่รู้เห็นตามความเป็นจริงหรอก
มีแต่ความเชื่อ ความศรัทธา และความคิดที่ตกผลึกเท่านั้น หาประโยชน์ไม่

;aa24

 

ครับยังละไม่ได้ครับ แค่รู้ครับ แต่รู้ก็ยังดีไม่ใช่หรือครับดีกว่าไม่รู้ อย่าลืมอีกสองคำด้วยครับคำว่า อัสมิมานะ กับ คำว่า อธิมุตติ
อนุโมทนาสาธุ ครับ

 

เอาแค่ของง่ายๆ สติ สมาธิ ปัญญา เกิดขึ้นที่ไหน? ยังเข้าเจ้าไม่ได้
อีกอย่าง ศีล สมาธิ ปัญญา ยังไม่รู้เลยว่าเริ่มต้นยังไง? ยังเดาสวดกันอยู่

ยังไม่ต้องพูดถึงอัสมิมานะหรือ อธิวิมุตติหรอกครับ ยังไกลเกินเอื้อม
เมื่อเข้าถึงสัมมาสมาธิได้ ย่อมเกิดเจโตวิมุตติ ตามด้วยปัญญาวิมุตติครับ
พื้นฐานในเรื่องสัมมาสมาธินั้น เป็นเรื่องที่สำคัญในศาสนาพุทธ
ให้นั่งสงบเพียง๒๐นาทีบางคนยังทำไม่ได้เลย อย่าเพิ่งคิดไปไกลเกินรู้ครับ

;aa24

 

เวบบอดมีนอ่านเยอะหรือมีแค่กลุ่มเราเนี่ยเห็นมีแต่คนเดิมๆแสดงเรื่องเดิมๆ

 

ไม่ใช่อธิวิมุติครับ อัสมิมานะ กับ อธิมุตติครับ

 

ไม่เป็นไรครับบางทีผมอาจมีดวงตาเห็นธรรมก็ได้ครับ บางทีนะครับ เพราะผมก็ตอบตามที่ผมเห็น ตามที่ผมเป็นครับ ศีลผมก็อาจไม่บริสุทธิ์ ไม่เข้าใจเรื่องศีลสมาธิปัญญาหรอกครับ พอเย็นๆก็ไปนั่งซดเบียร์ดูจิตไปด้วยว่าเวลาเมา มันเป็นยังไง ครับ