ไข้หวัด (Common Cold)

ไข้หวัด (Common Cold)
#โรคไข้หวัด #CommonCold #HealthyMe

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยและเป็นช่วงที่ปรับเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูหนาว มีทั้งฝนตก บางช่วงหนาวเย็น อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ความชื้นและความหนาวเย็นจะทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี เชื้อโรคหลายชนิดแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย
.
โรคไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่ เกิดจากเชื้อไวรัส สามารถติดต่อกันได้ง่าย เชื้อเข้าสู่ร่างกายทางจมูกปาก และตา เชื้อเหล่านี้อยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูก น้ำลาย ของผู้ป่วย ที่ไอ จามออกมา นอกจากนี้เชื้อยังอาจติดอยู่กับภาชนะ ของใช้หรือพื้นผิวที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลาย ของผู้ป่วย โรคนี้สามารถแพร่กระจายอย่างกว้างขวางได้ในที่ที่มีคนอยู่รวมกันมากๆ และอากาศไม่ถ่ายเท (ผศ.ดร.เพิ่มศิริ นิติมานพ)
.
อาการของโรคไข้หวัด
ไข้สูง 37-39 องศาเซลเซียส ครั่นเนื้อครั่นตัว อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คัดจมูก ไอ จาม มีน้ำมูกใส จาม คอแห้ง
.
การรักษาในเด็กโตและผู้ใหญ่
- นอนพักผ่อน
- ห้ามตรากตรํางาน และ ห้ามออกกำลังกายมากเกินไป
- หลีกเลี่ยงการอาบน้ำเย็น และอยู่ในห้องที่เปิดแอร์ ควรใส่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ ไม่ควรดื่มน้ำเย็นๆ
- ควรรับประทานอาหารอ่อน และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์(ถูกสุขอนามัย ) ดื่มกินของร้อนๆ ให้เหงื่อออก
- ไม่ควรรับประทานอาหารหรือใช้ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวกับผู้อื่นเพราะอาจเป็นการแพร่เชื้อหวัดไปสู่คนอื่นได้
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ถ้าไข้สูง ใช้ผ้าชุบน้ําเช็ดตัว เวลาเช็ดตัวอย่าให้ถูกลม อาจทําให้หนาวสั่นได้
- ถ้าไข้สูงมาก (ตัวร้อนจัด) กินยาลดไข้-พาราเซตามอล ทุก 4-6 ชั่วโมง
- ถ้าหนาวหรือครันเนื้อครั่นตัว ควรใส่เสื้อหนาๆหรือห่มผ้า
- ห้ามอาบน้ำเย็น
- ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ถ้าเคยชักกจากไข้ ให้ทําตามคําแนะนําของหมอ (หมอจะ พิจารณาให้ยากันชักสําหรับเด็กบางคนที่มีลักษณะการชักที่ร้ายแรงเท่านั้น)
- ถ้าเป็นไข้หวัดใหญ่ในคนอายุต่ํากว่า 18 ปี ห้าม กินแอสไพริน, ควรกินพาราเซตามอล แทน
- ถ้าคัดจมูกหรือมีน้ํามูกมาก กินคลอร์เฟนิรามีน หรือใช้สมุนไพร-หอมแดง หรือ กดจุด
- ถ้าไอแห้งๆ หรือไอคันคอ จิบยาแก้ไอ หรือใช้สมุนไพร
- ถ้าไอมีเสลดเหนียวหยุดจบยาแก้ไอ ให้ ดื่มน้ําอุ่นมากๆ อาจให้กินยาขับเสมหะ หรือใช้สมุนไพร ถ้าไม่มียาก็ไม่จําเป็นต้องใช้ยา
- ถ้าน้ำมูกข้นเหลืองหรือเขียวเกิน 24 ชั่วโมง หรือ ไอมีเสลดเหลืองหรือเขียว หรือมีไข้เกิน 4 วัน ควรไปหาหมอ เพื่อพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะ เช่น เพนวี หรืออะม็อกซีซิลลิน นาน 5-7 วัน
- ถ้ามีอาการหายใจหอบ หรือเจ็บหน้าอกรุนแรง (อาจเป็นปอดอักเสบ) หรือปวดหู หูอื้อ (อาจ เป็นหูชั้นกลางอักเสบ) หรือมีประวัติสัมผัส สัตว์ปีกที่ป่วยหรือตายภายใน 7 วันก่อนมีไข้ หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีไข้หวัดนก หรือไข้หวัดใหญ่ (ร้ายแรง) ระบาดภายใน 14 วันก่อนมีไข้ ต้องไป หาหมอโดยเร็ว
.
การรักษาในเด็กเล็ก
- ระวังอย่าให้ตัวร้อนจัดโดยการเช็ดตัวบ่อยๆและไม่ควรใส่เสื้อหนาๆหรือห่มผ้าห่มหนาๆ
- ถ้ามีน้ำมูกใสๆ ควรใช่ลูกยางดูดออก หรือใช้ไม้พันสําลีเช็ดออก ซึ่งจะมีมากใน 2-3 วันแรก) ไอให้จิบน้ําอุ่นหรือน้ําผึ้งผสมมะนาว หลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้หวัดแก้ไอ เพราะจะมียาแก้แพ้ คลอร์เฟนิรามีน ผสมทําให้เสลดเหนียวขับ ออกยาก
- ถ้าน้ำมูกข้นเหลืองหรือสีเขียวเกิน 24 ชั่วโมง หรือ ไอมีเสลดเหลือง หรือเขียว หรือมีใช้เกิน 4 วัน ควรไปหาหมอ เพื่อพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะ เช่น อะม็อกซีซิลลินชนิดน้ำเชื่อม 5-7 วัน
- ถ้ามีอาการหายใจเร็วกว่าปกติ (เด็กแรกเกิด-2 เดือน หายใจมากกว่านาทีละ 60 ครั้ง 2 เดือน ปี มากกว่านาทีละ 50 ครั้ง 1-5 ปี มากกว่านาที ละ 40 ครั้ง อาจเป็นปอดอักเสบ) หรือปวดหู หู อื้อ (อาจเป็นหูชั้นกลางอักเสบ) หรือมีประวัติ สัมผัสสัตว์ปีกที่ป่วย หรือตายภายใน 7 วันก่อน มีไข้ หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีไข้หวัดนก หรือไข้หวัด ใหญ่ (ร้ายแรง) ระบาดภายใน 14 วันก่อนมีไข้ ต้องไปหาหมอโดยเร็ว
.
การป้องกันโรคไข้หวัด
ไข้หวัดเป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย สามารถป้องกันได้โดย การหมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือทาด้วยเจลล้างมือ(เจลแอลกอฮอล์) ควรสวมหน้ากากอนามัย หากเข้าไปสถานที่ มีผู้คนแออัด และผู้ป่วยโรคไข้หวัด ควรใช้หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย หมั่นล้างมือหลังไอ หรือจาม ควรพักผ่อนจนกว่าอาการจะดีขึ้น รับประทานผักผลไม้วิตามินซีสูง (ส้ม ฝรั่ง มะละกอสุก สับปะรด) นอกจากนี้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รักษาร่างกายให้อบอุ่น และรับประทานอาหารที่สะอาดปรุงสุกใหม่ ครบ 5 หมู่
-----------------------------------------------------------------------------------
Credit: Healthy Me
https://www.facebook.com/Good.Healthy.Me/​