๘ปีแห่งความคิดถึง'จรัล มโนเพ็ชร'ของ'สุนทรี เวชานนท์'

ในห้อง 'Music & Karaoke' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 3 กันยายน 2009.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,488
    8 ปี แห่งความคิดถึง "จรัล มโนเพ็ชร" ของ"สุนทรี เวชานนท์"

    a.jpg



    8 ปี จากการจากไปของ "จรัล มโนเพ็ชร" ตำนานโฟล์คซองคำเมืองแห่งล้านนาผู้ไม่มีวันตาย ประชาชาติออนไลน์ เจาะใจ "สุนทรี เวชานนท์" ย้อนความหลังในช่วงเวลาที่งดงามที่สุด นับจาก "เพลงน้อยใจยา" ที่ทำให้ได้ใกล้ชิดกัน จากยุค เพลง ละ 2 บาท ความประทับใจที่ไม่มีวันลบเลือน


    ...แม้เหลือดอกเดียวไม่เปลี่ยวดาย
    วรรคหนึ่งของบทกวี ที่แต่งโดย "แรคำ ประโดยคำ" วรรณกรรมซีไรต์ปี 2541 ถูกบรรจงเขียนติดอยู่ที่ร้าน "เฮือนสุนทรี" จ.เชียงใหม่ ย่อมมีความหมายมากกว่าความผูกพันที่ "สุนทรี เวชานนท์" มีต่อ "จรัล มโนเพ็ชร" ตำนานโฟล์คซองคำเมืองแห่งล้านนา


    เป็นความชัดเจนในความรู้สึก "สุนทรี" หญิงวัย 54 ปี ศิลปินนักร้องที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเชียงใหม่ ที่ไม่เปลี่ยวดายต่อการระลึกถึงวาระครบรอบ 8 ปีแห่งการจากไปของจรัล ในวันที่ 3 กันยายน
    วันที่ซึ่งผู้หญิงคนหนึ่งได้ก้าวข้ามเข้าสู่ความเป็นอมตะแห่งผู้สร้างศิลปะด้วยการขับร้องบทเพลงโฟล์คซองคำเมืองที่หาใครมาเทียบเท่าได้ยาก

    a.jpg



    "สุนทรี" เติบโตที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ พ่อเป็นคน จ.จันทบุรี แม่เป็นคนบ้านแม่หล่าย จ.แพร่ "พ่อเป็นครูใหญ่อยู่ที่ อ.ฝาง แม่เป็นแม่บ้านธรรมดา พ่อจะเป็นคนร้องรำทำเพลง ขับเสภา ฉ่อย ลำตัดจะเก่ง เป่าเมาท์ออแกน เป็นครูจนๆไม่มีเครื่องดนตรีอย่างอื่น ปี่พาทย์ก็เล่นได้ เก่ง เป็นคนที่น่ารักมาก ไม่เคยมีคำหยาบหลุดออกมาจากปากพ่อเลย"


    สุนทรี เล่าให้ฟังว่า ทำงานตั้งแต่อายุ 15-16 เข้ามาอยู่ในเมืองเชียงใหม่ช่วงที่สงครามเวียดนามกำลังจบ ตอนนั้นฝรั่งอเมริกัน จีไอ เริ่มเข้ามาอยู่ในเมืองไทย มีฐานทัพอยู่สัตหีบ อยู่ จ.อุดรธานี บางส่วนประปรายมาอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ระบบเมียเช่าได้เริ่มเกิดขึ้นเมื่อตอน พ.ศ.นั้น (ปี 2516-2517) วัฒนธรรมฝรั่งสังคมตะวันตกเริ่มเข้ามา เมียเช่าเริ่มจับมือถือแขนกับฝรั่งข้างถนน คนไทยเห็นเข้าก็เอาอย่าง ขณะนั้นอายุ 16-17 ปี เป็นข้อต่อรอยต่อของการเปลี่ยนวัฒนธรรม การเปลี่ยนแปลงเริ่มเกิดขึ้นในช่วงนั้น เชียงใหม่เริ่มเปลี่ยน


    "ได้ไปทำงานกับ คุณมานิต อัชวงศ์ ผู้จัดการของคุณจรัล มโนเพ็ชร ขณะนั้นคุณมานิต มีร้านที่ใหญ่มากเป็นร้านยี่ปั๊ว ร้านขายหนังสือพิมพ์ อยู่บนถนนท่าแพ มีเทปเพลงขาย เป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่รองจากสุริวงศ์บุ๊คเซ็นเตอร์ โดยบนชั้น 2 มีการ Draft เทป เพลงละ 2 บาท เป็นระบบเทปใครอยากได้เพลงอะไรก็จดชื่อเพลง และชื่อนักร้องมา หนึ่งม้วนจะอัดได้ 20 เพลง แล้วเราก็เป็นคนก็อปปี้จากเทปหรือแผ่นเสียง ขายเพลงละ 2 บาท หน้าที่ของสุนทรี อยู่ตรงนี้ จึงได้เจอ จรัล มโนเพ็ชร"


    "มีความสุขมาก เริ่มงานตั้งแต่ 9 โมงเช้า จนถึง 3 ทุ่มครึ่ง ปิดร้าน เป็นเด็กบ้านนอก ไม่เคยฟังเพลงคลาสสิคก็ได้มาฟังเอาตอนนั้น ฟังตั้งแต่ลูกทุ่งจนถึงเพลงคลาสสิค จึงได้มีโอกาสได้เจอคุณจรัล ไปเล่นกีต้าร์ ตอนกลางวันคุณจรัล จะทำงานที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เป็นผู้ช่วยสมุหบัญชี ส่วนตอนกลางคืนจะไปเล่นดนตรีโฟลค์ในคอฟฟี่ช็อพ"


    อดีตแห่งการรำลึกของสุนทรี ค่อยๆพรั่งพรูไปสู่วันเก่าๆ ถึงวันที่กลายเป็นคนมีชื่อเสียงตั้งแต่อายุเพียง 23 ปี จากเพลง "น้อยใจยา" "เพลงน้อยใจยา รักที่สุดถือเป็นเพลงครู ทุกเวทีต้องร้องเพลงนี้ แล้วมันเหมือนเราได้ใกล้ชิดกับจรัล เหมือนกับว่าร้องคู่กัน มีการตอบโต้กัน เหมือนเขาอยู่ใกล้เราตลอดเวลา แค่ฟังเพลงนี้เหมือนเขายังอยู่กับเราเพราะเสียงมันพันกันใกล้ชิดกันมากจนไม่มีทางที่จะแยกออกจากกันได้อีกแล้ว คือช่วงขณะหนึ่งของการมีชีวิตอยู่เราคิดว่าเพลงนี้ที่สุด"
    "แต่เพลงล่องแม่ปิงก็ถือว่าเป็นเพลงชาติเชียงใหม่ตอนนี้นะ (ฮา) ก็เป็นเพลงที่ทรงคุณค่า เราถือว่าเป็นเพลงที่สุดแล้ว งดงามที่สุดของจรัล ที่พี่ได้ขับร้อง ถือว่าเป็นเพลงที่สง่างามที่สุด"



    กับการกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเชียงใหม่ สุนทรี กลับมองสัญลักษณ์นั้นว่าเป็นภาระ "ถ้าจะหยิบว่าเป็นสัญลักษณ์นั้น กลายเป็นภาระเลยนะ แล้วก็ลำบากในการดำรงชีวิตแบบชาวบ้าน ทำอะไรผิดก็ไม่ได้ เพี้ยนไปนิดหนึ่งคนก็จะจับตามองเพราะคนรู้จักเรา ทำชั่วไม่ได้ แต่เราเป็นมนุษย์ เราอยากทำชั่วบ้างไม่ได้หรือ เราอยากจะหลุดกรอบบ้างไม่ได้หรือ เราอยากจะเป็นสนิมสร้อยบ้างไม่ได้หรือ(ฮา) เราเป็นมนุษย์ เราอยากลองผิดลองถูกบ้าง ใช่ไหม มันไม่เกี่ยวกับวัยนะในการลองผิดลองถูก บางสิ่งบางอย่างคุณถูกวางอยู่บนหิ้งมากเกินไปคุณเบื่อไหม บางทีเราก็อยากจะเลื้อยลงดิน มันเป็นวิถีของคน ใช่ไหม พี่สนุกกับเรื่องตรงนี้มากกว่า"


    "พอมาบอกว่าเป็นสัญลักษณ์ของเชียงใหม่ เป็นตัวแทนผู้หญิงเหนือ เรารู้สึกเราอึดอัด เราบ่ม่วน เราไม่สนุกกับมัน ไม่สนุกเลย ถ้ามาเชียงใหม่เขาบอกว่าต้องไปดอยสุเทพ ไปดูแพนด้า (ฮา) เขาว่ากันขำๆในวงเหล้า มาเชียงใหม่ต้องคิดถึงธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ป่าเขาดอย นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะหล่อหลอมคนเมืองให้อยู่ด้วยกันได้ ต้องไม่ทิ้งตรงนี้ ขาดต้นไม้มีแต่ตึกรามบ้านช่องมันกลายเป็นกรุงเทพฯทันทีเลย พี่ยังรักวิถีเดิมๆของคนเชียงใหม่อยู่ รักที่จะอู้คำเมือง รักที่จะนุ่งซิ่น วิถีชีวิตเรียบง่ายที่สุด ม่วนตามประสา"


    มิพักที่รักจะกลายเป็นของขมสำหรับสุนทรีเท่านั้น อดีตจากเสี้ยวคืนอันเจ็บปวดได้ส่องให้เห็นแง่มุมจากส่วนลึกของจิตใจที่จริงจัง "พี่ชัดเจนในเรื่องความรักมาก รักจริง รักแท้ แต่ถ้ามีอะไรนิดหนึ่งสุนทรีเดินออกจากชีวิตทันที เราเป็นคนที่จริงจังกับเรื่องความรักมาก เมื่อไม่ได้ก็ไม่เอา เดินออกทันที จบความสัมพันธ์ทันที ไม่พิรี้พิไร รักได้ก็เลิกได้ ไม่มีปัญหา ต้องไม่ทำร้ายกันและกัน หมายถึงด้านจิตใจด้วยนะ ถ้ารู้ว่าคุณมีอะไรซับๆซ้อนๆ สุนทรีไม่เล่นด้วย ไม่เอา ต้องการชีวิตผัวเดียวเมียเดียวเหมือนกัน ถ้าไม่มีก็อย่ามีเลยดีกว่า อยู่คนเดียวดีกว่า ถ้าคุณมีคนอื่น ฉันอยู่คนเดียวดีกว่า"
    อันก่อเกิดมาจากจังหวะหนึ่งในชีวิตที่ทำให้สุนทรีต้องร้องไห้
    "มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เจ็บปวดที่สุด เจ็บปวดยิ่งกว่าที่เลิกกับพ่อของลูกเสียอีก ผ่านมาสัก 10 ปี ก้าวข้ามมาได้เพราะลูก เพราะตระหนักรู้ถึงความเป็นจริงของชีวิตได้เลยว่า เราต้องยืนอยู่ตามลำพัง ต้องสู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง แล้วเราจะไม่เชื่อมั่นเรื่องความรักอีกแล้ว ไม่ศรัทธามันอีกแล้ว ที่สุดแล้วก็ต้องรักตัวเอง รักลูก ต้องรักครอบครัว อาจจะเป็นเพราะวัยที่มันสอน"
    "พอพ้นจากพ่อของลูกมาก็ลองนะ ลองผิดลองถูก ไม่เวิร์ค แต่มันได้เรียนรู้ มันทำให้เราได้ตระหนักรู้ว่าความรักมันมีจริงในโลก ไม่ใช่สิ่งเพ้อฝัน มันอยู่ข้างในใจเรา ในสมองเรา เราไตร่ตรองแล้ว เราเชื่อแล้ว ด้วยวัยที่เป็นผู้ใหญ่แล้วมันจะต้องชัดเจน"
    "อยากให้คนกรุงเทพฯทุกคนมีท่าทีที่อ่อนโยนกับคนท้องถิ่น ไม่อยากให้มาทำร้ายกัน ไม่ว่าจะกิริยาหรือทัศนคติที่มองผู้หญิงเหนือ อยากให้มองในแง่บวกบ้าง ไม่ใช่มาฉกฉวยย่างเดียว เห็นว่าพวกเราใจดีกับเขา แล้วมาฉกฉวย แอบทำร้ายทีหลัง ซึ่งหลังๆมานี้เราก็ระวังตัวมากขึ้น ไม่ค่อยจะจริงใจกับใครง่ายๆแล้ว ระมัดระวังตัวมากขึ้น ไม่หลงกลแล้ว ใครมาก็ต้องตีเส้นไว้ให้มีระยะห่าง ซึ่งพี่คิดว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไรนะ แต่มันจำเป็น"
    "น้องลานนายังบอกเลย แม่คะ ลูกจะไม่แต่งงาน ลูกจะไม่ยอมมีลูก เพราะโลกมันแย่แล้ว จะให้เด็กในเจเนอเรชั่นใหม่ๆเกิดขึ้นมาเผชิญกับชะตากรรมตามลำพังเหรอแม่ อีกหน่อยลานนาไม่มีแม่คนนี้คอยสอนคอยสั่งคอยดึงรั้งไว้ ยิ่งมีหลานออกมาอีก จะไปสอนลูก ก็อาจจะสอนได้ไม่ดีเท่าแม่ ลานนาคิดอย่างนี้เลย ลานนาไม่เชื่อมั่นในตัวเองว่าจะทำได้ เขาอยู่ใกล้เราเขาปลอดภัย เพราะไม่มีใครมาแตะต้องลานนาได้เลย นี่ลานนาอายุ 25 แล้วนะยังไม่กล้าทำอะไรเลย"
    "เหนื่อยแทนลูกเหมือนกันว่า เขาจะไปเลือกเฟ้นผู้ชายมาอย่างไร ไม่ต้องร่ำต้องรวยนะ แต่ต้องคิดเป็น เติบโตได้เพราะวิธีคิดไม่ใช่เพราะพ่อแม่คุณหาเงินทองมากองไว้เต็มบ้าน ไม่ใช่ตรงนั้น"
    "แล้วแม่จะสอนลูกสาวของแม่ตลอดเวลาว่า เมื่อใดก็ตามแต่ที่ลูกมีปัญหากับชายคนรักของลูก ถึงขนาดที่เขาจิกแขนหนู ลงไม้ลงมือกับหนู หนูเดินออกจากชีวิตมันทันที แสดงว่ามันไม่แฟร์ มันไม่ได้แล้ว ชีวิตที่สมบูรณ์ไม่ได้หมายความว่าเราต้องทนอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่ต้องมาทำร้ายเรา ไม่ใช่ ชีวิตของสุนทรี อายุ 54 ปี ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะโดนผู้ชายที่เป็นสามีตัวเองทำร้ายร่างกาย ไม่มี เพราะเราสร้างเงื่อนไขให้กันและกันตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อเรามีชีวิตอยู่ร่วมกันเราต้องคุยกันแล้ว คุยกันได้ทะเลาะกันได้แต่ต้องไม่ลงไม้ลงมือกันนะ ถ้าฉันบอบช้ำแม้แต่ปลายก้อย ฉันจะเดินออกจากชีวิตคุณทันที"
    ยามเมื่อต้นลำพูป่าริมแม่น้ำปิงค่อยๆขยายกิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาครึ้มไม่เว้นแต่ละวัน
    "สุนทรี" วาดหวังชีวิตขอเป็นเพียงผู้สืบสานและเล่าเรื่องราวล้านนาผ่านบทเพลง เป็นแม่ที่มีลูกสองคน เป็นแม่ค้าขายอาหาร แล้วมีคนมานั่งฟังเพลงที่สุนทรีร้อง
    "มีชีวิตแค่ อายุ 65 ก็พอแล้ว จัดการหนี้สินให้หมดก่อนแล้วค่อยตาย ไม่อยากอยู่นาน เพราะว่าผ่านมาหมดแล้ว แล้วก็อิ่มแล้ว ปลดภาระจากตรงนี้ก็หมดแล้ว ลูกโตแล้ว ไปแบบสงบๆงามๆสบายๆ อายุมากกว่านั้นเกรงใจลูกที่ต้องคอยมาเลี้ยงดูแม่แก่ๆ กลัวเป็นภาระให้เขา"
    ตราบเท่าที่แม่น้ำปิงจะยังคงไหลเอื่อย
    ตราบนั้น แม้เหลือดอกเดียว ก็จะไม่เปลี่ยวดาย

    -----------
    http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1251956848&grpid=07&catid=00&sectionid=0225
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2009
  2. toomtam2

    toomtam2 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +3
    คิดถึงสาวเชียงใหม่ น่าเอาเพลงมาเปิดคลอด้วยขณะอ่าน
     
  3. wuttichai0329

    wuttichai0329 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,016
    ค่าพลัง:
    +742
    ให้กำลังใจครับ ดีครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...