“ภาพพุทธประวัติ” พร้อมคำบรรยายโดยสังเขป

**************************************************

ภาพที่ ๒๑
พระโพธิสัตว์ตัดพระเมาลีอธิษฐานเพศเป็นนักบวช
พระอินทร์และพระพรหมเสด็จมารับมวยพระเกศาและผ้าทรง
เพื่อนำไปประดิษฐาน ณ เทวโลก


ในภาพ...พระโพธิสัตว์สิทธัตถะทรงกระโดดขึ้นประทับบนเนินทราย
อธิษฐานเพศเป็นนักบวชโดยตัดพระเมาลี
และตรัสสั่งให้นายฉันนะนำเครื่องทรงบางส่วน
พร้อมม้ากัณฐกะ กลับไปยังพระนคร
พระอินทร์และพระพรหมเสด็จมารับมวยพระเกศาและผ้าทรง
เพื่อนำไปประดิษฐานยังเทวโลก

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๒๒
พระโพธิสัตว์ทรงบิณฑบาต
และฉันอาหารในบาตรเป็นครั้งแรก


ในภาพ...แสดงถึงการฉันอาหารในบาตรเป็นครั้งแรก
ของพระโพธิสัตว์สิทธัตถะ
ในอาหารปนเปคลุกเคล้ากันเป็นอาหารชาวบ้าน
ซึ่งทรงเตือนสติตนเองว่า
การที่ภิกษุบิณฑบาตได้อาหารก็เพื่อให้มีชีวิตอยู่
การค้นพบคือ “การตรัสรู้” ยิ่งในความจริงนั้นสำคัญยิ่งกว่า
จึงควรรักษาชีวิตไว้ และยินดีในการที่จะฉันอาหารนั้น

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๒๓
พระโพธิสัตว์ทรงศึกษา
ในสำนักอาฬารดาบส และอุททกดาบส
อาจารย์ผู้สอนสมาบัติ ณ กรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ


ในภาพ...พระโพธิสัตว์ทรงเลือกเข้าศึกษา
ในสำนักครูที่มีชื่อเสียงในกรุงราชคฤห์ แคว้นมคธ
เพื่อศึกษาธรรมลัทธิสำหรับเป็นอุบายธรรม
ทรงเข้าศึกษาในสำนักอาฬารกาลามดาบสเป็นสำนักแรก
ซึ่งเน้นการปฏิบัติทางบำเพ็ญจิตโดยเจริญสมาธิเกิดฌานสมาบัติ ๗
แล้วทรงศึกษาต่อในสำนักอุททกรามบุตรดาบส สำเร็จฌานสมาบัติ ๘
ทรงศึกษาปฏิบัติได้เทียบเท่าครู
แต่ทรงเห็นว่าน่าจะมีหนทางในวิธีปฏิบัติให้บรรลุได้ยิ่งกว่า
จึงเสด็จไปบำเพ็ญตบะด้วยตนเองตามลำพัง

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๒๔
พระโพธิสัตว์ทรงบำเพ็ญทุกกรกิริยา
ด้วยวิธีการต่างๆ อย่างอุกฤษฎ์เป็นเวลาถึง ๖ ปี
โดยมีหมู่ปัญจวัคคีย์คอยเฝ้าปรนนิบัติ


ในภาพ...พระโพธิสัตว์ทรงกระทำความเพียรอย่างอุกฤษฎ์
จนพระวรกายเหี่ยวแห้ง มีหนังติดกระดูก
ลักษณะมหาปุริสลักษณะหายไป
หมู่ปัญจวัคคีย์ที่คอยเฝ้าปรนนิบัติอยู่เชื่อว่าพระองค์จะทรงบรรลุ
ในที่สุดทรงค้นพบว่าวิธีปฏิบัตินี้เป็นทางสุดโต่ง
ทำให้ตนเองลำบาก ไม่ใช่หนทางพ้นทุกข์
ทรงพบว่าควรปฏิบัติทางสายกลาง คือไม่ตกไปทางใดทางหนึ่ง

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๒๕
นิมิตทางสายกลาง


ในภาพ...พระโพธิสัตว์ทรงไสยาสน์เป็นนิมิตว่า
หากจะทรงปฏิบัติเคร่งอย่างอุกฤษฎ์ก็จะทรงสิ้นชีวิตไปอย่างสูญเปล่่า
ทรงได้ปัญญาจากนิมิตทางสายกลาง
โดยพระโพธิสัตว์ทรงสดับพิณ ๓ สายที่พระอินทร์ราชเจ้าดีดถวาย
แล้วทรงวินิจฉัยว่า สายที่ ๑ ตึงเกินไป ดีดไม่นานก็ขาด
สายที่ ๒ หย่อนเกินไป ดีดไม่มีเสียง
สายที่ ๓ ขึงได้พอดี ดีดได้ไพเราะ
ทรงระลึกถึงความพอดีอันเป็นทางสายกลาง
ว่าอาจนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นได้
กล่าวคือ ความไม่หย่อน ไม่ตึงในการปฏิบัติ
โดยอบรมกายอินทรีย์็และการบำเพ็ญจิตนั้นต้องสมดุล
และเมื่ออินทรีย์แก่กล้าแล้วเจริญวิปัสสนาจึงจะนำไปสู่การตรัสรู้

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๒๖
ปัญจมหาสุบินนิมิต ๕ ประการ


ในภาพ...พระโพธิสัตว์ทรงพระสุบินนิมิต ๕ ประการ
ซึ่งได้เกิดนิมิตขึ้นคืนก่อนจะได้ตรัสรู้
เกิดขึ้นในสมัยพระพุทธเจ้า และทรงตั้งพระศาสนาขึ้น

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๒๗
พระโพธิสัตว์ทรงรับการถวายข้าวมธุปายาสจากนางสุชาดา
โดยนางได้หุงข้าวด้วยนมวัวที่เตรียมจากแม่วัว ๑,๐๐๐ ตัว


ในภาพ...พระโพธิสัตว์ประทับใต้โคนไม้ไทร
ทรงรับการถวายข้าวมธุปายาสจากนางสุชาดา
ซึ่งนางได้ถวายไปพร้อมถาดทอง
ส่วนสาวใช้ชื่อ ปุณณา ซึ่งนั่งอยู่ข้างหลัง
เมื่อนางสุชาดาได้ทำพลีกรรมเสร็จแล้ว
นางได้ยกย่องแต่งตั้งให้เป็นน้องสาว

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๒๘
พระโพธิสัตว์ทรงลอยถาดทอง
อธิษฐานเสี่ยงทายการตรัสรู้


ในภาพ...พระโพธิสัตว์เสด็จไปยังริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา
เพื่ออธิษฐานเสี่ยงทายการตรัสรู้โดยลอยถาดทองคำ
(ที่ทรงรับจากนางสุชาดาพร้อมกับข้าวมธุปายาส)
ถาดทองนั้นแล่นทวนกระแสเป็นนิมิตความหมายว่่า “ได้ตรัสรู้”
เพื่อนำไปแก้ปัญหาความพ้นทุกข์
คือการข้ามพ้นไปจากการเวียนเกิดเวียนตาย (นิพพาน)

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๒๙
พระโพธิสัตว์ทรงรับหญ้ากุศะหรือหญ้าคา
๘ กำ (ฟ่อน) จากโสตถิยพราหมณ์


ในภาพ...ในเวลาเย็นของวันเพ็ญเดือนหก
พระโพธิสัตว์ทรงรับการถวายหญ้ากุศะหรือหญ้าคา
๘ กำ (ฟ่อน) จากโสตถิยพราหมณ์
แล้วทรงอธิษฐานให้เป็นรัตนบัลลังก์แก้ว
ยังทิศตะวันออกของโคนไม้มหาโพธิพฤกษ์

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๓๐
พระโพธิสัตว์ทรงผจญพญามาร
ทรงชนะมารด้วยทศบารมีที่ทรงบำเพ็ญมานับประมาณไม่ได้


ในภาพ...พระโพธิสัตว์ประทับ ณ รัตนบัลลังก์ ใต้ร่มมหาโพธิพฤกษ์
พระองค์ทรงผจญพญามารและพิชิตหมู่มาร
โดยทรงอ้างถึงทศบารมีที่ทรงบำเพ็ญมานับประมาณไม่ได้
พระแม่ธรณีสุนทรีย์ทรงบีบมวยผม
ปรากฏน้ำไหลออกมาท่วมหมู่มารให้พ่ายแพ้
ส่วนพญามารมีจิตโกรธเป็นสีแดง
แต่ด้วยพระโพธิสัตว์ทรงพระปัญญาและทศบารมี
จึงทำให้หมู่มารนั้นแพ้พ่ายไปในที่สุด

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๓๑
พระโพธิสัตว์ทรงตรัสรู้อริยสัจ ๔
สำเร็จพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


ในภาพ...หลังทรงตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระศาสดาเอกของโลก ในวันเพ็ญเดือนหก
แล้วทรงประทับนั่งสมาธิ ณ รัตนบัลลังก์ ใต้ร่มมหาโพธิพฤกษ์
ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เสวยวิมุติสุขอันประณีต ๑ สัปดาห์ฺ
นับเป็นกาลสมัยอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้าผู้มีพระนามว่า
“พระศรีศากยโคดมพุทธเจ้า”

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๓๒
ท้าวสหัมบดีพรหม
อาราธนาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แสดงพระธรรมโปรดสัตว์โลก


ในภาพ...พระพุทธเจ้าทรงรับอาราธนาแสดงธรรม
ในท่าประทานพรพิจารณาหมู่เวไนยสัตว์แล้ว

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๓๓
หมู่เวไนยสัตว์เปรียบประดุจบัว ๔ เหล่า


ในภาพ...พระพุทธองค์ทรงพิจารณาเวไนยสัตว์ ๔
ที่สามารถรู้ตามธรรมที่ทรงแสดงได้ เปรียบประดุจบัว ๔ เหล่า
พระพุทธองค์ได้ทรงเพ่งพินิจไปยังบัวที่อยู่ริมน้ำ
เป็นสัญลักษณ์ของหมู่เวไนยสัตว์ ๔ เหล่า
ที่ทรงจะได้มีพุทธกิจเสด็จไปโปรด

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๓๔
พระพุทธองค์ทรงรับไม้สีพระทนต์และผลสมอ
จากท้าวสักกเทวราช และทรงอธิษฐานบาตร ๔ ใบ
จากท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ ให้เป็นใบเดียว


ในภาพ...พระุพุทธเจ้าทรงออกจากณานสมาบัติในวันที่ ๔๙
ขณะนั้นประทับอยู่ใต้ร่มเกด (ต้นราชายตนะ)
ท้าวสักกเทวราชได้นำไม้สีพระทนต์และผลสมอมาถวาย
ส่วนท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ ที่กำลังเสด็จเหาะมา
ได้นำบาตรแก้วอินทนิลมาถวาย ทรงอธิษฐานบาตร ๔ ใบ
จากท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ ให้เป็นใบเดียว

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๓๕
พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา


ในภาพ...พระพุทธองค์ทรงแสดงปฐมเทศนา
“ธัมมจักรกัปปวัตนสูตร” ครั้งแรกแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕
คือโกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ
พระโกณฑัญญะได้ดวงตาเห็นธรรม
บรรลุเป็นพระอริยสาวกองค์แรกในพระพุทธศาสนา
นั่งอยู่ด้านขวาของพระพุทธเจ้า

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๓๖
พระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนา
โปรดยสะ บิดามารดาของยสะ


ในภาพ...พระพุทธองค์ทรงแสดงพระธรรมเทศนา
โปรดยสะ และบิดามารดาของยสะ โดยได้กำบังกายของยสะไว้
ยสะได้ฟังพระสัทธรรมรอบที่ ๒ ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
ต่อมาขอบวชพร้อมสหาย ๔๕ คน
ซึ่งเมื่อบวชแล้วได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๓๗
พระพุทธองค์ทรงเสด็จไปโปรดอาฬวกยักษ์


ในภาพ...พระพุทธองค์ทรงเสด็จไปโปรดยักษ์ชื่อ อาฬวกยักษ์
เป็นนัยความหมายว่่า ทรงล้างความเห็นผิดของชนพื้นเมืองขณะนั้น
ที่นับถือในศาสนาเทพศิวะ มีพิธีเซ่นสังเวยมนุษย์เป็นพลีกรรม
ซึ่งการฆ่าเป็นอกุศลอย่างยิ่ง เป็นมิจฉาทิฎฐิ

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๓๘
พระพุทธองค์โปรดชฎิล ๓ พี่น้องพร้อมบริวาร
ที่ตำบลคยาให้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ๑,๐๐๐ รูป


ในภาพ...เมื่อชฎิลผู้น้องที่อยู่ระหว่างกลางแม่น้ำและปลายแม่น้ำ
ทราบว่าผู้พี่บวชในสำนักพระพุทธองค์แล้ว
โดยเห็นเครื่องบริขารของชฎิลลอยตามน้ำมา
จึงได้ชักชวนกันไปบวชตามผู้พี่ยังสำนักพระพุทธเจ้า

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๓๙
พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโปรดพระเจ้าพิมพิสาร
และข้าราชบริพาร ณ ลัฏฐิวัน หรือสวนตาลหนุ่ม
พระอุรุเวลกัสสปเถระแสดงฤทธิ์
และประกาศความเป็นพระสาวกของพระพุทธองค์


ในภาพ...พระพุทธเจ้าทรงเป็นประธานหมู่สงฆ์สาวก
ทรงตั้งอยู่ในฐานะพระศาสดา
พระอุรุเวลกัสสปเถระได้แสดงฤทธิ์ยืนยันในความเป็นพระสาวก
ทำให้พระเจ้าพิมพิสารทรงมีพระราชศรัทธาในพระพุทธเจ้า

**************************************************

 

**************************************************

ภาพที่ ๔๐
พระเจ้าพิมพิสารทรงถวายสวนหลวงเวฬุวัน
เป็นสังฆารามแห่งแรกในพระพุทธศาสนาแด่คณะสงฆ์


ในภาพ...พระเจ้าพิมพิสารทรงถือสุวรรณภิงคาร
(น้ำเต้าทอง) หลั่งน้ำอุททิโสทกลงบนพระหัตถ์พระพุทธเจ้า
ถวายที่ดินคือสวนหลวงเวฬุวันให้เป็นที่ตั้งเสนาสนะ
แด่คณะสงฆ์เป็นแห่งแรก
และได้มีการถวายตัวเป็นผู้อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา

**************************************************