ไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่น "ของ...ขึ้นจริงหรือแกล้งขึ้น"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 7 มีนาคม 2007.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่น "ของ...ขึ้นจริงหรือแกล้งขึ้น"</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG][/IMG] [​IMG] พิธีบูชาครูบูรพาจารย์ หรือ พิธีไหว้ครูสักยันต์ ของ พระอุดมประชานาถ หรือที่รู้จักกันดีใมนาม หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม


    เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีถึงบุญคุณของบูรพาจารย์ ทั้งนี้จะทำกันทุกปี ในวันเสาร์ของเดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนมีนาคม โดยในปี ๒๕๕๐ นี้จัดให้มีขึ้นใน วันเสาร์ที่ ๓ มีนาคม เวลา ๐๙.๓๙ น.
    อาการที่เรียกว่า "ของขึ้น" มักเกิดแก่คนที่มีความเลื่อมใส จิตใจตั้งมั่นยึดมั่นในครูบาอาจารย์ มีความอ่อนไหวง่าย เมื่อหลับตาระลึกถึงครูบาอาจารย์พระองค์ท่าน พวกที่สักอักขระที่เป็นรูปลักษณ์ต่างๆ
    เช่น สักรูปเสือเผ่น ก็กางเล็บกระโดดโจนทะยานวิ่งเข้าหาหลวงพ่อหน้าปะรำพิธี ขณะที่หลวงพ่อเริ่มบวงสรวง จุดธูป เทียน บูชาครู บูรพาจารย์ ผู้ที่สักเป็นรูปหนุมานก็กระโดดโลดเต้นตีลังกาเข้าหา ที่สักหมูป่าก็แผดเสียงร้องก้อง วิ่งเข้าหาหลวงพ่อ บนพื้นดินก็มีคนคลานเลื้อยเหมือนปลาไหล
    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าแปลกใจ คือ ภายหลังจบพิธี ไม่พบร่องรอยบาดแผล ถลอก หรือเลือดตกยางออกให้เห็นเลย บางคนของขึ้นก็ทำท่าทางยกมือเหมือนถือไม้เท้าเดินกระย่องกระแย่ง ลักษณะเหมือนฤาษี
    ตอนนี้โกลาหลไปหมด คนที่นั่งในวงสายสิญจน์ต่างก็แตกตื่นลุกหนีคนที่ของขึ้น ต้องคอยหลบหลีกพวกที่ของขึ้นวิ่งเข้าหาปะรำพิธีกันอลหม่าน ภายในสนามรอบสายสิญจน์ คนที่ของขึ้นต่างก็วิ่งเข้าหาหน้าปะรำพิธี
    แต่ก็มีพวกลูกศิษย์ที่จิตใจแข็ง ไม่เกิดการของขึ้น หลายคนช่วยกันจับคนที่ของขึ้น ที่มีกำลังวังชามากมาย ที่ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหน
    วิธีแก้ของขึ้นก็โดยการใช้ ๒ มือตบที่หูเบาๆ หรือใช้มือลูบหน้าตรงจมูก หรือยกขาให้สูงกว่าตัว การไม่ให้ของขึ้นจะเตือนสติให้หายใจลึกๆ ให้ลืมตาไม่ให้หลับตา
    พระอภิญญา หรือ หลวงพี่ญา หนึ่งในจำนวนพระลูกศิษย์หลวงพ่อเปิ่น ซึ่งยังคงทำหน้าที่สักยันต์ให้ผู้ศรัทธา บอกว่า แม้หลวงพ่อเปิ่นจะมรณภาพไปแล้ว แต่พระที่เป็นลูกศิษย์ยังคงสืบทอดการสักยันต์ตามตำราของหลวงพ่อเปิ่นไว้อย่างสมบูรณ์
    หลังจากหลวงพ่อเปิ่นมรณภาพ ผู้มาสักยันต์ลดลงในช่วง ๓-๔ เดือนแรกเท่านั้น หลังจากนั้นก็เท่าเดิม และทุกวันนี้ก็เพิ่มขึ้น มากกว่าช่วงที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำไป
    รวมทั้งในวันไหว้ครู ลูกศิษย์จะมาร่วมงานเพิ่มมากขึ้น โดยมีพระที่ยังสักยันต์ให้เป็นหลักๆ คือ อาจารย์พันธ์ อาจารย์ต้อย อาจารย์ติ่ง อาจารย์แป๋ว และอาจารย์นัน แต่ละรูปมีลูกศิษย์มาสักยันต์พอๆ กัน
    จำนวนลูกศิษย์ที่มาสักยันต์เพิ่มขึ้น มีเหตุปัจจัยหลายอย่าง อาทิ คนในสังคมปัจจุบันขาดกำลังใจ และเชื่อว่า อักขระเลขยันต์ของหลวงพ่อเปิ่นสามารถช่วยบรรเทาทุกข์ได้ รวมทั้งการเสนอข่าวของสื่อมวลชน คำเล่าขานของคนรุ่นก่อนๆ และการคมนาคมที่สะดวกขึ้น บางวันมีคนมาตั้งแต่ ๖ โมงเช้า สักยันต์ไปจนถึงมืดค่ำก็มี ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ อาจจะเป็นร้อยคน
    ขณะเดียวกัน วัดบางพระเองก็ยังคงจัดพิธีไหว้ครูสักยันต์มาทุกปี มีศิษยานุศิษย์จากทั่วสารทิศ มาร่วมงานนับหมื่นคนและเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี
    สำหรับอาการของขึ้น ในวันไหว้ครูนั้น หลวงพี่ญา อธิบายว่า เกิดจากจิตและศรัทธาของผู้สักยันต์ มีทั้งขึ้นจริงและขึ้นตามเพื่อน รายที่ขึ้นตามเพื่อน เพราะถ้าไม่ขึ้นอาจจะคิดไปเองว่าไม่ขลัง จึงต้องทำแกล้งบ้าง รายที่แกล้งขึ้นจะสังเกตได้ง่ายๆ คือ ขึ้นบ่อยครั้งมากเกินไป
    อาการของขึ้นมากที่สุด น่าจะเป็นเสือเผ่น รองลงมาเป็นฤาษี (พ่อแก่) หนุมาน ลิงลม หมูทองแดง และปลาไหล ที่เป็นเช่นนี้ เพราะมีคนสักยันต์รูปเสือเผ่นมากกว่าสัตว์อื่นๆ
    "พวกที่สักอักขระที่เป็นรูปลักษณ์ต่างๆ เช่น สักรูปเสือเผ่น ก็กางเล็บกระโดดโจนทะยานวิ่งเข้าหาหลวงพ่อหน้าปะรำพิธี ขณะที่หลวงพ่อเริ่มทำการบวงสรวง จุดธูป เทียน บูชาครูบูรพาจารย์ ผู้ที่สักเป็นรูปหนุมานก็กระโดดโลดเต้นตีลังกาเข้าหา ที่สักหมูป่าก็แผดเสียงร้องก้อง วิ่งเข้าหาหลวงพ่อ บนพื้นดืนก็มีคนคลานเลื้อยเหมือนปลาไหล" หลวงพี่ญา กล่าว พร้อมกับบอกด้วยว่า
    ทุกวันนี้วัดกำหนดกฎเกณฑ์สำหรับผู้สักยันต์ โดยมีเงื่อนไขหลักกว้างๆ คือ จะไม่สักยันต์ให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี เด็ดขาด นอกจากว่าพ่อหรือผู้ปกครองที่เคยมาสักยันต์พามาเท่านั้น
    อักขระเลขยันต์ที่ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ คือ ยันต์ครู ยันต์แปดทิศ ยันต์งบน้ำอ้อย ส่วนขันบูชาครูนั้น มีดอกไม้ธูปเทียน และปัจจัยไม่เกิน ๒๕ บาท เท่ากับในสมัยที่หลวงพ่อเปิ่นยังมีชีวิตอยู่
    ส่วนความขลังของอักขระเลขยันต์นั้น หลวงพี่ญาบอกว่า เกิดจาก ๒ ส่วนประกอบกัน คือ ส่วนแรก ได้แก่ อักขระเลขยันต์ที่สักซึ่งล้วนมาจากพระคาถาทั้งสิ้น เช่น ยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า (หมวกเหล็ก) ยันต์องค์พระพุทธ ยันต์เกราะเพชร ยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ยันต์พระเจ้าสิบหกพระองค์ ที่สำคัญยิ่งกว่า คือ ข้อห้ามและข้อปฏิบัติของผู้สักยันต์ ที่ต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
    "เพื่อให้ยันต์ไม่เสื่อมคลายความขลัง ต้องยึดปฏิบัติตามศีล ๕ อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะข้อที่ว่า ห้ามผิดลูกเมียเขา ห้ามด่าบุพาการีทั้งของตนเองและผู้อื่น ถ้าไม่ทำตามข้อห้าม ลายยันต์ก็ไร้ความหมาย ผู้สักยันต์จะต้องยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ด้วยบุญญาธิการของบูรพาจารย์ คณาจารย์ที่ถ่ายทอดสู่ตัวของคน สักยันต์ไม่ให้เสื่อมคลายความขลัง ต้องถือปฏิบัติในความดี ข้อห้ามต่างๆ ที่มีมาในสมัยโบราณ อย่างที่เรียกว่า คนดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ผีคุ้ม ปกป้องกันภัย เป็นข้อเตือนสติให้ตระหนักถึงผลกรรมดี กรรมชั่ว ความเสื่อมอีกประการหนึ่ง ผู้ได้รับการสักปฏิบัติตนไม่เหมาะสม เช่น โอ้อวด ท้าทาย ประลองต่อสู้กับผู้อื่น ทำตนเป็นมิจฉาชีพ ก่ออาชญากรรม" หลวงพี่ญา กล่าวทิ้งท้าย0 เรื่อง ไตรเทพ ไกรงู / ภาพ ประเสริฐ เทพศรี 0

    -->[​IMG]
    พิธีบูชาครูบูรพาจารย์ หรือ พิธีไหว้ครูสักยันต์ ของ พระอุดมประชานาถ หรือที่รู้จักกันดีใมนาม หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
    เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีถึงบุญคุณของบูรพาจารย์ ทั้งนี้จะทำกันทุกปี ในวันเสาร์ของเดือนกุมภาพันธ์ หรือเดือนมีนาคม โดยในปี ๒๕๕๐ นี้จัดให้มีขึ้นใน วันเสาร์ที่ ๓ มีนาคม เวลา ๐๙.๓๙ น.
    อาการที่เรียกว่า "ของขึ้น" มักเกิดแก่คนที่มีความเลื่อมใส จิตใจตั้งมั่นยึดมั่นในครูบาอาจารย์ มีความอ่อนไหวง่าย เมื่อหลับตาระลึกถึงครูบาอาจารย์พระองค์ท่าน พวกที่สักอักขระที่เป็นรูปลักษณ์ต่างๆ

    [​IMG]
    เช่น สักรูปเสือเผ่น ก็กางเล็บกระโดดโจนทะยานวิ่งเข้าหาหลวงพ่อหน้าปะรำพิธี ขณะที่หลวงพ่อเริ่มบวงสรวง จุดธูป เทียน บูชาครู บูรพาจารย์ ผู้ที่สักเป็นรูปหนุมานก็กระโดดโลดเต้นตีลังกาเข้าหา ที่สักหมูป่าก็แผดเสียงร้องก้อง วิ่งเข้าหาหลวงพ่อ บนพื้นดินก็มีคนคลานเลื้อยเหมือนปลาไหล
    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าแปลกใจ คือ ภายหลังจบพิธี ไม่พบร่องรอยบาดแผล ถลอก หรือเลือดตกยางออกให้เห็นเลย บางคนของขึ้นก็ทำท่าทางยกมือเหมือนถือไม้เท้าเดินกระย่องกระแย่ง ลักษณะเหมือนฤาษี
    ตอนนี้โกลาหลไปหมด คนที่นั่งในวงสายสิญจน์ต่างก็แตกตื่นลุกหนีคนที่ของขึ้น ต้องคอยหลบหลีกพวกที่ของขึ้นวิ่งเข้าหาปะรำพิธีกันอลหม่าน ภายในสนามรอบสายสิญจน์ คนที่ของขึ้นต่างก็วิ่งเข้าหาหน้าปะรำพิธี
    แต่ก็มีพวกลูกศิษย์ที่จิตใจแข็ง ไม่เกิดการของขึ้น หลายคนช่วยกันจับคนที่ของขึ้น ที่มีกำลังวังชามากมาย ที่ไม่รู้ว่าไปเอามาจากไหน
    วิธีแก้ของขึ้นก็โดยการใช้ ๒ มือตบที่หูเบาๆ หรือใช้มือลูบหน้าตรงจมูก หรือยกขาให้สูงกว่าตัว การไม่ให้ของขึ้นจะเตือนสติให้หายใจลึกๆ ให้ลืมตาไม่ให้หลับตา
    พระอภิญญา หรือ หลวงพี่ญา หนึ่งในจำนวนพระลูกศิษย์หลวงพ่อเปิ่น ซึ่งยังคงทำหน้าที่สักยันต์ให้ผู้ศรัทธา บอกว่า แม้หลวงพ่อเปิ่นจะมรณภาพไปแล้ว แต่พระที่เป็นลูกศิษย์ยังคงสืบทอดการสักยันต์ตามตำราของหลวงพ่อเปิ่นไว้อย่างสมบูรณ์
    หลังจากหลวงพ่อเปิ่นมรณภาพ ผู้มาสักยันต์ลดลงในช่วง ๓-๔ เดือนแรกเท่านั้น หลังจากนั้นก็เท่าเดิม และทุกวันนี้ก็เพิ่มขึ้น มากกว่าช่วงที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ด้วยซ้ำไป
    รวมทั้งในวันไหว้ครู ลูกศิษย์จะมาร่วมงานเพิ่มมากขึ้น โดยมีพระที่ยังสักยันต์ให้เป็นหลักๆ คือ อาจารย์พันธ์ อาจารย์ต้อย อาจารย์ติ่ง อาจารย์แป๋ว และอาจารย์นัน แต่ละรูปมีลูกศิษย์มาสักยันต์พอๆ กัน
    จำนวนลูกศิษย์ที่มาสักยันต์เพิ่มขึ้น มีเหตุปัจจัยหลายอย่าง อาทิ คนในสังคมปัจจุบันขาดกำลังใจ และเชื่อว่า อักขระเลขยันต์ของหลวงพ่อเปิ่นสามารถช่วยบรรเทาทุกข์ได้ รวมทั้งการเสนอข่าวของสื่อมวลชน คำเล่าขานของคนรุ่นก่อนๆ และการคมนาคมที่สะดวกขึ้น บางวันมีคนมาตั้งแต่ ๖ โมงเช้า สักยันต์ไปจนถึงมืดค่ำก็มี ถ้าเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ อาจจะเป็นร้อยคน
    ขณะเดียวกัน วัดบางพระเองก็ยังคงจัดพิธีไหว้ครูสักยันต์มาทุกปี มีศิษยานุศิษย์จากทั่วสารทิศ มาร่วมงานนับหมื่นคนและเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี
    สำหรับอาการของขึ้น ในวันไหว้ครูนั้น หลวงพี่ญา อธิบายว่า เกิดจากจิตและศรัทธาของผู้สักยันต์ มีทั้งขึ้นจริงและขึ้นตามเพื่อน รายที่ขึ้นตามเพื่อน เพราะถ้าไม่ขึ้นอาจจะคิดไปเองว่าไม่ขลัง จึงต้องทำแกล้งบ้าง รายที่แกล้งขึ้นจะสังเกตได้ง่ายๆ คือ ขึ้นบ่อยครั้งมากเกินไป
    อาการของขึ้นมากที่สุด น่าจะเป็นเสือเผ่น รองลงมาเป็นฤาษี (พ่อแก่) หนุมาน ลิงลม หมูทองแดง และปลาไหล ที่เป็นเช่นนี้ เพราะมีคนสักยันต์รูปเสือเผ่นมากกว่าสัตว์อื่นๆ
    "พวกที่สักอักขระที่เป็นรูปลักษณ์ต่างๆ เช่น สักรูปเสือเผ่น ก็กางเล็บกระโดดโจนทะยานวิ่งเข้าหาหลวงพ่อหน้าปะรำพิธี ขณะที่หลวงพ่อเริ่มทำการบวงสรวง จุดธูป เทียน บูชาครูบูรพาจารย์ ผู้ที่สักเป็นรูปหนุมานก็กระโดดโลดเต้นตีลังกาเข้าหา ที่สักหมูป่าก็แผดเสียงร้องก้อง วิ่งเข้าหาหลวงพ่อ บนพื้นดืนก็มีคนคลานเลื้อยเหมือนปลาไหล" หลวงพี่ญา กล่าว พร้อมกับบอกด้วยว่า
    ทุกวันนี้วัดกำหนดกฎเกณฑ์สำหรับผู้สักยันต์ โดยมีเงื่อนไขหลักกว้างๆ คือ จะไม่สักยันต์ให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า ๑๘ ปี เด็ดขาด นอกจากว่าพ่อหรือผู้ปกครองที่เคยมาสักยันต์พามาเท่านั้น
    อักขระเลขยันต์ที่ได้รับความนิยมในอันดับต้นๆ คือ ยันต์ครู ยันต์แปดทิศ ยันต์งบน้ำอ้อย ส่วนขันบูชาครูนั้น มีดอกไม้ธูปเทียน และปัจจัยไม่เกิน ๒๕ บาท เท่ากับในสมัยที่หลวงพ่อเปิ่นยังมีชีวิตอยู่
    ส่วนความขลังของอักขระเลขยันต์นั้น หลวงพี่ญาบอกว่า เกิดจาก ๒ ส่วนประกอบกัน คือ ส่วนแรก ได้แก่ อักขระเลขยันต์ที่สักซึ่งล้วนมาจากพระคาถาทั้งสิ้น เช่น ยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้า (หมวกเหล็ก) ยันต์องค์พระพุทธ ยันต์เกราะเพชร ยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ยันต์พระเจ้าสิบหกพระองค์ ที่สำคัญยิ่งกว่า คือ ข้อห้ามและข้อปฏิบัติของผู้สักยันต์ ที่ต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
    "เพื่อให้ยันต์ไม่เสื่อมคลายความขลัง ต้องยึดปฏิบัติตามศีล ๕ อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะข้อที่ว่า ห้ามผิดลูกเมียเขา ห้ามด่าบุพาการีทั้งของตนเองและผู้อื่น ถ้าไม่ทำตามข้อห้าม ลายยันต์ก็ไร้ความหมาย ผู้สักยันต์จะต้องยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ด้วยบุญญาธิการของบูรพาจารย์ คณาจารย์ที่ถ่ายทอดสู่ตัวของคน สักยันต์ไม่ให้เสื่อมคลายความขลัง ต้องถือปฏิบัติในความดี ข้อห้ามต่างๆ ที่มีมาในสมัยโบราณ อย่างที่เรียกว่า คนดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ผีคุ้ม ปกป้องกันภัย เป็นข้อเตือนสติให้ตระหนักถึงผลกรรมดี กรรมชั่ว ความเสื่อมอีกประการหนึ่ง ผู้ได้รับการสักปฏิบัติตนไม่เหมาะสม เช่น โอ้อวด ท้าทาย ประลองต่อสู้กับผู้อื่น ทำตนเป็นมิจฉาชีพ ก่ออาชญากรรม" หลวงพี่ญา กล่าวทิ้งท้าย


    0 เรื่อง ไตรเทพ ไกรงู / ภาพ ประเสริฐ เทพศรี 0

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ---------------------
    Ref.
    http://www.komchadluek.net/2007/03/07/j001_96450.php?news_id=96450
     
  2. มันตรัย

    มันตรัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    8,347
    ค่าพลัง:
    +8,189
    ผมเชื่อในความมีพลังของการสักยันต์นะครับ เพียงแต่คนที่ได้ไปจะเป็นคนดีจริงหรือไม่ ส่วนเรื่องการที่ของขึ้นนั้น จริงเท็จพิศูจน์ได้ยากครับ อุปาทานก็เป็นส่วนสำคัญนะครับ แต่สมันก่อนผมว่าน่าจะมีจริงและจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีเหตุทำให้เกิดครับ หลวงพ่อเปิ่นท่านไม่อยู่แล้ว แต่ผมว่าความศักดิ์สิทธิ์ท่านยังคงอยู่คู่วัดครับ
     
  3. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    - หลวงปู่เปิ่นท่านกล่าวกับศิษย์เสมอว่าให้ยึดมั่นในความดี ไม่รังแกผู้อื่น และความมีศรัทธาอย่างแท้จริง และยึดถือกฏข้อห้ามของคุณครูบาอาจารย์ คำว่าปาฏิหาริย์ย่อมเกิดขึ้นได้เป็นธรรมดาครับ... / thaiput007@hotmail.com
     
  4. thaiput

    thaiput เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    9,528
    ค่าพลัง:
    +27,656
    คาถาบูชา : หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ วัดบางพระ นครปฐม

    (ตั้งนะโม 3 จบ) * อิติสุคโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ฐิตคุโณ อาจาริโย จะ มหาเถโร มหาลาโภ สัพพะสุขขัง จะมหาลาภัง สัพพะโภคัง สัพพะธะนัง ภะวันตุเม. * / thaiput007@hotmail.com
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  5. จรัสกุล

    จรัสกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    1,547
    ค่าพลัง:
    +2,127
    ด้วยความศรัทธาและเชื่อมั่น กราบนมัสการหลวงปู่เปิ่น สาธุ..
     
  6. soonyata

    soonyata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +3,675
    ของขึ้นจริง ๆ เจอกับตัว เชื่อแล้วจริง ๆ

    พอดีวันมาฆบูชาไปงานหล่อพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ที่วัดธรรมศาลาตอนเช้า และก็ไปวัดหลวงปู่เปิ่นตอนบ่าย ตอนไปเค้าเสร็จพิธีไหว้ครูแล้ว ได้เจออะไรดี ๆ หลายอย่าง ขนาดเราไม่ได้สักหรือลงนะหน้าทองกับหลวงปู่ ยังมีอาการแปลก ๆ ที่วัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เยอะมากและก็ท่านก็มาอวยพรให้ทุกองค์ โดยเฉพาะหลวงปู่เปิ่นท่านมีเมตตาสูงจริง ๆ ท่านมายิ้มให้ตลอด รู้สึกรักและเคารพท่านมาก นึกเสียใจที่ไม่ได้มากราบท่านตอนยังไม่มรณภาพ แต่ตอนนี้ก็ฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์ท่านไปเรียบร้อยแล้ว ขอกราบคารวะหลวงปู่ด้วยเศียรเกล้าจริง ๆ ถ้าใครยังไม่เคยไปวัดบางพระ ขอแนะนำให้ไปกราบท่านซักครั้ง รู้สึกดีจริง ๆ
     
  7. nutagul

    nutagul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +159
    ผมก็เป็นศิษย์หลวงพ่อเปิ่นคนหนึ่งที่ได้สักยันต์ต่างๆใว้ตามตัว และได้เข้าพิธีไหว้ครูทุกปี สำหรับอาการของขึ้นนั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย แต่ที่แน่ๆเกิดจากความศัทธาและความเชื่อมั่นในครูบาอาจารย์ ความยึดมั่นและแน่วแน่ในลายสักของตน สิ่งที่เกิดขึ้นอาการต่างๆมันเป็น เอหิปัตสิโก คือการรู้ได้เฉพาะตน
     
  8. nutagul

    nutagul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    179
    ค่าพลัง:
    +159
  9. Surfers

    Surfers เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    10,498
    ค่าพลัง:
    +26,963
  10. บารมีหลวงปู่ทวด

    บารมีหลวงปู่ทวด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +207
    ผมก็เป็นศิษย์หลวงพ่อเปิ่นเหมือนกันครับ
    ตั้งแต่เกิดมาเคยได้พบหลวงพ่อเปิ่น แค่ครั้งเดียวเมื่อนานมาแล้ว
    เมื่อครั้งคนแถวบ้าน จัดกองผ้าป่า ไปทอดที่วัดบางพระ
    ตอนนั้นอายุแค่ 14 เอง ยังไม่รู้จัก พระเครื่อง เครื่องราง ของขลังเลย
    เห็นคนอื่นเค้าเช่าวัตถุมงคลที่วัด แล้วเอาเข้าไปให้หลวงพ่อปลุกเสกให้
    ด้วยความเป็นเด็กไม่มีเงิน และอยากเข้าไปหาท่านบ้างก็เลยถอดสร้อยคอ
    พร้อมจี้นามสกุลของตัวเอง ให้หลวงพ่อท่านปลุกเสกให้ หลังจากนั้นก็มีเรื่องอัศจรรย์
    เกิดขึ้นกับตัวของผม คือ ผมได้นั่งมอเตอร์ไซค์ไปเรียนกับเพื่อนแล้ว
    เกิดอุบัติเหตุ มีรถยนต์เข้ามาชนเข้าจัง จัง เข้าที่กลางคัน ผมกับเพื่อน
    กระเด็นไปกระแทกกับท่อปูนที่กำลังก่อสร้าง ท่อปูนแตกเลย
    ปรากฎว่า เพื่อนผมแขนหัก บิดไขว้ไปด้านหลัง หน้ากลัวมาก
    แต่ผมกลับลุกขึ้นยืนไม่เป็นอะไรเลย แต่สร้อยคอที่ใส่อยู่
    ที่หลวงพ่อเปิ่นท่านเมตตาปลุกเสกให้ ขาดหลุดกระเด็นเข้ามาอยู่ในกระเป๋า
    เสื้อแทน...........เป็นประสบการณ์ที่สุดยอดมากครับในชีวิต

    ขอกราบหลวงพ่อเปิ่น ด้วยความเคารพและศรัทธา
     
  11. กำธร นครปฐม

    กำธร นครปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,756
    ค่าพลัง:
    +7,201
    เรื่องนี้เป็นปัจจัตตัง ครับ คือรู้ได้เฉพาะตน คนที่ของขึ้นจะรู้ว่าตัวเองขึ้นจริงหรือไม่จริง เคยไปไหว้ครูในปีก่อน ๆ ผมสังเกตุดูบางคนผมว่าแกล้งขึ้นนะ เห็นคนอื่นขึ้นก็ขึ้นตาม พวกอาสาสมัครบางคนที่คอยช่วยยกตัวพวกของขึ้น จะรู้ว่าขึ้นจริงหรือไม่ บางทีอุปาทานก็มีเหมือนกันครับ แต่การสักยันต์ที่วัดบางพระนี้ มีชื่อเสียงมานานแล้ว ผมก็เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเปิ่นคนหนึ่ง ศรัทธาในปฏิปาทาของหลวงพ่อเปิ่น แม้หลวงพ่อเปิ่นจะไม่ใช่พระอรหันต์อย่างที่คนบางคนยกย่อง แต่ผมว่าคุณงามความดีของหลวงพ่อเปิ่นที่มอบให้กับสังคมนั้น มากเกินกว่าคำว่าพระอรหันต์อีกครับ หลวงพ่อเปิ่น ท่านเป็นพระโพธิสัตย์ ลงมาสร้างบารมี ส่วนจะเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่เท่าไร ไม่ทราบครับ (ความคิดของผมเอง)
     
  12. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,793
    ครูบาอาจารย์ท่านมีกุศลโลบาย ในการที่จะสั่งสอนศิษย์ให้เป็นคนดี คนที่มีจิตอ่อนมักเกิดอาการที่เรียกว่าของขึ้น แต่ทุกท่านล้วนแต่เคารพเชื่อฟังคำสั่งสอนที่ครูบาอาจารย์ท่านบอกไว้คือรักษาศีลนะ สวดมนต์ภาวนา ไม่รังแกผู้อื่น แต่เป็นที่น่าสังเกตุนะครับว่า คนที่มาร่วมงานทั้งวัยรุ่น และผู้ใหญ่เป็นพันๆคน ไม่มีเลยที่จะเกิดการทะเลาะวิวาทกัน สักคนเดียว แม้จะมีการกระทบกระทั่งชนตัวกัน ต่างก็มีความถ้อยทีถ้อยอาศัย ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อกัน นี่ไม่ใช่อานุภาพของการ เคารพเชื่อฟังปฏิบัติตามคำสอนของครูบาอาจารย์หรือครับ เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากครับ หาดูได้ในงานไหว้ครูทุกๆปีที่ทางวัดบางพระ จัด
     

แชร์หน้านี้

Loading...