“มังสวิรัติ” อาหารสุขภาพ กับนิยามใน 3 ศาสนา

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย ฟ้าเช้า, 26 เมษายน 2012.

  1. ฟ้าเช้า

    ฟ้าเช้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2005
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +1,643
    จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม!!! ข่าวจากเกาะอังกฤษบอกว่า นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเซาแธมป์ตัน ได้ทำการศึกษาวัดไอคิวกลุ่มตัวอย่างกว่า 8,000 คน ที่เกิดในปี ค.ศ. 1970 ซึ่งถูกวัดไอคิวเมื่ออายุ 10 ขวบ พบว่า กลุ่มสำรวจที่ปัจจุบันอายุ 36 ปีมีอยู่ 366 คน หรือไม่ถึง 1 ใน 20 กินมังสวิรัติ


    [​IMG]



    ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ เมื่อเทียบผู้ที่กินเนื้อสัตว์กับชาวมังสวิรัติแล้วพบว่า คนที่กินมังสวิรัติมีระดับไอคิวสูงกว่าผู้บริโภคเนื้อเป็นประจำกว่า 5 จุด กระนั้นกลุ่มที่เรียกตนเองว่าเป็นชาวมังสวิรัติในสหราชอาณาจักรยังคงกินปลาและไก่อยู่...นี่คือ ความเชื่อและผลที่ผ่านการทดสอบแล้วของฝั่งยุโรป

    หากแต่ตามความเชื่อในแนวทางของตะวันออกมีหลักความเชื่อของการกินมังสวิรัติที่แตกต่างไป โดยเชื่อว่า หากเรางดเว้นการกินเนื้อสัตว์ได้จะสามารถบรรเทาบาปเคราะห์ให้เบาบาง นอกจากนั้นยังจะส่งผลถึงความเป็นไปของโรคภัยโดยตรง เพราะเชื่อว่าการงดเนื้อสัตว์ และเสริมพลังด้วยนานาผัก ผลไม้ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง พลานามัยดี อายุยืนยาว

    ในงานสัมมนาทางวิชาการเรื่อง "อาหารกับความเชื่อในสังคมไทย" ของสถาบันไทยศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สามารถผูกโยงความเชื่อของแต่ละศาสนาให้เข้ากับกระแสสุขภาพได้อย่างดี ส่วนใครจะเลือกวิธีการใดก็ไม่ว่ากัน...

    ** อายุยืนด้วยผักตามหลักเต๋า
    ศ.ดร.สุรชัย ศิริไกร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แต่ศึกษาเต๋ามานานและเป็นผู้ที่คลุกคลีกับวิถีเจและมังสวิรัติมาเกือบตลอดชีวิต บอกเล่าว่า ลัทธิเต๋าเชื่อว่าการงดเว้นเนื้อสัตว์ทั้งปวงเป็นการให้ชีวิต เมื่อไม่มีผู้กินก็ไม่มีผู้ฆ่า การกินเนื้อสัตว์เป็นอาหารจึงเลี่ยงได้ และผลของการไม่ฆ่าและเลี่ยงนั้นจะทำให้เรามีร่างกายแข็งแรง

    "เต๋า เชื่อว่า เนื้อสัตว์มีเชื้อโรคมาก ยิ่งหากตายด้วยวิธีการฆ่าพวกมันจะหลั่งสารที่เป็นโทษ เมื่อคนกินเนื้อก็จะได้รับสารนั้นไปด้วย เพราะฉะนั้นเชื่อเถิดว่าคนอยู่ได้และจะไม่ป่วย ถ้าไม่ต้องกินสัตว์ ที่บอกแบบนี้เพราะหลายคนยังมีความคิดผิดๆ ว่าถ้าไม่กินเนื้อเลยจะไม่แข็งแรง ขาดโปรตีนซึ่งไม่ใช่ ต้องคิดใหม่ เราหาโปรตีนจากพืชได้เยอะแยะ"

    ในความเชื่อของลัทธิเต๋านั้น หากอยากอายุยืนต้องยุติการกินธัญพืช 5 ชนิด อันได้แก่ ข้าวเจ้า ข้าวฟ่าง ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต และถั่วต่างๆ แล้วหันมาเน้นสมุนไพร ผลไม้ที่ให้พลังเช่นโสม อบเชย ชะเอม พุทรา โดยผู้ปฏิบัติมาแล้วอย่างศ.ดร.สุรชัย ยืนยันว่าหากงดธัญพืชทั้ง 5 ชนิดนี้หลัง 40 วันร่างกายจะกลับมาสดชื่น และหากปฏิบัติได้อย่างสม่ำเสมอพละกำลังจะกลับมาเฉกเช่นคนหนุ่มคนสาว

    ** จีนนิกายชูข้าวต้มให้คุณธัญพืช
    ฟากฝั่งพุทธศาสนา นิกายมหายาน (จีนนิกาย) แม้จะมีหลักไม่กินเนื้อสัตว์เช่นเดียวกับลัทธิเต๋า หากแต่ไม่มีข้อห้ามกินธัญพืช กลับชูเป็นตัวสร้างพละกำลังเสียด้วยซ้ำ ทั้งนี้ได้ยกตัวอย่างอันเป็นที่นิยมและง่ายต่อการเห็นภาพมากที่สุด คือ "ข้าวต้ม" ที่ทำจากข้าวสาลี อาหารที่พระจีนมักฉันในเวลาเช้า โดยอาหารตามหลักความเชื่อของจีนนิกายนี้จะเน้นรสชาติทั้ง 6 อันได้แก่ เปรี้ยว หวาน ฝาด ขม เค็ม และเผ็ด

    เศรษฐพงษ์ จงสงวน ผู้เชี่ยวชาญด้านพระพุทธศาสนา นิกายมหายาน ได้แจกแจงคุณค่า 10 ประการของข้าวต้มว่า เป็นเครื่องต่ออายุ บรรเทาความกระหาย กำจัดความหิว บำรุงผิวพรรณ สร้างความคิด เพิ่มกำลัง ให้ความสุข ล้างลำไส้ ลมเดินสะดวก และเป็นเครื่องย่อยอาหารเก่า

    "ไม่เพียงข้าวต้มที่พระจีนนิยมฉันเท่านั้น ชาวจีนนิกายยังทำอาหารประเภทนี้ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาด้วย ดังเช่นข้าวต้มรัตนะ 8 ประการ หรือจะเรียกว่าข้าวต้มธัญพืช 8 ชนิดก็ได้ เป็นที่นิยมมากสำหรับพุทธมหายาน ซึ่งทุกบ้านในประเทศจีนตอนใต้จะพร้อมใจกันทำในวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจีน เครื่องปรุงมีข้าวเหนียว ถั่ว ผลไม้แห้ง เครื่องยาจีน และธัญพืชรวมกันแล้วได้ 8 อย่าง หน้าตาจะคล้ายกับข้าวเหนียวเปียกบ้านเรา แต่เป็นอาหารมงคลสำหรับชาวนิกายมหายาน แต่ทุกวันนี้เขามักจะทำกินกันเกือบทุกฤดูไปแล้ว" เศรษฐพงษ์ อธิบาย

    อย่างไรก็ตามชาวจีนนิกายยังมีพิธีการก่อนรับประทานอาหารคล้ายคลึงกับเถรวาทนั้นคือต้องถวายพระรัตนตรัยก่อน จากนั้นค่อยพิจารณาอาหารอย่างรู้ประมาณ และมองอาหารเป็นเสมือนเภสัชบำบัดความหิวมิใช่บำรุงกิเลส

    ** บริสุทธิ์ตามแนวซิกข์นามธารี
    ด้าน อ.อัมรินทร์ ปิยะสัจจะเดชะ ประธานฝ่ายกิจกรรมนามธารี อันเป็น 1 ใน 2 นิกาย ของศาสนาซิกข์ในประเทศไทย บอกเช่นกันว่า นามธารี ได้ให้ความสำคัญของอาหารไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าศาสนาอื่นๆ โดยมีแนวทางกินมังสวิรัติเช่นเดียวกับอีกหลายความเชื่อ แต่อาจจะเคร่งครัดกว่าตรงที่ว่า ซิกข์นามธารีจะไม่ยอมรับมังสวิรัติที่ถือว่าไม่บริสุทธิ์และไม่ตรงกับหลักความเชื่อ กล่าวคือ นิกายนามธารีจะดื่มน้ำบริสุทธิ์ที่มาจากธรรมชาติเช่นน้ำฝน อาบน้ำ และปรุงอาหารจากธรรมชาติเท่านั้น

    "สิ่งที่เราทำ คือ เจ หรือมังสะที่ไม่เบียดเบียนกับจิตวิญญาณผู้อื่น ดังนั้นมังสวิรัติของซิกข์นามธารีนั้นจะไม่ผ่านการฆ่าไม่ว่าด้วยวิธีการใด แต่ที่รารับประทานพืชผักเป็นอาหารนั้น เพราะเราเชื่อว่าพืชพรรณธัญญาหารเป็นอาหารของสัตว์โลก มีจิตวิญญาณแต่สนองตอบต่อความรู้สึกเจ็บปวดน้อยที่สุด และเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวที่ยิ่งถูกนำมาเป็นอาหารมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแพร่ขยายพันธุ์ไปมากเท่านั้น" อ.อัมรินทร์ อธิบาย

    สำหรับเหตุผลของผู้คนในปัจจุบันที่เข้าใกล้คำว่ามังสวิรัติ หรือกลายเป็นมังสวิรัติมากขึ้นในวันนี้นั้นส่วนหนึ่งเกิดจากความเชื่อของแต่ละศาสนาเรื่องบาปบุญ และการหลุดพ้น แต่มีจำนวนไม่น้อยที่หันมาเป็นชาวมังสะวิรัติเพราะกระแสสุขภาพ หรืออาการเจ็บป่วยด้วยเชื่อว่าการงดเว้นเนื้อสัตว์จะทำให้อายุยืนและสุขภาพแข็งแรง

    อย่างไรก็ตาม ทั้งความเชื่อทางศาสนาก็ผูกเข้ากับสุขภาพเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างไม่ยากเย็นนักเพราะไม่ว่าศาสนาใดก็ต่างเชื่อว่าการไม่เบียดเบียนชีวิตอื่นคือการสร้างบุญ ดังนั้น การกินพืชผักจึงเป็นการสร้างบุญและสร้างสุขภาพที่ดีไปในคราวเดียวกัน












    ที่มา Manager Online
     
  2. pawanakun

    pawanakun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    291
    ค่าพลัง:
    +181
  3. keawwichian

    keawwichian เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +200
    ขอขอบคุณ และขออนุโมทนาบุญ..."ฟ้าเช้า"
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2012
  4. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    ผมเคยกินมังสวิรัติอยู่ 3 ปีอะ เพราะว่าสงสารพวกสัตว์ กินจนกินไม่ลงเลย ต้องหยุด อาหารเจไรงี้ผงชูรสเยอะมาก เพราะมันไม่อร่อยไง กินแล้วหิวน้ำทั้งคืน
    ข้อดีที่ผมค้นพบนะ
    1.บำเพ็ญเมตตาบารมี
    2.เป็นการบำเพ็ญตบะ สามารถ ลด/บรรเทา/ชะลอวิบากกรรมได้จริง

    ข้อเสีย
    1.กินอาหารร่วมกับผู้อื่นได้ลำบาก พ่อแม่ญาติ เพื่อน
    2. บางคนที่กินมานานหลายๆปี อาจเผลอไปโอ้อวด กระหย่องคิดว่าตัวเองไม่กินเนื้อสัตว์ ไปนึกดูถูกคนอื่นที่เขายังกินเนื้อสัตว์เข้า
    3.คนที่ไม่กินเนื้อสัตว์ ไม่ได้จะมีจิตใจที่สูงกว่าคนที่กินเนื้อสัตว์เลย เผลอๆอาจต่ำกว่า ยิ่งถ้าคนกินเนื้อสัตว์ปฏิบัติธรรมด้วยแล้ว

    ความจริงที่อยากจะบอก

    มีหลายคนที่ไม่เคยกินเจ สงสัยว่า พวกไม่กินเนื้อเนี้ย แต่ดันไปกินเนื้อเทียม ไ้ก่เจ เป็ดเจ แล้วมันจะงดเนื้อสัตว์ไปเพื่้ออะไร

    ผมขอตอบให้ว่า
    อาหารเจมันไม่ค่อยอร่อย น่าเบื่อ ยิ่งกินนานๆด้วยแล้ว นะ กินไม่ค่อยจะลง
    คนที่กินมังสวิรัติ ต่างก็มีตัณหา อยากกินอาหารอร่อยๆ ด้วยกันทั้งนั้นแหละ กิเลส ก็มีเท่าๆพวกกินเนื้อนั่นแหละ ไม่ได้น้อยกว่าเลย แต่เค้าสงสารสัตว์ จุดประสงค์คือไม่ต้องการฆ่าสัตว์ หรือเบียดเบียนสัตว์ จึงมีการทำเนื้อเจ ออกมากินกัน

    **** ทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผมแต่เพียงผู้เดียวนะครับ :cool:
     
  5. MonkeyAstro

    MonkeyAstro เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    225
    ค่าพลัง:
    +202
    ขอบคุณครับ : )
     
  6. thontho

    thontho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    398
    ค่าพลัง:
    +612
    ดูถูกพวกกินเนื้อสัตว์ไปเถอะ ดูถูกคนที่เบียดเบียนสัตว์สมควรถูกดูถูกมิใช่หรือ ? หรือจะให้ชมว่าดีในเมื่อเขาเป็นคนโหดเหี้ยมที่กินเนิ้อสัตว์ ถ้างั้นลองเอาเนื้อตัวเองให้เขากินซิ

    เออ.....เพี้ยนหรือเปล่า ลองฆ่าตัวตายให้เขากินเนื้อซิ ว่าสนุกไหม?
     

แชร์หน้านี้

Loading...