ไม้หอม

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 2 พฤศจิกายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173
    พระอาจารย์ กล่าวว่า "คงจะมีการพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ประมาณต้นปีหน้า เพราะการจะสร้างพระเมรุมาศได้ต้องใช้ความละเอียดอ่อนมาก กินเวลามาก โดยเฉพาะคนออกแบบจะกลุ้มใจมาก ออกแบบหลายครั้งชักจะหมดมุก ไปไม่เป็น

    คุณอาวุธ เงินชูกลิ่น ท่านบอกว่าพวกรูปยักษ์ รูปกินรี รูปเทวดา ที่ประดับตามมุมเมรุ ตามหัวเสา ของเก่ายังพอซ่อมมาใช้งานได้ ก็แปลว่างานน้อยลงนิดหนึ่ง อย่างสมัยพระศพของ สมเด็จย่า กระดาษที่ใช้ประดับเมรุหลายอย่างก็สั่งซื้อมาจากต่างประเทศโดยเฉพาะ

    ที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม้จันทน์ ที่ทำโกศ หาได้ยากเพราะบ้านเราไม้จันทน์เป็นไม้หวงห้าม ไม่ทราบเหมือนกันว่าบ้านเรามีการแบ่งไม้จันทน์หรือเปล่าว่ามีกี่ชนิด ?

    ไม้หอมของไทยก็จะมี ไม้จันทน์ ไม้กฤษณา ไม้เทพทาโร ถ้าต้น กฤษณา เชื้อราไม่ลง ก็จะไม่เกิดน้ำมันหอม ถ้าต้นได้รับบาดเจ็บก็จะเหมือนกับส่งน้ำมันไปรักษาตัวเอง คนรุ่นใหม่ที่ปลูกต้นกฤษณาก็เลยใช้วิธีฟันต้นให้เป็นแผล หรือไม่ก็ตอกตะปู ถึงเวลาเชื้อราลงก็จะได้เนื้อไม้ที่มีกลิ่นหอม แต่ว่าดมตอนนั้นก็ไม่หอม ต้องเอาไปผ่านไฟ พอโดนความร้อนเข้าถึงจะคลายกลิ่นหอมออกมา"

    "ส่วนไม้เทพทาโรนั้นกลิ่นหอมเหมือนกับตะไคร้ ใครเคยได้กลิ่นตะไคร้หอมบ้าง ? บางคนเขาเรียกตะไคร้ต้นเลย ไม้เทพทาโรจะมีทางปักษ์ใต้เยอะ แต่ที่ไปประเทศพม่ามา เขามีไม้หอมมากกว่าเรา เฉพาะไม้จันทน์อย่างเดียว พม่าเขามีถึง ๓ ชนิด จะมี ไม้จันทน์ขาว ไม้จันทน์แดง และ ไม้จันทน์หอม

    จันทน์ขาว เขาเรียก นัตตะพิว จันทน์แดง เรียก นัตตะนี จันทน์หอม เรียก ซันดากู ไปที่ เมืองสุกุ๊ เขาบอกว่าค้นพบร่องรอยของ คันธกุฎีของพระพุทธเจ้า ที่มีอุบาสก ๒ พี่น้อง คือ มหาปาล และ จุลปาล สร้างถวายพระพุทธเจ้าด้วยไม้จันทน์

    เรื่องคันธกุฎีเองอาตมาสงสัยมานานมากแล้ว ถ้าโยมเจอไม้จันทน์แท้จะรู้ว่ากลิ่นฉุนขนาดไหน ไม่ใช่หอมเฉยๆ นะ แต่ฉุนเลย แล้วเอามาสร้างกุฏิจะไปนอนไหวหรือ ? ปรากฏว่าพอไปพม่าที่เมืองสุกุ๊ เขากำลังสร้างคันธกุฎีถวายพระพุทธเจ้า คือเขาสร้างครอบหลังเก่าที่ค้นเจอ

    เขามีประวัติศาสตร์ว่าครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จไปที่พม่า แล้วเศรษฐี ๒ พี่น้อง คือมหาปาลกับจุลปาลสร้างคันธกุฎีถวายพระพุทธเจ้า คราวนี้ด้วยความที่ว่าสร้างด้วยไม้นานๆ ไปก็ผุพัง พอเขาค้นซากเจอ พม่าก็เลยเริ่มสร้างใหม่ โดยใช้ไม้จันทน์หอมคือไม้ซันดากู

    พออาตมาไปถึงเขาก็เอาไม้จันทน์หอมมาให้ดู ลองดมแล้วถึงรู้ว่าไม้อย่างนี้แหละที่สร้างคันธกุฎีได้จริงๆ เพราะว่าเป็นกลิ่นหอมเย็นๆ หอมอ่อนๆ หอมคล้ายๆ ธูปหอมบางประเภท ไม่ได้หอมฉุนแบบจันทน์หอมที่เรารู้จัก

    ถ้าน้ำมันจันทน์ที่เรารู้จักบางทีหยดเดียวกลิ่นตลบไปทั้งห้องเลย แล้วก็ฉุนมาก ถ้าไม้จันทน์หอมของพม่านี้กลิ่นหอมอ่อนๆ แบบหอมชื่นใจ ถ้าอย่างนั้นเอามาทำเป็นกุฏิอยู่ได้"


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤศจิกายน 2011
  2. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173
    .

    "ส่วนไม้จันทน์แดงนั้น บางทีคนจีนเรียก ไม้จันทน์ม่วง เพราะไม้จันทน์ประเภทนี้มีคุณภาพประหลาดอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือยิ่งใช้จะยิ่งสีเข้มขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรกๆ ที่เห็นสีแดงถนัดเลย พอใช้ไปก็จะดำเข้มขึ้นๆ จนเหมือนกับสีม่วงดำ คนจีนเขาจึงเรียกว่าไม้จันทน์ม่วง

    แล้วก็ยังมีไม้อื่นอีก อย่าง ทานาคา ไม้ทานาคานี้เป็นไม้หอมที่เขานำมาทำเครื่องสำอาง ทาหน้าทาตัวทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชาย เขาใช้กันทั้งประเทศ ถึงเวลาอาตมาเดินไปนึกว่าร้านขายฟืนเพราะเขาวางขายเป็นท่อนๆ เรียงเป็นตับ แล้วก็มีจานสำหรับฝนลักษณะคล้ายๆ โม่หิน เอาไว้ฝนทาหน้า ดูท่าจะได้ผลดี เพราะที่ไปพม่ามา ๕-๖ ปีไม่เคยเจอคนพม่าเป็นสิวเลย ไม่ทราบเหมือนกันว่ามีคุณภาพป้องกันสิวได้หรือเปล่า ?

    ยังมี ไม้ตองกานกะโด ไม่แน่ใจว่าประเทศไทยเรามีหรือไม่ ? ถ้าตามชื่อมันเป็นไม้ภูเขาชนิดหนึ่ง เป็นไม้หอมเหมือนกัน แล้วก็มี กาละแม็ด กาละแม็ดนี้น่าจะเป็นกฤษณาของบ้านเรา"

    "อาตมาไปรู้จัก คุณละเมี้ยตอ่อง เป็นเจ้าของร้านขายของที่ระลึกที่สร้างจากไม้จันทน์ คุณละเมี้ยตอ่องบอกว่า เขาจะพยายามสั่งไม้จันทน์จากอินเดีย เพราะว่าไม้จันทน์อินเดียคุณภาพดีกว่าประเทศพม่า และไม้จันทน์พม่าคุณภาพดีกว่าไทย

    ถามคุณละเมี้ยตอ่องว่า ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น ? เพราะเขามีประสบการณ์คลุกคลีกับไม้จันทน์มา ๓๐-๔๐ ปี คุณละเมี้ยตอ่องบอกว่า ไม้จันทน์เกิดมาเพื่อเป็นพุทธบูชา ยิ่งใกล้พุทธภูมิมากเท่าไร กลิ่นหอมจะมากเท่านั้น เพราะฉะนั้น..ไม้จันทน์อินเดียจะหอมที่สุด ถัดจากอินเดียมาก็เป็นพม่าจะหอมน้อยลงมา ถึงเมืองไทยก็หอมน้อยลงไปอีก ก็แปลว่ายิ่งไกลจากอินเดียก็ยิ่งหอมน้อยลง

    สมัยโบราณตอนอาตมายังเด็กอยู่ เวลาเขาจะออกไปหาไม้จันทน์ พวกพรานหรือผู้ใหญ่ที่เขาเดินป่าเก่งๆ รู้จักต้นไม้ เขาจะ จุดธูปที่มีส่วนผสมของไม้จันทน์ ควันธูปลอยไปทางไหนก็เดินไปทางนั้น ไม่ทราบว่าดึงดูดกันได้อย่างไร ? แต่ก็ได้ผล หาไม้จันทน์เจอทุกครั้ง"

    พอไปจนกระทั่งไม่แน่ใจแล้วว่าไปทิศไหนต่อก็จุดธูปใหม่ ควันธูปลอยไปทางไหนก็เดินต่อไป พาไปหาต้นจันทน์ได้อย่างไรก็ไม่รู้ ฟังดูเหมือนไสยศาสตร์ แต่ว่าถ้าทางวิทยาศาสตร์นี้บอกว่าโมเลกุลของไม้ดึงดูดกัน


    สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๔



    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=2894&page=5



    .
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...