“มะเร็ง”ไม่เป็นก็ได้เป็นก็หายรู้จักมันก่อนที่มันจะรู้จักเรา

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย piyaa, 31 มกราคม 2010.

  1. piyaa

    piyaa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,730
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,072



    <!-- AddThis Button BEGIN --> <script type="text/javascript"> var addthis_pub="komchadluek"; var addthis_brand = "คมชัดลึก"; var addthis_header_color = "#ffffff"; var addthis_header_background = "#3792ef" </script> [​IMG]<script type="text/javascript" src="http://s7.addthis.com/js/200/addthis_widget.js"></script> <!-- AddThis Button END --> [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    <script type="text/javascript"> var id='46258'; function addCommas(nStr) { nStr += ''; x = nStr.split('.'); x1 = x[0]; x2 = x.length > 1 ? '.' + x[1] : ''; var rgx = /(\d+)(\d{***)/; while (rgx.test(x1)) { x1 = x1.replace(rgx, '$1' + ',' + '$2'); } return x1 + x2; } function count(){ $.ajax({ type: "POST", url: "http://www.komchadluek.net/counter_news.php", data: "newsid="+id, success: function(txt){ var counter_=parseInt(txt); $('#counters').html('คนอ่าน '+addCommas(counter_)+' คน'); } }); } featuredcontentslider.init({ id: "slider1", contentsource: ["inline", ""], toc: "markup", nextprev: ["Previous", "Next"], revealtype: "click", enablefade: [true, 0.1], autorotate: [true, 8000], onChange: function(previndex, curindex){ } }) </script> คมชัดลึก :“ผู้ป่วยโรคมะเร็งทั่วโลกปัจจุบันอยู่ ที่ 12 ล้านคนต่อปี เสียชีวิต 7.6 ล้านคนต่อปี คาดว่าอีก 20 ปีข้างหน้า จะมีผู้ป่วยโรคมะเร็ง 26 ล้านคน และเสียชีวิต 17 ล้านคนต่อปี โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา แต่เราเปลี่ยนสภาวะนี้ได้ โดยประชาชนต้องมีความเข้าใจว่ามะเร็งป้องกันได้ ไม่เป็นก็ได้ เป็นก็หาย”
    <script type="text/javascript"> google_ad_channel = '9989085094'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '300X250'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'adsense_inside'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </script> <script type="text/javascript" src="http://www.komchadluek.net/AdsenseJS.js"></script> <script type="text/javascript" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"></script><script src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></script><script>google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</script><script language="JavaScript1.1" src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1264903930&num_ads=3&channel=9989085094&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.0.12&url=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2Fdetail%2F20100128%2F46258%2F%25E2%2580%259C%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B0%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2587%25E2%2580%259D%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2588%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2587%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%2594%25E0%25B9%2589%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%259B%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2587%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B0%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2.html&dt=1264903931905&correlator=1264903931906&frm=0&ga_vid=753136660.1232873916&ga_sid=1264903758&ga_hid=1765100064&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=1&u_java=1&u_h=864&u_w=1152&u_ah=830&u_aw=1152&u_cd=32&u_nplug=18&u_nmime=59&biw=1127&bih=664&ref=http%3A%2F%2Fwww.komchadluek.net%2F&fu=0&ifi=1&dtd=27"></script>



    ศ.นพ.พิทยภูมิ ภัทรนุธาพร รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ฉายภาพสถานการณ์ผู้ป่วยมะเร็ง
    ด้วยเหตุนี้องค์การอนามัยโลก หรือฮู (WHO) จึงกำหนดให้วันที่ 4 กุมภาพันธ์ของทุกปีเป็นวันมะเร็งโลก เพื่อกระตุ้นเตือนให้ประชาชนตระหนักถึงโรคมะเร็ง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดความเสี่ยงและสนใจตรวจคัดกรองมะเร็ง เพราะอัตราการเกิดโรคมะเร็งในแต่ละภูมิภาคทั่วโลกแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพันธุกรรม สิ่งแวดล้อมและพฤติกรรม เช่น ประเทศญี่ปุ่น พบผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหารมาก อาจเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีรสเค็มและติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด
    หรือประเทศจีน มีผู้ป่วยมะเร็งโพรงจมูกมากเป็นอันดับของผู้ป่วยทั่วโลก เพราะพันธุกรรม รับประทานอาหารที่เป็นของหมักและกำยาน ควันธูป ขณะที่มะเร็งปาก มดลูกจะพบมากในประเทศกำลังพัฒนา ยากจน เช่น ประเทศไทย และประเทศในแถบอเมริกาใต้ แต่ไม่พบในประเทศอิสราเอล อาจเกี่ยวข้องกับการขลิบอวัยวะเพศชาย จึงไม่สามารถบอกได้ว่ามะเร็งชนิดไหนพบมากที่สุดในโลก
    ประเทศไทยพบผู้ป่วยมะเร็งทางเดินน้ำดีมากที่สุดของโลก ประมาณ 19%ของผู้ป่วยมะเร็งชนิดนี้ทั่วโลก ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สาเหตุเกิดจากการรับประทานปลาดิบ และปัจจุบันมะเร็งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย มากกว่าโรคหัวใจและอุบัติเหตุ โดยมะเร็งที่พบมากได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพศชายพบมะเร็งตับมากที่สุด เพศหญิงพบมะเร็งปากมดลูกและเต้านม
    ศ.นพ.พิทยภูมิ บอกว่า มะเร็งมีประมาณ 200 ชนิด แต่ละชนิดแบ่งย่อยได้อีกราว 5 กลุ่ม และมีระยะโรคอีก 4 ขั้น ทำให้การรักษามีความต่างกัน อาทิ มะเร็งปาก มดลูก ในระยะเริ่มต้นก่อนลุกลามสู่ระยะที่ 1 เพียงตัดปากมดลูกทิ้งก็หาย ถ้าเข้าสู่ระยะที่ 1 รักษาด้วยการผ่าตัดและฉายรังสีจะช่วยให้หายได้ประมาณ 90% ระยะที่ 2 ฉายรังสีควบคู่กับการให้เคมีบำบัด ระยะที่ 3 ฉายรังสี ให้เคมีบำบัดและเพิ่มเติมยามุ่งเป้า ส่วนระยะที่ 4 ปัจจุบันเริ่มรักษาให้หายด้วยเทคนิคการผ่าตัด และฉายรังสีพิเศษให้แก่บางกลุ่ม แต่โดยมากยังเป็นการรักษาประคับประคอง เป็นต้น
    “มาตรฐานการรักษามะเร็งของ ไทยทัดเทียมกับประเทศแถบยุโรปและอเมริกา แต่ผู้ป่วยมาถึงสถานพยาบาลช้า ทำให้ระยะโรคเป็นมาก ตอนที่เป็นก้อนเล็กไม่เจ็บ จนก้อนโตแตกหรือเจ็บจึงไปพบแพทย์ ต้องให้ความรู้ประชาชนในเรื่องนี้มากขึ้นและดำเนินการตรวจคัดกรองมะเร็งเชิงรุก เพื่อให้ตรวจเจอผู้ป่วยมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาให้หาย” ศ.นพ.พิทยภูมิกล่าว
    ในส่วนของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ได้ดำเนินการตรวจคัดกรองมะเร็งให้แก่ประชาชน ภายใต้โครงการบำเพ็ญพระกุศล โดยปี 2552 นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยการส่องกล้องไปแล้วประมาณ 600 คน เนื่องจากจำนวนคนไทยป่วยด้วยมะเร็งชนิดนี้ ขยับจากลำดับที่ 7-8 เป็นลำดับที่ 5 เกิดจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินเน้นอาหารกลุ่มมันเนยมากขึ้น
    ทั้งนี้ ชายไทยป่วยรายใหม่ราว 2,700 คนต่อปี ผู้หญิง 2,100 คนต่อปี ซึ่งมะเร็งลำ ไส้ใหญ่ระยะแรกสามารถรักษาหายขาดได้ด้วยการผ่าตัดอย่างเดียวถึง 90% และผลของการตรวจคัดกรองประชาชนพบผู้ป่วยระยะแรกถึง 2% หรือประมาณ 10-12 คน และตรวจเจอติ่งเนื้อและตัดทิ้งเพื่อป้องกันไม่ให้คนไข้เป็นมะเร็ง 17-20% ประมาณ 100 คน
    ปี 2553 จะตรวจคัดกรองมะเร็งตับ ที่พบมากที่สุดในชายไทย ผู้ป่วยรายใหม่ประมาณ 1 หมื่นรายต่อปีและเพศหญิงพบประมาณ 4,000 รายต่อปี หรือชายมีอัตราป่วย 38.6 ต่อแสนประชากร และเพศหญิง 17.2 ต่อแสนประชากร เพศชายพบมากกว่าเพศหญิงกว่า 2 เท่า กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ผู้ป่วยโรคตับแข็งจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานอาหารที่มีเชื้อราอัลฟลาท็อกซิน และติดเชื้อไวรัสอื่นๆ เช่น ไวรัสตับอักเสบซี
    อย่างไรก็ตาม โรคมะเร็งป้องกัน ได้มากกว่า 40% ถ้าไม่สูบบุหรี่ รับประทานอาหารถูกหลักโภชนาการ ไม่ให้อ้วน.ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ป้องกันการติดเชื้อต่างๆ เช่น ไวรัสตับอักเสบบี และไวรัสเอชพีวี เป็นต้น และลดการได้รับแสงแดดจ้ามากเกินไป เพื่อลดการป่วยเป็นมะเร็งผิวหนัง
    ขณะเดียวกันภาครัฐ ต้องสร้างสภาวะแวดล้อมที่ปลอดบุหรี่ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ต้องให้ความสำคัญกับโรคมะเร็งเป็นลำดับต้นๆ ตั้งหน่วยงานกลางทำงานให้ประชาชนตื่นตัว พัฒนาบุคลากรที่ให้การรักษาโรคมะเร็ง โดยเฉพาะแพทย์เฉพาะทางรังสีและเคมีบำบัดที่ปัจจุบันมีเพียง 100 คนต่อสาขา และพัฒนาระบบส่งต่อให้มีประสิทธิภาพ จะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาที่เหมาะสม
    วันมะเร็งโลกปีนี้ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์จัดกิจกรรมในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง ให้บริการคลินิกประเมินความเสี่ยงในการเกิดอยู่ในระดับใด มีแพทย์และพยาบาลให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ซึ่งจริงๆ แล้ว โรคมะเร็งถ้าเมื่อเริ่มมีอาการให้รีบมารับการรักษา จะมีโอกาสหายได้เหมือนโรคพื้นๆ ทั่วไป
    0 พวงชมพู ประเสริฐ 0
     
  2. terryh

    terryh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    768
    ค่าพลัง:
    +1,280
    อันตรายอาหารเนื้อสัตว์ ก่อให้เกิดโรคมะเร็งร้ายหลาย ๆ ชนิด

    อันตรายอาหารเนื้อสัตว์ ก่อให้เกิดโรคมะเร็งร้ายหลาย ๆ ชนิด
    ----ยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ และ ทีมคณะแพทย์ชื่อดังระดับโลกที่<WBR>ทำการศึกษาวิจัยจากผู้ ป่วยกว่า 500000 คนท่วโลก ใช้เวลากว่า 7 ปี โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ แพทย์ กว่า 12000 คน

    น่ากลัวคาดว่าจะมีผู้ป่<WBR>วยรายใหม่ ๆ เพิ่มอีกกว่า
    เนื้อสัตว์ เป็นบ่อเกิด ต้นตอของนานาโรคร้ายหลากหลายชนิ<WBR>ด
    เช่นโรคมะเร็ง เต้านม มะเร็งลำไส้ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งต่อมน้ำเหลือง
    และจากการวิจัยล่าสุดโดยมหาวิ<WBR>ทยาลัยแพทย์ ฮาวาด์ แห่งสหรัฐ และ
    มหาลัยแพทย์ ลีด แห่ง ประเทศอังกฤษ เนื้อสัตว์ ยังเป็นต้นเหตุหลัก ๆ ของ
    มะเร็งต่อมลูกหมาก และ มะเร็งรังไข่

    ข้อมูลโดยมหาลัยแพทย์ชื่อดั<WBR>งระดับโลก
    มหาลัยเทกซัส สหรัฐ
    มหาลัยชิคาโก สหรัฐ
    มหาลัยฮาวาย สหรัฐ
    มหาลัยฮาววาด สหรัฐ
    มหาลัยแพทย์ แห่งออสเตอเรีย
    มหาลัยคิวเบค แห่งแคนาดา
    มหาลัยออกฟอร์ด แห่งอังกฤษ
    มหาลัยลีด แห่งอังกฤษ
    มหาลัยแฟงค์เฟิต แห่งเยอรมัน

    โดยการสนับสนุนสถาบันวิจัย โรคมะเร็ง แห่งสหรัฐ
    National Cancer Research Institue - USA
    สถาบันโรคมะเร็ง แห่ง WHO
    The World Cancer Research Fund ( WCRF )
    และวารสารสุขภาพชื่อดังระดั<WBR>บโลกกว่า 100 ฉบับรวมถึง
    เอกสารทางการแพทย์ จากมหาวิทยาลัยแพทย์ชื่อดังก้<WBR>องโลก

    ไม่กินเนื้อสัตว์ แล้วเราจะตายหรือไม่ (พุทธศาสตร์+วิทยาศาสตร์

    มุมมองความเห็นจากพระสงฆ์ไทย

    และจากพระ อาจารย์ บัญฑิต พระฝรั่งชาวอังกฤษ


    ได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้ประเทศอั<WBR>งกฤษ ประชากรกว่า40% หรือเกือบ 30 ล้านคน
    ได้ละเลิกการบริโภคเนื้อสัตว์ มาเป็นอาหารมังสะวิรัติ
    ปลอดเนื้อสัตว์ เพื่อสุขภาพ และ หวั่นเกรงมหันตภัยโรคร้าย
    จากเนื้อสัตว์ ที่เคยคุกคามฆ่าชีวิตชาวอั<WBR>งกฤษเป็นจำนวนมากจากโรคมะเ ร็ง ไขมันอุดตัน โรคหัวใจ ปีละจำนวนมาก ๆ ต่อเนื่องด้วยโรควัวบ้าระบาด เมื่อ 6 ปีก่อน และอีก 3 ปีถัดมาโรคไข้หวัดนกระบาด ทำให้ชาวอังกฤษหวาดผวาภัยจากเนื<SCRIPT><!--D(["mb","\u003cspan\u003e\u003c/span\u003e ้อสัตว์ \u003cbr\u003e\n\u003cbr\u003eข้อมูลที่น่าสนใจในเวปข้างล่าง\u003cbr\u003e\u003cbr\u003e\u003ca href\u003d\"http://www.watisan.com/wizContent.asp?wizConID\u003d785\u0026amp;txtmMenu_ID\u003d7\" target\u003d\"_blank\" onclick\u003d\"return top.js.OpenExtLink(window,event,this)\"\u003e\u003cfont color\u003d\"#496690\"\u003ehttp://www.watisan.com/\u003cWBR\u003ewizContent.as...\u0026amp;txtmMenu_ID\u003d7\u003c/font\u003e\u003c/a\u003e \u003cbr\u003e\n\u003cbr\u003e\u003ca href\u003d\"http://www.watisan.com/showdetail.asp?boardid\u003d1080\" target\u003d\"_blank\" onclick\u003d\"return top.js.OpenExtLink(window,event,this)\"\u003e\u003cfont color\u003d\"#496690\"\u003ehttp://www.watisan.com/\u003cWBR\u003eshowdetail.asp?boardid\u003d1080\u003c/font\u003e\u003c/a\u003e\u003cbr\u003e\n\u003cbr\u003e\u003cbr\u003e******************************\u003cWBR\u003e****************\u003cbr\u003e\u003cbr\u003eยังมีข้อมูลอีกมากมายนับไม่ถ้วน อาจมากกว่า 100 บทความ\u003cbr\u003eที่มีการศึกษาวิจัยอย่างกว้\u003cWBR\u003eางขวางทั้งในยุโรป อเมริกา แคนาดา และออสเตอเรีย\u003cbr\u003eถึงผลร้ายของการบริโภคเนื้อสั\u003cWBR\u003eตว์ในเชิง สุขภาพ และการระบาดของโรคมะเร็งร้าย นอกจากโรคไขมันอุดตัน โรคหัวใจ อันเป็นผลจากเนื้อสัตว์\u003cbr\u003e\n\u003cbr\u003eแต่ไทยเรากลับปิดปากเงียบ ไม่มีการเปิดเผยข้อมูล อันน่ารู้นี้ มีแต่เฉพาะ\u003cbr\u003eวงการแพทย์ ที่หันหลังการบริโภคเนื้อสัตว์ มาเป็นอาหารปลอดเนื้อสัตว์\u003cbr\u003e\u003cbr\u003eที่แน่ ๆ การบริโภคเนื้อสัตว์ นอกจากผลดีต่อสุขภาพ ยังเป็นการละบ่วงเวรกรรม\u003cbr\u003e\nจากการร่วมทำลายล้าง สัตว์อื่น ๆ\u003cbr\u003e\u003cbr\u003eโรคมะเร็ง ต้นเหตหลักที่แท้จริงจากงานศึ\u003cWBR\u003eกษา วิจัยโรคมะเร็ง สาเหตุหลัก ของการก่อตัวของโรคร้ายต่อมนุ\u003cWBR\u003eษย์\u003cbr\u003e\u003cbr\u003eจากงานศึกษา วิจัยโรคมะเร็ง สาเหตุหลัก ของการก่อตัวของโรคร้ายต่อมนุ\u003cWBR\u003eษย์\u003cbr\u003eโดยคณะนักวิทยาศาสตร์ ทีมคณะแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดั\u003cWBR\u003eบโลก จากหลายหลาย\u003cbr\u003e\nมหาวิทยาลัยแพทย์ชื่อดังก้องโลก โดยทุนสนับสนุนจาก สถาบันต่อต้านโรคมะเร็งแห่งโลก (The World Cancer Research Fund (WCRF)\u003cbr\u003e\u003cbr\u003eรายละเอียดหาอ่านได้จากข้อมู\u003cWBR\u003eลในเวป\u003cbr\u003e\u003cbr\u003e\u003ca href\u003d\"http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t\u003d14583\" target\u003d\"_blank\" onclick\u003d\"return top.js.OpenExtLink(window,event,this)\"\u003e\u003cfont color\u003d\"#496690\"\u003ehttp://www.dhammajak.net:80/\u003cWBR\u003eboard/viewtopic.php?t\u003d14583\u003c/font\u003e\u003c/a\u003e\u003cbr\u003e\n\u003cbr\u003e\u003ca href\u003d\"http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t\u003d17241\" target\u003d\"_blank\" onclick\u003d\"return top.js.OpenExtLink(window,event,this)\"\u003e\u003cfont color\u003d\"#496690\"\u003ehttp://www.dhammajak.net/\u003cWBR\u003eboard/viewtopic.php?t\u003d17241\u003c/font\u003e",1]);//--></SCRIPT> ้อสัตว์

    ข้อมูลที่น่าสนใจในเวปข้างล่าง



    http://www.watisan.com/<WBR>showdetail.asp?boardid=1080
     

แชร์หน้านี้

Loading...