ให้บูชา พระพิมพ์เปิดโลก เนื้อผงพรายผสมผงวิเศษ หลวงปู่ทอง วัดเกาะ

แบบพิมพ์สวยดี มวลสารดี มีไว้ดี

 

แล้วจองกันอย่างไรล่ะครับ

 

การจองเดี๋ยวช่วงคําๆ คุณ Hellboy จะเข้ามาแจ้งครับ ;36

 

เคยคุยกับทางอาจารย์ทิพย์ พระที่ทำชุดนี้ เด่นทางด้านโชคลาภด้วยนะครับ
ถูกใจผมจริงๆเลย เหมาะกับเศรษฐกิจช่วงนี้มาก

 

เห็นด้วยครับ คนที่จองลองพิมพ์ไว้ก็ได้โชคลาภจากพี่ทิพย์ไปก่อนแล้ว;aa17

 

ประวัติหลวงปู่ทอง วฑฺฒโน

หลวงปู่ทอง หรือ พระอาจารย์ทอง เกิดวันจันทร์ที่ ๑๐ เมษายน ๒๔๕๔ ท่านเป็นบุตรของ นายปานและนางแปลกวงศ์เฮี๊ยบ (ภายหลังเปลี่ยนเป็น วัฒนสกุลวงศ์) ท่านมีนามเดิมว่า ต้อ ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น ทอง เนื่องจากบิดาท่าน ได้ถวายที่ดินให้สร้างเป็นวัดตะล่อม และขณะที่กำลังสร้างวัดนั้นได้ขุดพบไหบรรจุทองคำ บิดาท่านจึงเปลี่ยนชื่อให้ท่านเป็น เด็กชายทอง ท่านมีพี่น้อง ๖ คน รวมท่านด้วยเป็น ๗ ดังนี้
๑. คุณซ่วน ๒. นายเซ้ง
๓. คุณหลี ๔. นายเต็ก
๕. คุณตื๊ด ๖. นายต้อ ( หลวงปู่ทอง )
๗. คุณปลื้ม
โดยพี่น้องท่านทั้งหมดได้ถึงแก่กรรมไปหมดทุกคนแล้ว โดยท่านได้อาศัยอยู่กับบิดามารดาได้ระยะหนึ่งเนื่องจ ากท่านเป็นคนที่ค่อนข้างเกเร บิดาจึงได้ยกให้ท่านเป็นบุตรบุญธรรมของ พระราชอากร (จันทร์ วันทนปิณฑุ) และที่นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นที่ท่านได้พบกับหลวงพ่อพ ริ้ง วัดบางประกอก เนื่องจากพระราชอากร มีศรัทธาในองค์หลวงพ่อพริ้งเป็นอย่างมาก ได้สร้างพระเครื่องถวายอยู่เป็นเนื่องๆโดยนายทองก็ได ้มีส่วนร่วมในการสร้างทุกๆครั้ง และจะต้อง

------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณ ข้อมูลอ้างอิงจากเวปร่มโพธิ์ไทร http://romphosai.com/forums<!-- / message --><!-- attachments -->

 

ประวัติหลวงปู่ทอง วัดเกาะ

เป็นคนนำพระเครื่องแบบต่างๆที่สร้างเสร็จแล้วไปถวายแ ด่หลวงพ่อพริ้งทุกครั้ง ครั้งหนึ่งเมื่อท่านได้นำพระเครื่องที่ได้สร้างเองกั บมือไปถวาย หลวงพ่อพริ้งก็ได้เสกแล้วให้ท่านกลับมา ๑ องค์ เมื่อมาถึงบ้านท่านก็ได้โยนพระองค์นั้นอย่างไม่ใส่ใจ โดยคิดว่าพระที่เราสร้างเองกับมือจะเอามาทำไม ตกดึกคืนนั้นเองหลวงพ่อพริ้งได้มาพบกับท่านในฝันและต ่อว่าท่านว่าทำไมถึงเอาพระที่ท่านให้ไปโยนทิ้ง ตั้งแต่นั้นมาท่านก็เริ่มสนใจและเริ่มเสาะหาพระอาจาร ย์ต่างๆเพื่อขอเรียนวิชาและเพื่อกราบโดยองค์ที่สำคัญ ๆ ที่ท่านได้ไปพบมีดังนี้
๑. หลวงพ่อพริ้ง วัดบางประกอก
๒. หลวงพ่อลี วัดอโศการาม
๓. หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขันธ์
๔. หลวงพ่อวัดชะเมา นครศรีธรรมราช
๕. หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด
๖. สมเด็จพระสังฆราชอยู่ ญาโณทัย
๗. หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ
๘. หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง
๙. หลวงพ่อโป๋ วัดวังแดง
๑๐. หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
๑๑. กรมหลวงชุมพรฯ
และอีกหลายพระอาจารย์ โดยท่านได้สนใจศึกษาในวิชาต่างๆ ควบคู่ไปกับการเป็นนักหนังสือพิมพ์ จนโยมพ่อ โยมแม่เป็นห่วงเนื่องจากท่านค่อนข้างเกเรพระราชอากรจ ึงได้นำท่านไปฝากฝังให้เรียนวิชาโหรกับพระญาณเวทย์ โดยท่านได้เป็นรุ่นพี่ของอาจารย์เทพ สาริกบุตร และทั้งสองก็ได้เข้าทำงานในกรมโหรในเวลาต่อมา หลังจากนั้นท่านก็ได้แวะเวียนเข้าไปที่วัดสุทัศน์ บ่อยๆเนื่องจาก พระราชอากรและพระชัยปัญญา ต้องการสร้างพระกริ่งโดยมีสมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นองค์ประธานและท่านก็ได้ให้ นายทองดำเนินการพิธีกรรมทางพราหมณ์คู่กับอาจารย์เทพ หลายพิธีด้วยกัน จนกระทั่งมีอยู่ครั้งหนึ่งมีการปลุกเสกพระกริ่งที่วั ดสุทัศน์ ในครั้งนั้นท่านได้รับหน้าที่ดูแลพระอาจารย์ต่างๆที่ มาเข้าพิธี และหนึ่งในนั้นมีหลวงพ่อรุ่ง วัดท่าควาย( ท่ากระบือ ) ร่วมอยู่ด้วย ขณะที่ท่านได้เข้าไปประเคนน้ำชาถวายแด่หลวงพ่อรุ่งนั ้น หลวงพ่อรุ่งได้รับประเคนแล้วเทน้ำในแก้วออก แล้วได้นำใบยาสูบใส่ลงไปในแก้วแทน หลังจากนั้นจึงให้ท่านเทน้ำลงไปใหม่ ทันใดนั้นใบยาสูบได้กลายเป็นปลากัดในทันที นายทอง สนใจมากจึงขอฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อรุ่งในทันที แต่ท่านบอกว่าถ้าจะเป็นศิษย์ท่านก็ต้องบวชเสียก่อนนา ยทองจึงได้ตัดสินใจบวชในปี พ.ศ. ๒๔๘๖ โดยมีหลวงพ่อรุ่งเป็น พระอุปัชฌาย์ และมีหลวงพ่อผล วัดหนังนางนองและหลวงพ่อกรับ วัดโกรกกรากเป็นพระคู่สวด เมื่อบวชแล้วท่านได้ไปจำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อรุ่ง แต่อยู่กับหลวงพ่อรุ่งได้ไม่ทันเท่าไร วันหนึ่งหลวงพ่อรุ่งท่านได้เรียกพระทองพบและได้ชี้ไป ที่กลดแล้วพูดกับพระทองว่า เรามันเล่นละครกัน ฉันไปผลักหัวใจแกเป็นพระไม่ได้ พระทองจึงได้แบกกลดและออกธุดงค์ในเวลาต่อมาทันทีโดยม ีพระอาจารย์ปลา วัดประดู่บางพรหม และพระรูปอื่นๆไปกับท่านพอสมควรโดยจุดหมายที่ท่านได้ ออกธุดงค์คือป่าดงพญาไฟ ในขณะที่ท่านธุดงค์อยู่ในป่านั้น พระรูปอื่นๆได้แยกย้ายกันไปหมดแต่ส่วนใหญ่จะเดินทางก ลับกันก่อน จึงเหลือแต่ท่านและพระอาจารย์ปลาเท่านั้นที่ยังอยู่ ขณะที่ท่านได้ธุดงค์นั้นท่านได้พบกับหลวงพ่อชม มนังคโน แห่งสำนักสงฆ์เขานันทาสุภาพ จึงได้ร่ำเรียนและแลกเปลี่ยนธรรมะกันจนสนิทชิดเชื้อก ันดี เมื่อท่านธุดงค์ได้ระยะหนึ่งนั้น คุณหญิงมาลีภรรยาพระยากำธร(ข้าหลวงนครราชสีมา) ได้มาขอร้องท่านให้ ตามหาพระยากำธรที่หายไปในป่าเนื่องจาก พระยากำธรได้ติดตามโจรที่ก่อคดีปล้นทรัพย์แล้วฆ่าเจ้ าทุกข์ทิ้ง และหลบหนีการจับกุมเข้าไปในป่า ท่านจึงรับปากไป ตามหาให้ ท่านตามหาอยู่นานจนถึงกลางดง ณ ถ้ำพระยาปราบ ท่านก็ได้พบพระยากำธร ซึ่งขณะนั้นไอ้บวชเป็นพระภิกษุแล้ว นั่งปฏิบัติธรรมอยู่ท่านจึงได้เข้าไปหาและแจ้งความปร ะสงค์ว่าจะมาตามท่านกลับเนื่องจาก บ้านเมืองนครราชสีมาขาดคนดูแลและคุณหญิงภรรยาท่านก็เ ป็นห่วงท่านมากด้วย ภิกษุพระยากำธรได้ตอบปฏิเสธพระทอง โดยให้เหตุผลว่าไม่สามารถกลับไปได้แล้วเนื่องจากท่าน
--------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณ ข้อมูลอ้างอิงจากเวปร่มโพธิ์ไทร http://romphosai.com/forums<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

 

ประวัติหลวงปู่ทอง วัดเกาะ

ได้รับปากกับหลวงปู่คำมีไว้ว่าจะบวชเนื่องจากหลวงปู่ คำมีได้ช่วยท่านไว้จากวิญญาณโจร ที่ท่านได้ติดตามจับกุมได้ทั้งหมด แต่เนื่องจากหนทางค่อนข้างไกลท่านจึงจับโจรทั้งหมดเห ล่านั้นฝังดินทั้งเป็นทำให้เกิดแรงอาฆาตเป็นอย่างมาก กลุ่มโจรได้ติดตามหลอกหลอนท่านและลูกน้องจนตายหมดเหล ือแต่ท่านคนเดียว ก็จังหวะเดียวกันกับหลวงปู่คำมีท่านได้ผ่านมาจึงได้ท ำการช่วยเหลือและหลวงปู่คำมีได้บอกว่าให้บวชอุทิศส่ว ยกุศลให้แก่โจรเหล่านั้นท่านจึงได้ตกลงบวชและเมื่อบว ชแล้วท่านได้ปฏิบัติกรรมาฐานจนเกิดการติดใจในรสธรรม พระทองจึงให้พระยากำธรเห็นแก่บ้านเมืองไม่มีใครดูแลแ ละคุณหญิงภรรยาที่เป็นห่วงท่านอย่างมากและได้ออกอุบา ยให้จ้างคนมาบวชแทนท่านพระยากำธรจึงได้ตัดสินใจลาสิก ขาและติดตามพระทองกลับเมืองโคราช แต่กลับมาได้ไม่นานนักพระยากำธรก็ถึงแก่อนิจกรรม
เมื่อพระทองกลับมาจากธุดงค์แล้วหลวงพ่อรุ่งก็ได้ให้พ ระทองมาจำพรรษาอยู่ที่วัดแหลม จ.สมุทรสาคร โดยได้ฝากฝังท่านให้อยู่กับหลวงตาเหล็ง อยู่ได้ไม่นานนักทางวัดสุทัศน์ก็ได้นิมนต์ท่านมาอยู่ เพื่อช่วยเหลือกิจการต่างๆและสอนวิปัสสนากรรมฐาน ท่านอยู่วัดสุทัศน์ได้ในระยะหนึ่งหลวงพ่อผล เจ้าอาวาสวัดเกาะในขณะนั้น ซึ้งได้รู้จักกับหลวงปู่มาตั้งแต่ สมัยที่หลวงปู่ยังไม่บวช ได้มาพบกันที่วัดสุทัศน์อีกหน ก็ได้นิมนต์ท่านมาจำพรรษาที่วัดเกาะ เนื่องจากวัดเกาะในสมัยก่อนนั้นเงียบและสงบเหมาะแก่ก ารเจริญวิปัสสนาเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อท่านบวชแล้วท่านได้มุ่งเน้นแต่ทางกรรมฐานเ ป็นหลักเนื่องจากท่านได้เบื่อหน่ายในวิชา และศาสตร์ต่างๆที่ได้ร่ำเรียนมา เมื่อท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดเกาะนั้น หลวงพ่อชม ก็ยังแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนกันเสมอๆรวมทั้งท่านเจ้าค ุณผล และพระทองก็ยังได้ไปร่ำเรียนธรรมะเพิ่มเติมกับหลวงพ่ อวงศ์ แห่งวัดปริวาศ เพิ่มเติมอีกด้วย รวมทั้ง หลวงพ่อคูณปริสุทโธ ท่านก็ยังได้เคยแลกเปลี่ยนวิชาซึ่งกันและกัน เวลาผ่านล่วงเลยไปค่อนศตวรรษหลวงปู่ทองแห่งวัดเกาะก็ ยังจำพรรษาอยู่ที่เดิมมิได้ย้ายไปไหน ยังอยู่สงเคราะห์ญาติโยมอย่างสมถะที่วัดเกาะจวบจนทุก วันนี้
-------------------------------------------------------------------
ขอขอบคุณ ข้อมูลอ้างอิงจากเวปร่มโพธิ์ไทร
http://romphosai.com/forums/forum15/thread10.html

<!-- / message --><!-- sig -->

 

หลวงปู่ทอง

สำหรับผู้ที่เข้ามาใหม่และยังไม่รู้จักหลวงปู่ทองของเรา ผมขออนุญาต อาจารย์ทิพย์นำเสนอข้อมูลและรูปหลวงปู่ทองนะครับ
ภาพที่เห็นเป็นบรรยากาศเก่าจากกระทู้พระขุนแผนนะครับ
มองภาพแล้วก็คิดถึงหลวงปู่ครับ

 

เข้ามาติดตามครับ

 

สุดยอดคุณ Supatach เยี่ยมมาก มอบหมายงานให้เลยช่วยๆกัน

 

เปิดบอร์ดใหม่แล้วเหรอครับอาจารย์ ติดตามครับติดตาม

 

สวยดีจ๊ะ บูชาเท่าไหร่จ๊ะ

 

เพิ่งว่างมาตอบทุกท่าน ณ บัดนี้ ครับ

 

เริ่มจากอะไรก่อนดี

 

กำลังเตรียมภาพ ให้ทุกท่านได้ชม พร้อมค่าบูชา รอสักครู่ครับ...คืนนี้ยาวไกล

 

ร่วมทำบุญบูชาองค์ละเท่าไร ครับ

 

รอสักครู่ครับทุกท่าน กำลังเอาภาพออกจากกล้องสดๆร้อนๆ...ผมจะเอารูปอื่นๆให้ได้ชมกันก่อนนะครับ

 

รออยู่ครับท่านพี่ ฮี่ฮี่ฮี่

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 7 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>HellBoy, เมืองพุทธ, ANUSORN78, วิชาญ, ศิษย์อริยะ, jimmyuro </TD></TR></TBODY></TABLE>

สวัสดี ยามค่ำคืนครับทุกท่าน และสวัสดีครับคุณหมอจิมมี่