“กาฬโรค”มฤตยูที่กลับมา?

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 17 สิงหาคม 2009.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    <OBJECT id=atff style="Z-INDEX: 100000; WIDTH: 1px; POSITION: absolute; HEIGHT: 1px" classid=clsid:D27CDB6E-AE6D-11cf-96B8-444553540000>
























    </OBJECT>“กาฬโรค”มฤตยูที่กลับมา?

    <!-- AddThis Button BEGIN --><SCRIPT type=text/javascript>var addthis_pub="komchadluek";var addthis_brand = "คมชัดลึก";var addthis_header_color = "#ffffff";var addthis_header_background = "#3792ef"</SCRIPT><SCRIPT src="http://s7.addthis.com/js/200/addthis_widget.js" type=text/javascript></SCRIPT><!-- AddThis Button END -->
    [​IMG]




    <SCRIPT type=text/javascript>var id='24267';function count(){$.ajax({ type: "POST", url: "http://www.komchadluek.net/counter_news.php", data: "newsid="+id, success: function(txt){ var counter_=parseInt(txt); $('#counters').html('จำนวนคนอ่าน '+counter_+' คน'); } });} featuredcontentslider.init({ id: "slider1", contentsource: ["inline", ""], toc: "markup", nextprev: ["Previous", "Next"], revealtype: "click", enablefade: [true, 0.1], autorotate: [true, 8000], onChange: function(previndex, curindex){ }})</SCRIPT>คมชัดลึก : "กาฬโรค" นี้แปลตามชื่อคือ “มฤตยูดำ(Black death)” ที่คร่าชีวิตมนุษย์ถึง 1 ใน 3 ของทวีปยุโรป ไม่เว้นแม้แต่ในวาติกันอันเป็นบ้านของพระเจ้า เป็นความตายเดียวกับที่เกิดแก่ชาวอินเดียนแดงที่ได้รับเชื้อนี้มาจากคนผิวขาวที่เข้าไปรุกราน

    ทำให้เกิดพิธีกรรมไล่โรคอันน่าสยองอยู่หลายประการ เป็นต้นว่าจับยิวมาเผาทั้งเป็น แก้เคล็ดหรือต้องให้นักบวชเอาแส้มาเฆี่ยนเนื้อตัวให้แตกยับเป็นริ้วต่างการลงทัณฑ์ให้สวรรค์ได้รับรู้และอีกมาก
    ครั้นเมื่อผ่านยุคมืดแห่งความรู้คู่กับความกลัวไปแล้ว ก็สามารถจับผู้ร้ายแห่งกาฬโรคได้ว่า แท้จริงเกิดจากอินทรีย์เล็กเกินตาเห็นเรียกว่า “เยอสิเนีย เพสติส(Yersinia pestis)” ซึ่งชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นเชื้อกเฬวรากจรจัดอยู่ในสัตว์จำพวกหนู แต่เชื้อที่เราคิดว่ากะโหลกกะลานี้เองที่ยุคหนึ่งเคยมีคนคิดวิตถารจะเอามาเป็น "อาวุธเชื้อโรค" เพราะก่อนที่มันจะสิ้นฤทธิ์สูญพันธุ์ไปจากโลกดันมีคนช่างคิด (สั้น?) เสนอว่าน่าจะเก็บบางส่วนไว้ไม่ให้หายไป โดยให้เก็บดีๆ ให้พ้นจากมือทรชนคนก่อการร้ายเท่านั้นเอง
    ข่าวเรื่องกาฬโรคก็หายไปนานกว่า 30 ปี เพียงแต่มีอยู่บ้างประปรายในแอฟริกาแต่ก็ถูกปราบลงได้ทุกที จนมามีใหม่หมาดๆ เมื่อไม่กี่วันมานี้เองที่ทำให้ลูกหลานมังกรต้องเท่งทึงกันไปหลายคนในมณฑลชื่อคุ้นหูจากข่าวต่างประเทศซึ่งตอนนี้กลายเป็นมณฑลต้องห้ามถูกกักบริเวณกันทั้งเมืองหมดแล้ว
    การที่กาฬโรคมาขโมยซีนไข้หวัด 2009 ดังนี้หาใช่เป็นเพราะว่ามันอยู่ในเกณฑ์ที่เรียกว่าระบาดแล้วไม่ แต่เป็นเพราะความน่ากลัวของมันในอดีตและอาจเกิดได้ในคนที่ไม่แข็งแรงนัก ยิ่งในคนที่ยังก้ำๆ กึ่งๆ ไม่รู้ว่าเป็นไข้หวัด 2009 หรือเปล่านั้น อาจยิ่งเป็นรังรับเชื้อได้สูงทีเดียว ด้วยพิษร้ายจาก “ไข้ดำ”
    ก็ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรที่เกิดโรคระบาดคราใดก็ต้องมีจีนตกเป็นจำเลยร่วมทุกที ไม่รู้เป็นผลมาจากการพยายามเสาะหาอาหารแปลกมารับประทานจำพวกหัวใจหมี ดีแมลงวันหรือสัตว์น้อยใหญ่ในสปีชีส์ที่บางทีไม่คิดว่ากินได้มาปรนเปรอกันหรือเปล่า เพราะสัตว์แปลกเหล่านี้ที่สัตวแพทย์ท่านเรียกว่า “เอ็กซอติก(Exotic)” นั้นมักพกเชื้อโรคแปลกไว้ในตัวด้วยเช่นกัน ด้วยกาฬโรคนี้ก็มากับสัตว์ได้แก่ หมัดหนู ตัวหนู และสารคัดหลั่งที่มีการสัมผัสต่อเนื่องถึงกัน
    แต่ในกรณีที่มันเข้ากัดกินถึงตัวเราแล้ว เครื่องสังเวยที่มัจจุราชดำนี้โปรดปรานก็คือบรรดา "ตือฮวน" เครื่องในใหญ่น้อยของเรานั่นเอง ตั้งแต่ปอด ต่อมน้ำเหลือง ไข่ดัน และเลือด ถ้าแบ่งพิษกาฬโรคออกตามอวัยวะที่มันชอบไปกัดกินนี้ จะมีอยู่ 3 กลุ่มหลักคือ 1)ทำลายต่อมน้ำเหลือง 2)ทำลายปอด 3)ทำลายกระจายทั่วตัว
    ท้ายสุดโรคนิสัยเสียนี้จะย่ามใจไปไกลได้ถึงในเลือดที่ไหลเวียนเลี้ยงตัวเราอยู่ จนเกิดโลหิตเป็นพิษราวกับถูกมารโลหิตบวกยาสลายกระดูกทำลายเสียอีก เพราะสภาพสุดท้ายนอกจากจะมีจ้ำเลือดแล้วยังอาจไอเป็นเลือดสดออกมาด้วย
    อาการก่อนถูกสังเวยด้วย “กาฬโรค” สำหรับผู้ที่กลัวว่าตนเองจะตกอยู่ในข่ายมรณะแห่ง “ไข้ดำ” ลงปอด(Pneumonic plague) แบบหนุ่มจีนเคราะห์ร้ายนั้นขอให้ท่านลองสังเกตอาการดังต่อไปนี้ ได้แก่ 1)ไข้หนาวสั่น 2)ไอ เจ็บอก ไอเป็นเลือด 3)หอบเหนื่อยหมดแรงถึงขั้นช็อกได้
    อย่างไรก็ตาม มีอยู่ 2 เรื่องที่ขอหมายเหตุไว้คือเรื่อง "ไข้" กับ "ต่อมน้ำเหลืองโต" นั้น ถ้าไม่มีก็ไม่ได้หมายความว่าจะสบายใจได้ไม่เป็นแน่นอนนะครับ ที่ไม่อยากให้ชะล่าใจเพราะว่าท่านผู้อาวุโสหรือภูมิไม่ดีจะไม่มีไข้ได้แล้วถ้าทิ้งไว้เชื้อกาฬโรคก็จะกระจายหมายหัวไปตามอวัยวะสำคัญหมดจนสุดที่จะรักษาได้ครับ
    เคล็ดเผด็จศึกกาฬโรค ”ต้องดื่มน้ำไว้ จะได้ไม่ป่วย” เพราะโรคร้ายนี้ในยุโรปยุคอดีตถือเป็นโรคที่แม้พูดก็ยังห้ามพูดเลย เพราะเหตุว่ากลัวจะติดกันได้ ด้วยยังไม่รู้จักผู้ร้ายตัวจริง แต่พอครั้นถึงยุคราว 100 ปีก่อนที่สถาบันปาสเตอร์จับผู้ร้ายตัวจริงได้แล้วประกาศออกมาก็มีการหายารักษากันขนานใหญ่ ซึ่งยาที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ก็ได้แก่ยากลุ่มเดียวกับที่ใช้รักษา "วัณโรค" หรือรักษาอาการ "ติดเชื้อในช่องท้อง" ผนวกด้วยการรักษาตามอาการ
    การรักษาด้วยวิธี 1)ให้ยาฆ่าเชื้อ 2)ให้น้ำเกลือถ้ากินไม่ได้ ดังนั้นหากท่านพยายามกินให้ได้ยามป่วยไข้ก็จะเป็นการช่วยป้องกันโรคได้อยู่ไม่น้อยครับ ได้แก่การกินอาหารร้อนๆ ใหม่ๆ อย่างข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว หรือถ้ากินแทบไม่ไหวเลยถ้าได้เป็นน้ำซุปก็ยังดีครับ ซุปไก่ ซุปหมู ซุปหัวหอมซึ่งมีธาตุต้านโรคอยู่ หรือแม้น้ำเขียวน้ำแดงธรรมดานี้ก็มีน้ำตาลช่วยให้กระชุ่มกระชวยไม่ระทดระทวยชวนป่วยใจด้วย และที่สำคัญเลยก็คือให้ถือว่า “โรคมาได้เองมันก็ไปได้เอง” ถ้าไม่ยอมแพ้จนเสียสติ และเสียศูนย์ไปเสียก่อนครับ

    0 นพ.กฤษดา ศิรามพุช, พบ.(จุฬาฯ)0
    ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ
    American Board of Anti-aging medicine
    drkrisda@gmail.com
    --------------
    ที่มา:
     

แชร์หน้านี้

Loading...