“มะเร็ง”ไม่เป็นก็ได้เป็นก็หายรู้จักมันก่อนที่มันจะรู้จักเรา

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 30 มกราคม 2010.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    “มะเร็ง”ไม่เป็นก็ได้เป็นก็หายรู้จักมันก่อนที่มันจะรู้จักเรา

    <!-- AddThis Button BEGIN --><script type="text/javascript">var addthis_pub="komchadluek";var addthis_brand = "คมชัดลึก";var addthis_header_color = "#ffffff";var addthis_header_background = "#3792ef"</script><script type="text/javascript" src="http://s7.addthis.com/js/200/addthis_widget.js"></script> <!-- AddThis Button END -->
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    <script type="text/javascript">var id='46258';function addCommas(nStr){ nStr += ''; x = nStr.split('.'); x1 = x[0]; x2 = x.length > 1 ? '.' + x[1] : ''; var rgx = /(\d+)(\d{***)/; while (rgx.test(x1)) { x1 = x1.replace(rgx, '$1' + ',' + '$2'); } return x1 + x2;}function count(){$.ajax({ type: "POST", url: "http://www.komchadluek.net/counter_news.php", data: "newsid="+id, success: function(txt){ var counter_=parseInt(txt); $('#counters').html('คนอ่าน '+addCommas(counter_)+' คน'); } });} featuredcontentslider.init({ id: "slider1", contentsource: ["inline", ""], toc: "markup", nextprev: ["Previous", "Next"], revealtype: "click", enablefade: [true, 0.1], autorotate: [true, 8000], onChange: function(previndex, curindex){ }})</script>คมชัดลึก :“ผู้ป่วยโรคมะเร็งทั่วโลกปัจจุบันอยู่ที่ 12 ล้านคนต่อปี เสียชีวิต 7.6 ล้านคนต่อปี คาดว่าอีก 20 ปีข้างหน้า จะมีผู้ป่วยโรคมะเร็ง 26 ล้านคน และเสียชีวิต 17 ล้านคนต่อปี โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา แต่เราเปลี่ยนสภาวะนี้ได้ โดยประชาชนต้องมีความเข้าใจว่ามะเร็งป้องกันได้ ไม่เป็นก็ได้ เป็นก็หาย”


    ศ.นพ.พิทยภูมิ ภัทรนุธาพร รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ฉายภาพสถานการณ์ผู้ป่วยมะเร็ง
    ด้วยเหตุนี้องค์การอนามัยโลก หรือฮู (WHO) จึงกำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันมะเร็งโลก เพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนตระหนักถึงโรคมะเร็งมะเร็ง เพราะอัตราการเกิดโรคมะเร็งในแต่ละภูมิภาคทั่วโลกแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพันธุกรรม สิ่งแวดล้อมและพฤติกรรม เช่น ประเทศญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารมาก อาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีรสเค็มและติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด
    หรือประเทศจีน มีผู้ป่วยมะเร็งโพรงจมูกมากเป็นอันดับของผู้ป่วยทั่วโลก เพราะพันธุกรรม รับประทานอาหารที่เป็นของหมักและกำยาน ควันธูป ขณะที่มะเร็งปากมดลูกจะพบมากในประเทศกำลังพัฒนา ยากจน เช่น ประเทศไทย และประเทศในแถบอเมริกาใต้ แต่ไม่พบในประเทศอิสราเอล อาจเกี่ยวข้องกับการขลิบอวัยวะเพศชาย จึงไม่สามารถบอกได้ว่ามะเร็งชนิดไหนพบมากที่สุดในโลก
    ประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งทางเดินน้ำดีมากที่สุดของโลก ประมาณ 19%ของผู้ป่วยมะเร็งชนิดนี้ทั่วโลก ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาเหตุเกิดจากการรับประทานปลาดิบ และปัจจุบันมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย มากกว่าโรคหัวใจและอุบัติเหตุ โดยมะเร็งที่พบมากได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพศชายพบมะเร็งตับมากที่สุด เพศหญิงพบมะเร็งปากมดลูกและเต้านม
    ศ.นพ.พิทยภูมิ บอกว่า มะเร็งมีประมาณ 200 ชนิด แต่ละชนิดแบ่งย่อยได้อีกราว 5 กลุ่ม และมีระยะโรคอีก 4 ขั้น ทำให้การรักษามีความต่างกัน อาทิ มะเร็งปากมดลูก ในระยะเริ่มต้นก่อนลุกลามสู่ระยะที่ 1 เพียงตัดปากมดลูกทิ้งก็หาย ถ้าเข้าสู่ระยะที่ 1 รักษาด้วยการผ่าตัดและฉายรังสีจะช่วยให้หายได้ประมาณ 90% ระยะที่ 2 ฉายรังสีควบคู่กับการให้เคมีบำบัด ระยะที่ 3 ฉายรังสี ให้เคมีบำบัดและเพิ่มเติมยามุ่งเป้า ส่วนระยะที่ 4 ปัจจุบันเริ่มรักษาให้หายด้วยเทคนิคการผ่าตัด และฉายรังสีพิเศษให้แก่บางกลุ่ม แต่โดยมากยังเป็นการรักษาประคับประคอง เป็นต้น
    “มาตรฐานการรักษามะเร็งของไทยทัดเทียมกับประเทศแถบยุโรปและอเมริกา แต่ผู้ป่วยมาถึงสถานพยาบาลช้า ทำให้ระยะโรคเป็นมาก ตอนที่เป็นก้อนเล็กไม่เจ็บ จนก้อนโตแตกหรือเจ็บจึงไปพบแพทย์ ต้องให้ความรู้ประชาชนในเรื่องนี้มากขึ้นและดำเนินการตรวจคัดกรองมะเร็งเชิงรุก เพื่อให้ตรวจเจอผู้ป่วยมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาให้หาย” ศ.นพ.พิทยภูมิกล่าว
    ในส่วนของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้ดำเนินการตรวจคัดกรองมะเร็งให้แก่ประชาชน ภายใต้โครงการบำเพ็ญพระกุศล โดยปี 2552 นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยการส่องกล้องไปแล้วประมาณ 600 คน เนื่องจากจำนวนคนไทยป่วยด้วยมะเร็งชนิดนี้ ขยับจากลำดับที่ 7-8 เป็นลำดับที่ 5 เกิดจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินเน้นอาหารกลุ่มมันเนยมากขึ้น
    ทั้งนี้ ชายไทยป่วยรายใหม่ราว 2,700 คนต่อปี ผู้หญิง 2,100 คนต่อปี ซึ่งมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะแรกสามารถรักษาหายขาดได้ด้วยการผ่าตัดอย่างเดียวถึง 90% และผลของการตรวจคัดกรองประชาชนพบผู้ป่วยระยะแรกถึง 2% หรือประมาณ 10-12 คน และตรวจเจอติ่งเนื้อและตัดทิ้งเพื่อป้องกันไม่ให้คนไข้เป็นมะเร็ง 17-20% ประมาณ 100 คน
    ปี 2553 จะตรวจคัดกรองมะเร็งตับที่พบมากที่สุดในชายไทย ผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 1 หมื่นรายต่อปีและเพศหญิงพบประมาณ 4,000 รายต่อปี หรือชายมีอัตราป่วย 38.6 ต่อแสนประชากร และเพศหญิง 17.2 ต่อแสนประชากร เพศชายพบมากกว่าเพศหญิงกว่า 2 เท่า กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ผู้ป่วยโรคตับแข็งจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานอาหารที่มีเชื้อราอัลฟลาท็อกซิน และติดเชื้อไวรัสอื่นๆ เช่น ไวรัสตับอักเสบซี
    อย่างไรก็ตาม โรคมะเร็งป้องกันได้มากกว่า 40% ถ้าไม่สูบบุหรี่ รับประทานอาหารถูกหลักโภชนาการ ไม่ให้อ้วน.ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ป้องกันการติดเชื้อต่างๆ เช่น ไวรัสตับอักเสบบี และไวรัสเอชพีวี เป็นต้น และลดการได้รับแสงแดดจ้ามากเกินไป เพื่อลดการป่วยเป็นมะเร็งผิวหนัง
    ขณะเดียวกันภาครัฐ ต้องสร้างสภาวะแวดล้อมที่ปลอดบุหรี่ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ต้องให้ความสำคัญกับโรคมะเร็งเป็นลำดับต้นๆ ตั้งหน่วยงานกลางทำงานให้ประชาชนตื่นตัว พัฒนาบุคลากรที่ให้การรักษาโรคมะเร็ง โดยเฉพาะแพทย์เฉพาะทางรังสีและเคมีบำบัดที่ปัจจุบันมีเพียง 100 คนต่อสาขา และพัฒนาระบบส่งต่อให้มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาที่เหมาะสม
    วันมะเร็งโลกปีนี้ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์จัดกิจกรรมในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง ให้บริการคลินิกประเมินความเสี่ยงในการเกิดอยู่ในระดับใด มีแพทย์และพยาบาลให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ซึ่งจริงๆ แล้ว โรคมะเร็งถ้าเมื่อเริ่มมีอาการให้รีบมารับการรักษา จะมีโอกาสหายได้เหมือนโรคพื้นๆ ทั่วไป
    พวงชมพู ประเสริฐ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดความเสี่ยงและสนใจตรวจคัดกรอง
    <script type="text/javascript">google_ad_channel = '9989085094'; //slot numbergoogle_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads//google_image_size = '300X250';//google_skip = '3';var ads_ID = 'adsense_inside'; // set ID for main Element divvar displayBorderTop = false; // default = false;//var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type imagevar position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail</script><script type="text/javascript" src="http://www.komchadluek.net/AdsenseJS.js"></script><script type="text/javascript" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></script><script src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></script><script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></script><script>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</script><script language="JavaScript1.1" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1264807544&num_ads=3&channel=9989085094&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.0.42.34&url=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2Fdetail%2F20100128%2F46258%2F%E2%80%9C%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87%E0%B8%87%E2%80%9D%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B2.html&dt=1264807543953&correlator=1264807544046&dblk=1&frm=0&ga_vid=1157470739.1264108290&ga_sid=1264806471&ga_hid=1192194867&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=1&u_java=1&u_h=800&u_w=1280&u_ah=770&u_aw=1280&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=771&bih=404&ref=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.com%2F&fu=0&ifi=1&dtd=140"></script>
    ที่มา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 มกราคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...