๏ กระโถน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ฐาณัฏฐ์, 10 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. เลขโนนสูง

    เลขโนนสูง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2010
    โพสต์:
    360
    ค่าพลัง:
    +825
    :cool::boo::'((f)(deejai)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2011
  2. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    ผมไม่มีไพ่จะมาหงายอะไรกับคุณหรอก
    มันไม่มีประโยชน์อะไร

    สนทนาไปก็มีแต่ความหลบความเลี่ยงหาความซื่อตรงไม่มี
    พอตัวเองจนก็หลบเลี่ยงไปทางอื่น

    ใจคดใจงอ
    ผมไม่อยากยุ่งด้วย
     
  3. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เิอาเข้าไป เตชพโล

    เราหลบอะไรหรือ ไม่ตรงอย่างไรหรือ

    อธิบายให้ทุกคนกระจ่างใจท่านด้วย

    กลัวอะไรกับคำถามเรา

    ท่านพิจารณาอย่างไรหนอ
     
  4. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    :cool:

    ไม่ต้องตอบแล้วนะ เราเข้าใจวิธีพิจารณาของเตชพโลแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 กุมภาพันธ์ 2011
  5. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    <table id="post4377040" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;">[​IMG] วันนี้, 08:20 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #[​IMG]
    เอ้านี่พูดตรง ๆ นะ
    ไม่อ้อมค้อมกันล่ะ
    ไหน ๆ ก็คุยกันมาขนาดนี้แล้ว

    เอาผู้รู้ที่ละเอียดกว่านี้ให้ได้ก่อน
    จิตจึงจะมีสมาธิ
    การใช้ปัญญาเดี๋ยวนี้ก็ใช้อยู่แล้ว
    ยิ่งได้อ่านได้ฟังเทศน์ครูบาอาจารย์ในโลกไซเบอร์
    นี่ก็เป็นการเสริมปัญญามากอยู่แล้ว

    เอาสมาธิที่ละเอียดกว่านี้ให้ได้ก่อน
    คุณจะเห็นปัญญาที่แทรกอยู่ในสมาธิที่ละเอียดเป็นลำดับนั่นแหละ
    เพราะพวกท่องโลกไซเบอร์ได้ปัญญาเยอะอยู่แล้ว

    ปัญญาที่ได้ฝึกได้อ่านมาจากโลกไซเบอร์
    ก็จะสอดแทรกมาตามความละเอียดของสมาธิเป็นลำดับนั่นแหละ
    </td> </tr> </tbody></table>
    :cool:

    ไม่ต้องตอบแล้วนะ เราเข้าใจวิธีพิจารณาของเตชพโลแล้ว<!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->
    หากทนสิ่งที่เห็นไม่ได้ จงควักนัยตาทั้งสองออกเสีย
    <!-- google_ad_section_end -->
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หลงเข้ามา : วันนี้ เมื่อ 08:30 PM
    </td></tr></tbody></table>นี่แหละวิธีการของคนใจคด
    เอาโพสต์คนละเรื่องคนละเวลามาปะติดปะต่อกัน
    เพื่อสร้างความเข้าใจผิด
    ทำให้ผู้อื่นดูแย่ในสายตา ของสาธารณะชน

    เอาความคดในข้องอในกระดูก
    มาใส่ความให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย

    ทั้งที่แต่ละโพสต์ที่ยกมานี้
    มันมาจากคนละกระทู้
    คนละเนื้อหา
    ยังเอามาผูกโยงกันเพื่อสร้างความเสียหายให้ผู้อื่น

    เรื่องปล่อยผู้รู้คือปล่อยอวิชชานี้
    เป็นโพสต์ในกระทู้ที่เกี่ยวกับเนื้อหาของ ลุงหวีด บัวเผื่อน
    ฆารวาสที่บรรลุธรรม

    ท่านกล่าวในทำนองว่า
    จิตผู้รู้ที่ยังมีกิเลสอยู่ยังมีอวิชชา
    ก็คือจิตอวิชชา
    การจะละอวิชชาออกจากจิตได้
    ก็ต้องละวางผู้รู้
    เพราะอวิชชาพาให้จิตสำคัญว่า
    ผู้รู้นี่เป็นตน เป็นเรา เป็นเขา
    เมื่อต้องการจะล้างอวิชชา
    ล้างความเป็นตัวเป็นตนเป็นเขาให้หมดสิ้นไป
    ก็ต้องละที่ตัวผู้รู้นี้

    นี่มันแสดงให้เห็นเลยนะว่าคนคนนี้ใจคดมาก
    เอาความคดความงอของตนเองมาเพื่อทำลายผู้อื่นให้เสียหาย
    ในที่สาธารณะ เหยียบคนอื่นเพื่อให้ตนดูสูงขึ้นในสายตาสาธารณะชน

    เพราะความจริงเรื่องพวกนี้มันผ่านไปตั้งนานแล้ว
    ผมก็ปฏิเสธการสนทนาไปแล้ว
    เพราะไม่อยากยุ่งด้วย
    เรื่องก็ควรจะจบไป

    แต่นี่ไปฟื้นฝอยเรื่องราวต่าง ๆ
    แล้วไปปั้นน้ำให้เป็นตัว
    สร้างเรื่องสร้างราวขึ้นมา
    เพื่อให้ผู้อื่นเสียหาย
    นี่มันแย่จริง ๆ นะ

    นี่ล่ะพฤติกรรมของคนใจคด
    ยังไงก็ต้องแสดงออกมาให้เห็นจนได้
     
  6. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ใจสั่นใช่ไหม

    จิตใจมันเป็นอะไร ทำไมชอบด่า ชอบให้ร้ายนัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 กุมภาพันธ์ 2011
  7. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เอาเถอะ ด่ากันไปมาไม่เกิดปัญญา

    เหมือนประจานตนเปล่าๆ ขอพักแค่นี้



    ต่อเรื่องพิจารณาไตรลักษณ์ดีกว่า

    เราพิจารณาธรรมอย่างนี้

    รู้ชอบ รู้ถูกต้อง เป็น สัมมาทิฐิ

    คือรู้ ความจริงของในสภาวะปรมัตถ์

    เห็นชอบ เห็นถูกต้อง เป็นสัมมาสังกัปปะ

    คือเห็นความจริงในปรมัตถ์

    สองอย่างนี่เรียกว่าพิจารณา ด้วยปัญญา

    ไม่มีหรอก เสริซกูเกิ้ลแล้วนั่งสมาธิ ความรู้จะแซกในสมาธิ อย่างที่เตชพโลหลงเข้าใจ

    รู้อะไร ตอบ รู้ธรรมชาติไตรลักษณ์

    เห็นอะไร ตอบ เห็นตรงตามความเป็นจริง ว่าไม่น่ายึด ไม่เที่ยง เป็นอนัตตา


    ขยาย เดี๋ยวจะหาว่าไปจำตำรามา

    กำหนดความรู้สึกรู้ลมหายใจเข้าออก ดูลมเข้าเกิด ดูลมเข้าสุด ใช้สติรู้ไปทั่วกาย ทั่วอยาตนะ ดูของที่มากระทบ

    เมื่อมีความรู้ใดเกิดขึ้น ในกาย ในเวทนา ในจิต ให้ตามรู้ลงไป

    ไม่ต้องเป็นจำแนก นี่โกรธ นี่หงุดหงิด นี่เฉย

    ให้รู้ลงไปในสภาวะที่ใจรู้สึก มันตอด มันเย็น มันร้อน อาการมันเป็นอย่างไร

    รู้ลงไป มันเกิดมันดับ ตรงโน้น ตรงนั้น ไปทั่ว จิต เจตสิต รูป

    จิตจะเริ่มเห็น ธรรมชาติอนิจัง

    รู้เกิดดับ ใจรับจะรู้ความรู้สึกเร่าร้อน จะคู่กันมา ไม่ต้องไปจำแนก

    แค่รู้ลงไปในสภาวะ เกิดที่รูป ที่เวทนา หรือที่ใจ มันเร่าร้อนที่ใด

    รู้นั้นจะเริ่มเห็น ทุกขัง ธรรมชาติเป็นเช่นนั้น


    ให้พิจารณาไปเรื่อยๆ ดูไปเรื่อย ให้เห็นจริงว่า สภาพใดๆ ในจิต เจตสิต รูป

    ล้วนเกิดับเป็นวัฏฏะไม่จบสิ้น มีแต่ความเร่าร้อน ทนได้ยาก เป็นทุกข์

    จนยอมรับความจริงข้อนี้ ว่าไม่เราบังคับไม่ได้ ไม่ใช่เรา

    นั่นแล ความเห็นถูกต้อง เห็นความไม่เที่ยง อนัตตา


    ปล. ปัญญานำสมาธิ

    การพิจารณาของที่ละเอียดขี้น สมาธิจะละเอียดขึ้นตามนั้น



    เอ้าจะด่าอะไร เชิญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 กุมภาพันธ์ 2011
  8. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>หลงเข้ามา, เตชพโล </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    ใจอะไรมีตอดมีเย็นมีร้อน

    เอาอย่างนี้นะจำเอาไปปฏิบัตินะ
    ผมอ่านแล้วผมก็รู้แล้วว่าคุณไม่รู้จักผู้รู้อะไรหรอก

    เอาอย่างนี้คุณเอาลมกับสติให้ติดแนบกันไปก่อนอย่าให้เผลอสติ
    เมื่อจิตสงบก็ปล่อยให้สงบ
    อย่าไปพิจารณาจิตสงบให้เป็นไตรลักษณ์ในขณะที่จิตสงบ
    เพราะจะเป็นการรบกวนจิต
    ครั้งต่อไปจะทำให้จิตสงบได้ยากยิ่งขึ้น
    เมื่อจิตสงบก็ปล่อยให้สงบไป

    จิตถอนขึ้นมาก็พิจารณากายด้วยอาการ 32
    แล้วมันจะวิ่งไปถึง เวทนา จิต ธรรม เอง
    เพราะ เวทนา จิต ธรรมนี้อยู่ในกายทั้งนั้น ไม่ได้อยู่ที่ไหนหรอก

    เอาเท่านี้ก่อนแล้วกัน

    ผมรู้นะว่า ไอ้ใจที่มีการตอด อะไรนี่
    ใครเป็นคนสอนคุณ

    ใจก็ตอดเป็นด้วยวุ๊ย
    อย่างนี้ก็มี...
     
  10. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เรื่องตอดนะ ไม่ต้องไปเดา ไม่ใช่หรอก

    อาการตอด เป็นเรื่องชีพจร ธาตุลม

    ตอด ตึง ร้อน เย็น ไปหาอ่านเอา ผมจำไม่ได้

    ก็ไม่ต้องไปจำแนกว่าธาตุอะไร

    งานของเราคือรู้ กายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต

    ดูธรรมชาติปรมัตถ์ ประหารด้วยปัญญา
     
  11. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เรื่องจิตผู้รู้เรากล่าวทักไปนานแล้ว

    ติดอย่างไร สภาวะอย่างไร ก็บอกไปแล้ว

    ถนัดดูจิต ให้ดูไป

    ถ้าไปแยกรู้ เราไม่เห็นธรรมชาติ จิต เจตสิต รูป แน่

    มันได้แบบลูบคลำ

    อีกอย่าง เรื่อง สติตัด

    พอรู้สึกตัว แล้วสติตัด อารมณ์ม้นหาย ไม่ทันได้เห็นสภาวะธรรม
     
  12. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    ไอ้ตอด ตึง ร้อน เย็น นี่ เป็นกายวิญญาณ ทั้งนั้น
    ยังเป็นภายนอกอยู่ ยังไม่เข้าถึงจิตนะ

    ถ้าคุณเข้าถึงจิตถึงผู้รู้จริง
    มันต้องมีอะไรแย็บมาซักอย่าง
    พอให้จับได้ว่าคนนี้รู้จักผู้รู้จริง
    แต่ที่ผมอ่านมานี่มีแต่บอกว่า
    ผู้รู้ ผู้รู้ แต่ไอ้การที่จะเข้าถึงผู้รู้นี่
    บอกไม่ได้ แล้วที่พูดมาก็สะเปะสะปะ ไป

    อย่างเช่นการพิจารณาความสงบอย่างนี้
    ขณะทีสงบท่านไม่ให้พิจารณานะ
    เพราะเป็นการรบกวนความสงบ
    ความสงบเป็นการชาร์จแบตเตอรี่ให้จิต
    ท่านไม่ให้กวนความสงบ
    พอความสงบหมดกำลังจิตจะถอนออกมาเอง
    เมื่อจิตถอนมาก็พิจารณากาย แล้วมันจะติดความสงบไปไหน

    แล้วจะไปพิจารณาความสงบให้เป็นไตรลักษณ์เพื่อประโยชน์อะไร

    มันแสดงให้เห็นเลยนะว่าปฏิบัีิติไม่ถึงจริง
    เพราะถ้าถึงจริง ๆ แล้ว จะรู้เลยว่า
    เมื่อจิตสงบเป็นยังไง จิตถอนออกมาเป็นยังไง

    การพิจารณาความสงบให้เป็นไตรลักษณ์
    ถ้าผู้ที่รู้จักความสงบอย่างแท้จริงแล้ว
    เค้าจะบอกเลยว่า
    คนที่บอกให้พิจารณาความสงบนี่ ไม่รู้จริงหรอก
     
  13. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    ผมก็บอกแล้ว
    ผมรู้นะใครเป็นคนสอนคุณ

    ตอนนี้เห็นแก้ไขคำสอนไปเยอะแล้วไม่ใช่เหรอ
    ในเวปน่ะ

    ตอนนี้เน้นคำบริกรรมแล้วใช่มั้ย
    เออตรงนี้ดีหน่อย

    แต่ไอ้ดูความคิด แล้วจะจับตัวผู้รู้ได้นี่
    มันเป็นเรื่องที่จินตนาการเอานะ
    ตรงนี้ไปตัดออกเลย
    เป็นไปไม่ได้

    แล้วเนื้อหาธรรมในเวปจะแน่นขึ้น
    ไม่ต้องไปแก้ไปตกแต่งใหม่อยู่เรื่อย

    คนที่เค้ารู้จริงเห็นจริงเค้ารู้หมดแหละ

    เอานะผมเสียเวลากับคุณมากแล้ว
    ผมถือเอาวันวาเลนไทน์นี่เป็นนิมิตหมายที่ดีจะเร่งภาวนาหน่อยคืนนี้
    ส่วนวาเลนไทน์ของคนอื่นเค้าก็มีความสุขกันไปแล้ว ก็ยินดีด้วย
    ส่วนผมไปเร่งภาวนาสมาธิคนเดียวดีกว่า

    เอานะ ผมขอตัว
     
  14. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075

    เอาเถิด จะตีกินก็ว่ากันไป

    ความสงบ นิ่งเกิดจากผลสมาธิขั้นสูง แล้วถอยมาพิจารณา

    กับ ความสงบ นิ่งเกิดจากสมาธิ ค่อยสติรู้ทั่ว แล้วพิจารณาความสงบ ว่ามันไม่เที่ยง มันแปรได้ บังคับไม่ได้

    มันเหมือนจะเรื่องเดียวกัน แต่คนละเรื่องกันเลยนะ

    พูดมา 10 หน้า ถ้าไม่เข้าใจ ก็ไม่ต้องไปเข้าใจแล้ว

    ปฎิบัติอย่างที่ท่านเข้าใจเถิด


    บอกไปแล้ว เวลาพิจารณา สมาธิมันจะเกิดตามเอง
     
  15. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    อย่าไปเดามั่ว ไม่ใช่สายดูจิตริมทะเลหรือที่ไหนๆหรอก

    คนละทางเลย

    ก็ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนธรรม

    แฮปปี้วาเลนไทน์เช่นกัน

    (kiss)
     
  16. เตชพโล

    เตชพโล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    277
    ค่าพลัง:
    +1,459
    แน่ หาว่าผมตีกิน อีกต่างหาก

    เห็นมั้ย

    ใครเป็นยังไง
    มันก็ต้องแสดงสิ่งนั้นออกมาวันยังค่ำ
    ก็จะให้ว่าไง

    จริงมั้ยล่ะ

    เอานะ ผมขอตัวอีกครั้ง
     
  17. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    5555 ก็มีบ้าง

    oK

    โทดที
     
  18. 5th-Lotus

    5th-Lotus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +306
    ว่าด้วยเรื่อง....กระโถนอารมณ์ ?

    [​IMG]

    อ่ะแฮ้มมมม...กินลมชมธรรมกับ ทำมะของ ลพ.ชา
    แร้วก็เกิดไอเดียบรรเจิดแฮะ เหอ...เหอ....
    และ ในฐานะที่ อิฉันแอบหลอย ลายเซ็น ของทั่น จขกท.
    ไป ทำปู้ยี้ปู้ยำ เอ๊ย ประยุกต์ใช้เสวนาธรรมอยู่บ่อย ๆ


    วันนี้ อิฉัน เรยแวะมาแจมกาทู้ ทั่น หลงฯ
    เพื่อเป็นการ สำแดง ฟามกตัญญูกตเวที
    ตอบแทน ค่าลายเซ็น ซะหน่อยดีกว่า
    แบ่บว่า ตอนนี้ กะลังนึกครึ้ม
    อยากมี กระโถนอารมณ์
    มาสะสมไว้เป็น คอลเลคชั่น อิอิ


    เฮ้อออออ พูดถึงกระโถน แร้ว
    เหล่าพุทธมามกะจ๋าเคยฉงฉัยกันบ้างไหมเอ่ย
    ว่า พระเจ้า สร้าง กระโถน ขึ้นมาทำติ้งอาราย ?
    น่าคิดเน๊าะ เหอ ๆ


    อืม... จา คนธรรมดา หรือ อรหันต์
    มันก็ต้อง นั่งขรี้ ด้วยกันทั้งนั้นนิ ( หรือว่าไม่จริง ? อิอิ )
    ตราบใดที่ คนเรา ยังต้อง กิน ขี้ ปี้ นอน
    การมีกระโถนสักใบแบกไว้บนหัว
    มันก็ช่วยให้ตัวเราอุ่นใจขึ้นนะ แหะ ๆ


    และไม่ว่า จะเป็นกระโถนทองเก๊
    หรือ กระโถนทองคำ
    มันก็แค่ ภาชนะใส่ขรี้ นี่เน๊าะ
    ประโยชน์ของมัน ก็คือ
    การทำให้ขรี้ ได้อยู่เป็นที่เป็นทาง
    ไม่ขวางหูขวางตาชาวบ้าน มันก็เท่านั้น
    นี่มิใช่หรือ จุดประสงค์หลัก
    ที่พระเจ้าทรงประดิษฐ์กระโถน ขึ้นมา


    เราจักสร้าง ภาชนะบรรจุสารพัดขี้ ใบนี้ ไว้
    เพื่อยังประโยชน์แก่มวลมนุษย์ซาติ
    เฮ้อออ ยิ่งถ้าเป็น กระโถน อารมณ์ แร้วไซร้
    เรายิ่งต้องปะดิดปะดอยเข้าไปใหญ่
    เพราะ มันต้องต้องคอยรองรับสรรพสิ่ง
    ตลอดจนของทิ้งขว้าง ที่อดุมไปด้วย เรื่องขี้ ... ๆ
    ทั้ง ขี้โมโห ขี้เกียจ ขี้โกรธ ขี้ขอ ขี้ขลาด
    ขี้เอา ขี้สงสัย ขี้เหนียว แล ขี้โม้ ฯลฯ


    แหม๊ อยากรู้จังเรยวุ้ย
    ว่า หากจำต้องแบกกระโถน( อารมณ์ ) ไว้บนหัวอยู่
    พวกสู รู้จักหาวิธีใช้ประโยชน์จากกระโถนเหล่านั้น
    ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้วหรือยัง ?



    พวกทั่นใช้งาน มันได้คุ้มค่า
    สมกับที่ทนแบกมันไว้บนหัวหรือเปล่า?
    ในเมื่อ มี กระโถน อยู่กับตัว
    ยังมัวแต่มานั่งขี้เรี่ยขี้ราด
    ให้อุจาดนัยน์ตาประชาชี ทำไมมิทราบ?


    เฮ้ออออ ไอ้ ตัว อนัตตา น่ะ มันอยู่ซู๊ง สูง นะ
    ถ้าเรา ยังไม่มีปัญญาจะยัด น. หนู เข้าไป
    เราก็ต้องรู้จักใช้สอยประโยชน์จากอัตตา
    และ สันดานดิบ (id ) ของตัวเอง กันหน่อยล่ะ


    ถ้ามีกระโถน มาให้ ใช้
    อิฉันก็จะใช้สอยมันตามประโยขน์
    ที่เขาตั้งใจ สร้างมา ให้ใช้ นั่นแหล่ะ
    นึกอยากจะขรี้ อิฉันก็จักนั่งยอง ๆ ขรี้ บนกระโถน
    ให้มันเป็นที่เป็นทาง


    ครึ้ม ๆ ถ้ารู้สึกว่า กระโถนของตัวเองมันสกปรกนัก
    ก็งัดเอาสก๊อตไบร์ท มาขัดสีฉวีวรรณ เช็ดล้าง พอเป็นพิธี
    แต่ถ้าไม่นึกขยัน ก็ เอาเจ้ากระโถนใบนั้น ไป ปลงอสุภะ
    หรือ หากนึก หมั่นไส้ ใครขึ้นมา
    เก๊าะ คว้ากระโถน มาเขวี้ยงใส่หัวมัน
    แหม๊ ? สารพัดประโยชน์ เจง ๆ เรยแฮะ
    กระโถนกายสิทธิของ อิฉัน งิงิ


    อืม...สำหรับอิฉันนั้น
    มันก็ใช้ประโยชน์ จาก กระโถน
    ตาม อารมณ์ และ ทรงผม กระมัง ( ทำมั่งไม่ทำมั่ง )อิอิ
    และถึง กระโถนใบนี้ จะถูกมือดีฉกไปใช้
    ไม่เห็นจำเป็นต้อง ทุกข์ใจอาลัยอาวรณ์ อะไรนักหนานิ


    ก็อิแค่ กระโถนใส่ขรี้ หายไปใบเดียว แค่นั้นเอ๊ง
    ถ้า ใครมันอยากจะ กระเตง กระโถนใส่ขรี้ของอิฉันไว้ดูเล่น
    ก็ ตัวมัน ของมัน ช่าง แมงมันจิ ค๊ะ
    อิฉันมันคนจ๋วยใจดี ม่ะมีหวงของอยู่ แระ
    ใครอยากจะได้ก็เอาไปจิ ของแบบนี้...
    แบ่ง ๆ กันเอาไปใช้ แบ่ง ๆ กัน เอาไปขรี้ ใส่ ก็ได้จร้าาาาา


    และถึงแม้ กระโถน ฉันหายยยยยยยยยยย
    อิฉันก็ยังสามารถนั่งขรี้ได้เหมียนเดิ้มมมม
    โดยไม่หวั่นแม้วันมามากให้ลำบากหัวใจหรอกนะ
    แม้ไร้ซึ่งกระโถน เราเก๊าะแบกจอบไปขุดส้วมหลุม !


    หรือไม่ก็กระโจนไปนั่ง ชักโครก แทนก็ได้นิ
    สมัยนี้ แพมเพิร์ส ก็มีตั้งหลายยี่ห้อ
    เรื่องอารายจะชะเง้อคอ
    รอใช้แต่กระโถน จนขี้หยดขี้ย้อย
    ปล่อยปู๊ดป๊าดดด ล่ะเจ้าคะ
    ขืนทำงั้น เสียฟอร์มนักปฏิบัติป่นปี้ ดิค๊ะ อิอิ

    [​IMG]


    ปอลิง
    อนึ่ง โบราณว่า
    ขี้แล้วกลบ คือแมว
    ขี้ แล้ว แจว คือ หมา
    ขี้แล้วรักษา คือ สุนัขมี pet degree

    [​IMG]

    ด้วยเหตุฉะนี้ อิฉันเรยเอาา ไอ้นี่ มาฝาก ทุกทั่น
    ต้อนรับวัน วาเลนไทน์ เจ้าค่ะ



    [​IMG]

    [​IMG]




    เลือกใช้กันตามอัธยาศัย
    และ ตามปริมาณขี้ฯ ในตัวทั่น ๆคร้าาา
    อ้อกระโถนใครกระโถนมัน นะจ๊ะ
    กระโถนเมิง มิใช่ กระโถนกรู ชะเอิงเอย




    เอ? แต่ ของไซส์ ละอ่อน แบ่บเนี้ยะ
    จะเอาอยู่หรือปล่าวหว่า ?
    งั้น แถม ให้ อีก 2 อัน ( กันเหนียว นะจ๊ะ ) งิงิ


    [​IMG]



    [​IMG]



    จาก จากคนที่ คุณก็ลู้ว่า ใคร เหอ...เหอ...
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    เหอ...เหอ...<!-- google_ad_section_end -->

    มาแระเหลอ แม่ผัวผ่องเป็นยองเป็นไย

    คิดถึงเธอว์ที่ซู๊ดดดดดดดด...(deejai)
     
  20. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    ขอประท้วงป้าบัวผ่องที่เสนอให้ไม่ยึดมั่นในการใช้กระโถนแล้วหันไปยึดมั่นการขุดหลุม การใช้ชักโครก หรือการใช้ผ้าอ้อมผู้ใหญ่
    ซึ่งเป็นการเปลี่ยนจุดการยึดมั่นไปยึดมั่นอีกสิ่งหนึ่ง
    ไม่เป็นไปเพื่อการวางคลายอย่างแท้จริง

    แทนที่จะใช้การมีสติเห็นว่าการมีกระโถนหรือไม่มีกระโถนนั้นไม่เที่ยง
    เกิดมีแล้วก็มีความเสื่อมไปในที่สุดเป็นหลัก
    ซึ่งเป็นการคลายการยึดมั่นอย่างบูรณาการและมีความยั่งยืน
     

แชร์หน้านี้

Loading...