10 ข้อห้ามในการกินเจ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย Mr.Lawrence, 7 ตุลาคม 2010.

  1. Mr.Lawrence

    Mr.Lawrence เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,520
    ค่าพลัง:
    +3,542
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>
    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=left bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ประเพณีการกินเจ หรือ เทศกาลกินเจ
    จะกำหนดเอาวันตามจันทรคติ คือเริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9
    ตามปฏิทินจีนทุก ๆ ปี รวม 9 วัน 9 คืน
    มีจุดเริ่มต้นจากประเทศจีน โดยผู้ที่กินเจอาจจะมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันไป
    แต่จุดประสงค์หลักสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภท
    ได้แก่ กินเพื่อสุขภาพ, กินด้วยจิตเมตตา และกินเพื่อเว้นกรรม





    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 align=center bgColor=#f5f5f5 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ประเพณีกินเจก็คือประเพณีกินผัก หรือที่เรียกว่า มังสวิรัติ
    ซึ่งเป็นประเพณีเก่าของ ชาวจีน
    ที่ถึงจะย้ายถิ่น ฐานไปอยู่ในประเทศใด ก็ยังคงยึดถือปฏิบัติตามประเพณีนี้อยู่



    สำหรับ ประเทศไทยที่มีชาวจีนมาตั้งรกรากอยู่จำนวนไม่น้อย
    ปัจจุบันกลายเป็นคนไทยเชื้อสายจีน ก็ยังยึดถือประเพณีกินเจเช่นกัน
    ประเพณีกินเจในประเทศไทยที่ผู้คนรู้จักกันดีก็คือ ที่จังหวัดภูเก็ต
    ที่เกิดขึ้นมากกว่าร้อยปีแล้ว



    โดยแพร่หลาย มาจากคณะงิ้วประเทศจีนที่มาแสดงให้ชาวจีนในภูเก็ตดู
    การกินเจในปัจจุบันมิได้มีจุดมุ่งหมายเพียงเพื่อจะป้องกัน ภัยพิบัติเท่านั้น
    แต่ยังเป็นการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์และเป็นการเคารพถึงดวงวิญญาณ
    ของบรรพบุรุษที่ล่วงลับไป



    แล้ว .........
    นช่วงเทศกาลกินเจมีข้อห้ามที่ยึดถือปฏิบัติกันมานานอยู่หลายข้อ
    เชื่อกันว่าถ้าปฏิบัติได้ครบทุกข้อจึงจะเข้า ถึงการกินเจที่ถูกต้องและ
    ได้บุญอย่างแท้จริง จึงขอยกข้อห้ามทั้ง 10 ข้อในเทศกาลกินเจ
    มาเล่าให้ฟังกัน จะว่าเป็น การไขข้อข้องใจกันก็ได้
    เพราะเชื่อว่าบางข้อยัง เป็นที่สงสัยกันอยู่ เริ่มที่



    ข้อแรก การงดกินผักฉุนหรือผักที่มีกลิ่นแรง
    ซึ่งประกอบไปด้วยพืชผัก 5 ชนิด
    ได้แก่ กระเทียม (หัวกระเทียม, ต้นกระเทียม)
    หัวหอม (ต้นหอม, ใบหอม, หอมแดง,หอมขาว,หอมหัวใหญ่)
    หลักเกียว (ลักษณะคล้าย หัวกระเทียม แต่เล็กกว่า)
    กุ้ยช่าย (ใบคล้ายใบหอม แต่แบนและเล็กกว่า)
    ใบยาสูบ (บุหรี่,ยาเส้น,ของเสพติดมึนเมา)
    ผักเหล่านี้เป็นผักที่มีรสหนัก กลิ่นรุนแรง
    นอกจากนี้ยัง ให้โทษทำลายพลังธาตุในร่างกาย
    เป็นเหตุให้อวัยวะหลัก สำคัญภายในทั้ง 5 ทำงานไม่ปกติ
    สำหรับผู้ปฏิบัติสมาธิกรรมฐานไม่ควรรับประทาน
    เพราะผักดังกล่าวมีฤทธิ์ กระตุ้นจิตใจและอารมณ์ให้เร่าร้อน
    ใจคอหงุดหงิด โกรธง่าย และยังมีผลทำให้พลังธาตุในร่างกายรวมตัวไม่ติด
    จิตใจจะไม่บริสุทธิ์ ซึ่งในข้อห้ามนี้มีบางคนยังข้องใจกันมาก
    คือ กระเทียมซึ่งทางการแพทย์และเภสัชกรพบว่า
    สามารถรับประทานเป็นยาได้ ทั้งนี้เพราะเป็นสารที่มีประโยชน์สามารถละลายไขมันในเส้นเลือดได้
    เช่น ผู้ป่วยที่ เป็นโรคเส้นโลหิตเลี้ยงหัวใจตีบหรืออุดตัน เป็นต้น
    แม้ทางการแพทย์แผนโบราณก็ยืนยันตรงกันว่า
    กระเทียมเป็น สมุนไพรรักษาโรคได้
    แต่คนจีนที่ปฏิบัติในการกินเจถือว่าให้โทณกับหัวใจ ซึ่งในข้อนี้ต้องขึ้นอยู่กับความเชื่อของ แต่ละคน




    ข้อที่สอง การงดกินเนื้อสัตว์
    ซึ่งประกอบไปด้วย เนื้อวัว หมู ปลา หรือสัตว์มีชีวิตที่ใช้เป็น
    อาหารได้ เพราะ คนจีนเชื่อว่าก่อนตายมันจะตกอยู่ในอาหารตกใจกลัว
    เมื่อเรากินมันเข้าไป อาจจะทำให้เรามีบาปติดตัวไปด้วย
    เพราะมันคือสิ่งที่มีชีวิตเหมือนกับคน
    ข้อนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่คนจีนถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
    แต่มาถึงปัจจุบัน ..........บางคนเริ่มหาข้อคัดค้านว่าสัตว์บางชนิดอย่าง
    หอยหรือปลาเล็กๆ ก็น่าจะรับประทานได้เพราะมันเป็นสัตว์ไม่มีเลือด
    ตามความเชื่อแล้วมันขึ้นอยู่กับแต่ละคน
    แต่ถ้าในความเป็นจริงแล้ว คนจีนเขาเชื่อว่าประเพณีนี้ศักดิ์สิทธิ์
    ถ้าปฏิบัติ ให่เคร่งครัด ถึงจะมีคนคัดค้านแต่กับข้อนี้คงไม่ได้ผล




    ข้อที่สาม ไม่ควรกินอาหารรสจัด
    ซึ่งไม่ใช่แค่รสเผ็ดอย่างเดียว รวมไปถึงรสเค็มมาก
    หวานมากหรือเปรี้ยวมาก ด้วย ซึ่งปกติคนจีนจะไม่กินรสจัดอยู่แล้ว
    เพราะถือว่าจะเข้าไปทำลายสุขภาพ อย่างกินเผ็ดจัดก็จะไปทำลาย กระเพาะ
    กินเค็มมากจะไปทำลายไตได้ และอีกอย่างน้ำปลาก็ทำมาจากสัตว์เหมือนกัน
    ข้อห้ามนี้ถือว่าถูกหลักของ การแพทย์
    แต่บางคนที่ปฏิบัติไม่เคร่งครัดนัก เช่น ชอบรสเค็มจัดก็ใช้เกลือแทนน้ำปลา อันนี้ถือว่าไม่ผิด




    ข้อที่สี่ ต้องกินอาหารที่คนกินเจด้วยกันปรุง
    ซึ่งข้อนี้ถ้าปฏิบัติได้จะถือว่าบริสุทธิ์จริงๆ
    แต่ถ้าทำให้เกิดความยาก ลำบากก็ไม่จำเป็น
    จะได้ไม่ต้องเลือกร้านกันจ้าละหวั่น
    ฉะนั้นคนที่ปรุงอาจจะไม่ได้กินเจก็ได้แต่ขอให้อาหารที่กินเข้า ไปเป็นอาหารเจก็พอ




    ข้อที่ห้า ถ้วยชามจะต้องไม่ปนกัน
    เพราะเขาถือเคร่งครัดว่าอาหารคาวซึ่งชาวจีนเรียกว่า " ชอ "
    นั้น ถ้วยชาม จะใช้ปนกันไม่ได้
    จะถือว่าล้างสะอาดหมดจดแล้วจึงเอามาใช้ก็ผิดอีก
    บางคนคิดว่าล้างให้สะอาดมากๆ ก็ไม่จำเป็น ต้องแยก
    แต่ข้อนี้ถือว่าเป็นธรรมเนียมเหมือนอย่างอิสลามที่ไม่ยอม
    ใช้ถ้วยชามปนกัน เหมือนของจีนนั่นแหละ




    ข้อที่หก ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
    ข้อนี้ตรงกับการรักษาศีลของชาวพุทธ
    การฆ่าสัตว์ของชาวจีนตั้งแต่สัตว์เล็กๆ ไป จนถึงสัตว์ใหญ่
    เป็นข้อเคร่งครัดเช่นกัน
    บางคนสงสัยอีกว่าอย่างถ้าเป็นยุงหรือมดฆ่าได้ไหม
    ตามความเชื่อแล้วห้าม เด็ดขาดไม่เช่นนั้นจะถือว่า ปฏิบัติไม่ครบ



    ข้อที่เจ็ด แต่งกายด้วยชุดขาว
    ข้อนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน บางคนก็ใส่ชุดสีขาวตลอดจนถึงออกเจ
    เพราะเชื่อกัน ว่านอกจากงดอาหาร ต่างๆ
    ในร่างกายสะอาดแล้วภายนอกแม่จะเป็นเครื่องแต่งกายก็ต้องสะอาด
    ด้วย ข้อนี้ไม่ใคร่ เข้มงวดสำหรับบุคคลที่ปฏิบัติอยู่กับบ้าน
    ไม่ได้ไปที่แจตั๊วหรือสถานที่ทำพิธีกินเจ




    ข้อที่แปด พูดจา[FONT=verdana,geneva]ไพ[/FONT][FONT=verdana,geneva]เราะ [/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]คนที่ถือศีลกินเจไม่ใช่เพียงแต่กินของสะอาดเท่านั้น [/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]แต่คำพูดที่พูดออก จากปากก็ต้อง สะอาดด้วย[/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]สิ่งไม่ดีทั้งหลายไมควรพูดหรือที่เรียกว่า " ปากเจ " [/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]ซึ่งประกอบไปด้วย ไม่พูดเท็จ ไม่พูดยุแหย่ ไม่พูด เพ้อเจ้อ [/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]ถ้าปฏิบัติได้ก็ถือว่าสะอาดทั้งหมด [/FONT]​




    [FONT=verdana,geneva]ข้อที่เก้า งดดื่มสุราและของมึนเมา[/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]ตลอดช่วงเวลา 9 วัน ..........[/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]ข้อนี้สำคัญเพราะการงดอาหารที่เป็นของคาวแล้วสิ่ง [/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]ที่สร้างความมึนเมาหรือสิ่งแปลกปลอมในร่างกายก็ห้ามเข้าสู่ร่างกายด้วย [/FONT]



    [FONT=verdana,geneva]ข้อที่สิบ ห้ามดับตะเกียงทั้ง 9 ดวง [/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]คนที่จะไปกินเจมักจะไปชุมนุมกันที่แจตั๊วหรือสถานที่กินเจ [/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]ณ ที่นั้น เขาจะประดับดอกไม้ตั้งโต๊ะบูชา [/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]วางกระถางธูปและตั้งเครื่องเจ ต่างๆ นอกจากนี้[/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]ก็จุดโคม 9 ดวงเพื่อสมมติเป็น " เก๊าฮ้วงฮุดโจ้ว " นั่นเอง [/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]ซึ่งจะต้องจุดไว้ทั้งกลางวันและ กลางคืนจนตลอดงานทีเดียว [/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]ถ้าดับโคมไฟดวงใดดวงหนึ่ง ก็จะถือว่าไม่เป็นสิริมงคล[/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]และไม่ครบถ้วนพิธีการกินเจ… [/FONT]


    [FONT=verdana,geneva]ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อห้ามในการกินเจใครจะ[/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]ปฏิบัติตามหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของตัวเอง ประเพณีกินเจ[/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]โดยทั่วไปแล้วมิได้ทำกันตลอดทั้งปี แต่จะเริ่มกินในช่วงวันขึ้น 1 ค่ำ[/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]จนถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ซึ่งตก ในเดือน 11 ข้างไทยเป็นวันกินเจ[/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]ซึ่งจะสับเปลี่ยนเวียนไปตามปีนั้นๆ[/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]ใครที่ไม่ได้เป็นลูกหลานชาวจีนถ้าต้องการจะ [/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]มีร่างกายและจิตใจ ที่บริสุทธิ์และได้ทำบุญกุศลอาจจะอยากเข้าร่วมพิธีนี้ด้วยก็ได้ [/FONT]
    [FONT=verdana,geneva]เป็นการดีเสียอีกที่ปีหนึ่งคนเรา หันมาทำบุญร่วมกัน[/FONT]



    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ที่มา : 10 ข้อห้ามในเทศกาลกินเจ : อาหารสมอง
     
  2. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182
    กินเจนี้ดื่มน้ำอัดลมได้ไหมครับ
     
  3. Mr.Lawrence

    Mr.Lawrence เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,520
    ค่าพลัง:
    +3,542
    รอคนทานเจแบบดั้งเดิมเค้ามาตอบดีกว่าค้า
    ...

    ฮั้วไม่แน่ใจ ฮ่า ๆๆๆๆ
     
  4. GoonS

    GoonS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +2,682
    ห้ามเยอะจังเนอะ ผมเชื่อว่าใจสำคัญกว่า เเหะๆพูดดูดีเหมือนกันเรา

    บางอย่างก็ดีเเต่บางอย่างออกเเนวไม่จำเป็น
     
  5. ฮกหลงขงเบ้ง

    ฮกหลงขงเบ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,143
    คำว่า เจ ในภาษาจีนนั้นหมายความว่า สะอาดบริสุทธิ์หรือผ่องแผ้ว การกินเจนั้นเป็นหนึ่งในการทำให้กายสะอาด เพราะอาหารที่จะรับประทานเข้าไปนั้นไม่มีการเบียดเบียนชีวิตอื่น อีกทั้งไม่เบียดเบียนเราเพราะเป็นของที่ดีต่อร่างกาย ข้อห้ามอื่นๆนั้นจะทำให้ใจสะอาด วาจาสะอาด ดังนั้นการกินเจ จะทำให้เราได้หลายอย่าง 1.สุขภาพร่างกายที่ดี 2.การรุ้จักควบคุมวาจาของตน 3.การรู้จักการกำหนดพิจารณาจิตให้สงบ และมีความเมตตา
     
  6. ฮกหลงขงเบ้ง

    ฮกหลงขงเบ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,143
    น้ำอัดลมบอกไม่ได้ว่าผิดหรือไม่ เพราะไม่มีใครบอกได้ ถ้ากินเจเพื่อรักษาศีลหรือปฏิบัติธรรมะสามารถดื่มได้แต่ไม่มากนะครับ แต่สำหรับท่านที่กินเจเพื่อสุขภาพไม่ควรดื่มน้ำอัดลมเพราะจะทำให้ธาตุในร่างกายแปรปรวนได้ สรุปคือดื่มได้ แต่ไม่ควรดื่มมาก
     
  7. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ขอบคุณค่ะ...............
     
  8. EakChutidet

    EakChutidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +856
    ขออนุโมทนา ขอความเจริญในธรรมจงบังเกิดแก่ทุกท่านทุกรูปทุกนาม หากการกระทำใดๆ
    ของข้าพเจ้าล่วงเกินท่านทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวจีกรรม,มโนกรรม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้

    ขอปฎิญาณตนเป็นคนดี ละเว้นการกระทำชั่ว ถือศิล มีธรรมะประจำใจ มีพระนิพพานเป็นอารมณ์
    จะขอมีสติทุกลมหายใจเข้า-ออก ระลึกถึงความตายไว้เสมอทุกลมหายใจเข้า-ออก ละลึกเสมอว่า
    ตัวเรามิใช้ของเรา กายเราก็มิใช่ของเรา เคารพในครูบาอาจารย์ หมั่นปฎิบัติมิให้ขาด ตั่งจิตตั้งใจ
    จะไม่เกิดใหม่อีก ขอให้ถึงพระนิพพานในชาตินี้

    ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ไปให้ทุกรูปทุกนามทั้ง 20 ชั้นพรหมโลก 6 ชั้น
    เทวะโลก มนุษย์โลก มารโลก ยมโลก อบายภูมิทั้ง 4 มี นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน
    และในหมื่นโลกธาตุกับอีกแสนจักรวาลพิภพ ทั้งที่เป็นมนุษย์ อมนุษย์ รูปวิญญาณ อรูปวิญญาณ
    และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้งที่เป็นมิตรและศัตรู ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า
    .........ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย
    อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงโมทนาในส่วนกุศลนี้
    พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดนี้ด้วยเทอญ .........

    พร้อมกันนี้ ขออนุโมทนา บุญกุศลกับทุกท่านด้วยครับ
    นายชุติเดช วรรณสุวงค์
    _/l\_ สาธุ สาธุ สาธุ _/l\_
     
  9. ละม่อม

    ละม่อม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,329
    ค่าพลัง:
    +3,892
    เอามาฝากคับ......................
     
  10. เนตรนที

    เนตรนที เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    457
    ค่าพลัง:
    +4,122
    ดื่มน้ำผลไม้ดีกว่าค่ะ มีประโยชน์กับร่างกายมากกว่าค่ะ
     
  11. linake119

    linake119 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +578
    อนุโมทนาครับสำหรับข้อมูลของข้อห้ามของการกินเจครับ
    คุณเนตรนทีครับ ดื่มน้ำผลไม้ก็ต้องระวังนะครับ สมัยนี้ใส่น้ำตาลมาก บวกกับกินอะไรมันๆ อีก เสร็จกินเจ 9 วัน เดี๋ยวน้ำหนักจะขึ้นกันไม่รู้ตัว

    หากว่าต้องการกินเจเพื่อให้ได้บุญด้วย ให้ได้สุขภาพด้วยก็ควรเลือกสักหน่อยครับ
    1. ไม่ควรกินอาหารที่ผัดมันๆ มากเกินไปเพราะว่าเป็นสาเหตุหนึ่งของการสะสมไขมันในส่วนที่เราไม่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกินมันกลางคืน เพราะว่ากลางคืนเป็นเวลาที่ร่างกายเราสร้างไขมัน
    2. ควรรับประทานอาหารเป็นพวกต้ม นึ่งดีกว่า เป็นผักต้ม ผักนึ่ง หรือว่า แม้กระทั่งโปรตีนเกษตร เต้าหู้ หากว่าเป็นต้มหรือนึง จะมีน้ำมันน้อย จะได้ไม่เกิดการสะสมพวกไขมันในร่างกาย
    3. ควรเลือกรับประทานอาหารที่ไม่มีแป้งมาก ปัจจุบันมีการนำเอาแป้งมาเปลี่ยนรูปเป็นอะไรเยอะแยะมากมาย ดังนั้นต้องเลือกหน่อยครับ แป้งและน้ำตาลเป็นส่วนที่ทำให้เกิดปัญหาโรคอ้วนได้เยอะ ดังนั้นหากเป็นโปรตีนเกษตร เต้าหู้ ปัญหาก็จะน้อยลง หรืออะไรที่ทำมาจากถั่ว ปัญหาก็จะลดลง
    4. การกินเจ ก็พยายามเลี่ยงการกินอาหารมันเวลากลางคืน เลี่ยงการกินขนม แป้ง น้ำอัดลมเวลากลางคืนครับ เพื่อที่จะได้ไม่สะสมทำให้เกิดการสร้างไขมันแล้วทำให้อ้วนได้ง่ายครับ
    5. พยายามรับประทานผักให้หลากหลายครับ เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างน้อยให้ได้ผักและผลไม้ 5 หน่วยบริโภคต่อวัน
    6. พยายามเลี่ยงผลไม้ที่มีรสหวานมาก หรือว่าหวานจัด หรือว่าบางคนบอกว่ากินผลไม้ไม่อ้วน แต่จิ้มน้ำตาลเป็นถุงๆ อย่างงี้ไม่อ้วนก็ไม่ได้หรอกครับ เป็นการเพิ่มน้ำหนักอย่างดีเลย
    7. อย่าลืมออกกำลังกายบ้างเพื่อให้ร่างกายได้ใช้พลังงาน
    8. อย่าลืมนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6 ชั่วโมงครับ เพราะว่า ฮอร์โมนที่ช่วยการเผาไขมันจะหลั่งดีเวลาที่เราหลับอย่างเพียงพอ
    9. อย่าลืม สวดมนต์ไหว้พระ และเจริญภาวนา เพราะว่าช่วงนี้ร่างกายไม่ได้รับเนื้อสัตว์ที่สกปรก ดังนั้นการสวดมนต์เจริญภาวนาจะทำได้อย่างดีในช่วงนี้
    10. อย่าลืมอุทิศส่วนบุญนี้ รวมถึงส่วนกุศลจากการเจริญภาวนานี้ให้กับสัตว์ทั้งหลาย ที่เป็นมนุษย์ก็ดี ไม่ใช่มนุษย์ก็ดี ที่เป็นญาติก็ดี ไม่ใช่ญาติก็ดี ที่อยู่ในจักรวาลนี้ก็ดี หรือว่าอยู่ในมหาอนันตจักรวาลใดก็ดี อยู่ในทุกภพ ภูมิ ให้ได้รับกุศลผลบุญนี้ และความสุขทุกถ้วนหน้ากัน เป็นการช่วยเร่งบำเพ็ญบารมีเพื่อสู่แดนเกษมอีกทางหนึ่ง
     
  12. wee3250

    wee3250 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +5,564
    ขออนุโมทนาด้วยครับ อิ่มบุญอิ่มใจได้สุขภาพที่ดีครับ:cool:
     
  13. ผู้เลื่อมใสศรัทธา

    ผู้เลื่อมใสศรัทธา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    911
    ค่าพลัง:
    +2,082
    โดยผมถือไม่ครบ 10 ข้อแน่คือ
    ผมไม่ใส่ชุดขาว ( ไม่มีเสื้อขาวมากกว่า )
    ถ้วยชามก็ปนกัน ( แต่ก็กินกันทั้งบ้าน )
    พูดไพเราะ (ทะเลาะกับเกือบทุกวัน )

    ถึงไง ผมก็มาบอกบุญ ปีนี้ผมกินเจ อาจจะไม่ครบวัน หรือครบศีลก็ตาม
    ก็ขอให้ทุกท่านได้มาร่วมอนุโมทนา บุญกับข้าพเจ้าที่ได้ถือศีลกินเจนี้
    ขอใ้ท่านที่ร่วมอนุโมทนา ได้รับอานิสงค์ตามกำลังเถิด
     

แชร์หน้านี้

Loading...