ไวรัสตับอักเสบซี โรคที่หนุ่มสาวพึงระวัง

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 4 มิถุนายน 2009.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    หลายคนคงคุ้นหูกับโรคไวรัสตับอักเสบเอและบี แต่ความเป็นจริงแล้วยังมีไวรัสตับอักเสบอีกหนึ่งชนิดที่มีความรุนแรงไม่แพ้กัน นั่นก็คือ "โรคไวรัสตับอักเสบซี" ซึ่งโรคไวรัสตับอักเสบซี ไม่ใช่โรคใหม่ในทางการแพทย์ เพราะค้นพบมากว่า 12 ปี แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าที่ควรแม้อาการที่แสดงและความรุนแรงของโรคไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย
    รศ.พญ.วัฒนา สุขีไพศาลเจริญ หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยถึงโรคไวรัสตับอักเสบซีว่า เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดตับอักเสบได้อีกชนิดหนึ่ง สามารถทำให้เกิดตับอักเสบทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง ตลอดจนตับแข็งและมะเร็งตับ ความรุนแรงของเชื้อไวรัสชนิดนี้ คือ เป็นตับอักเสบเรื้อรังมากกว่าชนิดอื่น และยังไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกันเหมือนไวรัสตับอักเสบบี "เนื่องจากผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซีแบบเฉียบพลัน มักไม่ค่อยมีอาการ จึงไม่มีการรักษาโรคใดๆ เพราะผู้ป่วยยังเป็นปกติเหมือนเดิม
    แต่ถึงแม้ผู้ป่วยที่มีอาการแสดงของการอักเสบเฉียบพลัน ปัจจุบันก็ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ที่ยอมรับว่าได้ผล ดังนั้นจึงเป็นการดูแลรักษาตามอาการเท่านั้น เช่น ถ้าอ่อนเพลียมาก แนะนำให้พักผ่อน ไม่นอนดึก รับประทานอาหารตามปกติ ไม่มีความจำเป็นต้องดื่มน้ำหวาน ยกเว้นว่าถ้ามีอาการคลื่นไส้อาเจียน ในระยะเริ่มแรกก็ให้หลักเลี่ยงอาหารมัน รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น น้ำหวาน และเมื่ออาการอักเสบดีขึ้น ก็กลับมารับประทานอาหารตามปกติ แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี ส่วนใหญ่จะกลายเป็นโรคเรื้อรัง และมีการดำเนินของโรคไปเรื่อยๆ จนถึงสภาพตับเสื่อม และตับวายในที่สุด ดังนั้นในผู้ป่วยที่ตับอักเสบเรื้อรัง จึงสมควรได้รับการรักษา"
    การติดต่อของโรคไวรัสตับอักเสบซี สามารถติดต่อได้ทางเลือดและผลิตภัณฑ์ของเลือดทุกชนิด อาทิ การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน การฉีดยากับหมอเถื่อน การสัก การเจาะหู โดยใช้อุปกรณ์ที่ไม่มีมาตรฐาน การฟอกไตในผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง การติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (ในลักษณะสำส่อนทางเพศ) การติดต่อจากแม่ไปสู่ลูก หรือการติดต่อในครอบครัว เป็นต้น
    แต่ใช่ว่าจะต้องตื่นตระหนกหากพบบุคคลในครอบครัวเป็นโรคไวรัสตับอักเสบซี คุณหมอบอกว่า "การติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในคู่สามี-ภรรยาที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นโรคนี้ จะไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เพราะโอกาสติดเชื้อไปสู่อีกคนหนึ่งค้อนข้างน้อย ไม่จำเป็นต้องป้องกันด้วยถุงยางอนามัย แต่ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงที่ทำให้เกิดบาดแผล และหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ขณะที่มีประจำเดือนเท่านั้น"
    สำหรับครอบครัวใดที่มีบุตรหลานหรือญาติที่ป่วยเป็นโรคไวรัสตับอักเสบซี ก็มีคำแนะนำสำหรับวิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้นดังนี้ 1.หยุดรับบริจาคเลือด 2.แยกอุปกรณ์มีคม เช่น มีดโกน กรรไกรตัดเล็บ แปรงสีฟัน ไม่ใช้ปนกับของคนอื่น 3.งดการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน 4.การสัก เจาะ ควรใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน และห้ามนำไปใช้กับคนอื่น 5.งดการดื่มแอลกอฮอลล์ เพราะการดื่มสุราเพียง 20-30 กรัมต่อวัน (เบียร์ 1 กระป๋อง หรือไวน์ 1 แก้ว) จะเพิ่มความรุนแรงของตับมากขึ้น และถ้าดื่มมากกว่า 50 กรัมต่อวัน จะย่นระยะเวลาให้เกิดตับแข็งเร็วขึ้น 6.หลีกเลี่ยงสารพิษอื่นๆ เช่น อาหารเสริม สมุนไพร ที่ไม่ทราบส่วนประกอบหรือผลข้างเคียง เพราะอาจทำให้ตับอักเสบขึ้นหรือเกิดตับแข็งเร็วขึ้น 7.หลีกเลี่ยงพฤติกรรมสำส่อนทางเพศ หรือพฤติกรรมทางเพศที่รุนแรง 8.ควรมาพบแพทย์ทุก 3-6 เดือน แม้จะไม่มีอาการอะไร หรือมาตามนัดของแพทย์ทุกครั้ง เพื่อตรวจว่ามีตับอักเสบหรือไม่ หรือเริ่มเป็นตับแข็งหรือยัง หรือเพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งในระยะเริ่มแรก
    นอกจากนี้ คุณหมอยังเตือนหนุ่มสาวที่รักสวยรักงามทั้งหลายว่า "สำหรับวัยรุ่นหรือวัยหนุ่มสาวที่ต้องการความสวยงามและนิยมการสัก การเจาะตามอวัยวะต่างๆ ควรจะต้องระมัดระวังเรื่องมาตรฐานของอุปกรณ์ที่ต้องได้คุณภาพ และสถานประกอบการที่มีมาตรฐาน มีความรับผิดชอบในการทำงาน ไม่นำอุปกรณ์ที่ใช้แล้วมาใช้กับคนอื่นอีก เพราะโรคนี้เป็นแล้วเป็นเลยและส่งผลกระทบถึงชีวิตและความเป็นอยู่ อีกอย่างคือวัคซีนสำหรับการป้องกันยังไม่สามารถค้นพบได้ ดังนั้นการป้องกันการติดเชื้อที่ดีที่สุด คือ พยายามหลีกเลี่ยงการรับเลือด หรือผลิตภัณฑ์ของเลือดโดยไม่จำเป็นจะดีที่สุด".
    ไวรัสตับอักเสบซี โรคที่หนุ่มสาวพึงระวัง | ไทยโพสต์
     
  2. sai rung

    sai rung สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +1
    รุนแรงมากค่ะ เพิ่งจะเสีย หลวงอา ไปเพราะโรคนี้เหมือนกัน
     

แชร์หน้านี้

Loading...