“สิม” อีสาน “วัดไชยศรี” มีเรื่องเล่าผ่านฮูปแต้มสุดคลาสสิก

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย sweetindy, 5 มิถุนายน 2013.

  1. sweetindy

    sweetindy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2013
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +381
    สินไซ และสังข์ ฮูปแต้มแห่งวัดไชยศรี
    [​IMG]

    “สิม” ในภาษาอีสานหมายถึงโบสถ์ มาจากคำว่า สีมา สิมมา หรือพัทธสีมา ที่ปรากฏในคำจารึกบนแผ่นหินที่ประกาศเจตนาของผู้สร้าง ปักไว้ด้านหลังสิม ซึ่งมีปรากฏอยู่ทั่วไป ความหมายของสิม หมายถึงเขต หรืออาณาเขตที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้ทำกิจกรรมในพระพุทธศาสนา เช่น เป็นเขตที่พระสงฆ์ใช้ประชุมทำสังฆกรรมบรรพชา และอุปสมบทพระภิกษุสงฆ์

    “สิม” วัดไชยศรี จ.ขอนแก่น
    [​IMG]

    ในภาคอีสาน มี “สิม” เก่าแก่อันทรงคุณค่า ทรงเสน่ห์อยู่ไม่น้อย โดยหนึ่งในนั้นก็คือ สิม “วัดไชยศรี” หรือ “วัดใต้” ตั้งอยู่ที่หมู่ 8 บ้านสาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดขอนแก่นไปประมาณ 21 กิโลเมตร

    รอบๆโบสถ์ที่เต็มไปด้วยฮูปแต้ม
    [​IMG]

    วัดไชยศรี เป็นวัดเก่าแก่ที่มีโบสถ์หรือสิม ที่มีอายุกว่าร้อยปีเศษ เดิมมุงหลังคาด้วยแผ่นไม้ ซึ่งมีเอกลักษณ์คือ หลังคามีปีกยื่นทั้งสองข้างแบบสถาปัตยกรรมอีสานดั้งเดิม ต่อมาในปี พ.ศ. 2525 หลังคาทรุดโทรมจึงมีการรื้อและทำหลังคาขึ้นใหม่ เป็นแบบสถาปัตยกรรมรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยนั้น ส่วนฝาผนังทั้งด้านในและด้านนอกยังคงมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ โดยเฉพาะจิตรกรรมฝาผนัง หรือ “ฮูปแต้ม” ที่ยังคงมีความเด่นชัด

    ยักษ์กุมภัณฑ์ แห่งเมืองอโนราช
    [​IMG]

    “ฮูปแต้ม” หรือจิตรกรรมฝาผนังของวัดไชยศรี (ด้านในโบสถ์) เป็นการเขียนภาพอดีตพระพุทธเจ้า เรื่องพระเวสสันดรชาดก สินไซ (สังข์ศิลป์ชัย) ภาพเทพ บุคคลและสัตว์ต่างๆ ซึ่งด้านในห้ามสุภาพสตรีเข้า ส่วนผนังด้านนอกเป็นการเขียนภาพนรกเจ็ดขุม เรื่องพระเวสสันดรชาดก สินไซ และภาพทหารยืนเฝ้าประตู ถึงแม้เวลาจะผ่านมากว่าร้อยปีแล้วก็ตาม และแม้จะมีบางส่วนเลือนหายไปตามกาลเวลาบ้าง แต่ถือว่าฮูปแต้มของที่นี่ยังคงมีความชัดเจนและสวยงามอยู่มาก

    ฮูปแต้ม แม้จะเลือนรางไปบ้างแต่ยังสวยงาม
    [​IMG]

    ความเพลิดเพลินของการไปชมสิมคือ ได้ชมฮูปแต้มที่บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ผ่านภาพวาด ที่เกี่ยวข้องกับศาสนา หรือเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของสินไซ

    เรื่องราวในวรรณกรรมเรื่อง “สินไซ” มีอยู่ว่า ณ เมืองเปงจาล มีพระยากุศราช ซึ่งเป็นกษัตริย์ปกครอง มีมเหสีชื่อว่านางจันทาเทวี และมีน้องสาวชื่อนางสุมณฑา ต่อมามียักษ์ชื่อกุมภัณฑ์ มาลักลอบฉุดนางสุมณฑาไปเป็นมเหสี พระยากุศราชรู้ดังนั้นก็เสียใจจึงตัดสินใจออกบวชเพื่อตามหาน้องสาว จนได้พบกับลูกสาวทั้งเจ็ดของเศรษฐีเมืองจำปา เกิดชอบพอกันจึงลาสิกขา และกลับมาสู่ขอเป็นมเหสีรองทั้งเจ็ดคน

    จิตรกรรมฝาผนังแห่งวัดไชยศรี
    [​IMG]

    ต่อมานางจันทามเหสีเอก ได้คลอดลูกเป็นคชสีห์ เป็นราชสีห์เฉพาะลำตัว แต่มีส่วนหัวเหมือนช้างชื่อว่า สีโห และนางลุนธิดา ลูกสาวคนสุดท้องของเศรษฐีได้ลูกแฝด คนหนึ่งชื่อ “สินไซ” เพราะมีธนูและดาบออกมาด้วย ส่วนอีกคนมีรูปร่างเป็นหอยสังข์ จึงได้ชื่อว่า สังข์หรือสังข์ทอง ส่วนมเหสีอีก 6 คนคลอดเป็นเช่นคนปกติทั่วไป เรียกว่า กุมาร หรือท้าวทั้งหก ต่อมาเกิดการชิงดีชิงเด่นกัน นางจันทา นางลุน ท้าวสีโห ท้าวสินไซ และท้าวสังข์ ถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนที่ไม่ดีต่อบ้านเมือง จึงถูกเนรเทศออกจากเมืองไปอยู่ป่า

    “สินไซ” แห่งวรรณกรรมเรื่องสินไซ
    [​IMG]

    เมื่อทั้งหมดโตเป็นหนุ่ม ท้าวซึ่งเป็นพระโอรสของ 6 มเหสีได้ออกตามนางสุมณฑา ท้าวทั้งหกพบกับสินไซกลางป่าเห็นว่ามีฤทธิ์กล้าหาญ จึงออกอุบายให้สินไซไปตามหานางสุมณฑา สินไซเชื่อจึงออกตามหาพร้อมด้วยสีโหและสังข์ ทั้งสามพี่น้องต้องฝ่าฟันอุปสรรค ต่อสู้กับทั้งยักษ์ นาค ครุฑ งูซวง จนรบชนะและฆ่ายักษ์กุมภัณฑ์ตาย สุดท้ายก็ได้นำนางสุมณฑากลับคืนมา แต่พอเดินทางกลับมาสมทบกับท้าวทั้งหก กลับถูกผลักตกเหว สินไซเกือบสิ้นชีวิต แต่พระอินทร์ลงมาช่วยไว้

    สินไซ สู้กับยักษ์จนชนะ
    [​IMG]

    ต่อมาความจริงถูกเปิดเผย ทำให้ท้าวกุศราชสั่งเนรเทศมเหสีและโอรสทั้งหกออกจากเมือง แล้วไปรับนางจันทา นางลุน สินไซ สีโหและสังข์กลับเมืองเปงจาล แล้วมอบเมืองเปงจาลให้สินไซขึ้นปกครองแทน ต่อมายักษ์กุมภัณฑ์ได้รับการชุบชีวิตจากพระยาเวสสุวรรณเจ้าแห่งยักษ์ ให้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง จึงมาลักลอบนำนางสุมณทากลับเมืองอโนราช และจับสินไซไปเป็นตัวประกัน ทำให้สีโหและสังข์ตามไปช่วย จนเกิดสงครามใหญ่อีกครั้ง พระอินทร์จึงมาไกล่เกลี่ย พร้อมเสนอทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ สุดท้ายทุกฝ่ายได้กลับไปสู่บ้านเมืองดำรงชีวิตอย่างมีความสุข

    เรื่องราวต่างๆบนฝาผนัง
    [​IMG]

    นี่ก็เป็นเรื่องราวของวรรณกรรมเรื่องสินไซ ที่ถูกจารึกไว้ผ่านจิตรกรรมฝาผนัง หรือฮูปแต้ม ที่สิม วัดไชยศรี นอกจากนี้จังหวัดอื่นๆ ของภาคอีสานยังมี “สิม” และเรื่องราวของ “ฮูปแต้ม” อีกมากมายที่ยังไม่เคยเห็น

    ความงดงามของฮูปแต้มที่อยู่รอบๆโบสถ์(สิม)
    [​IMG]
    หากใครมีโอกาสมายังจังหวัดขอนแก่น ก็อย่าลืมแวะเวียนกันมาที่ “วัดไชยศรี” นอกจากจะได้เห็นฝีมือของช่างแต้มในอดีตแล้วยังจะได้เรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ผ่าน “ฮูปแต้ม” อีกด้วย


    การเดินทาง

    วัดไชยศรี หรือ วัดใต้ อยู่ห่างจากตัวเมืองขอนแก่นประมาณ 21 กิโลเมตร โดยสามารถใช้เส้นทางตามถนนมะลิวัลย์ สายขอนแก่น-ชุมแพ ถึงกิโลเมตรที่ 14 แล้วเลี้ยวขวาตามเส้นทางสาวะถี ผ่านบ้านม่วง ระยะทาง 7 กิโลเมตร ก็จะเจอวัดไชยศรี

    สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น โทร.0-4322-7714-6



    ที่มา Travel - Manager Online - “สิม” อีสาน “วัดไชยศรี” มีเรื่องเล่าผ่านฮูปแต้มสุดคลาสสิก
     
  2. พุธทสิณ

    พุธทสิณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2013
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +404
    อยากไปเที่ยวชมที่นี่จัง คงจะสวยงามน่าดู:cool:
     
  3. วายชนม์

    วายชนม์ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +2
    :z8:z8:z8:z8:z8:z8:z8:z8:z8:z8:z8:z8:cool:
     
  4. poweredgecoupon

    poweredgecoupon สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    ต้องไปชมให้เป็นบุญตา
    ขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...