ไปร่วมอนุโมทนาคนรับพระแก้วหน้าตัก 4 นิ้ว 388 คนที่ฮ่องกง หน้า 4 #61

.................................

วิธี pressed glass เลือกรูปทรงว่าต้องไม่มีมุมอันเด้อร์คัตเท่านั้น เกศแหลมเปลวไฟไม่ใช่ปัญหา แต่เมื่อออกมาแล้วแตกง่ายกว่านั้นขึ้นอยู่กับการออกแบบที่ถูกต้อง หากออกแบบถูกต้องปัญหานี้จะมีน้อย

ส่วนวิธีเป่าแก้วด้วยปอดนั้น หากขนาดองค์พระมีหน้าตักไม่เกิน 3.5 นิ้ว ยังอาจหาช่างที่มีฝีมือได้ครับ และอาจเป่าได้ถึงแม้จะเป่าให้องค์พระตันทั้งองค์ก็ยังอาจทำได้ครับ เพียงแต่ผมยอมรับว่า ช่างเป่าฝีมือขนาดนี้ในปัจจุบันเริ่มหายาก แต่คนที่จะให้ฝึกใหม่เริ่มไม่เอางานหนัก แต่ถ้าท่านใดต้องการทุ่มเทให้งานนี้ ผมจะจัดการให้ครับ ฝึกให้จนกว่าจะเป็น เพียงแต่ระยะที่ฝึกนี้อาจใช้เวลาจากไม่เป็นอะไรเลยถึงวันที่เป่าด้วยปอดกดเข้าแม่พิมพ์เหล็กได้องค์พระตันนั้น ถ้าเก่งที่สุดและเอางานที่สุด ผมขอเวลาฝึกคนคนนั้น 1 ปีครับ

คุณสมบัติของคนที่จะฝึกเป่าก็ไม่มีอะไรมากครับ ชายแข็งแรง อายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป ส่วนสูงประมาณ 150 ซ.ม. ขึ้นไปในขนาดองค์พระหน้าตักไม่เกิน 3.5 นิ้วนะครับ อดทน มีใจ แค่นี้เองครับ

 

ความรู้ในเรื่ององค์พระแก้วนี้ เป็นลักษณะของงานวิจัย ที่ต้องใช้เวลาทุ่มเท กับค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก...ผมไม่คิดว่าเป็นเรื่องง่ายๆ...ทั้งนี้ก็เพราะผมเคยต้องทำวิจัย ในเรื่องที่ผมไม่ชอบ และเป็นความรู้ที่ทั่วโลกยังไม่สามารถทำได้...ภายหลังเมื่อจะมาเปลี่ยนแปลงก็ถูกเสนอให้ทำการผลิต ลูกถ้วยพอร์ชเลน...ที่สามารถทนต่อแรงดันฟ้าผ่าแบบซ้ำซ้อนได้...ซึ่งจากประสบการณ์ที่รู้มา การอบให้ความร้อน เพิ่มลดอุณหภูมิ ตลอด 45 วันและยังคงค้างไว้ในเตาอีก 45 วัน นักวิจัยบ้านเราทำอยู่ 25 ปี ก็ไม่สามารถหากราฟของการปรับอุณหภูมิที่จะไม่ทำให้เกิดรอยร้าวหรือฟองอากาศภายในได้ สุดท้ายต้องซื้อ Know How ต่างชาติเข้ามา...ผมก็คงไม่สามารถทำได้ภายใน 2 ปี สุดท้ายผมก็ทำวิจัยในหัวข้อเดิม ซึ่งค่าใช้จ่ายในการวิจัยนั้นสูง แต่เมื่อผลิตออกมาได้แล้ว ต้นทุนต่อชิ้นกลับไม่แพง...

นั่นเป็นครั้งแรกที่ Chair man จากอเมริการต้องบินมาขอดูผลงาน และลอกวิธีการกลับไปทำ เนื่องจากตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ต่างชาติก็คิดไม่ออกเหมือนกัน...แต่นั่นไม่น่าเจ็บใจเท่าคนไทยดูถูกกันเอง ทั้งที่เทคโนโลยีเราเหนือกว่าและราคาถูกกว่ามาก...

 

ผมมีโครงการที่จะทำอุปกรณ์เพื่อช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการนั่งสมาธิและเดินจงกรม...
เนื่องจากผลการฝึกที่ผ่านมาเมื่อครั้งวัยรุ่นกว่า 25 ปีที่แล้วนั้น ได้สร้างความบาดเจ็บ จนอวัยวะบางส่วนเสื่อมสภาพ ทั้งหัวเข่าและกระดูกสันหลัง...
ผมเองคิดว่าหากจะมีคนในกลุ่มผมต้องฝึกจนพิการแล้วนั้น ผมน่าจะสามารถสร้างอุปกรณ์ที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บนี้ได้ เหมือนเช่น วิทยาศาสตร์ทางการกีฬาฯ

อุปกรณ์อีกชิ้นหนึ่งคือเครื่องช่วยทำสมาธิ เพื่อให้สามารถเข้าฌาณ 4 ได้ง่ายขึ้น จนถึงมโนมยิทธิเต็มกำลังได้ ซึ่งปัจจุบันมีทางเป็นไปได้เนื่องจากมีฮาร์ดแวร์บางอย่างที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ... แม้ว่าโครงการนี้จะเป็นเรื่องเหลือเชื่อและไม่น่าเป็นไปได้ แต่ในชีวิตผมก็ถูกใช้ให้ทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หลายๆอย่าง จนลุล่วงมาแล้ว ครั้งนี้จะลองทำดู ไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร...

เพียงแต่การสร้างสิ่งใดสิ่งหนึ่งขึ้นมานั้น ผลเสียที่จะเกิดขึ้นจากการนำไปใช้ผิดวิธี เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ดังนั้นหากสิ่งที่ผมจะประดิษฐ์ขึ้นนี้ เป็นเหตุให้ผู้คนเข้าถึงอภิญญาได้ และนำไปใช้ในทางที่ผิด ย่อมเป็นอันตราย...ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่ผมคิดถึงคือ การสร้างพระพุทธรูปแก้วใส ติดหลอดไฟ LED ที่ต้องกำหนดมุมการส่องสว่าง ความเข้มแสง เพื่อไม่ให้เกิด Glare หรือแสงเคืองตา ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดต้อชนิดต่างๆได้ กับความสม่ำเสมอของแสง รวมถึงค่าความยาวคลื่นที่ใช้...เพื่อให้เป็นพุทธานุสติ คอยกำกับจิตไว้ ไม่ให้ทำชั่ว ด้วยจะเสมอเหมือนมีองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมาประทับอยู่เบื้องหน้า...

เมื่อผู้คนทรงฌาณได้ดีแล้วจึงให้น้อมไปในวิปัสนาญาณเพื่อการละสังโยชน์ต่อไป...
เมื่อบุคคลที่ทรงศีลดีแล้วทรงธรรมดีแล้ว ย่อมสามารถนำความรู้และวิชาความสามารถมายังประโยชน์ต่อสังคม คนรอบข้าง และตัวเองได้....

ผมจึงคิดว่าจะสร้างพระพุทธรูปขึ้น จากเดิมที่คิดไว้เป็นอะคริลิค เพราะจะใส ทำง่าย และไม่เปลี่ยนสีง่าย แตกต่างจากเรซิ่นซึ่งจะเปลี่ยนสีได้...แต่เมื่อมาเห็นแก้วใสนี้จึงคิดว่าดีกว่าอะคริลิคมาก...จึงมีความสนใจอยู่ครับ...

สำหรับโครงการของผมนี้ มีความปรารถนาจะให้คนชั่ว คนบาป เหล่านักทุจริต คอรัปชั่นทั้งหลาย ได้มีโอกาสใช้ ... เนื่องเพราะคนดี นั้นดีอยู่แล้ว สอนง่าย แต่คนบาป คนชั่วนั้น น่าสงสารมาก หากแม้นเขาเหล่านี้ ได้เห็นสภาวะธรรม แม้ชั่วขณะจิตหนึ่ง ผมเชื่อว่า เขาเหล่านั้นจะละทิ้งเสียจากความชั่ว หันมาสร้างความดีอย่างแน่นอน...ดังมีตัวอย่างขององคุลีมาลย์เป็นต้น...

ผมคงทำวิจัยส่วนนี้ไปอย่างเงียบๆ...หากมีโอกาส คงจะได้ศึกษาการสร้างพระแก้วใสเพื่อใช้ประกอบการเจริญพระกรรมฐานครับ...
ขอบคุณ...

 

ก่อนอื่นผมขอแสดงความเสียใจกับการได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่าและที่กระดูกสันหลังของคุณ raming2555 ซึ่งอาจเป็นแรงขับที่ให้มุ่งมั่นทำอะไรแบบทุ่มเท เหมือนกับที่ผมเป็นลูกของเจ้าของโรงงานแก้วที่สร้างพระแก้ว 25 ศตวรรษที่ทนเห็นการสร้างแบบรวก ๆ แล้วรู้สึกปวดกระดองใจ จนเป็นที่มาของการทุ่มเทในโครงการพระแก้วขนาดหน้าตัก 9 นิ้วซึ่งขณะนั้นที่ยังเป็นความลับเนื่องจากทั่วโลกยังไม่มีใครไปถึงจุดนั้นในเรื่องพระแก้วหน้าตัก 9 นิ้ว และแล้วผมก็ฝ่าฟันได้สำเร็จ และผมก็ค่อย ๆ เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องพระแก้วไว้เรื่อย ๆ จนกระทั่งคุณ raming2555 มาสนใจ ยิ่งถ้ามีความต้องการสร้างขนาดหน้าตัก 3.5 นิ้วซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่ไม่ยากเลย เราทำสำเร็จมานานแล้ว เราสร้างได้มาตราฐานถึงขั้นที่เรียกได้ว่าดีที่สุดของโลกแล้ว ไม่ต้องผ่านการวิจัยใด ๆ อีก เพียงแต่ต้องไม่เอาใจแบบพ่อค้าที่ทำอะไรให้ลดต้นทุนให้ถึงที่สุด ถ้าอย่างนั้น สิ่งที่เราว่าสำเร็จได้มาตราฐานดีที่สุดของโลกก็จะกลายเป็นว่า สุกเอาเผากิน ทำรวก ๆ ลดต้นทุน หรือทำห่วย ๆ ให้ผ่านไป ถ้าทำขนาดหน้าตัก 3.5 นิ้วไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพียงแต่ใจเท่านั้นที่ต้องอดทนรอคอยในงานแทบทุกด้าน ตั้งแต่ต้นแบบหุ่นขี้ผึ้งขึ้นไปเลย จนกระทั่งขบวนการอบลดอุณหภูมิที่ขณะนี้เป็นเรื่องง่ายแล้ว และเครื่องอบลดอุณหภูมิในพระแก้วหน้าตัก 3.5 นิ้วไม่ต้องใช้เตาแพง ขอให้กำลังใจครับ ถ้ามุ่งหน้าทำไป ไม่ใช่งานวิจัยครับขณะนี้ เป็นงานที่สามารถเดินหน้าได้ทันที เพียงแต่งานนี้ต้องมีจำนวนรวมกันหลาย ๆ ร้อยหรือนับพันองค์ขึ้นไปครับ เมื่อเฉลี่ยต้นทุนแล้ว ถูกเหมือนที่ทับกระดาษก็อาจเป็นได้ครับ เพียงแต่คนที่จะรวบรวมพลพรรคที่จะให้ได้แกนนำไม่มีเท่านั้นเอง ผมเองแก่แล้ว ไม่อยากเป็นแกนนำอีกครับ ให้โอกาสคนหนุ่มสาวแล้วผมเป็นที่ปรึกษาอยู่เบื้องหลังดีกว่าครับ

 

รูปพระแก้วเชียงแสนสิงห์หนึ่งที่ยังคงติดอันดับหนึ่งของโลกในความรู้สึกของผมนะครับ ขนาดหน้าตักองค์นี้ประมาณ 3 นิ้วเศษ มีการสร้างในเชิงพาณิชย์จำหน่ายในห้างดังในหลายประเทศเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว ( + - ปี 2 ปีนะครับ ) สร้างจากเนื้อแก้วคริสตัลตะกั่วมากกว่า 24% ของน้ำหนัก ราคาจำหน่ายปลีกในห้างดังสมัยนั้นองค์ละประมาณ 19,000.- บาท เฉพาะองค์พระแ้ก้วพร้อมฐานไม่มีไฟ LED ไม่มีกล่องบรรจุ หรือไม่รวมกล่องไม้ ซึ่งถ้าเห็นกล่องไม้ ฐานบุษบกแปลว่าทำเองทั้งสิ้น

ในกรณีที่สร้างพระแก้วองค์นี้จากแก้วธรรมดาโซดาไลม์ซิลิก้า เมื่อสร้างจำนวนมากต้นทุนเฉลี่ยอาจอยู่ที่ประมาณ 300.- บาท ( ไม่รวมแปลงฐานให้ไปใช้หลอด LED ) ขณะนี้ความสามัคคีคือพลังครับ ผู้ที่จะเป็นแกนนำควรต้องมีพาวเวอร์พอสมควรที่จะทำให้ผู้ร่วมสนับสนุนใจเย็น รอได้ เนื่องจากอะไรที่ดี ๆ มักต้องช้า ๆ และบางทีที่ว่า เลยกำหนดมาตั้งเดือนแล้ว มันยังอาจเลื่อนได้อีกแต่ละอย่างเป็นเดือน ๆ ครับ

 

พี่ระมิ้งค์ครับ เรื่องคนไทยดูถูกกัน หากว่าเรายังทำไม่ได้อันนั้นค่อยหนักใจครับ
แต่ถ้าเราทำได้จริงแล้ว มีทางแก้ครับ

อย่างกรณีรถติดแก๊ส ผมว่ามีหลายคนที่กังวลถึงความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ
ด้านคุณภาพและอายุการใช้งานด้วย แต่ผู้ขายสินค้าก็แก้ด้วยการรับประกัน กันครับ
และอื่นๆ อีกก็ไม่ยากครับ

ว่าแต่ถ้าที่พี่ว่ามันน่าสนใจ ผมยินดีไปช่วยพี่เลยนะ เพราะผมเชื่อมั่นว่าพี่ระมิ้งค์เก่งเทพ อิอิ

 

พระแก้วหน้าตัก3นิ้ววัดท่าซุงซึ่งได้อารธนาไว้ฝึกกสิณแสงสว่างตั้งแต่วัยรุ่น ตอนนี้เหลืองมากแล้ว

 

แล้วถ้าหากเป็นสีประมาณนี้ แล้วสีไม่เปลี่ยนเลยไม่ว่าจะถูกแดด ผ่านกาลเวลานานเท่าใดก็ตาม จะกี่ร้อยกี่พันปีก็ไม่เปลี่ยน จะดีไหม ?

 

แก้วบางสูตรเมื่อเพิ่มเคมีบางชนิดลงไป สีแก้วจะเพิ่มความเข้มอมดำ คล้ายสีคริสตัลของ Baccarat ซึ่งเป็นสีใสของแก้วคริสตัลอันดับหนึ่งของโลกได้ ผมลองทำสีเข้มเล็กน้อยครับ

 

ผมไม่ทราบวิธีทำสีฝ้า frosted glass ในรูปพระแก้ววัดท่าซุง ผมจึงขออ้างอิงถึงพระแก้วเชียงแสนสิงห์ ๑ องค์นี้ครับที่เขาทำผิวให้เป็นสีฝ้าในลักษณะที่เหลือบ ๆ ระหว่างใสกับฝ้าด้วยการกัดน้ำยากรดกัดแก้ว ซึ่งหากเลือกใช้การพ่นทรายละเอียด สีผิวจะฝ้าสนิท ( คล้ายตรงผิวหน้าของม้าหรือแผงหลังคอกับหางม้าตัวนี้ ) ซึ่งจะกลายเป็นอีกลักษณะหนึ่งซึ่งบางคนชอบแต่บางคนก็ไม่ชอบ ส่วนวิธีกัดด้วยกรดกัดแก้วนี้ อาจทำให้ผิวดูแห้งกว่านี้เล็กน้อยก็ได้ อาจดูสวยกว่าเหลือบระหว่างใสและฝ้าอย่างละครึ่งครับ

 

ไม่ดีไหมหรอกครับ...นั่นแหละสุดยอดเลยครับ ที่ปรารถนาจะให้เป็น และให้พวกพ้องน้องพี่ได้มีไว้ประจำตัว...
องค์นี้สมัยนั้นบูชามาองค์ละ 300 บาท เดาเอาเองว่าทำมาจากเรซิ่นครับ...
เรื่องพ่นทราย ผมก็ไม่ค่อยชอบสักเท่าไรครับ...

 

ถ้าสร้างเฉพาะองค์พระ แยกฐานออกมาทำจากโลหะทึบแสง ใส่หลอด LED ไว้ในฐาน เฉพาะองค์พระจะมีน้ำหนักไม่มากเลย ชนิดของหลอด LED มีหลายอย่าง เช่น LED ผสมสีได้ทุกเฉดสีรวมขาว เปิดปิดด้วยรีโมทคอนโทรล จังหวะการเปิดปิดมีตั้งแต่ค่อย ๆ สว่างขึ้นในทุกเฉดสีรวมขาว เมื่อสว่างสุดจะค่อย ๆ หรี่ลง พอหรี่สุดก็กลับสว่างขึ้นใหม่ ในจังหวะอื่น ๆ ก็มีเปิดสว่างคาเลือกระดับความสว่างได้ประมาณ 8 - 10 ระดับ อีกจังหวะที่ผมไม่ค่อยชอบคือจังหวะเหมือนแสงดิสโก้ คือ เขาเปิดติดเร็วในสีหนึ่ง ดับ แล้วไปเปิดติดในอีกสีหนึ่ง ผมเองไม่ค่อยชอบ แต่บางคนชอบ และหรือจะสร้างจังหวะอื่น ๆ ขึ้นมาก็อาจจะขอให้ช่างอีเล็คโทรนิคสร้างได้ หรือจะใช้แสงสว่างขาวธรรมดาอย่างเดียวก็จะมีราคาถูกกว่าแบบแรกครับ

เฉพาะองค์พระหน้าตัก 3 นิ้วใช้น้ำแก้วองค์ละไม่มาก ผมคิดว่าถ้าใช้แก้วโซดาไลม์ซิลิก้าน่าจะต้นทุนองค์ละไม่กี่สิบบาท ( ในความคิดของผมนะครับ ) แต่โรงงานแก้วโซดาไลม์ทั่ว ๆ ไปอาจคิดถึง 200.- บาทได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนการสร้างครับ ( ไม่รวมเรื่องฐานและ LED )

ส่วนเรื่องฐานถ้าเราไม่เน้นโลหะที่มีราคาแพงมากเกินไป ผมว่าต้นทุนก็คงฐานละไม่เกิน 200.- บาท ส่วนหลอด LED มีตั้งแต่ถูกมาก ๆ คือขาวเฉย ๆ ไปถึงแพงมาก ๆ ถ้าควบคุมได้ยิ่งมากฟังค์ชั่นยิ่งแพง แต่โดยทั่วไปถ้าเราสร้างจำนวนมากก็อาจถูกลงได้เช่นกัน

สรุปทั้งองค์พระ 200.- บาท ฐาน 200.- บาท หลอด LED ขาว 150.- บาท ผสมสี LED 1,500.- บาท ราคาทั้งชุดก็คงประมาณ 550.- บาทไปถึง 2,000.- บาท

 

ผมขอสมมุติตรงฐานสีทองว่าเป็นฐานสร้างจากโลหะทึบแสงนะครับ เพื่อใช้ฐานเป็นที่ซ่อนของหลอด LED หรือหลอดอื่น ๆ ได้อีกหลายอย่างครับ ใช้หลอดแบบราคาถูก ๆ หลอดละ 20.- บาทก็ได้ แสงสว่างทำกสิณได้เช่นกัน แต่ไม่วิจิตรพิศดารเท่า LED

...................................


พอเปิดไฟแล้วน่าจะได้แสงประมาณนี้ หรือดีกว่านี้

 

อีเบย์ขายพระพุทธรูป Lalique Grand Buddha หน้าตัก 8 นิ้วเศษแค่ 300,000.- บาท



Lalique Amber Buddha Large 12" 22lbs RARE Crystal Sculpture Signed Mint | eBay

ราคาออกจากโรงงานสี่แสนกว่าบาท 14,000.- เหรียญอเมริกันยังไม่รวมค่าอื่น ๆ เป็นธรรมดาที่จะลดลงบ้าง ขึ้นสูงบ้างในช่วง 5 - 10 ปีแรก พอผ่านช่วง 15 ถึง 20 ปีหลังราคาจะพุ่งสูงจนซื้อไม่ไหว

ท่านใดมีเิงินเหลือ ๆ รับขึ้นมาไว้ ปล่อยไปอีก 10 ปี ราคาอาจกลายเป็นล้านบาท

http://www.ebay.com/itm/Lalique-Amber-Buddha-Large-12-22lbs-Rare-Crystal-Sculpture-Signed-Mint-/130987720488

 

Lalique Art Buddha กว้าง 4 นิ้วที่ฮ่องกงองค์ละ 1 แสนบาท


ที่ฮ่องกงมีการสั่งสร้าง Lalique Art Buddha หน้าตักกว้าง 4 นิ้ว ( 110 mm. ) จาก Lalique จำหน่ายที่ฮ่องกงองค์ละ 19,800.- เหรียญฮ่องกงหรือ 1 แสนบาท

The Art of Knowing – Lalique x Art Buddha | ICAC WORLDWIDE TV

 

สำคัญอยู่ที่การทดสอบคุณภาพการอบลดอุณหภูมิของแก้วให้ถูกต้อง

ที่บริษัทแก้วชั้นนำของโลกเขาสามารถสร้างและจำหน่ายในประเทศต่าง ๆ ได้ราคาสูง ๆ โดยที่ผมเชื่อว่าทันทีที่วางจำหน่ายก็หมดแทบจะทันทีนั้น เป็นเพราะบริษัทแก้วชั้นนำของโลกใหญ่ ๆ อย่าง Lalique หรือ Baccarat เขามีการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน โดยเฉพาะการควบคุมและการทดสอบขบวนการอบลดอุณหภูมิเป็นที่เชื่อถือได้ว่า ชิ้นงานของเขาจะสามารถอยู่กัุบคนซื้อได้โดยไม่แตกร้าวหรือมีอาการอย่างหนึ่งอย่างใดอันไม่พึงประสงค์ไปนานแสนนาน

เพราะฉะนั้น การสร้างของเราในประเทศไทยก็เช่นกัน หากเราสามารถทำการควบคุมหรือทดสอบทดลองคุณภาพได้ ก็จะได้รับความเชื่อถือและมีจำนวนการสร้างที่มากมายมหาศาลได้ และผมเชื่อว่าคนไทยที่ไม่เคยได้ครอบครองพระแก้วที่ดีมาก่อนเลยตั้งแต่มีประเทศไทยมา คงถึงเวลาที่จะได้ครอบครองและบูชาพระแก้วดี ๆ ที่มีคุณภาพจริง ๆ กันเสียที ผมจะได้ช่วยลบล้างความผิดพลาดของโรงงานแก้วในประเทศไทยทั้งหมดที่เคยสร้างพระแก้ว 25 พุทธศตวรรษมาในแบบที่ว่า ไม่ค่อยสมบูรณ์แบบในแทบทุกขั้นตอน

 

คราวนี้มาดูวิธีเล่นฝ้าบนพื้นที่ใสของ Baccarat ที่จัดว่าเป็นที่สุดเรื่องใสบ้าง


มาดูกันครับว่า ถ้าความคิดเห็นของบริษัทเครื่องแก้วชั้นนำอันดับ ๑ ของโลกที่เก่งเรื่องแก้วคริสตัลใสมากที่สุดของโลก เขาจะสร้างพระแก้วของเขาออกมาอย่างไร ลองมองไปที่พระพักตรสีใสสิครับ เอ๊ะ ใสแล้วทำไมเห็นฝ้า ๆ

อ๋อ เขาปล่อยพื้นที่พระพักตรด้านหน้าให้ใส แต่ไปพ่นทรายละเอียดเบอร์พันที่มวยพระเกศาทั้งหมด เพราะแสงจะไม่ค่อยสะท้อนมาให้ปรากฏทางด้านพระพักตรด้านหน้าครับ

สรุปว่า

Baccarat เก่งเรื่องแก้วใสถึงที่สุดของโลก และสีของเขาก็สีอมดำได้ถูกใจคนที่นิยมแก้วใสที่มีสตางค์มากที่สุด เขาจึงเลือกจุดเด่นที่สุดของเขาด้วยการโชว์พื้นที่ใสให้มากที่สุด แต่ถึงกระนั้นเขาก็เลือกไม่ให้แสงมวยพระเกศาด้านหลังทะลุหรือรีเฟล็กซ์มาปรากฏที่ผิวพระพักตรด้านหน้า

Lalique เก่งเรื่องแก้วฝ้าและการเจียรนัยผิวฝ้ามากที่สุดของโลกเลือกทำทุก ๆ ส่วน แม้กระทั่งด้านหน้าของพระพักตรก็ฝ้าไปเลย แม้กระทั่งพื้นผิวที่เขาเลือกใช้วิธีเพ้นส์สีทองบนจีวรให้ ก็ยังเป็นสีเหลืองเพ้นส์บนผิวฝ้าแบบ Hallmark ซึ่งถือว่าเป็นสุดยอดฝีมือของโลก

 

..........................