ไม่มีกาย ไม่มีจิต มีแต่~คิด~ไปเอง

แล้วคิดจากอะไรล่ะ...

 

-----------คู่กรณีเก่า---------------

 

รูปสวยได้อีก อิอิ
...มีกาย มีจิต มีคิด...
ไม่เกี่ยวกะเรานิ

 

ขอบคุณที่ให้เกียรติ(ขนาดนั้น)

ไม่มีคือไม่มี............

ไม่ใช่ "มันต้องมี"

ไม่ใช่ "เดี๋ยวก็มี"

ไม่ใช่ "ถ้า..ไม่มี"

ให้มัน "ไม่มี" เสียตั่งแต่แรกเลยดีกว่า.....

 

ก้ำกึ่ง ก้ำกึ่ง
...
...
...
ดึงที่หย่อน ผ่อนที่ตึง
...
ดีม่ะ

 

ความอัตโนมัติ...........ของขันต์

เพราะ "ไม่มี" ตั่งแต่แรก ไม่มี ณ ขณะนี้ เดี๋ยวนี้ ตอนนี้ หรือวินาทีนี้ ก็ ไม่มี
แล้วที่ถามว่า "คิดจากอะไร"

เมื่อ...........

ไม่ได้ "คิดอยู่"

ไม่ได้ "กำลังคิดอยู่"

ไม่ได้ "พยายามคิดอยู่"

จะเรียกมันว่า ความอัตโนมัติของขันต์ได้มั้ยละ่

 

ไม่ใช่ไม่มี มันมีเห็นเห็น เรียกว่าไม่เอา ไม่เอาดีกว่า​

 

เบา เบา ~~



""""""""" """"""""""""""""""""

"""""""""""""""""""""""""""""""""""

 

O.K
.......
.......
.......
K.O

 

ถ้าเห็นแต่ดับ ดับ ดับ ดับ เพราะดู เกิดไม่ทัน ก็ดี

 

มันออกจะล่อแหลม และสุ่มเสี่ยง สำหรับบางท่านที่รับสารเหล่านี้
จึงเป็นการเหมาะที่ ต้องศึกษา ภาษาทางการ หรือภาษาที่กลุ่มคนส่วนใหญ่เข้าใจ เพื่อเทียบเคียงกับการปฎิบัติ
เนื่องด้วยยังมีการตีความกันอยู่
ธรรมที่แท้ ไม่เนื่องด้วยภาษา ไม่เนื่องด้วยกิริยา ไม่เนื่องด้วยอาการ
เมื่อเอ่ยถึง ก็ไม่สามารถครอบคลุมถึงธรรมนั้นได้หมดจด

 

ไม่ใช่ เอาแต่ดับ มันไม่เกิด ต่างหาก

เมื่อ ไม่เกิด (ไม่มี) จะเอาอะไรมาดับ จะเอาอะไรมาเห็นแล้วดับ

ครั้นจะเรียกว่า ดับ ก็ คงไม่ได้ จึงไม่ควรหาเหตุให้เกิด

เมื่อไม่มีเหตุ ย่อมไม่มีผล

 

มันเป็นทิฎฐิ ทิฎฐิอย่างหนึ่ง จะยอมรับใหม? ยอมรับแล้วเป็นไง? ไม่รับแล้วเป็นไง?

 

ความจริงเป็นแท้

คุณลักษณะของการไม่ปรุงแต่งในธรรมไม่ประกอบกันมี 3 ประการ 3 ประการนี้เป็่นไฉน คือ
1.ไม่ปรากฎความเกิด
2.ไม่ปรากฎความเสื่อม
3.เมื่อตั้งอยู่ไม่ปรากฎความแปรปรวน

คุณลักษณะของการไม่ปรุงแต่งในธรรมไม่ประกอบกันมี 3 ประการนี้แล

อนึ่ง ธรรมอิสระย่อมหมดจดบริสุทธิ์โดยตัวมันเอง ไม่ต้องประกอบกับสิ่งใดเพื่อให้เกิดภาวะใหม่ใดๆ ขึ้น จึงไม่มี
ความเสื่อมแม้ตั้งอยู่ก็ไม่แปรปรวน จึงเป็นสิ่งที่มีเสถียรภาพสถาพร เป็นของจริง เป็นของเชื่อถือได้ จึงชื่อว่าเป็นความจริงแท้

ธรรมบริสุทธิ์จึงปรกฎแก่วิญญูชนผู้บรรลุแล้ว ดั่งนี้

ธรรม คือความจริง
บริสุทธิ์ คือ ความหมดจด ปราศจากการเจือปน
ดั่งนั้น ธรรมบริสุทธิ์คือสภาวะอันหมดจด อิสระ เป็นเอกภาพ ตั้งมั่น ถาวร เหนือการเกิดดับแห่งธรรมชาติทั้งปวง




ที่มา : หนังสือพระไตรปิฎกฉบับพิเศษ ธรรมธาตุ ธรรมชาติแห่งสรรพสิ่ง

 

คล้าย คล้าย จะอธิบาย อสังขตธรรม นิพพาน เลยเหรอ?

 

ขออนุญาติเรียนถามนิดนึงครับ พอดีอ่านแล้วงงๆ ยิ่งอ่านยิ่งงง
เพราะคล้ายงูกินหางครับ คือว่า...

(สมการ1) เมื่อเข้าใจว่า "ไม่เกิด" เมื่อเข้าใจว่า "ไม่เสื่อม" เหตุใดยอมรับ "การตั้งอยู่ไม่แปรปรวน"

(สมการ2) เมื่อความจริง(ธรรม)ไม่เกิด จะเอาสิ่งใดขจัดสิ่งเจอปนให้บริสุทธิ์(จากสมการ1) เพื่อที่จะได้ผลคือ (สมการ3) การตั้งมั่นถาวรเหนือการเกิดดับทั้งปวง

คำถามครับ สมการ1 และ 2 เข้าใจว่าไม่เกิดไม่มี แต่ สมการที่3 ยอมรับว่ามีสมการที่1 และ 2 อยู่จริง?

ผมเข้าใจครับว่านิพพาน (Nirvana, Nibbana) ความว่างเปล่ามีอยู่จริงเกิดขึ้นจริง แต่ไม่เข้าใจความหมายที่คุณพยายามจะสื่อ

รบกวนช่วยอธิบายจากที่คุณอ้างถึง ตามที่คุณเข้าใจด้วยครับ จะเป็นบุญอย่างสูง ขอบคุณครับ
(อ้างอิงจาก:

 

............................................................


...คิดถึง.....
...เหมือนกัน...


ม่ะมีเวลาส่ง pm ให้น่ะ
โพสต์...ตรงนี้แหละ




เนี่ย
คู่กรณี
เก๋ากึ๊ก
กว่าใคร
ในโลกใบนี้


555555555555555555555
555555555555555555555






[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1526613/[/MUSIC]

 

วิชาสุดท้าย
ที่ทำให้ผมได้ตระหนักชัด
และ
พบสัจจะธรรม
ก็คือ

ผมได้ลาออก
จากศาสนา


ในหัวผม
ไม่มีศาสนา
ไม่มีพระพุทธเจ้า
ไม่มีมรรค
ไม่มีผล
ไม่มีเกิด ไม่มีดับ
ไม่มีการเปลี่ยนแปลง



เป็นเนื้อหาเดียวกัน
กับธรรมชาติ
อยู่อย่างนั้น


สบายใจ
ที่กลายเป็นคน
ไร้ศาสนา
........................
........................
........................
........................
........................



ครูบาเรียวอิชิ.

 

เราไม่มี ไม่คิด ไม่เอา แต่....อย่างอื่นที่ไม่ใช่เรา มัน....ก็มีของมันอยู่...นะ

มีอย่างอื่นที่มันไม่ใช่เรา เราบังคับบัญชามันตลอดเวลาไม่ได้ (บังคับได้ชั่วครั้งชั่วคราว กลั้นใจได้ชั่วคราว))

แบบว่า มันคือสมบัติชั่วคราวที่ธรรมชาติเขาให้ยืมมาใช้ทำให้เรามีชีวิตชั่วคราว

แล้วเราไปยึดว่ามันคือเรา เราก็เลยมีตัวตนมารู้มาเห็นชั่วคราว (มั้ง)

มันเป็นของมันเอง เช่น หายใจ ย่อยอาหาร ไม่สบาย เสื่อม เจริญ อารมณ์ ความรู้สึก

อาจเป็นจิตใต้สำนึกมันคิดของมันเอง ไปเรื่อย คิดดีมั่ง คิดชั่วมั่ง คิดโน่น คิดนี่ ไม่หยุดหย่อน

เด๋วก็หิว เด๋วก็อิ่ม เด๋วก็อยาก เด๋วก็ไม่อยาก เด๋วสนุก เด๋วเหงา

ตราบใดที่ยังหายใจ มันก็ยังมีอยู่ อะ มั้ง แระมันก็คงไม่เกี่ยวกับเรา ว่าเราจะมี หรือไม่มี

มันก็มีของมันเอง ไม่ได้เกี่ยวกับเรามีมันมี เราไม่มีมันก็ไม่มี

บางที่เราไม่มีแต่มันมีเป็นประจำ เราก็อย่าไปมีตามมัน ก็ปล่อยวางมันให้ทันถ้ามันเกิดมีขึ้นมา

เราก็จะได้ไม่มี(ว่างๆ)ได้นานๆ ส่วนมันจะก็มี(ไม่ว่าง)ก็เรื่องของมันแร้ว

มันมี(ไม่ว่าง)ก็เป็นเรื่องของธรรมชาติมันจะมี(จะไม่ว่าง) อะนะ

มีเพลงมาฝาก เธอว์ อีกแระ ไม่รู้จะชอบไหม...นะ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=MEVQALSnGEM&feature=related"]YouTube - ‪Europe - Open your heart‬‏[/ame]

ปล. ถ้าคุณ Mind ไม่ชอบก็บอกได้นะ จะได้หยุด โพสท์ เพลงและข้อความ อิอิ