‘ตุ๊ยตุ่ย’ เตรียมบริจาคร่างกาย อุทิศเป็นอาจารย์ใหญ่

พิธีกรคนเก่ง “ตุ๊ยตุ่ย” พุทธชาติ พงศ์สุชาติ เผยเตรียมบริจาคร่างกายอุทิศเป็นอาจารย์ใหญ่ เร็วๆ นี้ ลั่นกราบใจ เด็กปั๊มพิการสู้ชีวิต ที่ไปเจอมาล่าสุด

ทีมบันเทิง คมชัดลึก-ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ของ พิธีกรอารมณ์ดี “ตุ๊ยตุ่ย” พุทธชาติ ล่าสุด เจ้าตัวมาบอกกับทุกคนในงาน เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนแรกในรอบ 9 ปี สบู่ ‘เพียวพลัส คูลลาเจน สโนว์’ ที่ลิปต์ สตูดิโอ เขตตลิ่งชัน ว่าจะบริจาคร่างกาย

กำลังมีโปรเจ็กต์ใหม่ ชวนบริจาคอวัยวะ?
“คืออาอยากชวน ในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ไปเจอกันที่ เอ็มบีเค แล้วฝากโพสต์ต่อด้วย ถ้าเห็นด้วยกับอา คืออาร่วมกับสภากาชาดไทย โดยแสดงความจำนงไว้ก่อนว่า เราจะขอบริจาคดวงตา เพื่อให้ท่านอื่นๆ ที่สามารถเปลี่ยนได้ กลับมามองเห็น อีกใบหนึ่งเป็นการบริจาคอวัยวะ มีหัวใจ ไต ตับ เป็นต้น คือ 1 ร่างกาย สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ อีก 6 ชีวิต คือแสดงความจำนงกันไว้ก่อน พอถึงเวลาแล้วเดี๋ยวไม่มีใครกล้า เราก็แสดงความจำนงไว้ มีของรางวัลและไปร่วมสนุก ได้เจอศิลปินมากมาย เดี๋ยวชวนเพื่อนๆ ในวงการไปด้วยค่ะ มีอีกสิ่งหนึ่งดวงตา กับอวัยวะ แสดงความจำนงบริจาคเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อตอนที่คุณพ่อไม่สบาย และสมองไม่สามารถสั่งการได้แล้ว ท่านได้บริจาคดวงตา และอวัยวะไว้แล้ว แต่บังเอิญติดเชื้อและเขาต้องให้ยาฆ่าเชื้อ แล้วพอเอาอวัยวะไปปลูกถ่ายให้กับท่านอื่น ร่างกายเขาอาจจะแอนตี้ออกมาได้ เลยไม่ได้ใช้ของคุณพ่อ แต่สิ่งหนึ่งที่คุณพ่อได้ทำคือ การแสดงความจำนงคือท่านได้อุทิศร่างกายของเราเพื่อให้นักศึกษาได้เรียนวิชากายวิภาคศาสตร์ เพื่อให้นักศึกษา หมอเขารู้ว่าร่างกายเป็นอย่างไร ได้เห็นของจริง จากร่างกายที่ไม่มีวิญญาณของเรา เพราะตอนนั้นเราเป็นนางฟ้าเทวดาอยู่แถวไหนแล้วก็ไม่รู้ ร่างกายที่เราไม่ได้ใช้ ถ้าเผาไปก็ดูเปล่าๆก็ให้นักศึกษาแพทย์ได้ศึกษาดีกว่า ให้เชี่ยวชาญก็จะดีไม่น้อย อาก็เลยเชิญชวน ว่าในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ นอกจากจะแสดงความจำนงบริจาคดวงตา อวัยวะ ก็ยังสามารถบริจาคร่างกายได้ด้วย ตอนนี้เรายังหายใจอยู่ เราก็ไม่สามารถไปสอนหมอได้เนอะ แต่พอเราเสียชีวิตไปแล้ว เราได้เป็นอาจารย์ใหญ่ เราได้แสดงความเคารพด้วย”



จุดเริ่มต้นที่คิดอยากทำโครงการนี้?
“สมัยสาวๆ สตางค์ก็ไม่ค่อยมีเนอะ เลือดก็บริจาคไม่ได้ เลือดจาง น้ำหนักก็ไม่ถึง ก็รู้สึกว่าเราจะทำอะไรดีๆ โดยที่ไม่มีต้นทุนได้ไหม แล้วสิ่งนี้คือสิ่งที่เราไม่ต้องเสียอะไรเลย และเราไม่ได้ใช้อีกแล้วจริงๆ ในวันที่เราได้ให้คนอื่น แต่ว่าพ่อคนอื่นที่เขาลุกจากเตียงไม่ได้ เขาไม่มีแรงจากอวัยวะส่วนนั้นของเขาไม่ทำงาน พอเขาเปลี่ยนที่เราให้ เขาสามารถช่วยตัวเองได้ ไม่เป็นภาระครอบครัว ยังไม่พอเขาสามารถออกไปหาเงินได้ เลี้ยงพี่เลี้ยงแม่ได้ ก็เกิดจากการที่เราแสดงความจำนงในวันนั้นวันเดียวเลยนะ คือถ้าจะทำบุญกุศลใหญ่ไว้สักอันหนึ่งก่อนตายก็อยากทำอันนี้ และล่าสุดที่มีมากระตุ้นความรู้สึกมากๆ คือคุณพ่อไม่สบายและตลอด 8 เดือน ต้องไปโรงพยาบาลตลอด ก็ได้เห็นคนที่เจ็บป่วย คนที่เขารออวัยวะ คือเราเป็นทุกข์ เรามองหน้ากันเพราะอยากให้พ่อของแต่ละคนแข็งแรง จะดีแค่ไหน ถ้าต่อไปอวัยวะไม่ขาดแคลนแล้ว ถ้าเราร่วมกันบริจาค แล้วคนก็จะสุขภาพดีขึ้น แล้วถ้าไม่ได้มาที่เอ็มบีเค ก็อยากให้ช่วยกันโพสต์กระจายข่าว กระตุ้นเตือน หรือเชิญชวนกันก็ได้ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ว่าถ้านอกเหนือจากวันนั้นต้องทำอย่างไรกัน จะแจ้งให้ทราบอีกที”



ล่าสุดโพสต์เรื่องราวของน้องอานนท์ เจอที่ปั๊มน้ำมัน?
“ตอนเช้าไปที่ป่าละอู ไปกราบหลวงพ่อมนตรี และฟังธรรม เสร็จแล้วขากลับ ต้องการจะเข้าห้องน้ำรีบมาก แต่พอลงไปก็เห็นน้องเขาถือชาร์จด้วยแขนข้างที่ไม่ถนัด เราก็เขียนว่า ดูสิเขายังทำงาน และที่สำคัญเขามีรอยยิ้มในการทำงาน แข็งขัน อยากกราบใจน้องเขาเหลือเกินและที่สำคัญผู้ประกอบการที่ให้โอกาสด้วย พอได้รับโอกาสแล้วเขาทำยิ่งกว่าคนที่มีครบอีก ก็เลยเติมน้ำมันเพื่อคุยกับเขาหน่อย น้องเขายิ้มและมีทัศนคติดีมากเลยนะ คือน้องเขาเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เกิด อีกอย่างเขาต้องดูแลแม่ด้วย ถามชาวบ้านแถวนั้น เขาก็บอกว่าน้องคนนี้ขยันขันแข็งมาก ก็ยังชื่นชมว่า แม้อายุยังน้อยก็ขอกราบหัวใจเขา ยังมีคนดีๆ ที่น่ากราบใจ อีกเยอะ เพราะว่าบางวัน ก็เป็นเหมือนกันที่มีอารมณ์เบื่อชีวิต เบื่อสิ่งที่มีอยู่ แต่จริงๆ ชีวิตเรามันโครตโชคดีมากๆ ถ้าเทียบกับคนหลายๆ คน ทำไมเราไม่ทำให้มันดีขึ้นไปอีก จากทุนที่เรามีล่ะ ของเขาทุนน้อยมีน้อย เขาทำให้ได้ผลมาก ของเรามีตั้งสูงกว่าเขา แล้วจะทิ่มแทงตัวเองให้ลงไปต่ำกว่าทำไม เพราะสิ่งนี้เลยแชร์เรื่องของน้องอานนท์ หลายๆ คนก็ขอบคุณน้อง ดังนั้นเราอย่าเพิ่งเบื่อ จริงๆ ชีวิตพวกเราดีนะ ว่างๆ ก็ชวนกันไปทำบุญ ทำสิ่งดีๆ กัน”





ขอขอบคุณที่มา
http://www.komchadluek.net/news/ent/374245